คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : dreamcatcher five .
dreamcatcher five .
내 마음속 작은 세상에 네가 있어.
☆☆☆☆
หลังจากที่ผมกับชานยอลกลับมาจากร้านของเซฮุนเราทั้งสองคนก็ไม่ได้ปริปากพูดกันอีกขณะที่ผมกำลังจะทิ้งตัวลงนอนเขาก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน
"พรุ่งนี้นายอยู่คนเดียวได้ไหม?"
"ได้สิ..ทำไมเหรอ"
"ฉันมีธุระน่ะ คงกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หาอะไรกินเองได้ใช่ไหม?"
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่าา ถึงของจะไม่เหมือนยุคที่ฉันอยู่แต่ใช่ว่าจะทำไม่เป็นสักหน่อย"
"อืม..งั้นนอนเถอะ"
เขาเอ่ยตัดบทก่อนจะดับเทียนลง ถ้าเป็นปกติทุกคืนเมื่อหัวถึงหมอนผมก็จะเข้าสู่ห้วงนิทราทันทีแต่ไม่ใช่กับคืนนี้ ถึงแม้จะพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็จบลงที่มองเพดานขาวๆในความมืดอยู่ดี
dreamcatcher .
'ว่าไงจ๊ะหนุ่มน้อย ยังจำฉันได้ไหม?'
'คุณ....คนที่ให้ของกับผมนี่'
เธอส่งยิ้มเล็กๆให้ผม
'ใช่แล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะในยุคนั้น'
'สบายดีครับ..ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมอยู่ที่นี่??'
'ก็ฉันเป็นคนพาเธอมาเองและเธอก็จะกลับไปในยุคของเธอได้เมื่อถึงเวลา ขอให้โชคดีแล้วกัน...'
'เดี๋ยวก่อนสิครับ!!'
แล้วเธอก็หายลับไปอย่างรวดเร็ว
"คยองซู..คยองตื่นได้แล้วนะ"
ทั้งหมดมันคือความฝัน..
"อื้ออ นายจะออกไปแล้วเหรอ"
"อืม.."
"แต่นี่...มันยังเช้ามืดอยู่เลยนะ"
คยองซูพูดพลางหันไปมองที่หน้าต่าง
"ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย"
"อ่าๆโชคดีนะ"
ชานยอลออกจากห้องไปเเล้วเหลือเพียงคยองซูกับความเงียบภายในห้องสี่เหลี่ยมนี่
ทั้งที่ยังไม่เช้าแท้ๆแต่คยองซูก็ไม่คิดจะหลับต่อ เมื่อคืนเขาหลับไปตอนไหนนะ แต่คยองซูกับคิดเรื่องความฝันที่เขาฝันถึง..ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนให้เครื่องดักฝันกับเขา ปรากฏตัวและพูดประโยคที่ฟังดูเเล้วเข้าใจยาก
'เมื่อถึงเวลา..' ประโยคนี้เขาจำได้ขึ้นใจ
ทำไมกันนะทุกคนที่เขาพบเจอต้องพูดแต่ประโยคนี้ เวลา..แล้วอีกนานไหม?
เขาทำได้เพียงแค่เก็บข้อสงสัยของตัวเองและพยายามไม่คิดถึงมันอีกแต่จะให้นอนต่อก็คงนอนไม่หลับ
ไปออกกำลังกายยามเช้าดีไหมนะ?
เมื่อนึกอะไรดีๆออกก็รีบลุกจากฟูกที่นอนแล้วเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับที่จะไปออกกำลังกาย
dreamcatcher .
ผมออกจากบ้านของชานยอลตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างกะว่าจะออกมาเดินแถวๆนี้แต่พอคิดไปคิดมาแวะไปซื้อของกินที่ตลาดใกล้ๆนี้ดีกว่า ชานยอลก็พอเหลือเงินไว้ให้เขาได้ใช้จ่ายนิดหน่อย โชคดีที่ทางไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ชานยอลก็บอกเส้นทางผมไว้คร่าวๆเเล้วคงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง
ระหว่างทางที่จะเดินไปตลาดก็เจอกับบุคลลหนึ่งที่ผมทำแผลให้เมื่อวาน มานั่งทำอะไรตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้เนี่ย
"อ้าวจงอินมานั่งทำอะไรตรงนี้ ไม่ได้ไปกับชานยอลหรอกเหรอ"
คยองซูเจอจงอินที่กำลังนั่งยองๆอยู่ที่พื้นเหมือนว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่าง
"ฉันขี้เกียจไปกับพวกมันน่ะ"
พวกมันในที่นี้คงมีแค่เซฮุนกับชานยอลสินะ ก็เห็นคบกันอยู่แค่นี้
ผมเดินเข้าไปนั่งยองๆข้างๆจงอิน แล้วก็พบว่าเขากำลังให้อาหารลูกแมวอยู่
"โอ๊ะ!แมวนี่ น่ารักจังเลย นายเลี้ยงมันเหรอ"
นึกๆไปแล้วก็แอบคิดถึงเจ้าดรีมแมวที่ผมเลี้ยงอยู่เหมือนกันแถมเจ้าตัวนี้ยังคล้ายๆแมวที่บ้านของผมด้วยต่างกันแค่สีเท่านั้น
แล้วดรีมของผมจะมีคนเอาอาหารมาให้แบบนี้หรือเปล่า
ดรีม รอพ่อก่อนนะㅠㅠ
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ฉันเจอมันที่นี่มันดูหิวก็เลยเอาอาหารมาให้"
ในที่สุดคนข้างๆก็ยอมเอ่ยปากหลังจากผมถามคำถามเขาไปนานพอสมควรเเต่ก็เพิ่งได้คำตอบกลับมา
"ว่าแต่นายตื่นเช้าจังเลยนะ"
"ฉันยังไม่ได้นอนต่างหาก"
"ฮะ นายว่ายังไงนะ"
ประโยคที่จงอินพูดเมื่อสักครู่มันแผ่วเบามากเลยทำให้ผมต้องถามประโยคที่เขาพูดเมื่อสักครู่ใหม่
"มันคงหิวมากเลยเนอะ นายดูสิ"
เขาชี้ไปทางลูกแมวที่กำลังหิวโซจากการอดอาหาร แต่ผมไม่ได้มองตามที่เขาบอกแต่กำลังจ้องมองรอยยิ้มของคนข้างๆอยู่
รอยยิ้มนี้...ที่เหมือนเมื่อวาน
มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเเล้วทำให้ผมเผลอยิ้มตาม
"มีอะไรติดหน้าฉันหรือเปล่า?"
ถึงเขาจะถามผมแต่สายตาของเขาก็ยังจดจ่ออยู่ที่ลูกแมวเหมือมเดิม
"ฮะ...มะ..ไม่มีนี่.."
ผมพูดติดขัดเหมือนคนติดอ่าง นี่ผมหลงไปกับใบของเขาอยู่ใช่ไหม..จริงๆเเล้วเขาก็ไม่ได้ดูหล่อจนโดดเด่นเเต่เอาเข้าจริงๆเขาเป็นคนมีสเน่นะเนี่ย
"..แล้วแมวของนายชื่ออะไรเหรอ"
"ไม่มีหรอก ฉันไม่ได้ตั้ง"
"มันต้องมีชื่อสิ! เอาเป็นนน...เเคชเชอร์ ดีไหม?!"
ผมเสนอชื่อของเจ้าตัวเล็กออกไปแต่ดูจากสีหน้าคนข้างๆแล้วคงไม่ปลื้มกับชื่อนี้เท่าไรนัก
"เรียกยากชะมัด"
อ่าลืมไปว่าคนสมัยนี้ยังคงออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้สินะ
"งั้น..คยองซู...กับจงอิน...
ก็เป็น...คยองอิน เป็นไง!"
พอผมพูดชื่อนั้นออกไปใบหน้าของคนข้างๆก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
รอยยิ้มของเขาทำให้ผมยิ้มตาม
"คยองอิน.."
เขาเอ่ยชื่อของลูกแมวตัวน้อยพลางลูบหัวของมันอย่างแผ่วเบา
แสบตาชะมัดนี่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วเหรอ!แย่แล้วตลาดจะวายหรือยังเนี่ย
"ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน"
ผมยืนขึ้นทำท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่เขากลับคว้าข้อมือผมไว้เสียก่อน
"นายจะไปไหน?"
"จะไปดูของที่ตลาดหน่อยน่ะ..เอ่อ ไปด้วยกันไหม?"
ผมเอ่ยปากชวนจงอินไปตามมารยาทน่ะครับความจริงก็เเอบกลัวหลงอยู่เหมือนกัน
"ไปสิกำลังหิวพอดี.."
เขาปล่อยมือที่ตอนแรกจับข้อมือผมอยู่เปลี่ยนมาเป็นเเบมือตรงหน้าผมเเทน
หืม?เขาจะขอเงินผมเหรอ....
"ช่วยดึงหน่อยสิ ลุกไม่ขึ้น"
อ่ออ เข้าใจเเล้วก็เเค่ให้ช่วยดึง เเล้วพูดให้เข้าใจไม่ได้หรือไง? ถึงจะคิดเเบบนั้นเเต่ก็ดึงเขาขึ้นมาอยู่ดีเเต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเหมือนที่คิด
"ลุกขึ้นมาาจงอินน"
"นายก็ออกแรงดึงหน่อยสิ"
ผมพยายามออกแรงมากกว่าเดิมแต่ผลลัพธ์คือเท่าเดิม
"ไม่เอาแล้ว เหนื่อย เจอกัน"
เเค่ลุกขึ้นมานี่ยากเหรออ ผมปล่อยมือจากจงอินเเล้วเขาก็ก้นจ้ำเบ้ากับพื้นเลย ฮ่าๆสม อยากจะกินแรงผมทำไม
"ฮ่าาาๆโอ้ยขำว่ะ...เฮ้ย!!"
ผมร้องเสียงหลงเมื่อเขาออกแรงฉุดแขนผมให้ล้มตามเขาลงไป
และภาพตอนนี้คือ....ผมเชื่อว่าทุกคนต้องทายถูก ละครยามเย็นดีๆนี่เอง ถ้าชาวบ้านระแวกนี้เดินผ่านไปผ่านมาเห็นก็คงบัดสีบัดเถลิง ยุคนี้เขาพูดกันเเบบนี้ใช่ไหมโอเคตามสุภาษิตที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
"หายกัน..ลุกได้แล้วหนัก"
ไอ้บ้า!!
"ฉันไปก่อนนะ.."
ผมรีบตั้งสติของตัวเองเเล้วลุกขึ้นจากตัวเขาก่อนจะหันหลังก้าวฉับๆเดินหนีมาอย่างไวพยายามจะไม่หันไปมองข้างหลังอีก.. โอ๊ยอายว่ะครับ
ถ้าคยองซูมองไปข้างหลังสักนิดจะเห็นรอยยิ้มที่ต่างไปจากทุกครั้ง....
#ฟิคดักฝัน
_______________________
เเค่อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆเลยที่มาเม้นกัน
ถึงจะไม่เยอะก็ไม่เป็นไรรเเค่มาเม้นก็รู้สึกใจชื้นละ
1เม้นก็ปริ่มล้าวว55555555555
ฝากติดตามกันหน่อยน้าาใครที่เฟบเเล้วก็ติดตามกันไปนานๆเลยนะคะ♡
ความคิดเห็น