ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DREAMCATCHER {kaido}

    ลำดับตอนที่ #5 : dreamcatcher five .

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 57


    dreamcatcher five .


     







     

    내 마음속 작은 세상에 네가 있어.

    ☆☆☆☆




     

    หลังจากที่ผมกับชานยอลกลับมาจากร้านของเซฮุนเราทั้งสองคนก็ไม่ได้ปริปากพูดกันอีกขณะที่ผมกำลังจะทิ้งตัวลงนอนเขาก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน




     

    "พรุ่งนี้นายอยู่คนเดียวได้ไหม?"




     

    "ได้สิ..ทำไมเหรอ"




     

    "ฉันมีธุระน่ะ คงกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หาอะไรกินเองได้ใช่ไหม?"




     

    "ไม่ต้องห่วงหรอกน่าา ถึงของจะไม่เหมือนยุคที่ฉันอยู่แต่ใช่ว่าจะทำไม่เป็นสักหน่อย"




     

    "อืม..งั้นนอนเถอะ"




     

    เขาเอ่ยตัดบทก่อนจะดับเทียนลง ถ้าเป็นปกติทุกคืนเมื่อหัวถึงหมอนผมก็จะเข้าสู่ห้วงนิทราทันทีแต่ไม่ใช่กับคืนนี้ ถึงแม้จะพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็จบลงที่มองเพดานขาวๆในความมืดอยู่ดี






     

     

    dreamcatcher .
     







     

    'ว่าไงจ๊ะหนุ่มน้อย ยังจำฉันได้ไหม?'




     

    'คุณ....คนที่ให้ของกับผมนี่'




     

    เธอส่งยิ้มเล็กๆให้ผม




     

    'ใช่แล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะในยุคนั้น'




     

    'สบายดีครับ..ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมอยู่ที่นี่??'




     

    'ก็ฉันเป็นคนพาเธอมาเองและเธอก็จะกลับไปในยุคของเธอได้เมื่อถึงเวลา ขอให้โชคดีแล้วกัน...'




     

    'เดี๋ยวก่อนสิครับ!!'




     

    แล้วเธอก็หายลับไปอย่างรวดเร็ว




     

    "คยองซู..คยองตื่นได้แล้วนะ"




     

    ทั้งหมดมันคือความฝัน..




     

    "อื้ออ นายจะออกไปแล้วเหรอ"




     

    "อืม.."




     

    "แต่นี่...มันยังเช้ามืดอยู่เลยนะ"




     

    คยองซูพูดพลางหันไปมองที่หน้าต่าง




     

    "ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย"




     

    "อ่าๆโชคดีนะ"




     

    ชานยอลออกจากห้องไปเเล้วเหลือเพียงคยองซูกับความเงียบภายในห้องสี่เหลี่ยมนี่




     

    ทั้งที่ยังไม่เช้าแท้ๆแต่คยองซูก็ไม่คิดจะหลับต่อ เมื่อคืนเขาหลับไปตอนไหนนะ แต่คยองซูกับคิดเรื่องความฝันที่เขาฝันถึง..ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนให้เครื่องดักฝันกับเขา ปรากฏตัวและพูดประโยคที่ฟังดูเเล้วเข้าใจยาก




     

    'เมื่อถึงเวลา..' ประโยคนี้เขาจำได้ขึ้นใจ
    ทำไมกันนะทุกคนที่เขาพบเจอต้องพูดแต่ประโยคนี้ เวลา..แล้วอีกนานไหม?






     

    เขาทำได้เพียงแค่เก็บข้อสงสัยของตัวเองและพยายามไม่คิดถึงมันอีกแต่จะให้นอนต่อก็คงนอนไม่หลับ




     

    ไปออกกำลังกายยามเช้าดีไหมนะ?




     

    เมื่อนึกอะไรดีๆออกก็รีบลุกจากฟูกที่นอนแล้วเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดให้เหมาะกับที่จะไปออกกำลังกาย





     

     

    dreamcatcher .








     

    ผมออกจากบ้านของชานยอลตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างกะว่าจะออกมาเดินแถวๆนี้แต่พอคิดไปคิดมาแวะไปซื้อของกินที่ตลาดใกล้ๆนี้ดีกว่า ชานยอลก็พอเหลือเงินไว้ให้เขาได้ใช้จ่ายนิดหน่อย โชคดีที่ทางไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ชานยอลก็บอกเส้นทางผมไว้คร่าวๆเเล้วคงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง




     

    ระหว่างทางที่จะเดินไปตลาดก็เจอกับบุคลลหนึ่งที่ผมทำแผลให้เมื่อวาน มานั่งทำอะไรตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้เนี่ย




     

    "อ้าวจงอินมานั่งทำอะไรตรงนี้ ไม่ได้ไปกับชานยอลหรอกเหรอ"




     

    คยองซูเจอจงอินที่กำลังนั่งยองๆอยู่ที่พื้นเหมือนว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่าง




     

    "ฉันขี้เกียจไปกับพวกมันน่ะ"




     

    พวกมันในที่นี้คงมีแค่เซฮุนกับชานยอลสินะ ก็เห็นคบกันอยู่แค่นี้




     

    ผมเดินเข้าไปนั่งยองๆข้างๆจงอิน แล้วก็พบว่าเขากำลังให้อาหารลูกแมวอยู่





     

    "โอ๊ะ!แมวนี่ น่ารักจังเลย นายเลี้ยงมันเหรอ"




     

    นึกๆไปแล้วก็แอบคิดถึงเจ้าดรีมแมวที่ผมเลี้ยงอยู่เหมือนกันแถมเจ้าตัวนี้ยังคล้ายๆแมวที่บ้านของผมด้วยต่างกันแค่สีเท่านั้น

    แล้วดรีมของผมจะมีคนเอาอาหารมาให้แบบนี้หรือเปล่า




     

    ดรีม รอพ่อก่อนนะㅠㅠ




     

    "จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ฉันเจอมันที่นี่มันดูหิวก็เลยเอาอาหารมาให้"




     

    ในที่สุดคนข้างๆก็ยอมเอ่ยปากหลังจากผมถามคำถามเขาไปนานพอสมควรเเต่ก็เพิ่งได้คำตอบกลับมา




     

    "ว่าแต่นายตื่นเช้าจังเลยนะ"




     

    "ฉันยังไม่ได้นอนต่างหาก"




     

    "ฮะ นายว่ายังไงนะ"




     

    ประโยคที่จงอินพูดเมื่อสักครู่มันแผ่วเบามากเลยทำให้ผมต้องถามประโยคที่เขาพูดเมื่อสักครู่ใหม่




     

    "มันคงหิวมากเลยเนอะ นายดูสิ"




     

    เขาชี้ไปทางลูกแมวที่กำลังหิวโซจากการอดอาหาร แต่ผมไม่ได้มองตามที่เขาบอกแต่กำลังจ้องมองรอยยิ้มของคนข้างๆอยู่




     

    รอยยิ้มนี้...ที่เหมือนเมื่อวาน
    มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเเล้วทำให้ผมเผลอยิ้มตาม






     

    "มีอะไรติดหน้าฉันหรือเปล่า?"




     

    ถึงเขาจะถามผมแต่สายตาของเขาก็ยังจดจ่ออยู่ที่ลูกแมวเหมือมเดิม




     

    "ฮะ...มะ..ไม่มีนี่.."

    ผมพูดติดขัดเหมือนคนติดอ่าง นี่ผมหลงไปกับใบของเขาอยู่ใช่ไหม..จริงๆเเล้วเขาก็ไม่ได้ดูหล่อจนโดดเด่นเเต่เอาเข้าจริงๆเขาเป็นคนมีสเน่นะเนี่ย




     

    "..แล้วแมวของนายชื่ออะไรเหรอ"




     

    "ไม่มีหรอก ฉันไม่ได้ตั้ง"




     

    "มันต้องมีชื่อสิ! เอาเป็นนน...เเคชเชอร์ ดีไหม?!"



     

    ผมเสนอชื่อของเจ้าตัวเล็กออกไปแต่ดูจากสีหน้าคนข้างๆแล้วคงไม่ปลื้มกับชื่อนี้เท่าไรนัก




     

    "เรียกยากชะมัด"




     

    อ่าลืมไปว่าคนสมัยนี้ยังคงออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้สินะ




     

    "งั้น..คยองซู...กับจงอิน...




     

    ก็เป็น...คยองอิน เป็นไง!"




     

    พอผมพูดชื่อนั้นออกไปใบหน้าของคนข้างๆก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา




     

    รอยยิ้มของเขาทำให้ผมยิ้มตาม




     

    "คยองอิน.."




     

    เขาเอ่ยชื่อของลูกแมวตัวน้อยพลางลูบหัวของมันอย่างแผ่วเบา




     

    แสบตาชะมัดนี่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วเหรอ!แย่แล้วตลาดจะวายหรือยังเนี่ย




     

    "ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน"




     

    ผมยืนขึ้นทำท่าจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่เขากลับคว้าข้อมือผมไว้เสียก่อน




     

    "นายจะไปไหน?"




     

    "จะไปดูของที่ตลาดหน่อยน่ะ..เอ่อ ไปด้วยกันไหม?"




     

    ผมเอ่ยปากชวนจงอินไปตามมารยาทน่ะครับความจริงก็เเอบกลัวหลงอยู่เหมือนกัน




     

    "ไปสิกำลังหิวพอดี.."




     

    เขาปล่อยมือที่ตอนแรกจับข้อมือผมอยู่เปลี่ยนมาเป็นเเบมือตรงหน้าผมเเทน




     

    หืม?เขาจะขอเงินผมเหรอ....




     

    "ช่วยดึงหน่อยสิ ลุกไม่ขึ้น"




     

    อ่ออ เข้าใจเเล้วก็เเค่ให้ช่วยดึง เเล้วพูดให้เข้าใจไม่ได้หรือไง? ถึงจะคิดเเบบนั้นเเต่ก็ดึงเขาขึ้นมาอยู่ดีเเต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเหมือนที่คิด




     

    "ลุกขึ้นมาาจงอินน"




     

    "นายก็ออกแรงดึงหน่อยสิ"




     

    ผมพยายามออกแรงมากกว่าเดิมแต่ผลลัพธ์คือเท่าเดิม




     

    "ไม่เอาแล้ว เหนื่อย เจอกัน"




     

    เเค่ลุกขึ้นมานี่ยากเหรออ ผมปล่อยมือจากจงอินเเล้วเขาก็ก้นจ้ำเบ้ากับพื้นเลย ฮ่าๆสม อยากจะกินแรงผมทำไม




     

    "ฮ่าาาๆโอ้ยขำว่ะ...เฮ้ย!!"



     

    ผมร้องเสียงหลงเมื่อเขาออกแรงฉุดแขนผมให้ล้มตามเขาลงไป




     

    และภาพตอนนี้คือ....ผมเชื่อว่าทุกคนต้องทายถูก ละครยามเย็นดีๆนี่เอง ถ้าชาวบ้านระแวกนี้เดินผ่านไปผ่านมาเห็นก็คงบัดสีบัดเถลิง ยุคนี้เขาพูดกันเเบบนี้ใช่ไหมโอเคตามสุภาษิตที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม




     

    "หายกัน..ลุกได้แล้วหนัก"




     

    ไอ้บ้า!!




     

    "ฉันไปก่อนนะ.."




     

    ผมรีบตั้งสติของตัวเองเเล้วลุกขึ้นจากตัวเขาก่อนจะหันหลังก้าวฉับๆเดินหนีมาอย่างไวพยายามจะไม่หันไปมองข้างหลังอีก.. โอ๊ยอายว่ะครับ




     

    ถ้าคยองซูมองไปข้างหลังสักนิดจะเห็นรอยยิ้มที่ต่างไปจากทุกครั้ง....




     

    ‪#‎ฟิคดักฝัน
     


     

     


    _______________________

    เเค่อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆเลยที่มาเม้นกัน
    ถึงจะไม่เยอะก็ไม่เป็นไรรเเค่มาเม้นก็รู้สึกใจชื้นละ
    1เม้นก็ปริ่มล้าวว55555555555
    ฝากติดตามกันหน่อยน้าาใครที่เฟบเเล้วก็ติดตามกันไปนานๆเลยนะคะ♡

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×