ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ★ Chapter - 02
สายน้ำอุ่นที่ไหลผ่านผิวกายขาวช่วยให้เจ้าของร่างบอบบางผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ความกังวลใจที่ผ่านมาค่อยๆจางหายไป มือบางลากไล้ฟองครีมอาบน้ำเนื้อนุ่มไปตามร่างกายที่ไม่ได้ชำระล้างมาตลอดทั้งคืน
นัยน์ตากลมปิดลงเมื่อเปิดน้ำอุ่นให้ไหลผ่านลงมาอีกครั้งเพื่อล้างฟองนุ่มออกจากเรือนกาย กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำส่งผลให้กลีบปากสีระเรื่อคลี่ออกเป็นรอยยิ้มหวานประดับใบหน้าสวยเกินชาย
ร่างบางที่กำลังชำระล้างร่างกายหยุดนิ่งเมื่อเสียงน้ำจากฝักบัวที่ตกกระทบพื้นมิอาจกลบเสียงตะกุกตะกักที่ดังอยู่ภายนอกห้องน้ำกว้างไปได้ มือเล็กเอื้อมปิดฝักบัว ความรื่นรมย์ที่มีมลายหายไปทันทีที่ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ซวยแล้วมั้ยล่ะอีทงเฮ..
"แล้วจะออกไปได้ยังไง..."
ฝ่ามือขาวลากผ่านแขนเรียวทั้งสองข้างเพื่อไล่เกล็ดน้ำและความเปียกชื้นทั้งหมดออกไป นี่มันไม่ใช่บ้านของเขา ทงเฮโดนอุ้มให้เข้ามาอาบน้ำโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจหรือตระเตรียมไว้ล่วงหน้า มันจึงทำให้เขาได้แต่ยืนเคว้งเพราะไม่รู้จะใช้อะไรห่อหุ้มร่างกายเพื่อออกไปเผชิญกับคนที่อยู่ด้านหลังประตูบานใหญ่
"เปียกขนาดนี้จะใส่ได้ยังไงล่ะ โอ้ยยย ฉันจะบ้าตายเพราะคุณแล้วนะ!"
ร่างบางย่อตัวเก็บเสื้อที่ติดกายเข้ามาเพียงชิ้นเดียวพร้อมกับพึมพำไร้สุ้มเสียงอย่างคนที่กำลังจะบ้าเต็มทีเพราะเจ้าเสื้อตัวเดียวที่พอจะช่วยเอาไว้ได้กลับเปียกชุ่มไปทั้งตัวเนื่องจากมันปลิวตกลงมายังพื้นห้องน้ำเจิ่งนอง
ขืนใส่แบบนี้ออกไปก็โดนยัดเยียดข้อหา "ยั่ว" อีก...
ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องน้ำทำเอาคนที่กำลังวิตกกังวลสะดุ้งเฮือก และไวเท่าความคิดทงเฮรีบก้าวขาไปที่ประตูและทำการล็อคกลอนเอาไว้ให้แน่นหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้ นัยน์ตากลมก้มมองสภาพที่เปลือยเปล่าของตัวเองแล้วก็แทบจะร้องไห้ออกมา
"ทงเฮ.."
"อะ.. อะไร!"
ลำแขนเล็กกอดรัดตัวเองเอาไว้ เรือนกายสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็นที่กำลังค่อยๆเลื่อนเข้ามาโอบล้อมร่างกาย แถมหัวใจยังเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะเมื่อนึกถึงใบหน้าคมและแววตาเจ้าเล่ห์ของใครอีกคนที่คงยืนเตรียมพร้อมจะกลั่นแกล้งเขาให้สมใจ
"เมื่อไรนายจะออกมาสักที ถึงเราจะมีเวลาทั้งวันแต่ฉันก็ไม่อยากเสียเวลานะ"
"ใครมีเวลากับคุณ! ฉัน.. อยากจะไปให้พ้นๆคุณจะแย่อยู่แล้ว"
"งั้นก็ออกมาสิ"
"ก็.. ฉันแต่งตัวอยู่ คุณก็ไปรอข้างนอกสิ!"
แก้มเนียนแนบซบกับบานประตูเพื่อให้ใบหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ด้านนอกด้วยใจระทึก
"อย่างนั้นหรอกเหรอ.. อืม.. งั้นอีกเดี๋ยวก็คงเสร็จสินะ.."
"อีกนานต่างหากเล่า!!"
"นานขนาดนั้นให้ฉันช่วยมั้ย"
"ไม่ต้อง!!"
ทงเฮก้มมองเสื้อที่ยังเปียกชุ่มในมือ ก่อนจะถอนหายใจยาว มือบางสะบัดเสื้อให้คลี่ออก ทำให้หยาดน้ำกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณรวมทั้งใบหน้าหวานที่แห้งไปแล้วรอบนึงด้วย
ก็ยังดีกว่าไม่ใส่อะไรเลยนะทงเฮ!
"แต่.. ฉันคิดว่าฉันมีอะไรต้องช่วยนายนะ เปิดประตูสิ~"
คนตัวเล็กที่กำลังจะสวมเสื้อที่เปียกชื้นจำต้องหยุดมือมายื้อประตูแทนเมื่อเห็นว่ามันกระตุกไปมาด้วยแรงจากคนข้างนอก
"ฉันไม่มีอะไรให้ช่วยสักหน่อย ออกไปไกลๆเลยนะ!"
"ก็แค่.. นึกได้ว่านายไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้าไปสักชุด ฉันก็อุตส่าห์เอามาให้ แต่ถ้านายอยากจะเปลือยออกมายั่วฉันอีกก็ตามใจเถอะ ฉันเต็มใจดู..."
กลีบปากอิ่มเผยอค้าง พลางก้มมองสภาพตัวเองสลับกับเสื้อเปียกๆในมือก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้ตัวเองอับอายไปมากกว่านี้
รู้แต่แรกว่าฉันไม่มีเสื้อผ้า...
แล้วยังจะแกล้งกันอีก ฉันเกลียดนาย คนเฮงซวย!!~
"งั้นก็เอามาสิ"
"จะให้ฉันทะลุเข้าไปยังไงดีล่ะ"
คนตัวสูงตอบรับเสียงที่ดังลอดออกมาจากประตูด้วยความขำขัน นัยน์ตาคมก้มมองผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าลำลองที่ถือเอาไว้แต่แรกสลับกับบานประตูที่ยังปิดมิด ยืนรออยู่เพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวพร้อมกับเสียงเลื่อนกลอน
"ส่งมาเร็วๆสิ!"
คิบอมจำต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้เต็มแก้ม เมื่อบานประตูแง้มออกเล็กน้อยพร้อมกับแขนเนียนที่ลอดผ่านช่องเล็กๆออกมาไขว่คว้าหาสิ่งที่ต้องการ
"นี่คุณเร็วๆสิ!"
เสียงหวานดังเล็ดลอดออกมาด้วยความขุ่นเคือง เร่งให้ร่างสูงต้องก้าวเข้าไปใกล้เรียวเขียนนั้น คิบอมแตะผ้าที่ถือเอาไว้เข้าที่แขนเล็กแล้วผละออกมา ส่งผลให้อีกคนตื่นตัวไขว่คว้ามัน
มากยิ่งขึ้น
"ฉันชักจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ!"
คิบอมส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเมื่อแขนเล็กที่ลอดออกมาหยุดเคลื่อนไหว คนตัวสูงก้าวเข้าหาอีกครั้งพร้อมกับวางผ้าและเสื้อผ้าลงไปในมือแต่โดยดี รวดเร็วทันใจบานประตูปิดกั้นลงอีกครั้งหากแต่ไม่อาจกั้นเสียงทุ้มๆที่ดังผ่านเข้าไปปั่นป่วนคนข้างในได้
"จะบอกอะไรอย่างนะเผื่อนายจะอายน้อยลง.. บังเอิญว่าทั้งตัวนายน่ะฉันเห็นมันมาหมดแล้วล่ะอีทงเฮ~"
-:- Deceive -:-
ร่างโปร่งเดินหาวออกมาจากตัวบ้าน ผ่านรถยนต์คันเก่งที่ออกไปผจญโลกด้วยกันเมื่อคืนไปยังประตูบ้าน คยูฮยอนก้มมองนาฬิกาในมือพร้อมกับส่ายหัว เมื่อตอนเกือบเช้าเขาได้รับข้อความจากทงเฮฮยองว่าจะกลับเองในตอนสายวันนี้และเมื่อคืนก็นอนบ้านเพื่อน ส่วนฮยอกแจฮยองนั้นถึงบ้านก่อนเขาเสียอีก แต่เขาก็ขอเลี่ยงไม่เจอกับฮยองคนดีในตอนเช้าอันสดใสนี่ดีกว่าไม่งั้นมีหวังโดนซักเรื่องเมื่อคืนถี่ยิบเเน่
"อย่าได้เจอะเจอกันอีกเลยคุณหนูอีซองมิน~"
พอนึกถึงเมื่อคืนสมองของร่างโปร่งที่เดินเตะฝุ่นไปตามฟุตบาทที่มุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์ก็ดันฉายภาพคนเอาแต่ใจที่พอยอมบอกทางไปบ้านแล้วก็หลับคอพับอยู่บนเบาะข้างๆเขา และก็เป็นจริงดังคาดบ้านของนายคนนั้นกว้างใหญ่และโอ่โถงแต่เขากลับไม่พบผู้ปกครองสักคน เจอเพียงแต่แม่บ้านที่รอรับด้วยความกังวลใจ ซึ่งเพียงแค่เห็นใบหน้าหวานเท่านั้นแหละอาจุมม่าแม่บ้านถึงกับร้องห่มร้องไห้เลยทีเดียว
ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่นานร่างโปร่งก็ถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ คยูฮยอนทรุดตัวลงบนโต๊ะเรียนหลังห้องที่ประจำ พร้อมกับปิดเปลือกตาลงเพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไปเมื่อคืนนี้
"เฮ้ยคยูฮยอน! ยัยแก่มาแล้วว่ะ"
"อืออ.."
เพิ่งจะหลับตาไปได้ไม่นาน เพื่อนด้านหลังก็สะกิดเรียกพร้อมกับสัญญาณที่รู้กันว่าอาจารย์ประจำชั้นได้เดินเข้ามาแล้ว คาบโฮมรูมของนักเรียนไฮสคูลปีสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นการแนะแนวเรื่องมหาวิทยาลัยต่างๆอีกเหมือนเดิม
น่าเบื่อจริงๆให้ตายสิ!
"เฮ้ย!!"
ร่างโปร่งอุทานออกมาดังลั่นจนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆหันมามอง คยูฮยอนก้มหน้าติดโต๊ะทันทีเมื่อเห็นว่าคนในเครื่องแบบเดียวกับเขาที่เดินตามหลังคุณครูประจำชั้นมาหยุดที่หน้าห้องกำลังมองมาที่เขา
"เอาล่ะจ๊ะ! เงียบกันได้แล้ว.. วันนี้ครูพาเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก แนะนำตัวเองเลยจ๊ะ"
"สวัสดีครับผมอีซองมิน ฝากตัวด้วยนะครับ~"
คยูฮยอนตบหน้าตัวเองไปทีนึงเพื่อจะได้พิสูจน์ว่าเขากำลังอยู่ในโลกแห่งความจริง ใบหน้าหวานที่เพิ่งจากลามาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงลอยเด่นอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มหวานที่แจกจ่ายให้กับเพื่อนร่วมชั้นที่จ้องมองคนน่ารักเป็นตาเดียวมันทำให้เขารูสึกว่าความซวยกำลังจะมาทักทายเขาอีกครั้งแล้ว
"ตรงนี้มีคนนั่งมั้ย"
"มี!"
คยูฮยอนตอบรับแล้วหันหน้าหนีคนที่มายืนค้ำหัวเขาอยู่ทันที รู้สึกว่าเพื่อนทั้งชั้นกำลังมองมาที่พวกเขา อีซองมินเป็นคนน่ารักโดดเด่น ย่อมเป็นที่จับตาเป็นธรรมดา แต่ขอเถอะช่วยไปให้เพื่อนๆจับตาไกลๆโจคยูฮยอนได้มั้ยครับ..
"นายจะทำอะไร!" ก็ว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่เสียงกุกๆกักๆที่ดังอยุ่ข้างตัวก็ทำให้คยูฮยอนจำต้องหันกลับมาสนใจอีกครั้ง ร่างโปร่งเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือขาวจับกระเป๋าของเพื่อนที่นั่งข้างเขามาแรมปีซึ่งในตอนนี้มันไปทำธุระส่วนตัวออกไปไว้ยังโต๊ะที่อยู่ถัดไป
"แค่นี้ก็ไม่มีแล้ว.. จริงมั้ย~" ว่าพลางสอดตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วหันมายิ้มหวานให้กับคนข้างกาย เป็นอันว่าอีซองมินสามารถจับจองโต๊ะเรียนข้างโจคยูฮยอนได้สำเร็จท่ามกลางสายตาเพื่อนร่วมชั้นที่ได้แต่อ้าปากค้างไปตามๆกัน
พวกแกยังไม่รู้ฤทธิ์คุณหนูใจแตกนี่เท่าฉันหรอกเว้ย!
-:- Deceive -:-
แสงแดดยามสายส่องผ่านผ้าม่านที่ปลิวไสวตามแรงลมเข้ามากระทบร่างเล็กที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงกว้าง มือบางยกขึ้นขยี้เปลือกตา หากแต่ยังไม่ยอมขยับตัวตื่น ร่างเล็กบิดกายไปมาบนเตียงกว้าง ไม่อยากลืมตาเพราะในขณะที่เปลือกตาปิดสนิทก็ยังมองเห็นภาพใบหน้าของใครอีกคนได้อย่างชัดแจ้ง
"เด็กดื้องั้นเหรอ... กล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นเด็ก!"
กลีบปากอิ่มขยับพึมพำทั้งที่นัยน์ตายังปิดมิดจากที่ขยับขึ้นลงเหมือนจะก่นด่าคนที่ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องความทรงจำกลับกลายเป็นรอยยิ้มแต้มใบหน้าขาว
"นายไม่ควรคิดถึงเขานะอีฮยอกแจ!"
ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับดวงตาเรียวใสที่เปิดกว้างขึ้น มือเล็กคว้าโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะ หนึ่งข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่านจากทงเฮ..
'ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฮยองนอนบ้านเพื่อน คงกลับตอนสายๆ"
"เพื่อนเหรอ.. เพื่อนคนไหนกัน" ฮยอกแจพึมพำกับตัวเอง คิ้วเรียวผูกกันแน่น จะมีเพื่อนคนไหนที่ทงเฮจะไปอาศัยพักค้างแรมได้ ไม่เห็นจะมีสักคนเพราะทงเฮไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเลย แต่ในเมื่อข้อความมันมาจากเบอร์ของทงเฮก็คงจะเป็นไปตามนั้น คิดแล้วก็วางโทรศัพท์ไว้บนเตียง ก่อนจะเดินลากเท้าเข้าห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตรส่วนตัว
ม้าหินอ่อนหน้าคณะบริหารเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อทำงานหรือพูดคุยกันก่อนที่จะเข้าชั้นเรียน ร่างบางยีหัวตัวเองพลางขีดเขียนบางสิ่งลงไปในสมุดเเล็กเชอร์เล่มเล็ก
"ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้นะ.. เรียวอุค~ ไว้ตอนจะสอบติวให้ฉันด้วยนะ" ฮยอกแจเลื่อนสมุดแล็กเชอร์อีกเล่มคืนแก่เจ้าของเมื่อทำการคัดลอกเสร็จสิ้น
"ได้สิ~ แล้วนายจัดการทำเรื่องขอไปฝึกงานหรือยังล่ะ" เพื่อนร่างน้อยตอบรับพร้อมกับเปลี่ยนประเด็นเมื่อเห็นว่าเดือนชั้นปีตัวจ้อยเริ่มที่จะหมอบคลานไปกับโต๊ะอีกรอบ
"เรียบร้อยแล้วล่ะ อาทิตย์หน้าก็เริ่มฝึกสักทีจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวเข้าเรียน" กลุ่มผมนุ่มใช้หนังสือเป็นที่หนุนนอน กลีบปากอิ่มขยับตอบคำถามเพื่อน ฮยอกแจอยากเรียนให้จบสักที อยากจะหางานดีๆทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระจากทงเฮบ้าง
"นายฝึกที่ไหนล่ะ.."
"ก็ที่.. นั่นมัน.."
"ใครเหรอ~"
เรียวอุคตกใจไม่น้อยที่จู่ๆเพื่อนตัวเล็กก็เด้งขึ้นมานั่งตัวตรงพร้อมกับจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย แถมยังจ้องมองใครบางคนที่เดินออกมาจากห้องอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขาที่ระเบียงทางเดินบนชั้นสอง
"แล้วเจอกันนะ!"
"เดี๋ยวสิฮยอกแจ!"
ไม่คิดจะตอบคำถามเพื่อนร่างเล็กลุกพรวดพร้อมกับคว้ากระเป๋าของตนไปในทันที เรียวอุคได้แต่ส่ายศีรษะให้กับเพื่อนที่วิ่งปร๋อไปทางอาคารที่จับจ้องอยู่เมื่อครู่
ร่างบางยืนหอบหายใจอยู่ตรงทางเข้าอาคารเรียน มือเล็กทาบอกบางข้างซ้ายที่เต้นถี่ด้วยความเหนื่อยหอบหวังจะให้มันรีบกลับไปเต้นให้เป็นปกติโดยเร็ว ฮยอกแจแนบลำตัวเข้ากับผนังอาคารก่อนจะชะโงกตัวไปยังบันไดทางขึ้นตึกแล้วพาตัวเองกลับมาหลบที่เดิมเมื่อเห็นเรียวขายาวที่กำลังก้าวลงมา
"5.. 4.. 3.. 2.. โอ้ยยย นี่นายเดินประสาอะไรห๊ะ!"
หลับหูหลับตาชนเข้ากับอกกว้างแล้วร่างเล็กก็ทรุดลงไปโอดโอยบนพื้นก่อนจะก้มหน้ากุมข้อเท้าของตนเมื่อเห็นว่าอีกคนย่อตัวลงมา
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ.."
"เป็นสิ! ตัวนายใหญ่ขนาดนี้ลองมาเป็นฉันดูสิ!" มือบางนวดข้อเท้าของตัวเองพลางก้มมองมันด้วยนัยน์ตาที่รื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะค่อยๆช้อนขึ้นมองคนตัวสูงที่เข้าใจว่าเป็นต้นเหตุทำให้อีกคนบาดเจ็บ
"นาย!!" ฮยอกแจตาโต น้ำเสียงที่แสดงออกบ่งบอกได้ถึงความตื่นตกใจได้อย่างแนบเนียน
"นี่เธอเองเหรอ" ร่างสูงตาโตไม่แพ้กันเมื่อเห็นชัดเต็มตาว่าเจ้าของร่างเล็กที่กุมข้อเท้าของตนอยู่เป็นคนเดียวกับคนที่เขาช่วยพาไปส่งที่บ้านเมื่อคืนนี้
"ฉันแล้วจะทำไม ทำไมนายถึงได้เป็นตัวซวยแบบนี้นะ!" นัยน์ตาเรียวตวัดมองคนตรงหน้าอย่างขุ่นเคืองพร้อมกับนวดข้อเท้าที่ไม่ได้เจ็บปวดอะไรสักนิดต่อไป
"ก็แค่ตกใจที่เราบังเอิญได้เจอกันอีก"
"แหวะ! ใครเขาอยากจะบังเอิญเจอกับตัวซวยแบบนาย" ว่าแล้วก็เชิดหน้าใส่จนอีกคนหลุดขำ และเสียงหัวเราะนั้นก็เรียกสายตาขุ่นเคืองได้เป็นอย่างดี
"ถอยไปฉันจะกลับ อะ โอ้ยย~" ปัดมือหนาที่ช่วยไขว่คว้าออกก่อนจะฝืนตัวลุกขึ้นแล้วก็จำต้องทรุดลงอีกรอบแต่ก็ได้ลำแขนยาวรองรับเอาไว้ก่อนถึงพื้น
"เจ็บแบบนี้จะกลับได้ยังไง"
"นี่ปล่อยนะจะพาฉันไปไหน!" ฮยอกแจร้องลั่นเมื่อเท้าเล็กลอยขึ้นจากพื้น ลำแขนเรียวโอบกระชับลำคอหนาเพื่อจับยึดตามสัญชาติญาณเมื่ออีกคนช้อนตัวเขาขึ้นจากพื้น
"ไปโรงพยาบาล เจ็บหนักขนาดนี้คงต้องให้หมอฉีดยาสักเข็มสองเข็ม~"
-:- Deceive -:-
"ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะกินฉันเข้าไปด้วยหรอก.. ถ้าอยากจะกินจริงๆ..."
"นี่! แค่กๆ หยุดพูดอะไรบ้าๆแบบนี้สักที!"
สงครามเล็กๆบนโต๊ะอาหารตระกูลคิมมันเริ่มตั้งแต่แม่บ้านวางซุปลงบนโต๊ะแล้ว ร่างสูงฝั่งตรงข้ามได้แต่หัวเราะขำขันเมื่ออีกคนส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้พร้อมกับอาการสำลักเนื่องจากขยับริมฝีปากด่าทอเขาไปด้วย
"ป้าครับ~ ช่วยเอาเอกสารที่ผมให้คุณจองซูฝากไว้ให้หน่อยครับ" คิบอมดื่มน้ำบ่งบอกว่าเสร็จสิ้นจากการรับประทานอาหารพร้อมกับหันไปเอ่ยประโยคนั้นกับแม่บ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ คนที่ร่วมรับรู้โดยไม่ได้ตั้งใจอย่างทงเฮจึงอดมองตามไปด้วยไม่ได้
"เราคงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว เรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาคุณเข้าใจผิดและฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก ฉันขอตัวกลับก่อนนะ"
ทงเฮเอ่ยรวดเดียวราวกับเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีก่อนจะลุกพรวดทันทีที่คิบอมก้มหน้าลงไปให้ความสนใจกับหน้ากระดาษที่เอาออกมาจากซองสีน้ำตาล
"อีทงเฮ... อายุ 23 มีพี่น้อง 3 คน เป็นลูกคนโตของตระกูลอี จบการศึกษาด้านโรงแรม.."
"นี่มันเรื่องอะไร!" ทงเฮจำต้องนั่งลงที่เดิมเมื่ออีกคนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรออกมาแต่กลับก้มลงอ่านข้อมูลจากหน้ากระดาษขาว และทงเฮจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยถ้าสิ่งที่ออกจากกลีบปากได้รูปนั่นไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องของเขา
"เรื่องของนาย.. น้องนาย.. ชื่ออะไรน่ะ.. อ้อ คนนี้เลย อีฮยอกแจ เผื่อเอาไว้ฟ้องร้องน่ะ"
"ฟ้องงั้นเหรอ! คุณจะทำแบบนี้กับน้องฉันไม่ได้นะ ฮยอกแจยังเรียนอยู่..แล้วเราก็.."
"ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ.. จะพูดว่าน้องนายไม่ได้ตั้งใจเหรอ" คิบอมเก็บข้อมูลที่อ่านผ่านตาไปแล้วรอบนึงเข้าซองก่อนจะจับจ้องไปยังใบหน้าหวานที่ตอนนี้ไร้สีสันใดๆแต่งแต้มบนใบหน้าสวยนั้น
"คนใจดำ! รังแกได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้ ถ้าคุณมีข้อมูลทุกอย่างในมือ คุณก็คงเข้าใจว่าทำไมฮยอกแจถึงทำแบบนั้น แล้วคุณยัง... ซ้ำเติมเรา"
มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่รู้สึกอับอายที่มันไหลออกมาแสดงความอ่อนแอให้อีกคนได้เห็น ทงเฮมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแห่งความเกลียดชัง มองลึกเข้าไปในแก้วตาดำขลับราวกับจะมองให้เห็นว่าหัวใจของคนตรงหน้าเป็นสีดำดังคำที่ได้กล่าวออกไป
"อยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่ฉันจะสู้กับคุณด้วยตัวของฉันเอง" ทงเฮมองใบหน้าคมอีกครั้งก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้อีกครั้ง เท้าเล็กก้าวไปตามโถงของบ้านหลังใหญ่ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก จุดมุ่งหมายคือบานประตูกว้าง ทงเฮอยากจะไปจากบ้านของคนไม่มีหัวใจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่อยากจะมองแม้ใบหน้านั้น...
"ปล่อยนะ! ฉันจะกลับบ้าน"
ทงเฮสูดหายใจเข้าเพื่อทำให้ตัวเองสงบลงเมื่อมือเล็กถูกอีกคนยึดไว้ ร่างบางหันกลับมามองคนตัวสูงที่ยังคงยิ้มให้เขาเหมือนเดิม
รอยยิ้มของคนใจร้าย...
"ทำไมถึงได้ดื้ออย่างนี้นะ ฟังให้จบก่อนไม่ได้หรือไง"
"จะให้ฉันฟังอะไรอีก นี่ปล่อยนะ!!!"
ร่างเล็กฝืนตัวออกจากอ้อมกอดนั้นเมื่อโดนอีกคนกักกันเอาไว้ในอกกว้างอบอุ่น กลีบปากบางเม้มแน่นด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถสู้แรงอีกคนได้เลย คิบอมรั้งเอวบางเข้าหาตัว ใบหน้าหวานแนบชิดติดอกอุ่น ใบหน้าคมโน้มเข้าหาคนที่ยังดึงดันจะออกจากอ้อมแขนแข็งเเรง
"ตอนแรกก็ตั้งใจจะฟ้อง แต่ดูจากประวัตินายแล้วฉันมีข้อเสนออย่างอื่นให้นาย.."
"ข้อเสนออะไร.." ร่างบางช้อนใบหน้าขึ้นมอง แล้วก็จำต้องค่อยๆเบนไปอีกทางเมื่อปลายจมูกของพวกเขาสัมผัสกันเบาๆจากความแนบชิดในตอนนี้ คิบอมมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อจากอุบัติเหตุเมื่อครู่ก่อนจะกดยิ้มพร้อมกับก้มลงไปกระซิบติดใบหูบาง...
"ทำงานชดใช้... ปลดหนี้เท่ากับความเสียหายที่น้องนายทำให้กับโรงแรมของฉัน"
TBC. ~
Kibummi Talk ::
ทำไมพวกเราต้องแอบดูทงเฮอาบน้ำนะ...
ก๊ากกกกก พี่คิบอมส่งดีเอ็มมาอ่ะ ต้องทำตาม *โคตรมั่ว*
คิเฮอยู่ด้วยกันทีไรกำไรทั้งพี่คิบอมทั้งคนอ่าน แต่ไรเตอร์นั้นชีช้ำ? กร๊ากกกกกกก~
วอนฮยอก.. ฮันนี่ของคิบอมมิมาเหนือมาก คิบอมมิทำใจไม่ได้ 5555555
ชอบอารมณ์ของคยูมินด้วย ดูน่ารักสมวัย กึ๋ยๆ >///<
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะคะขอให้มีความสุขกับฟิคไม่มากก็น้อย ฮี่ๆ ~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น