คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : my yaguza ตอนที่ 2 เกือบตาย
ตอนที่ 2 เกือบตาย
13 ปี ผ่านไป
ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา จุนฮยองได้ฝึกฝนทักษะการป้องกันตัว การยิงปืน ฯลฯ และเค้าก็สามารถทำได้อย่างดีจุนฮยองนับว่าเป็นคนที่มีฝีมีดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนกีกวังและโยซอบนั้นเค้าทั้งสองไม่ได้ฝึกจนขั้นเก่งแต่ก็สามารถป้องกันตัวได้ ตอนนี้ โยซอบได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์เพราะเนื่องจากเค้าเป็นลูกชายโดยสายเลือดของ ยาง ฮีเจ จึงทำให้เค้าต้องรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไป โดยมีจุนฮยองและกีกวังคอยช่วยงานอยู่
“ซึงโฮ งานที่ฉันให้ทำ เรียบร้อยดีไหม” จุนฮยองถาม แต่เขาก็ยังก้มหน้าก้มตาทำงาน
“เรียบร้อยดีครับ” ซึงโฮลูกน้องมือขวาฝีมือดีเอ่ยคำตอบที่น่าภาคภูมิใจออกมา
“อืม” จุนฮยอง ยังคงไม่เงยหน้า
“มีร์ บ่อนที่ให้ไปดูแลน่ะ เรียบร้อยดีไหม”
“เรียบร้อยดีครับ” มีร์ ลูกน้องมือซ้ายฝีมือเยี่ยมรายงาน
“อืม” จุนฮยองพยักหน้าตอบ
ก๊อก ๆ ๆ ๆ แอ๊งงงงง (เสียงเปิดประตู)
“พี่จุนฮยองฮะ ผมกับกีกวังจะออกหาไรกินข้างนอก พี่จะเอาอะไรไหมฮะ” โยซอบโผล่หน้าตาอันแอ๊บแบ๊วของเขา
“ไม่อ่ะ งานยังไม่เสร็จเลย โยไปเถอะ”จุนฮยองก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
“แล้วพี่จะเอาอะไรไหมฮะ เดี๋ยวผมซื้อมาฝาก”
“ไม่อ่ะ”
“พี่พักผ่อนบ้างนะฮะ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะ”
“งานนี้มันไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างโยหรอก” จุนฮยองเงยหน้าขึ้นมาพูดกับโยซอบ
“อะไร ใครว่าเค้าเด็ก เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ แค่หน้าตาเค้าแบ๊วเฉยๆ”พูดจบ เจ้าตัวก็ทำหน้าตาแอ๊บแบ๊ว ตาโต แก้มป่อง ใส่จุนฮยอง
“ใครจะเหมือนพี่จุนฮยองล่ะฮะ อายุก็ห่างจากเค้าไม่เท่าไรหรอก หน้าตาไปไกลแล้วนะ เกือบ 40 อ่ะ” โยซอบพูดไว้แค่นี้ก็ปิดประตูทำให้ลูกน้องสองคนอมยิ้มไปด้วยจุนฮยองปรายตามองอย่างปรามๆทำให้ ซึงโฮและมีร์เงียบไปในทันที
“ซึงโฮ มีร์” จุนฮยองเอ่ยเรียกลูกน้อง
“ครับ/ครับ”
“ฉันหน้าแก่จริงๆเหรอ”
“กีกวังเสร็จหรือยัง เจ้าของร้านอาหารโทรตามแล้วนะ” โยซอบตะโกนถาม
“หา!!!!!! จริงเหรอเนี่ย” เมื่อกีกวังได้ยินอย่างนั้น ก็รีบวิ่งลงมาจากบันไดชั้นบน
“ที่นายบอกว่า เจ้าของร้านเค้าโทรตามอ่ะ จริงหรอโยซอบ แล้วเค้าว่าไงบ้างอ่ะ” กีกวังถามอย่างหน้าตาตื่น
“เค้าล้อเล่นหรอก ก็กีกวังอ่ะ มัวแต่ทำอะไรอยู่ ช้าเกินไปแล้วนะ” โยซอบโวยวาย
“โหย!!! เมื่อกี้เค้าวิ่งลงมาเกือบตกบันไดอ่ะ แล้วถ้าเกิดเค้าเกิดตกบันไดขึ้นมาจริงๆอ่ะ จะทำไง” กีกวังงอน
“ก็ไป โรงพยาบาลอ่ะดิ หรือจะไม่ไป นอนตายตรงนี้ก็ได้” โยซอบยังไม่หายโกรธ
“โยซอบอ่ะ แม่ง กวนตีนว่ะ พี่จุนฮยองไม่ไปด้วยกันเหรอ”กีกวังถาม
“อืม พี่จุนฮยองยังไม่เสร็จงาน”โยซอบตอบ
“งั้นไปกันแค่สองคนก็ได้”กีกวังและโยซอบเดินออกไปนอกบ้าน
ห้างสรรพสินค้า***
ในขณะที่สองหนุ่มกำลังเดินคุยกันอย่างเพลิดเพลินนั้น ยังมีสาวๆหลายคนและหนุ่มๆอีกหลายคนจ้องกันตามัน คนพวกนั้นพยายามส่งสายตาเชิญชวนมาให้แต่ทั้งสองก็ไม่สนใจ
“กีกวัง เค้าหิวแล้วอ่ะ หาไรกินกันเถอะ” โยซอบเอ่ยชวนกีกวังเพราะนี่เค้าทั้งสองคนก็เดินมานานแล้ว
“อืม นั่นดิ” กีกวังเห็นด้วยแล้วทั้งสองคนก็เดินไปหาร้านอาหารอร่อยๆกิน
“นี่ โยซอบ ทำไมคนพวกนั้นเค้ามองเราแปลกๆอ่ะ หรือว่า!!!....” กีกวังถามโยซอบ
“หรือว่า!!!...” ๐.๐ โยซอบ
“หรือว่า!!!..” 0.0- กีกวัง
“หรือว่า!!!..” -โยซอบ
“หรือว่า!!!...” กีกวัง
โอ้ย หรือว่า อะไรเล่า รีบๆบอกมาสิ ชั้นอยากรู้นะ ลุ้นจะขี้จะออกตาแล้ว โยซอบคิดในใจ
“หรือว่า อ่ะไรล่ะกีกวัง มัวแต่ หรือว่า หรือว่า กันอยู่นั่นน่ะ” โยซอบเริ่มทนไม่ไหว (ได้ข่าวว่าแกก็หรือว่าไปกับเค้าด้วยไม่ใช่เหรอ ยังจะไปว่าเค้าอีก)
“หรือว่า!!!..” กีกวัง มันยังไม่เลิก
“หรือว่า!!!..”โยซอบลุ้นจนขี้จะออกตา
“หรือว่าหน้าฉันมีไรติดอยู่อ่ะ” คำตอบที่กีกวังได้บอกให้โยซอบรู้ ทำให้คนที่อยากรู้ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินนำออกไปอย่างระอา
“นี่ !!! โยซอบ ฉันถามอ่ะ ไม่ได้ยินเหรอ ว่ามีอะไรติดหน้าฉันหรือป่าว” กีกวัง โวยวายก่อนจะเดินตามโยซอบไปติดๆ กว่าจะเคลียร์กันได้ยาวอ่ะนะ
ร้านอาหาร
“นานๆทีเราจะได้มาเที่ยวด้วยกันเนอะกีกวัง” โยซอบ พูดลอยๆออกมา
“นั่นสิ ตั้งแต่นายได้รับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งค์เนี่ย เราก็ไม่ค่อยได้มาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆแล้วอ่ะ งานคงยุ่งมากสินะ” กีกวังพูดอย่างน้อยใจ
“พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงานแล้วอ่ะ”โยซอบ
“อืม ตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไป เราไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ มันหมดเวลาแล้วหละ หมดเวลาแห่งความสุข เราโตขึ้น เรามีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย” กีกวังพูดสมทบ
“กลับบ้านกันเถอะ”โยซอบชวนกีกวัง
“อืม” และทั้งสองก็เดินออกจากร้านไป
“โยซอบ ฉันรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามเรามาเลยอ่ะ” กีกวังเดินเข้าใกล้โยซอบและพูดเบาๆ
“เอ้า กีกวัง นี่นายถามไรแปลกๆนะ เรามาเดินห้าง คนเค้าก็ต้องเดิน มันก็ต้องมีคนเดินตามกันมั่งแหละ คิดไรมากเนี่ย” โยซอบเอ่ยอย่างสบายใจ ตาก็มองดูของที่ตามร้านต่างๆ
“ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ฉันพูดอ่ะ หมายถึงว่าเหมือนมีคนสะกดรอยตามเราอ่ะ”กีกวังพูดอย่างเบาทีสุดเพื่อไม่ให้คนที่สะกดรอยตามมานั้นรู้ตัวว่าพวกเขารู้ตัวแล้ว(แอบงง)
“หืม? ไหน” โยซอบหันไปมองรอบทิศทาง
“นี่!!! อย่าทำอย่างนั้นสิ เดี๋ยวพวกมันก็รู้ตัวหรอกว่ารู้ตัวแล้ว”กีกวังห้ามการกระทำของโยซอบ
“ฉันว่านายคิดมากไปหรือเปล่า”โยซอบถามกีกวังอย่างเป็นห่วง
“ไม่!!! ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ นี่ ไม่เชื่อฉันใช่ไหม เดี๋ยวคอยดูแล้วกัน” กีกวังพูดอย่างน้อยใจนิดหน่อยที่โยซอบไม่เชื่อเค้า
ทั้งสองคนจึงเดินไปเรื่อยๆ และลอบมองอยู่เป็นระยะๆ
“ไหนอ่ะ ยังไม่เห็นเลย” โยซอบกระซิบกระซาบอย่างไม่พอใจ
“ใจเย็นๆสิ” กีกวังตอบกลับ
“นายพร้อมหรือยัง” กีกวังกระซิบถามโยซอบ
“อะไร?”
“3”
“ฉันงงไปหมดแล้วนะเนี่ย” โยซอบงงกับการกระทำของกีกวังเป็นอย่างมาก
“2”
“โอ้ย กีกวัง อะไรของนายเนี่ย” โยซอบงงรอบ 2
“1 วิ่ง” เมื่อกีกวังนับเลขเพื่อเป็นการเตรียมตัวเสร็จ(สงสัยจะแกคนเดียวละมั้งที่เตรียมตัว เพราะโยซอบเค้ายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย:ไรเตอร์) ก็พาโยซอบวิ่งสู้ฟัด
“นาย..ฮือ..จะพาฉัน..ฮืออ..ไปไหน” โยซอบถามกีกวังในขณะที่ทั้งสองกำลังวิ่งสุดชีวิต
“ไม่..ฮึก...รู้” กีกวังจับมือโยซอบวิ่งไปเรื่อยๆ เมื่อเค้าทั้งสองวิ่งมาถึงตรงที่มีพริตตี้สาวสวยกำลังขายเครื่องกรองน้ำ ซึ่งมีคนสนใจมากเป็นพิเศษ (คงจะสนใจพริตตี้กันอ่ะนะ) จึงทำให้ตรงจุดนั้นคนเยอะเป็นพิเศษกีกวังใช้จังหวะนี้พาโยซอบวิ่งหนีเข้าไปในหมู่คน และแอบหลบมองดูเหตุการณ์อยู่ในร้านอาหารใกล้ๆ จึงทำให้เค้าทั้งสองคนเห็นชายชุดดำ ใส่แว่นตาสีดำ 2 คนวิ่งตามเค้ามา และตอนนี้ชายชุดดำ 2 คนนั้นกำลังมองหาเค้ากันให้ขวั่ก
“จริงด้วยอ่ะ มีคนตามเรามาจริงๆด้วยอ่ะ” โยซอบพูดอย่างไม่เชื่อว่าคนอย่างเค้าเนี่ยนะจะมีคนสะกดรอยตาม เค้าสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ
“เห็นมะ ฉันบอกแล้ว” กีกวังพูดอย่างงอนๆที่โยซอบไม่เชื่อเค้า
“แล้วทำไมมันต้องสะกดรอยตามพวกเราด้วยอ่ะ” โยซอบถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“เอ้า นายลืมแล้วหรือไง ว่าตอนนี้น่ะ นายเป็นหัวหน้าแก๊งค์อยู่นะ” กีกวังช่วยไขข้อข้องใจที่โยซอบมันลืม
“เออ จริงด้วย ลืมซะสนิทเลย”
“ฉันว่าตอนนี้เรารีบกลับบ้านเหอะ” กีกวังชวนโยซอบกลับบ้านเพราะตอนนี้ลางสังหรณ์ของเค้ามันตะหงิดๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“อืม” โยซอบและกีกวังเดินออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึงที่ลานจอดรถ
“โยซอบ”
“หืม” ทั้งสองพูดกันโดยอ้าปากเพียงเล็กน้อย (รีดเดอร์คงจะนึกภาพออกนะคะ) และไม่มองหน้ากันเอาเป็นว่า ทำให้เนียนที่สุด
“นายรู้สึกเหมือนที่ฉันรู้สึกมั้ย” กีกวังถาม
“อืม รู้สึกเหมือนมีคนสะกดรอยตามมา” คราวนี้โยซอบรู้สึกได้ (รีดเดอร์ทุกคนคะ ปรบมือค่ะ แปะๆ ไรเตอร์บ้า)
“เอาไงดีอ่ะกีกวัง”
“ไม่รู้อ่ะ เนียนๆไป” ทั้งสองคนพูดไป เดินกันตัวแข็งทื่อเลยทีเดียว
แว่ว แว่ว (เสียงกดรีโมทรถ) กีกวังกับโยซอบรีบเข้าไปนั่งในรถกีกวังนั่งเข้าไปประจำที่คนขับ
“ฉันว่า เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาแล้วแหละ” โยซอบเอ่ยกับกีกวังด้วยน้ำเสียจริงจจัง
“อืม กลับบ้านไปต้องรีบบอกเรื่องนี้กับพี่จุนฮยองด่วนเลย” กีกวังจริงจังมาก
กีกวังสตารท์รถ และขับออกมาจากช่องจอดรถให้มาอยู่ในทางตรงปกติ ซึ่งตอนนี้ก็มีรถน่าสงสัยคันหนึ่งก็สตาร์ทรถตามพวกเค้าเช่นกัน
“พร้อมหรือยัง” กีกวังถามคำถามแบบนี้อีกแล้ว
“นายถามแบบนี้อีกแล้วนะ” โยซอบหันไปมองหน้ากีกวัง
โยซอบรีบคาดเข็มคัดนิรภัย
“1”
“2”
“3”
กีกวังออกรถด้วยความเร็วสูง
“เฮ้ย มันขับตามเรามาแล้วอ่ะ กีกวังนายขับเร็วๆกว่านี้ได้ไหม” โยซอบกระวบกระวายหันหน้าหันหลัง
“นี่ฉันก็ขับเร็วสุดแล้วนะเนี่ย” กีกวังตอบ
ปัง!!! เสียงปืนดังเข้ามาที่รถของเค้าทั้งสอง ซึ่งทำให้เค้าทั้งสองคนแน่ใจว่า คนที่สะกดรอยตามเค้ามานั้นต้องการจะฆ่าเค้าแน่ๆ
“เฮ้ย มันยิงเราอ่ะกีกวังทำงัยดี” โยซอบเริ่มกลัวขึ้นมาก
กีกวังยื่นมือไปเปิดแก๊ะหน้ารถ ในนั้นมือปืน 1 กระบอก
“อ่ะ” กีกวังยื่นปืนให้โยซอบ
“หา!!!จะให้ฉันยิงจริงๆเหรอ นายก็รู้ ว่าฉันไม่เคยยิงปืนในสถานการณ์จริงแบบนี้อ่ะ ฉันทำไม่ได้อ่ะกีกวัง” ตอนนี้โยซอบรู้สึกกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก
“นายต้องทำ นายอย่าลืมนะ ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าแก๊งค์แล้ว นายจะอ่อนแออย่างนี้ไม่ได้” กีกวังพูดก่อนจะเร่งความเร็วของรถให้เร็วขึ้น
โยซอบมองปืนอย่างหวาดๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก
“เอาวะ!!!!” โยซอบตัดสินใจ จึงลดกระจกลงแล้วโผล่หัวออกไปนอกรถ
“เมื่อกี้ มึงยิงกูเหรอ มึงตาย” โยซอบตะโกนออกไปก่อนจะเอามือนึงอุดหูไว้และอีกมือนึงเล็งปืนไปทางรถคันหลังที่ขับตามมา
ปัง!!! ปัง !!! ปัง !!!
เมื่อโยซอบยิงได้ไป 3 นัด ก็ กลับเข้ามานั่งที่เดิม การที่โยซอบยิงปืนไป ไม่ได้ทำให้มันหยุดตาม แต่แค่มันบังคับทิศทางไม่ได้ไปชั่วขณะเท่านั้นเอง
“โยซอบ ไม่ยังไม่เลิกตามเลยอ่ะ”
“เฮ้ย จริงอ่ะ กัดไม่ปล่อยจริงๆ” โยซอบพูดอย่างใช้ความคิด
“แยกข้างหน้าก็จะถึงบ้านเราแล้ว มันยังไม่เลิกตามอีก” กีกวังบ่นไม่เลิก
“เอางี้ กีกวังนายขับรถให้ช้าลงกว่านี้” โยซอบบอก
“หา!!!” กีกวังอุทานด้วยความไม่เชื่อ
“ไม่ต้องหาแล้ว ทำตามที่ฉันบอก”
แต่กีกวังก็ยังไม่ลดความเร็วลง
“ฉันบอกให้ลดความเร็วลงไงล่ะ นี่คือคำสั่ง ฉันเป็นหัวหน้าแก๊งค์นะ!!!” โยซอบออกคำสั่งอย่างน่ากลัว
กีกวังจึงลดความเร็วลงตามคำสั่งของหัวหน้าแก๊งค์ โยซอบโผล่ตัวออกไปทางกระจกประตูอีกครั้งและ เล็งไปที่ยางรถของฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ยังไม่สามารถเล็งได้ถนัดเพราะรถของและรถของฝ่ายตรงข้ามส่ายไปส่ายมา
“ช้ากว่านี้หน่อย กีกวัง” โยซอบออกคำสั่งอีกครั้ง
คราวนี้โยซอบเล็งปืนไปที่ยางรถของพวกมันอีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาดแน่ (มั้ง)
คราวนี้ขอให้ยิงโดนทีเถอะ โยซอบคิดในใจ
ปัง !!! รถของฝ่ายตรงข้ามเริ่มเป๋ไปเป๋มา นั้นทำให้โยซอบมั่นใจว่า เค้ายิงถูกตำแหน่งที่เล็งไว้ พอดีกับจังหวะนี้ที่กีกวังขับรถมาถึงแยกทางเข้าบ้านพอดี
เอี๊ดดดดดดดด !!! !!! !!! !!! เสียงรถของกีกวังดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งคู่หอบหายใจเหนื่อยก่อนจะอุทานพร้อมกันว่า
“เกือบตาย”
เมื่อกลับมาถึงบ้านโยซอบและกีกวังรีบตรงดิ่งไปหาจุนฮยองทันที และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้จุนฮยองฟังอย่างเมามันกับสิ่งที่ตัวเองไปเจอมา
“จริงเหรอ” จุนฮยองถามโยซอบอย่างเคร่งเครียด
“ฮะ” โยซอบพยักหน้าตอบ
“พวกไหนนะที่กล้าทำถึงขนาดนี้” จุนฮยองครุนคิด
“เอางี้ โยซอบกับกีกวังไปพักผ่อนก่อน เข้าฉากแอ็คชั่นไม่มีคัดแบบนี้คงจะเหนื่อยมาก” จุนฮยองตัดบท
“แหม! ยังมีอารมณ์เล่น” กีกวังมองอย่างเคืองๆ
“เรื่องนี้เดี๋ยวพี่จัดการให้ วางใจเถอะ” จุนฮยองพูดให้ทั้งสองคนหายกังวล
“ฮะ” ทั้งสองพยักหน้ารับ
“อ้าว แต่วันนี้ผมต้องเข้าบริษัทไปดูความเรียบร้อยนะฮะ” โยซอบทักท้วง
“เออ ใช่ วันนี้ผมต้องเข้าไปดูแล โรงแรม แถวๆ *** เห็นบอกว่ามีปัญหานิดหน่อย” กีกวังพึ่งนึกได้
“ไม่ต้องไปหรอก เพราะถ้าวันนี้ออกไป พวกนายสองคนอาจจะเจอเหตุการณ์อย่างนี้อีกก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปแล้วกัน” จุนฮยองบอกอย่างเป็นห่วง
ทั้งสองจึงยอมขึ้นห้องไปอย่างง่ายๆดาย เมื่อทั้งสองคนขึ้นห้องไปจนพ้นสายตาแล้ว จุนฮยองจึงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วกดเบอร์ใครก็ไม่รู้(ไรเตอร์กวนตีน) โทรออกไป
“ฮัลโล”
“ฉันมีเรื่องให้นายช่วย” จุนฮยอง พูดกับปลายสายด้วยเสียงเรียบ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล. เป็นไงบ้างคะ ไรเตอร์แต่งเป็นไงบ้าง
เม้นบอกด้วยนะคะ
ความคิดเห็น