ตอนที่ 22 : บทที่ ๗ สัญญาลมปาก I
บทที่ ๗
อานัสเล่าเรื่องราวระหว่างภควินและอนิลาให้คู่หมั้นสาวที่กำลังสะบัดปลายพู่กันลงบนเฟรมผ้าใบฟัง นริศราเปิดโรงเรียนสอนศิลปะให้กับเด็กๆ และผู้ที่สนใจทางด้านนี้ได้เริ่มต้นและพัฒนาฝีมือ โดยโรงเรียนที่อยู่ในตึกห้าชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลกับร้านอาหารร้านใหม่ของเขาที่กำลังจะเปิดกิจการในอีกไม่ช้า
“ว่าแล้วว่ามันต้องมีอะไร”
“นัสก็คิดเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้”
จิตรกรสาวชะงักมือแล้วหันมามองคู่หมั้นหนุ่มด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ นัสกับคุณแม่กะจะจับคู่ให้พี่วินกับนิลอยู่แล้วนี่คะ ว่าแต่พี่วินบอกไหมคะว่าเลิกกันเรื่องอะไร”
“พี่วินแค่บอกว่ามีเวลาให้กันน้อยลง แต่นัสว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น” อานัสคิดไม่ตก “ถึงขั้นจดทะเบียนสมรสพร้อมแต่งกันขนาดนี้ กับไอ้แค่เรื่องไม่มีเวลาคงไม่ทำให้เลิกกันหรอก”
“อืม ก็จริงอย่างที่นัสว่า ดูจะจบกันไม่ค่อยสวยด้วยนะคะ หรือว่าพี่วินทำอะไรไม่ดีร้ายแรงไว้ ถ้าไม่ใช่นอกใจ... หรือว่าจะทำร้ายร่างกายคะ”
นริศราสันนิษฐานหากอานัสส่ายหน้า
“อย่างพี่วินถึงจะเลือดร้อนไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่พวกทำร้ายร่างกายผู้หญิงหรอก” เขามั่นใจในข้อนี้ ภควินไม่มีทางใช้กำลังทำร้ายบุคคลที่เป็นเพศแม่อย่างแน่นอน
“งั้นนัสลองถามนิลดูสิ”
“โอ้โห รายนี้เล่นบาทเดียวนัสให้ล้านนึงเลย ถามให้ปากฉีกถึงหูมันก็ไม่บอกหรอก ขนาดจดทะเบียนเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเขาเรียบร้อยมันยังไม่บอกนัสเลย ว่าแล้วก็อยากจะเขกหัวมันแรงๆ สักที!”
พอกล่าวถึงลูกพี่ลูกน้องสาว อานัสก็หงุดหงิดขึ้นมาทันใด
“อีกอย่างก็ถามมันเรื่องนี้ไม่ได้หรอก พี่วินสั่งไว้ว่าอย่าเพิ่งบอกมันกับแม่”
“พี่วินคงมีแผนของเขาแหละค่ะ ว่าแต่ นัสว่าพี่วินจะทำได้ไหม จะสำเร็จหรือเปล่า” ถามด้วยสีหน้าค่อนข้างเครียด รู้ดีว่าอนิลาใจแข็งเพียงใด
“ได้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าอนิลมันจะยอมรับความรู้สึกตัวเองหรือเปล่าน่ะสิ ถ้ามันยอมให้อภัยหรือลืมเรื่องในอดีต พี่วินก็ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก”
“นัสพูดเหมือนกับว่า...”
อานัสพยักหน้า ตอบอย่างมั่นใจ
“นิลยังรักพี่วินอยู่” แล้วย้ำอีกครั้ง “วันนั้นที่นัสนัดเลี้ยงข้าวมันที่ร้านแล้วนัสก็แกล้งให้มันขึ้นไปเล่นไวโอลินบนเวที พอมันลงมาตามันแดงๆ ตอนแรกก็นึกว่ามันโกรธนัส แต่จริงๆ มันเจอพี่วิน... ถ้าไม่มีเยื่อใยเหลืออยู่บ้าง มันจะเป็นแบบนี้ทำไม”
ก็จริงอย่างที่อานัสว่า คนเราหากเลิกรากันไปแล้ว แต่ถ้าพื้นที่ในหัวใจยังมีความรักหลงเหลือให้กันและกัน มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะกลับมาคืนดี แต่อุปสรรคชิ้นใหญ่ก็คือหัวใจอีกนั่นล่ะ ทิฐิและความเจ็บปวดที่สะสมจนพอกพูนจะทำให้เราปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากหัวใจ และผู้ใดที่ปฏิเสธหัวใจ ผู้นั้นก็ไม่อาจพบความสุขที่แท้จริงได้เลย
ความสุขอยู่ที่ใจ หากใจสุข กายก็สุข
และความรักก็อยู่ที่ใจ หากใจรัก ก็ต้องยอมรับว่ารัก...
ณ ตรงนี้มีใครทีมพี่วินอีกบ้างคะ ฮ่า ๆ
ถ้ารักและเอ็นดูกันสักนิด รบกวนกดติดตาม กดให้กำลังใจและคอมเมนต์ให้กันบ้างนะคะ :)
ทีมน้องนิลจ้า
เอาใจช่วยพี่วินนะ
นิยายสนุกมากค่ะ