ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อิสระแห่งหัวใจ...ทฤษฎีร้ายแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บททักทาย... Party สาวๆๆๆๆ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 49


    คืนวันเสาร์... คืนแห่งการพักผ่อน และปลดปล่อยทั้งตัวและหัวใจให้เป็นอิสระจากภาระหน้าที่การงานต่างๆ ที่ต้องผจญมาตลอดสัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในคืนนี้ จะมีผู้คนมากมายออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน ร้านอาหารบรรยากาศดีเกือบทั่วทั้งกรุงเทพต่างมีลูกค้าอยู่แน่นขนัด และแน่นอนว่า หนึ่งในจำนวนนั้นต้องรวมไปถึง ร้าน Beautiful Challenge” ซึ่งขึ้นชื่อทั้งในเรื่องของบรรยากาศ (สุดแปลก: อาคารเดี่ยว สองชั้น ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก สีแดงสด ผนังทั้งสามด้านเป็นกระจกหนา มีม่านน้ำอยู่ด้านนอก เพดานถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสัน และ ไฟระยิบระยับคล้ายท้องฟ้ายามราตรี ทางเดินปูด้วยหินกลม แบน ก้อนใหญ่ห่างกันเป็นระยะๆ นำมาสู่ตัวอาคาร ห้องครัวอยู่แยกจากตัวอาคาร มีทางเดินเชื่อมถึงกัน ส่วนชั้นสองเป็นที่พักของเจ้าของร้านสาว) และรสชาติของอาหารชั้นเลิศ ประกอบกับเจ้าของร้านสาวหมวย ซึ่งดึงดูดลูกค้าหนุ่มๆ ได้ดีเสียยิ่งกว่านางกวักหลายร้อยเท่า, ประกายดาว สิริธรารัตน์ สาวหมวย  ผิวขาว ใบหน้าขาวล้อมกรอบด้วยผมยาวตรงซึ่งมักจะรวบเกล้าด้วยโบว์ผูกผมสีหวาน หรือ ติดกิ๊บน่ารักๆ เอาไว้เสมอ เสื้อแขนตุ๊กตาสีฟ้าอ่อนกับกางเกงผ้าขายาว สีครีมทำให้หล่อนดูหวานชวนฝันอยู่ไม่น้อย (ฝันร้ายรึป่าวหนอ)

    ประกายดาวเพิ่งจะออกมาจากในครัว หล่อนเดินมาทักทายพูดคุยกับลูกค้าในร้าน  ในเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ซึ่งใกล้จะได้เวลาร้านปิด ลูกค้าในร้านจึงมีไม่มากนัก ทำให้หล่อนสามารถพูดคุยกับลูกค้าในร้านได้อย่างทั่วถึง และเป็นกันเอง

    ประตูกระจกถูกผลักเข้ามา พร้อมกับร่างของสาวหมวยอีกคนที่เดินเข้ามาภายในร้าน ธาราทิพย์ ชลาลักษณ์ หล่อนดูจะหมวยกว่าประกายดาวเล็กน้อย และดูจะนิ่งและเงียบกว่า ผิวขาวเหลืองตามแบบฉบับของสาวสวยเชื้อสายจีน ผมยาว หนา ดำเป็นเงาถูกรวบเกล้าเป็นหางม้า หุ่นสวย ถูกซ่อนไว้ในกางเกงยีนขากระบอก และ เสื้อยืดแขนยาวสีเข้ม บ่งบอกถึงบุคลิกของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี  

    ประกายดาวกล่าวขอตัวออกมาจากโต๊ะของลูกค้าหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนจะเดินมาหาเพื่อนสาว แต่กลับเจอสายตาล้อเลียนของเพื่อนเข้าอย่างจัง

    มองอะไร ไอ้ทิพย์ หล่อนถามเสียงห้วน ทำให้ธาราทิพย์ยิ้มออกมา

    มองแม่ค้าทรงเสน่ห์ ธาราทิพย์ตอบล้อๆ เลยได้ฝ่ามือพิฆาตของประกายดาวมาเป็นรางวัล โอ๊ย... เจ็บนะ หล่อนโวย

    ดี...สมน้ำหน้า ประกายดาวพูดอย่างสะใจ แล้วก็ดูเหมือนสงครามทักทายกันนี้คงไม่จบลงง่ายๆ หากประตูกระจกบานเดิมไม่ถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง พร้อมสาวสวยร่างเล็กที่เดินเข้ามา นิรชา วีรสุนทร สาวรูปร่างเล็ก แต่สะโอดสะอง มีรูปมีทรงอยู่ไม่น้อย ผิวสีน้ำผึ้ง เนียนละเอียดทำให้หล่อนดูคมเข้มขึ้น นัยน์ตาขี้เล่นและสดใส ผมยาวตรงถึงกลางหลังปล่อยสยายอย่างเป็นอิสระ กางเกงสามส่วน กับ เสื้อยืดสีโอรสเข้ารูป เสริมให้หุ่นทรงของหล่อนน่ามองยิ่งขึ้น  

    แหม...กัดกันใหญ่เชียวนะ ผู้มาใหม่กล่าวทัก นี่หน้าร้านนะคะ คุณๆ ทั้งสองนิรชาแซวเพื่อนรักทั้งสองอย่างอารมณ์ดี ทำให้สองสาวหันมามองหล่อน ก่อนจะยิ้มอย่างยินดี

    มาเร็วจริงหนูนิ ไหนว่าจะแวะไปดูเด็กๆ ที่ร้านลุงสรรค์ก่อนไง ธาราทิพย์ทักเพื่อนสาวตัวน้อย

    ไปมาแล้ว ก็ไม่มีอะไรมาก เด็กๆ แข็งแรงดี ลุงสรรค์แกดีใจใหญ่ นิรชากล่าวถึง รังสรรค์, บุรุษวัยสี่สิบกว่า เจ้าของร้านเพาะพันธุ์สุนัขที่หล่อนและกลุ่มเพื่อนๆ คุ้นเคยดี เพราะ ต่างเคยไปทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านแก ตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย

    พันธุ์อะไรล่ะ คอกนี้น่ะ ดาวถามขึ้นบ้าง

    ชิสุ น่ารักชะมัด นิรชาตอบพร้อมรอยยิ้มขัน คราวนี้ลุงสรรค์แกรับทรัพย์เละเทะเลย เห็นว่าคอกนี้มีคนมาจองแล้วตั้งหลายตัวแล้วร้านแกยังไม่ปิดอีกเหรอ ประโยคหลังหล่อนตั้งใจถามประกายดาว

    อื้อ...ใกล้แล้วล่ะ ปิดรับออร์เดอร์แล้วมาเร็วกันก็ดีแล้ว จะได้ช่วยฉันปิดร้าน ประกายดาวพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะเดินนำสองสาวไปยังเรือนครัว

    ................................................

    แล้วภัทรกับวีร์ ยังไม่มากันอีกเหรอ ธาราทิพย์ถามขึ้น ขณะช่วยเจ้าของร้านสาวเก็บร้าน ที่ตอนนี้ร้างลูกค้าไปเรียบร้อยแล้ว

    มาแล้วมั้ง แกเห็นมั้ยล่ะประกายดาวตอบอย่างกวนประสาท พร้อมกับใบหน้ายียวนกวนอวัยวะส่วนล่างสุด แล้วก็ได้ผลเกินคาด คนถามฟาดผั้วะเข้าให้อย่างแสนรัก น่า...ก็รู้อยู่ว่าไอ้สองคนนั้นมันมาสายเป็นปกติอยู่แล้ว ประกายดาวพูด พลางลูบต้นแขนที่ถูกตีเบาๆ

    ตายยากแฮะ พูดถึงก็มากันแล้ว นิรชากล่าว พลางหันไปมองรถเก๋งสี บรอนเงินที่คุ้นตาแล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าร้าน พร้อมกับสองสาวสองสไตล์ลงมาจากรถคันนั้น

    พิมลภัทร อัครศิลป์, สาวน้อยร่างบาง แต่จะสูงโปร่งกว่านิรชา ผิวเข้ม ใบหน้าสวยเก๋เกลี้ยงเกลาชวนมอง ผมยาวตรงรวบเกล้าครึ่งหัว ปล่อยให้ผมบางส่วนพลิ้วไหวอย่างเป็นอิสระ กางเกงยีนขายาว กับ เสื้อเชิ้ตพอดีตัว สีเขียวจาง ทำให้หล่อนดูไม่ผอมบางจนเกินไป

    อรวีร์ พรพิมุข, สาวมั่น รูปร่างสูง ผิวสองสี ผมหยิกเป็นลอนสีน้ำตาล ยาวถึงสะโพก ผมหยิกที่เจ้าหล่อนอุตส่าห์ไปดัดประชด พิมลภัทรซึ่งไปยืดผมเสียตรงสวย กระโปรงผ้าสีน้ำตาล ยาวกรอมเท้า กับ เสื้อแขนยาว ปาดคอกว้างแบบชาวยิปซี และสร้อยลูกปัดยาว กับกำไรหลากสีหลายวงที่หล่อนสวม บ่งบอกถึงความมั่นใจของเจ้าหล่อนเป็นอย่างดี

    โห...ไอ้วีร์ แต่งตัวไม่เกรงใจฟ้าดินเลยนะ ประกายดาวทักทายเพื่อนรักทันทีที่เจ้าหล่อนเดินเข้ามาในร้าน แต่อรวีร์ก็ยังยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้าน

    แหม... นี่ฉันแต่งชุดนี้เพื่อมาร้านแกโดยเฉพาะเลยนะ ยังจะมาว่าอีก อรวีร์บอก ทำให้เพื่อนสาวต่างพากันหัวเราะ

    แล้วทำไมมากันช้าจัง นิรชาถามขึ้น เมื่อทั้งหมดมานั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะเล็กที่มุมหนึ่งของร้าน ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยอาหารว่างฝีมือประกายดาว (แด็ก...กันตอนสี่ ห้าทุ่ม เฮ้อ...เห็นอนาคตนางเอกกูจริงๆ) ทำให้พิมลภัทรตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม

    ก็ฉันมัวแต่ไปรับมันนี่แหละ หล่อนชี้ไปที่อรวีร์

    แล้วรถแกไปไหนซะล่ะ ประกายดาวหันมาถามอรวีร์

    เสยท้ายรถทัวร์ ตอนนี้อยู่ที่อู่ อรวีร์ตอบหน้าตาเฉย

    เฮ้ย...แล้วแกไปทำอีท่าไหนเข้าวะ ธาราทิพย์ถามอย่างตกใจ แต่ก็ยังไม่วายที่จะได้รับคำตอบที่กวนบาทากลับมาอีก

    ไม่รู้ว่ะ ตอนมันชนไม่มีเวลาจำท่า

    เฮ้ย...เอาจริงๆ ดิ นิรชากล่าวขึ้นบ้างทำให้อรวีร์เลี่ยงที่จะตอบไม่ได้

    ก็ว่าจะแซง แต่กะระยะและองศาพลาดไปนี้ดนึง แทนที่จะหักเลี้ยวแล้วแซงขึ้นไป ก็กลายเป็นหักเลี้ยวแล้วเสยท้ายรถเค้าซะงั้น จะเรียกแท็กซี่ก็ไม่ได้ ต้นเดือน ยังไม่ได้กดตังค์ มีติดกระเป๋าอยู่สี่พันกว่า ก็จ่ายค่าเสียหายเค้าไปแล้ว ก็เลยต้องโทรให้คุณหนูภัทรไปรับนี่แหละ อรวีร์เล่า ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ทั้งสี่ เออ...ไม่ขับรถชนบ้างก็แล้วไปวะ หล่อนโวยวาย

    ก็มีใครเค้าขับรถเหมือนแกล่ะ ทำยังกะถนนเป็นของแกคนเดียว นึกจะแซงก็แซง นึกจะเบรกก็เบรกพิมลภัทรว่าเพื่อน ทำให้อรวีร์หันไปกัดตอบเข้าให้

    จ้า...ก็ใครจะขับรถเรียบร้อยเหมือนแกล่ะ เต่าแซงไปแปดตัวแล้วมั้ง...ถ้าฉันขับก็มาไม่สายขนาดนี้หรอก อรวีร์ว่า

    ดีแล้วล่ะที่ภัทรมันขับ ขี้เกียจไปเยี่ยมพวกแกที่โรงพยาบาล ประกายดาวกล่าว

    จ้ะ... อรวีร์สะบัดเสียงใส่ ก่อนจะหันไปสนใจกับของอร่อยตรงหน้า ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแม่คุณงอน หรือหิวกันแน่

    แล้วงานเลี้ยงปล่อยผีในคืนนั้น ก็จบลงด้วยอาการมึนเมาน้ำใบเตย และก็มีอันต้องนอนที่ร้าน Beautiful Challenge กันทุกคน เพราะกว่าผีทั้งห้าจะยอมลงหลุม ก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งเสียแล้ว

    ..............................................

         

    ตื่นแล้วเหรอแก ประกายดาวเอ่ยทักอรวีร์ที่กว่าจะยอมตื่นลงมาก็เกือบเก้าโมงเช้าไปแล้ว นี่ดีนะที่ร้านของหล่อนเปิดในช่วงเย็น ไม่อย่างนั้น ลูกค้าคงหนีกันหมด เพราะ แม่สาวผมหยิกฟู ในชุดรุ่มร่าม ที่เดินลงบันไดมานี่เป็นแน่

    ทิพย์ล่ะ อรวีร์ถามหาเพื่อนสาวที่ไม่ปรากฏร่างให้เห็นในที่นั้น

    ไปทำงานแล้ว พิมลภัทรตอบ พลางละสายตามาจากนิตยสารที่ถืออยู่

    แหม... บริษัทนี้เค้าใช้งานโปรแกรมเมอร์หนักแฮะ อรวีร์กล่าว แล้วแกล่ะ ยัยแม่มด ไม่ไปเคี่ยวยาเหรอ หล่อนหันมาหาเรื่องถูกด่าจากพิมลภัทรบ้าง ความจริงก็รู้อยู่หรอกว่า เจ้าหล่อนเข้าเวรตอนบ่าย แต่ก็อดจะว่าไม่ได้ ด้วยรูปหน้าเรียว คางแหลม และจมูกโด่งของพิมลภัทร ที่หล่อนและเพื่อนๆ ลงความเห็นว่าคล้ายแม่มด

    ไอ้บ้า ฉันเป็นเภสัชกรย่ะ ขืนเคี่ยวยาเองก็ติดคุกดิ พิมลภัทรหันมาว่า เรียกรอยยิ้มน้อยๆ จากเพื่อนทั้งสามที่นั่งอยู่ได้อย่างไม่ยากเย็น

    ถามแต่คนอื่นเค้า แล้วแกล่ะไม่ไปทำงานเหรอ นิรชาหันมาถามเพื่อนสาว ที่ตอนนี้เริ่มหาของใส่ปากไปเลี้ยงพยาธิแล้ว

    มีนัดเสนองานกับลูกค้าตอนบ่ายสอง แต่เตรียมแผนงานไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ดีนะที่ไม่ลืมเอาชุดในรถมาด้วย อรวีร์ตอบ ทั้งที่มีขนมปังอยู่เต็มปาก

    แล้วแกจะไปยังไงล่ะ ประกายดาวถามเพื่อน

    เดี๋ยวจะโทรให้บอสมารับ อรวีร์ตอบทันที พร้อมรอยยิ้มกริ่ม แววตาเจ้าเล่ห์ บอสน่ะ ถ้าบอกให้มารับที่นี่ล่ะก็ ขี้คร้านจะรีบแจ้นมารับแทบไม่ทัน ไม่รู้ติดอกติดใจอะไรร้านนี้นัก หล่อนปรายตามองไปทางประกายดาวอย่างจงใจ ก็บอสรูปหล่อของหล่อนน่ะ ติดอกติดใจเจ้าของร้านหน้าหมวยคนนี้เข้าอย่างจัง แล้วพวกหล่อนเอง ก็แอบๆ ลุ้นกันอยู่จนตัวโก่ง แต่แม่ค้าทรงเสน่ห์คนนี้น่ะสิ กลับไม่มีทีท่าอะไรเอาเสียเลย

    เป็นจริงอย่างที่อรวีร์ว่า เพียงแค่หล่อนบอกว่า หล่อนอยู่ที่ร้าน Beautiful Challenge  พ่อบอสหนุ่มก็แทบจะเหาะมารับเลยทีเดียว

    แหม... มาเร็วจริงนะคะ คุณธเนศ นิรชาออกปากแซว เมื่อชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม รูปร่างสูงเดินเข้ามาในร้าน

    ก็... รีบมาน่ะครับ เผื่อต้องมารอยัยวีร์เค้าแต่งตัวด้วย ธเนศแก้ตัว พลางมองไปยังประกายดาว แต่เสียงของอรวีร์ก็ดังมาเสียก่อน

    งั้นก็ ดีใจด้วย นะคะบอส ที่ไม่ต้องอยู่ที่นี่นาน อรวีร์กล่าวประชด เพราะวีร์แต่งตัวเสร็จแล้ว... จะรีบไปมั้ยคะ หล่อนกล่าว พร้อมรอยยิ้มกวน

          เอ่อ... ผมรู้สึกคอแห้งน่ะ ขอทานน้ำซักแก้วก่อนได้มั้ยครับ ธเนศทำเหมือนตั้งใจกล่าวกับอรวีร์ หากแต่สายตาของเขานั้นจับจ้องประกายดาวไม่วางตาทีเดียว

          ดาวจ๋า ขอน้ำเย็นๆ ซักแก้วได้มั้ยจ้ะ อรวีร์หันไปยังเพื่อนสาว ที่ทำเหมือนไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในร้าน

          ประกายดาวจำต้องหันมามองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มฟันขาวอยู่ข้างๆ อรวีร์ แล้วก็เจอสายตาล้อเลียนของเพื่อนๆ ทั้งสามเข้าอย่างจัง

    บอสแก แกก็หาน้ำ หาท่าให้เองสิ น้ำในตู้แช่นั่นก็ได้ หยิบเอา ตังค์ไว้บนโต๊ะนั่นแหละ บอสแกคงมีตังค์จ่ายหรอกนะ ประกายดาวบอกอย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะเดินหายเข้าไปยังเรือนครัว เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้ไม่น้อย

    ฉันว่าคุณธเนศจะจีบไอ้ดาวไม่ติดก็เพราะแกนั่นแหละ พิมลภัทรหันมาว่าอรวีร์ ทำให้เพื่อนสาวโวยลั่น

    เป็นความผิดฉันซะงั้น เออ...คราวหน้าจะไม่ยุ่งเล้ย คอยดูสิ อรวีร์ว่าอย่างฉุนๆ ไปๆๆ บอส ไปกันได้แล้ว น้ง น้ำไม่ต้องกินมันแล้ว

    เฮ้ย... นี่ยังไม่เที่ยงเลยนะวีร์ นั่งพักอีกเดี๋ยวไม่ได้เหรอ ชายหนุ่มโวย เมื่อถูกลูกน้องสาวลากแขนออกจากร้าน

    ไม่ต้องพัก ไปกันได้แล้ว มาเร็วทำไมล่ะ

    เฮ้ย... วีร์งั้นไปด้วย นิรชากล่าวพร้อมกับหันไปหยิบกระเป๋าถือใบสวย

    อ้าว... ไปกันหมด งั้นฉันก็ไปด้วยสิ พิมลภัทรรีบคว้ากระเป๋าตามเพื่อนทั้งสองออกไป

    ..............................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×