คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ดอนที่ 1
มีตำนานเล่าขานกันว่า แหวนเพชรแก้ว และ ดาบมรกต คือ สิ่งที่มีอนุภาพสามารถทำลายล้างสิ่งชั่วร้ายต่างๆได้
แต่ต้องใช้ความรักที่มั่นคงระหว่างชาย หญิง เท่านั้น ถึงจะสามารถดึงดูดดาบมรกตออกมาจากถ้ำแก้ว โดยผู้ที่ต้องการนั้นต้องมีแหวนเพชรแก้วในครอบครอง
“ มินยอ มินยอ ” น้ำเสียงสดใสแห่งวัยแรกสาวร้องเรียกองคลักษณ์หนุ่ม วัยไล่เลี่ยกัน
“ พะเจ้าค่ะ ” องคลักษณ์หนุ่มขานรับ
“ มินยอ ดูนั่นสิ ดูนั่น น้ำฝนไหลลงมาเป็นสายๆ น่าสนุกจัง เราลงไปเล่นดีกว่า ”
“ อย่านะพะเจ้าค่ะ ” องคลักษณ์คัดค้าน
“ ทำไมล่ะ เล่นแล้วจะเป็นอะไรหรอ ”
“ ท่านพ่อเคยสั่งให้ข้าพเจ้า ห้ามให้องค์หญิงเล่นน้ำฝนเด็ดขาด ”
“ คองจูนั่นเหรอ อย่าไปสนใจเลย ลงไปเล่นกันดีกว่า ”
ว่าแล้วทั้งคู่ก็ลงไปเล่นน้ำฝน และในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา องค์หญิงพลอยพิสมัยก็ล้มลง สลบไสลไม่ได้สติ มินยอตกใจจึงร้องให้คนช่วย
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย องค์หญิงเป็นลม องค์หญิงเป็นลม”
ในขณะนั้น พรานคองจูได้เดินสำรวจพระราชตำหนักขององค์หญิงอยู่ได้ยินจึงรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์
“เกิดอะไรขึ้น”
“อย่าเพิ่งพูดเลยท่านพ่อ พาองค์หญิงขึ้นตำหนักก่อน”
“ทหารไปกราบทูล พระราชาพระราชินีเร็วเข้า”
“องค์หญิงจะเป็นอะไรมากไหมท่านพ่อ”
“ไม่หรอก ชะตากรรมขององค์หญิง เทพธิดาอัญญานีย่อมคุ้มครององค์หญิงแห่งภูกะยอ ผู้สืบราชบัลลังค์ อย่างแน่นอน”
“พระราชา พระราชินี เสด็จ”
“พลอยพิสมัย เป็นไงบ้างท่านพรานคองจู”
“อย่าทรงเป็นห่วงเลยพะเจ้าค่ะ โชคชะตาขององค์หญิงย่อมต้องเดินไปตามกำหนดแห่งสรวงค์สวรรค์”
“โถ พลอยพิสมัย ลูกไม่น่าจะประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้เลย”
“พลอยพิสมัย จะเป็นเจ้าหญิงนิทราอีกนานเท่าไหร่”
“ก็เมื่อพระองค์ทรงนิมิตเสร็จพระเจ้าค่อ”
“ท่านพี่ พระราชินี ศรีสุภาร่ำไห้ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่อง 10 ปีก่อนที่ตอนพระราชินีทรงพระครรภ์องค์หญิง เทพธิดาอัญญานี ได้สาปให้พระธิดาต้องทรงสลบไสลเมื่อต้องน้ำฝน และจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมด้วยแหวนเพชรแก้วที่สวมใส่ตรงนิ้วชี้ข้างขวา เรื่องที่พระองค์หญิงทรงนิมิตนั่นก็คือ“ เทพธิดาอัญญานีทรงบอกให้องค์หญิงพลอยพิสมัย เดินทางออกจากบ้านจากเมืองเพื่อไปช่วยชีวิตคนคนหนึ่งที่มีพระอิศริยศักดิ์เสมอองค์หญิง ในไม่ช้าจะมีเมืองๆหนึ่ง ประกาศหาผู้ที่มีแหวนเพชรแก้ว เพื่อไปช่วยคนที่ประสบชะตากรรมพอๆกับเจ้า หากเจ้าไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จภายในอายุเบญจเพส นั่นก็หมายถึงการล่มสลายของภูกะยอ บ้านเมืองอันเป็นที่รักของเจ้า แต่ระหว่างนี้ แม้เจ้าจะโดนน้ำฝนก็ไม่เป็นอะไร แหวนเพชรแก้วจะเป็นอาวุธคุ้มครองเจ้าให้พ้นจากอันตราย ทุกๆอย่าง และเมื่อเจ้ากลับแหวน ก็จะกลายเป็นมีดคู่อาวุธที่ดีพอๆกับดาบมรกตทีเดียว เราไปล่ะ”
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป”
“พลอยพิสมัย เป็นยังไงบ้างลูก”
“เสด็จแม่ ลูกฝัน”
“พอเถอะ แม่รู้ งั้นลูกพักผ่อนเถอะนะ”
“เพคะ”
ณ ตำหนักพระราชาและพระราชินี
“เสด็จพี่เพคะ ลูกเราจะเป็นอะไรไหมเพคะ”
“ไม่หรอกอย่าลืมสิ เทพธิดาอัญญานีทรงเป็นเทพประจำเมือง พระองค์ต้องมีเหตุผลที่ทรงกระทำเช่นนี้ และพี่ก็เชื่อในความกล้าหาญของพลอยพิสมัย เจ้าทำใจให้สบายเถอะ”
“เพคะ เสด็จพี่”
เมื่อพลอยพิสมัยตื่นจากบรรทมจึงรีบให้นางกำนัลไปบอกให้มินยอมาหา แล้วเล่าถึงพระสุบินนิมิตให้มินยอฟัง
“เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แหละมินยอ”
“ถ้าเป็นเช่นนี้ องค์หญิงก็ต้องเสด็จออกจากเมืองสิพะเจ้าค่ะ”
“ใช่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เราจะรอจนกว่าจะมีข่าวประกาศตามหาคนที่มีแหวนเพชรแก้วก่อน ระหว่างนี้ก็ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนแล้วกัน”
“มินยอ ท่านจะไปกับเราไหม”
“ไปพะเจ้าค่ะ”
“เอ้าทำไมถึงตัดสินใจง่ายจัง ไม่เป็นห่วงท่านพรานคองจูเหรอ”
“ห่วงสิพะเจ้าค่ะ แต่ชีวิตขององค์รัชทายาทสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งนั้นองค์หญิงทรงจำสัญญาของข้าพเจ้าได้หรือไม่ ข้าพเจ้าเคยบอกองค์หญิงว่า ข้าพเจ้าจะดูแลองค์หญิงไปชั่วชีวิต ของข้าพเจ้า”
“ขอบใจมากนะมินยอ ขอบใจในความจงรักภักดีของเจ้าจริงๆ ท่านรู้ไหมว่าท่านเหมือนกับพี่ชายของเราจริงๆ”
เมื่อมินยอได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมานิดๆ เพราะตนนั้นไม่ได้คิดกับองค์หญิง แค่พี่ชายน้องสาว แต่คิดไปมากกว่านั้น
และต่อมาไม่นานก็มีเมืองๆหนึ่งประกาศตามหาผู้ที่มีแหวนเพชรแก้ว เมื่อองค์หญิงทราบจึงรีบให้นางกำนัลไปบอกกับมินยอให้มาพบด่วน
“มินยอเจ้าทราบแล้วใช่ไหม”
“พะเจ้าค่ะ”
“เราจะออกไปจากเมืองคืนนี้”
“ไม่เร็วไปหน่อยหรือพะเจ้าค่ะ”
“ไม่หรอกเพราะเวลาของเราก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ตอนนี้เราก็อายุ 19 ปีแล้ว เจ้าคิดเหรอว่าเราจะหาถ้ำแก้วนั่นพบภายใจ 3 7 วันเหรอ เราไม่กลัวหรอกนะว่าชีวิตเราจะสูญสบาย เรากลัวแค่อย่างเดียว กลัวว่าเราจะไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เขารอคอยความสำเร็จในภารกิจ หากเขาจะจบชีวิตลงเพราะเราและภูกะยอจะถึงกาลอวสาน เราทนดูมิได้หรอก หรือว่าท่านทนดูได้”
“ไม่พะเจ้าค่ะ”
“งั้นท่านกับเรา ต้องปลอมตัวเป็นสามัญชน ท่านเป็นพี่ชายเรา ท่านชื่อ เคยอง เราชื่อ เมรินทร์ ท่านไปเตรียมตัวแล้วไปรอที่หน้าประตูเมืองทางทิศใต้ เดี๋ยวเราเสร็จแล้วจะตามไป”
“พะเจ้าค่ะ”
เมื่อองค์หญิงทารงเตรียมองค์เสร็จ ก็ได้เขียนจดหมายทิ้งไว้บนแท่นบรรทม แล้วก้มลงกราบพื้นตำหนักแล้วกล่าวว่า
“ข้าแต่พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เทพธิดาอัญญานี เทพประจำเมือง ชีวิตข้านี้อาภัพนัก จำต้องจากบ้านจากเมือง บัดนี้ถึงเพลาแล้วที่ต้องเดินทางไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ เพื่อตนเองและผู้อื่นข้าพเจ้าจึงจะขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแห่งภูกะยอนี้ ตามไปคุ้มครองข้าพเจ้าให้ทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยเถิด
เมื่อองค์หญิงอธิษฐานเสร็จ ก็กราบลงอีก 3 ครั้ง แล้วก็รีบเดินมาหามินยอที่ประตูหัวเมืองด้านทิศใต้
พี่เคยองเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นไปกันเถิดเมรินทร์”
“ค่ะ”
“เอ่อ คืนนี้เราเดินทางพอให้พ้นเขตเมืองไปก่อนแล้วกัน แล้วค่อยหาที่พักข้างหน้า”
“ดีเหมือนกัน เมรินทร์ก็อยากพักผ่อนแล้ว”
เมื่อทั้งสองเดินทางกันจนพ้นเขตเมืองก็หาที่พัก”
“เมรินทร์เราพักกันตรงนี้แหละนะ เดี๋ยวพี่จะออกไปหาฟืนมาก่อไฟ”
“จ้ะ พี่ไปหาฟืนกันเถอะ ไม่ต้องห่วงเมรินทร์”
และแล้ว เคยองก็ออกไปหาฟืนปล่อยให้เมรินทร์อยู่ตามลำพัง จู่จู่ก็มีลมพักวูบผ่านหน้าเมรินทร์”
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย และก็มีเสียงประหลาดโผล่มาจากความมืด”
“ฮะ ฮะ ฮะ องค์หญิงจะเดินทางไปถ้ำแก้วเหรอ มันไม่ง่ายนักหรอก”
“ทำไม”
“ก็เพราะว่าข้าแคนยะมูจะขัดขวางท่านทุกวิถีทางไงล่ะ”
“เจ้าเป็นใครกัน”
“ข้าคือปีศาจร้ายบำเพ็ญเพียรมาเป็นเวลาร้อยๆปี ข้าพร้อมจะครอบครองดินแดนทั้ง 4 ที่ลึกลับนี้เมื่อองค์หญิงดับชีพลงไงล่ะ ฮะ ฮะ ฮะ ”
“ฝันไปเถอะ”
“งั้นท่านก็คอยดู”
“เฮ้ย หายไปแล้วนิ นี่เรากำลังเผชิญกับอะไรกันแน่”
“เป็นอะไรเหรอ เมรินทร์”
“เปล่าค่ะ ก็เมื่อกี้ เงาดำของปีศาจตนหนึ่งชื่อไอ้แคนยะมูมันมาบอกว่า มันจะขัดขวางเราทุกวิถีทางไม่ให้ไปถึงถ้ำแก้ว”
“ทำไมล่ะ”
“ก็เพราะมันต้องการที่จะครอบครองดินแดนลึกลับทั้ง
“แสดงว่าเราก็มีศัตรูแล้วล่ะ ต่อไปนี้พวกเราต้องระวังตัวกันให้มาก เอาเป็นว่าวันนี้พักผ่อนกันก่อนเถอะ”
พอรุ่งเช้าอากาศเย็นสบาย พระอาทิตย์ทอแสงประกาย หอมกลินไก่ป่าย่างรมควันน่าเอร็ดอร่อย ฝีมือเคยอง
“โอ้โห น่ากินจังเลย”
“แหงล่ะ ก็ฝีมือพี่เนี่ยไม่อร่อยก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรแล้ว”
“งั้นเมรินทร์ ขอกินก่อนแล้วกัน”
“เอาสิ”
“วันนี้พี่คิดว่าเราต้องเดินทางถึงเมืองภูคำหล้าแน่นอน”
“พี่รู้ได้ไงล่ะ”
“ก็นี่ไง”
“แผนที่ พี่ได้มาจากไหน”
“พี่แอบขโมยมาจากพ่อพรานคองจูมาน่ะ”
“ยอดไปเลย แล้วพี่มีเส้นทางไปถ้ำแก้วไหม”
“มีครึ่งเดียวน่ะ”
“โธ่เอ้ย ช่างเถอะ อีกครึ่งนึงค่อยไปหลงกัน”
เมื่อทั้งคู่ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็รีบออกเดินทางทันทีเพื่อให้ถึงที่หมายตามเวลาที่คาด
“พี่เคยองพี่ว่าถ้าเราไปถึงเขาจะต้อนรับเราซะขนาดไหนนะ”
“ไม่ต้องเดาเลย ในเมื่อเรามีแหวนเพชรแก้วที่เขาตามหาอยู่”
“เขาก็ต้องต้อนรับขับสู้อย่างดีแน่นอนอยู่แล้ว”
และแล้วทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงเมืองที่ป่าวประกาศตามหาแหวนเพชรแก้ว แต่การที่จะเข้าไปในเมืองเพื่อไปพบพระมหากษัตริย์มันมิใช่ง่ายๆ
“เฮ้ย พวกเจ้าเป็นใครน่ะ ทหารกล่าวชึ้นพรอมกับเหนี่ยวไกปืน”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“พี่เคยอง ท่านมิต้องกังวลหรอก เรามาดี ท่านทหาร ท่านเห็นไหมว่าเรามิได้พกพาอาวุธที่มีแสนยานุภาพเยี่ยงท่าน ทหารติดตามมาด้วย จึงมิได้หวังปองร้ายพระราชาแห่งท่านและบ้านเมือง แต่เรามี แหวนเพชรแก้ว”
“หะ แหวนเพชรแก้ว”
“ใช่ ท่านจงไปทูลต่อพระราชาท่านเถิดว่าข้า เมรินทร์ และ เคยอง ชาวเมืองภูกะยอผู้มีแหวนเพชรแก้วมาขอเข้าเฝ้า”
“ได้ท่านรอตรงนี้ก่อนนะ”
ทหารได้นำความกราบทูลพระราชา ภูคำหล้า
“ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า”
“มีอะไรหรือทหาร”
“บัดนี้มีผู้มีแหวนเพชรแก้ว มาแสดงตัวแล้วพะเจ้าค่ะ”
“จริงเหรอทหาร เสด็จพี่เพคะ ลูกเรามีทางรอดแล้ว”
“ดารา เจ้าจงเผื่อใจไว้บ้าง เผื่อที่อาจจะเป็นของปลอมก็ได้ ตอนนี้เรามิสามารถเชื่อใครได้เลย ทุกคนที่มาล้วนแต่หวังรางวัลทั้งสิ้น”
“โธ่ แก้วจิตราลูกแม่ ได้แคนยะมู มันแค้นอะไรกับลูกของแม่นัก ทำไมมันถึงได้ทำร้ายลูกให้เจ็บปางตายเพียงนี้”
“ไปเชิญเขาเข้ามา”
เมรินทร์และเคยองเข้าเฝ้า
“ข้าพเจ้ามีนามว่า เคยอง ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ”
“หม่อมฉัน เมรินทร์ ถวายบังคมพะเจ้าค่ะ”
“ไหนล่ะแหวนเพชรแก้ว”
“นี่เพคะ”
“ใช่หรือเปล่า ท่านพรานเหม่ง”
“เดี๋ยว ข้าพเจ้าขอจับยานสักครู่พะเจ้าค่ะ”
“เป็นไงท่านพราน”
“มีน้ำงามแวววาว ดุจมีอนุภาพอันบริสุทธิ์ แห่งเทพบุตรและธิดาแห่งความรัก ณ ถ้ำแก้ว”
“ในเมื่อเป็นแหวนเพชรแก้ว ก็ยื่นมาให้เราสิ แล้วเจ้าก็เอารางวัลไป”
“ไม่ได้ พะเจ้าค่ะ”
“ทำไมล่ะ พรานเหม่ง”
“เพราะหญิงสาวผู้นี้ก็คือผู้ที่ฟ้าลิขิตให้มีพันธชีวิตผูกพันกับองค์หญิงแก้วจิตรา หากมิได้นาง ภารกิจนี้ก็ไม่สำเร็จ”
“งั้นเรอะ”
“พะเจ้าค่ะ”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณเพคะ”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพะเจ้าค่ะ ”
เมื่อพรานเหม่งได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้ทั้งสองแล้ว จึงรีบให้ทหารไปกราบทูลเชิญเจ้าชายอาฌาคู่หมั้นขององค์หญิงแก้วจิตรามาที่เรือนรับรอง เพื่อชี้แจงเรื่องการเดินทาง
“นี่เจ้าชายอาฌาคู่หมั้นขององค์หญิงแก้วจิตราที่สลบอยู่มิได้สติ”
“ถวายบังคมเพคะ ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ”
“มิต้องมากพิธีหรอก เราดีใจมากเมื่อทราบว่ามีคนมีแหวนเพชรแก้ว”
“เหตุใด พวกท่านจึงต้องการแหวนเพชรแก้วเล่า เคยองถามด้วยความสงสัย”
“งั้นข้าจะเล่าให้ฟัง เมื่อ 2 3 วันก่อน เกิดเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ขึ้น พายุฝน ลมแรง ฟ้ามืดครึ้ม มืดมิดไปทั้ง”เมือง จู่ๆก็มีเงาดำที่มีนามว่าแคนยะมูโผล่เข้ามาในท้องพระโรง จังองค์หญิงแก้วจิตราเป็นตัวประกัน โดยมันกล่าวว่า
“ฮะ ฮะ ฮะ ไอ้มนุษย์โง่เอ้ย พวกเจ้าโชคร้ายนักที่มามีชีวิตเกี่ยวพันกับนางแก้วดารา มันทำความชั่วไว้กับข้า”มากมายนักชาตินี้ นางต้องชดใช้
“เจ้าจะทำอะไรลูกเรา หะ ได้คำดำทมิฬ ใจเหี้ยมโหด เหตุใดเจ้าจึงเป็น คนจองกรรมจองเวรนัก”
“ฮะ ฮะ ฮะ มเหสี ท่านไม่เป็นข้า ท่านไม่รู้หรอก”
“เจ้าปล่อยลูกเราเดี๋ยวนี้นะ ทหาร”
“หยุดนะ หากเข้ามาใกล้ข้าแม้แต่ก้าวเดียว นางตาย อย่างไม่มีโอกาสรอดแน่”
“เสด็จแม่ เสด็จพ่อ ช่วยลูกด้วย”
“ไม่ต้องร้องหรอกองค์หญิง เดี๋ยวท่านก็จะหมดภาระหน้าที่อันลำบากยากเข็ญแล้ว จงกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเถิด จนกว่าจะมีคนไปเอาดาบมรกตมาฆ่าข้าได้ ฮะ ฮะ ฮะ ”
“เมื่อพรานเหม่งเล่าจบ เมรินทร์ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที”
“แล้วแหวนเพชรแก้วไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ”
“ก็แหวนเพชรแก้ว คือ สิ่งเดียวที่จะล่อเอาดาบมรกตออกจากถ้ำไงล่ะ”
“แล้วว่าแต่ว่า เราจะเดินทางถ้ำแก้วเช่นไรเล่า”
“แผนที่ไง แต่ข้ามีเพียงครึ่งเดียว”
“ไหนขอดูหน่อย ทำไมเหมือนของข้าเลยล่ะ รอแป๊ปนึง”
“นี่ของข้า”
“ใช่แล้ว โชคดีจริงๆเลย เจ้าได้มากจากไหน”
“ของพ่อข้าน่ะ”
“พ่อเจ้าคือ พรานคองจูใช่หรือไม่”
“ท่าน ท่านรู้ได้ไง”
“คนที่มีแผนที่อีกครึ่งคือศิษย์พี่ของข้า”
“โถ หลานข้าสบายใจได้ เจ้ามิได้โดดเดี่ยว เจ้าจะมีข้าเป็นเสมือนพ่อคุ้มครองเจ้าตลอดการเดินทาง”
ขอบคุณมากท่านพ่อพรานเหม่ง
“พรุ่งนี้ เราจะพาท่านทั้งสองไปดูพระคู่หมั้นแห่งเรา คืนนี้เราไม่รบกวนท่านทั้งสองแล้วล่ะ ไปท่านพราน เราลาล่ะ”
“เพคะ”
เมื่อเจ้าชายอาฌาและพรานกลับไป เมรินทร์และ เคยอง ก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวที่ได้ผ่านมา
“พี่เคยอง เมรินทร์เหนื่อยเหลือเกิน เมรินทร์ คิดถึงเสด็จแม่ เสด็จพ่อ เมรินทร์กลัว ”เมรินทร์กล่าวด้วยความท้อใจพร้อมกับหลั่งน้ำตา
“เมรินทร์ ตลอดเวลาที่มีอยู่กับเจ้ามา พี่มิเคยได้เห็นน้ำตาของเจ้า เจ้าเป็นคนเข้มแข็งนักในสายตาพี่ เอาเถอะ เจ้าอย่าได้กังวล พี่สัญญา พี่จะดูแลเจ้าไว้เยี่ยงชีวิต ”เคยองพูด และ เอื้อมมือโอบกอดเมรินทร์ไว้
“ขอบคุณค่ะ พี่เคยอง พี่ชายทีแสนดีของเมรินทร์”
เมื่อเคยองได้ยินก็รู้สึกดีใจนิดๆ และแอบน้อยใจนิดหน่อย เพราะ เคยอง มิเคยคิดกับเมรินทร์แค่พี่ชายกับน้องสาว
####################################################################
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามตอนต่อไป ในตอนหน้านะคะ
ความคิดเห็น