ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The House of love [[ คฤหาสน์แห่งรักนี้มิอาจห้ามใจ ]]

    ลำดับตอนที่ #3 : ct_3 ตัวตนของหนุ่มนักรัก

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 55


    3 ตัวตนของหนุ่มนักรัก
     
     
     
    “โครงการขยายอาคารผู้โดยสารสนามบินหลวงพระบางงั้นเหรอ ทำไมแกถึงทำอะไรที่มันไม่สมชื่อเสียงของบริษัทเราเลยสักนิด” อานันท์ตวาดลูกชายนอกคอกตัวเองเสียงดังลั่นในห้องทำงานของท่านประธานบริษัท N2N Engineers CO.,LTD. บริษัทรับเหมาก่อสร้างระดับแนวหน้าของประเทศและของเอเชียที่มีผู้ต้องการร่วมทุนจำนวนมาก
     
     
    “ผมชอบเก็บงานโครงการแบบนี้แหละครับท่านประธาน ผมไม่ชอบลุยโครงการใหญ่ ๆ” ด้วยมุมมองที่ต่างจากบิดาทำให้นนทเสนลูกชายคนเล็กของตระกูลไวทยาตระการกุลไม่เป็นที่โปรดปรานของบิดานักซึ่งต่างจากพี่ชายอย่างนันทเสน ลูกชายคนโตที่พ่อรักพ่อไว้ใจจนได้เป็นใหญ่เป็นโตในบริษัทแถมยังเป็นมือขวาของประธานบริษัทอีกด้วย
     
     
    “แกควรจะเอาอย่างพี่ชายของแกไว้” เสียงทุ่มแต่กังวาลของอานันท์ดึงทุกโสดประสาทของนนทเสนให้จ้องมาที่ตัวเขา ชายสูงวัยร่างท้วมใหญ่ ผิวสีน้ำผึ้งไม้ ใบหน้าและบุคลิกน่าเกรงขามเดินตรงเข้ามาใกล้นนทเสนเรื่อย ๆ
     
     
    “ไม่ ผมมีแนวทางของผม” นนทเสนตอบเสียงหนักแน่นจนตีอารมณ์ให้อานันท์เดือดดาลขึ้นมาทันทีที่บังคับลูกตัวเองไม่ได้
     
     
    “ฮื้ยยยยยยยยยยยย แกนี่มันไม่ได้ดั้งใจฉันจริงๆ เลย บริษัทแก แกขายเท่าไหร่ว่ามา ฉันจะซื้อมาเป็นบริษัทลูกของฉัน ไหน ๆ แกก็เป็นลูกของฉันอยู่แล้ว บริษัทแกก็โอนมาเป็นบริษัทลูกของฉันไปเลยสิ เดี๋ยวฉันจะหางานโครงการใหญ่ ๆ ให้”
     
     
    “ที่พ่อเรียกผมมาก็เพื่อที่จะพูดเรื่องนี้เองเหรอ พ่อก็น่าจะรู้คำตอบดีว่าผมจะตอบว่ายังไง N-miracle group ไม่เคยคิดจะตกไปเป็นทาสใคร เรามีศักศรีดิ์พอที่จะไม่ขายบริษัทกิน ถ้าเรื่องที่พ่อจะพูดมีแค่นี้ ผมขอตัวครับ” จบประโยคชายหนุ่มวัยฉกรรจ์อายุ28ปีบริบูรณ์ก็เดินฉับ ๆ ๆออกจากห้องท่านประธานอย่างไม่สนใจใยดีต่อสิ่งใดอีกแม้จะมีเสียงพ่อของตนเองจะตะโกนไล่หลังก่อนออกจากห้องก็ตามที
     
     
    “โธ่เว้ยยยย ไอ้ลูกคนนี้ทำไมมันดื้อด้านอย่างนี้วะ ที่แกเก่งอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เพราะแกมีพ่อที่คอยสอนงานแกตั้งแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างฉันเหรอ ถ้าแกไม่มีพ่ออย่างฉันแกก็คงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้งานจากวิศวกรมือหนึ่งของประเทศตั้งแต่อายุ 18 ปีอย่างฉันหรอก และที่แกประสบความสำเร็จมีบริษัทของตัวเองได้ตั้งแต่อายุ 25 ก็ไม่ใช่เพราะความรู้และประสบการณ์ที่ฉันถ่ายทอดให้แกไปเหรอวะ” เมื่อประตูห้องท่านประธานปิดลง นนทเสน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมหวานอกสามศอกสมชายชาติทหารยืนหลับตาสงบนิ่งกับประโยคของผู้เป็นพ่อก่อนจะเอ่ยกับตัวเองเบา ๆว่า
     
    ผมจะกลับมาตอบแทนบุญคุณพ่อแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อย่างพึ่งเร่งรัดผมเลยนะครับ ขอเวลาผมเถอะ
     
    “คุณนนต้องการอะไรรึป่าวค่ะ” กัญจรี เลขาหน้าห้องท่านประธานเอ่ยถามทันทีที่เห็นชายหนุ่มยืนพึมพำ
     
    “ไม่ล่ะ ผมกลับก่อนนะครับ”
     
    “ค่ะ แล้วแวะมาบ่อยๆ นะคะ” กัญจรีกระพริบตาปริบ ๆ และยิ้มอย่างกับคนที่กำลังฝันหวานตามหลังชายหนุ่มไป ไม่มีหญิงสาวที่ไหนจะไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มรูปงามที่ชื่อนนทเสนเพราะเขาคือเอนจิเนียรูปหล่อ พ่อรวย แฟนสวยระดับนางแบบที่สาว ๆ ทั้งในและนอกวงการอยากจะมีโอกาสได้ครอบครองบ้าง
     
    “เจ๊นั่นมันลูกท่านประธานใช่ไหม” ขาเม้าท์ประจำบริษัทเดินเข้ามาทักกัญจรีที่กำลังฝันกลางวันว่าได้ควงกับลูกชายคนเล็กของท่านประธาน
     
    “ใช่นะสิ” กัญจรียังกระพริบตาที่ติดขนตาปลอมถี่ยิบ
     
    “ได้ข่าวว่าเขาเปลี่ยนแฟนใหม่อีกแล้วหนิ”
     
    “ไม่จริงม้างงงงง”
     
    “ก็เหมือนเดิมแหละ ตามสเปก นางแบบเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนคน ได้ข่าวว่านางแบบคนนี้พึ่งเข้าวงการด้วยนะ และก็ฮิตในหมู่ผู้ชายมาก ๆ ด้วยเพราะว่าเธอมีดีกรีว่าเป็นนางแบบขาสวยที่สุดในเวลานี้ ไม่คิดว่าคุณนนจะคว้ามาควงได้ไวขนาดนี้”
     
    “ไม่หรอกม้างงงงงงง จริง ๆ แล้วสเปกของคุณนน เขาชอบคนที่มีประสบการณ์อย่างเจ๊มากกว่า” กัญจรีพยายามพูดเข้าข้างตัวเอง
     
    “เจ๊...ฉันไปนะ ทนฟังไม่ได้อีกต่อไป ไปทำงานดีกว่า” ว่าแล้วขาเม้าท์ประจำบริษัทก็เดิมเลี่ยงออกไป ปล่อยให้กัญจรีฝันกลางวันต่อไปคนเดียว
     
     
    นนทเสนกลับมาที่บริษัท เขาครุ่นคิดอะไรบางอย่างบนโต๊ะทำงานตัวโปรดอย่างเงียบ ๆแต่ไม่นานนักฐานุก็เข้ามาก่อกวนสมาธิด้วยการเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเขาก่อน นนทเสนรู้สึกหงุดหงิดต่อนิสัยที่ไม่รู้จักเคาะประตูของฐานุ แต่เขาก็ชักจะเริ่มชินกับนิสัยที่เรียกว่าสันดานนี้ของฐานุไปซะแล้ว ชายหนุ่มสลัดความหงุดหงิดออกจากอารมณ์ตัวเองไปก่อนจะหันมาจ้องฐานุว่าเขาจะพูดอะไรแทน
     
    “นน นี่นายกำลังคิดเรื่องโครงการของเราอยู่ใช่ไหมอะ  นายรู้ไหมว่าตอนนี้เลือดฉันพุ่งแรงมากเลย ฉันอยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศลาวเต็มที อยากไปเจอกับสาวๆ ลาว ขาว ๆ น่ารัก ๆ”
     
    “ที่นั่น ไม่ได้มีผู้หญิงหวือหวาอยากที่พี่ชอบหรอกนะ ที่นั่นมันมีแต่ความสงบเงียบ เป็นวิถีของชาวบ้าน พี่จะกระโตกกระตากอะไรนักหนาเนี่ย” นนทเสนส่ายหัวเบา ๆ ให้กับทีมงานของเขาที่เอาแต่เร่งรัดให้เขาทำนั่นทำนี่ ฐานุ รุ่นพี่ที่ช่วยงานเขามาตลอดสามปีที่เปิดบริษัทเป็นผู้ช่วยมีได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งงานและก็ไม่เคยทิ้งนนทเสนแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความศรัทธาต่อตัวนนทเสนทำให้เขาปักหลักทำงานอยู่กับชายหนุ่มแบบไม่คิดจะเปลี่ยนงานหรือจากไปไหน พร้อมทั้งยอมถวายชีวิตช่วยเหลืองานของนนทเสนในทุก ๆ ด้านอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยผู้จงรักภักดีของเขาเลยก็ว่าได้
     
    “ว่าไง ว่าไง”
     
    “ผมกำลังนึกถึงสถาปนิกคนนึงที่ชื่อกรรณพจน์สถาปนิกมือชั้นเทพ พี่พอจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
     
    “เฮ้ยยยย ทำไมนายต้องไปนึกถึงสถาปนิกคนนั้นด้วย”
     
    “พี่จำห้างสรรพสินค้าที่อยู่ชานเมืองนั้นได้ไหม”
     
    “จำได้สิ ก็ห้างนั้นเป็นผลงานการคุมงานครั้งแรกของนายเลย โครงการใหญ่เลยนะน่ะ แถมยังเป็นโครงการที่ทำให้นายเป็นที่รู้จักในวงการอีกด้วย”
     
    “พี่รู้ไหมว่าใครเป็นคนออกแบบ”
     
    “นายกำลังจะบอกว่า....”


    “ใช่ คนที่ออกแบบคือสถาปนิกมือชั้นเทพที่ชื่อกรรณพจน์ ที่สำคัญลูกค้าชอบการออกแบบห้างนั้นมากเขาถึงยกงานโครงการที่ประเทศลาวเพื่อพิสูจน์ฝีมือการคอนโทลงานของผม”
     
    “เฮ้ยยย จริงดิ”
     
    “อืมม์ แต่โครงการใหญ่ที่เขากำลังจะเปิดประมูลรู้สึกว่าเขาจะวางคอนเซปต์คล้าย ๆกับห้างนั้นไม่มีผิดเพี้ยนเลย ผมถึงอยากรู้ว่าตอนนี้สถาปนิกที่ชื่อกรรณพจน์อยู่ที่ไหน”
     
    “แล้วนายไม่ได้ข่าวเขาเลยเหรอหลังจากโครงการนั้นจบลง”
     
    “ผมรู้แค่ว่า หลังจากจบโครงการนั้น ผมก็พยายามติดต่อให้เขาเขียนแบบให้ผมหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดเพราะงานเขาเยอะมาก” กรรณพจน์เป็นสถาปนิกที่ขึ้นชื่อว่างานเยอะที่สุดในตอนนั้นก่อนที่ชีวิตเขาจะพลิกผันในเวลาต่อมา ถึงแม้ว่านนทเสนจะพยายามขอให้เขาออกแบบโครงการอะไรให้สักเท่าไหร่แต่ก็มักจะถูกปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง
     
    และด้วยความรัดตัวของโครงการที่วิ่งชนเข้ามาเพราะความโด่งดังของชื่อเสียงขณะนั้น นนทเสนจึงต้องหันไปใช้บริการสถาปิกบริษัทอื่น แล้วความยุ่งเหยิงของการทำงานก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองทิ้งระยะห่างจากกันเรื่อย ๆ จนบัดนี้มันห่างซะจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งเงา
     
    “รู้สึกว่าเมื่อสามปีก่อนเขาประสบอุบัติเหตุนะแล้วหลังจากนั้นข่าวของเขาก็เบามากจนฉันไม่ได้ยินอีกเลย”
     
    “ช่วยสืบให้ที ผมต้องการเจอเขาอีกครั้ง” จบประโยคชายหนุ่มก็คว้ากุญแจรถของตัวเองและเดินออกจากห้องทำงานทันที
     
    “นายจะไปไหนอะ” ฐานุตะโกนตามหลัง
     
    “ไปธุระ ไม่ต้องตามมานะ”
     
    “อ่อ...ไปหานางแบบขายาวของนายใช่ไหม” ฐานุรู้ทัน
     
    “เออ อย่าตามมานะ” นนทเสนตะโกนกลับมา
     
     
    “โหยยยยยยยยยยยยย” ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเจ้านายนะ จะด่าให้ว่าเห็นแก่ตัว ไปหานางแบบแท้ ๆ น่าจะให้เราตามไปด้วย อย่างน้อยเพื่อนนางแบบ เผื่อว่าพวกเธออยากแก้เหงาเราจะได้เสนอตัว เหอะ...ไอ้เจ้านายขี้ห่วงเอ๊ยยยย ฐานุบ่นพึมพำ
     
     
      
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×