ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยายเรื่องยิงประตูสู่ฝัน

    ลำดับตอนที่ #7 : ก่อนความฝันจะเริ่มต้น 1/7

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


    ก็ชอบน่ะลุง เล่นมาตั้งแต่เด็กแล้วเขาตอบกลับไปโดยที่มือยังเลือกรองเท้าอยู่
                แล้วนี่เล่นตำแหน่งไหนล่ะ ลุงเจ้าของร้านถามกลับมาศูนย์หน้าหรือเปล่า
              “ครับ ผมเล่นกองหน้าดุตอบกลับไป
                คุณจบวิทยาลัยพละใช่เปล่าดุ ชงักกับคำถามของชายเจ้าของร้านรองเท้ามือสอง 
    ดุ จ้องหน้าชายแก่เจ้าของร้านอย่างแปลกใจ
    ลุงรู้ได้ไงครับ เขาเริ่มสนใจกับเจ้าของร้านขายรองเท้า
    กลิ่นมันบอกน่ะคุณ คนกีฬาเหมือนกันกลิ่นมันฟ้องเจ้าของร้านตอบกลับมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ
    ลุงก็จบพละเหมือนกันเหรอครับ ดุถามด้วยความตื่นเต้นที่จะได้พบรุ่นพี่สถาบัน
    เปล่าหรอก แต่ลุงคุ้นเคยกับพวกเรียนพละน่ะเมื่อก่อนนี้ทุกๆปีของช่วงเวลานี้จะมีการแข่งขันกีฬาของสถาบันวิทยาลัยพละ ลุงก็เลยคุ้นเคยกับลักษณะท่าทางของพวกเรียนพละดี
     ลุงเปิดร้านนี้มานานยังครับดุชวนคุยต่อ
    เปิดมาจะ 60 ปีแล้ว เป็นร้านแรกๆของที่นี่เลย
    โหเปิดมานานขนาดนั้นเลยเหรอครับ ดุ ร้องถามด้วยความตื่นเต้นระคนแปลกใจ
    อืมเมื่อก่อนนี้มีร้านลุงอยู่แค่ร้านเดียว พวกนักกีฬาฟุตบอลเวลาจะซื้อรองเท้าสตั๊ดก็จะมาซื้อที่ร้านนี้กันทุกคนแหละ รวมถึงพวกนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติด้วย ลุงเจ้าของร้าน ร่ายยาวมาเลยคราวนี้
    เมื่อก่อนนี้ที่หน้าร้านลุงมีร้านข้าวต้มอยู่ร้านหนึ่ง เวลานักฟุตบอลทีมชาติไทยซ้อมกันเสร็จพวกเขาก็จะมานั่งกินข้าวต้มกันบ่อยๆสมัยก่อนก็จะมีที่มาบ่อยๆ อัศวิน ธงอินเนตร” ,สราวุธ ประทีปากรชัย,บุญเลิศ นิลภิรมย์,วิวัฒน์ มิลินทจินดา,ยรรยง ณ หนองคาย เป็นต้น  แต่ที่มาบ่อยและสนิทกับลุงมากที่สุด อัศวิน ธงอินเนตร มาแทบทุกวันหลังซ้อม
    โอ้โหลุงบอกมาแต่ละชื่อผมไม่เห็นรู้จักเลยเก่าๆทั้งนั้นผมเกิดไม่ทันหรอก ดุร้องเย้าๆมา เออ..ลุงผมอยากรู้ว่านักบอลทีมชาติไทยเมื่อก่อนเก่งเปล่า ผมเคยได้ยินหลายคนเล่าให้ฟังว่านักบอลทีมชาติไทยสมัยก่อนเล่นกันสนุกแฟนๆมาเชียร์แล้วไม่ผิดหวัง
    โอ้ย..เล่นกันดีครับคนดูๆสนุก ถึงบางแม็ชจะแพ้ก็ตาม แล้วนักเตะก็เข้าถึงกันง่ายกว่าสมัยนี้ นักบอลทีมชาติไทยสมัยก่อนเงินน้อย มาซ้อมแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยได้เบี้ยเลี้ยง แต่ผมก็เห็นพวกเขามาซ้อมกันทุกวันนะและก็ซ้อมกันอย่างสนุกด้วย คือมาเล่นกันด้วยใจล้วนๆ
    แล้วเมื่อก่อนนี้นักบอลทีมชาติไทยคนไหนเก่งที่สุดครับ ดุ ถามมาด้วยความสนใจ
    ก็มีหลายคนนะ แต่ที่ดังที่สุดในสมัยนั้นและเป็นจุดศุนย์กลางของเพื่อนในทีมก็เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่ชื่อ อัศวิน ธงอินเนตร คนนี้เก่งจริงเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมากมีชื่อติดทีม ดาราเอเซียในสมัยนั้นด้วย แต่น่าเสียดาย เขาเสียชีวิตในแม็ชการแข่งขันอุ่นเครื่องสาเหตุมาจากการปะทะกันในสนาม ก่อนเสียชีวิตหนึ่งวัน เขายังมานั่งคุยกับผมจนดึกอยู่เลย
    พูดจบชายเจ้าชราของร้านก็เดินเข้าไปด้านในของร้านและเดินกลับออกมาพร้อมกับรูปภาพขาวดำของชายคนหนึ่งมาให้เขาดู ชายคนในภาพเป็นคนใบหน้าใหญ่ หน้าไทยแท้ ใบหูใหญ่ ผมสั้นแบบรากไทร ใบหน้ายิ้มละไมตลอดเวลา
    ดุ ดูภาพนี้แล้วคิดในใจ ชายคนนี้เหรออดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย อัศวิน ธงอินเนตร อยากรู้จังว่าเขาจะเก่งซักแค่ไหนนะ
    นอกจากภาพถ่ายแล้ว ผมยังมีรองเท้าสตั๊ดของ อัศวิน ธงอินเนตร ด้วยนะเสียงชายชราเจ้าของร้านทำลายความเงียบขึ้นมา
    พูดจบชายชราก็เดินไปหลังร้าน ไม่เกินห้านาทีก็เดินกลับมาพร้อมกับถือกล่องรองเท้ามาด้วยหนึ่งกล่อง เป็นกล่องรองเท้าสีน้ำตาลกลางเก่ากลางใหม่ ชายชราวางกล่องรองเท้าไว้ตรงหน้าเขาแล้วเล่าให้ฟังว่า
    ช่วงที่ทีมชาติไทยในยุคของ อัศวิน ธงอินเนตร ได้เดินทางไปตะเวนแข่งซ้อมอุ่นเครื่องที่ประเทศเยอรมันตะวันตก นอร์เวย์ และอิสราเอล ประมาณปี 2508 และในการไปครั้งนั้น อัศวิน ได้สร้างชื่อให้ตัวเองอย่างมากมาย จนมีทีมของยุโรปทาบทามให้ไปเป็นนักเตะอาชีพพร้อมทั้งเสนอให้เงินเดือนสูงถึง 8,000 บาท อยู่หลายทีม ในสมัยนั้นเงินเดือน 8,000 บาทถือว่าสูงมาเลย แต่อัศวินก็สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนโดยการตอบปฏิเสธทุกทีมอย่างไม่สนใจ ทั้งๆที่ตอนนั้น ลุงเองนี่แหละที่พยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้ อํศวิน ไปค้าแข้งที่ต่างแดน แต่แกก็ไม่ยอมไป ตอนนั้น อัศวิน บอกว่าสาเหตุที่เขาไม่ยอมไปเพราะเขามีเป้าหมายส่วนตัว แต่ก็ไม่บอกว่าคืออะไร จน อัศวิน มาเสียชีวิตก่อน ลุงก็สงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมตอนนั้น เขาถึงไม่ไปเป็นนักเตะอาชีพที่เยอรมันตะวันตกทั้งๆที่มีโอกาส
    พูดจบลุงเจ้าของร้านก็เอื้อมมือไปเปิดกล่องรองเท้าให้เขาดู พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า
    หลังจาก อัศวิน กลับมาถึงเมืองไทยได้วันเดียวก็ตรงดิ่งมาหาผมพร้อมกับรองสตั๊ดคู่นี้แหละ ถ้าคุณเห็นแล้วจะประหลาดใจ ว่าเมื่อ 40 กว่าปีมีรองเท้าสตั๊ดแบบนี้ด้วยเหรอ
    ทันทีที่ชายชราเจ้าของร้าน เปิดกล่องรองเท้า ดุ ถึงกับตลึงงันอยู่กับที่ ตัวเย็นเฉียบ เป็นไปไม่ได้ เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนไม่มีทางที่จะผลิตรองเท้าสตั๊ดรุ่นนี้ได้อย่างแน่นอนอีตาลุงนี่ต้องอำเขาแน่ๆเลย
    คุณแปลกใจใช่มั้ยล่ะ อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็แปลกใจไม่แพ้กับคุณเหมือกัน ตอนที่ผมเห็นรองเท้าคู่นี้ครั้งแรก ลุงเจ้าของร้านทำลายความเงียบมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×