คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 ถึงคนบนฟ้า ฝากข้อความถึงเธอ1/2
บทที่2 ถึงคนบนฟ้า ฝากข้อความนี้ถึงเธอ
ถึงคนบนฟ้า หลังจากวันนั้นที่คุณศศิเธอมาเยี่ยมน้อง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพี่กับคุณศศิก็คืบหน้าไปมาก บางวันคุณพี่ก็ออกไปรับเธอมารับประทานข้าวที่บ้าน บางวันคุณพี่ก็ทำตัวเป็นแขกบ้านคุณหญิงพิมพ์ศรี ทั้งออกงาน เต้นรำ เรียกได้ว่าตอนนี้ทั่วทั้งกรุง เขาอิจฉาคู่นี้กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งน้อง!!! ยิ่งคุณพี่ชอบคุณศศิเธอมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่า คุณพี่จะไม่มีเวลาให้น้องมากขึ้นเท่านั้น
คนบนฟ้ารู้ไหมคะ น้องเหงา ทั้งน้อยใจคุณพี่สารพัด คนบนฟ้าคงหาว่าน้องไม่มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ แต่น้องรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะ ทุกครั้งที่เธอมาที่บดินทร์วงศ์ พร้อมพี่ชาย...ทุกครั้งที่เขาจับมือกัน... พูดคุยกัน หรือหัวเราะให้กัน รอยยิ้มที่พวกเขาส่งให้กันอย่างหวานชื่นนั้น น้องกลับรู้สึกขมขื่น น้องคงต้องเสียพี่ชายให้กับคุณศศิเธอแล้วใช่ไหมคะ หรือว่าน้องจะเป็นโรคหวงพี่ชายขึ้นสมองก็ไม่รู้ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่น้องก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นความสุขของคุณพี่ น้องก็พร้อมที่จะทนอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ตลอดไป คนบนฟ้าช่วยเป็นกำลังใจให้น้องด้วยนะคะ
น้อง ขนิษฐา บุญพา
หลังจากเขียนบันทึกประจำวันเสร็จ ขนิษฐาก็ออกมายืนที่ระเบียงห้องนอนของตน พร้อมนึกถึงเรื่องราวต่างที่เพิ่งบอกเล่าให้คนบนฟ้าฟัง เธอมักจะเขียนความรู้สึกต่างๆ ผ่านตัวหนังสือ เหมือนกับเล่าให้เพื่อนของเธอฟังอยู่เป็นประจำ เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องสุข เศร้าต่างๆ รวมทั้งเรื่องของพี่ชายที่เธอรักมากที่สุดคนนั้นด้วย
ระหว่างที่ยืนทอดอารมณ์อยู่นั้น ขนิษฐาก็เห็นรถของสมภพ เพิ่งเคลื่อนเข้ามา เจ้าของรถเปิดประตูออกมา พร้อมกับผิวปากเป็นเพลง ดูเหมือนคนที่มีความสุขยิ่งนัก แต่อารมณ์คนที่มองจากระเบียงลงไปกลับแตกต่าง หญิงสาวถอดสายตาออกมา เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน คืนที่ไม่เห็นดาว นึกบอกความรู้สึกต่อคนบนฟ้า "คนบนฟ้าเห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าพี่ชายกำลังตกอยู่ในห้วงของความรัก คงมีความสุขมากสินะ" เมื่อขนิษฐาคิดถึงตรงนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่คาดคิด
"นี่เราร้องไห้เหรอเนี่ย" ปลายนิ้วเรียวลูบเช็ดน้ำสีใสที่ตกต้องแก้ม
ทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมถึงไม่ยินดีที่พี่ชายจะมีความสุขล่ะ ทำไม ทำไม!!!!!!!!
เช้าวันต่อมา ขณะที่ขนิษฐากำลังตัดดอกกุหลาบอยู่ในสวนหลังบ้าน เพื่อนำไปจัดใส่แจกันดังเช่นทุกวัน สมภพก็เดินเข้ามาหาเธออย่างรีบร้อน "ยัยน้อง เธอต้องช่วยพี่นะ" สมภพดึงมือหญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับดอกไม้เข้ามากุมไว้แนบอก
"อะไรกันคะคุณพี่ จะให้น้องช่วยอะไร ทำไมดูรีบร้อนจัง" ขนิษฐาถามอย่างแปลกใจ
"คือแบบนี้นะ พี่อยากพาคุณศศิเธอไปหัวหิน" เมื่อได้ยินชื่อศศิธรหญิงสาวก็อดน้อยใจขึ้นมาอีกไม่ได้
"แล้วคุณพี่มาบอกน้องทำไมคะ คุณพี่อยากพาเธอไป ก็ไปสิคะ" ขนิษฐาพูดอย่างงอนๆ แล้วหันไปสนใจดอกไม้ต่อ
"โธ่...ก็พี่อยากให้น้องไปด้วย ถ้าไปกันสองคน คุณศศิเธอจะเสียหาย" เมื่อฟังประโยคนั้นขนิษฐาก็หันมองหน้าสมภพ ด้วยอยากจะทราบว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
"ว่าไงล่ะคุณน้อง ตกลงเธอจะช่วยพี่ใช่ไหม" เมื่อเห็นว่าขนิษฐาไม่ตอบ เอาแต่จ้องหน้าตน สมภพเลยยิ่งร้อนใจเข้าไปใหญ่ "โธ่ อย่านิ่งแบบนั้นสิ พี่ร้อนใจนะ" เมื่อไม่ได้คำตอบจากน้องสาว สมภพจึงเขย่าแขนหญิงสาวเบาๆ
ขนิษฐาตื่นจากภวังค์ แล้วตอบชายหนุ่มอย่างตัดสินใจได้ "น้องจะว่าอะไรได้ล่ะคะ ถ้ามันทำให้คุณพี่มีความสุข น้องก็จะทำค่ะ” ขนิษฐาตอบตัวเองว่าเธอจะทำ แม้ว่าเธอจะเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม "ขอบคุณ ขอบคุณเธอมาก...น้องรัก" สมภพสวมกอดขนิษฐา ใบหน้านั้นยิ้มทั้งปากและแววตา เพราะสมหวัง สักพักจึงคลายอ้อมกอด
"เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณศศิเธอก่อน เธอคงจะดีใจ แล้วเจอกันจ้ะ" พูดจบสมภพก็รีบเดินแกมวิ่งออกไป พร้อมกับสายตาเศร้าๆ คู่หนึ่งที่ทอดมองตามไม่ห่าง
น้องเหรอ.ใช่สินะก็เราเป็นน้องสาวนี่นะ จะหวังอะไรไปมากกว่านี้
คืนนั้นที่ห้องนั่งเล่น ขณะที่คุณบดินทร์ กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ คุณหญิงเกสรกำลังนั่งปักลายดอกไม้เล็กๆ บนปลอกหมอนข้างกายผู้เป็นสามี ขนิษฐาก็กำลังนั่งพับเพียบ ร้อยมาลัยอยู่ใกล้ๆ กัน สมภพก็เดินเข้ามาพอดี ด้วยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คุณหญิงเกสรจึงทักลูกชายของตน
"แหม่ ตาภพ ยิ้มหน้าบานมาเลยนะ มีข่าวดีอะไรพ่อลูกชาย" สมภพยิ้มน้อยๆ กับคำพูดของมารดา ตรงเข้ากอดเอว เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ แล้วบอกข่าวดี
"พรุ่งนี้ ผมจะพาคุณศศิเธอไปบ้านพักหัวหินของเรานะครับ" เมื่อคุณหญิงเกสรได้ยินเช่นนั้นก็ปลื้มใจที่แผนการจับคู่ของตนประสบความสำเร็จ ทั้งยังไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะดูเหมือนลูกชายของตนจะสานสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างเต็มใจ "ผมขออนุญาตพายัยน้องไปด้วยนะครับ จะได้ไปเป็นเพื่อนคุณศศิเธอ"
"ดีแล้วล่ะจ้ะ ยัยน้องไปด้วย หนูศศิเธอจะได้ไม่เสียหาย ยัยน้องก็จะได้ไปพักผ่อนซะบ้าง" คนพูดหันไปมองขนิษฐาที่ก้มหน้าก้มตาร้อยมาลัยอยู่ แต่ที่จริงใครจะไปรู้ว่าหญิงสาวแอบฟังอยู่อย่างสนใจมากทีเดียว
"แล้วนี่ทานอะไรมาหรือยัง ถ้ายังก็ไปก็ไปอาบน้ำ แล้วลงมาทานข้าว วันนี้ยัยน้องทำกับข้าวของโปรดเราทั้งนั้น"
"ว๊า เสียดายจัง ผมทานกับศศิมาจนแน่นไปหมดแล้วล่ะครับ คงจะไม่ไหว" ใบหน้าที่ก้มมองมาลัยในมือนั้นถึงกับบึ้งตึง คิ้วขมวดและกัดริมฝีปากด้วยความหมั่นไส้คนหน้าบาน เก็บกดอารมณ์ไม่พอใจนั้นไว้ ทีหลังจะไม่ทำให้คุณพี่ทานแล้ว!!!
หลังจากที่ทำใจอยู่นาน ข่มอารมณ์โกรธและน้อยใจต่างๆ ได้แล้ว ขนิษฐาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงสมภพ เพราะทุกคืนก่อนนอนเธอจะต้องดูแล และตรวจความเรียบร้อยในห้องของชายหนุ่มเป็นประจำ หญิงสาวจึงเคาะประตูห้องนอนสมภพเบาๆ "คุณพี่คะ คุณพี่"
หลังจากเรียกสักพักก็มีเสียงตอบรับอนุญาต แต่เมื่อก้าวเข้าไปภายในกลับไม่เห็นเจ้าของห้อง "สงสัยกำลังอาบน้ำ" ขนิษฐาจึงนำพวงมาลัยที่เตรียมมา วางไว้ข้างหมอน แต่ก็ต้องสะดุ้งด้วยมีมือข้างหนึ่ง เข้ามาจี้ที่เอว "กรี๊ด คุณพี่ ไม่เอาค่ะน้องไม่เล่น"
"เสร็จพี่แน่ น้องรัก ฮึฮึ" เสียงหัวเราะของเจ้าห้องกลบเสียงเล็กๆ ของขนิษฐาที่พยายามขอร้อง..
ภาพสองพี่น้องที่หยอกล้อกันไปมาภายในห้องเล็กนี้ ในสายตาของคนภายนอกอาจจะมองว่าช่างเป็นภาพของพี่น้องที่รักกัน พี่แกล้งน้อง น้องก็ปัดป้อง เสียงประท้วงเล็กๆ ผสานกับเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ชอบใจที่ได้แกล้งน้องสาว ฟังแล้วช่างไพเราะ แต่จริงแล้วหรือที่ความรู้สึกของเขาทั้งสองเป็นดังเช่นพี่น้องทั่วไป ไม่มีความรู้สึกอื่นเจือปน
ระหว่างที่ฝ่ายหนึ่งวิ่งเข้าใส่ อีกฝ่ายวิ่งหนีทั้งปัดป้อง มือแข็งแรงคู่นั้นที่เอาแต่จะจิ้มเอวเล็กๆ ฝ่ายที่วิ่งหนีไม่ทันระวัง สะดุดขาตัวเอง กำลังจะล้มลงไปบนพื้นห้อง ฝ่ายไล่ตามก็รีบเหนี่ยวเอวหญิงสาวขึ้น ด้วยความเป็นห่วง แต่กลับไม่ทันการณ์ ทั้งสองล้มลงไปด้วยกัน ท่ามกลางพรมผืนนิ่ม ใบหน้าของคนทั้งสองยามนี้ใกล้กันมาก ลมหายใจรินรดกัน พวกเขารับรู้ถึงลมหายใจของกันและกันได้ ด้วยอาการเหนื่อยหอบจากการวิ่งไล่กันเมื่อสักครู่ แต่เมื่อตั้งสติได้ ฝ่ายที่วิ่งหนีก็แทบลืมหายใจ จ้องมองคนตัวใหญ่ที่ทาบทับอยู่บนตัวของตน ด้านชายหนุ่มที่วิ่งไล่ก็เอาแต่จ้องคนตัวเล็กที่ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจอยู่ใต้ร่างของเขา
หน้าผากมน ใบหน้าขาวนวลรูปไข่ ผิวละเอียดแดงระเรื่อไม่มีรอยไฝฝ้าใดๆ ให้มัวหมอง ดวงตาหวานซึ้ง และริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอีก มันช่าง... เฮ่อ...ทำไมเขาเพิ่งรู้สึกนะว่าน้องสาวของโตแล้ว โตมาเป็นหญิงสาวที่สวยงาม มีเสน่ห์ น่ารักน่าใคร่ ชายหนุ่มคิด พลันออกจากภวังค์ เรียกสติตนเอง ลุกขึ้นและฉุดหญิงสาวขึ้นมาจากพื้น พร้อมทั้งสำรวจร่างกายโดยทั่ว "โทษที พี่แค่ล้อเล่น น้องเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" สมภพถามขนิษฐาอย่างเป็นห่วง
"เอ่อ ไม่ค่ะ น้องไม่เป็นไร" ขนิษฐาตอบเสียงสั่น ไม่กล้ามองสมภพตรงๆ เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกสติที่กระเจิงกลับมาได้แล้ว จึงบอกจุดประสงค์ที่เข้ามาในห้องนี้แต่แรก
"น้องเอามาลัยมาให้ค่ะ กลิ่นของดอกมะลิจะช่วยให้คุณพี่หลับสบาย" สมภพจดจ้องใบหน้าและริมฝีปากของน้องสาวขณะพูด
ขนิษฐามองไม่ออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไร ถึงเอาแต่จ้องเธออย่างกับคนไม่เคยเจอกันมาก่อนไม่ พานให้ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะวางมือไม้ไว้ที่ใด
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันโดยไม่มีบทสนทนาใดๆ แต่ในความคิดของทั้งสองนั้นไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร จนเมื่อสมภพเป็นฝ่ายเริ่มต้น
"เรานี่น้า เอาแต่ห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองบ้างสิ ดูสิผอมจะแย่แล้ว" พูดจบชายหนุ่มก็โอบเอวหญิงสาวตรงหน้า เพื่อขนาดเอว จากอ้อมกอดที่เขาโอบรัด
การกระทำนั้น สมภพไม่รู้เลยว่าเจ้าของเอวบางจะรู้สึกเช่นไรในเวลานี้ หญิงสาวใจมันสั่นอย่างไม่เคยเป็น “ค่ะคุณพี่ น้องสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้" ขนิษฐาพูดตะกุกตะกัก สมภพก็มองน้องสาวยิ้มๆ
"ดึกแล้ว คุณพี่พักผ่อนเถอะค่ะ น้องขอตัว" ขนิษฐารีบเอ่ย หมุนกายเตรียมเดินออกจากห้อง ทำให้สมภพจำต้องคลายอ้อมแขนเพื่อหญิงสาวไป เตรียมจะเดินออกไปพร้อมกัน ส่งหญิงสาวถึงห้องดังเช่นปกติที่ทำทุกวัน
"เอ่อไม่ต้องไปส่งน้องหรอกค่ะ แค่นี้เอง คุณพี่รีบเข้านอนเถอะนะคะ" ขนิษฐาแตะหลังชายหนุ่มให้เข้าห้องไป สมภพก็เลยไม่อยากขัดใจ "จ๊ะ ฝันดีนะ น้องรัก"
"ฝันดีค่ะ" พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินออกจากตรงนั้นเร็วรี่ หวิดชนโน่นชนนี่วุ่นวายไปหมด เพราะใจไม่อยู่กับตัว แต่ก็ไม่วายสะดุดโต๊ะเล็กๆ ที่วางอยู่ระหว่างทางเดินนั้นเข้าจนได้ และทันได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่มองอยู่ตลอด "ก็ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิม...แม่สาวสวยของพี่" สมภพหัวเราะน้องสาว เดินกลับเข้าห้องไปพร้อมรอยยิ้ม
ถึงคนบนฟ้า
ตาย ตาย น้องต้องตายแน่ๆ ทำไมน้องถึงร้อนขนาดนี้ก็ไม่รู้ เมื่อสักครู่..เอ่อ..น้องก็บรรยายความรู้สึกของตนเองไม่ถูก เพราะน้องก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แววตาของคุณพี่ยามนั้น มันแวววาว หวานซึ้ง น้องไม่อาจถอนสายตาไปจากสายตาคู่นั้นได้เลยจริงๆ แล้วไหนจะสัมผัสของมือคู่นั้นอีกล่ะ ทั้งคำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใยนั้นอีก มันทำให้น้อง..เอ่อ ไม่รู้สิ แต่ทำไมหัวใจมันเต้นแรง มือไม้อ่อนไปหมด แถมหน้าก็ร้อนๆ อีกด้วย คนบนฟ้าจ๋าช่วยบอกน้องที น้องเป็นอะไรไป
น้อง ขนิษฐา บุญพา
ถึงคุณพี่ที่เคารพรัก
นี่เป็นบันทึกหน้าแรกที่น้องเขียนถึงคุณพี่ ไม่รู้ทำไม..น้องต้องเขียนความรู้สึกที่น้องอยากจะบอกคุณพี่ผ่านสมุดบันทึกเล่มนี้ ทั้งๆ ที่เราเจอและพูดคุยกันอยู่ทุกวัน แต่นี่เป็นความรู้สึกที่น้องมีต่อคุณพี่มากมาย มากมายเหลือเกินในส่วนลึกของหัวใจที่น้องไม่กล้าเอ่ยปากบอก ก็คงจะมีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้น้องได้บอก ได้ระบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
คุณพี่คะ น้องดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาเป็นน้องสาวของคุณพี่ ได้มีโอกาสมาเป็นคนที่คุณพี่เรียกว่า..น้องรัก...น้องขอบคุณในความหวังดีทุกๆ อย่างที่คุณพี่มอบให้น้อง น้องซึ้งใจและนึกถึงมันอยู่เสมอ ณ ตอนนี้ คุณพี่คงมีความสุขมากกับการได้รักคุณศศิ น้องดีใจด้วย และก็ขอให้คุณศศิเธอรักคุณพี่มากๆ เหมือนที่น้องรัก..ไม่สิ..ต้องมากกว่าที่น้องรัก น้องถึงจะหมดห่วง คุณพี่ไม่ต้องห่วงนะคะ น้องจะอดทน กับการหวงที่น้องรู้สึกเมื่อไม่นานมานี้ เวลาคงพอจะช่วยน้องได้ ยังไงก็รักษาสุขภาพนะคะ
ปล... ฝากบอกคุณศศิเธอด้วย ถ้าหากเธอดูแลคุณพี่ไม่ดีละก็ ได้เห็นฤทธิ์ของน้องแน่นอน ฝันดีค่ะพี่ชาย
น้อง ขนิษฐา บุญพา
คืนนั้น ขณะที่ขนิษฐาส่งความคิดคำนึงถึงพี่ชาย ส่วนคนที่หญิงสาวกำลังนึกถึงนั้น ก็กำลังคิดถึงเธออยู่เช่นกัน ในความมืดยามค่ำคืน เป็นเวลาที่สิ่งมีชีวิตล้วนหลับใหล ชายหนุ่มเจ้าของห้องกลับลืมตา มือหนาถือพวงมาลัยดอกมะลิ กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วห้อง ทำให้นึกถึงคนที่ตั้งใจทำเพื่อเขา..พี่ชายของเธอ...นึกถึงใบหน้านวล กลิ่นหอมอ่อนประจำตัวน้องน้อยที่เขาคุ้นเคย..ทำให้เขาค่อยๆ เคลิ้ม..เข้าสู่ห้วงนิทราที่แสนหวานในที่สุด...ด้วยความขอบคุณน้องน้อยของเขาเป็นที่สุด ขอบคุณนะ..น้อง..น้องรักของพี่
ความคิดเห็น