ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DREAMCATCHER {kaido}

    ลำดับตอนที่ #1 : dreamcatcher one .

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58










             
     

                           . dreamcatcher one ♡








    กลุ่มเมฆสีเทาที่ลอยละล่องอยู่บนฟ้าเป็นสัญญาณที่บอกว่าฝนกำลังจะตก ผมยกนาฬิกาขึ้นมองอีกครั้งแล้วรีบเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น เวลาแบบนี้ผมควรกลับบ้านและอาบน้ำนอนซุกตัวอยู่บนเตียงอุ่นๆของผมมากกว่าที่จะมาเดินอยู่บนถนนที่ไร้ผู้คน





    เสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้นกับกลุ่มเมฆที่เปลี่ยนเป็นสีดำทะมึนทำให้ผมรีบเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นอีกแต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวข้ามทางม้าลายไป เม็ดฝนฉาดใหญ่ก็เทลงมาจากท้องฟ้า ผมควานหาร่มในกระเป๋าแต่กลับไม่เจอ อ่า..ผมคงลืมหยิบร่มมา ผมมองซ้ายมองขวาหาที่กำบังฝนที่ใกล้ที่สุด ร้านขายของเก่าปรากฏอยู่ในกรอบสายตา ไม่รอช้าผมรีบสาวเท้าเข้าไปยืนใต้กันสาดที่ยื่นออกมาจากตัวร้าน เสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝนแนบไปกับผิวเนื้อบวกกับลมเย็นๆที่พัดกระหน่ำทำให้ผมตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปหาไออุ่นจากร้านที่ดูลึกลับนั่น





    ข้างในตัวร้านเป็นเหมือนแหล่งรวมของเก่าแก่ที่หาดูได้ยากจากทั่วทุกมุมโลก ทุกๆอย่างในนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผมกำลังศึกษาอยู่





    อ่า..ผมคิดว่าพวกคุณคงกำลังสงสัย คยองซู.. โดคยองซูคือชื่อของผม ผมจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนชื่อดังด้วยเกรดที่สูงลิบจนสามารถเข้ามหาลัยอันดับต้นๆได้อย่างสบายหรือคณะเเพทย์อะไรเทือกนั้นที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกเรียนกัน แต่..คณะโบราณคดีคือคณะที่ผมเลือก มันอาจจะดูเป็นคณะที่ไม่ค่อยน่าสนใจ จนบางคนยังเเทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคณะนี้อยู่ด้วย แต่คุณเชื่อไหมว่าคณะโบราณคดีมันมีอะไรที่ลึกลับ น่าค้นหามากกว่าที่พวกคุณคิดเสียอีก เท่าที่ผมเห็นภายในร้านนี้สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมไปจนหมดเห็นทีน่าจะเป็นเครื่องดักฝันอันนี้ล่ะครับ มันดึงดูดความสนใจของผมราวกับโดนมนต์สะกด






    "สวยไหม?"




     

    ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหญิงแก่รูปร่างผอมเพรียว ดวงตาสีม่วงเข้มมายืนอยู่ข้างๆผม เธอเอ่ยถามสั้นๆทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เครื่องดักฝันนั่น



     

    "เอ่อ..สวยครับ"



     

    มือเหี่ยวย่นของเธอเอื้อมไปหยิบเครื่องดักฝันแล้วยื่นมันให้กับผม



     

    "ครับ?"



     

    ผมเอ่ยเสียงแผ่ว คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย



     

    "รับไว้สิ มันจะช่วยปัดเป่าฝันร้ายของเธอ.. จำไว้ล่ะพ่อหนุ่มสิ่งของทุกๆอย่างมันเป็นคนเลือกเจ้าของของมันเอง"



     

    ผมรับเครื่องดักฝันมาไว้ในมือด้วยความงุนงง คำพูดสุดท้ายของเธอทิ้งปริษนาไว้มากมาย แต่ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยถามสิ่งที่ข้องใจ เธอก็เดินหายไปแล้ว ผมมองซ้ายมองขวาหาร่างของเธอแต่กลับไม่เจอ ดวงตาของผมเลื่อนกลับมามองอยู่ที่เครื่องดักฝันอีกครั้ง ผมจ้องมองมันอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง





    สายฝนที่ตกหนักในคราแรกได้หยุดลงพร้อมๆกับสติสัมปัญชัญญะของผมที่เริ่มกลับมา ผมเก็บเครื่องดักฝันลงในกระเป๋าแล้วก้าวเท้าออกจากร้านขายของเก่าแห่งนี้ไป ท้องฟ้าที่กลับมาสดใสอีกครั้งหลังจากฝนตกหนักก็ปรากฏรุ้งกินน้ำเจ็ดสีคาดผ่านเพิ่มสีสันให้กับท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี เดินเอื่อยเฉื่อยมาได้อีกไม่เท่าไรก็ถึงป้ายรถเมล์รอไม่นานสายที่ต้องการก็มาจอดเทียบท่า ผมก้าวเท้าขึ้นไปบนรถคันใหญ่เลือกที่นั่งริมหน้าต่างและไม่ลืมที่จะเสียบหูฟังเพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ หลับตาพริ้มสูดกลิ่นไอดินของธรรมชาติ





    ผ่านไปสักพักพาหนะคันใหญ่ก็จอดเทียบป้ายปลายทางของผม จากป้ายรถเมล์ถึงหอพักต้องเดินต่อไปอีกสักหน่อย ผมก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอจนถึงห้องพักของผม ผมควานหากุญแจในกระเป๋าแล้วไขประตูเข้าห้องไป มือข้างขวาเอื้อมไปเปิดสวิตไฟในขณะที่มือข้างซ้ายปลดประเป๋าเป้ออกจากบ่า เขวี้ยงทิ้งไปในสักที่ของห้องก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องน้ำใช้เวลาอาบน้ำสระผมชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายไม่ถึงสิบนาที ผมทำเวลาได้ดีเหมือนกันนะ ฮา เมื่อแต่งตัวเสร็จก็จัดการย้ายสารร่างของตัวเองมาไว้บนที่นอน จัดการแขวนเครื่องดักฝันเอาไว้ที่หัวเตียงแล้วจมดิ่งเข้าสู่ห่วงนินทราไป



     

    คืนนี้.. ฝันดีนะครับ























     

    ความรู้สึกที่เหมือนกับตกลงมาจากที่สูงทำให้ผมต้องลืมตาขึ้น มือก็พลางลูบคลำสะโพกตัวเองป้อยๆด้วยความเจ็บ แสงสีขาวที่สาดเข้ามาทำให้ผมต้องหยีตาลงมือที่ลูบคลำสะโพกของตัวเองอยู่เลื่อนมาป้องดวงตาของตัวเอง ใช้เวลาปรับสภาพให้ชินไม่นานก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพการต่อสู้แย่งชิงหรือถ้าจะพูดให้ถูก.. การรบ ภาพการรบปรากฏอยู่ตรงหน้าของผม ผมกระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งทำให้ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนรางและปรากฏภาพของชายหนุ่มผิวสีแทนซ้อนกัน โครงหน้าที่ดูหล่อเหลาและดูโดดเด่นติดตรึงเข้าไปในความทรงจำของผมเป็นอย่างดี ใครกันนะ..ผู้ชายคนนั้น..





     

    เหมี๊ยว~



     

    "ไม่เอาน่าดรีม"



     

    สัมผัสชื้นแฉะที่ข้างแก้มกับเสียงร้องเหมียวๆทำให้ผมต้องลืมตาขึ้น เจ้าดรีมแมวของผมเองครับ ที่มันกวนแต่เช้าก็เพราะมันเป็นแมวขี้อ้อนน่ะครับ แต่ขนปุกปุยของมันที่ร่วงเต็มพื้นห้องก็ถือเป็นข้อเสียที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าดรีมก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมแล้วในเวลานี้ ผมอุ้มมันมาวางไว้บนอก ลูบหัวของมันแผ่วเบาแล้วขยับปากเล่าความฝันของผมให้มันฟัง



     

    "เมื่อคืนพ่อฝันด้วยล่ะดรีม.." บ้าไหมล่ะครับพูดกับแมว ผมพูดพร้อมกับลูบหัวของมันอย่างแผ่วเบา ปกติแล้วผมเป็นคนที่นอนหลับสนิทนะครับฝันทีแถบนับครั้งได้ เรื่องราวในความฝันก็มีแต่เรื่องไร้สาระ ผมจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองสักพัก ภาพการรบ ดาบยาว มีดเเละม้า รวมถึงใบหน้าคมกับผิวสีแทนของใครคนนั้น.. ผมสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากสมอง วางเจ้าแมวตัวน้อยลงกับพื้น สองเท้าค่อยๆเเตะลงบนพื้นห้องเย็นเฉียบ มือเอื้อมไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วก้าวเดินเข้าห้องน้ำไป




     

    "โบราณ..."



     

    "..."



     

    "คยองซู...ฮัลโหลลล"



     

    "..."



     

    "ดโย!!"



     

    "ห้ะ!มีไร บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกชื่อนั้น"



     

    "ก็นายไม่ได้ยินฉันนี่ เป็นอะไรหรือเปล่า? เหม่อเชียว"



     

    บยอน แบคฮยอน เพื่อนสนิทคนเดียวของผมเองครับ เราเรียนคนละคณะกัน แต่ถ้าพวกเรามีเวลาว่างตรงกันก็มักจะมานั่งคุยเหมือนตอนนี้..ที่เอางานที่อาจารย์สั่งมาให้ผมช่วย



     

    "เมื่อคืนฉันฝันถึงคนๆหนึ่ง..."




    แบคฮยอนหันมามองผม ผมจึงเอ่ยขึ้นต่อ



     

    "เขาเป็นผู้ชาย ผิวสีแทน.."



     

    "อืมมมม ยายฉันเคยพูดว่าถ้าเราฝันถึงใครแสดงว่าเราคิดถึงคนนั้น"



     

    "ยายนายมั่วแล้ว ฉันไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำไปจะคิดถึงเขาได้ยังไง.. เอะ.."



     

    ผมเว้นจังหวะในการพูด สมองนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่หญิงแก่ดวงตาสีม่วงคนนั้นให้ของบางอย่างกับผมมาฟรีๆ



     

    "อะไรเหรอ?"



     

    "เมื่อวาน..อยู่ดีๆฝนก็ตกฉันเลยไปหลบฝนที่ร้านขายของเก่าแล้วผู้หญิงแก่ๆตาสีม่วงเขาให้เครื่องดักฝันมา ฉันเลยเอามันห้อยไว้ที่หัวเตียง เรื่องมันจะเกี่ยวกันไหม?"


     

    "เอ๋.. ก็ไม่แน่นะ ตอนเย็นพวกเราไปที่ร้านนั้นกันไหมล่ะ?"




    "อืม เอาสิ"



     

    "อ่าา ฉันไปแล้วนะ"



     

    แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว ผมมองแบคฮยอนที่กำลังเก็บของด้วยความงุนงงเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นโบกไปมาเป็นการล่ำลา


     

    "ครับบ บ๊ายบายย"




     

    ร่างของแบคฮยอนก้าวเดินออกไปจนลับตา ผมยกนาฬิกาขึ้นดูก็พบว่าใกล้เข้าเรียนแล้ว ผมลุกขึ้นพลางกวาดของทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะลงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่หลงเหลือสิ่งของของตัวเองอยู่บนโต๊ะ ขาทั้งสองข้างจึงนำพาตัวเองขึ้นตึกเรียนไป



     

    ทันทีที่ผมหย่อนร่างของตัวเองลงกับเก้าอี้ อาจารย์ผู้สอนก็เดินเข้ามายืนอยู่หน้าห้องและเริ่มทำการสอนทันที หัวข้อของการเรียนในวันนี้เป็นเรื่องราวของประวัติศาตร์เกาหลีประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของผม นั่งตั้งใจเรียนได้ไม่นานสมาธิทั้งหมดก็ถูกดูดหายไปพร้อมกับภาพของชายในฝันเข้ามาแทนที่ อ่า..นี่เรื่องราวของผู้ชายคนนั้นกำลังจะทำให้ผมเสียการเรียน..



     

    "นักศึกษาโด"



     

    "คะ..ครับ?"



     

    ผมลุกขึ้นยืนตรง ในขณะที่อาจารย์ประจำวิชาจ้องมองมาอย่างไม่วางตา



     

    "ผมขอถามคำถามง่ายๆสักคำถามนะครับ ผู้นำของเกาหลีในสมัยสงครามญี่ปุ่น-เกาหลี มีใครบ้าง? บอกผมมาสักสามชื่อได้ไหมครับ"



     

    หงายตึงเลยครับคำถาม สาบานได้ว่าง่ายแล้ว ถ้าเป็นปกติผมคงลุกขึ้นตอบได้อย่างสบาย..แต่ไม่ใช่วันนี้ วันที่สมาธิของผมถูกดูดหายไปกับชายหนุ่มผิวสีแทนเสียหมด ผมได้แต่ยืนนิ่งเงียบ คือจะตอบว่าไม่รู้ก็ดูโง่มาก หรือจะให้ตอบว่าลีซูมาน? มันไม่ใช่ป่ะครับ ผมคงติดเอฟแน่ๆ



     

    "ไม่ตอบแสดงว่าไม่รู้.. นักศึกษาควรจะสนใจสิ่งที่ผมสอนมากกว่านี้นะครับยิ่งถ้าเป็นนักศึกษาดีเด่นมาตลอดเเล้วด้วย ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างของเพื่อนร่วมคณะทุกคนนะครับ น่าผิดหวัง"



     

    มาเป็นชุดครับ นี่ผมตอบคำถามไม่ได้หรือไปเผาบ้านอาจารย์..



     

    "ขะ..ขอโทษครับ ผมจะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้"



     

    "ถ้าวันนี้คุณไม่มีสมาธิที่จะเรียน ก็เชิญกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะแล้วค่อยมาเมื่อคุณมีสมาธิมากกว่านี้"



     

    ผมจัดการเก็บของบนโต๊ะลงใส่กระเป๋าอีกครั้งทั้งๆที่ยังไม่ได้ใช้ อาจารย์ดูเหวอๆไปเล็กน้อยแต่ผมไม่ได้สนใจ ในเมื่ออาจารย์เป็นคนออกปากอนุญาตให้ผมกลับไปพักผ่อนเองผมก็จะไปครับ



     

    "ขอตัวก่อนนะครับ"


     

    ผมมายืนตรงหน้าอาจารย์ โค้งทำความเคารพและเดินออกจากห้องไป ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคลิกเข้าไปที่โปรแกรมแชทยอดฮิต



     

    'เเบคอา นายเรียนอยู่ใช่ไหม? เลิกแล้วไม่ต้องรอนะ ฉันเหมือนจะไม่สบายเลยขออาจารย์กลับก่อนเจอกันพรุ่งนี้:)'



     

    เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงกว่าแบคฮยอนจะเลิก ผมเลยเลือกที่จะกลับบ้านของตัวเองไปก่อน ผมเดินเอื่อยเฉื่อยไปเรื่อยจนมาถึงร้านขายของเก่าร้านเดิม เมื่อลองมองสำรวจร้านไปเรื่อยเปื่อยจนพบว่าร้านขายของเก่าแห่งนี้มีชื่อร้านว่า 'Dreamcatcher' อ่า..เครื่องดักฝัน เพราะดีนะครับ




     

    กริ๊ง~




     

    ผมผลักประตูร้านเข้าไปช้าๆ ชะเง้อมองหาหญิงแก่ที่น่าจะอยู่ประจำร้านอย่างเช่นเมื่อวานแต่กลับไม่พบ



     

    "ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีคนอยู่หรือเปล่า?"



     

    บรรยากาศทะมึนๆกับไอเย็นของร้านทำให้ผมขนลุกซู่ แต่ก่อนที่จะเอ่ยถ้อยคำใดออกไป ร่างของหญิงแก่คนเดิมก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของผม



     

    "มีอะไรพ่อหนุ่ม?"



     

    เธอเอ่ยเสียงนุ่มนวลน่าฟัง



     

    "ผมอยากถามอะไรสักหน่อยน่ะครับ.."



     

    ไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อเธอก็แย้งขึ้นมาก่อน



     

    "เขาอาจจะเป็นเนื้อคู่ของเธอก็ได้"



     

    "ผมเอามันมาคืนคุณได้ไหมครับ"



     

    "เครื่องดักฝันนั่นน่ะหรอ..? แล้วแต่นะ..ถ้าเธอเอามันมาคืนให้กับฉัน โชคร้ายจะติดตามตัวเธอไปตลอดกาล"



     

    เมื่อพูดจบ เธอก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งท่าทางของเธอก็ทำให้ผมคิดไปเองว่าเธอนั้นเป็นแม่มด





    ว่าแล้วผมก็กลับมาคิดทบทวนคำพูดของเธออีกครั้ง เนื้อคู่..? เนื้อคู่ไหนครับเธอหมายความว่ายังไง? ใช้เวลาตบตีกับตัวเองได้อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับบ้านของตัวเองเนื่องจากสภาพฟ้าฝนด้านนอกที่ยังไม่แน่นอนทำให้ผมต้องรีบรุดออกจากร้านไป





    กิจวัตรเดิมๆอย่างการยืนรอรถเมล์กลับมาอีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาทีรถเมล์สายเดิมก็เคลื่อนตัวมาจอดเทียบป้าย ผมก้าวขึ้นรถและหาที่นั่งริมหน้าต่างเช่นเดิม ใช้เวลาไม่นานมากนักก็ถึงหอพักของผม เนื่องจากจราจรที่ไม่ติดขัดทำให้ผมถึงที่หมายได้เร็วกว่าที่คาดไว้ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี





    ผมก้าวเดินจากป้ายรถเมล์กลับไปยังห้องพักของผม ทันทีที่ก้าวเข้าห้องมาได้ผมก็ตรงดิ่งไปยังตู้เย็น ดวงตามองหาของที่สามารถรับประทานลงท้องได้มากิน





    อ่า..ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย มันคงอยากย่อยอาหารเลยมีเสียงท้องร้องประท้วงออกมา ผมรีบจัดการส่งของกินไปตามคำขอของมันทันที ยืนขาแข็งอยู่ได้ไม่นานผมก็จัดการย้ายสารร่างของตัวเองไปยังโซฟาตัวยาว มือข้างขวาคว้ารีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์หาช่องการ์ตูนโพโรโระดูแต่กลับพบเพียงละครหลังข่าวที่มักจะมีผู้หญิงแต่งตัวสีจัดจ้านมาตบตีกันแย่งผู้ชาย ผมเบ้ปากด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะเลื่อนเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆจนพบกับสารคดีสัตว์โลก   





    ผมตัดสินใจหยุดชีวิตไว้กับเรื่องราวของสัตว์โลกต่างๆ.. แต่นั่งดูได้เพียงไม่นานผมก็พบว่าเรื่องราวของสัตว์โลกคงไม่ใช่ทางของผมเมื่อเปลือกตาของผมหนักอึ้งจนลืมแทบไม่ขึ้นดวงตาก็ปิดสนิทลงไปในที่สุด





    น้ำน่ะ..ไว้อาบพรุ่งนี้เช้าละกันนะร่างกาย







    ฝันดีราตรีสวัสดิ์..



















     










    แสงสีขาวสว่างแสบตาเหมือนกับความฝันของผมเมื่อคืนสาดเข้ามาทำให้ผมต้องหยีตาลง ภาพการกระทำของผมที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานฉายชัดขึ้นมาในสมองราวกับหนังสั้นเรื่องหนึ่ง





    ความรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาราวกับเป็นไมเกรนทำให้ผมต้องยกมือขึ้นมากุบขมับหวังจะลดอาการเจ็บปวดลง แต่ไม่เลย..





    เมื่อภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจบลงด้วยความรวดเร็วพร้อมๆกับอาการปวดศรีษะแบบแปลกๆของผมที่หายไป ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและมองสำรวจรอบๆก่อนจะพบว่า..

    ที่นี่มันไม่ใช่ห้องของผม!....



     

    ------------------------------------



    โอเคทุกคนเราอัพ100%เเบบไม่มีอินโทรเเบบมาตอนที่1เลย ติสก็เงี้ยย เปิดเรื่องใหม่เเต่ไม่อัพเรื่องเก่า#อย่าตบเรา ฝากดรีมเเคชเชอร์ไคโด้ไว้ในยัวฮ่ะฮะฮาร์ทสักนิดนะคะะะ♡





     

     
    © themy butter




     
    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×