ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ก่อนความฝันจะเริ่มต้น 1/7
“ ก็ชอบน่ะลุง เล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว” เขาตอบกลับไปโดยที่มือยังเลือกรองเท้าอยู่
“แล้วนี่เล่นตำแหน่งไหนล่ะ” ลุงเจ้าของร้านถามกลับมา “ศูนย์หน้าหรือเปล่า”
“ครับ ผมเล่นกองหน้า” ดุตอบกลับไป
“คุณจบวิทยาลัยพละใช่เปล่า” ดุ ชงักกับคำถามของชายเจ้าของร้านรองเท้ามือสอง
ดุ จ้องหน้าชายแก่เจ้าของร้านอย่างแปลกใจ
“ลุงรู้ได้ไงครับ” เขาเริ่มสนใจกับเจ้าของร้านขายรองเท้า
“กลิ่นมันบอกน่ะคุณ คนกีฬาเหมือนกันกลิ่นมันฟ้อง” เจ้าของร้านตอบกลับมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“ลุงก็จบพละเหมือนกันเหรอครับ” ดุถามด้วยความตื่นเต้นที่จะได้พบรุ่นพี่สถาบัน
“เปล่าหรอก แต่ลุงคุ้นเคยกับพวกเรียนพละน่ะเมื่อก่อนนี้ทุกๆปีของช่วงเวลานี้จะมีการแข่งขันกีฬาของสถาบันวิทยาลัยพละ ลุงก็เลยคุ้นเคยกับลักษณะท่าทางของพวกเรียนพละดี”
“ลุงเปิดร้านนี้มานานยังครับ” ดุชวนคุยต่อ
“เปิดมาจะ 60 ปีแล้ว เป็นร้านแรกๆของที่นี่เลย”
“โห
เปิดมานานขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ดุ ร้องถามด้วยความตื่นเต้นระคนแปลกใจ
“อืม
เมื่อก่อนนี้มีร้านลุงอยู่แค่ร้านเดียว พวกนักกีฬาฟุตบอลเวลาจะซื้อรองเท้าสตั๊ดก็จะมาซื้อที่ร้านนี้กันทุกคนแหละ รวมถึงพวกนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติด้วย” ลุงเจ้าของร้าน ร่ายยาวมาเลยคราวนี้
“เมื่อก่อนนี้ที่หน้าร้านลุงมีร้านข้าวต้มอยู่ร้านหนึ่ง เวลานักฟุตบอลทีมชาติไทยซ้อมกันเสร็จพวกเขาก็จะมานั่งกินข้าวต้มกันบ่อยๆสมัยก่อนก็จะมีที่มาบ่อยๆ “อัศวิน ธงอินเนตร” ,สราวุธ ประทีปากรชัย,บุญเลิศ นิลภิรมย์,วิวัฒน์ มิลินทจินดา,ยรรยง ณ หนองคาย เป็นต้น แต่ที่มาบ่อยและสนิทกับลุงมากที่สุด อัศวิน ธงอินเนตร มาแทบทุกวันหลังซ้อม”
“โอ้โห
ลุงบอกมาแต่ละชื่อผมไม่เห็นรู้จักเลยเก่าๆทั้งนั้นผมเกิดไม่ทันหรอก” ดุร้องเย้าๆมา “เออ..ลุงผมอยากรู้ว่านักบอลทีมชาติไทยเมื่อก่อนเก่งเปล่า ผมเคยได้ยินหลายคนเล่าให้ฟังว่านักบอลทีมชาติไทยสมัยก่อนเล่นกันสนุกแฟนๆมาเชียร์แล้วไม่ผิดหวัง”
“โอ้ย..เล่นกันดีครับคนดูๆสนุก ถึงบางแม็ชจะแพ้ก็ตาม แล้วนักเตะก็เข้าถึงกันง่ายกว่าสมัยนี้ นักบอลทีมชาติไทยสมัยก่อนเงินน้อย มาซ้อมแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยได้เบี้ยเลี้ยง แต่ผมก็เห็นพวกเขามาซ้อมกันทุกวันนะและก็ซ้อมกันอย่างสนุกด้วย คือมาเล่นกันด้วยใจล้วนๆ”
“แล้วเมื่อก่อนนี้นักบอลทีมชาติไทยคนไหนเก่งที่สุดครับ” ดุ ถามมาด้วยความสนใจ
“ก็มีหลายคนนะ แต่ที่ดังที่สุดในสมัยนั้นและเป็นจุดศุนย์กลางของเพื่อนในทีมก็เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่ชื่อ อัศวิน ธงอินเนตร คนนี้เก่งจริงเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมากมีชื่อติดทีม ดาราเอเซียในสมัยนั้นด้วย แต่น่าเสียดาย เขาเสียชีวิตในแม็ชการแข่งขันอุ่นเครื่องสาเหตุมาจากการปะทะกันในสนาม ก่อนเสียชีวิตหนึ่งวัน เขายังมานั่งคุยกับผมจนดึกอยู่เลย”
พูดจบชายเจ้าชราของร้านก็เดินเข้าไปด้านในของร้านและเดินกลับออกมาพร้อมกับรูปภาพขาวดำของชายคนหนึ่งมาให้เขาดู ชายคนในภาพเป็นคนใบหน้าใหญ่ หน้าไทยแท้ ใบหูใหญ่ ผมสั้นแบบรากไทร ใบหน้ายิ้มละไมตลอดเวลา
ดุ ดูภาพนี้แล้วคิดในใจ ชายคนนี้เหรออดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย อัศวิน ธงอินเนตร อยากรู้จังว่าเขาจะเก่งซักแค่ไหนนะ
“นอกจากภาพถ่ายแล้ว ผมยังมีรองเท้าสตั๊ดของ อัศวิน ธงอินเนตร ด้วยนะ” เสียงชายชราเจ้าของร้านทำลายความเงียบขึ้นมา
“พูดจบชายชราก็เดินไปหลังร้าน ไม่เกินห้านาทีก็เดินกลับมาพร้อมกับถือกล่องรองเท้ามาด้วยหนึ่งกล่อง เป็นกล่องรองเท้าสีน้ำตาลกลางเก่ากลางใหม่ ชายชราวางกล่องรองเท้าไว้ตรงหน้าเขาแล้วเล่าให้ฟังว่า
“ช่วงที่ทีมชาติไทยในยุคของ “อัศวิน ธงอินเนตร” ได้เดินทางไปตะเวนแข่งซ้อมอุ่นเครื่องที่ประเทศเยอรมันตะวันตก นอร์เวย์ และอิสราเอล ประมาณปี 2508 และในการไปครั้งนั้น อัศวิน ได้สร้างชื่อให้ตัวเองอย่างมากมาย จนมีทีมของยุโรปทาบทามให้ไปเป็นนักเตะอาชีพพร้อมทั้งเสนอให้เงินเดือนสูงถึง 8,000 บาท อยู่หลายทีม ในสมัยนั้นเงินเดือน 8,000 บาทถือว่าสูงมาเลย แต่อัศวินก็สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนโดยการตอบปฏิเสธทุกทีมอย่างไม่สนใจ ทั้งๆที่ตอนนั้น ลุงเองนี่แหละที่พยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้ อํศวิน ไปค้าแข้งที่ต่างแดน แต่แกก็ไม่ยอมไป ตอนนั้น อัศวิน บอกว่าสาเหตุที่เขาไม่ยอมไปเพราะเขา “มีเป้าหมายส่วนตัว” แต่ก็ไม่บอกว่าคืออะไร จน อัศวิน มาเสียชีวิตก่อน ลุงก็สงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมตอนนั้น เขาถึงไม่ไปเป็นนักเตะอาชีพที่เยอรมันตะวันตกทั้งๆที่มีโอกาส”
พูดจบลุงเจ้าของร้านก็เอื้อมมือไปเปิดกล่องรองเท้าให้เขาดู พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า
“หลังจาก อัศวิน กลับมาถึงเมืองไทยได้วันเดียวก็ตรงดิ่งมาหาผมพร้อมกับรองสตั๊ดคู่นี้แหละ ถ้าคุณเห็นแล้วจะประหลาดใจ ว่าเมื่อ 40 กว่าปีมีรองเท้าสตั๊ดแบบนี้ด้วยเหรอ”
ทันทีที่ชายชราเจ้าของร้าน เปิดกล่องรองเท้า ดุ ถึงกับตลึงงันอยู่กับที่ ตัวเย็นเฉียบ เป็นไปไม่ได้ “เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนไม่มีทางที่จะผลิตรองเท้าสตั๊ดรุ่นนี้ได้อย่างแน่นอน”อีตาลุงนี่ต้องอำเขาแน่ๆเลย
“คุณแปลกใจใช่มั้ยล่ะ อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็แปลกใจไม่แพ้กับคุณเหมือกัน ตอนที่ผมเห็นรองเท้าคู่นี้ครั้งแรก” ลุงเจ้าของร้านทำลายความเงียบมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น