ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ct_2 พ่อคะ...
2 พ่อคะ...
“พ่อคะ พลอยยังจะดูแลบ้านของเราต่อไปค่ะ”
พลอยชมพูยืนยันกับเพื่อนรักอย่างฉัตรชนกว่าเธอจะไม่ไปอาศัยบ้านของฉัตรชนกเด็ดขาด ถึงแม้ว่าฉัตรชนกจะพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนอยู่นานก็ตาม พลอยชมพูตัดสินใจจะอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของเธอต่อไปโดยการแอบเข้าไปแบบไม่ให้ใครรู้ จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าบ้านของเธอนั้นมีห้องลับซ่อนอยู่ข้างในด้วย
หลังตู้โชว์ของขนาดใหญ่มีห้องลับที่พ่อเธอแอบสร้างไว้เพื่อใช้เก็บเอกสารและงานสำคัญ รวมทั้งยังเป็นห้องทำงานพี่พ่อเธอแอบซ่อนจิตวิญญาณของการเป็นสถาปนิกไว้อีกด้วย เมื่อไหร่ที่มีงานช้างเข้ามือพ่อของเธอมักจะฝังร่างไว้กับจิตวิญญาณของตนเองในห้องทำงานลับแห่งนั้นนานหลายวัน จากนั้นก็พับเอาพิมพ์เขียวใส่กระเป๋าเอาไปการันตรีฝีมือชั้นเทพกับลูกค้าโดยที่ไม่มีครั้งใดที่กรรณพจน์สถาปนิกมือฉมังทำให้ลูกค้าผิดหวังเลยสักครั้งเดียว
แต่โชคชะตาก็มักจะเล่นตลกกับชีวิตคนเราเสมอ ชีวิตมีจุดสูงสุด ก็ย่อมมีจุดต่ำสุดตามมา เมื่อสามปีก่อนกรรณพจน์พ่อของพลอยชมพูถูกดักทำร้ายจนแขนหักทั้งสองข้าง พรสวรรค์ที่มีอยู่ในสมองไม่สามารถกลั่นกองออกมาเป็นผลงานได้นานกว่าหกเดือน อีกทั้งกรรณพจน์ก็ไม่ได้สร้างลูกน้องมือสำรองที่เก่งกาจพอที่จะแทนเขาได้ ธุรกิจของเขาจึงค่อย ๆ ประสบกับปัญหา ทั้งต้องเสียค่าปรับให้กับลูกค้าที่เซ็นต์สัญญากันไว้ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ ทั้งลูกค้าที่เตรียมเซ็นต์สัญญาก็มาพากันยกเลิกเพราะกลัวว่าถ้าขืนรอกรรณพจน์หายก็คงชวดโครงการใหญ่กันพอดี เงินหมุนเวียนก็เริ่มร่อยหรอ ค่าใช้จ่ายประจำเดือนก็มัดตัว การบริหารงานแบบครอบครัวต่อให้ผู้นำเก่งกาจแค่ไหนถ้าล้มหมอนนอนเสื่อแบบนี้ธุรกิจก็คงผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้ยาก
ครั้นเมื่อฟื้นขึ้นมาหนี้สินก็ล้นพ้นตัวเกินกว่าที่กรรณพจน์จะฝ่าฟันวิกฤตชีวิตนี้ไปได้แม้กระทั่งทรัพย์สินที่เขารักมากที่สุดและลงทุนลงแรงไปกว่าค่อนชีวิตก็ต้องถูกธนาคารยึดไป เมียและลูกต้องจากกันทั้งมีลมหายใจเพราะต้องหนีเจ้าหนี้ กรรณพจน์ตัดสินใจหนีไปหลบตัวอยู่ที่เวียดนามโดยที่มีแต่เมียและลูกเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใด ส่วนเมียอย่างบัวสวรรค์ก็หอบลูกชายคนเล็กที่อายุแค่สิบสองขวบขึ้นเหนือและทิ้งให้ลูกสาวคนโตต้องเผชิญชะตาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงโดยลำพังและยังไม่สามารถช่วยเหลือลูกสาวได้แม้แต่น้อย ทั้งกรรณพจน์และบัวสวรรค์ต้องกล้ำกลืนน้ำตามากกว่าน้ำลายตนเอง
พลอยชมพูสาวน้อยที่ไม่ประสีประสาเรื่องอะไรต้องกลายมาเป็นหญิงแกร่งในชั่วเวลาแค่ไม่กี่เดือนหลังจากที่ครอบครัวตัวเองแตกแยก
ครืนนน ครืนนนน ครืนนนนน เสียงสั่นของโทรศัพท์พลอยชมพูดังขึ้นขัดจังหวะการพยายามแอบเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์สีขาวทรงพลังจักรวาลของเธอ
“ว่าไงกฤษ” กฤษ หรือ กฤษฏา เพื่อนชายสนิทอีกคนของพลอยชมพูโทรเข้ามา
“ได้ยินว่าพลอยจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นอีกเหรอ”
“หึ...ยัยฉัตรแจ่นไปบอกล่ะสิ” พลอยชมพูรู้ทันเพื่อนรักของตัวเอง
“ไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่าพลอยยังจะเข้าไปอยู่ในนั้นอีกเหรอ มันกลายเป็นทรัพย์สินของธนาคารไปแล้วนะ ถ้าพลอยเข้าไปอยู่ในนั้นอีกมีหวังถ้าเขาจับได้ต้องโดยข้อหาบุกรุกแน่ ๆ กฤษว่าพลอยออกมาเถอะ”
“กฤษก็รู้ว่าพลอยไม่มีที่ไป” หญิงสาวเสียงเศร้าพร้อมกลับกลั้นน้ำตาตัวเองไว้ทันทีที่เอ่ยถึงเรื่องสะเทือนใจตัวเอง น้ำตาคลอเบ้าตากลมโต แต่เธอก็กลืนมันลงไปในคอ
“ใครว่าพลอยไม่มีที่ไปล่ะ ถ้าพลอยไม่อยากไปรบกวนฉัตร พลอยมารบกวนกฤษก็ได้หนิ คอนโดฯกฤษก็ว่างตั้งหลายห้อง”
“บ้า! ขืนถ้าพลอยไปอยู่คอนโดฯกฤษมีหวังม่าม๊ากฤษฆ่าพลอยตายแน่ หึหึ”
“ไม่ฆ่าหรอก แม่ซื้อคอนโดฯไว้ก็เพื่อให้คนเช่า พลอยก็มาในฐานะคนเช่าคอนโดฯไง” กฤษฏาใช้มุขนี้เพื่อช่วยเหลือให้ที่พักกับหญิงสาวที่เขาแอบชอบมานานแสนนานตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีด้วยกันจนจบในระดับปริญญาโทเขาไม่เคยเปลี่ยนใจไปชอบใครได้เลยนอกจากพลอยชมพู ไม่อยากจะเชื่อว่าความรู้สึกเพื่อนแอบรักเพื่อนและไม่อยากเสียมิตรภาพของคำว่าเพื่อนไป เลยไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้เธอรู้จะเกิดขึ้นกับผู้ชายอบอุ่น หน้าตาดี ตี๋ สูง ขาว หล่อ อย่างกฤษฏาแต่ว่าก็เป็นไปแล้ว
“พลอยไม่มีเงินเช่าหรอก กฤษก็รู้ว่าพลอยพึ่งทำงานได้แค่สองเดือนเอง พลอยจะเอาเงินที่ไหนไปเช่าคอนโดฯหรูของม่าม๊ากฤษล่ะ อีกอย่างพลอยอยากจะเก็บเงินไว้ก่อน”
“เก็บเงินไว้เพื่อไปทัวร์เมืองนอกด้วยกันอย่างที่เราเคยคุยกันไว้ก่อนเรียนจบใช่รึป่าวอะ” ชายหนุ่มมีน้ำเสียงกระตือรือร้นเมื่อเอ่ยถึงเรื่องไปต่างประเทศที่พวกเขาเคยคุยกันไว้ก่อนที่บ้านของพลอยชมพูจะประสบปัญหาล้มละลาย
“เหอ ๆ ลืมเรื่องนั้นไปได้เลยกฤษ เพราะเราคงพับโครงการนี้ไปอีกนานเลยล่ะ พลอยอยากจะเก็บเงินไว้....”
“อย่าบอกนะว่าเก็บไว้เพื่อซื้อบ้านราคา 150 ล้านคืน พลอยยยยยย” น้ำเสียงของกฤษฏาเปลี่ยนไปทันที ในน้ำเสียงนั้นบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พลอยชมพูกลืนน้ำตาตัวเองลงคออีกครั้งแต่ครั้งนี้มันก้อนใหญ่จนทำให้เธอรู้สึกแน่นที่หน้าอก หญิงสาวเอามีทุบที่อกตัวเองเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า
“พลอยรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำแบบนั้น”
“รู้แล้วพลอยก็ยังดึงดันงั้นเหรอ”
“เฮ่ออออออออออ เราอย่าพูดเรื่องนี้กันอีกเลยนะ งั้นเอาไว้แค่นี้ก่อน” หญิงสาวตัดบทไปซะดื้อ ๆแต่กฤษฎาก็ไม่ยอมจบประเด็นตามที่เธอต้องการ
“เดี๋ยว!!!!!”
“หือ..”
“ออกมาจากที่นั้นเหอะนะ เรื่องที่อยู่เดี๋ยวกฤษจัดการให้และพลอยก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องเงินด้วย เอาไว้มีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน”
“พลอยรู้น๊า ว่ากฤษเป็นห่วง แต่ไม่ต้องห่วงพลอยหรอก เพราะว่าพลอยจะซ่อนตัวให้เหมือนนินจาเลยล่ะ ไม่ให้ใครจับได้เด็ดขาด คอยดูสิ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความมั่นใจ แต่เธอหารู้ไหมว่าในความคิดของชายหนุ่มที่เธอกำลังคุยอยู่นั้นเธอเป็นเหมือนเด็กน้อยที่อวดเก่ง ดือรั้น และไม่ยอมรับความจริง
ในสายตาของกฤษฏาพลอยชมพูช่างน่าสงสารเหลือเกินจากลูกคุณหนูออกแนวผู้ดีมีตระกูล พ่อเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการการออกแบบอาคาร ส่วนแม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ผู้มีเมตตาและเป็นที่รู้จักในวงสังคมผู้ดีจะมีวันที่ตกต่ำที่สุดของชีวิตแบบนี้ พลอยชมพูต้องยอมเอาวุฒิการศึกษาในระดับปริญาตรีสมัครงานก่อนเพื่อให้ได้ทำงานจะได้มีเงินกินเงินใช้ เพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานที่ไหนมาก่อน จะให้เอาวุฒิสูงสุดที่เธอมีไปยื่นก็ไม่รู้จะมีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานหรือเปล่า หรือต่อให้มีก็คงต้องใช้เวลาหางานนานเกินกว่าที่หญิงสาวจะรอได้ เธอจึงตัดสินใจแบบนั้นโดยไม่ฟังคำทัดทานใครเลย
นึก ๆ ไปกฤษฏาก็รู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจจนเขาอยากจะลองขอพลอยชมพูเป็นแฟน พลอยชมพูจะได้รับความช่วยเหลือที่เขาพร้อมส่งสงมอบให้เธอตลอดเวลาอย่างที่เขาต้องการบ้าง
‘ถ้าเป็นแฟนกัน เธอคงยอมรับในความหวังดีของฉันมากกว่านี้ พลอย....’ กฤษฏาลำพึงกับตัวเอง ‘ถ้างั้นฉันขอเธอเป็นแฟนเลยดีไหม’
ส่วนพลอยชมพูหลังจากที่วางโทรศัพท์ไปเธอก็แอบเลื่อนประตูหน้าต่างที่ชำรุดเข้าไปในบ้านและจัดการที่อยู่ที่นอนของตัวเองใหม่ในห้องที่ไม่มีใครรู้นอกจากครอบครัวของเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น