ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Deceive ลวงเธอมาล้วงรัก~ | KiHae , WonHyuk , KyuMin

    ลำดับตอนที่ #2 : ★ Chapter - 01

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 733
      2
      10 ม.ค. 55

     





    Deceive ,,, 01 ~*







    รถเก๋งสีขาวดีไซส์ทันสมัยขับเคลื่อนไปบนถนนโล่ง ท้องฟ้ายามรัตติกาลขับให้ราชรถคันงามดูโดดเด่นไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมได้ บรรยากาศในรถเงียบสงบ นัยน์ตาคมเข้มจับจ้องไปยังพื้นถนนเบื้องหน้าก่อนจะเปลี่ยนทิศเบนสายตามายังเบาะคู่ข้างตัว อันที่จริงแล้วเมื่อสักสามสิบนาทีที่แล้วภายในตัวรถคันงามไม่ได้เงียบสงบเช่นนี้เลย พื้นที่แคบๆในรถของคิมคิบอมแทบจะแปรเปลี่ยนเป็นสนามรบย่อมๆ


    หากแต่ยังไม่ทันจบเกมส์คนตัวเล็กก็แพ้ภัยตัวเอง...


    "อืออ~"



    เสียงครางผะแผ่วเรียกให้ใบหน้าคมที่หันกลับไปแน่วแน่อยู่กับถนนสายยาวจำต้องหันกลับมาสนใจร่างน้อยบอบบางที่ปิดเปลือกตาพริ้ม แนบซบใบหน้าหวานเกินชายเข้ากับเบาะนุ่มที่ใช้อิงกาย กายบางสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บเพราะเครื่องห่มกายเปียกชื้นปะทะเข้ากับไอเย็นของเครื่องปรับอากาศชั้นดีในพื้นที่แคบของรถคันหรู

    ร่างสูงกดยิ้ม ริมฝีปากได้รูปกระตุกเบาๆขณะมองคนตัวเล็กที่ยังเพ้อพกไม่ได้สติอยู่กับเบาะรถนุ่ม คิบอมเอื้อมมือปรับระดับของเครื่องปรับอากาศก่อนจะค่อยๆพารถเข้าจอดยังข้างทางที่เงียบสงบในยามราตรี

    มือหนาเอื้อมหยิบสูทตัวนอกที่วางทาบอยู่บนเบาะหลังขึ้นมาพร้อมกับทาบทับลงไปร่างกายสั่นสะท้านของคนที่ยังไม่ได้สติ หากแต่เมือมือหนาสัมผัสผิวกายที่ร้อนรุ่มดังไฟเผานั้นก็จำต้องเอาเสื้อกลับมา

    เสื้อคลุมสีดำด้านนอกที่เปียกชุ่มถูกทอดวางเอาไว้ในพื้นที่ว่างระหว่างคนขับและคนที่นั่งเคียงข้าง ถ้าหากคนตัวเล็กมีสติสมบูรณ์คนตัวสูงคงไม่อาจกระทำในสิ่งที่กำลังทำได้ นิ้วยาวค่อยๆริดกระดุมเสื้อสีขาวบางของพนักงานเสิร์ฟร่างน้อยที่ตกเป็นจำเลยในการฉกชิงกระเป๋าที่มีเอกสารสำคัญและเงินอีกจำนวนหนึ่ง กระดุมเม็ดเล็กๆถูกลิดรอนออกจนหมด เผยให้เห็นผิวกายขาวที่ลอดผ่านออกมาตรงแนวเสื้อที่ปริแยกออกจากกัน

    แม้เคยเห็นผิวกายใต้ร่มผ้าของใครมานักต่อนักแต่ร่างสูงก็จำต้องเบือนหน้าหนีเมื่อลำแขนยาวข้างนึงโอบกระชับแผ่นหลังเนียนขึ้นมาเพื่อร่นเสื้อตัวบางที่เปียกชุ่มนั้นให้หลุดพ้นออกจากคนตัวเล็ก ร่างสูงพรูลมหายใจยาวเมื่อชื้นผ้าชื้นหลุดร่นออกจากคนตัวเล็กได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้ภายใต้อ้อมแขนของเขามีเพียงแผ่นอกบางสีน้ำนมที่สะท้อนลมหายใจขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ


    "อืออ หนาว.." 



    ร่างเล็กพลิกกายเข้าหาไออุ่นใกล้ตัวหวังจะให้คลายอาการสั่นสะท้านตามสัญชาตญาณ นัยน์ตาคมที่กำลังจดจ่ออยู่กับเสื้อสูทตัวนอกบนตักจึงจำต้องเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงจากคนที่กำลังซุกแผ่นอกเปลือยเปล่าเข้ากับลำแขนยาวของเขา


    ลมหายใจร้อนที่เป่ารินรดลำแขนยาวเรียกให้ขนกายสูงลุกตั้งชัน นัยน์ตาคมทอดมองร่างน้อยที่ซุกไซ้เข้าหาไม่วางตา ดวงหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อด้วยอุณหภูมิในร่างกายบางตอนนี้พร้อมที่จะแผดเผาทุกอย่างที่อยู่ใกล้ 


    นัยน์ตาคมไล่ละสายตาไปตามใบหน้าสวย เรื่อยลงมาถึงซอกคอขาวเชื่อมกับแผ่นอกบางสีบริสุทธิ์ที่สะท้อนขึ้นลงบ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหลับใหล คนตัวสูงห่อร่างเล็กที่ท่อนบนไร้อาภรณ์ติดกายด้วยเสื้อสูทตัวใหญก่อนจะค่อยๆปรับเบาะให้เอนต่ำลงเพื่อให้คนที่เกาะเกี่ยวลำแขนของเขาไม่ยอมปล่อยอยู่ในท่วงท่าที่สบายมากขึ้น


    "นายกำลังยั่วฉันนะ.." ร่างสูงที่โน้มลงไปตามแรงฉุดรั้งจากคนตัวเล็กในอ้อมกอดพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าคมจรดดวงหน้าหวาน กลีบปากอิ่มสวยเผยอค้างผ่อนปรนลมหายใจร้อนปะทะเข้ากับผิวแก้มอูม


    ลูกแก้วดำขลับจับจ้องใบหน้าหวานอย่างหลงใหล จมูกโด่งไล่สัมผัสตั้งแต่หน้าผากมน ละผ่านมายังจมูกเชิดรั้น ปลายจมูกแนบชิดติดกัน กลิ่นกายหอมรัญจวนฉุดรั้งมิให้คนตัวสูงเคลื่อนกายออกห่างได้ กลีบปากได้รูปแนบทับลงไปยังกลีบปากสีระเรื่อ หากแต่ยังมิทันได้บดเบียดแนบชิดให้กลีบปากได้ทักทายกันเสียงครางแผ่วก็เล็ดรอดออกมาหยุดการกระทำของคนตัวสูงเอาไว้ทั้งหมด




    "พ่อ... พ่อครับ..." 








    -:- Deceive -:-









    "ปล่อยฉันนะไอ้คนบ้ากาม! ช่วยด้วย ช่วยด้วยครับ!!"



    เสียงเล็กแหลมของผู้ชายตัวบางที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักตะโกนมาตลอดทางที่ถูกคนตัวสูงใหญ่กว่าฉุดกระชากผ่านมา หากแต่ไม่มีใครสนใจจะช่วยเหลือเด็กหนุ่มร่างบางด้วยเพียงเพราะคิดว่าไม่ควรยุ่มย่ามเรื่องชาวบ้าน โดยเฉพาะ... เรื่องของผัวเมีย!


    "ฉันบอกนายแล้วนะว่าฉันไม่ได้เป็นแบบที่นายคิด" มือเล็กพยายามสะบัดให้หลุดจากการกอบกุมของฝ่ามือหนา ลานจอดรถชั้นใต้ดินเงียบสงัดจนคนตัวเล็กนึกหวาดหวั่นอยู่ในใจหากจะพลาดท่าเสียทีคนตรงหน้าจริงๆ



    "ก็เธอยั่วฉัน~" คนตัวสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่นัยน์ตาที่จับจ้องใบหน้าหวานมีแววเย้ยหยันของผู้ชนะอยู่ในที ดวงตาเรียวสวยมองตอบคนที่ดูหมิ่นกันทางสายตาก่อนจะสบถคำด่าออกมาและแถมด้วยประโยคยาวๆอีกชุดใหญ่


    "ไอ้ลามกเอ้ย!! สมองนายคิดแต่เรื่องอย่างว่าหรือไง!"


    "ก็เธอทำให้ฉันคิด" เรียวป่ากสีสดเผยอค้างทันทีที่อีกคนตอบโต้กลับด้วยน้ำเสียงเฉยชาเช่นเดิม หากแต่รอยยิ้มที่ตวัดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาดูดีมีชาติตระกูลมันกลับทำให้อีฮยอกแจเก็บอาการไม่อยู่



    "อย่ามายัดเยียดให้ฉันนะ!"



    "เธอต่างหากที่ยัดเยียดตัวเองให้ฉัน" 
    เถียงกลับนิ่งๆทุกครั้งจนคนตัวเล็กหน้าชาเพราะรู้สึกเหมือนอีกคนกำลังตบหน้าเขาด้วยวาจาหยาบคายและดูหมิ่นศักศรีดิ์ของเขา ถึงเขาจะชอบเที่ยวและดูกร้านโลกแสงสีในยามค่ำคืนแต่เขาก็ไม่เคยประพฤติตัวออกนอกกรอบอย่างที่อีกคนกำลังว่ากล่าว



    อีฮยอกแจเชิดหน้ามองคนตัวสูงที่เพียงแต่ตอบโต้กลับมาด้วยรอยยิ้มจางๆแต่กวนอารมณ์ให้คุกรุ่นได้ไม่ยาก คนตัวเล็กแทบกระทืบเท้าใส่อย่างคนเอาแต่ใจเมื่ออีกคนไม่ยอมหยุดโลมเลียร่างกายของเขาด้วยสายตาหื่นกระหายแบบนั้น


    "ฉันจะกลับบ้าน!" มือบางผลักอกกว้างของคนที่ยืนขวางอยู่ คนตัวเล็กไม่สามารถหันหลังกลับได้เพราะรถที่จอดรับกันอยู่เปรียบเสมือนกำแพงกักกันให้เขาอยู่ในพื้นที่แคบๆกับคนใจสกปรก หนทางเดียวที่จะหลุดพ้นคือการเดินสวนคนตรงหน้าออกไป


    "จะ.. จะทำอะไรของนาย.."


    แต่ยังไม่ทันได้ก้าวผ่านพ้นตัว ร่างบางก็ต้องถลากลับมาตามแรงฉุดรั้ง หนำซ้ำคนตัวสูงยังเบียดร่างเล็กเข้ากับผิวรถเย็น นัยน์ตาเรียวเบิกค้างมองคนตรงหน้าที่โน้มใบหน้าเข้าหาพร้อมกับคร่อมทับร่างกายตามติดลงมาอย่างตื่นตระหนก


    "ถ้าไม่อยากเป็นอะไรอย่างว่า...ก็อยู่นิ่งๆ"


    ไม่รู้เพราะน้ำหนักตัวของคนตัวสูงหรือนัยน์ตาคู่คมมีเสน่ห์กันแน่ที่ฉุดรั้งให้เจ้าของลูกแก้วที่มองสบนิ่งงันไปทั้งร่าง แม้กระทั่งในยามที่อีกคนโน้มใบหน้าเข้าหา นัยน์ตาใสก็ยังไม่ยอมเคลื่อนผ่านไปไหน ในตอนนี้ฮยอกแจนิ่งค้างไปทุกส่วนแล้ว แม้กระทั่งหัวใจดวงน้อยที่เหมือนจะหยุดนิ่งไปด้วยเมื่อตอนที่กลีบปากอิ่มเกือบจะแตะกัน



    "เด็กดื้อ~"

    "โอ้ยยย ไอ้บ้า!!"


    คนตัวสูงผละออกจากร่างบางที่เอนแนบลงไปกับตัวรถเมื่อเห็นว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ท่าทางมึนเมาไม่ได้สติสามคนเดินผ่านพวกเขาทั้งคู่ไปแล้ว คนตัวสูงปล่อยให้ร่างเล็กเป็นอิสระพร้อมกับเขกเบาๆลงไปยังกระหม่อมบาง



    ชเวซีวอนแค่อยากจะดัดหลังเด็กใจแตกก็เท่านั้น...



    "นายต้องการอะไรกันแน่" มือเล็กคลำหน้าผาก นัยน์ตาเรียวช้อนมองใบหน้าหล่อจัด จังหวะหัวใจที่ยังคงเต้นดังเมื่อเอื้อนเอ่ยประโยคนั้นออกมา ฮยอกแจเข้าใจแล้วว่าที่อีกคนเบียดกายเขาให้ลงไปแนบชิดกับตัวรถแถมยังทาบทับกายตามลงไปราวกับคนที่กำลังสานบทรักกันนั้นเพื่อปกป้องไม่ให้เขาได้มีโอกาสดึงดันตัวเองออกไปเจอกลุ่มคนที่เพิ่งเดินผ่านไป






    เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง...ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...






    "จัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย.. ฉันจะไปส่งที่บ้าน"








    -:- Deceive -:-








    นัยน์ตาคู่สวยที่เพิ่งละจากถนนเบนขึ้นจับจ้องกระจกหลัง หากแต่ในยามรัตติกาลเงียบสงัดน้อยครั้งนักที่จะมีรถคันอื่นวิ่งผ่านเลยไป มือหนาควบคุมพวงมาลัยให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า แต่สิ่งที่คยูฮยอนกำลังให้ความสนใจอยู่นั้นคือเสี้ยวหน้าของคนที่มองเหม่อออกไปด้านนอกหน้าต่างรถ คนที่ออกคำสั่งให้เขาขับเคลื่อนรถไปอย่างไร้จุดหมายทั้งที่ไม่เคยรู้จักคุ้นเคยกัน



    "ตกลงจะให้ไปส่งที่ไหน แค่นี้ฉันก็เสียเวลามากเกินพอแล้วนะ"



    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างระอาเมื่ออีกคนไม่มีท่าทีจะตอบสนองเขาบ้างเลย คนบ้าอะไรเอาแต่ใจชะมัดอย่าให้เจอผู้ปกครองนะ โจคยูฮยอนจะร่ายวีรกรรมให้ฟังสักสามวัน



    "ไม่รู้.." กลีบปากอิ่มสีระเรื่อเอ่ยตอบบางเบาแต่นัยน์ตาไม่ได้ละออกจากวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสเท่าใดนัก ร่างสูงถอนหายใจยาว นี่มันก็เลยเวลาเลิกงานของพี่ชายคนโตมาเกือบสองชั่วโมงเเล้วไม่รู้ว่าพี่ชายทั้งสองคนของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง



    "ถ้านายไม่รู้ ฉันจะกลับไปที่ร้าน พี่.."

    "จอดตรงนี้แหละ!!"


    เสียงหวานตัดประโยคของคนที่กำลังจะเริ่มสาธยายความทุกข์ยาก คยูฮยอนมองผ่านกระจกไปยังคนที่กำลังตื่นเต้นกับทิวทัศน์ด้านนอก ดวงตากลมโตเปล่งประกาย ใบหน้าหวานดูน่ารักขึ้นสิบเท่าเมื่อปากอิ่มคลี่ออกเป็นรอยยิ้มชวนมอง


    "ทำไมนายไม่จอดนี่ฉันจะลงแล้วนะ!" คนที่จับจองพื้นที่เบาะหลังเริ่มออกอาการขุ่นเคืองอีกรอบเมื่อสารถีจำเป็นไม่ยอมหยุดรถตามคำสั่ง 



    "จะจอดได้ยังไงเล่า นี่มันบนสะพานนะ!" คยูฮยอนโต้กลับก่อนจะเหยียบเบรกแทบหัวทิ่มเมื่อคนตัวเล็กเปิดประตูรถออกไป ถึงแม้ว่าความเร็วในการเคลื่อนตัวจะไม่มากมายอะไรแต่การกระทำนั้นมันก็ชวนหวาดเสียวไม่น้อยดีที่ดึกขนาดนี้แล้วไม่มีรถแล่นตามมา

    "ก็จอดได้แล้วนี่~" 

    คยูฮยอนอ้าปากค้างเมื่อคนที่กระทำการหมิ่นเหม่ต่อชีวิตหัวเราะและเอ่ยประโยคนั้นทันทีที่ล้อรถหยุด พื้นที่เบาะหลังว่างเปล่าเมื่ออีกคนก้าวลงไป นัยน์ตาคมทอดมองตามร่างที่ดูบอบบางนั้นอย่างไม่เข้าใจ


    คงไม่กระโดดจากสะพานบันโพสังเวยแม่น้ำฮันหรอกนะ...

    ร่างสูงนิ่งมองคนที่ลงจากรถไปยืนมองทัศนียภาพของแม่น้ำฮันยามค่ำคืนภายใต้แสงสีที่ประดับประดาบนสะพานบันโพเพียงครู่หนึ่งก่อนจะขับเคลื่อนรถออกไปโดยไม่หันไปมองคนตัวเล็กอีกเลย




    ล้อรถเคลื่อนไปตามแนวสะพานที่สวยงาม แสงสีสว่างไสวขับให้สะพานข้ามแม่น้ำฮันจุดกึ่งกลางของเมืองหลวงแลดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ร่างสูงคนควบคุมรถถอนหายใจหนักเมื่อมองย้อนไปข้างหลังผ่านกระจกรถแล้วยังมีภาพเงาสะท้อนของใครอีกคนให้ได้เห็นไกลๆ






    "ยุ่งจริงเว้ย!"






    สบถออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อความคิดด้านดีสะท้อนให้เห็นว่าไม่ควรปล่อยใครคนนั้นให้อยู่เพียงลำพังในค่ำคืนที่เงียบสงัด คยูฮยอนถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรก็มิอาจทราบได้ตั้งแต่เจอคนที่สร้างปัญหาให้ตั้งแต่เจอหน้า



    แต่สุดท้าย... ก็ต้องหันรถกลับทั้งที่มันผิดกฏจราจร



    จอดรถเทียบร่างบางที่ยืนนิ่งมองไปข้างหน้า ก่อนจะก้าวลงจากรถมาหาคนที่หันกลับมายิ้มให้





    "เป็นห่วงฉันเหรอ.."


    "ถือเป็นวันซวยของฉันก็แล้วกัน~" ตอบไม่เห็นจะตรงคำถาม คนตัวสูงบอกผ่านๆเมื่อเห็นอีกคนยังจ้องอยู่ก็มองผ่านไปยังแม่น้ำกว้างไกลบ้างหลังจากครั้งแรกที่ได้มองคนตัวเล็กเต็มตา ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อน้อยๆยามเมื่อกลีบปากอิ่มทอดเสียงหวานให้อีกคนได้ยิน


    "ฉันชักชอบนายแล้วล่ะ" 


    "บ้านนายอยู่ไหน" เจ้าของใบหน้าน่ารักหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินประโยคตอบรับคำว่าชอบของเขาด้วยการถามหาถิ่นที่พักอย่างไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดออกไปสักนิด


    ไม่สนใจแต่นายแท็กซี่คนนี้... หน้าแดงด้วยล่ะ ~




    "ฉันอีซองมินยินดีที่ได้รู้จัก..."





    โจคยูฮยอนไม่ยินดีด้วยเลยสักนิดอีซองมิน!!!~







    -:- Deceive -:-







    เครื่องทำความร้อนแผ่กระจายไออุ่นไปทั่วห้องนอนกว้างใหญ่ที่ได้รับการจัดตกแต่งอย่างเรียบหรู ร่างเล็กกระชับผ้าห่มที่คลุมกายเมื่อรู้สึกว่าไอร้อนในอากาศไม่ได้ช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น เปลือกตาหนาปิดมิดกักกันแสงแดดที่โผล่ลอดเข้ามาตามแนวแยกของผ้าม่านพลิ้วไสว


    คนตัวบางพลิกกายอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีของหนักๆทับลงมาบนเอวบาง แพรขนตางอนกระพริบถี่ก่อนจะค่อยๆเปิดขึ้น นัยน์ตากลมสีอ่อนเบิกกว้างเมื่อเปลือกตาหนาเปิดขึ้นเต็มตา กระพริบตาอีกสักกี่ครั้งภาพตรงหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด


    ทำไมทงเฮถึงได้...



    มือเล็กยกลำแขนยาวที่วางพาดบนเอวเล็กออก ใบหน้าคมของคนที่นอนอยู่ข้างกายยังคงนิ่งเรียบ เปลือกตาหนาปิดสนิทบ่งบอกว่าอีกคนยังวนเวียนอยู่ในห้วงนิทรา กลีบปากบางเม้มแน่นเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงกับคนที่ฉุดกระชากเขามาจากห้องน้ำเพียงเพราะเข้าใจผิดว่าเขาร่วมกับฮยอกแจขโมยกระเป๋าหนังดำขลับนั่น



    ฮยอกแจ.. คยูฮยอน.. ป่านนี้ที่บ้านจะเป็นยังไงที่เขาหายมาทั้งคืน




    ทงเฮผุดลุกขึ้นนั่ง กำลังจะก้าวตัวออกจากผ้าห่มหนาก็จำต้องหยุดตัวเอาไว้เมื่อนัยน์ตากลมพลันก้มมองสภาพล่อแหลมของตัวเองอย่างตกตะลึง


    ยูนิฟอร์มพนักงานเสิร์ฟของร้านอันตธานหายไปจากร่าง ในตอนนี้ทงเฮสวมเเค่เสื้อนอนตัวโตที่ยาวเพียงเข่าแค่ตัวเดียว อีกทั้งกระดุมสองเม็ดบนยังติดไม่เรียบร้อย ใบหน้าหวานเบนไปยังคนที่หลับลึกอยู่บนเตียงสลับกับสภาพยามเช้าของตัวเองอย่างตื่นตะลึง



    นี่มันเรื่องบ้าอะไร!



    "คุณ!! นี่คุณ!!" 




    เสียงหวานตวัดห้วนพร้อมกับส่งสายตาขุ่นมัวไปยังคนที่นอนหลับอย่างสบายบนเตียง มีแค่คนคนนี้เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทงเฮจำได้เพียงแต่ว่าเขาถูกคนตัวสูงลากมาขึ้นรถ ขืนตัวจากการกอบกุมนั้นได้ไม่นานเขาก็หมดสติไปด้วยความเมื่อยล้า


    ตื่นมาอีกทีคนบ้าอำนาจก็มานอนอยู่ข้างๆแถมยัง... กอดทงเฮด้วย ~



    "อือ~ อยากต่อเหรอ.."



    กลีบปากอิ่มเผยอค้าง นัยน์ตากลมใสเบิกกว้างพร้อมกับก้มมองร่างกายตัวเองอย่างอัตโนมัติ คนที่พึมพำตอบโดยไม่ได้ลืมตานั้นไม่ได้ลุกขึ้นมาอธิบายอะไรให้มันชัดเจนแต่กลับยิ่งทำให้คนตัวเล็กปวดหัวมากกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่าตัว


    "เกิดอะไรขึ้นทำไมฉันถึงได้... นี่คุณ!!" มือบางเอื้อมหยิบหมอนที่เคยใช้หนุนหนอนทั้งคืนขึ้นมาฟาดใส่ร่างสูงที่ยังคงหลงใหลอยู่ในห้วงนิทรานั้นไม่ยั้ง คิบอมลืมตามองร่างบางที่ประทุษร้ายตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนจะคว้าเอาเรียวแขนเล็กๆทั้งสองข้างที่ไหวขึ้นลงทำร้ายเขาอย่างต่อเนื่องเอาไว้


    "ถึงได้... อะไรเหรอ" 


    "ปล่อยนะ! อื้อ~ อย่าทำอะไรบ้าๆนะ" คนที่กำลังจะอ้าปากตอบคำถาม จำต้องแปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงร้องประท้วงเมื่ออีกคนหยัดกายขึ้นพร้อมกับพลิกร่างเล็กให้กลับลงไปนอนแทนที่แถมยังเคลื่อนตัวขึ้นทาบทับร่างบางที่เบนหน้าหนีซบหมอนใบโต


    "อะไรบ้าๆที่ว่านี่อะไรเหรอ" ร่างสูงเอ่ยถามกลั้วเสียงหัวเราะเมื่อเห็นคนตัวเล็กซุกใบหน้าเข้ากับหมอนนุ่มไม่ยอมให้ใบหน้าหวานอยู่ในระดับเดียวกับเขา แต่กลับกลายเป็นเอียงซอกคอขาวไปถึงยอดอกสีหวานยั่วเย้าให้ร่างสูงมองเห็นได้ในมุมองศาที่พอเหมาะ

    "เลิกยั่วฉันได้แล้วอีทงเฮ! ถ้าฉันกับนายทำอะไรๆด้วยกันจริง ป่านนี้นายคงไม่มีแรงลุกขึ้นมาทำร้ายฉันหรอก~" 


    "ฉันไม่ได้ยั่วคุณ!" ทงเฮผินใบหน้าหวานที่ซุกซบอยู่กับหมอนใบใหญ่ออกมาพร้อมกับน้ำเสียงห้วนจัด นัยน์ตากลมวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคืองที่โดนกล่าวหาว่าเป็นคนกระทำกิริยาดังว่า


    "แล้วที่ทำอยู่ตอนนี้ล่ะ..." หัวใจดวงน้อยของคนที่อยู่ด้านใต้กระตุกวูบเมื่อร่างสูงที่คร่อมทับตัวอยู่เบนสายตาจากดวงตาที่จับจ้องกันอยู่มายังแผ่นอกขาวเนียนที่แหวกผ่านแนวกระดุมที่ติดไม่เรียบร้อยของเสื้อนอนตัวใหญ่ คิบอมยกยิ้มเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเกิดอาการใบ้กินชั่วขณะแถมยังตัวสั่นน้อยๆในอ้อมกอดของเขา


    "ฉัน..ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย คุณคิดเองเออเอง คนโรคจิต!" เมื่อพาดวงตาใสออกจากแรงดึงดูดของนัยน์ตาลึกลับได้แล้วร่างบางก็ได้สติตอบโต้ มือบางดันแผ่นอกหนาของคนที่รุกรานเขาออก แต่ไม่ว่าจะยังไงคนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายก็ยังเป็นคนตัวสูงอยู่ดี


    ทงเฮตื่นตกใจเมื่อแผ่นหลังลอยสูงจากพื้นนุ่ม ลำแขนยาวช้อนเอวบางขึ้นมาพร้อมกับจัดที่นั่งให้คนตัวเล็กเสร็จสรรพแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ชอบใจนักที่ต้องอาศัยตักกว้างเป็นเบาะรองโดยถูกบังคับให้เผชิญหน้ากันแบบนี้ 


    "เรายังไม่ได้เคลียร์เรื่องเมื่อคืนเลยนะ ฉันอุตส่าห์ใจดีไม่ยัดนายกับเพื่อนร่วมก๊วนเข้าไปกินข้าวฟรีในคุกก็ดีแค่ไหนแล้ว"


    "ฉันไม่ได้ขโมย น้องฉันก็ไม่ได้ขโมย!" ด้วยไม่พอใจอยู่แล้วที่ถูกจับให้นั่งอยู่ในท่าล่อแหลมทงเฮจึงตวาดเสียงห้วน พร้อมกับดึงดันจะออกจากตักนุ่มนั้นให้ได้และอาจจะเป็นเพราะผิวกายที่เสียดสีกันอยู่จึงส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายร้อนรุ่มอย่างไม่สามารถควบคมได้


    "จำเลยปากแข็ง" 

    "ฉันไม่ใช่จำเลย"

    "งั้นก็ผู้ต้องหาปากดี"

    "ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหา"

    "งั้นเลื่อนขั้นเป็นนักโทษเลยก็แล้วกัน"


    "นี่ปล่อยฉันนะ!! บอกให้ปล่อยไงเล่า นายไม่มีสิทธิทำแบบนี้กับฉันนะ!!" 



    เสียงหวานตะโกนดังลั่นห้องนอนกว้างเมื่อสิ้นสุดการถกเถียงด้วยการที่บั้นท้ายกลมกลึงหลุดลอยขึ้นจากตักกว้าง คนตัวเล็กลอยคว้างในอากาศโดยที่คนตัวสูงรวบขาทั้งสองข้างที่กำลังดิ้นประท้วงเอาไว้ 


    มือเล็กกำเสื้อนอนด้านหลังของคนตัวสูงเอาไว้เนื่องจากกลัวว่าตัวเองจะตกลงไปยังพื้นกระเบื้องสวย กระนั้นเท้าเล็กก็ยังไม่ยอมหยุดดิ้นรนเพื่อต่อสู้ให้หลุดออกจากวงแขนเเข็งแรง


    คนตัวสูงไม่ได้สนใจการประท้วงอ่อนแรงจากคนตัวเล็กแม้แต่น้อย เท้าหนายังคงก้าวไปยังปลายทางที่หมายเล็งเอาไว้ได้อย่างไม่สะดุด คนตัวสูงเบี่ยงตัวดันประตูขาวบานใหญ่เพียงเล็กน้อยห้องน้ำกว้างก็ปรากฏสู่สายตาคมกริบ 


    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นใบหน้าหล่อเหลาเมื่อเจ้าของวงแขนเเข็งแรงยอมโอนอ่อนปล่อยให้เท้าบางแตะลงบนพื้นอ่างอาบน้ำใหญ่ที่ว่างเปล่า



    "จะ..จะทำอะไร!" ทงเฮก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วเมื่อเท้าบางสามารถทรงตัวได้ด้วยตัวเอง ลูกแก้วสีอ่อนจับจ้องคนตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนก มือบางข้างนึงก็รวบคอเสื้อที่เปิดเอาไว้แต่มันก็ส่งผลให้ด้านใต้เลิกขึ้นเปิดทางให้เรียวขาเนียนได้อวดโฉมแทน คิบอมหัวเราะดังลั่นเมื่อคนตัวเล็กรู้ตัวแล้วว่าด้านล่างเปิดจึงเปลี่ยนมือลงมาปกปิดส่วนล่าง


    "เลิกทำท่าตลกๆแบบนั้นสักที ถึงตอนอาบน้ำยังไงก็ต้องถอดหมดอยู่ดี" คิบอมพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆพลางจับจ้องเรือนกายงดงามของคนที่ยืนเด่นอยู่ในอ่างอาบน้ำสีมุก


    "คุณทำกับฉันเกินไปแล้วนะ!" ถึงเวลาที่ต้องปกป้องตัวเองจากคนที่จ้องจะเอาเปรียบเขาอยู่ทุกขณะเเล้ว ทงเฮจ้องมองลูกแก้วดำขลับอย่างไม่นึกเกรงกลัวแต่ก็ต้องถอยตัวร่นออกไปอยู่ดีเมื่ออีกคนขยับเข้าหา


    "อาบน้ำซะ.. เรายังมีเวลาตกลงกันอีกนาน~" นัยน์ตาคมกวาดมองร่างบางที่ยังอยู่ในท่าขย้ำเสื้อปกปิดผิวกายของตัวเองอยู่ก่อนจะยกยิ้มที่ชวนให้หัวใจคนมองสั่นไหวแล้วจึงหันหลังเดินออกไปจากห้องน้ำกว้าง



    ทงเฮพรูลมหายใจยาวเหยียด หากแต่นัยน์ตาหวานยังมองแผ่นหลังของคนที่ยังออกไปไม่พ้นด้วยความขุ่นเคือง มือเล็กทันหยิบแชมพูที่วางอยู่ใกล้มือขึ้นมาเตรียมขว้างอีกคนให้หายแค้น



    "หรือถ้าเปลี่ยนใจอยากให้อาบให้ก็บอกนะ..วันนี้ฉันว่างทั้งวัน" 



    คนตัวสูงทันเห็นมือเล็กปล่อยชวดแชมพูร่วงเมื่อเขาหันหลังกลับมาพร้อมกับขยิบตาให้ คิบอมหัวเราะดังลั่นแล้วจึงปิดประตูห้องน้ำกั้นภาพร่างบางที่ยืนนิ่งในอ่างให้พ้นไปจากสายตา


    เท้าใหญ่ก้าวต่อไปยังเตียงนุ่มก่อนจะทิ้งตัวลงด้วยรอยยิ้มบางๆ มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียง ต่อสายหาหมายเลขปลายทางเเละเมื่ออีกฝ่ายตอบรับเสียงทุ้มจึงเปล่งออกมาด้วยท่าทางอย่างเด็กน้อยที่พบของเล่นชิ้นใหม่






    "คุณจองซู.. เรื่องที่ให้จัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ~"












    TBC. ~*






















    Kibummi Talk ::


    อยากเป็นทงเฮ!! *ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนตัว*
    ใครมาทีหลังก็ต่อคิวเอานะคะ ก๊ากกกกกกกกกกก
    ไม่รู้ว่าบุคลิกที่แตกต่างของทั้งสามคู่จะลงตัวสำหรับคนอื่นมั้ยนะคะ
    แต่โดยส่วนตัวแล้วเราชอบ 555 (คนแต่งไม่ชอบก่อนแล้วใครจะชอบล่ะ คึ~)
    ทำไมมันไปพัวพันกันโดยมีรถประกอบฉากกันทั้งสามคู่เลยล่ะ 55555555555~
    เอาเป็นว่าขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนต์ที่เป็นกำลังใจให้กันนะคะ :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×