ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction :: Stubborn Boy [Eunhae]*

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 :: Eunhyuk x Donghae*

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 53


    Chapter 8 ::

     

                เช้าอากาศแจ่มใส แสงอาทิตย์อ่อนๆ มองแล้วสบายตา บรรยากาศแบบนี้ เห็นได้ในโซลไม่บ่อยนัก หลังจากที่ส่งน้องสาวของตนเสร็จ อีซองมินก็นั่งรถเมล์มามหาลัยทันที  เขานั่งมองทางมาเรื่อยๆ ก็สะดุดตากับรถของฮยอกแจเพื่อนสนิทของเขา และรถเมล์ก็จอดรอไฟแดงตรงนั้นพอดิบพอดี ซองมินมองด้วยความแปลกใจ

    ปกติฮยอกแจไม่เคยจะมามหาลัยทัน แต่วันนี้ เขากลับเห็นรถของฮยอกแจอยู่ในเส้นทางที่กำลังไปมหาวิทยาลัย ก็อดแปลกใจไม่ได้ จึงกดโทรไปหาเพือนสนิทตัวดี

     

    (ว่าไง) คำแรกที่ทักทายเพื่อนสนิท น่าประทับใจจริงจริ๊งง

    “ฮยอกแจ นายกำลังจะไปไหนเนี่ย ออกรถซะเช้าเชียว” ซองมินถามด้วยความสงสัย

    (ไปไหน? ก็ไปมหาลัยดิ นี่นายเห็นรถฉันด้วยเรอะ นายอยู่ไหนเนี่ย) ฮยอกแจตอบเสียงเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

    “ฉันอยู่บนรถเมล์ กำลังจะเลยรถนายไปแล่ว ว่าแต่....นายเนี่ยนะ ไปมหาลัยตรงเวลา หืมม ไม่น่าเชื่อเลย” ซองมินแซว

    (ถ้าไอ้เตี้ยทงเฮไม่ขอร้องให้ไปส่ง ฉันก็ไม่มาหรอกเว้ย ก็ดูมัน เล่นขู่ว่าถ้าไม่ไปรับตอนเช้า มันจะไปกับไอ้เวรยุนโฮ คนอะไร แสบชิบเป๋ง เฮ้ย! ทงเฮ ตกลงจะนั่งดีๆหรือว่าจะให้ฉันจับมัดมือมัดเท้าฮะ! อยู่เฉยๆไม่เป็นรึไง) ฮยอกแจตอบเพื่อนสนิท ก่อนจะโวยวายใส่ร่างเล็กที่ติดมาด้วย ซองมินได้ยินก็อดขำไม่ได้ เมื่อไหร่ที่2คนนี้อยู่ด้วยกัน ฮยอกแจจะต้องโวยวายไม่ต่ำกว่า3ครั้ง และแสดงท่าทีหงุดหงิดไม่ต่ำกว่า5ครั้งให้ซองมินได้เห็นและก็แสดงความรู้สึกส่วนลึกว่า มีความสุขไม่ต่ำกว่า6ครั้ง ที่สำคัญซองมินว่า....ก็เป็นคู่ที่น่ารักดีนะ J

    (โอ๊ยย อย่ามัดเด้ ไอ้ฮยอกแจไอ้บ้า เราแค่หยิบนู่นนี่มาดูเองนะ ดูไม่ได้รึไงเล่า) ด้านซองมิน คงคิดว่าฮยอกแจเอาเชือกมัดมือทงเฮไปเรียบร้อยแล้ว - -

    (ไม่ได้! นั่งเฉยๆเป็นไหมฮะ! ไม่เคยเห็นตุ๊กตาวันพีชรึไง)

    (โหยย ไอ้บ้าฮยอกแจ ไอ้ฮยอกแจขี้งก!) ซองมินยิ่งฟังก็ยิ่งขำ หลังจากนั้นก็กดวางสายไป นึกในใจว่า ดีแล้วที่ไม่ลงจากป้ายไปหารถไอ้ฮยอกแจมัน ไม่งั้น...ต้องไปเป็นไม้กั้นหมาแหงๆ :P

     

     

                เมื่อซองมินลงจากรถเมล์มา ก็เดินแวะซื้อของว่างรองท้องกินไปพลาง วันนี้เรียนตั้งบ่ายโมง แต่ไหนๆมาส่งน้องสาวตอนเช้าแล้ว ก็หาอะไรทำค่าเวลาไปเรื่อย

     

    “ซองมิน” เสียงทุ้มเข้มของรุ่นพี่ต่างคณะทักทาย ด้วยสีหน้าเป็นมิตร

    “อันนยองฮะ ซีวอนฮยอง” ซองมินโค้งน้อยๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้

     

    หลังจากนั้นทั้ง2ก็ไปนั่งที่ชมรมเต้น ซึ่งมีซีวอนเป็นประธานชมรมนั่นเอง

    “วันนี้พวกนายมีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่รึไง ทำไมนายมาซะเช้าเชียว” ซีวอนเริ่มชวนรุ่นน้องคุย พลางหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม

    “พอดี ไปส่งน้องสาวที่โรงเรียนตอนเช้าด้วยน่ะ แล้วซีวอนฮยองมาทำอะไรซะเช้าเชียว” ซองมินถามรุ่นพี่ร่างถึกกลับ พลางหยิบขนมใส่ปากเช่นกัน

    “พี่มีเรียนตอน10โมงน่ะเลยรีบมา แล้ว....ฮยอกแจล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรอ”

    ซองมินมองรุ่นพี่อย่างรู้ทัน เขากะแล้วว่า ซีวอนต้องถามถึงฮยอกแจเพื่อนสนิทของเขา

     

    “ฮยอกแจกำลังมา นี่ฮยองยังไม่เลิกชอบฮยอกแจหรอเนี่ย” ซองมินถามด้วยสีหน้าแปลกใจ

    “อืม ยัง ทำใจไม่ได้ ทำไมฮยอกแจถึงไม่หันมองพี่บ้างเนี่ย” ซีวอนก้มหน้า เป็นการบ่งบอกให้ซองมินรู้ว่า ผิดหวังอยู่

     

    “ฮยอกแจมันไม่ใช่เคะ แล้วมันก็ไม่ชอบให้ใครมองว่ามันเคะด้วย อีกย่าง ในสายตาฮยอกแจอะ ซีวอนฮยองคือรุ่นพี่ที่มันเคารพและสนิทด้วยนะ ฮยอกแจไม่มีทางเปลี่ยนฮยองเป็นคนรักได้หรอก” ซองมินตอบแทนฮยอกแจ ไม่สิ ทั้งๆที่ฮยอกแจเองก็แสดงทั้งสีหน้าท่าทางออกมาซะเต็มที่ แต่รุ่นพี่คนนี้ก็ยังไม่เลิกตื๊อซักที

    ซีวอน เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากซองมิน ทั้งใจและหน้าก็เริ่มเสีย ขอบตาเริ่มแดง ร้อนผ่าว เหมือนคนจะร้องไห้ แต่ไม่ร้อง ต่อหน้ารุ่นน้อง จะร้องไห้ได้ไงล้ะ!

    “พี่ไม่รู้ควรจะทำไง ก็พี่รักฮยอกแจไปแล้ว พี่ให้เขาไปหมดแล้ว” ซีวอนพยายามกลั้นน้ำตา ไม่ให้ไหลออกมา

     

     

    เขาและฮยอกแจสนิทกันมาก ในฐานะของประธานชมรมและรองประธานชมรม

    ดูเผินๆแล้วคนนอกอาจจะมองว่า ฮยอกแจดูเป็นคนไม่จริงจัง กับสิ่งใด แต่สิ่งที่ซีวอนเห็นมันไม่ใช่ ทั้งๆที่มีปี2 ปี3 และรุ่นพี่ปี4 อยู่หลายคน

    แต่ซีวอนกลับตั้งฮยอกแจขึ้นเป็นรองประธานชมรม เพราะเขาได้เห็น ความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทของฮยอกแจที่มีต่อชมรมเต้น และ...ทักษะการเต้นของฮยอกแจ นำคนอื่นขาด เรียกว่าได้ชำนาญมากกว่าซีวอนเองด้วยซ้ำ  


    ฮยอกแจเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน ถึงแม้ไม่ค่อยสนใจใครแต่ก็เป็นห่วงเพื่อนพี่น้องที่ตนสนิท จริงจัง ทุ่มเท มุ่งมั่น เป็นสเน่ห์ที่ซีวอนมองเห็น และ...ทุกครั้งที่เขาได้อยู่ใกล้รุ่นน้องคนนี้ เขาก็รู้สึกมีความสุขสุดๆ กว่าจะรู้ตัว เขาก็ตกหลุมรักรุ่นน้องคนนี้หัวปักหัวปำซะแล้ว

     

     

    “ตัดใจเหอะนะฮยอง ฮยองทำแบบนี้ อะไรๆมันก็จะแย่ลงนะ ดูสิ ฮยอกแจยังไม่โผล่มาที่ชมรมเลยใช่ไหม? กี่วันแล้ว? ฮยอกแจมันก็ลำบากใจนะ ผมรู้ว่ามันอยากมาชมรม แต่เจอแบบนี้ มันก็คงมาไม่ลงอะ ต่อให้เป็นผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมก็คงทำแบบเดียวกับฮยอกแจนะฮยอง”

    “...................” ใช่ ตั้งแต่ที่เขาสารภาพรักกับฮยอกแจไป ฮยอกแจยังไม่โผล่หน้ามาที่ชมรมให้เขาเห็นอีกเลย นอกจากเขาจะไปหาฮยอกแจเอง แต่ก็โดนขับไล่ทุกครั้งไป

     

    เขาตัดสินใจสารภาพรักกับรุ่นน้องคนนี้ เพราะในใจก็เข้าข้างตัวเองว่า ฮยอกแจอาจจะมีใจให้เขาบ้าง แต่สิ่งที่ได้จากฮยอกแจ คือ ความว่างเปล่า ห่างเหิน ความเจ็บปวดทุกรูปแบบประดังเข้าใส่เขาเต็มๆ

    ฮยอกแจเป็นคนที่ใครๆอยู่ใกล้ก็มีความสุข แต่...ก็เป็นคนไม่ให้ความหวังใครเช่นกัน

     

    “นี่10โมงแล้วนี่ ซีวอนฮยอง กลับไปคณะวิศวะของฮยองเหอะ ปี3เรียนหนักไม่ใช่รึไง?” ซองมินว่า

    แล้วซีวอนก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย

    “อืม ขอบคุณที่นายทำให้พี่รู้อะไรมากขึ้นนะซองมิน” ซีวอนพูดก่อนจะเดินไปเข้าเรียนที่คณะของตน

     

    หลังจากที่ซีวอนเดินกลับไป ซองมินก็ถือโอกาส ใช้โรงยิมซ้อมเต้น เป็นที่อยู่ หยิบหนังสือตำราเรียนของม.ปลายมาเปิดดูคราวๆว่าเย็นนี้จะติวอะไรให้คนรักดี

     

     

     

     

                ในช่วง10โมงกว่าของวัน เจ้าของร้านคังอิน ผู้จัดการร้านอีทึก และ พนักงานเสิร์ฟรุ่นน้องที่มีอยู่น้อยคนช่วยกันเปิดร้าน อย่างสนุกสนาน ถึงแม้ว่าร้านจะยอดขายตก หรืออะไรก็ตามแต่ ทุกคนก็มีผู้นำที่ดีอย่างคังอินที่มักจะปลุก สร้าง กำลังใจให้คนในร้านมีกำลังใจก้าวผ่านมันไปด้วยกันให้ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีชายในชุดนักศึกษาคนหนึ่งโผล่มาทักทาย

    “เห้ ! คังอิน อีทึก!” เมื่อเจ้าของชื่อได้ยินเสียงของคนที่เรียกก็ต้องตกใจ

     

    “ยุนโฮ!” ทั้ง2เอ่ยร้องพร้อมกันด้วยความตกใจ

    “จะตะโกนชื่อทำไมเนี่ย กลัวคนอื่นไม่รู้ชื่อผมรึไง” ยุนโฮว่า แต่ก็มีสีหน้าที่ความสุขที่เห็นเพื่อนทั้ง2ของเขาสบายดี

     

    “ก็นายน่ะ หายไปไหนมาเกือบปี พวกเราก็เป็นห่วงนายน่ะสิ แต่ดีใจนะที่นายยังโอเค” อีทึกพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเชิญเพื่อนที่อายุน้อยกว่าเข้ามานั่งในร้าน

    “วันนี้นายไม่มีเรียนรึ?” คังอินถาม แต่ก็ได้คำตอบที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่ คือ ยุนโฮโดดเรียนคาบ10โมง เพื่อมาหาพวกเขานั่นเอง

     

    “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พวกนายเป็นแฟนกันรึยังเนี่ย” ยุนโฮแซวยิ้มๆ ทำเอาเพื่อนทั้ง2หน้าแดงเหมือนวิ่งชนกันมา

    “//////” อีทึกไม่ได้พูดอะไร แต่ก็แสดงออกมาชัดเจนว่ากำลังเขินอยู่ ถึงแม้ว่าเขา จะไม่รู้ว่าคังอินกำลังsomethingอะไรกับเขา เขาก็ยังอดเขินไม่ได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเขินทำไม??

    “บ้าอะไรของแกวะ ไอ้ยุนโฮ! //// คบเคิบอะไร” คังอินก็มีท่าทางเขินอายไม่แพ้อีทึกเช่นกัน แต่ทำไมอีทึกไม่รู้สึกตัวสักทีนะ!?

     

     

    “เอ้อ ทำไมนายไม่พาแจจุงแฟนนายมาด้วยล่ะ” อีทึกถามด้วยความที่คิดถึงคนอีกคนด้วย และเพื่อเลี่ยงประเด็น แต่กลับทำให้ยุนโฮชะงัก นิ่งไปทันที

    “................................”  ทั้งอีทึกและคังอิน เห็นชัดว่า ยุนโฮมีสีหน้าเศร้ามาก ทำให้พวกเขาไม่กล้าถามอะไรต่อ

     

    “อะๆ เอาไวน์ไปกินซักแก้ว อย่าเครียดดิวะ” คังอินว่า พร้อมกับยิ่นแก้วไวน์ทรงสวยให้กับยุนโฮ ยุนโฮรับมาแล้วกระเดือกเข้าไปทีเดียวหมดแก้ว ทำให้อีทึกและคังอินตกใจเข้าไปใหญ่

    “ยุนโฮ เกิดอะไรขึ้น ฉันขอโทษนะ ไม่น่าพูดเลย”

    “ไม่เป็นไรหรอกอีทึก ผมกับแจจุงเราเลิกกันแล้ว ผมมันเลวเอง ผมมันเจ้าชู้ แต่ถึงอย่างงั้น ผมก็ยัง...รักแจจุงอยู่ดี” ยุนโฮพูดแล้วคว้าขวดไวน์เทลงแก้วทรงสวยเต็มๆแล้วกระเดือกเข้าไปอีก

     

    “เฮ่ยๆ ไวน์เขามีค่อยๆกิน ไม่ใช่กระเดือกทีเดียวรวดนะเว้ย ระวังจะปวดหัวไม่มีแรงเรียนนะเว้ย” คังอินว่าก่อนจะยึดแก้วไวน์ไปจากยุนโฮ

     

    “นี่แกยังไม่เลิกเจ้าชู้อีกหรอวะยุนโฮ” คังอินพูดไปเก็บแก้วและขวดไวน์เข้าที่

    “ที่ผมทำไป ก็แค่เหงา...ก็เท่านั้น” ยุนโฮตอบนิ่งๆ ถึงแม้ตอนนี้เขาก็ยังเจ้าชู้ แต่ในใจของเขา กลับนึกถึงแต่คนชื่อ คิมแจจุงคนเดียว

    “แล้วตอนนี้ แจจุงอยู่ไหน” ในเมื่อยุนโฮไม่ว่าอะไร อีทึกจึงถามต่อ

     

    “ผมไม่รู้ว่าแจจุงอยู่ที่ไหน แต่มีคนรู้ แล้วคนๆนั้นก็ไม่ยอมบอกผมว่าแจจุงอยู่ไหน ซึ่งผมกำลังคาดคั้นอยู่ ผมจะทำให้มันบอกผมให้ได้” ยุนโฮทำหน้าชั่วร้าย ซะจนเพื่อนทั้ง2รู้สึกหวาดเสียว

    “ยุนโฮ ฉันว่าแกอย่าคาดคั้นเลย ขอเขาดีๆก็ได้นี่หว่า” คังอินว่า

    “ถ้าถามแล้วบอก ผมจะต้องคาดคั้นไหมล่ะ ผมก็รู้ว่าผมเลวกับแจจุงไว้มาก แต่...อยากจะได้โอกาสแก้ตัวอะ แต่ไอ้หมอนั่นมันไม่ให้ผม มันไม่บอกแม้กระทั่งแจจุงเป็นยังไงบ้าง” ยุนโฮเถียง

    “ถ้านายทำไม่ดีไว้มาก เขาคงไม่อยากให้นายไปทำร้ายแจจุงอีกน่ะสิ” อีทึกพูดไปตามที่ตนเข้าใจ

    “แต่ผมอยากแก้ตัวใหม่ ผมขาดแจจุงไปไม่ได้จริงๆ ผมเลยคิดแผนไว้แล้วว่า ผมจะต้องแย่งคนที่ผมกำลังคิดว่าไอ้หมอนั่นกำลังชอบอยู่ มาเป็นของผมให้ได้ ไอ้หมอนั่นจะได้รู้ว่า เวลาขาดคนที่ตัวเองรัก มันรู้สึกอย่างไร” ยุนโฮบอกแผน ด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่โหดเหี้ยมมากกว่าเดิม

     

    “แต่....ฉันไม่ค่อยเห็นด้วยเลยนะ นายผิด นายก็ต้องขอโทษ ต้องทำดีแก้สิ ไม่ใช่เลวใส่เขา” อีทึกเตือน

    “ผมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ที่อยู่ของแจจุงมา” ยุนโฮว่าด้วยเสียงหนักแน่น  ส่วนอีทึกกับคังอินก็ได้แต่เป็นห่วงยุนโฮ ถึงแม้ว่าในฐานะจะเป็นเพื่อนกัน แต่ยุนโฮก็ยังอายุน้อยกว่าพวกเขาถึง2ปี



    ขอโทษที่ไร้เต้อมาอัพช้ามากๆนะฮะ
    คือว่านี่มาอัพไว้เลย อาทิตย์หน้าอาจจะหายไปทั้งอาทิตย์
    สอบไฟนอลและสมาร์ทวันน!!~~
    แล้วเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืนเลย การบ้านเยอะโฮกก

    ถ้าลงช้าหน่อยรีดเด้อที่น่ารักก็เข้าใจไร้เต้อด้วยนะT^T
    ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่คอมเม้น ไร้เตอร์ปลื้มใจสุดๆเลยล่ะ
    ^___________^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×