คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 木マリ (1) - ‘ใจเย็นๆ ไว้ ใจเย็น… บอกให้ใจเย็นไงเฮ้ย!’– โบคุโตะโวยวายกับตัวเอง
Haikyuu!!
縁と浮世は末を待て
Haikyuu!!
Bokuto x oc
***** Warning: มีการสปอยล์เนื้อหาในมังงะ
_______
(1)
‘ใจเย็นๆ ไว้ ใจเย็น… บอกให้ใจเย็นไงเฮ้ย!’
– โบคุโตะโวยวายกับตัวเอง
โบคุโตะตื่นขึ้นมาตอนเก้าโมงเช้า
บางทีถ้าแสงแดดไม่แยงตาล่ะก็ น่ากลัวว่ากว่าชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์เงินจะตื่นก็คงเป็นตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ โน่น ร่างสูงใหญ่ที่สวมเพียงแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงอย่างงัวเงีย สองมือขยี้เส้นผมที่ยังคงมีเจลเกาะอยู่จนแข็งและเหนียวไปหมด บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนหลังจากที่กลับมาถึงคอนโดฯ เจ้าตัวก็ไม่ได้อาบน้ำสระผมแต่อย่างใด ก็อย่างว่า… เขาเมามากนี่นา
แล้วเมื่อคืนเขากลับมายังไงล่ะเนี่ย อาคาอาชิเหรอ? แล้วมอเตอร์ไซค์ลูกรักของเขาล่ะ?
ว่าแล้วโบคุโตะก็มองหามือถือของตัวเองเสียยกใหญ่ ก่อนจะพบว่ามันถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะหัวเตียงพร้อมกับกระดาษโพสต์อิทแผ่นเล็กๆ สีเหลืองที่แปะเอาไว้บนหน้าจอ มือใหญ่ดึงกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านลายมือเป็นระเบียบสวยงามของอาคาอาชิเงียบๆ
ผมพาคุณนั่งแท็กซี่กลับห้องมาเมื่อคืน
มอเตอร์ไซค์ของคุณจอดทิ้งไว้ที่ร้านอาหาร ไปเอากลับมาเองนะครับ ผมฝากเจ้าของร้านเอาไว้ให้แล้ว
แล้วก็ถ้าจะเมาแอ๋จนดูแลตัวเองไม่ได้แบบนี้อีก คราวหน้าผมจะไม่มาดื่มด้วยแล้ว
ผมพูดจริงนะ
อาคาอาชิ
โบคุโตะถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื๊อกใหญ่เมื่ออ่านข้อความของอาคาอาชิจบ ประหนึ่งว่ามีน้ำเสียงเย็นยะเยือกของเจ้าตัวลอยผ่านกระดาษและตัวอักษรออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อคืนเขาคงทำรุ่นน้องลำบากเอาไว้มากอีกแล้วสินะ อาคาอาชิก็ยังประเสริฐเหมือนเดิมที่ยังอุตส่าห์แบกเขามาส่งถึงที่ห้องแบบนี้ ทั้งที่จะปล่อยเขาทิ้งเอาไว้ข้างทางแบบที่โคโนฮะชอบทำก็ได้แท้ๆ คราวหน้าคงต้องเพลาๆ ลงบ้างแล้วล่ะก่อนที่เพื่อนและรุ่นน้องจะเลิกคบ
พอรู้ว่ามอเตอร์ไซค์ลูกรักถูกจอดทิ้งไว้ที่ไหนโบคุโตะก็โล่งอกพร้อมกับทิ้งตัวลงกลับไปนอนต่อได้อย่างสบายใจอีกครั้ง ขอนอนต่ออีกสักงีบแล้วกัน อย่างไรเสียรถของเขาก็คงไม่ไปไหนอยู่แล้ว ไว้บ่ายๆ ค่อยออกไปรับคืนจากเจ้าของร้านก็แล้วกัน จะได้ขับคนสวยไปโอซาก้าเพื่อเก็บตัวซ้อมที่สโมสรทีเดียวเลย ถึงหอพักค่ำหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรเสียตามตารางที่โค้ชและผู้จัดการทีมให้มา กว่าจะเรียกรวมตัวซ้อมวันแรกก็พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้าโน่น
ว่าแต่… เมื่อคืนเขาเผลอพูดอะไรเพ้อๆ ถึงมะลิให้อาคาอาชิฟังอีกหรือเปล่านะ
คิดมาถึงตรงนี้โบคุโตะก็ชักจะหลับต่อไม่ลง สองมือยกขึ้นทึ้งผมตัวเองอย่างแรงพร้อมกับร้องโอดครวญออกมาอย่างโมโหตัวเองและอับอายหน่อยๆ
ไม่ต้องนึกย้อนทวนความจำให้วุ่นวายหรอก เขาต้องพูดแหงอยู่แล้ว มีครั้งไหนบ้างที่เขาไม่พูด มีครั้งไหนบ้างที่เขาไม่คิดถึงเธอ คำตอบคือไม่มีเลยสักวัน! เหล้าเข้าปากทีไร ภาพใบหน้าและรอยยิ้มหวานๆ ของมะลิเป็นต้องฉายซ้ำเข้ามาในหัวอยู่ร่ำไป
อาคาอาชิรู้ ศิษย์เก่าชมรมวอลเลย์ฟุคุโรดานิรู้ แม้แต่คนในทีมแบล็กแจ็กเกิลก็ยังรู้เลย!
เอ่อ… ไม่ได้หมายความว่ารู้เรื่องระหว่างเขากับมะลิหรอกนะ หมายถึงรู้จักชื่อ ‘มะลิ’ เฉยๆ ต่างหาก อย่างที่บอกไงว่าโบคุโตะชอบเพ้อถึงผู้หญิงคนนั้นเวลาเมาทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่ต้องไปสังสรรค์กับคนในทีม โบคุโตะก็จะทำตัวเป็นผู้ชายคลั่งรักเพ้อหามะลิอยู่เหมือนเดิม แล้วชื่อมะลินั้นก็เป็นชื่อแปลกๆ ที่ไม่คุ้นหูคนญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วยประกอบกับที่ได้ยินโบคุโตะเพ้อบ่อยจนเริ่มเอือม จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะจำชื่อนี้ได้จนขึ้นใจ อัตสุมิคอยพยายามหลอกถามโบคุโตะอยู่บ่อยครั้งว่าสาวปริศนาคนที่ว่านี้เป็นใครกันแน่ แต่เจ้านกฮูกตาโตตัวนี้ก็ไม่เคยปริปากแย้มพรายอะไรออกมาให้ขาเผือกที่รอฟังอยู่ได้รู้เรื่องบ้างเลย ทั้งที่ปกติก็ออกจะเป็นคนพูดมากแท้ๆ แต่เรื่องนี้กลับเงียบกริบจนน่าเหลือเชื่อ
ไม่ใช่ว่าโบคุโตะไม่อยากเล่า แต่มันค่อนข้างจะเล่ายาก
อีกอย่างก็คือหากต้องเล่า โบคุโตะกลัวว่าตัวเองจะยิ่งเจ็บและโหยหาถึงเธอคนนั้นมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ ซึ่งนั่นคงทำให้เขาอาการหนักมากกว่าเดิมแน่ๆ เพราะรู้ดีว่ามะลิไม่มีทางโคจรกลับเข้ามาในชีวิตของเขาได้อีกแล้ว
ก็นะ โบคุโตะพลาดเองนี่นา ตอนนั้นดันไปโกรธมะลิเอาไว้เสียจนโอเวอร์จนสาวเจ้าไม่กล้ามาเจอหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะมาดูเขาแข่งฮารุโคปีสุดท้ายด้วยซ้ำ ถ้าหากว่าเขาในตอนนั้นไม่ตัดสินใจไปหาเธอเป็นครั้งสุดท้ายที่สนามบินนาริตะล่ะก็ น่ากลัวว่าภาพจำสุดท้ายที่เกี่ยวกับมะลิจะต้องเป็นภาพของเธอที่พยายามฝืนยิ้มออกมาทั้งน้ำตาในวันที่ฝนตกนั่นแน่ๆ
แต่ว่า… เอาเข้าจริงภาพสุดท้ายที่เขาเห็นมะลิที่สนามบินก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากพอๆ กันนั่นแหละ
มันเป็นภาพของเธอที่ยิ้มหวานโบกมือลาเขาก่อนจะเดินเข้าเกทไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ
รอยยิ้มนั้นตามหลอกหลอนโบคุโตะอยู่เป็นเดือนๆ เผลอๆ ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่ดีขึ้นด้วยซ้ำ
รอยยิ้มหวานๆ เป็นเอกลักษณ์ที่โชว์ฟันขาวๆ เป็นระเบียบและทำให้เห็นลักยิ้มจางๆ ที่ข้างแก้ม เป็นสิ่งที่กระตุกใจเขาได้ทุกครั้งที่เห็น แต่รอยยิ้มสุดท้ายของเธอกลับทำให้โบคุโตะรู้สึกมากกว่านั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่ามะลิยิ้มให้เขาทำไมทั้งที่เธอน่าจะเกลียดเขาที่พูดจาไม่ดีใส่แล้วทำให้เธอร้องไห้แท้ๆ
มันเหมือน… เธอดีใจที่เขามาส่ง และเสียใจที่จะต้องลากันแล้วล่ะมั้ง นั่นคือทั้งหมดที่โบคุโตะพอจะเค้นสมองตีความรอยยิ้มที่แฝงความหมายนับล้านอย่างของมะลิออกมาได้น่ะนะ
ก็เธอเป็นคนซับซ้อนอยู่แล้วนี่ มีอะไรก็ไม่ค่อยพูด เอะอะอะไรก็ยิ้มอย่างเดียวไม่ว่าจะสุขหรือเศร้าก็ตาม เพราะนิสัยแบบนี้นี่แหละถึงได้ทำให้เรื่องระหว่างเขากับเธอซับซ้อนและเข้าใจยากตามไปด้วย อาจจะเพราะแบบนี้ด้วยล่ะมั้งเลยทำให้ตอนแรกโบคุโตะไม่อยากสุงสิงกับมะลิเท่าไหร่ เขาเป็นคนง่ายๆ พอต้องมาเจอเรื่องยากๆ แบบมะลิเข้าก็เลยเกิดอาการต่อต้านโดยไม่รู้ตัว
กว่าจะรู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของมะลินั้นช่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมามากกว่าที่คิดก็สายไปเสียแล้ว และกว่าที่โบคุโตะจะรู้ใจตัวเองได้ก็สายไปแล้วยิ่งกว่า
เธอจากไปแล้ว และเขาจะไม่มีโอกาสได้แก้ไขเรื่องที่ตัวเองทำพลาดไปในอดีตได้อีก
_________
“โบคุโตะซัง หวัดดีครับ!” ฮินาตะวิ่งเข้ามาทักทายโบคุโตะอย่างร่าเริงทันทีที่เห็นร่างสูงใหญ่ของรุ่นพี่เดินเข้ามาในยิมของสโมสรแบล็กแจ็กเกิล
“เฮ เฮ เฮ้! ฮินาตะ! ในที่สุดก็จะได้ซ้อมด้วยกันเสียทีนะพ่อลูกศิษย์ของฉัน!” โบคุโตะยังคงส่งเสียงดังร่าเริงออกมาได้อย่างไม่มีแผ่ว ยิ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ฮินาตะได้มาซ้อมร่วมกับทีมอย่างเป็นทางการด้วยก็ยิ่งทำให้วิงก์สไปเกอร์หนุ่มคึกคักมากเป็นพิเศษ
“หนวกหูจริงเจ้านกฮูกนั่น” ซาคุสะที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่บ่นอย่างไม่ชอบใจแกมรำคาญ ปกติทีมนี้มันก็เจี๊ยวจ๊าวกันอยู่แล้ว พอมีเจ้าหนูหัวส้มนั่นเข้ามาก็ยิ่งเหมือนไปเพิ่มวอลุ่มให้เสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม
“เอาน่าโอมิคุง ทำไมต้องทำหน้าหงุดหงิดอยู่เรื่อย เดี๋ยวก็หน้าเหี่ยวกว่าวัยกันพอดี” อัตสึมุเข้ามาหยอกเล่นกับซาคุสะเหมือนทุกครั้ง “แล้วนี่จะใส่แมสก์ทำไมเนี่ย ปกติถ้าเข้ายิมจะไม่ใส่ไม่ใช่เหรอ”
วิงก์สไปเกอร์อนามัยจัดหันขวับมามองแรงใส่เซตเตอร์ของทีมทันที “เพราะวันนี้จะมีเทรนเนอร์ทีมใหม่เข้ามาแนะนำตัวน่ะสิ ฉันเลยใส่กันเชื้อโรคเอาไว้”
สมกับเป็นโอมิคุง อัตสึมุคิดในใจ และยังไม่ทันที่ชายหนุ่มผมทองจะพูดอะไรต่อ แซมสัน ฟอสเตอร์— โค้ชของทีมแบล็กแจ็กเกิ้ลก็เปิดประตูยิมเข้ามาโดยมีหนุ่มสาวอีกสี่ถึงห้าคนเดินตามหลังมาด้วย เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นเทรนเนอร์ทีมใหม่ที่ซาคุสะพูดถึงเมื่อตะกี้
“เอาล่ะ ก่อนจะเริ่มซ้อม ฉันจะขอแนะนำเทรนเนอร์ทีมใหม่ให้พวกนายรู้จักกันสักหน่อยนะ เพราะพวกเขาจะมาช่วยดูแลตารางออกกำลังกายและให้คำปรึกษาเรื่องอาหารและเคล็ดลับการคุมน้ำหนักให้ตลอดฤดูกาลแข่งที่จะถึงนี้เลย”
“ฝากตัวด้วยนะครับ!!!” หนุ่มๆ นักกีฬาโค้งกล่าวทักทายอย่างแข็งขันและพร้อมเพรียงกัน
ชายหนุ่มอายุสี่สิบปลายๆ ที่น่าจะเป็นหัวหน้าทีมเทรนเนอร์กล่าวแนะนำตัวว่าเขาชื่อ ‘วาตานาเบะ ริวโซ’ เคยทำงานเป็นเทรนเนอร์ให้กับทีมวอลเลย์บอลของเมืองแนชวิลล์ที่รัฐเทนเนสซี่อยู่สองปีก่อนจะได้รับการทาบทามจากมุสึบิให้กลับมาทำงานที่บ้านเกิดดู ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบตกลงเพราะเคยได้ดูการแข่งของทีมนี้อยู่หลายครั้งและรู้สึกประทับใจในตัวผู้เล่นชุดปัจจุบันนี้มากจนอยากร่วมงานด้วย
เมื่อกล่าวเสร็จริวโซก็หันไปแนะนำลูกน้องที่อยู่ในความดูแลของตัวเองต่อทีละคน
โบคุโตะแทบจะไม่ได้ฟังสิ่งที่เทรนเนอร์คนใหม่พูดเลยสักนิด หรือพูดให้ถูกก็คือเขาไม่มีสมาธิพอที่จะฟังอะไรอีกแล้วต่างหาก เพราะตอนนี้สองตาของเขากำลังจับจ้องไปที่หญิงสาวชาวเอเชียรูปร่างโปร่งบางหนึ่งเดียวในกลุ่มเทรนเนอร์อย่างไม่อาจละสายไปไหนได้
ผิวสองสีดูสุขภาพดีแบบนี้ ผมดำยาวสลวยเป็นลอนอ่อนตรงปลายแบบนี้ ดวงตากลมโตสีดำล้ำลึกเป็นทรงเม็ดอัลมอนด์คู่นั้น รวมไปถึงลักยิ้มจางๆ ที่ข้างแก้มนั่นอีก
ไม่จริงน่า… เป็นไปไม่ได้
นี่เขาตาฝาดหรือฝันกลางวันอยู่กันแน่?
ตากลมโตสีทองของโบคุโตะมองสำรวจหญิงสาวคนนี้ให้ละเอียดขึ้น เธอเป็นหนึ่งในทีมเทรนเนอร์ไม่ผิดแน่ แถมยังสวมเสื้อโปโลสีดำมีลายกรงเล็บสีทองพาดไว้ที่ช่วงไหล่อีก นี่เป็นเสื้อประจำสโมสรของทีมมุสึบิแบล็กแจ็กเกิลไม่ผิดแน่
นี่มันอะไรกัน? มะลิเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของทีมเขางั้นเหรอ?
ไม่! ใจเย็นไว้โบคุโตะ อาจจะแค่คนหน้าเหมือนก็ได้ มันคงไม่มีทางบังเอิญได้ขนาดนั้นหรอกน่า…
แต่ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังปลอบใจตัวเองอยู่นั้น เสียงแหบห้าวของริวโซก็เอ่ยแนะนำชื่อของหญิงสาวหน้าหวานหยดเพียงหนึ่งเดียวในทีมออกมาให้โบคุโตะได้ยินชัดๆ เสียก่อน
“คนสุดท้ายเป็นน้องเล็กสุดในทีม แต่ก็ทำงานเก่งมากๆ เธอชื่อมัลลิกา เฑียรมงคล แต่เพื่อความสะดวก พวกคุณจะเรียกเธอว่ามะลิเฉยๆ ก็ได้นะครับ เธอเคยฝึกงานเป็นนักโภชนาการกีฬาอยู่ที่สโมสรเออร์ไวน์โพล่าแบร์อยู่สี่เดือนก่อนที่เพื่อนเก่าของผมที่เป็นเทรนเนอร์ของทีมนั้นจะแนะนำให้เธอมาทำงานกับผม”
หญิงสาวเจ้าของชื่อก้าวเท้าออกมาด้านหน้าแล้วโค้งทักทายทุกคนเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเองสั้นๆ ตามมารยาทด้วยภาษาญี่ปุ่นสำเนียงแปร่งๆ “มะลิค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ”
เสียงหวานของเธอคือข้อพิสูจน์ว่าโบคุโตะไม่ได้คิดไปเอง
เธอคือมะลิคนเดียวกับที่เขารู้จักจริงๆ
พอถูกความจริงกระแทกใส่หน้าเข้าอย่างจังแบบนั้น โบคุโตะก็รู้สึกตกใจ หวาดหวั่นและตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือไม้ชาและเย็นวาบไปหมด เขารู้ดีว่าถึงตาที่ฝั่งนักกีฬาจะต้องแนะนำตัวกันเป็นรายคนบ้างแล้ว เพราะได้ยินเสียงคุณเมย์อันที่เป็นกัปตันทีมกล่าวแนะนำตัวอยู่แว่วๆ
แต่โบคุโตะยังไม่พร้อม! นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตั้งตัวได้ทันที เขาต้องหนีไปตั้งหลักก่อน!
คิดได้ดังนั้นโบคุโตะก็หันหลังวิ่งหน้าตั้งออกจากโรงยิมไปทันที ไม่ได้สนใจเสียงเรียกของเพื่อนร่วมทีมที่ตะโกนไล่หลังมาเลยสักนิด
ใจเย็นๆ ไว้
ใจเย็น…
บอกให้ใจเย็นไงเฮ้ย! โบคุโตะโวยวายกับตัวเองไปตลอดทางจนมาถึงห้องล็อกเกอร์
เมื่อได้อยู่คนเดียวอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เพิ่งค้นพบว่าเขาลมหายใจของเขานั้นหอบถี่มากแค่ไหน
ปั๊ดโธ่เอ๊ย! เขาจะใจเย็นได้ยังไงเล่า ในเมื่อมะลิตัวเป็นๆ มาอยู่ตรงหน้าแบบนี้!!!
มือใหญ่เปิดประตูตู้ล็อกเกอร์ของตัวเองออกด้วยอาการเหมือนกระชากหน่อยๆ ก่อนจะควานหามือถือของตัวเองมากดโทรหาอาคาอาชิยกใหญ่
รอสายไม่นาน เจ้าตัวก็กดรับด้วยน้ำเสียงกึ่งๆ จะรำคาญหน่อยๆ
“โบคุโตะซัง ผมกำลังคุยงานอยู่กับอาจารย์อุได--"
“อาคาอาชิ!!! มะลิกลับมาแล้ว!!!” นักกีฬาหนุ่มไม่รอให้บรรณาธิการพูดจบด้วยซ้ำก็ตะโกนใส่คนปลายสายไปอย่างอดรนทนไม่ไหว
ต่อให้ต้องถูกอาคาอาชิบ่นจนหูชาเขาก็ยอม เพราะโบคุโตะไม่รู้จะไประบายเรื่องนี้ให้ใครฟังได้แล้วจริงๆ
__________
T A L K
ในที่สุดก็เข็นตอนที่ 1 ออกมาได้แล้วค่ะ แต่ตอนที่ 2 จะมาเมื่อไหร่อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แถมยังเป็นตอนที่ค่อนข้างจะสั้นอีกต่างหากแฮะ เอาตรงๆ ตอนนี้ยังหาแนวการเล่าเรื่องที่แน่นอนไม่ได้เลยค่ะ ตอนแรกก็อยากจะให้มีเรื่องเล่าทั้งในอดีตและปัจจุบันอยู่ในตอนเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ก็คิดว่ามันจะยิ่งทำให้ตอนตอนหนึ่งมีจำนวนหน้าที่ยาวมากไปจนเกินเหตุ เลยคิดว่าจะเล่าออกมาในมุมมองของโบคุโตะสลับกับมะลิก็แล้วกัน และอาจจะมีมุมมองของอาคาอาชิมาเสริมนิดๆ ด้วย ปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่ามีคุณโบก็ต้องมีอาคาอาชิ สองคนนี้เขามาเป็นแพ็กเกจ ฮาาา
ยังไงคะคุณโบ ก็ไหนว่าคิดถึงมะลิไง พอเขากลับมา ไหงแตกตื่นวิ่งหนีไปซะงั้นเล่า! กลับมาก่อน!!!
#มะลิกับนกฮูก
sun&moon
04.01.2021
ความคิดเห็น