ตอนที่ 15 : ตอนที่ 5 ร้ายแต่ทำไมยังรัก (02)
ตอนที่ 5 ร้ายแต่ทำไมยังรัก
มันทรมาน! เมื่อท่านอยู่ตรงหน้าแต่ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาพูดคุยกับเขาได้เหมือนก่อน
ไม่เข้าใจ! ทำไมเพียงฟ้าถึงต้องทำร้ายกันเพียงนี้ ความไว้เนื้อเชื่อใจสูญสลายไปในพริบตา ความเจ็บปวดแทรกกลางเข้ากระทบใจอย่างจัง สองมือกำกันเป็นหมัด อยากจะลงโทษอดีตภรรยามากกว่าเดิม อยากจะฆ่าให้ตายด้วยซ้ำ เพียงพึงระลึกอยู่เสมอว่าทุกชีวิตมีค่า
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น! ภรรยาไร้รักของเขายังต้องทำหน้าที่แม่ หลังเรียนรู้บทเรียนอันสาสม หวังว่าเจ้าหล่อนจะเข็ดขยาดไม่กล้าคิดทำอีก ใจหนึ่งอยากตัดขาดความสัมพันธ์เมื่อครั้งไม่รู้ว่ามีลูกสาวอีกคน แต่เมื่อมองความใสซื่อของเพียงฟ้า ความคิดถึงของสีครามกลับทำให้เขาจำใจเปลี่ยนแผนนิดหน่อย
ความสัมพันธ์ของแม่ลูกคือสายใยซึ่งตัดอย่างไรก็ไม่ขาดและตนเองไม่คิดจะตัด ลึกๆ ภายในอกเชื่อว่า เพียงฟ้าเป็นแม่ที่ดี
ชายหนุ่มนั่งอยู่กับนพนนท์สักพักใหญ่ ก่อนพาลูกทั้งสองคนกลับบ้านพักเนื่องด้วยปลายฟ้าเริ่มจะงอแงแล้ว ในทุกวันนี้ชีวิตมีเป้าหมายมากขึ้นกว่าเดิม ต้องดูแลยอดดวงใจทั้งสองให้เติบใหญ่พลางทำสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อนึกถึงอนาคตของตนเองและเพียงฟ้า
การหย่าขาดเป็นหนทางที่ดีที่สุด ป้องกันภัยร้ายๆ ได้โดยอย่างยิ่งจากพศินและยามบ่ายสีครามกับปลายฟ้าก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ชายหนุ่มจึงใช้โอกาสนี้ออกไปพบเชลยใจ
เมื่อมาถึงเขาปรายตามองอดีตคนรัก สภาพของเจ้าหล่อนแลน่าเวทนา ถึงไม่มีน้ำตาไหลออกมาแต่ดวงตาอิดโรยพบความเศร้า จนจู่ๆ ใจมีอาการสั่นขึ้นมาดื้อๆ
“ฉันกำลังจะพาลูกไปสมัครเรียน หากเธออยากเห็นก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ” ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงกล่าวถ้อยคำนี้ออกไปประหนึ่งต้องการเห็นเพียงฟ้าดีขึ้น และสีครามถึงเวลาต้องเข้าศึกษาแล้ว ก่อนหน้านี้คงต้องถามรายละเอียดกับหญิงสาวเขาจะได้จัดการอย่างถูกต้อง
“ฟ้าอยากเห็น” แววตาใสๆ เปล่งประกายขึ้นในทันตา ก่อนติณภพจะลากเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้า คนทั้งสองได้สบตากันจังๆ เป็นครั้งแรกโดยปราศจากอาการชิงชัง มีแค่ความรักทอดผ่านเนื่องด้วยเกี่ยวข้องกับดวงใจ จากนั้นหญิงสาวค่อยๆ เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง
ติณภพพยักหน้าแล้วเก็บรายละเอียด ขณะใจยังไม่เลิกสั่นในหนนี้ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้นซึ่งเขาพยายามปิดซ่อน
“ฟ้าจะรอเจอลูกนะคะ” ความหวังเพิ่มพูนเป็นภูเขา นัยน์ตาทอดมองอดีตสามีอย่างสุขหัวใจ แต่เธอไม่แน่ใจเลยว่าเขาจะทำดังที่บอกไว้หรือไม่ เมื่อไรการเอาคืนถึงจะสิ้นสุด เพียงเท่านี้ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่ความทรมาน คิดถึงสีครามกับปลายฟ้าใจจะขาดอยู่แล้ว
นั่นทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขา ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องทำ แต่อยากจะเอ่ยคำขอโทษออกจากปาก อยากให้รับรู้ว่าตนเองทรมานไม่ต่างกันหรอก
“อื้ม” ติณภพครางรับในลำคอ สีหน้าปรับให้เรียบเฉยไม่อยากให้เพียงฟ้าเห็นถึงความรู้สึกภายใน จากนั้นลุกขึ้นเดินออกจากบ้าน ทุกวันจะมาที่นี่ เพียงวันละไม่กี่นาทีเท่านั้นพร้อมก้าวเท้าขึ้นรถตรงกลับบ้านไปหาลูก
ติณภพอยากจะร้าย แต่ไม่ใช่ประเภทมุทะลุ บางทีต้องแบ่งรับแบ่งสู้ บีบคั้นมากไปเชลยใจจะทนไม่ไหวเอา เนื่องจากอย่างไรเพียงฟ้าต้องกลับไปทำหน้าที่แม่ของลูกอีกครั้ง อยากให้เด็กๆ สัมผัสถึงความรักความอบอุ่นของคำว่าครอบครัว ถึงมันเหมือนกำลังหลอกพวกแกอยู่ก็ตาม และที่ทำให้เขาลดอาการกระด้างเพราะแววตาของลูกที่แสดงออกว่า ‘คิดถึงแม่มาก’
‘ถ้าเธอไม่ทำให้ฉันต้องเสียทุกคนไป ฉันคงไม่ทำกับเธอแบบนี้เพียงฟ้า’ เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งมีความรู้สึกโกรธแค้น ฉะนั้นยากยิ่งถ้าจะให้อภัยความผิดที่หญิงสาวก่อนไว้ ทว่านี้ยังไม่ครึ่งหนึ่งความเจ็บของตนเอง ดังนั้นยังมีอีกหนึ่งบทเรียนเฝ้ารอเจ้าหล่อนอยู่เร็วๆ นี้
เพียงฟ้าระบายยิ้มสุขระคนเศร้า แต่จะไม่ปล่อยน้ำตาให้ร่วงรินอีก ถึงเวลาต้องเข้มแข็งไม่ว่าจะเจอกับอีกกี่บทลงโทษ
มันสาสมกันแล้วใช่หรือเปล่า...กับสิ่งที่ครอบครัวของเธอทำไว้กับเขา โดยเฉพาะตนเองหวนคิดถึงเรื่องนั้นยามใด ใจปวดร้าวอย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถระบายให้ใครรับรู้ เนื่องด้วยมันเป็นความลับซึ่งจะถูกฝังลึกไปในหัวใจ ไม่ยินยอมให้ผู้ใดขุดขึ้นมาเปิดเผย
เมื่อตะวันดวงโตลดแสงลงพร้อมคล้อยต่ำจากฟากฟ้า ปนัสยาก็มานั่งอยู่ในห้องอาหาร สีหน้ายิ้มแย้มให้กับบิดา ถึงวรพรตไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด แต่รักและเทิดทูนท่านเป็นอย่างมาก ถ้าชีวิตน้อยๆ ของลูกนกพึ่งหัดบินไม่มีคนคอยโอบอุ้ม ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง
“ปัน”
“คะคุณพ่อ” เสียงของวรพรตดังขึ้น น้ำเสียงนั้นมีความจริงจัง
“พ่ออยากให้ปันไปภูเก็ตกับธเนศ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ปนัสยาเริ่มทำหน้าเครียดพร้อมใจเต้นตึกตัก นึกถึงใครอีกคนขึ้นมา เขาเองอยู่ที่นั่นเหมือนกัน
“พอดีเกิดเรื่องขึ้นกับลูกค้าของเรา พ่ออยากให้ปันไปช่วยแก้ไขปัญหา” บางทีถึงเวลาแล้วที่ตนเองต้องลามือจึงอยากให้ปนัสยาเรียนรู้งาน ส่วนวาคิม รายนั้นหายห่วงได้พร้อมจะกลับมาช่วยเหลือเสมอ เพียงแต่ตนเองอยากจะให้ลูกสะใภ้ก้าวเข้ามามีตำแหน่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
“ปันจะทำได้หรือคะ” หญิงสาวไม่มั่นใจในตัวเองเลย เธออ่อนหัดสำหรับเรื่องพวกนี้
“ทำได้สิลูก พ่อให้ธเนศไปเป็นเพื่อน เรียนรู้งานจากพี่เขานะ ธเนศเป็นอีกหนึ่งคนซึ่งตนเองไว้ใจเป็นอย่างมากและให้ความเอ็นดู “พ่อแก่แล้ว พ่ออยากให้ปันเริ่มเรียนรู้งาน” สาขาย่อยของบริษัทส่งออกมีปัญหาเรื่องการขนส่ง บวกกับเรื่องของพนักงานถึงอยากให้ปนัสยาไปดูแลพร้อมจัดการ
“แล้วคุณคิมละคะ” กังวลในเรื่องของสามี ไม่อยากทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาเขา อีกอย่างไม่เคยหวังในทรัพย์สินเงินทองพร้อมทั้งเข้าใจในความหมายของบิดา
“คิมมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เขารักงานนั้น พ่อไม่อยากบังคับ” ตอนนี้ธุรกิจของวาคิมกำลังไปได้สวยจึงไม่อยากให้มากังวลเรื่องนี้ อีกอย่างตกลงกับลูกชายไว้แล้วว่าจะยกบริษัทส่งออกให้กับปนัสยา ฉะนั้นหญิงสาวจึงต้องก้าวเท้าเข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวในฐานะผู้บริหารคนต่อไป
คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจ ก่อนระบายยิ้ม
“เราจะช่วยพ่อได้ไหม” วรพรตถามอย่างไม่กดดัน เชื่อว่าหญิงสาวต้องตอบตกลง
“ได้ค่ะ” ปนัสยาพยักหน้าอีกรอบ การได้ช่วยแบ่งเบางานของวรพรตถือว่าไม่ใช่เรื่องต้องมานั่งคิดมาก แค่ประหม่ากลัวทำให้บริษัทต้องชะงักเมื่อตนเองไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้เท่าไร
“ไปพักที่รีสอร์ตของคิมนะลูก” วรพรตยิ้มอย่างมีความหมาย เมื่อลูกสาวไม่ยอมรุกคืบลูกชายเสียที ดังนั้นเขาจึงต้องทำตัวเป็นกามเทพ ทว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรไม่คาดหวังนัก เนื่องด้วยใจของวาคิมแข็งกระด้าง ช่วยกันกะเทาะมาหลายปียังไม่หลุดออกแม้สักนิด
เจ้าของร่างระหงยิ้มแห้งๆ เคยไปรีสอร์ตของชายหนุ่มเพียงแค่สองถึงสามครั้งพร้อมตื่นเต้นเพราะอยากพบหน้ากับสบสายตากัน แค่ไม่แน่ใจนักว่าสามีจะยินดีที่ได้เจอกันหรือไม่ ส่วนวรพรตทำแค่ยิ้ม หลังกินอาหารเย็นเสร็จก็ขึ้นห้องนอนเพื่อต่อสายหาลูกชาย
“ทำไมถึงให้ปันมากับธเนศครับ” เพียงแค่บอกกล่าว วาคิมถามสวนกลับบิดามาทันที
“แล้วให้ไปกับใครละคิม” วรพรตถามไม่ได้จะเล่นแง่ แต่ธเนศจะเป็นคนสอนงานให้กับปนัสยาโดยที่เขาสามารถวางใจได้
“มันคงไม่ดีนัก” ชายหนุ่มใช้น้ำเสียงเครียดกว่าเดิม ไม่เข้าใจความคิดของบิดาเลยสักนิดหรือว่าไว้ใจคนของตัวเองมากขนาดนั้น แต่เขาอดห่วงไม่ได้
“พ่อเชื่อใจปันและธเนศ” คิดว่าตนเองดูคนไม่ผิด
“ผมเชื่อใจปัน แต่ธเนศจะไว้ใจได้แค่ไหน เรื่องความรักมันไม่เข้าใครออกใคร” ความดีของธเนศตนเองเชื่อหมดใจ แต่เรื่องความรักยากยิ่งจะคาดเดา ส่วนตัวเขารับรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีจึงหวิวไหวในความรู้สึก มีความกังวลเข้ามาสมทบและคิดว่าน่าจะป้องกันดีกว่ามานั่งแก้ไข
“หึงหรือ” คนเป็นบิดาถามลองใจ แค่เห็นวาคิมแสดงถึงความเป็นห่วงปนัสยาเท่านี้ถือว่าดีแล้ว อย่างน้อยลูกชายไม่ได้ไร้ใจเสียทีเดียว
“เปล่าครับ ผมแค่เห็นว่าไม่สมควร” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่อยากให้บิดาเข้าใจผิด “พ่อก็รู้ดีนี่ครับว่าผมรักใคร” พอคำนึงหาใจนั้นเต้นแบบเจ็บๆ ร้าวลึกอยู่ในอก แต่เขายังยินดีจะรักอยู่ร่ำไป ขอแค่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันพร้อมร่วมอวยพรขอให้รักกันไปยืนนาน ไม่คิดช่วงชิงกลับคืนมา
วรพรตผ่อนลมหายใจ เมื่อไรกันลูกชายจะเลิกใจแข็งและไม่ได้พูดอะไรอีก ทว่าจะทำตามสิ่งที่ตัดสินใจไป อย่างไรปนัสยาก็ต้องไปภูเก็ตกับธเนศ
-เกี้ยวเกล้า-
1,432 ความคิดเห็น
-
#219 Charlee Rish (@0816914959) (จากตอนที่ 15)วันที่ 18 ธันวาคม 2559 / 21:25เครียด ..#2190
-
#112 ไรเฟิล (@rifle_ke) (จากตอนที่ 15)วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 / 12:58กลั้นใจอ่าน หน่วงทั้งเรื่อง เง้ออออ#1120
-
#111 เมเปิ้ล (จากตอนที่ 15)วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 / 11:10รักมากก็ไม่ต้องออกความเห็นว่าจะไปกะใครแล้วใครไว้ใจได้หรือป่าว#1110