ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอน เป็นอะไร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.93K
      11
      11 ม.ค. 54

     ตอน เป็นอะไร









    แต่ว่าแม่ครับ แม่ครับ แม่ แม่ทานตะวันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์เสียงดัง แล้วยืนนิ่งเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้ว มือยังคงกำหูโทรศัพท์เอาไว้แน่น และกระแทกหูโทรศัพท์เสียงดังโครมคราม
    เดินกระแทกเท้าปึงปัง เจอเก้าอี้ เตะเก้าอี้ เจอหนังสือหล่นอยู่ก็เตะจนหนังสือกระเด็นไปคนละทิศละทาง

    โธ่โว้ยยยยเสียงแหกปากโวยวายดังลั่น และเสียงของหล่นโครมครามทำให้อ้อนรู้ว่าผีเข้าทานตะวันอีกแล้ว และอีกไม่กี่อึดใจไอ้บ้านั่นคงมาพาลอารมณ์เสียลงที่อ้อนอีกเป็นแน่

    ไอ้เป๋ ไอ้เป๋ นั่งมองทำห่าอะไร โอ้ย เห็นหน้ามึงแล้วกูรำคาญโว้ย เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อโว้ยยยยยยยยยยยยย

    ปากตะโกนว่าเบื่อ แต่สุดท้ายก็ทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ อ้อนขยับกายออกห่าง ให้มีพื้นที่ว่างพอสำหรับให้ทานตะวันนั่งได้สบาย ๆ ร่างนั้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างและนั่งชันเข่าอยู่บนโซฟา นัยน์ตาที่บ่งบอกอารมณ์พลุ่งพล่าน เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง และคนตัวโตที่ทำท่าโมโหเมื่อไม่กี่นาทีก่อน นิ่งเงียบไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

    เป็นอะไรของมันอีกวะ ท่าทางไม่ค่อยดี เดี๋ยวจะลุกขึ้นมาทำอะไรอีกก็ไม่รู้ ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ น่ากลัวชิบหายคนแบบไอ้ทานนี่เดาอารมณ์ยากชะมัด มันจะคลั่งแล้วลุกขึ้นมาบีบคอวันไหนก็ไม่รู้ จะตายห่าซะก่อนที่จะใช้หนี้หมดหรือเปล่าวะกู คิดผิดหรือเปล่าว๊า

    อ้อนแอบเหลือบสายตามองคนที่ซบใบหน้าอยู่บนหัวเข่า ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรสักคำ แล้วก็อยากจะหายเจ็บเร็ว ๆ จะได้วิ่งหนีไปตั้งหลัก ไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ในบรรยากาศอึมครึมแบบนี้

    ร่างกายขยับเล็กน้อย ดวงตามองหาไม้ค้ำยัน และกำลังจะพยายามลุกขึ้นยืน แต่เพราะการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้คนที่นั่งซุกหน้าอยู่บนหัวเข่า ต้องเงยหน้าขึ้น และหันไปมอง นัยน์ตาที่เคยเปล่งประกายยามเมื่อหัวเราะ หรือโมโห เปลี่ยนเป็นหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด คนตัวโตไม่พูดอะไรอีก ไม่มองไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้อ้อนจะพยายามลุกขึ้นยืนเพื่อไปไหน หรือจะทำอะไร

    ทานตะวันหันหน้ากลับไปซบใบหน้าลงบนหัวเข่าของตัวเองอีกครั้ง และนิ่งเงียบไม่พูดหรือแสดงท่าทางอะไรอีกเลย

    เป็นนานที่อ้อนนิ่งเงียบ เมื่อสบตากับดวงตาคู่นั้น เหมือนถูกตรึงให้หยุดนิ่ง และไม่กล้าขยับร่างกายไปไหนอีก

    เศร้า นัยน์ตาเศร้า ๆ หม่นหมอง ทำไมถึงทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว ทุกครั้งจะเหม่อแค่เวลาที่อาบน้ำ หรือก่อนนอน แต่ตอนนี้ ทำไมถึงได้..............................

    ไม่ทันได้คิดอะไรอีก ร่างที่นั่งอยู่เคียงข้างก็ลุกขึ้นยืน และคว้าหมอนอิงใบเล็ก ๆ มากอด เดินไปทิ้งกายลงนั่งที่ฝั่งตรงข้าม ยืดขายาวเหยียด และกอดหมอนอิงเอาไว้แน่น เอนศรีษะให้อยู่บนโซฟา และใช้นิ้วแกว่งพวงกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ยังหลับตา แต่หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน

    อ้อนนั่งมองจากฝั่งตรงข้าม และไม่ได้เอ่ยปากถาม หรือพูดคุยกับทานตะวันอีกเลย แต่ความรู้สึกที่แผ่ซ่านออกมาจากเจ้าของร่างทำให้ต้องเอ่ยถาม เพราะเหมือนกับว่า ถ้าไม่ถามอะไรออกไป คงไม่สบายใจแน่ ๆ
    ทั้งที่ทานตะวันร้ายกาจขนาดนั้น แต่เห็นแบบนี้ เป็นใครก็อดสงสารไม่ได้


    ไอ้....ทานคือว่านะ

    อ้อนกำลังจะพูด แต่อีกฝ่ายยกมือห้ามเอาไว้ และยิ่งขมวดคิ้วมุ่นหนักเข้าไปอีก

    ห้ามถาม ห้ามพูด ห้ามโวยวาย ถ้ากูไม่ได้สั่ง หุบปากมึงไปเลย

    นั่นเป็นกฎขั้นพื้นฐานที่อ้อนต้องท่องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่ายังไง คนบ้าบออย่างทานตะวันก็ไม่ยอมให้อ้อนเปลี่ยนสถานะจากคนใช้ ของเล่น หรือคนยกของ กลายไปเป็นเพื่อน หรืออย่างอื่นที่มากกว่านั้น

    เพียงคำพูดเดียว ที่สั่งห้าม ทำให้อ้อนหุบปากเงียบ ไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งที่สายตายังจับจ้องไปที่ใบหน้าคม ที่หลับตาเงียบ ๆ และแกว่งพวงกุญแจเล่น อย่างใช้ความคิด

    ถ้า..................

    ถ้าไอ้ทานมัน................

    ถ้าเพียงแต่มันจะเป็นคนดีกว่านี้สักนิด ...................

    ถ้ามันจะหัดยอมรับหรือสนใจความรู้สึกของคนอื่นบ้าง

    ถ้าหากว่า มันจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ไอ้ทานบ้า ที่ไม่สนใจใครเลย มันจะเป็นยังไงนะ

    ถ้าหากว่า มันไม่เอะอะโวยวาย

    ถ้าหากว่ามัน จะหัดยิ้มหรือหัวเราะกับใครมาก ๆ ถ้าหากว่ามัน...............

    ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอคิดเรื่องของอีกฝ่ายไปได้ยังไง


    แต่ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ ดวงตากลับเหลือบไปเห็น หยดน้ำใส ๆ ที่คลออยู่ที่หน่วยตาของอีกฝ่าย และรินหยดลงที่ข้างแก้ม แต่เจ้าตัวรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว หากใครไม่สังเกตอาการอยู่ตลอดเวลาก็คงไม่เห็น

    แต่นี่อ้อนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และจ้องมองกิริยาอาการของอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ภาพตรงหน้าจึงไม่สามารถหลุดรอดสายตาไปได้

    ความรู้สึกแรก คือปวดหนึบที่หัวใจอย่างแรง มันไหววูบและโอนเอนอย่างไม่น่าเชื่อ

    ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้ามีใครมาร้องไห้ให้เห็นต่อหน้า จะทำเป็นเย็นชาหรือไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ได้ และก็ไม่เว้นแม้แต่คนบ้าอย่างทานตะวัน ที่ทำให้หัวใจของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไหววูบโอนเอนอย่างไม่น่าเชื่อ

    ร้อนโว้ยยยยยยยยย อาบน้ำดีกว่า

    ทานตะวันที่ไม่สามารถนิ่งเฉยได้นาน ๆ ลุกพรวดพราดขึ้นและพูดเสียงดัง เดินเข้าห้องแล้ว ทิ้งให้อ้อนนั่งนิ่งเงียบอยู่คนเดียวบนโซฟาหน้าห้อง

    สายตาของอ้อนไล่ตามทานตะวันไปแล้วโดยไม่รู้สึกตัว

    แต่ทานตะวันไม่ได้สนใจมองด้วยซ้ำ

    เดินเข้าห้องแล้วคนที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่มีที่อยู่ก็ทิ้งกายลงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ซุกซบใบหน้าลงที่หมอนใบใหญ่

    ฝ่ามือกำแน่นไปที่ผ้าปูเตียง เจ็บร้าวไปหมด และรู้สึกเหมือนมีอะไรหล่นทับร่างกายจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนได้

    ร่างกายสั่นไหวเพราะแรงสะอื้นไห้

    หัวใจอ้อนล้า

    ทานตะวันคนตัวโต ที่เอะอะโวยวาย ทำแต่เรื่องบ้าบอ กำลังร้องไห้ อยู่คนเดียวเงียบ ๆ ร้องไห้เพราะความเหงา

    ร้องไห้โดยที่คิดว่า ไม่มีใคร ๆ มาสนใจตัวเองเลยสักคน

     

    *******************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×