ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Occult คำสาป ชมรมอาถรรพ์]

    ลำดับตอนที่ #5 : Ep.5 แล้วเจอกันนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      2 ก.พ. 57







     


            ท่..ที่นี่ที่ไหน? นี่เราตายแล้วหรอ?
    ทำไมรอบๆตัวถึงได้มืดมนอย่างนี้

    ณ ตอนนี้ รอบอบกายผมมีเพียงความว่างเปล่า แลดูอ้างว้าง
    เงียบเหงา ทุกสิ่งทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
    ในยามราตรีเช่นนี้ บรรยากาศหช่างนาวเย็น อุณหภูมิลดลงต่ำ
    หมอกหนาลอยฟุ้ง อบควญไปด้วยกลิ่นควันธูป


    นี่ผมตายแล้วจริงๆสินะ..
    ไม่หรอก นายยังไม่ตาย”
    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    "เสียงใครกันนะ!?"ผมร้องตะโกนถามความว่างเปล่า 

    “เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”เสียงนี้อีกแล้ว!
    เสียงมันมาจากทางไหนกันนะ? เสียงเด็กผู้หญิง!!

    "แล้วผมจะรู้ได้ยังไง?"ผมค่อยๆลุกขึ้นยืนจากที่สลบไปเมื่อกี้
    "แล้วเจอกันนะ ฮ๊าฮ่าฮ่าฮาฮา"เสียงเด็กสาวปริศณาค่อยๆลาจากไป
    ด้วยเสียงหัวเราะอย่างสะใจที่ก้องกังวาล

     

    ดั่งว่าผมกำลังฝันเพราะเมื่อเสียงนั้นหายไป
    ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผมก็เริ่มขาวขึ้นเรื่อยๆ

    จนกระทั่ง...ฟิ้ววววววววววว!!!


    .


    .


    .


    .


    ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผมเริ่มเห็นชัดขึ้น
    ลืมตาขึ้นมาผมก็พบเพียงผ้าเพดานธรรมดาที่ไม่คุ้นเคย
    “ท่... ที่นี่ที่ไหน?”ผมมองไปยังรอบตัว
    แค่บนเพดานก็เผยให้เห็นเลยว่าไม่ใช่
    ที่เดียวกับที่ที่ผมตื่นมาทุกวันแน่

    “ฟื้นแล้วหรอ”ผมหันไปทางต้นเสียง
    ซึ่งปรากฏร่างของชายหนุ่มที่ผมอยากเจอ
    มากที่สุดในตอนนี้
    “ฮ่.. เฮีย!!”ผมกำลังจะกระโจนเข้าไปกอดเฮีย
    แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองบาดเจ็บอยู่

    “อ่.. โอ้ย!”เฮียรีบประคองตัวผมไว้
    แล้วจัดวางหมอนให้อยู่ในแนวตั้ง
    เพื่อเป็นเบาะพิงหลังให้ผมนั่งสบายขึ้น
    “เบาๆสิ แกเจ็บอยู่นะ”พี่เค้กพูดด้วยสายตาเป็นห่วง
    “คือผม...เอิ่อ..ที่นี่....”ผมกำลังคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่คิดยังไงมันก็คิดไม่ออกแฮ้ะ

    “โรงพยาบาล...”ทันทีที่พี่เค้กพูดขึ้นปุ๊ป!
    ก็เหมือนกับว่าภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง
    กำลังค่อยๆแว๊บเข้ามาในหัวผมเป็นฉากๆ

    “ฮ่...เฮีย! ผมเจอ! ผมโดน! ผมโดนผีหลอก!!!
    ชายผู้เป็นพี่ปลอบน้องชายผู้เสียขวัญด้วยความรัก

    “อืม... เฮียรู้..”เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่ใช้มือลูบหัวเพื่อปลอบขวัญน้องชาย
    “เฮียรู้?”เด็กหนุ่มผู้เป็นน้องย้อนถามด้วยความสงสัย
    พรางปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินออกจากหน้า

    “อืม...”เฮียตอบด้วยสีหน้าโศกเศร้า
    อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เฮียรู้จริงๆด้วย

    “ได้ไงอ่ะ! ผมไม่เข้าใจ..
    เฮียเล่ามาให้หมดเลยนะ”ผมพยายามเค้นคำถามจากคนตรงหน้า

    “อ่าวฟื้นแล้วหรอมึง”เสียงไอ่แม็คดังขึ้นมา
    ตามด้วยกับเอิร์ธที่เปิดประตูเดินเข้ามา
    เป็นคนสุดท้าย
    “พี่เค้กสวัสดีครับ”แม็คกับเอิร์ธรู้จักพี่ผมตอนไหนเนี้ย!?

    “ไว้ถึงบ้านพี่จะเล่าให้ฟังละกัน”พี่เค้กกระซิบที่ข้างหูผม
    ก่อนจะหลีกทางให้เพื่อนผมเฝ้าไข้บ้าง...

    “ตามสบายนะ เดี๋ยวพี่ออกไปคุยโทรศัพท์ก่อน”
    ว่าแล้วเฮียแกก็เดินออกจากห้องไป

    “เฮ้ยเป็นไงบ้างวะมึง!!?”แม็คเริ่มประเด็นถามก่อน
    “ก็...เจ็บแผลอยู่ว่ะ แต่ค่อยยังชั่วแล้วล้ะ”
    ผมตอบพลางมองไปที่แผลในแต่ละจุดทั่วร่างกาย

    “เออ แล้วไอ่ดรีมล่ะ?”ผมถามหาสมาชิกที่ขาดหายไปคนนึง
    ไม่ได้มาด้วยกัน รึว่า!
    “มันยังเสียขวัญอยู่เลยว่ะ อาการน่าเป็นห่วง”แม็คตอบ
    “เออ แล้วเรื่องมันเป็นไงมาไงว๊ะ”แม็คถาม
    ผมจึกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังเท่าที่จำความได้
    “โห...หลอนสัสๆ แต่ก็ดีแล้วที่มึงยังรอดมาได้”
    แม็คพูดพลางเอามือลูบแขน
    “แม่งขนกูลุกสัสๆ มึงรู้ไหมว่าพวกกูเจออะไรบ้าง”แม็คถาม
    “เออ ไหนมึงลองเล่าให้กูฟังดิ๊”ผมเงียบตั้งใจฟัง
    ขณะที่ในห้องอบอวนไปด้วยความเครียด

    “ก็ตอนนั้นอ่ะ ที่กูแยกจากมึงกับดรีมไป
    ก็เพราะกูคิดว่าถ้าเกิดจะให้แม็คมันไปคนเดียวนี่ก็อันตรายเกินไปไง

    กูเลยเลือกไปกับไอ่แม็คไปกันสองคนเพราะเผื่อกูจะช่วยอะไรมันได้บ้าง
    แล้วที่กูให้มึงอยู่ก็เพราะกูคิดว่ามึงฉลาดพอที่จะอยู่รอดให้ได้
    และดรีมมันคงจะสบายใจกว่า...
    ถ้าได้อยู่กับมึงที่มันสนิทที่สุดแล้ว”เอิร์ธอธิบาย

    ผมไม่แปลกใจเลย ที่เอิร์ธมันจะคิดได้ถึงขนาดนี้
    สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะของห้อง

    “แล้วพวกมึงเจอบ้างรึเปล่าวะ”ผมถามพวกมัน
    “ก็ไม่ค่อยมีอะไรนะ ก็... ได้ยินแค่เสียงคนร้องให้ช่วย
    แต่หาใครไม่เจอเลยว่ะ”แม็คพูด

    "อ๋อๆ"ผมพอจะเดาเรื่องออกล้ะ
    เอ๊ะ! พูดถึงเสียง? ร้องให้ช่วย? ทิว!!
    “เฮ้ย...แล้วไอ่ทิวล่ะ!
    ”ผมถามขึ้นด้วยความตกใจ
    “ทิวหรอ? ก็นอนอยู่ที่เต้นท์แหละ แต่ป่วยนิดหน่อย
    ไม่ใช่แบบที่มึงเจอหรอก” อ่าว =0=
    กูโดนผีหลอก?
    “เอ้อ! แล้วไอ่ดรีมล่ะ”ผมถามถึงเพื่อนอีกหนึ่งคนที่หายไป
    “อ๋อ...รายนั้นอาการหนักหน่อยว่ะ
    ร่างกายไม่เป็นไร แต่สภาพจิตใจนี่สิ ค่อนข้างแย่ว่ะ”แม็คบอก

    “เฮ้อ...แต่ก็ดีแล้วล่ะที่พวกมึงเป็นอะไรมาก”
    พอผมพูดจบเราก็คุยกันตามประสาเพื่อนทั่วไป

    แล้วหมอก็อนุญาตให้ผมกลับบ้านได้แล้วด้วย
    ก็แหม๋ =/= ผมหลับไปตั้งสี่วันถ้ายังได้อยู่ต่อนี่ก็คงโครม่าล้ะ
    “งั้นพวกกูกลับก่อนนะ พวกผมกลับก่อนนะครับพี่เค้กสวัสดีครับ”พวกเพื่อนผมกล่าวลาก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    “ม๊ารู้เรื่องแล้วนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คงบินมาถึง”เฮียพูดก่อนจะจัดเตรียมของ
    จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพี่ธันก็ขับรถมารับผมครับ เห็นบอกว่าทางผ่านพอดี


    .


    .


    .


    .


    จนกระทั่งถึงบ้านพี่แกก็ขอกลับก่อนเพราะมีธุระต่อ
    แล้วเฮียแกก็พยุงตัวผมเข้าบ้าน ด้วยความที่ว่ายังมีบาดแผลอยู่พักสัก
    เดือนกว่าๆคนกลับมาหล่อเหมือนเดิม(เอิ่ม-0-หลงตัวเอง:ไรท์)
    ตอนนี้ก็เย็นค่อนข้างมากแล้ว ในระหว่างที่เฮียกำลังทำอาหาร
    (ต้มมาม่านี่เรียกทำอยู่รึเปล่านะ=[]=?
    )
    “แล้วจะเล่าได้ยังว่าเฮียรู้เรื่องได้ยังไง?”
    ผมไม่รีรอ รีบถามคำถามที่ผมอยากรู้ที่สุดในระหว่างนั่งกินข้าว

    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่... เคยโดนมาแล้ว”
    ประโยคหลังๆเฮียพูดเบามากแต่ผมยังได้ยินอยู่

    แล้วผมก็ไม่ได้ซักถามอะไรเฮียเลย
    และแล้วเวลาก็ผ่านไปหลายวัน
    เฮียก็พักนี้รู้สึกจะดูแลผมเป็นอย่างดีเลยล่ะครับ

    ส่วนม๊าก็รีบบินกลับไป =-= เหอะๆมาอยู่ได้สักอาทิตย์กว่าๆเอง
    ก็ต้องไปอีกแล้วล่ะครับ - -
    จนผมชินแล้วแหละ
    ตามจริงผมก็อยู่กับเฮียมาแทบจะชินแล้วล่ะครับ

    ส่วนกิจกรรมลูกเสือผมผ่านครับ

    เนื่องด้วยดูจากอาการแผลที่บาดเจ็บ
    นักเรียนทั้งสายชั้นก็ไม่มีใครกล้าถามครับ

    หรือมาถามผมก็ไม่ตอบ หรือไม่ก็ตอบไปว่าตกบรรไดหกล้มไรงี้
    แต่ก็คงจะไม่มีคนเชื่อหรอกครับ เพราะส่วนนึงเขาก็รู้กันอยู่แล้ว
    ว่าโรงเรียนนี้มันมีอะไร จนทำให้กลายเป็นข่าวฮอตกันเลย
    ต่างคนก็ต่างแต่งเรื่องเล่ามาคุยกันซะสนุกปาก
    เพราะตั้งแต่วันนั้นที่ผมถูกส่งโรงพยาบาลนั้น
    ทั้งแบ้งค์ ทิว และดรีม ดูจากบุคคลเหล่านี้แล้ว

    ก็คงจะใช้เป็นนิทานหลอกเด็กได้

    แต่นี่มันคือเรื่องจริง
    และครูคงจะเกรงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

    เลยให้คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายของการจบกิจกรรม
    เช้ามาก็ทำการปิดกองจากนั้นก็ปล่อยเด็กๆกลับบ้านครับ
    อันนี้ผมรู้มาอีกทีจากไอ่แม็ค


    ซึ่งจากวันนั้นจนวันนี้เวลาก็ผ่านมาราว1-2อาทิตย์ได้แล้วครับ
    และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าอยู่โรงเรียนนี้ดึกๆค่ำๆอีกเลย
    ตอนนี้แผลอะไรก็หายจะหมดแล้ว
    เรียกได้ว่ากลับมาหล่อแถมดังอีก ฮ่าๆ
    แล้วเรื่องของผมก็กลายเป็นเรื่องเล่ากันปากต่อปาก

    ใครมาถามผมก็ไม่ตอบทั้งนั้ครับ =-=
    แหม๋...มันก็ขนลุกอยู่นะ
    เจอเข้าซะขนาดนั้นเป็นใครจะทนด้กันล่ะเฮ้อ =0=
    ซึ่งไม่แปลกเลยที่ไอ่ดรีมที่กลัวผีจะลาหยุดไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
    แต่หลังจากนั้นอาการมันก็ค่อยๆดีขึ้นจนกลับมาเป็นปกติ(?)ครับ
    เว้นแต่จะไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว
    จำเป็นจะต้องเกาะเพื่อนตลอดน่ะ ‘^^


    .


    .


    .


    .


    แล้ววันนี้ก็คือตารางของวันพฤหัส
    ซึ่งรู้ๆกันดีว่าวิชาสุดท้าของวันนี้ ก็คือวิชาชุมนุม

    ซึ่งถ้าเรียกเป็นชื่อกันตามหลักการจะเรียกเป็นชมรมนั่นแหละ
    แต่เวลาที่เขาเรียกกันแบบเป็นทางการแล้วคือวิชาชุมนุม
    ซึ่งก็เปิดเทอมมาได้จะ 5 เดือนแล้ว
    พวกเราก็มีชมรมอยู่กันหมดแล้ว

    แล้ววันนี้พวกผมเองก็คงจะเข้าชมรมทำกิจกรรมกันแล้ว
    ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่า....
    “ห๊ะ!! โดนถอน”เสียงไอ่บอยรองหัวหน้าในห้องผม
    มันถามประทานชมรมนี้ครับ

    “ใช่น่ะสิ...น้องฟังไม่ผิดหรอก”รุ่นพี่ประทานชมรมคนนึงพูด
    “ไงก็...พี่ขอให้พวกน้องๆหาชุมนุมใหม่อยู่ให้ได้เร็วๆละกันนะ
    อีกไม่กี่เดือนก็ใกล้จะสอบแล้ว เดี๋ยวจะไม่ผ่าน”รุ่นพี่อีกคนนึงพูดขึ้น

    “ทำไมล่ะครับพี่”ไอ่ดรีมถาม
    “ก็ตามกฎของโรงเรียนแล้ว ชมรมใดมีสมาชิกไม่ถึง15คน
    ก็จะถูกยุบถอนออกน่ะสิ”พี่ประทานพูด

    “อ่าว แล้วทำไมชมรมเราโดนล่ะ
    ราชชื่อสมิกก็มีเยอะออก”
    ไอ่บอยพร้อมหยิบใบรายชื่อดูรายชื่อสมาชิกในชมรม

    “ก็มีคนไปปล่อยข่าวว่าที่ห้องชมรมนี้มีผีน่ะสิ
    แล้วน้องๆเขากก็ลัวจะเป็นแบบ...น้อ!"พี่คนนึงเอามืออุดปากไว้

    "แบบน้องครีมเค้าน่ะสิ มึงจะขวางกูทำไมวะ
    บอกไปน่ะดีแล้ว”พี่คนเดิมพูดก่อนจะมองมาทางผม

    "สรุปเรื่องนี้เป็นเพราะเพวกรางั้นหรอ?"ดรีมถาม
    "ไม่ใช่หรอกดรีม แต่ตอนนี้สมาชิกคนอื่นๆ
    เขาก็ค่อยๆทยอยกันออกหมดแล้ว
    ตอนนี้สมาชิกก็เหลือแค่นิดเดียวทางการเลยสั่งยุบชุมนุมน่ะ"

    “ยังไงพวกน้องก็หาชุมนุมใหม่อยู่กันให้ได้ก็แล้วกันนะ
    เดี๋ยวพี่จะลองไปถามทางผู้ใหญ่เค้าให้ว่ายังเหลือชุมนุมไหนว่าง”

    พี่แกบอกกับสมาชิกที่เหลือกันประมาณไม่ถึงสิบ
    “กูว่ามันไม่ใช่ความบงเอิญนะ มึงอย่าโทษตัวเอง”
    เอิร์ธมากระซิบที่ข้างหูผมก่อนจะกลับเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง

    ไม่ใช่เรื่องบังเอิญงั้นหรอ?
    แล้วเรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับผีนั่นมั๊ยนะ!!?
    บรึ๋ยยยย T^T ขนลุก!
    แล้วเจอกันนะจู่ๆผมก็นึกถึงความฝันประหลาดเมื่อวันนั้น
    จะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอีกมั๊ยนะ :/


    .


    .


    .


    .


    .



    .


    .



    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .



    .


    .



    .


    .


    .

    .


    .


    .


    .


    .


    .


     


    .


    .


    .


    .


    .



    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


     


    .


    .


    .


    .


    .



    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .



    .




     


     













    [ไรท์เตอร์พูดคุย] : 55 จบอย่างสวย
    >< ไรท์ไม่ค่อยว่างอ่ะ
    ช่วงนี้ต้องติว O-Net นี่ก็พักเสาร์อาทิตย์
    พรุ่งนี้ไรท์ก็ต้องติวต่ออีก3วันแล้วก็สอบ
    เฮ้อ...ชีวิตจะจบมอสามนี่มันวุ่นจริงๆ ^^
    แต่ก็มีความสุขนะ ไรท์ขอเก็บเกี่ยวความทรงจำ
    ขอเวลาไรท์หน่อยนะ ปัญหาชีวิตเริ่มผ่อนลงแล้ว
    ตอนนี้ไรท์เครียดเรื่องปัญหาการเรียนมากกว่า
    แต่ก็นะ ไรท์ก็ไม่ได้ทิ้งนิยายนะครับ
    ดูจากยอดการอัพเดทแล้วเนี้ย
    รู้เสือกว่าไรท์จะอัพสักสองตอนต่อเดือน
    งั้นก็เอาตามนี้ครับ นี้ก็เดือนกุมภาแล้ว
    วันแห่งความรักเย้ 55 ขอให้รีดเดอร์ทุกคน
    มีแต่ความรักดีๆเข้ามาในชีวิตนะครับ ^^
    ก็เดี๋ยวว่างอีกวันไหนไรท์จะมาต่อให้ครับ
    เรื่องเริ่มมันส์แล้ว รับรองว่ายาวกว่าเรื่องก่อน
    (ถึงจะขี้เกียจแต่งแนวนี้แล้วก็เถอะ ฮ่าๆ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×