ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The House of love [[ คฤหาสน์แห่งรักนี้มิอาจห้ามใจ ]]

    ลำดับตอนที่ #4 : ct_4 นักสืบจำเป็น

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 55





     
    ตอนที่ 4 นักสืบจำเป็น
     


                     ‘จะเริ่มต้นอะไร ยังไง จุดไหนดีน๊า ฐานุครุ่นคิดเกี่ยวกับงานใหม่ที่เจ้านายของเขาได้มอบหมาย สีหน้าเขาเคร่งเครียด เขาใช้มือลูบใบหน้าหลายต่อหลายครั้งเพื่อกระตุ้นสมอง และแล้วด้วยความอัฉริยะในตัวของเขาที่ซ่อนเล้นอยู่ในส่วนลึกในที่สุดเขาก็คิดออกมาว่าจะเริ่มต้นยังไงดี ริมฝีปากเขาคลี่คลายในออกแววตาดูมาไฟขึ้นมาทันที

    โช๊ะเด๊ะฐานุอุทานพร้อมกับดีดนิ้วเสียงดังบนโต๊ะทำงานของตนเองก่อนที่จะเก็บกระเป๋าทำงานแระรีบเร่งออกจากบริษัทไป และไม่กี่วันต่อมาเขาก็ได้ข่าวความคืบหน้าของกรรณพจน์มารายงานเจ้านายวัยหนุ่มของตนเอง

    ชายหนุ่ม หุ่นกำยำ ใบหน้าคมหวาน ผิวใสไร้สิวราวกับพระเอกหนังหลุดออกจากในหนังกอดอกรอบนโต๊ะทำงานในห้องที่มีป้ายติดหน้าประตูกระจกว่า MD

    “เหมือนจะรู้ว่าเข้ามาทำไม” ฐานุเอ่ยคำแรกที่เปิดประตูห้องทำงานของนนเสนเข้ามา
    “อือ...ได้ข่าวมาว่าไงบ้าง”


    “จากการสืบหาข้อมูลของสถาปนิกที่ถูกขนานนามว่ามีฝีมือชั้นเทพในเรื่องการออกแบบสถาปัตยกรรม....”


    “ขอแบบสรุปเลยได้ไหม” สีหน้าของนนเสนเอาจริงจนฐานุไม่กล้าจะเล่าแบบเล่น ๆ ต่อ ฐานุปรับโทนสีหน้าของตัวเองก่อนจะเอ่ยต่อว่า

    “ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในประเทศไทย” แววตานนทเสนเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ฐานุพูดประโยคนั้นออกไปก่อนจะปรับโหมดกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะเขาคิดว่า

    “เขาไปต่างประเทศเหรอ ไปเที่ยว หรือไปทำงาน อีกนานไหมกว่าจะกลับมา”

    “เขาไม่ได้ไปเที่ยวหรือว่าไปทำงานหรอก และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะกลับมา” ประโยคของฐานุสร้างความสงสัยให้กับนนทเสนอีกครั้ง

    “หมายความว่าไง”
    “หมายความว่าตอนนี้คุณกรรณพจน์กลายเป็นบุคคลล้มละลายและก็เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อหาเงินมาปลดหนี้ก้อนสุดท้ายที่มีมูลค่าสิบล้านบาท บ้าน ทรัพสินย์ ทุกอย่างถูกยึดและขายทอดตลาดหมด ครอบครัวแตกแยก ภรรยาและลูกชายคนเล็กเดินทางกลับไปอยู่ภูมิลำเนาที่ภูเก็ต ส่วนลูกสาวคนโตรู้สึกว่าจะทำงานเป็นเซลขายคอนโดฯให้กับ ND Condo ที่กำลังจะมีงานGrand openingในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า”

    “อืมม์.....แหล่งข่าวนี้มาจากไหน” หลังจากฟังฐานุร่ายยาวนนเสนก็หลับมาเพื่อใช้สมาธิตรึกตรองว่าจะทำยังไงต่อไปโดยถามที่มาของแหล่งข่าวเพื่อความมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริงมีมูลมากแค่ไหน

    “เริ่มต้นจากผลงานในโครงการสุดท้ายของเขา แล้วโครงการก็แนะนำให้ฉันไปถามความจากบริษัทที่ทำการยกเลิกสัญญากับเขาในช่วงที่เขาเกิดอุบัติเหตุ แล้วบริษัทนั้นก็บอกให้ไปติดต่อกับทนายพิพัฒน์ ทนายประจำตัว ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากทนายส่วนตัวของคุณกรรณพจน์”

    “โอเค”

    “ฉันเจ๋งใช่ไหมล่ะ” ฐานุยิ้ม

    “แล้วรู้ไหมตอนนี้เขาอยู่ประเทศไหน”

    “เอ่อ... เรื่องนี้ทนายไม่ยอมบอกฉันเลย ฉันถามแล้วน๊า ถามแล้วถามอีกเขาก็ไม่พูด”

    “เพราะ....”

    “เห็นเขาบอกเป็นความต้องการของเจ้าตัวที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”

    “เพราะ”

    “เอ่อ...อันนี้ไม่รู้”

    “เพราะเขาต้องใช้สมองและสมาธิในการทำงาน โครงการที่เขาทำอยู่ได้ข่าวว่าใหญ่พอตัว เป็นการสร้างคฤหาสน์ให้กับมหาเศรษฐีในประเทศบรูไน หลังจากได้รับอุบัติเหตุฝีมือเขาก็ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆจนในที่สุดธุรกิจของเขาก็ตกต่ำและล้มละลายไป แต่งานยักษ์งานนี้รู้สึกว่าเพื่อนสนิทเขาจะเป็นคนเสนองานให้ด้วยความมั่นใจในพรสวรรค์ที่เขามี แน่นอนเพื่อความไว้วางใจที่เพื่อนให้มาและเพื่อได้กลับเข้ามาเป็น 1 ในเทพด้านการออกแบบอีกครั้ง เขาจะต้องทำงานนี้ออกมาให้ดีที่สุด นี่คงจะเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่เขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เนี่ยแหละเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมให้ใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนจะได้ไม่มีใครไปกวนสมาธิและจินตนาการของเขาไง”

    “โห...นี่นายเองก็แอบไปสืบเรื่องนี้มาเหมือนกันเหรอเนี่ยยยย”

    “แต่มีอีกหลายอย่างที่ผมต้องการรู้เกี่ยวกับตัวเขา ยังไงพี่ก็สืบต่อไปแล้วกัน มีอะไรใหม่คืบหน้าก็มาบอกด้วยแล้วกัน”

    “คร๊าบบบบบบ เจ้านาย”

    “อีกอย่างผมอยากได้บ้านหลังนั้น”

    “หมายถึง”

    “ใช่..บ้านของคุณกรรณพจน์ที่ตอนนี้ธนาคารกำลังประกาศขาย พี่จัดการให้ผมที” ว่าแล้วนนทเสนก็เซนต์เช็คไม่ระบุจำนวนให้กับฐานุไปจัดการต่อ

    “นี่นายยังสนใจ.....”

    “ใช่ ผมอยากจะพิสูจน์มือชั้นเทพด้วยตัวของผมเอง”

    “โอเค เดี๋ยวฉันจัดการให้”

    “ครับ” นนทเสนพยักหน้าแววตาบอกว่าไม่มีอะไรที่จะพูดอีก เป็นอันบอกว่าเชิญฐานุออกไปจากห้องทำงานของเขาได้แล้ว

    “โอเค๊ ฉันออกไปทำงานต่อ” นนทเสนยิ้มส่ง

    “เอ่อ...เดี๋ยวพี่ ลูกสาวเขาชื่ออะไรนะ”

    “พลอย” ฐานุหันควับกลับมาทันทีที่นนทเสนเอ่ยถามขึ้นอีก

    “พลอยเหรอ”

    “ใช่ พลอยชมพู บางทีลูกสาวเขาอาจจะทำให้เราได้คุยกับพ่อเขาก็ได้นะ”

    “อืมม์ นั่นสิ”

    “นายยิ้มแบบนี้ หมายความว่า....นายนี่ร้ายไม่เบาเลยน๊า ไอ้เจ้านายของฉัน”

    “ผมไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย”

    “อย่าใช้เสน่ห์นายเปิดทางสวรรค์แล้วกัน”

    “หึ ไม่หรอกน๊า” ฐานุเหมือนจะเดาความคิดของนนทเสนออกไปทางใช้เสน่ห์ส่วนตัวไต่เต้าเอาตัวเข้าแรกเพื่องานแต่ใครจะรู้เล่าว่าแท้ที่จริงแล้วนนทเสนนั้นคิดอะไร ....












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×