ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction :: Stubborn Boy [Eunhae]*

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 :: Eunhyuk x Donghae*

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 53


    Chapter 4 ::

               

                เมื่อไม่กี่วันมานี้จำได้ว่าแดดยังร้อนเปรี้ยงอยู่เลย นี่อากาศเริ่มเย็นขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ถึงขนาดกับต้องใส่เสื้อหนาว

    ร่างเล็กหยิบกระเป๋าเรียนหนังสือไปวางบนจักรยานแล้วขึ้นนั่ง ขี่ออกจากบ้านทันที เขาชอบไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า เพราะทำให้เขารู้สึกสดชื่นกับอากาศยามเช้า ไม่มีเสียงแตรรถและความวุ่นวายของผู้คน มีแต่เสียงลมพัดเท่านั้น

     

    โครม!!~~

     

    จักรยานคู่ใจดันไปทับอะไรซักอย่างเสียหลัก ล้มข้างทาง หนังสือกระจัดกระจายออกจากถุงเต็มพื้นถนนไปหมด

    “อูยย เจ็บชะมัด” ทงเฮครางเบาๆ ก่อนจะค่อยๆพยุงร่างของตัวเองขึ้น เขารู้สึกเจ็บที่แขนขวาและเข่าขวาสุดๆ แต่ทำไงได้ล่ะ จะรอให้เทพบุตรที่ไหนมาช่วยเขา คงไม่มีหรอก เช้าตรู่ขนาดนี้ หนังสือเล่มหนาๆถูกเก็บใส่ถุงทีละเล่มๆ ไม่นานก็เหลือบไปเห็นว่า ล้อจักรยานมีตะปูเสียบอยู่3-4จุดทีเดียว แต่ทำอะไรไม่ได้ โมโหไปก็เท่านั้น เสียอารมณ์เปล่าๆ ทำใจยอมรับแล้วเข็นไปมหาลัยซะก็สิ้นเรื่อง

    แต่ในขณะที่มือเล็กๆกำลังหยิบหนังสือทีละเล่มใส่ถุงนั้น เขาก็ดันไปหยิบเล่มๆเดียวกับใครคนหนึ่งเข้า มือหนาประสานอยู่บนมือเล็กๆ ทำให้ทงเฮสะดุ้ง รีบชักมือออก แล้วเงยหน้ามองเจ้าของมือหนานี่

    “เดี๋ยวช่วยเก็บนะครับ^____^” ทงเฮมองหน้าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้แบบทึ่งๆ คนอะไรดูดีซะขนาดนี้นะ

    “ขอบคุณครับ” ทงเฮรับหนังสือจากชายหนุ่มตรงหน้าแล้ววางมันลงบนตะกร้าจักรยาน

    “อ้าว! อยู่ม.เดียวกันเลยนี่ อยู่ปี1ใช่ไหม ไม่เคยเห็นหน้าเลย”  ชายหนุ่มรูปหล่อทักขึ้น

    ทงเฮเองก็แปลกใจ ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าคนๆนี้อยู่ม.เดียวกัน

    “อ้อ ครับ ปี1 เพิ่งเข้ามาใหม่” ทงเฮตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ

    “มาๆ เดี๋ยวไปม.ด้วยกันก็แล้วกันนะ ส่วนจักรยานนั่นน่ะ ใส่ไว้หลังรถของฉันก็ได้” รุ่นพี่ชักชวนแล้วจัดการช่วยทงเฮเก็บของไปไว้บนรถของตนแล้วขับออกทันที

     

    ในระหว่างทางพวกเขาก็ได้คุยกันอย่างสนุกสนาน

    “ฉันชื่อยุนโฮ อยู่วิศวะปี3 นายล่ะเจ้าเด็กน้อย” ยุนโฮถามด้วยสีหน้าสนอกสนใจคนตรงหน้า

    “อีทงเฮ นิเทศน์ปี1ครับ” ทงเฮตอบด้วยสีหน้าเป็นมิตร

    เมื่อลงจากรถ ทงเฮก็ก้มหัวขอบคุณรุ่นพี่อยู่หลายหนก่อนจะเดินจากไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ายุนโฮยังคงมองเขาอยู่ ไม่คลาดสายตา เราได้เจอกันอีกแน่ๆ อีทงเฮ ฮึๆ นึกในใจแล้วขำกับตัวเอง(บ้ารึเปล่า - -)ก่อนจะนำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถที่คณะของเขา

     

    ตรงไปยังห้องพยาบาล เพื่อทำแผลที่หกล้มมา แต่เมื่อเปิดประตูเข้าห้องพยาบาลมาเขาก็ต้องตกใจที่เห็นเพื่อนสนิท(มั๊ง)ของตนนอนอยู่บนเตียงคนไข้

    ฮยอกแจมันเป็นไรเนี่ย ทงเฮนึกในใจแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมาก ตอนนี้เขาอยากทำแผลใจจะขาด เจ็บจะแย่อยู่แล้ว T T ทำแผลเสร็จค่อยมานั่งเฝ้ามันก็แล้วกันวะ

    ทงเฮเอื้อมมือหยิบแอลกอฮอล์ที่อยู่บนชั้นวางของ แต่หยิบเท่าไหร่ก็ไม่ถึง จนรู้สึกได้ว่ามีคนอีกคนยืนแนบอยู่กับหลังของเขา มือใหญ่เอื้อมขึ้นหยิบแอลกอฮอล์พร้อมชุดอุปกรณ์ทำแผลได้สำเร็จ

     

    “ฮยอกแจ นายตื่นแล้ว?” ทงเฮยังมีสีหน้างงๆ ทำไมหมอนี่มันหยิบถึงวะเนี่ย

    “อื้ม เมื่อเช้ามาถึงเร็วเกินไป เลยมานอนหลับที่นี่ อะ เอายาไป ฉันไปล้ะ” หลังจากยัดทุกอย่างเข้าใส่มือของคนตัวเล็กแล้วก็จะปลีกวิเวกออกมาทันที เพราะฮยอกแจพูดกับตัวเองแล้ว ต้องทำให้ได้!!

    “ขอบใจ” ทงเฮพูดแล้วรีบก้มตัวลงทำแผล อย่าระมัดระวัง ส่วนฮยอกแจก็ปลีกวิเวกออกมาทันที เพราะฮยอกแจพูดกับตัวเองแล้ว ต้องทำให้ได้!!

    เมื่อทงเฮทำแผลเสร็จวางชุดอุปกรณ์ทำแผลไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินออกมา พร้อมจะขึ้นห้องเรียน ถึงแม้ในใจเขาจะหวังให้ฮยอกแจมาช่วยทำแผลบ้าง แต่เมื่อไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด (เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่าฮยอกแจคงจะรีบ)

     

    “เฮ้! อรุณสวัสดิ์ทงเฮ!~” เพื่อนในห้องต่างก็ทักทายทงเฮเสียงใสแจ๋ว ทงเฮก็ยิ้มรับ แล้วเดินเข้าที่นั่งทันที แล้วหยิบหนังสือและสมุดจดของซองมินออกมานั่งทบทวน เขารู้สึกว่าเมื่อวานได้อะไรจากซองมินเยอะมาก แต่เพื่อความแม่นยำ จึงต้องเอาออกมาทวนอีก

    “ขยันจังนะทงเฮ ^^” เสียงของซองมินเอ่ยทัก

    “อ้าว มาเร็วนี่ซองมิน” ทงเฮเอ่ยทักเสียงใส หารู้ไม่ว่าปกติซองมินก็มาถึงเวลานี้อยู่แล้ว ผิดปกติก็แต่อีฮยอกแจที่วันนี้มาถึงเร็วกว่าปกติราวๆครึ่งชั่วโมงได้

    “ไหนๆ มีอะไรตรงไหนไม่เข้าใจไหม?” ซองมินลากเก้าอี้มานั่งข้างๆทงเฮแล้วค่อยๆสอนทงเฮไปเรื่อยๆ วันนี้เป็นอีกวันที่อาจารย์ไม่เข้าสอน เพราะติดสัมมนาตั้งแต่เช้าจรดเย็น เมื่อฮยอกแจรู้ข่าว เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ขึ้นห้องเรียน ไปนั่งแกร่วอยู่สวนหลังคณะจะดีกว่า เขาคิด

     

     

     

     

    “เอ้อ ทงเฮ เดี๋ยวเรากับรยออุคขอตัวไปทำงานของคณะก่อนนะ ตั้งใจอ่านไปล้ะ^____^” ซองมินทิ้งท้ายไว้ แล้วเดินไปหารยออุคที่โต๊ะ

    “อ้อ โอเค ๆ เดี๋ยวเราว่าจะไปหายุนโฮฮยองที่คณะวิศวะน่ะ อยู่ตรงไหนหรอซองมิน” ทงเฮปิดหนังสือ แล้วเงยหน้าถาม เมื่อซองมินได้ยินชื่อของคนๆนั้นก็หยุดเดินแล้วหันควั่บกลับมาหาทงเฮทันที

    ไม่แปลกที่ข่าวจะไวว่ามีเด็กน่าตาน่ารักเข้ามาเรียนใหม่ แต่...เจอกันเร็วขนาดนี้เลยรึ หวังว่านายจะไม่ทำอะไรอีทงเฮนะเหมือนที่นายทำกับคนอื่นนะ ยุนโฮ

     

    “ไปทำไม!” ซองมินร้องด้วยความตกใจ

    “อ่า...ไปเอาหนังสือน่ะ สงสัยจะทำตกไว้ในรถฮยองเขาอีกเล่ม ซองมินมีอะไรหรอ”  ทงเฮตอนสีหน้ายิ้มๆ แต่ก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าของเพื่อนตรงหน้า

    “มะ...ไม่มีอะไรหรอก ให้ฉันกับรยออุคไปเป็นเพื่อนไหม”

    “เฮ้ยย ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวเราไปเองดีกว่า พวกนายไปทำงานที่คณะเหอะ” ทงเฮปฏิเสธน้ำใจของเพื่อน กะอีแค่เดินไปเอาหนังสือ เขาเดินไปเองไม่เห็นจะเป็นไรเลย อีกอย่างๆ เพื่อนของเขาจะได้ไม่เสียเวลาด้วย

    “นายก็...ระวังตัวหน่อยนะ” ซองมินเตือนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่ไม่กล้าจะบอกทงเฮว่า ยุนโฮน่ะ เป็นพวกหลอกฟันตัวฉกาจเลยล่ะ อันตรายตัวพ่อ ที่ทั้งชายและหญิงก็นิยม แต่พออะไรเลยเถิดไปกลับมาแก้ไขไม่ได้ ก็เสียอกเสียใจกันใหญ่ เพราะยุนโฮมันขึ้นชื่อว่า ไม่เคยรักใครจริง ทิ้งสถานเดียว ถ้าบอกไปทงเฮก็คงจะไม่เชื่อล่ะมั๊ง มีแต่จะผิดใจกันเปล่าๆ

    “โอเค ๆ” ทงเฮตอบรับด้วยสีหน้างงๆ แค่ไปหารุ่นพี่ยุนโฮ ทำไมต้องระวังตัวด้วยวะ เขาคิด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

     

     

     

     

    อีฮยอกแจผู้ซึ่งนอนกลิ้งอยู่สวนหลังคณะนิเทศน์คนเดียว คิดหาคำตอบอยู่หลายหน ว่าทำไม เขาต้องรู้สึกแปลกๆกับไอ้ทงเฮมันด้วย เพราะใจของฮยอกแจ ยังเอาชนะคำว่าทิฐิที่มีอยู่มากโขในตัวเขาไม่ได้ เขาจึงคิดไม่ได้ซักทีว่า ทำไม

     

    “มานอนอยู่ที่เองหรอฮยอกแจ” เมื่อได้ยินเสียงทุ้มเสียงนี้ ฮยอกแจก็ลุกขวับขึ้นมาทันที

    “ซีวอนฮยองมีอะไรกับผมครับ” ฮยอกแจตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ชมรมเดียวกัน แต่ก็อยู่คนละคณะ จะเดินมาให้เห็นหน้าทำไมวะ

    “พี่แค่อยากคุยด้วย พี่ก็เลยมาหา” ซีวอนเอ่ยด้วยสีหน้ามีความสุขแล้วลงนั่งข้างๆ เขาชอบคนตรงหน้าเหลือเกิน แต่ด้วยความที่เป็นคนพูดอย่างที่ใจคิด ก็เลยโพร่งออกไปโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของอีกคน

    แต่ผิดกับฮยอกแจที่ทำหน้าอยากจะตายให้ได้ หนีเสือปะจระเข้ใช่ม๊ายย

    หนีทงเฮ ปะ ซีวอนนนน ว๊ากกกก!!~~    จะทำไงดีวะตู!!!!?

     

    “ฮยองไม่ต้องมาหาผมหรอกครับ ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว” ฮยอกแจตอบสีหน้านิ่งแล้วลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้ ที่ๆสงบในมหาลัยน่ะ หายากนะ T T’ ฮยอกแจคร่ำครวญในใจ แต่ก็ถูกมือหนาคว้าไว้

    “พี่แค่อยากมาหา ทำไมนายต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย พี่คิดถึงนายมากนะ” ซีวอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ส่วนคนที่ถูกรั้ง ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเห็นใจเลยสักนิด ยิ่งทำให้รู้สึกขยะแขยงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

    “มีคนตั้งเยอะแยะรอให้ฮยองคิดถึง ฮยองก็ไปคิดถึงพวกเขาเถอะ ผมขอบอกฮยอง แล้วฟังให้ขึ้นใจ ผมเป็นผู้ชาย ฮยองฟังชัดไหม” ฮยอกแจอยู่ในช่วงอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยพูดออกไปโดยไม่ได้ผ่านขบวนการไตร่ตรอง แต่เขาจะกลับย้อนเวลาไปก็ทำไมได้ เขาไม่ได้เจตนาจะพูดอะไรให้มันเสียดสีมากเกินไป ที่เขาทำไปเพราะเขาไม่อยากให้รุ่นพี่คนสนิทต้องมีคิดอะไรแบบนี้กับเขา เลยได้แต่จำต้องเดินออกจากที่ตรงนี้ไป

     

    ตี๊ดๆ ~~

    ฮยอกแจหยิบไอโฟนขึ้นมาดู ก็พบว่าซองมินส่งข้อความมาหา

     

    ฮยอกแจ นายช่วยไปวิศวะหน่อยดิ ตอนนี้ทงเฮกำลังจะไปหายุนโฮที่นั่น

     

     

    !!

     

    เมื่อคนรับเมสเสจเปิดอ่าน ถึงกับช๊อค รีบเก็บไอโฟนเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วรีบวิ่งไปที่วิศวะทันที

    จะไปที่ไหนอะไรกับใคร ทำไมต้องเป็นยุนโฮวะ ฮยอกแจคิดในใจ ด้วยความเป็นห่วง จึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก เขาภาวนาแค่ขอให้เขาไปทันเวลา

    ****************************************************



    เป็นไงบ้างกับตอนที่4ฮะ? ^_____________^
    สนุกรึเปล่า ๆ ?
    ช่วงนี้มีวันหยุดเยอะ เลยรีบๆอัพไวๆ
    ยังไงก็...คอมเม้นกันเยอะ ๆ เป็นกำลังใจให้ไร้เตอร์ด้วยนะคะ
    ^________^
    ส่วนคนที่คอมเม้นแล้วก็ขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นที่เป็นกำลังใจอันสูงส่งให้ไรเตอร์นะคะ
    รักรีดเดอร์ทุกคน <33
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×