ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิค Y วง 1D]One Direction Translate Fic

    ลำดับตอนที่ #11 : [Niam]Someone that I used to know

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 55


    [One Direction fanfic][Niam]Someone that I used to know

    One Direction Fanfiction by 1dslashoneshots.tumblr.com 

    Translate by KhawnLoL~*  

    Pairing : Liam Payne x Niall Horan 

    Rating PG




    _________________________






    เลียมไม่เคยมีงานการเป็นหลักเป็นแหล่ง
    เขาคิดอยากจะลองหางานอะไรสักอย่างทำ
    งานธรรมดาทั่วๆไป เช่น พนักงานเสิร์ฟ หรือล้างจานในร้านอาหาร


    แต่ก็นั่นแหละ เขาแค่  " คิด "








    ดวงตาสีเปลือกสนกวาดมองอย่างเลื่อนลอย
    ก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อเห็นป้ายประกาศสีเข้มที่แปะอยู่บนประตูไม้สีขาว







    'รับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์ 1 ตำแหน่ง ด่วน'











    เลียมคิดว่าเท้าของเขาก้าวไปก่อนที่สมองจะสั่งการเสียอีก
    ประสาทตื่นตัวด้วยความตื่นเต้นกับโอกาสตรงหน้า













    กระดิ่งส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งยามถูกประตูไม้กระทบ


    คาเฟ่ขนาดกลาง ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล-ขาว 
    เมื่อมองไปยังผนัง ก็พบกับวอลเปเปอร์สีน้ำตาลอ่อน จนเกือบจะเป็นสีครีม
    ลายนกตัวเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม และดอกแอสเตอร์สีชมพูอ่อน ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น








    เจ้าของร้านจัดได้ว่ามีรสนิยมที่ดีพอตัว








    เลียมนึกประหลาดใจหน่อยๆ กับความรีบร้อนของชายวัยกลางคน
    เพราะเพียงแค่ยื่นบัตรประชาชนให้ งานก็ตกอยู่ในมือเขาทันที







    ด่วนสมคำคุยจริงๆ... 








    _________________________







    เมื่อวันแรกของการทำงานมาถึง
    ชายหนุ่มคิดว่าจะตื่นตั้งแต่เช้า จะได้มีเวลาเตรียมตัว



    แต่ในความเป็นจริง เขา้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็จะเข้าคลาสสายตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก





    หัวสมองตื้อไปหมด
    ลำดับความคิดเบลอราวกับภาพที่กระโดดออกจากฟิล์มภาพยนตร์เก่าๆ
    ไอเดียที่ดีที่สุด(เท่าที่คิดได้)ใตอนนี้คือ รีบอาบน้ำ และย้ายก้นให้ถึงโรงเรียนโดยเร็ว








    เข็มนาฬิกากระดิกผ่านไปอย่างเชื่องช้า 
    หนึ่งนาทีที่ผ่านพ้น ช่างยาวนานราวกับหนึ่งชั่วโมง





    รู้สึกราวกับโดนห้วงเวลาหนักๆกดทับจนแทบหายใจไม่ออก
    มันเป็นบรรยากาศแปลกๆ เลียมรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป













    บางสิ่ง กำลังมา...













    'กริ๊งงงงงงงงงงงง' 














    เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 4 โมงเย็น
    เสียงออดก็ดังก้องทั่วบริเวณโรงเรียน


    เลียมกวาดหนังสือเรียนใส่กระเป๋า
    ก้าวเท้าออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว







    _______________________ 







    สิ่งที่เขาสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้านคือร่างเล็กๆ ผมบลอนด์

    ดวงตากลมโตมองผ่านออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับกำลังรอคอยใครบางคน
    ไร้ซึ่งความสนใจในอาหารตรงหน้า






    เลียมนึกอยากจะไปนั่งข้างๆ
    เขาคิดว่าใบหน้าหวานๆแบบนั้นเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา









    มันอาจฟังดูแปลกๆ
    แต่ร่างสูงมีความรู้สึกคุ้นเคยคนตรงหน้าอย่างประหลาด









    บรรยากาศราวกับบ้านที่จากไปนาน








    แต่ความคิดทุกอย่างก็ต้องหยุดลงเมื่อเจ้าของร้านเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่น













    นั่นคือครั้งแรกที่เขาได้พบกับไนออล ....












    __________________









    สองสามสัปดาห์ให้หลังเลียมยังคงไม่โดนไล่ออกอย่างที่ผ่านๆมา


    เขาตื่นตั้งแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว ปั่นจักรยานไปโรงเรียน และทำงานพาร์ทไทม์ที่คาเฟ่
    กิจกรรมทุกอย่างดูเหมือนปกติ 









    เหมือนปกติ.....
    แสดงว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติ 











    ใช่แล้ว... สิ่งที่แปลกไปก็คือ ทุกๆ 6 โมงเย็น หรือช้ากว่านั้นนิดหน่อย
    เลียมจะคอยป้วนเปี้ยนบริเวณเคาท์เตอร์หน้าร้าน 
    เพื่อรอลูกค้าเจ้าประจำ












    โต๊ะ 4 มุมในสุด ...





















    ยิ่งเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า
    ความรู้สึกของเลียมยิ่งแจ่มชัดขึ้นทุกขณะ





    ชายหนุ่มอยากรู้เรื่องราวของคนตรงหน้า
    ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกคือ อยากรู้จัก 















    และวันนี้ คือวันที่เขาจะขอทำในสิ่งที่ใจเรียกร้อง

    เลียมนั่งลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม
    สบตากันโดยบังเอิญขณะที่วงหน้าหวานละความสนใจจากหน้าต่าง






    คิ้วสีเข้มกระตุกขึ้นเพราะความสงสัย
    ปกติแล้ว แค่มองก็ยังกลัวว่าจะโดนจับได้เลย

    แต่ทำไมวันนี้กลับกล้าหาญชาญชัยจนน่ากลัว 











    "เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ?"


    เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆ ติดสำเนียงไอริชนิดหน่อย
    เลียมคิดว่าเสียงแบบนี้หวานไปสำหรับผู้ชาย









    คนผมบลอนด์ทำให้เขาใจสั่นด้วยประโยคคำถามสั้นๆ.... 
    ดวงตาสีฟ้าใสก็ทำให้เพ้อ  ราวกับสติจะหลุดลอย ...












    "อ่า.. อื้ม ทำไมนายมานั่งตรงนี้คนเดียวทุกวันล่ะ?"





    ร่างบางตอบสนองด้วยการกระพริบตา มีท่าทีประหลาดใจ ราวกับเลียมเพิ่งพ่นสูตรฟิสิกส์ใส่หน้า
    ไหล่บางสั่นนิดหน่อย ขณะที่คนผมบลอนด์หลบตา








    "เพราะไม่มีใครมานั่งด้วยนะสิ"






    เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเรียบๆ หากดวงตากลับฉายแววเจ็บปวด
    แต่เพียงชั่วครู่ก็หายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น









    "แล้วนายอยากให้มีคนมานั่งเป็นเพื่อนมั้ยล่ะ?"








    "ยังไงก็ได้"




    ไนออลยักไหล่ แสดงท่าทีไม่ใส่ใจกับคำถาม
    แต่เลียมแอบเห็นประกายสดใสในดวงตา









    'เอ... พอลองดูดีๆแล้ว ขนตายาวเป็นแพเลยนี่นา' 










    ร่างสูงพยักหน้าให้กับคำตอบที่ฟังดูแสนจะเย็นชา 
    ก่อนจะลุกออกไป













    นับจากวันนี้....
    โต๊ะ 4 ก็ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป









    ทุกๆวัน เมื่อถึงช่วงพัก เลียมจะนั่งคุยกับไนออลเสมอ
    บางครั้งก็คุยถึงครอบครัวของเลียม, เรื่องโรงเรียนที่แสนจะน่าเบื่อ เต็มไปด้วยวิจัยมากมาย

    แต่บทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่หาสาระไม่ค่อยได้เสียมากกว่า








    ร่องรอยแห่งความสุขที่เคยเหือดหายไป ได้กลับมาเติมเต็มบนใบหน้าหวานอีกครั้ง
    เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่ผิด ไนออลน่ะ เหมาะกับรอยยิ้มเป็นที่สุด







    ทุกวันนี้ การพูดคุยกับไนออลในช่วงพัก คือทุกสิ่งที่เลียมปรารถนา










    ______________________













    หยาดฝนตกกระทบพื้นดังเปาะแปะ 
    บางส่วนไหลแนบกับกระจกใส







    วันนี้ก็เหมือนวันก่อนๆ
    บทสนทนาเรียบง่าย สอดแทรกมุกตลกเรียกเสียงหัวเราะ








    เลียมรู้สึกมาสักพักแล้วว่าไนออลมักจะแอบมอง และดูเศร้าสร้อยเสมอ  ในขณะที่คิดว่าเขาไม่ได้มองอยู่
    ดวงตากลมโตฉายชัดถึงความมืดหม่น ราวกับกำลังนึกถึงเรื่องในอดีต











    ร่างสูงตัดสินใจมองตาคนผมบลอนด์ตรงๆ
    ก่อนที่ไนออลจะเสตามองไปยังที่ห่างไกล กลบเกลื่อนความรู้สึกภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม






    "นายโอเคมั้ย?"






    ชายหนุ่มถามขึ้น ทั้งๆที่ยังเคี้ยวแซนวิชหมุบหมับ
    ร่างเล็กพยักหน้าเบาๆ










    "ฉันแค่ เอ่อ... นายดูเหมือนคนที่ฉันเคยรู้จักน่ะ" 









    ไนออลเอ่ยตอบเสียงค่อย
    มือเรียวเลื่อนไปลูบสายนาฬิกาเล่น










    "จริงอ่ะ? แล้วเหมือนใคร?"









    คนตัวสูงยักคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
    กัดแซนวิชคำสุดท้ายเข้าปาก








    ชายหนุ่มชาวไอริชสั่นศีรษะช้าๆ
    รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าจางหายไปราวกับภาพวาดบนผืนทรายที่โดนคลื่นซัดสาด











    "เขา.... ตายไปนานแล้วล่ะ นายไม่รู้จักหรอก" 














    ไนออลเอ่ยอย่างอ่อนโยน คล้ายกับกำลังปลอบใจตนเอง
    เลียมหลุดเสียงอุทาน 'โอ๊ะ' ออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มลงสนใจกับจานเปล่าๆตรงหน้า








    เขาคิดว่าความรู้สึกของไนออลคงมืดหม่นไม่ต่างจากสายฝนที่โปรยปราย......












    ทั้งคู่ฝังเรื่องนี้ลงลึกในก้นบึ้งของหัวใจ และไม่เคยพูดถึงอีกเลย 












    __________________










    เวลาทุกนาทีที่ผ่านไป นำพาให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแน่นแฟ้นขึ้น

    เลียมรู้ว่าไนออลชอบสีฟ้า เล่นกีตาร์้เก่ง แต่นิ้วกลับเนียนนุ่ม
    ผิดวิสัยของนักดนตรีทั่วไป ที่ปลายนิ้วมักด้าน และหยาบ เนื่องจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก

    เขาชอบรอยยิ้มสดใสของคนตัวเล็ก











    เมื่อไนออลยิ้ม ราวกับโลกทั้งใบพร้อมใจกันหยุึดนิ่ง ทุกอย่างพร่ามัวเหมือนภาพถ่ายจากกล้องคุณภาพต่ำ
    คนผมบลอนด์เท่านั้นที่แจ่มชัด
















    ให้ตายสิ.... เลียมไม่อยากจะยอมรับเลยว่าเขามองไม่เห็นอะไรเลย


    นอกจากไนออล ....










    ยามที่มือของทั้งคู่สัมผัสกัน
    คนตัวสูงรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆที่ไหลไปทั่วร่าง
    หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอก













    นี่เหรอคือความรัก? 












    _______________________













    แสงอาทิตย์อุ่นสาดกระทบร่างของทั้งสอง เงาสีดำบิดเบี้ยวปรากฏจางๆบนพื้นไม้
    บทสนทนาไร้สาระยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ




    เส้นผมสีบลอนด์สะบัดเล็กน้อยยามไนออลขยับกาย







    "ไนออล... "









    ดวงตาสีฟ้าสดมองหน้าเลียมตรงๆ
    รอคอยประโยคที่สมบูรณ์











    "ฉันชอบนาย ฉันชอบนายมากๆ และที่สำคัญนะ ฉันโคตรชอบตัวเองเวลาอยู่กับนาย
    เอ่อ... คือ แบบว่า ไปเดทกันมั้ย?"








    วินาทีนี้ เลียมรู้สึกราวกับมีไอร้อนๆพวยพุ่งออกมาจากลำคอ
    ลามไปถึงใบหน้า หัวใจเต้นรัวขณะรอฟังคำตอบ




    .
    .



    .



    .





    .













    "คงไม่ได้หรอก เสียใจด้วยนะ"












    ใบหน้าหวานฉาบไปด้วยรอยยิ้มอันหม่นหมอง ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
    เลียมไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ





    เขาชอบไนออล และเขาก็มั่นใจเต็มร้อยว่าคนตรงหน้ารู้สึกไม่ต่างกัน
    แล้วทำไมล่ะ? ทำไม...











    "อย่าเศร้าสิเลียม วันนี้ไม่ได้ ก็ลองวันต่อไปสิ"












    หลังจากวันนั้น เลียมไม่เคยละความพยายาม
    เขาจะเอ่ยประโยคเดิมซ้ำๆ และไนออลก็ปฏิเสธซ้ำๆเช่นกัน
    แม้จะโดนปฏิเสธ แค่ความคิดที่จะถอดใจไม่เคยอยู่ในหัวของเขาเลยแม้แต่น้อย











    วันนี้ก็เช่นกัน 



    "ไนออล ไปเดทกันมั้ย"









    ปกติแล้วศีรษะเล็กจะสั่นเบาๆแสดงการปฏิเสธ
    แต่หัวใจเลียมเกือบเกือบหยุดเต้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของร่างบาง






    ไนออลพยักหน้าช้าๆ
    น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุขใจ








    "เอาสิ"











    สาบานเลย ว่าเขามีความสุขที่สุดในโลก









    หนังรักโรแมนติกชวนเลี่ยน ตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ เลียมไม่เคยคิดอยากจะมาดู
    ยกเว้นวันนี้






    ทั้งคู่เลือกพบกันที่โรงภาพยนตร์ขนาดกลางเพื่อดูหนังรอบดึก หลังเลียมเลิกงาน
    โรงหนังเกือบจะว่างเปล่า ให้ความรู้สึกดีเล็กๆ เหมือนกับว่าเหมานี้เพื่อเราสอง












    แอร์เย็นๆกระทบผิว ไนออลตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความหนาว
    แต่เพียงแค่เลียมเอื้มมือมาเกาะกุม ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
















    ภาพยนตร์จบไปแล้ว
    ทั้งคู่เดินจับมือกันกลับบ้าน




    วงหน้าเนียนยามต้องแสงจากโคมไฟข้างทางดูอ่อนโยน และเปราะบาง ราวกับจะสลายไปได้ทุกเมื่อ
    หัวใจสองดวงสื่อถึงกันได้โดยผ่านความอบอุ่นที่มือ











    ถึงหน้าบ้านของไนออลแล้ว
    เขาก้มลงมองคนตัวเล็กด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรัก







    ปราศจากการคิดซ้ำสอง
    เลียมกดริมฝีปากลงไปทันที


















    อุ่นเหลือเกิน....


















    ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากของคนด้านล่างช้าๆ
    ก่อนจะเข้าเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นอ่อนนุ่ม










    เลียมผละกายออกอย่างเสียดาย เมื่อไนออลทุบที่อกเขารัวๆ
    คนตัวเล็กหอบหายใจหนักๆ เขาไม่ได้จูบแบบนี้มานานแล้ว











    นานมากจริงๆ..... 












    "ไนออล เราเพิ่งจะรู้จักกันแค่ 3 เดือน ฉันรู้ว่ามันคงจะเร็วไป และฉันก็รู้ว่าไม่ควรรู้สึกแบบนี้ แต่...
    ฉันแน่ใจว่า  ฉันรักนาย  รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน"













    ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา
    ก่อนที่ไนออลจะปาดออกลวกๆ













    "ฉันก็รักนาย เลียม ฉันรักนายมากนะ"













    ร่างบางโผเข้าโอบกอดเลียม ซุกใบหน้าลงกับไหล่กว้าง 
    หยาดน้ำตาร้อนๆไหลเรื่อยลงตามแก้มขาว ซึมลงในเสื้อของเลียมจนชุ่ม

    ไนออลจดจำทุกความอบอุ่น สูดกลิ่นอายของคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย












    ไม่อยากทำแบบนี้เลย
    ไม่อยากปล่อยเลียมไป













    แต่รู้ดีว่าจำเป็นต้องทำ......















    ไนออลผละกายออกไปอย่างเชื่องช้า
    น้ำตาเลอะทั่วใบหน้า

    แต่รอยยิ้มอบอุ่นกลับฉายชัด







    "เข้าบ้านเถอะ ฉันไม่อยากให้พ่อแม่นายเป็นห่วงนะ"







    ชายหนุ่มบอกลา
    จุมพิตหน้าผากลาด




    มือหนาซุกลงในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ต
    มองดูคนผมบลอนด์เดินจากไป









    "ลาก่อนนะเลียม"










    น้ำเสียงหวานเอ่ยคำลา
    ความเจ็บปวดกรีดลงลึกราวกับคมมีด








    ลาก่อน  หัวใจของฉัน..... 










    "อื้ม เจอกันพรุ่งนี้นะ!!"

















    มันไม่มีพรุ่งนี้สำหรับฉันอีกแล้ว เลียม..... 












    ความในใจช่างแผ่วเบา
    จางหายไปกับสายลมยามค่ำคืน







    _____________________







    หลังจากคืนนั้น ชีวิตของเลียมก็สดใสขึ้น
    ความสุขแทรกอยู่ในทุกอณูอากาศ








    เขารีบไปทำงานอย่างรวดเร็ว
    รอคอยเวลาพักอย่างใจจดใจจ่อ











    แต่ทุกสิ่งกลับต่างจากเดิม

    ที่นั่งว่างเปล่า
    ไร้ซึ่งเงาของไนออล









    เลียมคิดว่าวันนี้ร่างเล็กอาจติดธุระบางอย่าง
    ชายหนุ่มรอคอยด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง









    แต่จนแล้วจนรอด ไนออลก็ยังไม่มา









    'เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า? ไนออลจะเป็นอะไรมั้ย?'








    ความคิดของเขาหลุดลอยไปไกลแสนไกล
    นาทีนี้เรื่องงานไม่สำคัญแล้ว









    ชายหนุ่มรับออเดอร์อย่างรวดเร็ว
    รีบทำงาน จะได้เสร็จๆไป








     
    ' ได้โปรดเถอะ เวลา.... เดินเร็วกว่านี้หน่อยเถอะ' 









    เหมือนเจ้าของร้านจะจับสังเกตได้
    ชายผมสีดอกเลาอนุญาติให้เลียมกลับก่อน
    แต่ว่าพรุ่งนี้ต้องมาทำงานเร็วขึ้น 30 นาที









    เขาไม่ได้อ่อนต่อโลกจนไม่รู้ว่านี่คืออาการตกหลุมรัก











    เลียมเอ่ยขอบคุณ และขอโทษสำหรับการลางาน

    ขายาวเหยียบคันเร่งจนสุด
    มุ่งหน้าไปยังบ้านของไนออล












    จะมีประโยชน์อะไร ถ้าใจไปก่อนตัว..... 












    เส้นผมสีน้ำตาลเปียกชุมไปด้วยเหงื่อ
    มือสั่นเล็กน้อยขณะกดกริ่ง










    'บางทีไนออลอาจไม่สบาย ไม่สิเขาต้องไม่เป็นอะไร แค่ปวดหัวเท่านั้น'










    ประตูถูกเปิดออก
    ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวคนหนึ่ง
    สีหน้าหล่อนฉายแววประหลาดใจ









    "เอ่อ สวัสดีครับ ผมมาหาไนออล เขาอยู่หรือเปล่า?"










    ตอนนี้หล่อนไม่ได้ประหลาดใจอย่างเดียวแล้วล่ะ
    เพราะหล่อนกำลังคิดว่าเลียมคงบ้า หรือไม่ก็เมา











    "ไนออล... ไนออล ฮอแรน?"











    เลียมพยักหน้า
    มองคู่สนทนาด้วยใจที่เปี่ยมได้วยความหวัง








    หญิงสาวส่ายศีรษะด้วยท่าทีหม่นหมอง
    ก้มหน้ามองพื้นไม้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม









    "นี่พ่อหนุ่ม ฉันไม่อยากจะทำร้ายจิตใจเธอนะ แต่... ไนออลน่ะ
    เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขา.... ตายไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว"











    โลกทั้งใบแทบจะล้มครืนลงตรงหน้า
    ไม่จริง โกหก






    "หะ 50 ปี?"










    "ถูกแล้ว หนุ่มน้อย ไนออลเขาโดนรถชนพร้อมกับแฟนหนุ่มขณะกำลังกลับจากเดทแรก หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร
    ไอ้พวกขี้เมานั่นทำลายทุกอย่าง ระยำสิ้นดี






    แล้วก็นะ..... เมื่อคืนนี้คือวันครบรอบวันตาย"






    หญิงสาวหลุบตาลงต่ำ
    เธอไม่สามารถมองใบหน้าของเลียมได้อีกต่อไป









    "ทำไมกัน ไม่เข้าใจเลย ทำไมคุณถึงมีนัยน์ตานั่น เส้นผมสีน้ำตาล ทำไมถึงเหมือนแฟนของไนออลขนาดนี้"






    ไหล่บางคู้ลงต่ำ พยายามกลั้นเสียงสะอิ้น



    "ขอโทษนะ แต่ได้โปรดไปเถอะ"








    เธอขอโทษเสียงค่อย ถอยกลับเข้าไปในตัวบ้าน มือเล็กเต็มไปด้วยริ้วรอยตามกาลเวลาปิดประตูเบาๆ
    มองดูเลียมเดินจากไปผ่านทางหน้าต่างห้องนั่งเล่น












    ทุกอย่างพร่าเลือน ราวกับกระจกขึ้นฝ้าเพราะไอน้ำ
    ไอน้ำจากหัวใจที่สับสน











    ไนออลตายไปแล้วตั้ง 50 ปี  แล้ว
    ตายไปพร้อมกับคนที่หน้าตาเหมือนเขาอย่างกับฝาแผด










    นี่เขาไปเดทกับ... วิญญาณ?

    ทุกอย่างปะติดปะต่อกันราวกับจิ๊กซอว์ที่ขาดหาย
    เข้าใจแล้ว ทุกอย่างเลย








    ไนออลแค่อยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคนรัก 
    และคน คนนั้นคือเลียม










    พรหมลิขิตอันชั่วร้าย เล่นตลกกับหัวใจของเขา 












    ชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะได้เจอไนออลอีกแล้ว
    ไม่มีมือเล็กๆคู่นั้นอีกแล้ว ทุกอย่าง... จบลงแล้ว








    คำบอกลาของไนออลสะท้อนก้องไปมา
    เมื่อวันวาน เขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่คำธรรมดาคำหนึ่ง








    แต่ตอนนี้ เขารู้ดี
    ความหมายของมันตรงตัว 








    ลาก่อน.... 











    คิดได้ดังนั้นหัวใจก็พลันหนักอึ้งราวกับโดนหินถ่วง
    ยามนี้เขามีรักแท้  แต่พระเจ้ากลับพรากไป













    เลียมเงยหน้ามองท้องฟ้า
    กลั้นหยาดน้ำใสที่กำลังอ่อขึ่นท่วมท้วนดวงตา







    'ฉันคิดถึงนาย'









    มือหนาซุกลงในกระเป๋า
    เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา
























    "ฉันรักนายจริงๆนะ เลียม...." 












    สายลมเย็นๆพัดกระทบใบหน้าเขาเบาๆ
    รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของไนออล












    พลันน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลรินอาบแก้ม












    "ฉันรักนาย" 

    .
    .



    .





    .










    ________________________








    #Translator Zone




    ดราม่าดีจัง TT''

    ตอนแปลเรื่องนี้กลัวมากมาย กลัวว่าจะสื่อารมณ์ได้ไม่ถึง กลัวแปลขัด กลัวมันซะทุกอย่าง 
    พยายามฟังเพลงให้มันโศกาเข้ากับบรรยากาศ - -''

    แปลแล้วก็แก้ แก้แล้วก็แปลซะหลายรอบ สุดท้ายก็ออกมาเป็นแบบนี้
    ติชมได้นะคะ ^O^



    P.S. Suicide Room : Alex X Dominik สุดยอด!!
    P.S. Judas Kiss : เรียกเลือดดีมาก โอ๊ยยยยย ให้ตายเถอะ >.,<




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×