โรเบิร์ต คิโยซากิ ครูสอนคนรวย - โรเบิร์ต คิโยซากิ ครูสอนคนรวย นิยาย โรเบิร์ต คิโยซากิ ครูสอนคนรวย : Dek-D.com - Writer

    โรเบิร์ต คิโยซากิ ครูสอนคนรวย

    สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือทางด้านพัฒนาตนเอง แต่สำหรับเพื่อนๆคนใดที่ยังไม่รู้จักผมจะพาไปรู้จักกับเขาดูครับ โรเบิร์ต คิโยซากิ เป็นผู้ที่นำความลับคนรวยซึ่งมักจะถูกถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น

    ผู้เข้าชมรวม

    2,117

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.11K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.ค. 51 / 09:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      โรเบิร์ต คิโยซากิ ครูสอนคนรวย

              ชื่อนี้คงจะคุ้นหูกันดีนะครับ สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือทางด้านพัฒนาตนเอง แต่สำหรับเพื่อนๆคนใดที่ยังไม่รู้จักผมจะพาไปรู้จักกับเขาดูครับ โรเบิร์ต คิโยซากิ เป็นผู้ที่นำความลับคนรวยซึ่งมักจะถูกถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น มาเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้ทราบกัน ผ่านหนังสือขายดีที่เรารู้จักกันดี ในตระกูลพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) ซึ่งเป็นหนังสือที่โด่งดังมาก

      โรเบิร์ต ปัจจุบันนี้เป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่อเมริกา ในสมัยเด็กโรบิ์ตไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง เรียกได้ว่าผลการเรียนธรรมดามากๆ บางครั้งก็มีตกบ้าง โรเบิร์ตมีพ่อ 2คน คนหนึ่งคือพ่อแท้ๆของเขา ซึ่งเขาเรียกว่าพ่อจน และอีกคนหนึ่งคือพ่อของเพื่อนสนิทของเขาที่เขาเรียกว่าพ่อรวย สาเหตุที่เขาเรียกพ่อแท้ของเขาว่าพ่อจนไม่ได้หมายความว่าพ่อแท้ของเขาจน จนไม่มีอะไรจะกินนะครับ พ่อแท้ๆของเขาเป็นอธิบดีทางด้านการศึกษา แต่ที่เขาเรียกว่าพ่อจนเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนกันมากขึ้นระหว่างความคิดคนของคนสองคน พ่อรวยของเขาเป็นผู้ที่รวยที่สุดในเกาะแมนฮัตตั้น

      ในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก เขาได้เรียนวิชาการเป็นคนรวยจากพ่อของเพื่อนเขา ซึ่งเขาได้นำเสนอความแตกต่างของความคิดระหว่างคนจนกับคนรวยไว้ในหนังสือของเขา (ผมขอยกตัวอย่างบางประการแล้วกันนะครับ เพราะถ้าให้กล่าวอย่างละเอียดคงต้องอธิบายกันหลายหน้า) เช่น คนจนเวลาเจอของที่อยากได้มักจะบอกกับตัวเองว่า เราไม่มีเงินซื้อ แต่คนรวยเมื่อเจอของที่อยากได้มักจะตั้งคำถามว่า เราจะซื้อมันได้อย่างไร?  คนจนมักจะคิดว่า เราทำไม่ได้ แต่คนรวยมักจะคิดว่าทำอย่างไร โรเบิร์ตยังกล่าวอีกว่าความแตกต่างระหว่างคนจนกับคนรวยไม่ได้แตกต่างกันนิดเดียวนะครับ แต่ว่าความคิดคนทั้ง2ประเภทนี้ แตกต่างกันจนอยู่คนละด้านเลย

      โรเบิร์ตบอกว่าคนจนส่วนใหญ่จะชอบบอกว่าคนรวยเห็นแก่ตัว แต่ที่จริงแล้วคนรวยส่วนใหญ่มีน้ำใจเป็นผู้ให้ในขณะที่ คนจนส่วนใหญ่จะเห็นแก่ตัว หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่าพึ่งงงนะครับ เพราะคุณโรเบิร์ตกล่าวว่า คนจนเห็นแก่ตัวก็เพราะชอบเรียกร้องสิทธิต่างๆมากมายจากรัฐบาลเช่นให้ช่วยเหลือสิ่งนั้น ให้ช่วยเหลือสิ่งนี้ และจะชอบกล่าวหาว่าบริษัทให้เงินเดือนน้อย ใช้งานหนัก ไม่ยอมปรับตำแหน่งให้เลย(คุณโรเบิร์ตก็เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อนและไม่ได้ร่ำรวยมาก่อน) ซึ่งจริงๆแล้วบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ลองคิดเลยว่าคุณทำสิ่งต่างๆเพื่อบริษัทบ้างหรือยัง โรเบิร์ตบอกว่าที่คนรวยส่วนใหญ่เป็นคนมีน้ำใจก็เพราะว่าคนรวยชอบช่วยเหลือผู้อื่น ยิ่งธุรกิจใดช่วยเหลือคนมากเท่าไร ธุรกิจนั้นก็ยิ่งรวย เช่นโตโยต้าที่ทำรถยนต์ราคาถูกออกมา เพื่อจะช่วยให้คนสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

      ก่อนที่โรเบิร์ต จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้เขาก็เคยลำบากมาก่อนนะครับ เริ่มแรกเขาทำงานเป็นเซลล์ หลังจากนั้นก็ไปเป็นทหารและไปออกรบที่เวียดนาม หลังจากนั้นก็เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว พอทำไประยะนึง ก็เกิดปัญหาขึ้นจึงต้องเลิกกิจการ กลายมาเป็นคนถังแตก เขากับภรรยาของเขาเคยเกือบจะยอมแพ้แล้ว ในเวลานั้นเขามี 2ทางเลือก 1.เดินตามความฝันสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจต่อไป หรือ หันหลังให้ความฝันและเดินกลับไปเป็นพนักงานประจำ แน่นอนครับว่าวันนี้เขาคงรู้สึกดีมากที่ไม่ยอมแพ้กลางคัน เพราะปัจจุบันตอนนี้เขาเป็นมหาเศรษฐีแล้วครับ จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการเขียนหนังสือและจัดอบรมสัมมนาต่างๆ แล้วเพื่อนที่อ่านบทความนี้อยู่ล่ะครับรู้สึกเหนื่อยหรือรู้สึกท้อจากเหตุการณ์บางอย่างบ้างไหมครับ ยังไงซะก็อย่าพึ่งยอมแพ้นะครับเพราะความสำเร็จอาจจะรออยู่ตรงข้างหน้าก็ได้ ใครที่อยากทราบว่าหนังสือที่เขาแต่งเป็นอย่างไรก็ลองไปหามาอ่านกันดูได้นะครับ

             สำหรับใครที่อยากอ่านบทความที่ช่วยพัฒนนาความรู้ทางด้านการดำเนินชีวิต ลองเข้าไปดูที่ www.iteen.in.th ดูนะครับ เป็นเว็บส่วนตัวของผมตั้งขึ้นมาเพื่อที่หวังว่าจะเป็นแนวทางในการพัฒนาความรู้ใหเกบเยาวชน
                             


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×