ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจน้องนาง

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่2 ถึงคนบนฟ้า ฝากข้อความถึงเธอ 2/2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 66


    เสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งฟังดูเรื่อยๆ สายลมเย็นๆ โชยมาเอื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอนั้น พอจะช่วยคลายความร้อนรุ่มในหัวใจของขนิษฐาได้บ้าง เธอหาโอกาสหลบออกมาจากบ้านพัก สถานที่ที่พี่ชายของเธอและคู่รักใช้เป็นที่แสดงความรักกันอย่างหวานชื่น แต่เธอกลับรู้สึกต่างออกไปในที่ที่มีเขาสองคนอยู่ มันทำให้เธอทั้งอึดอัด หายใจไม่ออก ความเสียใจ น้อยใจมัดอัดแน่นจนเจ็บปวดใจ เธอถึงได้หลบออกมาสูดอากาศสดชื่นภายนอก

    นึกถึงวันนั้น ในห้องนอนของชายหนุ่ม มีเพียงเธอและพี่ชายอยู่ด้วยกันสองคน เธอรู้สึกดีกว่าวันนี้นึกถึงสายตาคู่นั้นแล้ว เป็นสิ่งที่พอหล่อเลี้ยงหัวใจที่มีบาดแผล เหมือนเป็นยาที่คอยบรรเทาเพื่อไม่ให้เรื้อรังไปมากกว่านี้ ขออย่าให้ยาขนานนี้หมดไปก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นเธอคงอยู่ไม่ได้

    เป็นครั้งแรกที่ขนิษฐาได้มาสัมผัสทะเล ได้กลิ่นทะเล ที่เคยตั้งคำถามต่างๆนานา ก็ได้รับคำตอบแล้วในวันนี้ เธอชักจะชอบทะเลเสียแล้วสิ ถ้ามีโอกาสได้มาอยู่ในที่ที่สงบแบบนี้กับคนที่รัก เดินจูงมือกันชมพระอาทิตย์และ..จุมพิต..ท่ามกลางแสงสีทอง แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ขนิษฐาคิดและยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง

    หญิงสาวเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินพร้อมกับปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปตามหัวใจ หนึ่งในความคิดของหญิงสาวก็คือ ที่เขาว่ากันว่า น้ำทะเลเค็ม จะจริงหรือเปล่านะ และเพื่อหาคำตอบหญิงสาวยิ้มซุกซน ใช้นิ้วเรียวนั้นจุ่มลงไปในน้ำทะเล แล้วทำการพิสูจน์

    "อี๊ เค็มจริงๆ ด้วย" ขนิษฐาทำหน้าแหย่เพราะผลในการทดลอง ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะของใครบางคนดังขึ้น ขนิษฐาหันขวับเพื่อมองที่มาของเสียง และเธอก็ได้พบเขา ชายหนุ่มคนหนึ่ง นอกจากพี่ชายของเธอแล้ว เขาก็เป็นอีกคนที่มีรอยยิ้มชวนมอง รูปร่างก็สูงใหญ่ ดูเหมือนจะสูงกว่าคุณพี่เล็กน้อย ผิวคล้ำสีแทน คิ้วเข้ม นัยน์ตาคมยามเมื่อจ้องมองเธอ พาให้รู้สึกแปลก ทั้งเสียงหัวเราะของเขานั้นทำให้เธอประหม่า

    ทางด้านชายหนุ่ม ทันทีที่หญิงสาวก้มหน้าก้มตาจ้องน้ำทะเลเหมือนกำลังจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เอานิ้วจุ่มน้ำทะเล แล้วส่งเข้าปากตัวเอง มันทำให้เขาอึ้ง และอดขำออกมาไม่ได้ เอ็นดูในความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอ "ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะคุณ" ชายหนุ่มนิรนามพยายามอธิบายแก้ตัว เมื่อสังเกตเห็นอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด และเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจของหญิงสาวตรงหน้า พยายามเก็บสีหน้ายิ้มหัวของตน มือหน้ายกกำปั้นขึ้นป้องปาก พยายามกลั้นรอยยิ้ม

    "ทำไมคะ น้องทำอะไรที่มันดูตลกมากนักเหรอ คุณถึงได้ขันนัก" เมื่อหญิงสาวยังคงโกรธๆ เขาจึงอธิบายต่อ

    "เปล่าครับ คุณไม่ได้ดูตลก แต่ทำไมคุณต้องทำ.เอ่อ.แบบเมื่อครู่...เอาน้ำทะเลมาชิม" ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ขณะทำท่าทางเหมือนตอนที่หญิงสาวกระทำ "ก็น้องสงสัย ก็ต้องพิสูจน์สิคะว่าน้ำทะเลมันเค็มอย่างที่เขาว่ากันจริงหรือเปล่า น้องเพิ่งเคยมาทะเลครั้งแรก ก็เลยทำอะไรแบบที่คุณต้องขัน" หญิงสาวพูดด้วยอารมณ์เสียใจ นึกอับอายเมื่อเดาว่าชายตรงหน้ากำลังดูถูกเธอ

    ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงรีบขอโทษและแก้ความเข้าใจผิดโดยเร็ว เพราะเขาก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่ดีกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก...เขายังอยากทำความรู้จักกับเธอ สาวน้อยที่ทำให้เขาประทับใจตั้งแต่แรกพบ

    เมื่อชายแปลกหน้าเอ่ยปากขอโทษ ขนิษฐาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องโกรธกัน..สู้ทำใจและทำความรู้จักเพื่อนใหม่ดีกว่า เพราะเธอเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน และจากที่เธอใช้ใจสัมผัส ก็ถือว่าเขาก็เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี สร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรูอยู่แล้ว.

    "ผมชื่อ ธนา ธรรมวิเศษ ยินดีที่ได้รู้จักคุณ..." ธนาแนะนำชื่อตัวเองและนึกถึงชื่อที่สาวน้อยตรงหน้าใช้แทนตัวเองจากบทสนทนาเมื่อสักครู่ "คุณน้องใช่ไหมครับ"

    "ค่ะ น้องชื่อน้อง เอ่อ ไม่สิ ต้องบอกว่า ดิฉันชื่อขนิษฐา บุญพาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" ขนิษฐาแนะนำชื่อตัวเองด้วยรอยยิ้มจริงใจ ธนาก็ยิ้มตอบ รับมิตรไมตรีจากหญิงสาว

     

    ภาพที่เห็นอยู่ไกลๆ นั้นทำให้สมภพหงุดหงิดใจพิกล น้องสาวของเขากับชายหนุ่มแปลกหน้ากำลังพูดคุยและหัวเราะให้กันอย่างสนิทสนม เหมือนคนเคยรู้จักกันมานาน ชายหนุ่มยืนมองทั้งสองอยู่นาน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว "คุณภพ..จะไปไหนคะ คุณภพ" ศศิธรเรียกแฟนหนุ่มที่เดินดุ่มลงไปยังชายหาด ไม่ทันฟังเสียงเรียกจากเธอ จะรีบไหนของเขานะ หญิงสาวคิดในใจ

    เมื่อสนทนากันไปเรื่อยๆ ทั้งสองก็สนิทสนมกันมากขึ้น ในความรู้สึกของขนิษฐานั้น ธนาเป็นผู้ใหญ่ใจดีขี้เล่น คุยสนุก ในขณะเดียวกันก็น่าเคารพ ดังนั้นเธอจึงเรียกเขาว่า พี่ธนา

    "พี่ธนานี่ตลกจังเลย" ระหว่างพูดก็ขำไปด้วย เพราะธนาเพิ่งจะปล่อยมุก สารพันเรื่องราวที่เขาขยันเล่าให้เธอฟัง ทว่าเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นสีหน้าและสายตาดุๆ ของคนที่เดินมาข้างหลังคนมากอารมณ์ขัน เสียงหัวเราะจึงหยุดลง
    ธนานึกแปลกใจกับท่าทีนั้นของขนิษฐา ชายหนุ่มจึงหันหลังกลับไปมอง มองตามสายตาของเธอและแล้วเขาก็ต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็น ชายหนุ่มคนที่กำลังเดินมาคือสมภพ นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังมาแรงในขณะนี้ แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จักเขา ธนาเองก็เช่นกัน เขารู้จักชายหนุ่ม รู้จักดีทีเดียว เพราะอดีตเคยเป็นเพื่อนรัก!

    "ไง คุณสมภพ บังเอิญจังเลยนะ" ธนาเอ่ยทักสมภพก่อน ด้วยรอยยิ้ม "ครับ บังเอิญมาก"สมภพกัดฟันตอบ เดินเข้าไปใกล้กับหญิงสาวคนเดียวในที่นั้น พลางส่งสายตาคาดโทษให้เธอไปด้วย

    "คุณน้อง ตะวันจะตกดินแล้ว ทำไมยังไม่กลับเข้าบ้านอีก" สมภพหงุดหงิดจนต้องหาข้ออ้างมาต่อว่าหญิงสาว
    ธนาที่ยืนมองโดยตลอดนึกสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ จนต้องเอ่ยปากถาม

    “คุณสมภพรู้จักกับสาวน้อยน่ารักท่านนี้ด้วยเหรอครับ" ธนาหยั่งเชิงถาม และในทันใดนั้นเอง สมภพก็รู้สึกว่ามีลูกไฟภายในกายกำลังเดือดปะทุ นึกอยากจะเผาคนตรงหน้านี้ ก็ใครใช้ให้มันมาทำท่าทางแบบนั้นกัน สายตาที่มันมองน้องสาวเขา ผู้ชายด้วยกันย่อมดูออก มันกำลังคิดไม่ซื่ออยู่แน่ๆ " สมภพหงุดหงิดในใจ

    ขนิษฐาที่มองทั้งสองคนเงียบๆ ก็นึกหนาวๆ ร้อนๆ ยังไงชอบกล ระเบิดลูกใหญ่ที่ชายหนุ่มทั้งสองคนใช้ห้ำหั่นกัน ส่งคลื่นร้อนที่เธอเองยังแทบรู้สึกได้ "ว่าไงครับ คุณภพ" ธนาถามย้ำเมื่อยังไม่ได้คำตอบนอกจากสายตาที่จ้องมองมา เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงหันไปเอาคำตอบจากหญิงสาวหนึ่งเดียวแทน

    "ว่าไงครับคุณน้อง พี่คงไม่ได้คำตอบจากคุณสมภพแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นพี่ถามเธอดีว่า เธอคงยินดีตอบพี่ใช่ไหมครับ" ธนาพูดด้วยรอยยิ้มเช่นเคย "เอ่อ คือ น้องเป็น.."

    "เขาเป็นคนที่ฉันรัก!" ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบ สมภพก็ต่อประโยคนั้นเสียเอง ขนิษฐาและธนาได้อึ้งกับประโยคที่โพล่งออกมาจากปากชายหนุ่ม ในความรู้สึกของหญิงสาว ทั้งตกใจและแปลกใจ เสียใจเป็นที่สุด ด้านธนา เขารู้สึกเสียดาย จากท่าทางและคำพูดของสมภพเขาก็พอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร

    ขนิษฐาเป็นคนร่าเริง ใสซื่อ มองโลกในแง่ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุขตามไปด้วย เธอไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่เขาเคยรู้จัก แรกๆ ก็สวยดี แต่พอนานเข้าก็เริ่มเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขาคิดเอาไว้ว่าเขาจะหาโอกาสสานสัมพันธ์ในภายหลัง แต่มาถึงตรงนี้ เมื่อเธอมีเจ้าของแล้ว เขาก็ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องปล่อยไป คนอย่างเขา ไม่เคยยุ่งกับคนที่มีเจ้าของ และที่สำคัญเจ้าของที่ว่า คือ สมภพ ความจริงข้อนี้ ทำให้เขาต้องตัดใจโดยเด็ดขาด

    "ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม คนนี้ ฉันทั้งห่วงแล้วก็...หวง..มากด้วย" สมภพพูดเน้น พลางโอบไหล่หญิงสาวเข้ามาแนบกาย "คุณพี่" ขนิษฐาตกใจกับการกระทำนั้นเป็นอย่างมาก เงยหน้ามองใบหน้าด้านข้างของคนพูด ก็พบเพียงความสงบเรียบเฉย แต่สายตาคู่นั้นไม่เหมือนกัน

    “คุณพี่คะ น้องว่าเราเข้าบ้านกันเถอะค่ะ” ขนิษฐารีบชวนสมภพกลับที่พัก หาทางออกไปจากสถานการณ์ตรงหน้าให้เร็วที่สุด

    “ต้องขอโทษพี่ธนาด้วยนะคะ น้องคงต้องขอตัวก่อน ยังไงถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก สวัสดีค่ะ” ขนิษฐาไหว้ลาธนา หลังจากนั้นจึงจูงมือสมภพให้ก้าวตามโดยไม่มีคำพูดใดๆ ระหว่างกัน

    เมื่อมาถึงหน้าบ้าน สมภพก็สะบัดมือออกจากการเกาะกุมของหญิงสาว พานทำให้คนที่ได้รับการกระทำหยาบคายเช่นนั้น ชะงักงัน ไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงความสงสัยและทอดสายตามองชายหนุ่มที่เดินกระแทกส้นเท้าขึ้นบันไดไป

    เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร สมภพทำเหมือนว่าเธอไม่มีตัวตน ทำเหมือนกับว่าเธอไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าเขา ไม่พูด ไม่มองหน้า แต่กับศศิธรเขากลับเอาอกเอาใจเธอสารพัด ขยันหยอดคำหวาน ตักโน่นตักนี่ให้ เหมือนกับว่าโลกนี้มีเพียงเขาสองคน ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นส่วนเกิน

    ศศิธรนึกแปลกใจ เมื่อสบกับความมึนตึงกันระหว่างสองพี่น้อง ฝ่ายพี่ก็เอาแต่พูดกับเธออย่างกระตือรือร้นโดยไม่สนใจฝ่ายน้อง ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เกิดอะไรขึ้น ศศิธรได้แต่หาคำตอบในใจ

     

    ถึงคุณพี่ที่เคารพรัก
    น้องไม่เข้าใจเลยว่าคุณพี่เป็นอะไร โกรธน้องเรื่องอะไรหรือคะ ทำไมไม่บอก ไม่ดุด่าว่ากล่าวกันตรงๆ คุณพี่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมต้องทำเหมือนน้องไม่มีตัวตน ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้น้องเจ็บที่สุดก็คือการเมินเฉย แม้แต่หน้าน้อง คุณพี่ก็ไม่อยากมองเชียวหรือ ช่วยบอกน้องที...

    เฝ้ารอด้วยรัก
    น้อง ขนิษฐา บุญพา

     

    เมื่อได้ระบายสิ่งที่เก็บกดอยู่ในใจ ให้พี่ชายได้รับรู้ผ่านตัวหนังสือแล้ว น้ำตาที่เหมือนจะเหือดแห้ง ก็เอ่อล้นขอบตาขึ้นมาอีกครั้ง เราต้องทนกับความรู้สึกแบบนี้ไปอีกถึงเมื่อไร หญิงสาวเงยหน้ามองท้องฟ้า คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ทุกอย่างดูอึมครึม อากาศร้อนอบอ้าว ชวนให้หม่นหมอง ไม่สบายตัวเช่นเดียวกับหัวใจเธอในยามนี้ มืดมน มองไม่เห็นทางใดเลย...

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×