คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น
ตอนที่ 2 อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น
“สูงเป็นบ้าเลยว่ะ”
“เออ ดูไกลๆ ว่าสูงแล้วน่ะแต่พอมาอยู่ ใกล้แบบนี้เห็นแล้วขนลุกว่ะ คนก็เยอะเวอร์ แล้วเอาไงต่อว่ะ”
“ก็เข้าไปข้างในดิ่ อยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้อะไรนี่หว่า”
บทสนทนาของสองสหายที่ยืนคุยกันอยู่หน้าตึก อันลิมิเต็ด คอปเปอร์เรชั่น ผู้คนที่ยืนกันแน่นขนัดหน้าตึกระฟ้าที่สูงกว่า 250 ชั้น ทั้งสองมารวมตัวกันหน้าลานกว้างที่เป็นรูปตัวยูซึ่งอยู่หน้าทางเข้าหลักของอาคาร ตรงกลางลานกว้างเป็นบ่อน้ำพุที่พ่นน้ำขึ้นฟ้าเป็นวิถีโค้งคล้ายรูปตัวยู บานประตูทางเข้าเหมือนทางเข้าของสนามฟุตบอลก็ไม่ผิดนัก เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า และ บนประตูมีหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่ที่มีการเปิดวีดีโอตัวอย่างของเกมดังที่มีชื่อว่า
“Under World Online”
“แล้วตกลงวันนี้เราต้องมาทำไรมั่งอ่ะ ชั้นยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยน้า ฮ้าววววว ” เสียงสบทอันเจื้อยแจ้วพร้อมหาววอดของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตดังไล่หลังเด็กหนุ่มอีกคนที่เป็น “เพื่อนรัก” มาอย่างไม่ขาดปาก ส่งให้คนฟังพ่นเสียง “หึ” ในลำคออย่างนึกขัน
“นอนไม่พอหรอว่ะ เฮอะ!! ชั้นโทรปลุกนายก็ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้วกว่าจะรับก็เก้าโมงกว่า ไหนจะตอนที่นายไปหลับบนรถเมล์นั่นอีก พูดแล้วขึ้นว่ะ” แชมป์เดินกระฟัดกระเฟียดอย่างอารมณ์เสีย
วันนี้เขาและอิสนัดกันแต่เช้าตรู่เพื่อจะมางานเปิดตัวเกมดัง แต่พอแชมป์โทไปปลุกเจ้าเพื่อนตัวดีดันไม่รับสายซะได้จนแชมป์แทบจะตัดใจไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าหมอนั่นไม่รับมือถือตอนเก้าโมงเช้านั่นอ่ะน่ะ
เจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตหัวเราะ แหะๆ กลบเกลื่อน ก่อนจะเดินเข้ามากอดคอเพื่อนรักด้วยท่าทีหยอกล้อ
“น่าๆ ยังไงชั้นก็มาแล้วน่ะโว้ยอย่างอลเลยว่ะ เหมือนตุ๊ด ป่าวๆ” เจ้าตัวดีพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก พร้อมกันนั้นก็ตามด้วยศอกลุ่นๆของแชมป์ที่กระทุ้งเข้าสีข้าง จนอิสต้องเอี้ยวตัวหลบอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งสองพาร่างผ่านฝูงชนหลายชีวิตเข้าไปในอาคาร ด้านในเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆมากมาย และทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งของหรือเทคโนโลยีของ บริษัทยักใหญ่นี่ทั้งนั้น รวมทั้งซุ้มที่มีสาวๆ มายืนเต้นหรือแต่งตัววาบหวิวเรียกสายตาบรุษเพศหลายชีวิต หรือจะเป็นหุ่นยนต์ร่างยักที่สูงกว่าสองเมตรและเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์คนหนึ่ง และอีกหลายๆซุ้ม
ทุกซุ้มล้วนหน้าตื่นตาตื่นใจสำหรับแชมป์เพราะเขาเป็นแฟนพันแท้ของเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่สำหรับอิสแล้ว....
“เฮ้ยๆ จำได้ว่าเราจะมาซื้อเกมนั้นไปเล่นนี่หว่า ไม่ได้มาเดินดู เศษเหล็กพวกนี้น่ะเว้ย ไอ้แชมป์” อิสโวยอย่างเบื่อหน่าย เขาพยายามทำตัวไม่ให้เบื่อหน่ายอย่างเต็มที่แล้วด้วยการมองสาวๆโคโยตี้ในซุ้มตรงหน้าเต้นแร้งเต้นกาไปตามจังหวะเพลง แต่ก็น่ะรอบๆตัวเขาก็เต็มไปด้วยอะไรที่ เยอะ!!!! ซ้ายก็เศษเหล็กขวาก็เศษเหล็ก ส่วนข้างหน้าก็แค่โคโยตี้ไร้อารมณ์
น่าเบื่อชิบ!!!
“เออ ๆ ก็ได้เว้ย ตะกี้ข้าอ่านบอร์ดหน้างานเขาบอก อยู่ชั้นห้าสิบ นั่นไงลิฟท์ ไปๆ “ ว่าแล้วแชมป็ก็เดินนำลิ่วไปส่งให้จอมเฉื่อยรีบเดินตามแทบไม่ทัน
“กิ๊ง!!!!”
เสียงลิฟท์ขนาดใหญ่ดังขึ้น หลายๆคนกรูกันออกมาจากลิฟท์ ที่ชั้น 50 แทบจะพร้อมกัน ไม่เว้นแม้แต่คู่ซี้แชมป์อิส ชั้นห้าสิบนี้ต้องบอกว่าสำหรับคอเกมอย่างแท้จริง เพราะตลอดทางเต็มไปด้วยซุ้มเกมต่างๆมากมาย รวมไปถึงเหล่าสาวกคอสเพลย์ ทั้งแต่งตัวเป็นนักรบในเกมอาพีจี หรือเมดคาเฟ่สุดเซ็กซี่ก็มีให้เห็นเกลื่อนไปหมด
ทั้งสองเดินไปตามทางเดินของชั้นที่กว้างใหญ่มาก เพราะพื้นที่กว้างขนาดรถยนต์สองสามคันวิ่งได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว จอดิจิตอลที่ติดตามพนังเปิดโฆษณาเกมดังที่ตอนนี้พวกเขากำลังจะไปจับจองเป็นเจ้าของในไม่กี่อึดใจ ประดับตามทางเดินไม่ขาด
จนตอนนี้พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงแถวยาวหน้าล็อบบี้ของ แผนกเกม Under World Online เท่านั้นเองจอมขี้เกียจอย่างอิสก็ถอนหายใจยาวเหยียด นี่เขาต้องมาต่อแถวรอมากขนาดนี้เพื่อเกมๆ เดียวเหรอเนี่ย
“แถวยาวหว่ะไอ แชมป์ ชั้นขี้เกียจรอน่ะโว้ย”
“เอาหน่ะ ยังไงก็คุ้ม เพราะเกมนี้เป็นเกมที่แกจะไม่เบื่อแน่นอนเพื่อนรัก” แชมป์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจทำเอาอิสขมวดคิ้วมุ่นอย่างนึกสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นอีก
“ทำไมว่ะ ก็แค่เกม เอ้อว่าแต่มันใช้เครื่องไรเล่นว่ะ”
“นายไม่รู้จักหรอกเว้ย เครื่องเล่นเกมๆนี้มันเป็นเครื่องเฉพาะ ที่บริษิทนี้สร้างขึ้นเพื่อเกมๆนี้เลยน่ะเว้ย มันมีชื่อเรียกว่า Sleep Gameplay System เรียกย่อๆว่า SGPS เอาไว้ให้เราเล่นตอนพักผ่อนแบบพกพาได้อะไรประมาณนี้น่ะแหละ อธิบายยากว่ะ บอกได้แค่ว่าเองไม่เคยเจอหรอกเชื่อดิ่ นายไม่เบื่อแน่”
ยี่สิบห้านาทีต่อมา ทั้งคู่ก็สมปารถนา เป็นเวลาไม่กี่นาทีที่ยาวนานสำหรับอิส เพราะแค่ไม่กี่สิบนาทีเจ้าของผมสีช็อคโกแล็ตก็ยืนหลับไปได้หลายตื่นทีเดียว ต่างกับเพื่อนซี้อีกคนที่ใจจดใจจ่อซะยิ่งกว่าตอนฟังผลสอบซะอีก ตอนนี้ทั้งคู่ถือกล่องพลาสติกขนาดพอดีมือ ที่มีหูจับเหมือนกระเป๋าหิ้วใส่เอกสารใบหรูอะไรทำนองนั้น
อิสยกกระเป๋าขึ้นมาสำรวจ เพราะด้วยน้ำหนักที่เบาและแพงสำหรับเด็กมอปลายอย่างเขา ทำให้รู้สึกว่ามันมีน้ำหนักน้อยมากสำหรับเครื่องเล่นเกม เพื่อคลายความสงสัยอิสก็หันมาถามเพื่อนซี้ข้างตัวเองทันที
“แชมป์ทำไมมันเบานักอ่ะเครื่องเล่นเกมอะไรว่ะ เบาหยองเชียว”
“ก็ต้องเบาดิ่ว่ะ มันไว้สำหรับพกพาได้ไง เอาเป็นว่าขากลับ ลองเล่นกันเลยดีม่ะ” แฟนพันแท้เทคโนโลยีตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งสองคนเดินกลับมาที่ลิฟท์ตัวเดิมเพื่อลงไปยังชั้นล่างสุด
“ยังไงว่ะ ตอนไหนไม่ใช่ว่าเล่นที่บ้านหรอ มีแบตเตอรี่ในเครื่องหรอ อ้ะ....”
ในขณะที่อิสเดินอย่างไม่ระวังนั้นเขาชนเข้ากับชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่เดินสวนออกมาจากลิฟท์ แต่ชายที่ร่างสูงใหญ่กว่ากลับเป็นฝ่ายกระเด็นเสียหลักซะเอง ด้านหลังของชายคนนั้นมีกลุ่มคนรุ่นราวคราวเดียวกันยืนอยู่หลายชีวิตและวินาทีนั้นสายตาหาเรื่องหลายคู่ก็จ้องมาที่อิสเป็นตาเดียว
“เฮ้ยเดินยังไงว่ะไอ้หน้าตุ๊ดชนคนอื่นเขาไม่เห็นหรอ” ชายร่างใหญ่ว่าพลางกระชับคอเสื้อของตน เผยให้เห็นตราโรงเรียนที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็น “เด็กช่าง” ชื่อเรียกของกลุ่มวัยรุ่นนักบู๊ที่บู๊ได้ทุกที่และอาจจะไม่เว้นแม้แต่ตอนนี้ ทำให้คนที่อยู่ใกล้กลุ่มพวกเขาพากันเดินออกห่างอย่างไม่ได้นัดหมาย
“โทษทีพี่ชายไม่ทันมองน่ะ” อิสหันมาตอบแบบขอไปที ในขณะที่เขาพยายามพาร่างตัวเองแหวกกลุ่มเด็กช่างตรงหน้าเพื่อจะเข้าไปในลิฟท์ และตอนนั้นเองชายร่างใหญ่ก็ใช้มือหนาของตนคว้าที่คอเสื้อของอิสไว้
“จะไปไหนว่ะ ถ้าแค่ขอโทษแล้วจบจะมีตำรวจเพื่ออะไรเล่า!!!!” น้ำเสียงชวนหาเรื่องตวาดลั่น ส่งให้แชมป์ที่ตอนนี้เงียบอยู่นานถึงกับสะดุ้งโหยง เสียงของชายร่างยักษ์หัวโจกของกลุ่มเด็กช่างนั้นดังพอที่จะทำให้ผู้คนรอบๆเริ่มหันมาสนใจมากขึ้นไปอีก จะมีเพียงก็แต่อิสที่ถอนหายใจอย่างเซงๆ
“ใจเย็น น่าพี่ยักษ์ใหญ่ คนไม่ได้ตั้งใจให้ทำไงล่ะ หยวนๆล่ะกัน” ประโยคนี้แทบทำให้เหล่าเด็กช่างแทบคลั่งเพราะด้วยน้ำเสียงที่ดูกวนโอ๊ยแล้วเจ้าตัวยังตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกลับไม่รู้สถานะของตัวเอง เพราะตอนนี้เขาเปรียบเสมือนลูกไก่อยู่ในกำมือ ไม่ว่าจะซ้ายขวาหน้าหลังเหล่าเด็กช่างก็ยืนล้อมเขาไว้หมด
“เอ็ง กวน ทีนส์ ข้าหรอว่ะ ไอ้หน้าตุ๊ดอย่างนี้ต้องกินหมัดแทนข้าวแล้วมั้ง” ว่าจบชายร่างยักกระชากคอเสื้อของอิสอย่างแรง จนเสื้อของอิสแทบจะขาดคามือของเขา
และวินาทีนั้นอิสก็ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด เขาใช้มือของตนขว้าเข้าที่ข้อมือชายร่างยักดัง “หมับ” ก่อนจะบีบด้วยแรงที่เรียกได้ว่าเหนือกว่าชายตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะชายร่างยักษ์ทรุดฮวบด้วยความเจ็บปวดอย่างมาหาศาล รอยยิ้มเหี้ยมเผยให้เห็นบนใบหน้าของอิสดูน่ากลัวเป็นที่สุด
ชายร่างยักษ์ที่ตอนแรกมั่นใจว่าคนตรงหน้าจะต้องโดนหมัดของตัวเองสอย แต่ในตอนนี้เขาชักจะไม่แน่ใจซะแล้ว เพราะในสายตาเขาไอ้หน้าตุ๊ดตรงหน้าตอนนี้ราวกับมัจจุราชคร่าชีวิตที่กำลังกุมชตากรรมของตน อีกทั้งแววตานั่นก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า หมอนี่ต้องเป็นยอดนักบู๊ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย
พรรคพวกที่เหลือของเด็กช่างได้แต่มองด้วยความสงสัยเพราะบัดนี้เพื่อนของเขาลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างเล็กกว่าได้อย่างไร มีเพียงแชมป์ที่ยืนมองอย่างปลงตกเพราะว่าเขารู้จักเพื่อนซี้ตัวเองดีกว่าใคร
“เฮ้อ หาเรื่องใครไม่หา มาหากับ ไอ้หนุ่มเลือดนักสู้เข้าซะแล้วสิ่ ”
“ปะ ปะ ปล่อยน่ะเว้ย ข้าเจ็บไอ้เด็กบ้า” ชายร่างยักสั่งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ในขณะที่อีกมือก็พยายามแกะมือเล็กที่กุมข้อมือตัวเองอย่างสุดกำลัง
“นี่หรอ คำพูดที่ขอร้องคนอื่นของนายน่ะ พี่ชาย” น้ำเสียงติดตลกของอิสนั้นฟังราวกลับเสียงหัวเราะของมัจจุราช เขาฉีกยิ้มอย่างใจเย็นแถมยังเพิ่มแรงบีบเข้าไปอีกเท่าตัว จนคนตรงหน้าก้มลงคุกเข่าเรียกได้ว่าแทบจะดิ้นพราดๆด้วยความเจ็บปวด จนคนที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ๆเริ่มที่จะสงสารชายร่างยักขึ้นมาบ้างแล้ว พวกเด็กช่างที่เหลือเห็นท่าไม่ดีก็พุ่งเข้าหาอิส
และต้องชะงัก เพราะสายตาคมกริบของเจ้าของเรือนผมสีช็อคโกแล็ตตรงหน้า สายตาที่บอกว่า “เข้ามาอีกก้าวเดียวชั้นจะบีบข้อมือของเพื่อนแกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ”
“โอ๊ยยย ขอร้องล่ะ ปล่อยเถอะคร้าบบ” ประโยคที่ออกมาจากชายร่างยักษ์นี้เรียกได้ว่าทั้งชาติเขาจะไม่มีวันพูดกับใครเลยนอกจากวันนี้ และได้ผลอิสปล่อยมืออย่างนิ่มนวลในขณะที่เขากระชับคอเสื้อที่ก่อนนี้โดนกระชากแทบขาดขามือของยักษ์ใหญ่ พวกที่เหลือกรูกันเข้ามาดูหัวหน้าของตัวเอง และที่ข้อมือนั่นเป็นรอยมือบีบเขียวเหมือนโดนอะไรบางอย่างหนีบอย่างแรง
อิสบิดขี้เกียจด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะเดินแหวกกลุ่มคนที่มุงดูใกล้ๆ และคนเหล่านั้นก็เปิดทางให้เขาอย่างไม่ขัดขืน ส่วนเพื่อนรักที่ยืนดูมาตลอดอย่างแชมป์ก็เดินเข้าไปหา เด็กช่างผู้ไม่รู้อะไร ก่อนจะพูดประโยคเด็ดที่เขาเคยพูดบ่อยๆเวลาเจ้าอิสมันไปมีเรื่องกับคนอื่นว่า
“วันหลังจะหาเรื่องใครดูให้ดีก่อนน่ะพี่ชาย ว่าหมูหรือเสือไม่งั้นจะเจอบทเรียนแบบคราวนี้อีก จะหาว่าไม่เตือน” ว่าจบก็เดินจ้ำอ้าวตามติดเพื่อนซี้ไปที่ลิฟท์ก่อนจะโบกมือให้เด็กช่างอย่างกวนโอ๊ยเป็นที่สุด เหลือไว้เพียงคำถามและความกลัวจากชายร่างยักและพรรคพวกเด็กช่างที่ไม่เคยได้รับจากใคร เพราะชายคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาเคยๆเจอมา จะบอกว่าคนล่ะระดับหรือเรียกได้ว่า “ของจริง”
“มะ มันเป็นใครกันว่ะ”
“ปั่บบบ!!!”
เสียงปิดประตูรถแท็กซี่ดังลั่น ในรถมีร่างของสองเพื่อนซี้นั่งอยู่หลังจากที่พวกเขาปรึกษากันแล้วว่าขากลับควรจะนั่งแท็กซี่เพราะรถติดมาก เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลา เกือบจะเที่ยงๆแล้วนั่นเอง
“เฮ้อ แอร์เย็นฉ่ำ ค่อยสดชื่นหน่อย” จอมขี้เกียจสบทอย่างปลดปล่อย และนอนแผ่หลาบนเบาะหลังอย่างไม่อายใคร
“บอกตรงๆน่ะเว้ยอิส ถ้าแกไม่เป็นคนขี้เกียจ ขี้เซา ขี้บ่น แล้วล่ะก็แกคงจะเท่น่าดูเลยว่ะ กี่ทีๆข้าก็ไม่ชินที่เห็นเองบู๊ ให้ตายเหอะ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แชมป์เห็นเจ้าเพื่อนตัวดีเตะต่อยกับคนอื่น แต่หมอนี่ก็มักจะมีเรื่องแบบนี้เป็นประจำ เพราะถ้าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้หมอนี่ไม่เบื่อแล้วล่ะก็คงเป็นเรื่องวิวาทนี่แหละที่เขาเห็นมันดูคึกคักเป็นประจำ
“ก็ชั้นไม่ได้ไปหาเรื่องพวกมันนี่หว่า อยากมาแหย่เสือเอง ช่วยไม่ได้” อิสว่าพลางเปิดกล่องเกมที่ซื้อมา ในนั้นมีคู่มือเล่มบางที่แนะนำวิธีการใช้เครื่อง SGPS อยู่
“เอาเหอะๆ ข้าว่าเลิกพูดเรื่องนั้นเหอะ ตอนนี้ข้าอยากเล่นเกมจนตัวสั่นแล้วว่ะ” เจ้าของผมสีม่วงไวโอเลท แกะกล่องเกมของตัวเองออกมา เขาหยิบเอาอุปกรณ์บางอย่างที่มีลักษณะคล้ายแว่นตาขนาดใหญ่ ก่อนจะหันมาหาเพื่อนตนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“นี่ไงว่ะเครื่องที่ข้าบอก แค่เองเปิดสวิทข้างๆอุปกรณ์อันนี้ แล้วสวมมันเวลานอนพักผ่อนแกก็จะเข้าสู่โลกของเกมได้ทุกที่ทุกเวลาเลยน่ะเว้ย สะดวก สุดๆ”
อิสมองสำรวจมันอยู่พักหนึ่ง ในใจเขาคิดว่ามันดูเหมือนแว่นในอนาคตที่ดูสวยและมีราคามาก อิสอ่านคู่มืออยู่ครู่นึงจึงตัดสินใจจะเล่นเกมในขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน เพราะในคู่มือบอกว่าสามารถตั้งเวลาเล่นได้ตามใจของผู้เล่น
อิสกดปุ่มข้างแว่นก่อนหันไปหาแชมป์ และก็ต้องตกใจเพราะเจ้าเพื่อนตัวดีสวมมันเป็นที่เรียบร้อยเสมือนพร้อมที่จะเข้าสู่โลกแห่งเกมตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วยซ้ำ เขาถอนหายใจอย่างปลงๆ ก่อน จะหันไปถามโชว์เฟอร์ว่าใช้เวลากี่นาทีจะไปถึงที่หมาย
พอถามเสร็จเจ้าตัวก็สวมเครื่องเล่นเข้ากับใบหน้าตัวเอง ตอนนี้เขาก็ยังมีพิษสะสมจากความง่วงนอนที่เจ้าตัวคิดว่ายังนอนไม่พอ(ทั้งๆที่นอนไปเกือบสิบช.ม.) และเผลอหลับไปในที่สุด
ความคิดเห็น