ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Knight Of Norpihttis

    ลำดับตอนที่ #1 : ลำดับตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 49


    บทที่ 1 การทดสอบ

                   

                    ย้าก !! ”  เสียงตะโกนของไอแวนดังไปทั่วทุ่งหญ้าอันแสนเงียบสงบในตอนเช้า  พร้อมกับเสียงตวัดดาบไม้ดังขวับ ๆ หยดเหงื่อตามร่างกาย แสดงถึงความเหนื่อยล้าของผู้ฝึก

                    ขยันจังนะ เสียงหนึ่งดังขึ้น  เมื่อไอแวนหันไป ก็ได้พบกับ ชายร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหา การที่ไอแวนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาใกล้เข้ามาแสดงถึง ฝีมือของชายผู้นี้

                    แน่นอนครับอาจารย์  วันนี้แล้วสินะครับไอแวนหันมาตอบ พร้อมกับลดดาบลง 

                    ใช่แล้ว วันนี้แหละ เป็นวันที่เจ้าจะได้รู้ว่าตัวเจ้าฝึกซ้อมมามากพอ ที่จะได้รับการเข้าบรรจุเป็นนักดาบฝึกหัดแล้วหรือยังอาจารย์ของเขาพูด พร้อมกับจ้องดูร่างกายของไอแวนด้วยความชื่นชม  

    ไอแวนพยักหน้ารับ และคิดถึงการทดสอบของทางราชการที่จะจัดขึ้นปีละหน รับเด็กจากหมู่บ้านต่างๆเข้าไปรับการฝึก  เพื่อจะได้เลื่อนขั้นเป็นอัศวินของราชอาณาจักร หลังจากเริ่มฝึกมาหลายปี ไอแวนก็เคยคิดที่จะรับการทดสอบมาแล้วครั้งหนึ่งตอนอายุ 10 ขวบ แต่เขาก็ต้องพบกับความโหดร้ายของการทดสอบ ที่ยากเกินความสามารถ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไอแวนได้พบกับอาจารย์ของเขา คือ จอมดาบของภาคใต้ไคท์ เรวิน

    ไคท์ เรวิน เป็นอัศวินของราชอาณาจักรที่ออกจากราชการแล้ว เดินทางไปเรื่อย ๆ จนได้มาพบกับหมู่บ้านของไอแวน เขาพบไอแวนในวันที่ไอแวนไม่ผ่านการทดสอบของทางราชการพอดี แต่เขาเห็นถึงพรสวรรค์ของไอแวน จึงอาสาที่จะถ่ายทอดวิชาดาบของเขาให้กับไอแวน

      เอาล่ะ มาปะลองฝีมือครั้งสุดท้ายกันได้แล้ว ก่อนที่เจ้าจะไปทดสอบกับคนที่เก่งกว่าข้า ไคท์ บอกพร้อมกับยกดาบที่คาดไว้ที่เอวขึ้นมา โดยไม่ถอดดาบออกจากฝัก

    ครับ อาจารย์ไอแวนรับคำพร้อมกับตวัดดาบขึ้นมาตั้งท่าเตรียมพร้อม แต่ในใจกลับคิดแย้งขึ้นว่าจะมีใครเก่งกว่าอาจารย์ของเขาอีกหรือไม่ เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นใครที่จะสู้กับอาจารย์ได้เลย

    การฝึกซ้อมปะลองของไอแวนกับอาจารย์ดำเนินไปจนสาย กระทั่งมีคนจากหมู่บ้านเดินทางผ่านมา

    คุณไคท์ สายแล้วนะ รถม้าที่จะเข้าเมืองหลวงก็จะมาแล้ว  ไม่รีบไปจะไม่ทันการทดสอบนะครับชายคนนั้นพูด

    อ๋อ ครับขอบคุณมากครับ ไปกันเถอะไอแวน  ไคท์พูดพลางเก็บดาบลงแล้วเดินไปทางหมู่บ้าน โดยมีไอแวนเดินตามไปติด ๆ  การเดินทางจากหมู่บ้านของไอแวนไปถึงเมืองหลวง ต้องใช้ม้าหรือรถม้าในการเดินทางเพื่อความรวดเร็ว แต่ถึงจะใช้ก็ต้องใช้เวลาถึง 2-3 ชั่วโมงอยู่ดี

    เราไปถึงเมืองหลวงก็คงจะเที่ยงพอดีสินะครับ อาจารย์ ไอแวนพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบภายในรถม้า 

    บนรถมีคนนั่งอยู่แล้ว 4 คน คนหนึ่งดูจากท่าทางเป็นพ่อค้า ใส่เสื้อผ้าอย่างดี มีของจนมาเยอะแยะมากมาย ท่าทางจะไปขายในเมืองหลวง ไอแวนคิด

    อีกคนคงเป็นนักเดินทาง ดูจากท่าทางคงเดินทางมาไม่ไกลเท่าไหร่ เพราะเสื้อผ้าไม่มีรอยเปื้อนเลย  แต่ที่ไอแวนสงสัยคือว่าทำไมนักเดินทางคนนี้ถึงได้พกดาบจริงขึ้นรถม้ามาได้ เพราะไอแวนรู้ดีว่าทางราชการเข้มงวดแค่ไหน ในการเข้าสู่เมืองหลวง

    ส่วน 2 คนที่เหลือน่าจะเป็นเด็กที่มารับการทดสอบเหมือนกัน เด็กคนแรก ไม่สูงเท่าไรแต่ก็สูงกว่าไอแวน มีกล้ามอย่างเห็นได้ชัด น่าจะฝึกมาหนักพอสมควร ใส่เสื้อที่น่าจะทำจากหนังสัตว์  มีเข็มขัดหนังคาดเอว เต็มไปด้วยมีดสั้นขนาดเล็กอยู่รอบเอว

    เด็กคนที่สองใส่เสื้อผ้าที่ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนในประเทศนี้ ดูจากท่าทางน่าจะมาจากประเทศทางตะวันออก  ตัวเล็กกว่าไอแวนเล็กน้อย ผิวขาว ท่าทางเหมือนไม่เคยฝึกใช้ดาบ แต่ก็มีดาบไม้พกติดตัวอยู่เหมือนกัน

    อืม ใช่  ไคท์ตอบพร้อมกับมองไปที่นักเดินทางคนนั้น นักเดินทางคนนั้นเป็นผู้ชายร่างสูง พกดาบติดไว้ที่เอว สะพายกระเป๋าผ้าสีขุ่นๆ  แล้วไคท์ก็มองกลับมาที่ไอแวนพร้อมกับส่งสัญญาณทางสายตาให้ไอแวนระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น

    พวกนายก็ไปรับการทดสอบด้วยเหรอ ไอแวนพูดขึ้นพร้อมกับกระชับดาบไม้ให้จับได้ถนัดขึ้น

    ใช่ ฉันชื่อ ปิแอร์ กันน์ ส่วนนายคนนี้ชื่อ หลินสู้ชิน เด็กผู้ชายที่สูงกว่าบอก แล้วโบกมือไปทางเด็กอีกคนที่ตัวเล็กกว่า 

    เรียกฉันว่าหลินก็ได้ แล้วนายล่ะ หลินบอกพร้อมกับกระชับดาบไม้ขึ้นมาด้วย

    อ๋อ ฉันชื่อไอแวน อีวาน เรียกไอแวนก็ได้ ไอแวนบอกพร้อมส่งสายตาไปทางนักเดินทางคนนั้น แล้วมองกลับมาที่ปิแอร์

    หยุดรถ ! ! ” นักเดินทางคนนั้นลุกขึ้นพร้อมกับตวัดดาบไปที่คอของคนขับรถ รถหยุดเกือบจะทันทีทำให้คนทั้งหมดเซไปข้างหน้า เว้นแต่ไคท์ ที่จับขอบหลังคารถไว้ได้ทัน แต่ก็ช้าไปเพราะไม่ทันได้ระวังตัว นักเดินทางคนนั้น ยกขายันตัวไคท์ให้หล่นไปจากรถ แล้วก็ใช้ดาบที่ถืออยู่ตวัดอาวุธของพวกไอแวน แล้วสลัดทิ้งออกไปนอกรถ

    ไปได้แล้ว นักเดินทางสั่ง สิ้นเสียงรถก็ออกไปอย่างรวดเร็ว ไอแวนมองไปข้างหลังเห็นอาจารย์ของเขาได้แต่ยืนนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งตามมาช่วย  แต่ไอแวนก็คิดอยู่แล้ว อาจารย์ไม่เคยที่จะช่วยไอแวนเลยถ้าไม่ถึงคราวคับขันจริงๆ  และคับขันที่ว่า ก็คืออันตรายถึงชีวิตเท่านั้น

    ที่ไอแวนจำได้ อาจารย์เคยช่วยเขาอยู่ครั้งเดียว คือเมื่อตอนที่ไอแวนถูกฝึกโดยการให้เข้าไปล่าสัตว์ในป่า ด้วยดาบไม้  ตอนนั้นไอแวนไปเจอกับเสือเข้า  ด้วยความเร็วและสัญชาตญาณของเสือ เกือบที่จะทำให้ไอแวนตายเพราะเขี้ยวเล็บของมันแล้ว แต่ก่อนที่เสือจะตวัดเล็บอันแหลมคมของมันลงมา อาจารย์ก็ออกมาพร้อมกับดาบของเขา และใช้แค่ด้ามดาบกระแทกเสือจนล้มไป พร้อมกับยกตัวไอแวนขึ้นมา  แค่มองเท่านั้น เสือก็หนีเข้าป่าไป

                    ข้าจะไปรอที่เมืองหลวงนะ ไคท์ตะโกนตามหลังรถม้าไป เขารู้ดีว่าโจรพวกนี้ไม่มีฝีมือเท่าไหร่ แค่หวังสินค้าของพ่อค้าเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะฆ่าใคร ไม่อย่างนั้นคงจะใช้ดาบฟันคอพวกเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว  และอีกอย่างคือ คนๆนี้ไม่ใช่โจรธรรมดาแน่

    แกต้องการอะไร ไอแวนตะโกนถามนักเดินทาง เพราะคิดที่จะถ่วงเวลา เนื่องจากมองเห็นของที่พ่อค้านำมาแล้ว มีสิ่งที่จะนำมาเป็นอาวุธได้รวมอยู่ด้วย

    พวกแกอยากรู้เหรอ ฉันต้องการนี่ไง สิ่งของพวกนี้ นักเดินทางที่ตอนนี้เปลี่ยนสภาพเป็นโจรไปแล้วบอก พร้อมกับชี้มือที่ไม่ได้ถือดาบไปทางของที่พ่อค้านำมา

    อย่าเอาของข้าไปนะ ข้าจะไม่ให้แกแม้แต่อย่างเดียว ถึงยังไงแกก็ต้องโดนทหารของอาณาจักรจับแน่นอน พ่อค้าพูดขึ้น แต่เป็นการทำผิดอย่างเห็นได้ชัด โจรคนนั้นได้ตวัดดาบลงมาที่คอของพ่อค้าคนนั้นอย่างรวดเร็ว   แต่ที่เร็วกว่านั้นเพียงเสี้ยววินาที ไอแวนพุ่งตัวไปผลักให้พ่อค้าคนนั้นล้มลง ทำให้ดาบของโจรคนนั้นไปฟันถูกเสาที่ใช้ค้ำตัวรถ ทำให้หลังคาที่ทำจากผ้านั้นพับลงมาคลุมทุกคนไว้ทันที

    ตอนนี้แหละ หยุดรถเลย ปิแอร์ตะโกนบอก คนขับกระชากบังเหียนทันทีทำให้ทุกคนและทุกอย่างล้มลงระเนระนาด 

    ไอแวนตั้งตัวได้ก็รีบกระโดลงจากรถแล้วพุ่งไปที่หีบของ ของพ่อค้าคนนั้น คว้าสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดาบขึ้นมา และถอยมาตั้งหลักไว้  คนที่ออกมาคนที่สองคือปิแอร์ และมือก็ลากพ่อค้าออกมาด้วย 

    หลินล่ะ ไอแวนถาม

    อ้าว ฉันก็นึกว่าออกมาก่อนแล้วนะ ปิแอร์พูดพร้อมกับมองไปที่รถคันนั้น เพียงครู่หนึ่ง โจรคนนั้นก็ออกมาพร้อมกับ เอาดาบจี้คอของหลินไว้

    วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นเจ้าเด็กนี่หัวไม่ติดอยู่กับตัวแน่ โจรคนนั้นบอก พร้อมทำท่าจะฟันคอของหลิน  ไอแวนได้แต่ยืนดูและเตรียมที่จะลดดาบลง แต่ปิแอร์กลับยืนนิ่งไม่แสดงทีท่าอะไรเลย

    วางดาบลงสิ ไอแวนบอกกับปิแอร์

    ถ้าแค่นี้ก็เอาตัวไม่รอดแล้ว  ก็อย่าไปทดสอบเลยดีกว่า ปิแอร์พูด

    ใช่ ๆ หลินบอกด้วยเสียงสดใส พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างคล้ายกับคาถาแต่ไอแวนได้ยินไม่ชัด แล้วทันใดนั้น ก็มีไฟลุกขึ้นมาจากเสื้อของโจรคนนั้น

    เฮ้ย!! อะไรกัน โจรคนนั้นตกใจ ผลักหลินมาข้างหน้าแล้วรีบดับไฟบนเสื้อตัวเอง  แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยไฟก็ยังคงลุกไหม้เสื้อของโจรคนนั้นจนหมด กลับกัน โดยที่บนตัวโจรคนนั้นไม่มีแผลที่น่าจะเกิดจากไฟไหม้เลยสักแห่ง

    แก เจ้าพวกนี้ โจรตะโกนด้วยความโกรธ พร้อมกับหยิบดาบขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่ไอแวนทันที  ไอแวนตั้งดาบขึ้นรับ  แล้วโจรก็สะบัดดาบเปลี่ยนทางลงมาฟันที่เท้าของไอแวน  ไอแวนกระโดดหลบด้วยสัญชาตญาณ แล้วใช้ด้ามดาบกระแทกไปที่ท้ายทอยของโจร ทำให้โจรคนนั้นล้มลง  ไอแวนรีบตวัดดาบของโจรไปอีกทางอย่างรวดเร็ว  เจ้าโจรกลิ้งตัวไปด้านข้าง ยันตัวเองลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไป

    จะรีบไปไหนล่ะ  ต้องไปหาทหารด้วยกันหน่อยล่ะมั้ง ปิแอร์พูดพร้อมกับเอามือไพล่ไปข้างหลัง หยิบมีดสั้นที่คาดอยู่ที่เอวขึ้นมา  แล้วขว้างไปทางโจรคนนั้นที่วิ่งไปไกลมากแล้ว

    แต่ด้วยความแม่นดังจับวาง มีดสั้นพุ่งไปที่ขาของโจรทันที ทำให้โจรคนนั้นล้มลงกับพื้นกลิ้งตัวไปมา  ปิแอร์วิ่งเข้าไปหา พร้อมดึงมีดที่อยู่ที่ขาของโจรออกมา  โจรร้องเสียงหลงทันที  

    เอาเชือกมาเร็ว ปิแอร์บอก พร้อมกับรับเชือกมาจากหลิน มามัดโจรคนนั้น

    อะไรกันไม่เห็นมีเลือดสักหยด   ไอแวนพูดขึ้น หลังจากสังเกตขาของโจรคนนั้น

    ก็มีดที่ปิแอร์ใช้มันเป็นมีดวิเศษ ไม่ทำให้เกิดแผลแต่สร้างความเจ็บปวดได้เหมือนจริง หลินอธิบาย

    ฉันยังมีมีดอีกหลายแบบให้เลือกใช้น่ะ ปิแอร์พูดหลังจากมัดโจรคนนั้นจนแน่น แต่ที่น่าแปลกคือโจรคนนั้นไม่มีทีท่าจะขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว

    ตกลงว่า เราจะไปเมืองหลวงจากที่นี่ได้ยังไง หลินหันไปถามพ่อค้าคนนั้น ที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิด

    แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะ หลิน เขาก็โดนจับมาพร้อมกับเรานะ ไอแวนพูดขึ้น

    ไม่ต้องห่วงหรอกไอแวนคนพวกนี้น่ะ น่าจะเป็นคนของทางการ ที่ส่งมาทดสอบเด็กที่จะมารับการทดสอบน่ะ  ถือว่าเป็นการทดสอบรอบแรกไง ปิแอร์บอก

    นายรู้ได้ไง ไอแวนถามด้วยความสงสัย

    อย่างแรกนะ ดูจากการที่นักเดินทางคนนี้พกดาบขึ้นรถมาได้ ทั้งที่รถนี่ต้องถูกตรวจสอบ ตอนที่ผ่านประตูสู่ศูนย์กลาง และการที่จะพกดาบได้ต้องมีใบอนุญาตที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร จากสมุหนายกฝ่ายขวา หลินบอก  ประตูสู่ศูนย์กลางที่หลินบอกหมายถึง ประตูที่กั้นระหว่างเขตการปกครองของภาคต่างๆ ที่จะเข้ามาใกล้บริเวณเมืองหลวง

    แสดงว่าชายคนนี้ไม่ใช่พวกนักเดินทางธรรมดา และก็ไม่มีทางที่จะเป็นโจรได้หรอก ในเขตก่อนเข้าเมืองหลวงน่ะ ทหารเข้มงวดจะตาย ปิแอร์กล่าวเสริม ทำให้ไอแวนยิ่งทึ่งในความสามารถของทั้ง 2 คนมากขึ้นไปอีก

    แล้วตกลงว่าไงครับ คุณกรรมการ พวกเรามีสิทธิ์ที่จะเข้ารับการทดสอบไหมนี่ ปิแอร์ถาม พร้อมกับยกตัวกรรมการที่ปลอมเป็นโจรคนนั้นขึ้นมานั่ง

    แน่นอน พวกเธอนี่เก่งมากเลยนะ กรรมการคนที่เป็นพ่อค้าบอก

    ฉันชื่อ อเล็กซ์ แล้วนี่ก็ โยโค เป็นกรรมการของการทดสอบรอบแรก กรรมการนักเดินทางแนะนำตัวเองและตัวกรรมการพ่อค้า ขณะที่กำลังแก้เชือกออกได้ ด้วยตัวคนเดียว

    แล้วพวกคุณคัดเลือกเด็กโดยใช้อะไรเป็นเกณฑ์เหรอครับ ปิแอร์ถาม ระหว่างที่ช่วยกันตั้งหลังคารถขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการเดินทางต่อ

    ก็หลายๆอย่างนะ อย่างเช่นความสามารถด้านการต่อสู้ ความปลอดภัยของตัวประกัน และความสามารถในการสังเกตอย่างพวกเธอนี่แหละ อเล็กซ์บอก

    แล้วถ้าเกิดกรรมการทดสอบถูกฆ่าขึ้นมาล่ะครับ ผมหมายถึงถ้าไม่ได้จับเป็นแบบพวกผมน่ะ ไอแวนพูด

    เธอคิดว่าพวกฉันถูกฆ่าง่ายๆเหรอ ไหนลองยกดาบขึ้นมาสิ โยโคบอกบ้าง พลางหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาไว้ในมือ ทำเป็นอาวุธ

    ไอแวนหยิบดาบไม้ขึ้นมา พร้อมกับตั้งท่าเตรียมสู้ เขาฟังเรื่องความเก่งกาจของทหารของทางการมามากพอแล้วจากอาจารย์ จึงไม่คิดที่จะประมาทเลยแม้แต่น้อย

    เข้ามาเลย ฉันจะสู้โดยใช้มือเดียว และขาทั้งสองจะไม่ยกเหนือพื้นเลย โยโคพูดขึ้นพร้อมกวักมือเป็นเชิงท้าทาย

    ย้าก!! ” ไอแวนตะโกนพร้อมพุ่งเข้าใส่โยโค โดยเล็งที่ขา  แต่โยโคก็โต้ตอบได้ไวมาก เพียงแค่สะบัดกิ่งไม้มาปัดวิถีดาบของไอแวน แล้วก็ตวัดกิ่งไม้ขึ้น ไอแวนถอยกลับเกือบไม่ทัน โดยมีกิ่งไม้วิ่งผ่านหน้าไอแวนไปนิดเดียว

    โฮ่ ปฏิกิริยาตอบโต้ไวดีนี่ ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องได้แผลที่หน้าเป็นที่ระลึกแล้วนะนี่ อเล็กซ์เอ่ยปากชม พร้อมกับยืนขึ้นหันหน้ามาทางปิแอร์

    ไหนเธอลองดูสิว่าจะทำให้ขาฉันยกเหนือพื้นได้ไหม อเล็กซ์ท้าปิแอร์ ที่กำลังรู้สึกอย่างลองดูเต็มทึ่ เขาคว้ามีดสั้นที่อยู่ที่เอวขึ้นมา 2 เล่ม แล้วตั้งท่าเตรียมพร้อม

    ฉันว่าพอแค่นี้เถอะนะ   หลินห้าม แต่ทั้งสองคู่ดูท่าทางจะหยุดไม่ได้แล้ว ไอแวนพุ่งเข้าใส่โยโคอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม ดูท่าทางโยโค ไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย 

    เฮ้ ระวังตัวนะ ปิแอร์บอกกับอเล็กซ์ ทันที่อเล็กซ์หันหน้ากลับมา ปิแอร์ ก็ขว้างมีดสั้นเล่มแรกไปที่ขาทันที แต่ดูเหมือนว่าอเล็กซ์จะรออยู่แล้ว เขาเพียงแค่ก้มลงเล็กน้อย แล้วยื่นมือไปจับมีดได้ทันก่อนที่มันจะถึงขานิดเดียว

    ง่ายไปหน่อยนะ.. เฮ้ย!! ” อเล็กซ์พูด พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาพบว่ามีดอีกเล่มพุ่งเข้ามาที่หน้าอกแล้ว  แต่ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เขากลับเบี่ยงตัวหลบได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

    โธ่เว้ย  น่าเสียดาย ปิแอร์ร้องขึ้นด้วยความเสียดาย

    พอแค่นี้เถอะ โยโคเป็นฝ่ายพูดบ้างหลังจากสู้กับไอแวนมา ไม่ต่ำกว่าสิบท่า โดยดูจากสภาพแล้ว ไอแวนคงฟันม่ถูกโยโคเลยแม้แต่ทีเดียว แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ยังตั้งท่าพร้อมสู้อยู่

    ใช่ๆ ไม่รีบเดินทางเดี๋ยวสายนะ หลินเสริมเพื่อยุติการปะลองเพียงแค่นั้น

    หลังจากนั้นพวกไอแวนก็ช่วยกันซ่อมรถและก็ออกเดินทางกันต่อ โดยมีจุดหมายคือ กรุงเฮฟเวน เมืองหลวงแห่ง นอร์พิตติส

    แล้วนี่พวกนายมาจากที่ไหนบ้างเหรอ ไอแวนถามขณะที่อยู่บนรถม้า

    ฉันมาจากหมู่บ้านนายพรานที่อยู่ทางตะวันออก ปิแอร์บอก

    ส่วนฉันมาจากประเทศทางตะวันออกไกลน่ะ หลินบอกด้วย

    แล้วนายเข้ามาทำอะไรที่นี่ล่ะ ไอแวนถาม

    ฉันเข้ามาเพื่อสมัครเป็นอัศวินของที่นี่น่ะ หลินตอบ

    ที่ประเทศนายไม่มีอัศวินเหรอ ไอแวนถาม

    ไม่มีหรอก ประเทศฉันมีแต่พวกที่เรียกว่า จอมยุทธ์  กับผู้ควบคุมน่ะ หลินบอก

    ผู้ควบคุมก็เหมือนกับผู้ใช้เวทมนตร์สินะ ปิแอร์ถามบ้าง

    ก็ไม่เชิงหรอก ผู้ควบคุมจะใช้เวทมนตร์ได้เฉพาะ ที่เรียนมาเท่านั้น แค่รู้คาถาใช้ไม่ได้หรอก หลินอธิบาย

    แต่ว่าทำไมต้องประเทศนี้ด้วยล่ะ ไอแวนตั้งข้อสงสัย เพราะว่าในแถบนี้ทุกประเทศก็มีอัศวินทั้งนั้น เนื่องจากมีการรบกันตลอด

    เรื่องนั้นขอปิดเป็นความลับนะ ว่าแต่อีกไกลไหมนี่ หลินตอบ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย

    ไม่เท่าไหร่หรอก อเล็กซ์ตอบ

    ทิวทัศน์รอบข้างก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว จากที่เป็นภูเขาบ้าง ทุ่งหญ้าบ้าง ตอนนี้เริ่มมีหมู่บ้านและทุ่งนาผ่านเข้ามาให้เห็นบ้างแล้ว แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงที่อยู่อีกไม่ไกล

    กรุงเฮฟเวนเป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์พิตทิส ถือว่าเป็นเมืองที่รวมองค์กรทุกอย่างเอาไว้ ทั้งอัศวิน ผู้ใช้เวทมนตร์ หรือแม้แต่นักฆ่า  กรุงเฮฟเวนถูกปกครองโดยราชวงศ์ ออดิท ขณะนี้เข้าสู่ปีออดิทที่ 20 แล้ว 

    กรุงเฮฟเวนเป็นเมืองหลวงที่มีความเจริญรุ่งเรือง มากถ้าเทียบกับเมืองหลวงของประเทศใกล้เคียง  ล้อมรอบไปด้วย กำแพงเมืองขนาดใหญ่ หนาถึง 5 เมตร สูง20เมตร เป็นดั่งป้อมปราการขนาดยักษ์ เพื่อป้องกันราษฎร จากข้าศึก  อีกทั้งยังมีเวทมนต์โบราณ ช่วยปกป้องให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก ทำให้กรุงเฮฟเวนไม่เคยถูกข้าศึกตีแตกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    การทดสอบเพื่อรับเด็กจากทั่วประเทศจะจัดขึ้นตามภาคต่างๆ โดยคุณสมบัติของผู้สมัครคือ เป็นชายหรือหญิงก็ได้ อายุไม่เกิน 15 ปี การทดสอบจะแบ่งเป็น 3 รอบ รอบแรกเป็นรอบคัดเลือก จะมีสถานการณ์ให้แก้โดยไม่บอกล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับไหวพริบปฏิภาณของผู้สมัครเอง กรรมการของรอบนี้จะถูกจัดขึ้นเป็นพิเศษ แล้วแต่ว่าจะมีอัศวินคนไหนอาสาหรือไม่ ถ้าไม่มี กระทรวงกลาโหมจะส่งอัศวินฝีมือดีของภาคต่างๆ ไปทดสอบฝีมือเอง

    รอบสอง เป็นการทดสอบในสนามฝึกประจำภาค โดยจะคัดเลือกให้เหลือ ภาคละ5คน โดยแข่งขันแบทีม ทางราชการจะให้เวลา 1 วันในการหาทีม ใครที่มีทีมอยู่แล้วก็จะได้เปรียบเรื่องความสามัคคี

     รอบสุดท้ายจะนำทีมที่ผ่านรอบสองได้เข้ายังเมืองหลวง เพื่อทดสอบครั้งสุดท้าย จากสมุหนายกฝ่ายขวา ทีมที่มาจากภาคไหนผ่านก็จะได้เป็นนักดาบฝึกหัดทั้งทีมเพื่อฝึกฝนต่อไปให้เป็นอัศวิน ส่วนทีมที่ตกรอบ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองครักษ์ฝึกหัด ไปฝึกอยู่ในบ้านของข้าราชการต่างๆ ขึ้นอยู่กับฝีมือของเด็กกลุ่มนั้น

    ในที่สุด กำแพงเมืองขนาดยักษ์ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ไอแวนโผล่หน้าไปมอง  ก็ได้พบกับกำแพงเมืองสีขาวขนาดยักษ์  น่าจะทำจากอิฐสีขาวทั้งหมด  แล้วยังมีประตูบานใหญ่  ที่ดูแล้วไม่น่าจะเปิดได้ด้วยคนเพียงไม่กี่คนแน่

    เปิดประตู   ทหารยามที่อยู่บนกำแพงเมืองออกคำสั่ง ทันทีที่เห็นรถม้าเราใกล้เข้ามา

    เปิดประตูเหรอ ประตูบานใหญ่เนี่ยนะ ปิแอร์ถามด้วยความสงสัย เพราะว่า ธรรมดาแล้วประตูบานใหญ่จะเปิดเฉพาะเวลาจำเป็น หรือ เวลาที่มีคนสำคัญผ่านเข้ามาเท่านั้น

    แต่เหมือนกับตอบคำถามของปิแอร์ บานประตูเปิดออก เสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ แต่ไอแวนกลับไม่เห็นมีทหารสักคนเปิดประตูนั้นเลย อย่างกับมีเวทมนต์

    พวกคุณคงไม่ใช่อัศวินธรรมดาแน่ๆ หลินบอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×