ตอนที่ 8 : My Brother พี่ครับเป็นเมียผมเถอะ 6 : ความสับสน
-06-
กริ๊ง!
เสียงเปิดประตูของร้านขนมเค้ก เพื่อบ่งบอกว่าลูกค้ากำลังเข้ามาเพื่อซื้อของในร้านหรือนั่งพักผ่อน รับประทานขนมหรืออาหารที่ทางร้านบริการให้พิเศษ
“ ยินดีต้อนรับครับ ” คนตัวสูงที่ยืนอยู่หน้าเคาว์เตอร์ก้มหัวให้กับลูกค้าก่อนที่พนักงานสาวอย่าง ซอง จีอึน จะเดินเข้าไปหาลูกค้าแล้วพาไปหาที่นั่ง
วันนี้ผมก็มีทำงานตามให้ปกติเช่นเคย เริ่มชาชินกับงานที่ไอ่หน้าหมีมอบหมายให้ทำ ทุกวันมันจะเข้าไปหาที่คอนโดจงออบแล้วก็ใช้เท้าอันแสนสวย (?) ถีบผมลงจากโซฟาแล้วลากคอเสื้อผมเหวี่ยงเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกปากสั่งให้รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ทั้งๆ ที่ผมพึ่งตื่น
ทุกวันนี้เริ่มชิน ผมได้แผลพกช้ำมาตลอดเลย - - ไม่เป็นไรถ้ามันแลกกับบางอย่างได้อ่ะนะ?..
‘ จุนฮงไปโดนอะไรมาทำไมแขนช้ำเขียวแบบนี้ ’ คนตัวเล็กเดินตรงดิ่งมาหาผมในตอนที่ผมพึ่งเลิกงานกลับบ้านมากับไอ่หน้าหมี
‘ สำออยของมันไปเรื่อย อย่าไปสนใจมันเลย ’ คนตัวใหญ่เดินเข้ามาแล้วโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้องใส่ใจอะไรกับคนตัวสูง คนตัวเล็กย่นหน้าก่อนที่จะจับแขนที่มีรอยช้ำของอีกฝ่าย แล้วค่อยๆกดนิ้วลงไปอย่างช้าๆ ทำให้คนตัวสูงร้องทันที
‘ โอ้ย!! ’
‘ เจ็บขนาดนี้ แสดงว่าพึ่งได้รอยช้ำมาหมาดๆ เดี่ยวเอายามาทาให้นะจุนฮง ’ คนตัวเล็กรีบปล่อยมือ ส่งยิ้มให้ตามเคยก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง แล้วเดินออกมาพร้อมกล่องพยาบาล มือเล็กจับลงข้อมือของคนตัวสูงลากดึงให้มานั่งตรงโซฟา ก่อนที่ตัวเองจะลงนั่งตามไปด้วย
นิ้วเรียวยาวของคนตัวเล็กป้ายลงกับยาหม่อง ก่อนที่จะมาถูให้คนตรงข้ามอย่างเบามือ รอยยิ้มเล็กๆ เริ่มผุดออกจากใบหน้าคนตัวสูงอย่างค่อยๆ แสดงได้ถึงความสุขเล็กๆ ที่ได้นั่งมองคนตัวเล็กทำหน้าจริงจังกับรอยช้ำบนแขนของเขาขนาดนี้
ถ้าผมไม่มีรอยช้ำพวกนี้ จงออบฮยองยังจะเป็นห่วงผมแบบนี้ไหม?
คนตัวสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้สูดดมความหอมจากแก้มเนียมของคนตัวเล็ก ใบหน้าที่เริ่มขึ้นสี การกระทำของเขาหยุดลงทันทีที่รู้สึกถึงลมหายใจอ่อนๆ รดลงบนแก้ม ดวงใจดวงน้อยเต้นกระส่ำไม่เป็นจังหวะเหมือนที่มันเป็น ก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆ ยื่นใบหน้าเล็กเข้าใกล้คนตรงข้าม ก่อนที่ริมฝีปากจะค่อยๆ..
ผัวะ!
มือใหญ่แกร่งจากคนตัวใหญ่แทรกลงตรงกลางหยุดเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด ยังไม่พอมือหนาได้ทาบทามลงบนใบหน้ายาวของคนตัวสูงอย่างเต็มเหนี่ยว ดันให้ห่างจากใบหน้าที่เขาหึงหวงก่อนจะกัดฟันยิ้มส่งให้ไป
‘ คิด – จะ – ทำ – อะ – ไร - หรอ? จุน - ฮง! ’ เสียงต่ำใหญ่และคำพูดได้เล็ดลอดออกจากฟันเรียงสวยโชว์เหงือกพูดชัดถ้อยชัดคำแถมยังไม่พอเน้นคำให้อีกด้วยกลัวคนตัวสูงจะไม่เข้าใจ คนตัวเล็กรีบหันหน้าหนีพร้อมกับก้มหน้าลงก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกล่องยา
‘ เอ่อ...เค้าเอากล่องยาไปเก็บนะ มีอะไรคุยกันตามสบายเลยนะพี่ยงกุกกับ...จุนฮง ’ ประโยคแรกเขาพูดกับพี่ใหญ่อย่างยงกุก แต่ชื่อลงท้ายประโยคหลังเขาพูดได้อย่างแผ่วเบาเหมือนจะอวยพรให้คนที่ชื่อจุนฮงโชคดี
อึก!
ซวยแล้วไง..จุนฮง
เสียงกลืนน้ำลายของคนตัวสูงกับการสั่นเทาของร่างกาย ก่อนที่จะเสตามองไปทางอื่น
‘ ผมเปล่าทำอะไรเลยนะฮะ ’
‘ หรอ..แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ’ คนร่างใหญ่ยกชายเสื้อของคนตัวสูงขึ้นทำให้จุนฮงต้องยืดตัวตามไปด้วย
เอาไงดีว่ะ..ไม่ตอบก็ตาย ตอบก็ตาย
เป็นไงเป็นกัน!!! ...ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน~... ( ขอโทษค่ะพี่ตูนที่เจโล่มันหอน ไม่ได้ร้อง T/\T )
‘ ก็ฝุ่นมันเข้าตาจงออบฮยองไงฮะ ผมเลยเป่าให้.. ’
เหตุผลโครตควายเลยสัส! TT__TT ตายแน่ จบแน่ชีวิตนี้...
ไอ่หน้าหมีมันสบตาผมแล้วไล่สายตามามองแขนผมที่เป็นรอยช้ำเขียวเกิดจากอุบัติเหตุในร้าน ก่อนที่มันจะปล่อยมือให้ผมนั่งลงดีๆ แล้วมันก็ถอนหายใจ
‘ เฮ้อ...~ ’
คนที่จะต้องถอนหายใจน่ะมันผม ไม่ใช่มัน T^T
‘ แล้วไป...นึกว่าเรื่องอะไรซะอีก ’มันพูดแล้วก็เดินจากไปทิ้งให้ผมนั่งอ้าปากด้วยอาการอึ้ง
อ้าวเห้ย? บทจะดีก็ดีเหลือเชื่อ =[]=
[ PART BANG YONGGOK SAY.. ]
ตรู๊ด..ตรู๊ด.
“ ครับ..ยงกุกพูดครับ ”
( ฉันมีงานให้แกทำ )
“ บอกสถานที่มาแล้วผมจะออกไปเดี่ยวนี้ ”
( เจอกันที่ร้าน XX รีบมา ฉันต้องการให้แกเคลียให้เสร็จวันนี้! )
“ เข้าใจแล้ว จะไปเดี่ยวนี้ ”
ตรู๊ด..ตรู๊ด..
ร่างใหญ่ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงของห้อง นิ้วเรียวยาวคีบบุหรี่ออกจากปากก่อนที่จะบดขยี้ลงกับราวระเบียงของห้องหรู ร่างใหญ่กำยำเดินเข้าไปในห้องฝ่าผ้าม่านสีครีมเรียบง่ายแล้วไปหยิบเสื้อแจคเก็ตมาคลุม เขาเดินไปเปิดลิ้นชักก่อนที่จะหยิบกระบอกปืนเรียวยาวสีดำขลับออกมาโยนทิ้งลงบนเตียงแสนนุ่มที่ปูไปด้วยผ้าปูที่นอนสีดำตัดดับสีของห้องที่เป็นโทนสีขาว เขานั่งลงข้างๆ กระบอกปืนก่อนที่จะหยิบมันมาอีกครั้งแล้วใช้ผ้าสะอาดค่อยๆ เช็ดถูมันอย่างเอ็นดู
“ ฉันน่าจะเลิกทำงานนี้ซะที ” เขาพูด สายตาจ้องมองสิ่งของที่อยู่ในมือก่อนที่จะจัดการเก็บมันเข้าไปในเสื้อแจคเก็ตแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องนอน เดินตรงดิ่งออกไปจากในห้องรับแขกโทนสีขาวแต่ตัดกับจิตใจของเจ้าของห้องที่เป็น
...สีดำ...
เท้ายาวเหยียบเร่งความเร็วของรถให้เต็มเหนี่ยว ล้อรถหมุนเร็วยิ่งขึ้นทำให้ไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว เขาจอดมันเทียบท่าข้างทางก่อนจะลงมาปิดประตูสวมแว่นสีชาแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ตกแต่งไปด้วยโทนสีคราม เรียบง่าย เขามองหาบุคคลที่เรียกตัวเขาและจ้างวานให้มาทำงาน ชายที่ใส่ชุดสูทสีเทาโบกมือให้เขาเห็นเรียกให้รีบมานั่งทันที
ยงกุกสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างไว เมื่อก้นของเขาทาบเข้ากับเก้าอี้ ชายคนนั้นก็ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลมาให้ก่อนที่จะจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ยงกุกหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะฉีกขอบแล้วล้วงเอาเอกสารออกมา จนรูปขนาดสี่นิ้วหล่นออกมาด้วย
“ เก็บไอ้นี่! วันนี้! ห้าแสนวอนฉันให้แก ” คนจ้างวานพูดพร้อมพ่นควันบุหรี่ออกมาคละคลุ้ง ยงกุกมองสบตาเขาก่อนที่จะหยิบรูปที่หล่นขึ้นมาดู
“ มันเป็นใคร ทำไมค่าหัวมันแพงจัง ” เขาถามเสียงเรียบ
“ นักค้ายาน่ะ ชื่อหว๋าง เป็นชายชาวจีน ไอ่หมอนี่มันปล่อยยา แต่มันดันเบี้ยวเงินกู้ของฉัน ”
“ สงสัยท่าจะสี่ห้าเดือนที่มันค้างล่ะสิ่ ”
“ ดอกบานเป็นล้านแต่เ-สื-อ-กไม่มีปัญญาจ่าย ว่ะฮ่าฮ่า! ” ชายผู้จ้างวานหัวเราะชอบใจก่อนที่จะทุบโต๊ะสียงดัง จนแขกในร้านหันมามอง เขาโบกมือให้เป็นเชิงว่าไม่มีอะไร ก่อนที่จะกระแอมในลำคอแล้วมองสบตายงกุก
“ ตอนนี้มันอยู่โรงแรม XX ชั้น 5 ห้อง 449C ”
“ รอข่าวก็แล้วกัน ”
“ แล้วจะโอนตังให้นะแจ๊ะ! จี๋บี๋! ” ชายผู้จ้างงานพูดแล้วหัวเราะร่า ยงกุกลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเอกสารออกไป เขากลับไปขึ้นรถคันงามของตัวเองอีกครั้ง โยนเอกสารทิ้งที่เบาะคนนั่งข้างคนขับก่อนที่จะเหยียบไปหาเป้าหมายทันที
โรงแรม XX
ยงกุกเดินออกมาจากรถของเขาทันที ขายาวสาวตรงดิ่งไปที่ลิฟก่อนจะกด 5 ยืนรอจนกว่าประตูลิฟจะเปิดเมื่อถึงที่หมาย เขาเดินออกมาจากลิฟทันทีที่ถึงชั้นที่เขาต้องการ เดินตรงดิ่งสำรวจมองหมายเลขห้อง สายตาคมเหลือบไปมองเห็นเลขที่เขาต้องการทันที ก่อนที่จะเงี่ยหูฟัง
..449C
“ อึก..อ๊า...อ๊า..เสี่ยขา แรงๆ กว่านี้ ”
“ นี่เสียโด๊ฟม้าคึกตะลึงตึงตังแล้วนะ อึก..อ๊า ”
“ อ๊างงง กรี๊ด!! เสี่ย เอาแรงอีกนะคะ อ่า...”
“ อ่า...อ่า... ซี๊ด... ”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!! อ่า... พาหนูไปขึ้นสวรรค์กินน้ำแข็งใสที ”
“ เดี๋ยวเสี่ยจะพาน้องขึ้นตุ๊กตุ๊กไปเอง อึก..อ่า.. ”
“ อ่า เสื่อขาจะเสร็จแล้ว... ”
“ ใกล้แล้วจ่ะ อึก....อ่า อ่า.. ”
ทำนองรักแสบทรวงสะท้านดังเข้าในในรูหู ยงกุกไม่รอช้าก่อนเดินเข้าไปกดออด เรียกให้เจ้าของห้องมาเปิด
ออด ออด!
“ อ่า..อ่า..ใครวะ? ”
“ เสี่ยอย่าเอาค้างไว้สิค่ะ? ดันต่อค่ะ อ๊าง..อ่า... ”
“ อึก..ได้จ่ะยายี๋ เอาให้เสร็จแล้วค่อยไปเปิด อ่า... ”
ออด ออด ออด ออด!!!
“ โถ่เว้ย!กูกำลังจะขึ้นสวรรค์ไปกินก๋วยเตี๋ยวหมู ใครมากดออดว่ะ! ”
ออด ออด ออด!
เสียงกดออดรัวของยงกุกดูมีท่าทีที่จะไม่ยอมหยุดจนกว่าเจ้าของห้องจะมาเปิด
“ มาแล้วเว้ย! แม่จะซัดให้น่วม สัส! ” เจ้าของห้องบ่นโวยวาย เสียงฝีเท้าเดินตรงดิ่งเข้ามาเปิดประตูให้ยงกุกทันที ชายแก่ที่สวมผ้าคลุมอาบน้ำสีขาว เขาหรี่ตามองยงกุกเล็กน้อยก่อนจะพูด
“ ลื้อเป็นใคร มีธุระอะไรกับอั๊ว! ” มันถามยงกุกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ยงกุกได้แต่ยืนยิ้ม
“ ยิ้มเหี้ยอะไรของลื้อว่ะ ม๊าลื้อตายรึไง ”
“ แม่ผมตายไปแล้วครับ ”
“ แล้วกดออดทำไม คนกำลังได้เข้ากัน! (?) ”
“ ผมแค่จะมาบอกเสี่ยว่า...โชคดีครับ ” ไม่ทันที่ตาแก่จะได้เอ่ยปากพูดอะไรยงกุกกลับชักกระบอกปืนลั่นไกยิ่งใส่คนตรงข้ามอย่างไม่ลังเล
ปัง!
เลือดสีสดสาดนองกระจายติดข้างฝาไปทั่วรวมกับพื้นห้อง ชานแก่ที่ตาเหลือกหน้าผากมีรูโหว่อย่าเห็นได้ชัด เขาหงายหลังลงไปนอนกับพื้นแน่นิ่งทันที หญิงสาวที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งมาก่อนจะกรีดร้องด้วยความตกใจปนความกลัวอยู่บ้างไม่น้อย ดวงตากลมเล็กสั่นเทาน้ำตาไหลอาบพยายามมองหาคนฆ่าแต่กลับไม่พบเจอใคร เธอกลัวที่จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยจึงรีบวิ่งข้ามศพออกไปทันที
ยงกุกที่ยืนขนาบข้างรถคันหรูสีดำขลำของตัวเองกำลังยืนจุดสูบบุหรี่ แล้วมืออีกข้างก็ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมากดโทรหาเบอร์คุ้นเคยที่พึ่งคุยกับเมื่อไม่กี่นาทีนี้
“ งานเสร็จแล้วเตรียมโอนเงินเข้าบัญชีได้เลย ”
( โอ้..ไวดีจริง..ไม่เสียดายที่วางใจนายว่ะ )
“ อย่าพล่ามมาก แค่นี้ล่ะ ”
ตรู๊ด..ตรู๊ด
ยงกุกโยนบุหรี่ลงพื้นก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบบดขยี้จนเละเป็นจุน
“ ฆ่าง่ายกว่าที่คิดไว้ ” ยงกุกรีบเข้าไปนั่งในตัวรถก่อนที่จะขับรถตรงดิ่งที่อื่น ไปในที่ที่เขาไปประจำ ไม่ใช่ที่ไหน..โรงพยาบาล
รถคันหรูได้จอดลงที่จอดรถใต้อาคารของโรงพยาบาล ขายาวก้าวลงมาจากรถก้มหยิบช่อดอกไม้แสนสวยออกมา ใช่แล้ว! ยงกุกแวะร้านขายดอกไม้เพื่อซื้อช่อดอกไม้ช่อโต เขาปิดประตูแล้วเดินตรงดิ่งไปยังลิฟ ไม่ลังเลที่จะกดขึ้นไปชั้นผ่าตัดของคนไข้
เมื่อลิฟเปิดออกเขายังคงเดินตรงไปเรื่อยๆ ตามทางเดิน เมื่อเหล่าพยาบาลเห็นก็ต่างกล่าวคำทักทายอย่างเป็นกันเองให้แก่เขา เพราะอะไรรู้ไหม? เขามาที่นี่บ่อย บ่อยจนทุกคนต่างรู้จักเขาเป็นอย่างดี ยงกุกไปหยุดตรงหน้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ก่อนจะเดินถอยออกมาเลยหาที่นั่งรอแถวนั้น เหลือมองดูนาฬิกาเป็นระยะแล้วก็ฮัมเพลงไปเบาๆ
แอ๊ด!
เสียงประตูห้องฉุกเฉินดังขึ้นเพราะคนจากข้างในพยายามเปิดมันออกมา คนตัวเล็กที่คลุมเสื้อกราวด์สีขาวสะอาด สวมหมวกคลุมผมกับหน้ากากอนามัยปิดปากพร้อมถุงมือที่เปื้อนคราบเลือด เดินออกมาสบตากับคนร่างโต แต่ไม่ทันที่จะได้เห็นรอยยิ้มของคนที่นั่งรอเขาเกือบหลายนาที พวกญาติของคนไข้ก็ต่างตรงดิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเดือดเนื้อร้อนใจ
“ หมอคะ? ลูกดิฉันเป็นยังไงบ้างปลอดภัยรึป่าว? ” ผู้เป็นแม่จับเสื้อกราวด์ของหมอและบีบแน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่กังวลอยู่ในใจ
“ ใจเย็นๆ นะครับ อย่าจับหมอครับ แล้วเปื้อนเลือด ” หมอ.ยกมือที่สวมถุงมือเปื้อนเลือดขึ้นชูเพื่อไม่ให้ญาติต้องมีเนื้อตัวสกปรกลำตัวติดเลือดของคนไข้ ผู้เป็นแม่คลายมือที่จับเสื้อกราวด์แน่นก่อนที่จะเช็ดน้ำตาที่ยังคงไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย ผู้เป็นสามีเดินเข้ามาโอบไหล่ปลอบ
“ ตกลงเป็นยังไงบ้างครับหมอ? ”
“ หมอขอแสดงความยินดีด้วยครับ ได้ลูกผู้หญิงครับ ”
“ แล้วแม่มันล่ะหมอ! แม่มันล่ะ ” ผู้เป็นแม่ต่างร้องห่มร้องไห้ เสียงสะอึกสะอื้นกลบความเงียบทั้งหมด หมอก้มหน้าลงเล็กน้อย สายตาทอดมองไปยังพื้นกระเบื้องสีขาวของโรงพยาบาลก่อนจะถอนหายใจออกมา ทำให้ญาติผู้ป่วยกลับร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม
“ หมอ...ฮึก...หมอ... ” หล่อนกัดปากตัวเองจนเป็นรอยช้ำ สายตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา หล่อนมองหมอผ่านม่านน้ำตานั้นอย่างใจรีบร้อน ร้อนรนจนแทบจะเผาไหม้ทุกสิ่ง
“ หมอแค่อยากจะบอกว่า.... ” หมอเงยหน้าสบตาญาติของคนไข้อย่างจริงจัง หล่อนได้เพียงแค่ซบลงกับไหล่ของสามีเพื่อรอคำตอบ กลัว..กลัวคำตอบจะไม่เป็นดั่งที่คาดหวัง
“ พักสักสองสามวันก็หายครับ ญาติเชิญไปนั่งรอในห้องพิเศษของคนไข้ได้เลย ” ผู้เป็นหมอพูดยาวเหยียดจนทำให้ญาติของคนไข้ยืนอึ้งพิจารณาคำพูดที่หมอมอบให้มาแล้วก็อมยิ้ม เช็ดน้ำตาของตัวเอง
“ หมอบอกว่าอีหนูของเรารอดแล้วล่ะแม่ ” ผู้เป็นสามีกอดภรรยาไม่ยอมปล่อย หล่อนทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ข่าวที่ดีแบบนี้ทำไมต้องร้องไห้..หรือเพราะเธอร้องด้วยความดีใจ
“ หมอขอตัวก่อนนะครับ ” ผู้เป็นหมอขอปลีกตัวออกมาจากเหล่าญาติ
“ ขอบคุณค่ะหมอ ขอบคุณ ” หล่อนได้เพียงแต่กะโกนไล่หลังเขามาเท่านั้น ผู้เป็นหมอแอบลอบยิ้มภายใต้หน้ากากอนามัยที่สวมปิดบังเขาเอาไว้ ก่อนจะเดินไปหาคนร่างใหญ่ที่ยืนถือช่อดอกไม้ช่อโต แล้วยื่นตรงมายังเขา
“ ยินดีด้วยครับ หมอ.ยองแจ ” เขาระบายรอยยิ้มที่จริงใจออกมาจากข้างใน เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยมอบให้ใครนอกจากคนในครอบครัวและคนพิเศษ...
“ ขอบคุณสำหรับช่อดอกไม้นะยงกุก เดี๋ยวของตัวไปล้างคราบเลือดก่อน ” หมอ.ยองแจโบกมือแล้วเดินต่อไป ทำให้คนร่างใหญ่มองด้วยสายตาที่อ่อนโยน เขากำชับช่อดอกไม้ช่อโตอีกครั้งแล้วเดินไปที่ห้องพักของหมอเพื่อไปนั่งรอ
“ ว้าว! วันนี้ช่อดอกไม้สีม่วงเลยนะยงกุก ” เหล่าพยาบาลที่นั่งพักรับประทานอาหารก็เอ่ยแววยงกุกทันที
“ สวยใช่ไหมล่ะ? ” ยงกุกระบายยิ้มน้อยๆ มอบให้ แต่รอยยิ้มแค่นิดเดียวของเขานั้นสามารถฆ่าเหล่าพยาบาลที่ได้มองตายกันเป็นแถว
“ ชอบเอาดอกม้าให้หมอ.ยองแจต้องทุกวันนี้ต้องการให้หมอเลี้ยงข้าวรึยังไงนะ ” พยาบาลคนหนึ่งเอ่ยถามยงกุก ด้วยความสงสัย
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะ..ช่วงนี้ผมจน ” ยงกุกหัวเราะน้อยๆ
“ เปิดร้านกาแฟเนี่ยนะจน ยงกุกนี่ชอบพูดเล่นจัง ” พวกเธอต่างหัวเราะลั่น ยงกุกก้มมองดอกไม้โตในมือของเขาก่อนจะเงยหน้าแล้วพบกับคนร่างเล็กเดินตรงเข้ามาแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา
“ วันนี้สีม่วงหรอ? ” หมอ.ยองแจเอ่ยถาม
“ มันมีช่อเดียวน่ะครับ แล้วผมก็ชอบสิ่งที่มันเป็นแค่อย่างเดียวด้วย ” ยงกุกยิ้ม
“ ยงกุกซื้อให้ทุกวันเลย ไม่เบื่อบ้างหรือไง ” หมอ.ยองแจเท้าคางตัวเองแล้วยิ้มมอบให้ยงกุก
“ ถ้าซื้อให้ยองแจทุกวัน ผมไม่เบื่อหรอก.. ” คำพูดของยงกุกทำให้คนตัวเล็กหน้าเริ่มขึ้นสีทันที
“ เป็นอะไรหรอ? ไม่สบายรึป่าว? ” ยงกุกตกใจกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของยองแจ เขายื่นมือเข้าไปจับแก้มเนียนของคนตัวเล็ก ด้วยความตกใจทำให้ยองแจสะดุ้งทันที
“ เอ่อ..ขอโทษครับ... ” ยงกุกเอ่ยคำขอโทษก่อนที่จะเก็บมือของเขาวางไว้กับโต๊ะ
“ ม..ม..ไม่เป็นไร อากาศคงร้อนน่ะ ” หมอ.ยองแจยกมือขึ้นมาทำท่าพัดให้ลมเข้าใส่หน้าของตัวเอง
“ หมอคะ? นี่พวกเราเปิดแอร์ 23 เลยนะ หมอ.ยังร้อนอยู่หรอ? ” เหล่าพยาบาลต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งมาให้ยองแจและยงกุก ยองแจหันไปจ้องเขม็งทันที แต่พวกเธอกลับหัวเราะชอบใจ
“ ขอโทษค่ะหมอ? ” เมื่อพวกเธอเห็นสาตาพิฆาตส่งตรงดิ่งทันที จึงรีบกล่าวขอโทษแล้วแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
“ อย่าไปสนใจเลยยงกุก... ” ยงกุกมองหน้าคนตัวเล็ก แอบหัวเราะในใจ ทำไมเวลาเขินถึงน่ารักน่าชังขนาดนี้ แก้มขาวๆ ที่มีเลือดฝาดแดงขึ้นหน้า เหมือนกับหญิงสาวที่มีความรัก
“ งั้น ผมกลับแล้วนะครับหมอ ” ยงกุกรีบลุกขึ้นก่อนจะก้มหัวโค้งลาทุกคนที่อยู่ในห้อง แล้วเปิดประตูเดินออกไป
แต่เขาจะรู้ไหม? เขาทำให้คนตัวเล็กนั่งบีบช่อดอกไม้สีม่วงช่อโตที่เขามอบให้ ใจเต้นกระส่ำยิ่งกว่าคนพึ่งไปวิ่งมาสามสิบร้อย เลือดในร่างกายกลับสูบฉีดหล่อเลี้ยงแค่เฉพาะใบหน้าขาวให้เป็นสีชมพู ดวงตากลมโตก้มมองช่อดอกไม้แล้วลอบยิ้มออกมา...
ร่างสูงที่เดินออกไปลับตา พยายามหาเวลาว่างแอบแวบมาหาเพื่อเอาดอกไม้หรือช่อดอกไม้มาฝากแล้วก็ขอตัวกลับไป ต้องการอะไรกันแน่นะ ดอกไม้ที่แทนคำขอบคุณ.. หรืออะไรที่มากกว่าสิ่งอื่น.. ที่สามารถทำให้หัวใจดวงน้อยดวงนี้อิ่มไปด้วยความตื่นเต้นและเขินเป็นบางเวลา เป็นอาการที่ไม่เคยพบเจอจากไหน..และไม่เคยเป็นมาก่อน หรือว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ความรัก..
TBC..
กลับมาอัพปล้วจ้า ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ปมของเรื่อง -,.-
คนอ่านทั่วไปอาจจะงงไปอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไรเนอะ 5555
ไรท์จะมาคลายปมมันออกไปเอง ><
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบเฮียมันอะดิ555
ตอนนี้ฟินบังแจอ่ะ เขิน-////////-
เฮียไม่น่ามาขัดจังหวัเลยเกือบแล้ว5555555555
เฮียรับจ้างฆ่าคนอ่อ? โหดมาก-0-
หูยยย มีแต่รอยเขียวช้ำ ย๊ากกกกกก แต่ก็ดีนะ 5555555555 แต่อย่าทำบ่อยละพี่บัง เดี๋ยวโล่มันช้ำในตาย~
โอ้ยตายแล้ว ละมุนมากกกก TT//////v//////TT โล่มันหอมแก้มออบบี้หรอออ งื้ออออออออ
พี่บังงง !! ขัดจังหวะตะไม~ แล้วฝุ่นเข้าตา?? โอยยยยย ฉันเพลียยยย -________________-;;
พี่บังง ให้เขาขึ้นสวรรค์ก่อนก็ไม่ได้ ตายก่อนเลย-0- อ่าา พี่บังเอาดอกไม้มาให้หมูแจ้ด้วยยย น่ารักมิทนนน -//-
ดอกไม้สีม่วงซะด้วยยยย~ ชอบพยาบาลจัง แซวซะ 5555555555555 ตะเองมาต่อไวๆน้าา เค้ารออยู่~
แจชอบเฮียเค้าหรอ ' '