ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UndeR Wolrd OnlinE

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 56






    ตอนที่ 2 อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น




     “สูงเป็นบ้าเลยว่ะ”   

    “เออ ดูไกลๆ  ว่าสูงแล้วน่ะแต่พอมาอยู่ ใกล้แบบนี้เห็นแล้วขนลุกว่ะ    คนก็เยอะเวอร์   แล้วเอาไงต่อว่ะ”

    “ก็เข้าไปข้างในดิ่  อยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้อะไรนี่หว่า” 

     

               บทสนทนาของสองสหายที่ยืนคุยกันอยู่หน้าตึก   อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น   ผู้คนที่ยืนกันแน่นขนัดหน้าตึกระฟ้าที่สูงกว่า  250 ชั้น   ทั้งสองมารวมตัวกันหน้าลานกว้างที่เป็นรูปตัวยูซึ่งอยู่หน้าทางเข้าหลักของอาคาร   ตรงกลางลานกว้างเป็นบ่อน้ำพุที่พ่นน้ำขึ้นฟ้าเป็นวิถีโค้งคล้ายรูปตัวยู   บานประตูทางเข้าเหมือนทางเข้าของสนามฟุตบอลก็ไม่ผิดนัก เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า  และ บนประตูมีหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่ที่มีการเปิดวีดีโอตัวอย่างของเกมดังที่มีชื่อว่า

     

    Under  World  Online

     

    “แล้วตกลงวันนี้เราต้องมาทำไรมั่งอ่ะ   ชั้นยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยน้า  ฮ้าววววว ”     เสียงสบทอันเจื้อยแจ้วพร้อมหาววอดของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตดังไล่หลังเด็กหนุ่มอีกคนที่เป็น  “เพื่อนรัก”  มาอย่างไม่ขาดปาก ส่งให้คนฟังพ่นเสียง “หึ” ในลำคออย่างนึกขัน 

     

    “นอนไม่พอหรอว่ะ เฮอะ!!    ชั้นโทรปลุกนายก็ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้วกว่าจะรับก็เก้าโมงกว่า  ไหนจะตอนที่นายไปหลับบนรถเมล์นั่นอีก  พูดแล้วขึ้นว่ะ”      แชมป์เดินกระฟัดกระเฟียดอย่างอารมณ์เสีย

     

            วันนี้เขาและอิสนัดกันแต่เช้าตรู่เพื่อจะมางานเปิดตัวเกมดัง   แต่พอแชมป์โทไปปลุกเจ้าเพื่อนตัวดีดันไม่รับสายซะได้จนแชมป์แทบจะตัดใจไปแล้วด้วยซ้ำ  ถ้าหมอนั่นไม่รับมือถือตอนเก้าโมงเช้านั่นอ่ะน่ะ 

     

        เจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตหัวเราะ แหะๆ กลบเกลื่อน ก่อนจะเดินเข้ามากอดคอเพื่อนรักด้วยท่าทีหยอกล้อ

     

    “น่าๆ  ยังไงชั้นก็มาแล้วน่ะโว้ยอย่างอลเลยว่ะ  เหมือนตุ๊ด ป่าวๆ”  เจ้าตัวดีพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก   พร้อมกันนั้นก็ตามด้วยศอกลุ่นๆของแชมป์ที่กระทุ้งเข้าสีข้าง  จนอิสต้องเอี้ยวตัวหลบอย่างช่วยไม่ได้  

     

        ทั้งสองพาร่างผ่านฝูงชนหลายชีวิตเข้าไปในอาคาร  ด้านในเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆมากมาย  และทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งของหรือเทคโนโลยีของ บริษัทยักใหญ่นี่ทั้งนั้น     รวมทั้งซุ้มที่มีสาวๆ มายืนเต้นหรือแต่งตัววาบหวิวเรียกสายตาบรุษเพศหลายชีวิต  หรือจะเป็นหุ่นยนต์ร่างยักที่สูงกว่าสองเมตรและเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์คนหนึ่ง   และอีกหลายๆซุ้ม

     

               ทุกซุ้มล้วนหน้าตื่นตาตื่นใจสำหรับแชมป์เพราะเขาเป็นแฟนพันแท้ของเทคโนโลยีล้ำสมัย  แต่สำหรับอิสแล้ว....

     

    “เฮ้ยๆ  จำได้ว่าเราจะมาซื้อเกมนั้นไปเล่นนี่หว่า  ไม่ได้มาเดินดู  เศษเหล็กพวกนี้น่ะเว้ย  ไอ้แชมป์”  อิสโวยอย่างเบื่อหน่าย     เขาพยายามทำตัวไม่ให้เบื่อหน่ายอย่างเต็มที่แล้วด้วยการมองสาวๆโคโยตี้ในซุ้มตรงหน้าเต้นแร้งเต้นกาไปตามจังหวะเพลง  แต่ก็น่ะรอบๆตัวเขาก็เต็มไปด้วยอะไรที่  เยอะ!!!!    ซ้ายก็เศษเหล็กขวาก็เศษเหล็ก  ส่วนข้างหน้าก็แค่โคโยตี้ไร้อารมณ์

     

      น่าเบื่อชิบ!!!

     

    “เออ ๆ  ก็ได้เว้ย  ตะกี้ข้าอ่านบอร์ดหน้างานเขาบอก  อยู่ชั้นห้าสิบ   นั่นไงลิฟท์  ไปๆ “   ว่าแล้วแชมป็ก็เดินนำลิ่วไปส่งให้จอมเฉื่อยรีบเดินตามแทบไม่ทัน

     

     

    “กิ๊ง!!!!” 

     

         เสียงลิฟท์ขนาดใหญ่ดังขึ้น   หลายๆคนกรูกันออกมาจากลิฟท์  ที่ชั้น 50  แทบจะพร้อมกัน  ไม่เว้นแม้แต่คู่ซี้แชมป์อิส  ชั้นห้าสิบนี้ต้องบอกว่าสำหรับคอเกมอย่างแท้จริง   เพราะตลอดทางเต็มไปด้วยซุ้มเกมต่างๆมากมาย  รวมไปถึงเหล่าสาวกคอสเพลย์  ทั้งแต่งตัวเป็นนักรบในเกมอาพีจี  หรือเมดคาเฟ่สุดเซ็กซี่ก็มีให้เห็นเกลื่อนไปหมด  

     

                ทั้งสองเดินไปตามทางเดินของชั้นที่กว้างใหญ่มาก  เพราะพื้นที่กว้างขนาดรถยนต์สองสามคันวิ่งได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว   จอดิจิตอลที่ติดตามพนังเปิดโฆษณาเกมดังที่ตอนนี้พวกเขากำลังจะไปจับจองเป็นเจ้าของในไม่กี่อึดใจ   ประดับตามทางเดินไม่ขาด 

     

              จนตอนนี้พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงแถวยาวหน้าล็อบบี้ของ  แผนกเกม  Under World Online   เท่านั้นเองจอมขี้เกียจอย่างอิสก็ถอนหายใจยาวเหยียด   นี่เขาต้องมาต่อแถวรอมากขนาดนี้เพื่อเกมๆ  เดียวเหรอเนี่ย   

     

    “แถวยาวหว่ะไอ แชมป์  ชั้นขี้เกียจรอน่ะโว้ย”

     

    “เอาหน่ะ   ยังไงก็คุ้ม  เพราะเกมนี้เป็นเกมที่แกจะไม่เบื่อแน่นอนเพื่อนรัก”   แชมป์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจทำเอาอิสขมวดคิ้วมุ่นอย่างนึกสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นอีก

     

    “ทำไมว่ะ   ก็แค่เกม  เอ้อว่าแต่มันใช้เครื่องไรเล่นว่ะ”

     

    “นายไม่รู้จักหรอกเว้ย    เครื่องเล่นเกมๆนี้มันเป็นเครื่องเฉพาะ   ที่บริษิทนี้สร้างขึ้นเพื่อเกมๆนี้เลยน่ะเว้ย   มันมีชื่อเรียกว่า  Sleep  Gameplay  System   เรียกย่อๆว่า  SGPS  เอาไว้ให้เราเล่นตอนพักผ่อนแบบพกพาได้อะไรประมาณนี้น่ะแหละ  อธิบายยากว่ะ  บอกได้แค่ว่าเองไม่เคยเจอหรอกเชื่อดิ่  นายไม่เบื่อแน่”

     

     

         ยี่สิบห้านาทีต่อมา  ทั้งคู่ก็สมปารถนา   เป็นเวลาไม่กี่นาทีที่ยาวนานสำหรับอิส  เพราะแค่ไม่กี่สิบนาทีเจ้าของผมสีช็อคโกแล็ตก็ยืนหลับไปได้หลายตื่นทีเดียว   ต่างกับเพื่อนซี้อีกคนที่ใจจดใจจ่อซะยิ่งกว่าตอนฟังผลสอบซะอีก     ตอนนี้ทั้งคู่ถือกล่องพลาสติกขนาดพอดีมือ  ที่มีหูจับเหมือนกระเป๋าหิ้วใส่เอกสารใบหรูอะไรทำนองนั้น  

     

         อิสยกกระเป๋าขึ้นมาสำรวจ    เพราะด้วยน้ำหนักที่เบาและแพงสำหรับเด็กมอปลายอย่างเขา   ทำให้รู้สึกว่ามันมีน้ำหนักน้อยมากสำหรับเครื่องเล่นเกม  เพื่อคลายความสงสัยอิสก็หันมาถามเพื่อนซี้ข้างตัวเองทันที

     

    “แชมป์ทำไมมันเบานักอ่ะเครื่องเล่นเกมอะไรว่ะ  เบาหยองเชียว” 

     

    “ก็ต้องเบาดิ่ว่ะ  มันไว้สำหรับพกพาได้ไง   เอาเป็นว่าขากลับ   ลองเล่นกันเลยดีม่ะ”   แฟนพันแท้เทคโนโลยีตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  ทั้งสองคนเดินกลับมาที่ลิฟท์ตัวเดิมเพื่อลงไปยังชั้นล่างสุด

     

    “ยังไงว่ะ  ตอนไหนไม่ใช่ว่าเล่นที่บ้านหรอ  มีแบตเตอรี่ในเครื่องหรอ  อ้ะ....” 

     

            ในขณะที่อิสเดินอย่างไม่ระวังนั้นเขาชนเข้ากับชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่เดินสวนออกมาจากลิฟท์   แต่ชายที่ร่างสูงใหญ่กว่ากลับเป็นฝ่ายกระเด็นเสียหลักซะเอง  ด้านหลังของชายคนนั้นมีกลุ่มคนรุ่นราวคราวเดียวกันยืนอยู่หลายชีวิตและวินาทีนั้นสายตาหาเรื่องหลายคู่ก็จ้องมาที่อิสเป็นตาเดียว

     

    “เฮ้ยเดินยังไงว่ะไอ้หน้าตุ๊ดชนคนอื่นเขาไม่เห็นหรอ”   ชายร่างใหญ่ว่าพลางกระชับคอเสื้อของตน เผยให้เห็นตราโรงเรียนที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็น “เด็กช่าง”     ชื่อเรียกของกลุ่มวัยรุ่นนักบู๊ที่บู๊ได้ทุกที่และอาจจะไม่เว้นแม้แต่ตอนนี้    ทำให้คนที่อยู่ใกล้กลุ่มพวกเขาพากันเดินออกห่างอย่างไม่ได้นัดหมาย

     

    “โทษทีพี่ชายไม่ทันมองน่ะ”  อิสหันมาตอบแบบขอไปที   ในขณะที่เขาพยายามพาร่างตัวเองแหวกกลุ่มเด็กช่างตรงหน้าเพื่อจะเข้าไปในลิฟท์     และตอนนั้นเองชายร่างใหญ่ก็ใช้มือหนาของตนคว้าที่คอเสื้อของอิสไว้

     

    “จะไปไหนว่ะ  ถ้าแค่ขอโทษแล้วจบจะมีตำรวจเพื่ออะไรเล่า!!!!”   น้ำเสียงชวนหาเรื่องตวาดลั่น  ส่งให้แชมป์ที่ตอนนี้เงียบอยู่นานถึงกับสะดุ้งโหยง  เสียงของชายร่างยักษ์หัวโจกของกลุ่มเด็กช่างนั้นดังพอที่จะทำให้ผู้คนรอบๆเริ่มหันมาสนใจมากขึ้นไปอีก   จะมีเพียงก็แต่อิสที่ถอนหายใจอย่างเซงๆ 

     

    “ใจเย็น น่าพี่ยักษ์ใหญ่   คนไม่ได้ตั้งใจให้ทำไงล่ะ  หยวนๆล่ะกัน”   ประโยคนี้แทบทำให้เหล่าเด็กช่างแทบคลั่งเพราะด้วยน้ำเสียงที่ดูกวนโอ๊ยแล้วเจ้าตัวยังตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกลับไม่รู้สถานะของตัวเอง  เพราะตอนนี้เขาเปรียบเสมือนลูกไก่อยู่ในกำมือ   ไม่ว่าจะซ้ายขวาหน้าหลังเหล่าเด็กช่างก็ยืนล้อมเขาไว้หมด

     

    “เอ็ง  กวน ทีนส์ ข้าหรอว่ะ  ไอ้หน้าตุ๊ดอย่างนี้ต้องกินหมัดแทนข้าวแล้วมั้ง”   ว่าจบชายร่างยักกระชากคอเสื้อของอิสอย่างแรง  จนเสื้อของอิสแทบจะขาดคามือของเขา 

     

                      และวินาทีนั้นอิสก็ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด เขาใช้มือของตนขว้าเข้าที่ข้อมือชายร่างยักดัง  “หมับ”   ก่อนจะบีบด้วยแรงที่เรียกได้ว่าเหนือกว่าชายตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะชายร่างยักษ์ทรุดฮวบด้วยความเจ็บปวดอย่างมาหาศาล    รอยยิ้มเหี้ยมเผยให้เห็นบนใบหน้าของอิสดูน่ากลัวเป็นที่สุด  

     

             ชายร่างยักษ์ที่ตอนแรกมั่นใจว่าคนตรงหน้าจะต้องโดนหมัดของตัวเองสอย    แต่ในตอนนี้เขาชักจะไม่แน่ใจซะแล้ว  เพราะในสายตาเขาไอ้หน้าตุ๊ดตรงหน้าตอนนี้ราวกับมัจจุราชคร่าชีวิตที่กำลังกุมชตากรรมของตน  อีกทั้งแววตานั่นก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า หมอนี่ต้องเป็นยอดนักบู๊ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย

     

       พรรคพวกที่เหลือของเด็กช่างได้แต่มองด้วยความสงสัยเพราะบัดนี้เพื่อนของเขาลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างเล็กกว่าได้อย่างไร    มีเพียงแชมป์ที่ยืนมองอย่างปลงตกเพราะว่าเขารู้จักเพื่อนซี้ตัวเองดีกว่าใคร

     

    “เฮ้อ  หาเรื่องใครไม่หา  มาหากับ  ไอ้หนุ่มเลือดนักสู้เข้าซะแล้วสิ่  ”

     

     

    “ปะ  ปะ  ปล่อยน่ะเว้ย   ข้าเจ็บไอ้เด็กบ้า”   ชายร่างยักสั่งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  ในขณะที่อีกมือก็พยายามแกะมือเล็กที่กุมข้อมือตัวเองอย่างสุดกำลัง  

     

    “นี่หรอ  คำพูดที่ขอร้องคนอื่นของนายน่ะ  พี่ชาย”   น้ำเสียงติดตลกของอิสนั้นฟังราวกลับเสียงหัวเราะของมัจจุราช  เขาฉีกยิ้มอย่างใจเย็นแถมยังเพิ่มแรงบีบเข้าไปอีกเท่าตัว  จนคนตรงหน้าก้มลงคุกเข่าเรียกได้ว่าแทบจะดิ้นพราดๆด้วยความเจ็บปวด  จนคนที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ๆเริ่มที่จะสงสารชายร่างยักขึ้นมาบ้างแล้ว   พวกเด็กช่างที่เหลือเห็นท่าไม่ดีก็พุ่งเข้าหาอิส  

     

       และต้องชะงัก  เพราะสายตาคมกริบของเจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตตรงหน้า  สายตาที่บอกว่า  “เข้ามาอีกก้าวเดียวชั้นจะบีบข้อมือของเพื่อนแกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ”

     

    “โอ๊ยยย  ขอร้องล่ะ  ปล่อยเถอะคร้าบบ”  ประโยคที่ออกมาจากชายร่างยักษ์นี้เรียกได้ว่าทั้งชาติเขาจะไม่มีวันพูดกับใครเลยนอกจากวันนี้   และได้ผลอิสปล่อยมืออย่างนิ่มนวลในขณะที่เขากระชับคอเสื้อที่ก่อนนี้โดนกระชากแทบขาดขามือของยักษ์ใหญ่    พวกที่เหลือกรูกันเข้ามาดูหัวหน้าของตัวเอง  และที่ข้อมือนั่นเป็นรอยมือบีบเขียวเหมือนโดนอะไรบางอย่างหนีบอย่างแรง  

     

           อิสบิดขี้เกียจด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะเดินแหวกกลุ่มคนที่มุงดูใกล้ๆ  และคนเหล่านั้นก็เปิดทางให้เขาอย่างไม่ขัดขืน  ส่วนเพื่อนรักที่ยืนดูมาตลอดอย่างแชมป์ก็เดินเข้าไปหา เด็กช่างผู้ไม่รู้อะไร    ก่อนจะพูดประโยคเด็ดที่เขาเคยพูดบ่อยๆเวลาเจ้าอิสมันไปมีเรื่องกับคนอื่นว่า

     

    “วันหลังจะหาเรื่องใครดูให้ดีก่อนน่ะพี่ชาย  ว่าหมูหรือเสือไม่งั้นจะเจอบทเรียนแบบคราวนี้อีก  จะหาว่าไม่เตือน”   ว่าจบก็เดินจ้ำอ้าวตามติดเพื่อนซี้ไปที่ลิฟท์ก่อนจะโบกมือให้เด็กช่างอย่างกวนโอ๊ยเป็นที่สุด   เหลือไว้เพียงคำถามและความกลัวจากชายร่างยักและพรรคพวกเด็กช่างที่ไม่เคยได้รับจากใคร  เพราะชายคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาเคยๆเจอมา    จะบอกว่าคนล่ะระดับหรือเรียกได้ว่า “ของจริง”

     

    “มะ มันเป็นใครกันว่ะ” 

     

    “ปั่บบบ!!!” 

     

        เสียงปิดประตูรถแท็กซี่ดังลั่น   ในรถมีร่างของสองเพื่อนซี้นั่งอยู่หลังจากที่พวกเขาปรึกษากันแล้วว่าขากลับควรจะนั่งแท็กซี่เพราะรถติดมาก  เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลา  เกือบจะเที่ยงๆแล้วนั่นเอง

     

    “เฮ้อ แอร์เย็นฉ่ำ   ค่อยสดชื่นหน่อย”  จอมขี้เกียจสบทอย่างปลดปล่อย  และนอนแผ่หลาบนเบาะหลังอย่างไม่อายใคร

     

    “บอกตรงๆน่ะเว้ยอิส  ถ้าแกไม่เป็นคนขี้เกียจ   ขี้เซา  ขี้บ่น  แล้วล่ะก็แกคงจะเท่น่าดูเลยว่ะ   กี่ทีๆข้าก็ไม่ชินที่เห็นเองบู๊  ให้ตายเหอะ”     นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แชมป์เห็นเจ้าเพื่อนตัวดีเตะต่อยกับคนอื่น  แต่หมอนี่ก็มักจะมีเรื่องแบบนี้เป็นประจำ  เพราะถ้าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้หมอนี่ไม่เบื่อแล้วล่ะก็คงเป็นเรื่องวิวาทนี่แหละที่เขาเห็นมันดูคึกคักเป็นประจำ

     

    “ก็ชั้นไม่ได้ไปหาเรื่องพวกมันนี่หว่า  อยากมาแหย่เสือเอง ช่วยไม่ได้”   อิสว่าพลางเปิดกล่องเกมที่ซื้อมา ในนั้นมีคู่มือเล่มบางที่แนะนำวิธีการใช้เครื่อง SGPS  อยู่

     

    “เอาเหอะๆ   ข้าว่าเลิกพูดเรื่องนั้นเหอะ  ตอนนี้ข้าอยากเล่นเกมจนตัวสั่นแล้วว่ะ”    เจ้าของผมสีม่วงไวโอเลท  แกะกล่องเกมของตัวเองออกมา  เขาหยิบเอาอุปกรณ์บางอย่างที่มีลักษณะคล้ายแว่นตาขนาดใหญ่   ก่อนจะหันมาหาเพื่อนตนที่นั่งอยู่เบาะหลัง

     

    “นี่ไงว่ะเครื่องที่ข้าบอก  แค่เองเปิดสวิทข้างๆอุปกรณ์อันนี้ แล้วสวมมันเวลานอนพักผ่อนแกก็จะเข้าสู่โลกของเกมได้ทุกที่ทุกเวลาเลยน่ะเว้ย   สะดวก สุดๆ”    

     

                 อิสมองสำรวจมันอยู่พักหนึ่ง  ในใจเขาคิดว่ามันดูเหมือนแว่นในอนาคตที่ดูสวยและมีราคามาก   อิสอ่านคู่มืออยู่ครู่นึงจึงตัดสินใจจะเล่นเกมในขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน   เพราะในคู่มือบอกว่าสามารถตั้งเวลาเล่นได้ตามใจของผู้เล่น

             

               อิสกดปุ่มข้างแว่นก่อนหันไปหาแชมป์   และก็ต้องตกใจเพราะเจ้าเพื่อนตัวดีสวมมันเป็นที่เรียบร้อยเสมือนพร้อมที่จะเข้าสู่โลกแห่งเกมตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วยซ้ำ   เขาถอนหายใจอย่างปลงๆ  ก่อน จะหันไปถามโชว์เฟอร์ว่าใช้เวลากี่นาทีจะไปถึงที่หมาย  

       พอถามเสร็จเจ้าตัวก็สวมเครื่องเล่นเข้ากับใบหน้าตัวเอง  ตอนนี้เขาก็ยังมีพิษสะสมจากความง่วงนอนที่เจ้าตัวคิดว่ายังนอนไม่พอ(ทั้งๆที่นอนไปเกือบสิบช.ม.)  และเผลอหลับไปในที่สุด 

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×