ตอนที่ 9 : My Brother พี่ครับเป็นเมียผมเถอะ 7 : เพื่อน
-07-
“ จุนฮง ” เสียงใสร้องเรียกชื่อของลูกชายด้วยอาการร่าเริงทำให้เด็กน้อยที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ที่ห้องรับแขกเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“ ว่าไงฮะ...แม่ ” เสียงขานตอบรับพร้อมกับร้อยยิ้มที่แสนน่ารักน่าชังขอเด็กน้อยวัยเยาว์ทำให้ผู้เป็นแม่อดยิ้มไม่ได้จึงเดินเข้ามาโผกอดลูกน้อยด้วยความรักแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
“ วันนี้ลูกจะมีเพื่อนเล่นแล้วนะ ” ผู้เป็นแม่ยิ้มจนตาหยีส่งให้ลูกชายที่นั่งทำตาโตมองอย่างอึ้งๆ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก็มีแต่คนในบ้านหรือแม่เท่านั้นที่เข้ามาเล่นด้วยเสมอในเวลาที่เขาเหงา แต่วันนี้มันไม่ใช่ วันนี้มันเป็นวันพิเศษที่เขาจะได้อยู่กับคนที่เขาต้องการ.... ‘เพื่อน’ ในยามเหงา...
“ จริงหรอฮะ! ไม่ได้โกหกผมนะ ” เด็กน้อยยืนขึ้น มือเล็กคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่เอาไว้ก่อนจะบีบฝ่ามือให้แน่นขึ้นอีก ผู้เป็นแม่ลอบยิ้มก่อนที่จะมอบความอบอุ่นผ่านปรอยผมบนหัวส่งตรงให้ลูกชายโดยการค่อยๆ วางฝ่ามือลงบนศีรษะเล็กแล้วลูบอย่างเอ็นดู
“ ใช้แล้ว... เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของจุนฮงเองนะ ”
“ จริงหรอ! จริงๆ นะ ” มือเล็กขยุ้มเข้ากับเสื้อตัวใหญ่ของคนตรงข้าม มีเพียงน้ำเสียงหัวเราะคิกคักเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ผู้เป็นแม่ยังคงยิ้ม ดวงตากลมมนจ้องมองแววตาเล็กที่สั่นระริกต้องการคำตอบ ต้องการความจริงเท่านั้น
“ อายุก็ไล่เลี่ยกันเลยนะ แต่เพียงแค่เขาเป็นพี่ของจุนฮงก็เท่านั้น ” ดวงตาดวงน้อยได้แต่เบิกโพรงทุกสิ่งที่แม่พูดเป็นความจริงเสียทั้งสิ้น สวรรค์ช่างแสนดีที่จะทำให้ชีวิตแสนเหงาของเขากลับมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นไปอีก
รองเท้าคัตชูเล็กสีดำได้ก้าวเข้ามาภายในตัวบ้านที่ใหญ่โตมโหฬาร ท่าทางหยิ่งทะนงของเด็กชายตัวน้อยที่มีสายตาคมจ้องมองข้ารับใช้บริวานในบ้านอย่างไม่พอใจ เท้าเล็กย่ำตรงดิ่งเข้าไปในตัวบ้าน รองเท้าที่เลอะเทอะจากสิ่งสกปรกข้างนอกทำให้หัวหน้าแม่บ้านเดินเข้ามาทัก
“ เอ่อ..คุณหนู..กรุณาถอดร้องเท้าด้วยค่ะ ” หล่อนพูดทำให้คนตัวเล็กหันหน้ามามองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แถมยังเดินกระทืบเท้าเข้ามาใกล้พลางหัวเราเยาะใส่หน้า
“ ฮ่าฮ่า..ทำไม อยากโดนไล่ออกรึไง! ” น้ำเสียงในตอนแรกดูร่าเริงแต่พอถัดมาจากนี้เริ่มขึ้นเสียงใส่ตะคอกเข้าไปอย่างจังทำให้หล่อนตกใจเอามือแนบกับหน้าอกของตัวเอง สายตาของหล่อนที่จ้องมองร่างเล็กนั้นบ่งบอกว่าทำไมเด็กตัวน้อยๆ ช่างไร้มารยาทสิ้นดี
“ มองหน้าทำไม ถอดสิ่! ถอดให้ฉัน ” คนตัวเล็กยืนเท้าสะเอวมองด้วยสายตาค้อนๆ ก่อนที่จะยื่นเท้าให้คนตรงหน้าถอด อยากให้ถอดดีนักก็เลยจะให้ถอดมันเอาเองตรงนี้นี่แหละ!
แม่บ้านถอนหายใจ หล่อนจึงย่อตัวลงเตรียมจะคว้ามือไปถอดรองเท้าให้เด็กน้อยที่ใส่ชุดเอี๊ยมน่ารัก ผิดกับหน้าตาที่บึ้งตึง เขาเป็นเด็กคงจะมีอารมณ์ที่แปรปรวนง่ายไม่น้อย สภาวะจากคนรอบข้างคงกดดันหรือไม่ก็ทำอะไรให้ไม่พอใจ ถึงได้ทำหน้าตาเหมือนไม่ได้เข้าห้องน้ำมาหลายวัน ปลายนิ้วถูกแตะสัมผัสกับผิวรองเท้า ไม่ทันไรเท้าเล็กกลับเปลี่ยนมาเหยียบหลังมือหล่อนอย่างจัง น้ำหนักตัวทั้งหมดถูกส่งโอนมาที่เท้าอย่างเต็มที่ ความเจ็บถูกส่งโอนจากปลายนิ้วสู่หลังมือไหลไปเรื่อยจนมาถึงสมองสั่งการให้เจ็บปวด เด็กน้อยมองใบหน้าที่ทรมานความเจ็บปวดของแม่บ้าน หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง เหงื่อเม็ดเล็ดเริ่มผุดออกมา ทำไมนะ ทำไมไม่ยอมร้องโอดครวญล่ะ ทำไม!
รองเท้าเริ่มบดเบียดเสียดสีให้ทรมานเล่น คนตัวเล็กได้แต่ยิ้มร่า ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะอ้าปากพูด
“ อุ้ย! ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ ” เด็กน้อยยกเท้าออกทันทีเหมือนแม่บ้านเช่นกันเธอรีบชักมือที่สั่นเทาและเป็นรอยแดง ปากได้แต่เป่าลมใส่หวังว่ามันคงจะผ่อนคลายความเจ็บไปบ้าง แต่ก่อนที่หล่อนจะอ้าปากอบรมสั่งสอนในฐานะแม่บ้านกับพี่เลี้ยงเด็กในบ้านหลังนี้ ก็ได้มีนายของบ้านมาขัดจังหวะเสียก่อน หล่อนจึงได้โอกาสที่จะเปิดปากบอกว่าเด็กคนนี้เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้มาทำท่าทาโอหังใส่ แต่ท่าทีของนายกลับไม่ใช่ เขาเดินตรงไปยังเด็กน้อยด้วยอาการดีอกดีใจจนออกนอกหน้า
“ คิม ฮิมชาน อาคิดถึงหลานเหลือเกิน ” คำพูดที่นายได้พูดออกไปสร้างความประหลาดใจไม่น้อย นี่หรอ? คือหลานแท้ๆ ที่อยู่อเมริกามาตั้งแต่เมื่ออายุหนึ่งขวบ ตอนนี้กลายเป็นเด็กเย่อหยิ่งยโสไปเสียแล้ว
แต่ก่อนเธอก็เคยอุ้มเลี้ยงเอาไว้คุณหนูฮิมชานที่น่ารักกำลังเดินเตอะแตะ ผิวขาวเนียนสวยเหมือนสำลี มีฟันน้ำนมอยู่ไม่กี่ซี่แต่ก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้คนรอยข้างได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักก็ถูกจับตัวไปอยู่ที่อเมริกาไม่คิดว่าจะมาที่นี่อีก แต่ตอนนี้..กลับไม่ใช่คุณหนูคิม ฮิมชานที่อ่อนต่อโลกอีกแล้ว เขาร้ายกาจ แข็งกร้าว จนเธอรู้สึกกลัว
หล่อนเอามือข้างขวาของตัวเองกุมกับมือที่เจ็บปวดจากการโดนเหยียบก่อนที่จะก้มหัวคิดเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาของเด็กคนนี้ทีหล่อนเคยเจอ ผู้เป็นนายได้โอบอุ้มหลานรักไว้ในอ้อมกอดอย่างรักใคร่ เป็นความรักที่มีมากกว่าลูกชายตัวเองเสียด้วยซ้ำ ในสายตาของหล่อนเอง
“ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? อาคิดถึงใจจะขาด ” ไม่วายที่จะกดริมฝีปากลงกับแก้มอ่อนนุ่มของคนผิวขาวเนียน คนตัวเล็กได้แต่หลับตาก่อนที่จะหัวเราะออกมา
“ อาครับ..แม่บอกว่าผมมาที่นี่อยู่ได้สามเดือนฮะ แล้วได้ข่าวว่าคุณอามีน้องให้ผมแล้วหรอฮะ? ” ดวงตากลมมนสบตาเข้ากับผู้เป็นอาเพื่อเค้นคำตอบ เขาหัวเราะชอบใจก่อนที่จะวางเจ้าตัวเล็กลง แล้วเอามือลูบหัวปรอยๆ
“ อยู่ในห้องนั่งเล่นนู่น ไปหาสิ่ ” ผู้เป็นอานิ้วชี้ไปทางห้องกลางของบ้าน เด็กน้อยที่เคยชินกับบ้านหลังนี้มามากแล้วก็วิ่งตรงดิ่งเข้าไปอย่างดีอกดีใจเลยทีเดียว
“ จุนฮง พี่จะไปหานายเอง J ”
โรงพยาบาลใจกลางเมืองที่มีผู้คนเดินเข้าออกกันให้ขวักไขว่ ตามทางเดินถึงแม้ว่าแม่บ้านจะเช็ดไปแล้วแต่ทุกๆ นาที มันก็เกิดรอยเปื้อนขึ้นได้ คนที่เดินเข้าออกไม่ขาดสาย บางอย่างก็มีผู้ป่วยหนักฉุกเฉินมาเป็นระยะ เพราะช่วงนี้การจราจรติดขัดจึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง
หมอยองแจก็เช่นกัน มีคนไข้ให้ตรวจไม่ว่างเว้น เขาเดินไปเดินมาวกวนแถวนั้น ถึงแม้ว่าจะพึ่งเข้าโรงพยาบาลมาใหม่แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าหมอคนนี้ยุ่งเอาเรื่อง เดินออกจากห้องฉุกเฉินไม่พอยังเดินไปตรวจร่างกายคนไข้ พอตรวจเสร็จก็ต้องเดินเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้งเพราะคนไข้เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
“ หมอคะ ป้าคนนั้นขอตรวจด่วนเลยค่ะ หน้าป้าแกซีดแล้ว ” พยาบาลชี้นิ้วไปยังป้าแก่ ที่ตอนนี้นั่งถือยาดมรอคิวตรวจร่างกาย หล่อนหายจหอยถี่แล้วหน้าซีด หมอยองแจได้แต่ลอบถอนหายใจแล้วปากเหงื่อเม็ดเล็กออกจากใบหน้า ไม่รู้เพราะอะไรทำไมเหงื่อถึงออกขนาดนี้ทั้งๆ ที่โรงพยาบาลก็เปิดแอร์แล้วแท้ๆ
“ ได้ๆ แต่ต้องรอแปป หมอขอไปเคลียคิวให้ว่างทันทีนะ ส่วนป้าคนนั้นไม่ต้องให้รอคิวแล้ว ไปฝากหมอคนอื่นก่อน ” หมอยองแจที่ตอนนี้กำลังนั่งวัดความดันให้คนไข้อยู่ มืออีกข้างก็จับปากกาจดบางอย่างลงในเอกสารของคนไข้ก่อนที่จะถอดปลอดแขนแล้วบอกทาง เขาทำอย่างนี้เรื่อยๆ มาตลอดทั้งวันแล้ว ช่วงนี้พยาบาลขอลาหยุดบ่อยเกินไปรึป่าว? ทำไมรู้สึกเหนื่อยแค่คนเดียว
“ หมอคะ ทางนี้ค่ะ คนไข้ด่วน ”
“ หมอคะ มาทางนี้หน่อยคะ ”
“ หมอยองแจ ช่วยทีคะ ”
“ หมอ! ”
“ หมอ!! ”
“ ว้าย! / กรี๊ด! ” เสียงกรีดร้องตกใจของพยาบาลกับเหล่าคนไข้แถวนั้นกับท่าทางของหมอทันทีที่ยองแจเริ่มสับสนกับคำเรียกหรือขอร้องต่างๆ จากพยาบาลหลายคนทำให้เริ่มมึนหัวทันที ร่างกายเริ่มอ่อนแรง ทุกอย่างจู่ๆ ก็หมุนไปรอบหัวรู้สึกตาลายและมืดมนทันที อะไรกัน...จะมาเป็นลมตอนนี้ไม่ได้นะ คนไข้รอนายอยู่นะ ยองแจ...ยองแจ..
ร่างบางของคนเป็นหมอได้ล้มพับอยู่ตรงนั้นตามด้วยความแตกตื่นของเหล่าพยาบาลหลายๆ คน ชายร่างสูงที่พึ่งมาเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น รีบวิ่งตรงดิ่งเข้าไปช่วยหอบร่างนั้นพยุงไปที่ห้องพักทันทีอย่างไม่รอช้า
ผ่านไปหลายนาทีที่ดูนานพอสมควรที่ยองแจได้สลบไป ดวงตาเริ่มปรือมองสิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวของโรงพยาบาลพร้อมกับเหล่านางพยาบาลที่ยืนมองด้วยความดีใจที่เจ้าตัวฟื้นแล้ว ต่างกรูเข้ามาหาทันที
“ หมอฟื้นแล้ว ตกใจแทบตายนึกว่าหมอเป็นอะไร ”
“ หมอ! กรี๊ด! หมอยองแจจริงๆ ด้วย! หมอฟื้นแล้ว ”
“ หมอพวกเราขอโทษที่เรียกหมอทำนู่นทำนี่ ขอโทษนะหมอ ”
พวกเธอต่างก้มหัวโค้งขอโทษยองแจทันที หมอที่พึ่งตื่นและสับสนก็ได้แต่ยกยิ้มให้ก่อนที่จะบอกให้พวกเธอไปทำงานไม่ต้องเป็นห่วงเขา พวกเธอก็ต่างยกยิ้มให้กำลังใจก่อนที่จะแยกย้ายออกไปทิ้งให้ยองแจอยู่ในห้องผู้ป่วยคนเดียว แต่มันไม่ใช่น่ะสิ... เขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลับมีใครอีกคนนั่งถือนิตยาสารเอาบังหน้าเอาไว้ทำให้ไม่ได้เห็นโคลงหน้า หน้าตา
“ ฟื้นแล้วหรอ? ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก ทำให้เขาสะดุ้งโหยงก่อนที่ตะตอบกลับไปอย่างเก้ๆ กังๆ
“ อ่ะ..เออ..อืม.. ” ในหัวได้แต่ครุ่นคิดอะไรหลายอย่าง ว่าคนข้างหน้าที่เขามองนี่ดูคุ้นเหลือเกิน จะชายงกุกรึป่าว? หรือว่าไม่ใช่....
“ บอกว่าอย่าหักโหมไงยองแจ... ” ยังไม่พอ รู้จักชื่อเขาด้วย ต้องใช่ยงกุกแน่ๆ ยองแจแอบลอบยิ้ม ทำไมมันรู้สึกดีอย่างนี้นะ รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก..
แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิด มือหนาที่จับนิตยาสารบังหน้าเอาไว้ตอนนี้ได้เอาลงวางบนตัก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อที่แสนคุ้นเคย..
“ แดฮยอน!! ” ยองแจรู้สึกอึ้งทันทีที่พบเห็นหน้า
“ สวัสดียองแจ...หมอคนเก่ง ” รอยยิ้มผุดขึ้นจากใบหน้าคนตัวสูง ยองแจรีบลุกลงจากเตียงไปหาแดฮยอนทันที แต่ไม่รู้ทำไมขามันไร้เรี่ยวแรงทำให้ร่างเล็กเผลอล้มโชคดีที่แดฮยอนเข้ามาช่วยไว้ทัน ทำให้ใบหน้าเล็กซุกลงกับอกแกร่ง
“ บอกว่าอย่าหักโหมไง ดื้อจังนะยองแจ ” แดฮยอนพยุงตัวยองแจให้นั่งลงกับเตียงก่อนที่จะยื่นมือมาวางทาบแก้มเนียนใสของคนตัวเล็ก เป็นสัมผัสที่คิดถึง แก้มที่เนียนนุ่มที่ไม่ได้จับต้องมาตั้งนาน คิดถึงเป็นบ้า...
มือเล็กวางทับลงกับมือใหญ่ที่วางทาบบนใบหน้าตัวเองก่อนจะส่งยิ้มทักทายตามประสา...เพื่อน
“ ว่าไงคุณหมอหมา.. ” ยองแจแอบหัวเราะเล็กน้อยกับคำพูดของตัวเอง ตั้งแต่ที่จบมหาลัยเขาก็ได้ข่าวว่าแดฮยอนสอบชิงทุนไปเรียนต่อเป็นสัตวแพยท์อยู่ที่ประเทศอเมริกา ไม่คิดว่าหลังจากที่ผ่านมาหลายปีจะได้มาเจอเขาอีก
“ ไม่ใช่หมอหมาเว้ย! เขาเรียกหมอสุนัข ” คนตัวสูงแก้คำพูดทันที ก่อนที่จะใช้มือหยิบลงเข้ากับแก้มเนียนใสจนเจาตัวร้องโอดครวญ
“ โอ้ย! เจ็บนะแดฮยอน ” ยองแจหน้าบึ้งตึงหลังจากที่แดฮยอนเอามือออก เขาปล่อยหัวเราะใหญ่ ก่อนที่จะปรับสีหน้าพูดขอโทษ
“ ขอโทษนะยองแจ นายมันยังน่ารักไม่เปลี่ยน ”
“ ชอบล่ะสิ่ ” ยองแจยิ้มกรุ่มกริ่มกับคำพูดล้อเล่นของตัวเอง แต่มันทำให้คนฟังตัวแข็งทันที ใช่! ชอบ ชอบมากด้วย ชอบมานานแล้ว...ชอบนายตั้งแต่แรกเห็น แต่ไม่มีโอกาสบอกนายก็เท่านั้นเพราะนายบอกเสมอว่า...เรายังคงเป็นเพื่อนกันตลอดไป
สายตาของแดฮยอนทอดมองอย่างไร้จุดหมาย คนตัวสูงเหม่อลอยก่อนที่จะถูกมือเล็กโบกผ่านใบหน้าของเขา
“ แดฮยอน..เป็นอะไร ” เสียงใสบอกด้วยความเป็นห่วง เรียกสติของเขาให้กลับมา
“ อ่ะ เอ่อ..นายน่ารักขึ้นนะ ” แดฮยอนยกยิ้มทันที คนตัวเล็กได้แต่เขินอาย ก่อนที่จะฟาดฝ่ามือลงบนไหล่อย่างแรง
เพียะ!
“ โอ้ย! ทำอะไรของนายเนี่ย ยองแจ! ” แดฮยอนสะดุ้งโหยงเอามือลูบไหล่ตัวเองทันที คนตัวเล็กได้แต่หัวเราะร่าชอบใจ
“ นายก็หล่อเหมือนกันนะแดฮยอน มีแฟนแล้วแน่เลย.. ” เพื่อนสนิทเอ่ยปากแซวเจ้าตัวทันที แฟนหรอ...ตั้งแต่เจอนายฉันไม่เคยมีใครเลยนะ จนตอนนี้ฉันยังมั่นคงอยู่ที่เดิม..
“ ว่าไง แสดงว่านับไม่ถ้วนล่ะสิ แล้วนายเอาฉันไว้ที่ไหนเนี่ย ไอ้ดำ! ” ยองแจที่ยังขี้เล่นเหมือนเดิมทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนที่จะผลักตัวแดฮยอนให้เซถอยหลัง ฉายาที่เขาตั้งให้คงมีแต่ยองแจคนเดียวเท่านั้นที่เรียกได้ ถ้าเป็นคนอื่นซัดหน้าหงายหลังไปแล้ว...
“ บ้าหรอไง ฉันมีนายคนเดียวนี่นายองแจอา.. ” แดฮยอนเดินเข้ามาเอาหน้าซุกลงกับแก้มเนียนใสอย่างหมั่นเขี้ยว มือเล็กได้แต่ดันตัวเขาให้ออกห่าง แต่ก็ไม่ไหวเพราะตรงนั้นเป็นจุดอ่อนที่ถูกโดนเมื่อไหร่เป็นต้องจี้
“ ฮ่าๆๆ แดฮยอนปล่อยนะ โตแล้ว! ” ยองแจหลับตาปี๋เอียงคอหนีทันที เสียงหัวเราคิกคักเหมือนเด็กทำให้เขาอยากแกล้งมากยิ่งขึ้น แดฮยอนคิดถึงนี่นา...ไม่ได้แกล้งแบบนี้มาหลายปี การแกล้งแบบนี้เท่านั้นที่จะสามารถแทะโลมนายได้ ขอแกล้งต่ออีกหน่อยนะยู ยองแจ..
ริมฝีปากเรียวได้เม้มเข้ากับซอกคอสวย แต่ก็ต้องชักกลับทันทีเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา
“ ยงกุก? ” เสียงใสเริ่มสั่นทันที มือเล็กรีบผลักตัวแดฮยอนออกอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะยกยิ้มให้ชายตรงหน้าที่ถือช่อดอกไม้สีแดงมาให้เขาตามเคย
“ สวัสดีหมอยองแจ... ” เสียงใหญ่กับสายตาที่แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ไม่เป็นมิตร เขามองตรงไปยังแดฮยอนทันที รู้สึกไปพอใจยังยังงั้น..
คนตัวเล็กเริ่มก้มหน้าครุ่นคิด..ยงกุกจะเห็นรึป่าว? เขาคงไม่โกรธอะไรใช่ไหม? บ้าจริง! ทำไมต้องกลัวขนาดนั้นล่ะยองแจ..นายกับเขาแค่รู้จักกัน..ไม่นานมานี้ คนตัวเล็กเสยผมที่ปรกหน้าเขาขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มอีกครั้ง
“ วันนี้สีแดงหรอ ขอบจ.. ” ไม่ทันจะพูดจบประโยคยงกุกก็เดินตรงเข้ามาวางดอกไม้ไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที ทิ้งให้ยองแจที่สีหน้าเริ่มกังวลอยู่กับแดฮยอน
“ เป็นอะไรหรอ? ยองแจ.. ” แดฮยอนมีท่าทีเป็นห่วงคนตัวเล็กที่จู่ๆ อารมณ์ก็เปลี่ยนทันที แววตาที่เศร้าหมองผิดกับตอนก่อนที่จะมียงกุกมาเสียงด้วยซ้ำ อะไรกัน..เมื่อกี้ตอนอยู่ยังดีๆ อยู่เลย มือหนาเอื้อมจะไปจับไหล่ของคนตัวเล็ก แต่ร่างบางกลับทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ทันที ก่อนจะพูดเสียงเบา
“ ขอเราอยู่คนเดียวเหอะ เริ่มรู้สึกมึนหัวน่ะแดฮยอน ” มีเพียงเท่านี้ที่ยองแจจะพูด ต่อจากนั้นก็ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมันอย่างดีเลยทีเดียว แดฮยอนไม่รู้จะทำยังไงจึงเดินออกจากห้องไปทิ้งให้คนตัวเล็กมีโลกส่วนตัวอยู่กับความเงียบภายในห้อง
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ตั้งแต่หมอนั่นเข้ามา ยองแจกลับเปลี่ยนไป.. ทำไมรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้นะแดฮยอน รึว่านายจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม... นายจะแพ้ความรักที่นายมีแต่ยองแจอย่างงั้นหรอ? แล้วความพยายามทั้งหมดของนายจะสูญเปล่านะ
จะยอมให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขาทำให้ยองแจแปรเปลี่ยนไม่ได้เด็ดขาด!
TBC
อะไรกัน...มาอัพแล้วนะ ฮรือ.. ; _ ; ขอโทษที่หายไปนานนะ...
วันนี้มาลงตอนของยองแจจ้า เชื่อว่าคู่นี้ก็น่ารักยิ่งกว่าโล่ออบอีกนะ #ไหนว่ะฉากกุ๊กกิ๊ก?
แต่ เอ๊ะ! แดฮยอนมาจากไหนอ่ะ -___- พ่อหมอหมาของเรา? #โดนตีน
เดี๋ยวจะลงเรื่อยๆ แน่นอนจ้า
ใครที่ยังไม่เปิดเทอมก็ขออวยพรให้โชคดีว่าวันเปิดจะไม่โดนระเบิดบึ้มซะก่อน
การบ้านตรึมแน่นอน 5555555 เหมือนไรท์ไง ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คู่จิ้นว้ายยยยย -////-
แด้แจ ฟินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หรือว่าบังแด้ ตกลงเป็นแด้แจเหรอ
ยุให้บังเดินหน้าลุยต่อไป
เฮ้ยยยยย หมอหมา >< นี่หอมแก้มแจหรอ เอาอีกๆๆๆๆๆๆ ฮ่าาา แดแจน่ารักกกก >//<
พี่บังโกรธแน่เลยยยย T[]T เอ้ะ! บังแดแจ? 555555555555 รอพาร์ทต่อไป มาต่อไวๆนะตะเอง
- เค้ายังไม่เปิดเืทอม เฮ้~ แต่เค้ายังไม่พร้อมเลยยยย จะเปิดวันที่16 นี้แล้วอ่า TT{}TT
มาอัพต่อไวๆน่ะไรท์ รอติดตามอยู่ >< ไฟท์ติ้ง
PS. แง่ววววว -__________-;;