คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : _ C H A P T E R 2 5 : I want to say ... "I LOVE YOU" (100%)
“ทงเฮโอปป้า~ ฉันสองคนไปก่อนนะคะ^^” เสียงใสๆของซอลลี่เอ่ยพูดกับทงเฮหลังจากที่เธอได้เปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดธรรมดาเรียบร้อยแล้ว
“อ่า...ฮะ บ๊ายบาย^^” ทงเฮโบกมือและยิ้มให้เด็กสาวทั้งสองแล้วมองตามแผ่นหลังของเด็กสาวทั้งสองคนจนเดินออกจากห้องไป...
ตอนนี้หลายๆคนเริ่มเปลี่ยนชุดและทยอยออกจากห้องกันไปเกือบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ในห้องส่วนใหญ่จะเป็นคนแปลกหน้าที่ทงเฮไม่เคยรู้จัก หรือที่พอจะรู้จักก็เห็นจะมีเพียงสองคนคือกึนซอกและฮงกิ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนนั้นก็ยังคงยุ่งกับการจัดเก็บของและดูความเรียบร้อยอยู่
ดวงตาคู่หวานมองไปรอบๆห้องแล้วกอดไหล่ตัวเองไว้แน่น
เนื่องจากว่าเมื่อเช้าเขาดันตื่นสาย เลยต้องรีบแต่งตัวออกมาจากบ้านของฮีชอลจนลืมหยิบชุดที่จะต้องเปลี่ยนออกมาด้วย ตอนนี้ร่างเล็กจึงยังนั่งอยู่ในชุดเดิม ซึ่งเสื้อผ้ามันก็น้อยชิ้นจนทำให้ร่างเล็กรู้สึกหนาวไม่น้อย
แต่ถึงจะหนาวแค่ไหนเพียงแค่ร่างเล็กได้นึกถึงรอยยิ้มของคิบอมเมื่อครู่ก็กลับรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ใบหน้าหวาสนขึ้นสีชมพูจางๆก่อนจะแอบยิ้มออกมาอย่างเขินๆ...
“อ้าว ทงเฮอยู่นี่เอง” ทันทีที่ได้ยินเสียงร่างเล็กก็หันไปมองที่ประตูอย่างดัใจเพราะคิดว่าเป็นคิมฮีชอล แต่พอได้เห็นเข้าจริงๆว่าเป็นใครใบหน้าหวานก็ถึงกับเจื่อนลงทันที
...ชเวมินโฮ...
“ผมตามหาคุณตั้งนานแน่ะ^^” ใบหน้าหล่อพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ซึ่งทงเฮก็ทำได้เพียงยิ้มแหยๆกลับไปเหมือนทุกๆครั้ง
“แหะๆ...สวัสดีฮะ”
“ผมขอถ่ายรูปคู่กับทงเฮหน่อยสิ”
“เอ่อ..แต่” ร่างเล็กอึกอักพูดไม่ถูก ใจจริงแล้วอยากจะปฏิเสธเต็มที่ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าปฏิเสธคนไม่เป็น
ดวงตาคู่หวานมองไปรอบๆห้องอีกครั้งหวังจะพบคนที่พอช่วยตนให้พ้นออกมาจากมินโฮได้ แต่ก็ไม่พบไอ้คนที่ว่า เพราะคนที่คอยช่วยเค้าออกมาจากมินโฮทุกครั้งก็คือคิบอม...
“แค่ถ่ายรูปเอง...นะครับ^^” มินโฮพูดพร้อมส่งยิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ทงเฮราวกับว่าต้องการจะกดดัน ยิ่งเห็นร่างเล็กมีท่าทางแบบนั้นมินโฮก็ยิ่งนึกสนุก
“กะ..ก็ได้ฮะ” ถึงจะยังลังเลและไม่ไว้ในมินโฮเท่าไหร่นักแต่ร่างเล็กก็ตัดสินใจตอบตกลงไป
ทันทีที่ร่างเล็กตอบตกลงมินโฮก็น่าลงข้างๆร่างเล็กทันที มือหนาโอบไหล่เล็กไว้แล้วกระชับเข้ามาใกล้ๆตัวเองแล้วลูบไล้ไปมาอย่างจาบจ้วง
“อ๊ะ!” ร่างเล็กร้องออกมาแล้วมองหน้ามินโฮอย่างตกใจ มือเล็กพยายามแกะมือหนาออกจากไหล่ของตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล
“ตัวคุณขาวจังนะ..หอมด้วย.” มินโฮพูดพร้อมก้มลงไปคลอเคลียแถวซอกคอขาว ยิ่งเห็นร่างเล็กทำท่าดีดดิ้นแล้วทำหน้าตาผวาเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นแล้วก็ยิ่งชอบใจ
“จะ...จะทำอะไร ออกไปนะ! ฮึก..ฮือ อ” แววตาของร่างเล็กฉายแววหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนในที่สุดก็ร้องไห้ออกมา ในเวลานี้ร่างเล็กคิดถึงคิบอมเป็นที่สุด แอบหวังไว้ว่าคิบอมจะมาช่วยตนเหมือนทุกครั้ง
“นั่นแกจะทำอะไรทงเฮน่ะ= =” ร่างเล็กรีบเงยหน้ามองไปที่ประตู
แม้จะผิดหวังเล็กน้อยที่คนมาช่วยคราวนี้ไม่ใช่คิบอมแต่ก็รู้สึกดีใจมากกว่าที่อย่างน้อยก็มีคนมาช่วยไว้
ร่างเล็กอาศัยจังหวะที่มินโฮเผลอวิ่งไปหลบด้านหลังฮีชอลทันที มือเล็กกำเสื้อของฮีชอลเอาไว้แน่นพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าขอตัวเอง
“ก็แค่จะถ่ายรูป” ว่าแล้วมินโฮก็ยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ แต่ในใจก็รู้สึกโมโหฮีชอลอยู่ไม่น้อยที่ดันเข้ามาขัดจังหวะทั้งๆที่เมื่อครู่ก็ไปได้สวยแล้ว
“งั้นเอาไว้วันหลังแล้วกันนะ วันนี้ทงเฮไม่ว่าง” ว่าแล้วฮีชอลก็ทำท่าจะพาทงเฮออกจากห้องไปทันทีแต่ก็ถูกมินโฮก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“แค่รูปเดียวเสียเวลาไม่มากหรอก”
“มากหรือไม่มากก็ไม่ได้ เพราะทงเฮเค้าต้องรีบไปดูแฟนเค้าแข่งบาส^^” ฮีชอลหันมาพูดกับมินโฮแล้วยิ้มเยาะอย่างสะใจ เค้าละเกลียดจริงๆกับไอ้พวกที่ชอบมายุ่งกับคนมีเจ้าของ แม้ว่าคิบอมยังไม่ได้เป็นเจ้าของทงเฮอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ดูจากการกระทำก็รู้ได้ว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นแค่คนรู้จักกันธรรมดา
“ใช่มั้ยทงเฮ ^^”
“ใช่ใช่ ...ใช่ฮะ” ทงเฮรีบต้องแล้วพยักหน้ารัวหลายๆครั้ง
ฮีชอลเห็นทงเฮตอบออกมาโดยไม่ลังเลก็ยกยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะหันไปพูดกับมินโฮอีกครั้ง
“ชัดแล้วใช่มั้ย?? งั้นขอตัวนะชเวมินโฮ หึหึ” ฮีชอลยิ้มเยาะอย่างสะใจอีกครั้งก่อนจะเดินโอบไหล่ทงเฮออกมาโดยที่ทงเฮก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือว่ากลัวหมือนกับตอนที่มินโฮทำ...
มินโฮมองตตามทั้งสองคนที่เดินออกไปแล้วกำมือของตัวเองไว้แน่นด้วยความโกรธ...
ถ้าฉันยอมจบแค่นี้ฉันก็เป็นคนแพ้น่ะสิ...
“ตัวเล็กก....ทำไมนายไม่เปลี่ยนชุด? แล้วนายไปยอมให้ไอ้บ้านนั่นมันทำแบบนั้นได้ยังไงห้ะ- -?” ฮีชอลพาร่างเล็กไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนก่อนจะถามออกมาเป็นชุด
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าคิมคิบอมมาเห็นภาพเมื่อครู่จะเกิดอะไรขึ้น เพราะขนาดเค้ามาเห็นยังรู้สึกเดือดขึ้นมามิใช่น้อย
“ผมลืมเอาชุดมาเปลี่ยนฮะผมเลยนั่งรอฮีชอล ระหว่างนั้นมินโฮเค้าเข้ามาขอถ่ายรูปผมก็เลย...”
“พอเลยๆ...นายก็ยอมถ่ายกับเค่าง่ายๆสินะ ทำไมเป็นคนเชื่อคนง่ายแบบนี้เนี่ยยย- -*” ว่าแล้วฮีชอลก็เอามือดึงจมูกโงรั้นไปมาอย่างมันเขี้ยว ไม่รู้จะทำยังไงกับความใสซื่อของคนตรงหน้าดีแล้ว
“ก็ผมไม่รู้นี่นา (. .)”
“เอาเหอะๆ...แล้วนี่จะทำยังไงละเนี่ยเสื้อผ้าก็ไม่มีเปลี่ยน”
“ฮีชอลมีชุดพละอยู่ในล๊อกเกอร์มั้ยฮะ?”
“ฉันเพิ่งอากลับไปซักที่บ้านเมื่อวานอะ-.-“
“ง่ะ”
“นายก็อยู่ชุดนี้ไปแล้วกัน...หนาวรึเปล่า?”
“พอทนได้ ไม่เป็นไรหรอกฮะ^^”
“อ่า..งั้นนายรีบไปหาคิบอมเถอะ ใกล้แข่งแล้วมั้ง ระหว่างทางใครเรียกก็ไม่ต้องตอบล่ะ ไม่ต้องยิ้มด้วย เขาจะหาว่าหยิ่งก็ไม่ต้องแคร์- -*” ฮีชอลกำชับร่างเล็กอย่างดี เพราะกลัวว่าเดินไปคนเดียวร่างเล็กจะโดนคนหลอกไปทำอะไรอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆคิบอมคงเอาเขาตายแน่
“ยิ้มก็ไม่ได้หรอ(‘ ‘)?” ร่างเล็กว่าแล้วก็เงยหน้าถามอย่างสงสัย จะว่าไปแล้วคิบอมก็เคยพูดแบบนี้กับเขาครั้งนึงเหมือนกัน
“เออสิ...รอยยิ้มนายทำคนระทวยมานักต่อนักแล้วไม่รู้รึไง- -“
“อ่า (. /// .)”
“พอๆ ไม่ต้องเขิน รีบไปได้แล้ว...ฉันไปดูของในห้องก่อนละ”
“บ๊ายบายฮะ^^” ร่างเล็กส่งยิ้มหวานให้ฮีชอลหนึ่งครั้งก่อนจะหันหลังเดินไป จากนั้นฮีชอลก็หันหลังเดินกลับขึ้นไปบนตึก
รู้สึกอดห่วงร่างเล็กไม่ได้เหมือนกัน ขาวๆน่ารักๆแบบนั้นใครเห็นแล้วไม่ชอบไม่มองก็คงจะโง่เต็มทน และที่สำคัญ....
เมื่อกี้เพิ่งจะบอกไม่ใช่หรอวะว่าห้ามยิ้ม- -
บริเวณรอบๆสนามบาสในเวลานี้มากมายไปด้วยผู้คน ถึงแสงแดดตอนบ่ายจะร้อนแรงแค่ไหนแต่ก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการแข่งขันเลยแม้แต่น้อย...
ร่างสูงนั่งเหงื่อโทรมกายอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวของนักกีฬาหลังจากที่เมื่อครู่ได้แข่งชนะไปรอบนึงแล้ว มือทั้งสองข้างท้าววางไว้ด้านหลังก่อนจะเหล่มองไปทางเพื่อนของตนด้วยอารมณ์หน่าย
“ฮยอก ถ้าเกิดวันนี้ฉันชนะแกจะให้อะไรฉันวะ?”
“อะไรอะ? ของหรอ? ไม่มีให้หรอกนะ...แหะๆ”
“ไม่ใช่ของง รางวัลไงรางวัล...แบบที่ฉันให้แกเมื่อวานอ่ะ คึคึ -..-“
“ไอ้..ไอ้แป๊ะหื่น!! ถ้าหมายถึงของแบบนั้นละก็เลิกคิดไปได้เลย ทุเรศที่สุด -///-“
“ฮ่าๆๆ ทุเรศแล้วชอบมั้ยล่ะครับ ดูสิเนี่ย...เขินซะน่ารักเชียว กิ๊วๆ><”
“ไอ้บ้า>///<!!”
“อ้วกกกก = =” คิบอมแอบพูดเบาๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
เขานั่งมองเพื่อนสองคนพูดหยอดคำหวานใส่กันมาได้สักพักแล้ว ถึงจะแสดงออกมาว่ารู้สึกหมั่นไส้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าจริงๆแล้วเขาก็แอบอิจฉาอยู่เหมือนกัน เพราะเขาแทบไม่เคยพูดจาหวานๆกับทงเฮเลย จะพูดด้วยแต่ละครั้งส่วนใหญ่ก็ดุบ้างแหละ ตะคอกใส่บ้างแหละ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาก็อยากจะพูดดีๆหวานๆใส่ทงเฮบ้าง แต่ร่างเล็กเวลาจะทำอะไรแต่ละครั้งก็ดูใสซื่อซะจนขัดใจเขาไปเสียทุกอย่าง
“คิบอมฮะ...” ร่างเล็กที่เพิ่งมาถึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือสะกิดเข้าที่ไหล่ของคิบอม
ใบหน้าหวานใสตอนนนี้กลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ เพราะการที่ต้องมาใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเดินโชว์ให้ใครต่อใครดูมันก็ทำให้รู้สึกเขินได้ไม่น้อย โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ใกล้คิบอม...
“ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดอีกวะเนี่ย- -“ คิบอมมองคนน่ารักตรงหน้าแล้วพูดอย่างโกรธๆ
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเวลาเห็นร่างเล็กแต่งตัวน่ารักๆแบบนี้ แต่ว่าร่างเล็กยิ่งน่ารักมากเท่าไหร่มันก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกหวง ยิ่งหน้าตาน่ารักแบบนี้เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด นึกเห็นแก่ตัวอยากจะเก็บคนน่ารักนี่ไว้เชยชมเพียงคนเดียว...
“แล้วนี่จะยืนอีกนานมั้ย?”
“ก็มันไม่มีที่ให้ผมนั่งนี่นา (. .)”
คิบอมมอง่างเล็กแล้วส่ายหน้าไปมาช้าๆอย่างระอา อยากจะจัดการดุไปอีกสักรอบ แต่พอเห็นคนหน้าหวานก้มหน้างุดแถมแก้มยังเป็นสีชมพูดูน่ารักซะขนาดนั้นเห็นแล้วก็ดุไม่ลง
ร่างสูงอ้าขาของตัวเองให้กว้างออกแล้วกระเถิบตัวเองเข้าไปด้านใน มือหนาตบลงตรงช่องว่างระหว่างขาตัวเองเป็นสัญญาณบอกให้ร่างเล็กนั่งลง
“ห้ะ (‘.‘)?” ร่างเล็กเอียงคอแล้วทำหน้าตาสงสัยเล็กน้อยแต่เพียงแค่ได้เห็นสายตาดุๆที่คิบอมส่งมาให้ก็ยอมเดินเข้าไปนั่งตรงที่ที่คิบอมเว้นไว้ให้โดยดี
ร่างเล็กนั่งตัวเกร็งทันทีเมื่อได้อยู่ไกล้คิบอม ลมหายใจอุ่นๆของคิบอมที่รดต้นคออยู่ในตอนนี้มันทำเอาร่างเล็กใจสั่น ไม่รู้ว่าคิบอมแค่อยากจะแกล้งหรือว่าจงใจทำให้หวั่นไหวกันแน่
ส่วนร่างสูงเองก็ไม่รู้ว่าจะเอามือของตัวเองไปวางไว้ที่ไหนจึงใช้มันโอบกอดคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหน้าเอาไว้ เมื่อเห็นว่าร่างเล็กนั่งตัวเกร็งสั่นเป็นลูกนกแบบนี้แล้วจึงนึกอยากจะแกล้งขึ้นมา
“นั่งตัวเกร็งเชียว- -...พิงฉันก็ได้ ตัวนายไม่หนักหรอก” ร่างสูงจงใจกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูของร่างเล็ก แล้วก็ต้องแอบลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าร่างเล็กนั้นดูจะเขินและตัวเกร็งมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“ม..ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
“พิงมาเหอะน่า” ว่าแล้วร่างสูงก็โอบร่างเล็กมากอดไว้แนบตัว กลิ่นหอมอ่อนๆบวกกับผิวขาวๆทำเอาร่างสูงควบคุมตัวเองไม่ได้ จมูกโด่งเคลื่อนเข้าหาใบหน้าของร่างบางแล้วแอบสูดดมความหอมหวานจนต็มปอด
“ค..คิบอม”
“ที่หน้านายยังมีกลิ่นเครื่องสำอางค์อยู่เลย ไปล้างหน้ามายังเนี่ย- -“
“ล้างแล้วนะ”
“กลับบ้านไปเดี๋ยวล้างอีกรอบเลย ฉันไม่ชอบกลิ่นนี้- -“
“ขอโทษฮะ..ถ้าคิบอมไม่ชอบผมไปนั่งที่อื่นก็ได้(. .)” ร่างเล็กทำหน้าหงอยแล้วตัดสินใจจะลุกไปนั่งที่อื่นทันที อะไรที่ทำให้คิบอมไม่พอใจเขาก็ไม่อยากจะทำมันเท่าไหร่นัก...
“จะไปไหน- -?...นั่งตรงนี้แหละดีแล้ว” คิบอมพูดพร้อมกับรั้งเอวคนตัวเล็กไว้
ที่พูดไปคือเขาไม่ชอบกลิ่นเครื่องสำอางค์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ชอบกลิ่นของคนตัวเล็กนี่สักหน่อย...
ร่างเล็กนั่งพิงร่างสูงมาได้สักพักจนตอนนี้ริ่มหายเกร็งแล้ว แต่ว่าก็ยังคงเขินอยู่ดี เพราะว่าตอนนี้หลายๆคนก็เริ่มหันมาให้ความสนใจเขากับคิบอมมากกวาการแข่งขันบาสในสนามซะอีก
“คิบอมฮะ....ผมไปนั่งที่อื่นดีกว่า นั่งแบบนี้คนมองเต็มเลย”
“ปล่อยให้มันมองกันไปสิ นายแคร์ด้วยหรอ- -?“
“ก็ผมอายอ่ะ (‘ /// ‘)”
“แต่ฉันไม่อาย”
“คิบอมอ่า~~” เมื่อถูกคิบอมตัดบทเอาซะง่ายๆแบบนั้นร่างเล็กก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมนั่งแบบนั้นต่อไป
ใกล้เวลาแข่งขันแล้ว..
ร่างเล็กหันไปให้ความสนใจฮันคยองและฮยอกแจที่ตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังจะเถียงกันอยู่ ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ค่อยได้สนใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้เท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่ได้ดูหนังสดเมื่อวานเขาก็ดูเหมือนจะสนใจมากเป็นพิเศษ-.-
“น่า..นะ ขอหอมแก้มทีเดียวเอง ฉันจะได้มีกำลังใจไง-3-“
“บ้านแกสิ...คนเยอะแยะ อายเค้า -///-“
“ไม่มีใครสนใจมองหรอกกก”
“นั่นไง ทงเฮกับไอ้บอมก็มองอยู่ เดี๋ยวทงเฮเห็นแล้วหึงฉันขึ้นมาแกจะรับผิดชอบมั้ยฮะเกิง-.-?”
“เอ่อ...ทงเฮเค้าจะหึงมึงทำไมมิทราบครับไอ้ฮยอก= =”
“ก็ทงเฮเค้าแอบชอบชั้นอยู่นายไม่รู้หรอ -////-“
“เพ้อเจ้อละๆ ยอมให้หอมแก้มซักทีเหอะ”
“ไม่!!”
“นะ-.-“
“บอกว่าไม่!!”
“ฟอดดด ~ อิ๊อิ๊”
“ย่าห์!!!!!!...จะให้หรือไม่ให้นายก็หอมอยู่ดีแล้วนายจะขอฉันทำไมวะ- ///// -!!”
ทงเฮหันหน้ากลับมาแล้วยิ้มกับตัวเองอย่างเขินๆ บทสนทนาเมื่อครู่ถึงฮยอกแจจะดูขี้วีนไปบ้างแต่ยังไงก็ยังดูน่ารักอยู่ดี ฮันคยองก็แสดงออกว่ารักฮยอกแจซะจนคนมองต้องอิจฉา....
ร่างเล็กแอบหันไปมองหน้าคิบอม พอพบว่าคิบอมกำลังมองตัวเองอยู่เหมือนกัน ก็ตกใจจนแทบหันกลับไม่ทัน
คิบอมขำเล็กน้อยกับท่าทางโก๊ะๆเปิ่นๆแบบนั้น
เขาพอจะรู้ว่าตอนนี้ร่างเล็กกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะว่าเมื่อครู่เขาก็แอบหันไปมองไอ้เจ้าเพื่อนสองคนนั้นเหมือนกัน
ตอนนี้ใจของร่างสูงเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ อยากจะสนองความต้องการของร่างเล็ก แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นพูดว่ายังไงดี เพราะเรื่องนี้เขาก็ยังน้อยประสบการณ์นัก ถามคิมฮีชอล แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
สิ่งที่เขาควรถามมากที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็นความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น...
“เอ่อ....”
“????”
“ฉันก็ต้องการกำลังใจเหมือนกันนะ” พูดจบร่างสูงก็กดจูบเบาๆลงที่แก้มใสของร่างเล็ก ก่อนจะรีบลุกพรวดพราดออกไปทันที
ร่างเล็กมองตามร่างสูงไปอย่างงงๆ คนสมองช้าค่อยๆลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีละอย่างก่อนจะใช้มือจับแก้มของตัวเองไว้
สวบ!!!
“ปี๊ดดดดด..” ร่างสูงชู๊ตบาสลูกสุดท้ายลงไปในห่วงอย่างสวยงามก่อนที่กรรมการจะเป่านดหวีดเป็นการให้สัญญาณหมดเวลาพอดี
มือหนายกขึ้นเพื่อปาดเหงื่อบนใบหน้าของตัวเองก่อนจะเข้าไปแทคมือกับฮันคยองและเพื่อนๆในทีมให้กับชัยชนะของทีมตัวเองที่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างขาดลอย
ทงเฮและฮยอกแจที่นั่งเชียร์อยู่ข้างสนามก็แอบยิ้มแสดงความยินดีให้กับความรักของตัวเองกันทั้งคู่ แล้วก็ต้องตามมาด้วยอาการแอบหึงเมื่อได้เห็นท่าทางเท่ห์ๆที่มันดูจะเกินไปของคนรัก โดยเฉพาะฮันคยอง...
“กรี๊ด ดดด!! พี่ฮัน><”กลุ่มเด็กสาววิ่งเข้าไปหาฮันคยองซึ่งตอนนี้ได้ถอดเสื้อตัวนอกออกไปเรียบร้อยแล้ว เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวกันสวยสมเป็นชายชาตรี...ในมือของพวกเธอพร้อมไปด้วย ผ้าเช็ดหน้า ขวดน้ำ ผ้าเย็น และอุปกรณ์อีกหลายๆอย่างที่คิดว่ามันคงบรรเทาความเหนื่อยให้ร่างสูงได้
ใบหน้าหวานของฮยอกแจที่ก่อนหน้านี้ยังดูยิ้มแย้ม แต่พอได้เห็นท่าทางของร่างสูงคิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันก่อนจะเชิดปากขึ้นเล็กน้อย..
“ไอ้เชี่ยแป๊ะหื่น!ที่บ้านไม่มีเสื้อให้ใส่รึไงวะ!!!คิดว่าตัวเองหุ่นดีนักหรือไง!!!!!!” ปากบางเล็กเป็นกระจับตะโกนออกไปเกือบสุดเสียงทั้งๆที่รู้ว่าร่างสูงถูกล้อมอยู่แบบนั้นยังไงก็คงไม่มีทางที่จะได้ยินสิ่งที่เขาพูดแน่ๆ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ...
...ก็คนมันหึงนิ!!...
“เอ่อ...ผมว่าฮันเค้าก็เท่ห์ดีนิฮะฮยอกแจ”
“ไม่เห็นจะเท่ห์สักนิด! ฉันเท่ห์กว่ามันตั้งเยอะนะทงเฮ ไม่เชื่อดูนี่...” ว่าแล้วฮยอกแจก็เลิกเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้ทงเฮดูสิ่งที่เรียกว่ากล้ามท้องในความคิดของตัวเอง
แต่พอทงเฮได้เห็นก็เกือบจะกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ เพราะสิ่งที่ตัวเองได้เห็นคือหน้าท้องที่ขาวเนียนและแบนราบ ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจากของเขาไปเท่าไหร่นัก
“เอ่อ ฮะ...หิ๊หิ๊><”
“อ๊า~ ทงเฮขำทำไมอะ ทำแบบนี้มายความว่ายังไงT^T”
“ก็ฮันคยองเขาเท่ห์กว่าจริงๆนี่นา”
“ทงเฮอ่ะ!...งอนแล้วด้วย-3-“ ว่าแล้วฮยอกแจก็เชิดปากขึ้นอย่างงอนๆเหมือนทุกครั้ง
ทงเฮอมยิ้มน้อยๆกับการกระทำแบบนั้นเพราะรู้ว่าฮยอกแจคงไม่ได้คิดที่จะงอนเป็นจริงเป็นจัง
ใบหน้าหวานหันไปมองคิบอมซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้มีสภาพต่างไปจากฮันคยองเท่าไหร่นัก บรรดาสาวๆและพวกหนุ่มน้อยทั้งหลายต่างพอกันล้อมหน้าล้อมหลังแล้วยื่นของของตัวเองให้กับคิบอม
ร่างเล็กเห็นแบบนั้นก็รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที จู่ๆก็รู้สึกว่าจมูกของตัวเองเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา...
ในเมื่อคิบอมก็มีคนมาให้เลือกตั้งมากตั้งมายขนาดนี้แล้วเขาจะมาให้ความสำคัญกับเราทำไมกัน...
“ชึ...ไอ้บอมนี่มันน่าหมั่นไส้นะ เห็นมันป๊อปปูลาร์สาวๆหนุ่มๆตามติดเยอะขนาดนี้ก็เถอะ แต่ว่าฉันไม่เคยเห็นมันจะให้ความสนใจใครเป็นพิเศษเลย ไม่ใช่สิ...มันไม่เคยสนใจใครเลยต่างหาก= =”
“จริงหรอฮะ?...งั้นก็หมายความว่าคิบอมไม่เคยมีแฟน??” ร่างเล็กถามออกไปอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก
“อื้ม...รู้จักกับมันตั้งแต่อนุบาลฉันก็ยังไม่เคยเห็นเลยอ่ะนะ วันๆมันก็เอาแต่เงียบ ทำหน้าหล่อ ไม่ค่อยได้สนใจใครหรอก - -“
“ไม่สนใจใครเลย -0-“
“อื้ม..ฉันว่าถ้ามันไม่ใช่พวกตุ๊ดพวกแต๋วมันก็คงเป้นพวกความรู้สึกตายด้านอ่ะ- -“
“อา ก็คงจะอย่างงั้นล่ะมั้งฮะ...แหะๆ” ร่างเล็กพูดแล้วหัวเราะแห้งๆออกมา
ใบหน้าหวานหันไปมองคิบอมซึ่งตอนนี้ได้แต่ทำสีหน้าเรียบเฉยในขณะที่กำลังรับของจากกลุ่มคนซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับ
เท่าที่ทงเฮพิจารณาดูแล้ว เท่าที่รู้จักกันมาคิบอมคงจะไม่ใช่พวกตุ๊ดพวกแต๋วเป็นแน่ เพราะฉะนั้นคิบอมคงจะเป็นพวกความรู้สึกตายด้านอย่างที่ฮยอกแจว่ามากกว่า
...แล้วคนความรู้สึกตายด้านเค้าจะมารู้สึกพิเศษกับเราได้ยังไง...
“ไอ้คุณฮยอกแจคร้าบบบ~ หิวจังเลยว่ะ...ไปหาอะไรกินกันเถอะ-.-“ร่างสูงเดินมาแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆฮยอกแจแล้วใข้แขนโอบคนตัวเล็กไว้แบบที่ชอบทำ
“หิวนักก็ไปกินกับพวกสาวๆเมื่อกี้สิ- -“
“อ่าว- - ...เป็นไรว๊า-.-??”
“อะไร? ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย...ก็นายตัวเหม็น เสื้อผ้าก็ไม่ใส่ไปนั่งที่อื่นเลย ชิ่วๆ-3-“ ร่างเล็กพูดเสียงห้วนๆแล้วก็หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที
ฮันคยองมองคนรักด้วยความสงสัยก่อนจะหันหน้าไปหาทงเฮแล้วส่งสายตาเป็นนัยๆไปถามว่าเจ้าตัวเล็กของเขาเป็นอะไร
ซี่งพอทงเฮเห็นก็แอบขำเล็กน้อยที่ฮันคยองดูเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลยก่อนจะกระซิบตอบเบาๆ...
“ฮยอกแจเค้าคงไม่ชอบเท่าไหร่น่ะฮะที่ฮันไปถอดเสื้อแล้วยืนยิ้มร่ากับคนอื่นแบบนั้น”
ทันทีที่ได้ฟังคำตอบจากคนน่ารักฮันคยองก็คลายความสงสัยทันที ใบหน้าหล่อคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนมือของตัวเองที่ตอนแรกโอบไหล่ไว้ลงมาโอบเอวเล็กแทน..
“นี่..”
“อะไร-.-?”
“ถึงฉันจะไปโชว์กล้ามท้องให้ใครต่อใครดู แต่คนที่ฉันอนุญาตให้จับมีแค่คนเดียวนะ..”
“ล..แล้วใครล่ะ -///-!”ร่างเล็กตอบพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสี เพราะพอจะรู้ว่าคำตอบของร่างสูงนั้นคือใคร
“แกไง^^” ฮันคยองไม่พูดเปล่า...
มือหนาจับมือเล็กเอาไว้ก่อนจะนำมาวางทาบที่กล้ามท้องของตัวเอง
“บ..บ้า-///-“ ร่างเล็กหน้าแดงไปจนถึงใบหูทันทีหลังจากที่ได้สัมผัสกล้ามท้องที่สวยได้รูปของฮันคยอง
ฮันคยองมองหน้าคนรักที่ตอนนี้กำลังเขินก่อนจะลอบยิ้มออกมา
มือหนาค่อยๆย้ายมือเล็กจากกล้ามท้องมาวางทาบที่หน้าอกด้านซ้าย ตำแหน่งหัวใจของเขาเอง เพื่อให้ร่างเล็กได้รู้ว่าตอนนี้ใจขอเงเขามันกำลังเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว...
“อ๊ะ..ก..เกิงบ้า-////////-“ ร่างเล็กแทบจะพูดอะไรต่อไปถูกเพราะความเขินของตัวเอง
ปกติแล้วเวลาที่เขินเขาก็จะแกล้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนอยู่เสมอ แต่ในเวลานี้เหมือนกับเขาจะลืมไปแล้วว่าเวลาโมโหมันจะต้องแสดงออกยังไง..
...บ้า นายมันบ้าไปแล้วฮยอกแจ
ทงเฮที่นั่งอยู่ในเหตุการณ์ก็ดูจะไม่ได้เขินไปน้อยกว่าฮยอกแจสักนิด เห็นคนทั้งสองแกล้งหยอกล้อกันไปมาจึงเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคงเป็นส่วนเกิน เลยตัดสินจลุกออกมาอย่างเงียบๆแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงม้านั่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแทน
เวลาผ่านไปไม่นานคิบอมก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับของเล็กน้อยๆที่ติดมือมาด้วย
“ทำไมมานั่งอยู่คนเดียว- -“ คิบอมถามพร้อมด้วยสีหน้าที่ดูจะหงุดหงิดเล็กน้อย
ก็เห็นคนน่ารักนั่งอยู่คนดัยวมันก็เลยอดห่วงไม่ได้น่ะสิ- -
“ก็สองคนนั้นเค้า..เอ่อ..”
เมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กอึกอักไม่ยอมพูดร่างสูงจึงันหน้าไปดูเอง พอได้เห็นสิ่งที่เจ้าตัวเล็กกำลังจะบอกก็พยักหน้าอย่างเข้าใจทันที
ชักจะหวานขึ้นทุกวันนะคู่นี้- -
“แล้วนี่ได้กินข้าวรึยัง?”
“ยังเลยฮะ..ไม่หิว”
“ไม่หิวยังไงก็ต้องไปกินเป็นเพื่อนฉันอยู่ดี- -..ลุก” คิบอมวางของในมือทิ้งไว้ตรงม้านั่งก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองไหล่เล็กให้ลุกขึ้นมา
มือหนาสัมผัสกับไหล่บางนุ่มนิ่ม ผิวเนียนละเอียดลื่นมือจนทำให้คิบอมไม่อยากจะปล่อยหนำซ้ำยังรู้สึกอยากจะสัมผัสมากขึ้นกว่านี้อีก แต่สถานะที่เป็นอยู่ตอนนี้ทำให้คิบอมต้องพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรไปมากกว่านี้..
...รอหน่อยนะทงเฮ...
“คิบอม..แล้วของพวกนี้ล่ะฮะ” ร่างเล็กพูดแล้วมองของที่วางอยู่บนม้านั่ง
“ช่างเหอะ...มันไม่สำคัญอะไร”
“แต่ว่า...”
“นายสำคัญกว่า”
“หะ ห้ะ (‘///‘)”
“หึหึ...” คิบอมแค่นหัวเราก่อนจะโอบคนตัวเล็กเอาไว้แล้วพาเดินออกไป
ท่าทางเอ๋อๆของร่างเล็กเวลาได้ยินคำพูดแบบนั้นมันดูน่ารักไม่น้อยเลยสำหรับคิบอม...
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก !!
นายสำคัญกว่า นายสำคัญกว่า นายสำคัญกว่า นายสำคัญกว่า นายสำคัญกว่า !!!
คิบอมบอกว่านายสำคัญนะทงเฮ>///////<!!!!
เวลาล่วงเลยดำเนินมาจนถึงช่วงเย็น ...
แสงแดดจากดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยตัวไปทางทิศตะวันตกเพื่อรอที่จะลับขอบฟ้า
นักเรียนหลายๆคนเริ่มพากันเดินเข้าไปในหอประชุม เพราะว่ากิจกรรมของรุ่นพี่ปีสามที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้านี้
หลังจากที่คิบอมและทงเฮไปรับประทานอาหาร และรอให้คิบอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินเข้าไปในหอประชุมเช่นกัน...
หอประชุมของโรงเรียนจะแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นที่สองเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้วางเรียงราย เอาไว้สำหรับประกาศและประชุมเรื่องที่เป็นทางการ ส่วนชั้นแรกเอาไว้สำหรับจัดกิจกรรมเช่นกิจกรรมในวันนี้ มีลักษณะเป็นห้องโถงโล่งกว้างขนาดใหญ่สามารถรับนักเรียนทั้งหมดเข้าไปยู่ในนั้นได้อย่างสบายๆ ด้านในสุดของห้องวันนี้ถูกจัดให้เป็นเวทีที่ยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นเพียงเล็กน้อย บนเวทีพร้อมไปด้วยดนตรีและอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน
ตลอดเวลาที่เดินมาด้วยกันมือมือใหญ่คอยกุมมือเล็กเอาไว้ไม่ยอมปล่อยไปไหนจนทำให้ร่างเล็กเริ่มที่จะวางตัวไม่ถูก นิ้วเล็กๆจึงไปสะกิดเข้าที่กลางฝ่ามือใหญ่โดยไม่รู้ตัว
“หืม??...นายจะเอาจริงๆหรอ?” คิบอมเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามร่างเล็กด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม
“หา??..อะไรหรอฮะคิบอม?”ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองคิบอมแล้วถามออกไปอย่างคนที่ไม่เข้าใจ...
เอา?? คิบอมจะเอาอะไรอ่า-.-
“ก็จะเอาจริงๆปะล่ะ?”
“( ’ . ’)??”
“หึ...โง่เอ๊ย ไม่รู้เรื่องเอาซะเลยจริงๆนะ” คิบอมยกมืออีกข้างหนึ่งมาขยี้หัวเจ้าคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู
ความจริงก็อยากจะแกล้งต่อ แต่พอเห็นคนหน้าหวานนั่นทำตาใสไม่รู้เรื่องแบบนั้นแล้วก็แกล้งไม่ลง
“อ้าว...ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่นาว่าคิบอมจะเอาอะไร(. .)”
“การสะกิดฝ่ามือแบบนี้ฝรั่งเค้าหมายถึงการชวนไปทำไอ้เรื่องอย่างว่า”
“ห้ะ0/////0!!! ม...ไม่ใช่นะคิบอม ไม่ใช่อย่างงั้นนะ>////<” ร่างเล็กรีบพูดปฏิเสธแล้วดึงมือของตัวเองออกมาทันทีพร้อมใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสี
ถึงสิ่งที่ทำไปเมื่อครู่จะทำไปเพราะว่าไม่รู้ความหมาย แต่มาคิบอมมาพูดแบบนั้นเค้าให้ก็ต้องรู้สึกเขินเป็นธรรมดา (เขินจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วมากกว่า- -)
“เขินอีกแล้ว- -“
“ก็...ก็คิบอมมาพูดแบบนั้นทำไมเล่า( .////.)”
“หึ..ทีหน้าทีหลังก็อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นแล้วกัน
“อ..อื้ม”
“ยกเว้นกับฉันคนเดียวเท่านั้น” ว่าแล้วก็พูดทิ้งท้ายไว้ให้คนน่ารักเขินอีกจนได้
ตอนนี้สายตาของเขามองไปยังคนน่ารักตรงหน้าก่อนจะแอบอมยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าใบน่าหวานนั้นแดงปลั่งแสดงอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
จะว่าไปนี่ก็ดูจะเป็นภาพที่ได้เห็นจนชินตาไปแล้วสำหรับคิบอม เพราะไม่ว่าจะเวลาไหนคนน่ารักก็ดูเหมือนว่าจะเขินได้ตลอด
...เขินทุกครั้งที่อยู่กับฉันเลยสินะทงเฮ...
“หึ...ไปกันเถอะ” พูดแล้วคิบอมก็คว้ามือนุ่มๆเล็กๆนั่นมากุมเอาไว้ตามเดิมก่อนจะพาเดินไปบริเวณหน้าเวที เห็นฮยอกแจยืนโบกมือหยอยๆพร้อมกับฮันคยองที่ยืนอยู่ข้างกายจึงเดินเข้าไปหา
เห็นเจ้าเพื่อนสองคนตัวติดกันตลอดเวลาแบบนี้แล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้อีกแล้ว ...
“ไอ้ฮัน..แล้วนี่ห้องเราจะมีอะไรไปโชว์กับเค้าว่ะ?” คิบอมถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะว่าที่ผ่านมา1อาทิตย์กว่าๆเขาไม่เห็นคนในห้องได้เตรียมการอะไรไว้เลย
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่พอถึงเวลาเดี๋ยวนิชคุณก็คงจัดการเองนั่นแหละมั้ง” ฮันคยองบอกพร้อมชะเง้อหน้ามองหานิชคุณเด็กกิจกรรมประจำห้อง คนที่ทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลง เต้น หรือว่าเล่นละคร หน้าตาก็หล่อเหลา แถมยังเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องอีกซะด้วย
...แล้วก็เป็นนิสัยธรรมดาของเด็กห้องFซึ่งไร้ความรับผิดชอบ เวลาที่มีงานหรือกิจกรรมอะไร หน้าที่การจัดการทุกๆอย่างก็จะตกไปอยู่ที่คนคนเดียว ซึ่งก็แน่นอนว่าคนคนนั้นคงเป็นใครไม่ได้นอกซะจากนิชคุณ...
ในเวลานี้แสงไฟสว่างในห้องประชุมถูกเปลี่ยนให้เป็นแสงไฟสีส้มสลัวๆ มีเพียงแสงสปอตไลท์สีขาวที่ส่องสว่างไปบนเวทีเท่านั้น
คู่นักเรียนชายหญิงที่เป็นพิธีกรเดินขึ้นไปบนเวทีก่อนจะกล่าวทักทายทุกๆคน พยายามพูดคุยกันเรื่องต่างๆเพื่อให้บรรยากาศในห้องประชุมดูสนุกสนานขึ้น จนในที่สุดก็ถึงเวลาการแสดงของห้องแรก
“เอาล่ะค่ะ เพื่อนความยุติธรรมเราจะใช้วิธีสุ่มจับขึ้นมานะคะว่าห้องไหนจะได้ขึ้นแสดงเป็นห้องแรก” พูดเสร็จแล้วมือของพิธีกรสาวก็ล้วงเข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยมสีดำทับ ก่อนจะหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลที่อยู่ภายในกล่องนั้นออกมา
“สำหรับห้องที่จะได้ขึ้นแสดงห้องแรกนะคะ ก็คือ...ห้องDค่าา เชิญเลยค่ะ...”
ทันทีที่สิ้นเสียงพิธีกรสาวบรรดานักเรียนห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องD ก็พากันปรบมือและถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ห้องที่ถกประกาศไม่ใช่ห้องของตนเอง...
การแสดงของห้องDดำเนินไปเรื่อยๆจนจบระหว่างที่รอการขึ้นแสดงของห้องต่อไปจะถูกขั้นด้วยกาแสดงเล็กๆน้อยๆของรุ่นน้องปีอื่น
เวลาผ่านไปนานจนความมืดค่อยๆกลืนกินท้องฟ้าภายนอกจนกลายเป็นสีดำสนิท...
การแสดงบนเวทีดำเนินไปเรื่อยๆจนมาถึงเวลาที่จะต้องสุ่มจับห้องที่จะได้ขึ้นแสดงในรายยการต่อไป ซึ่งห้องที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็คือห้องB E และFซึ่งเป็นห้องของพวกเขาทั้งสี่คน
“เอาล่ะค่ะสำหรับห้องที่ต้องขึ้นแสดงเป็นห้องต่อไปนะคะ...” พิธีกรสาวพูดพร้อมล้วงมือเข้าไปภายในกล่องสีดำทึบอีกครั้ง
และในเวลาเดียวกันซอนอาหัวหน้าชั้นเรียนของห้องF ก็วิ่งหน้าตาตื่นฝ่าผู้คนมาทางพวกเขาทั้ง4คน เธอยืนหอบอยู่สักพักก่อนจะเริ่มพูดออกมา
“แฮ่ก...แย่แล้ว”
“อะไรแย่หรอซอนอา?“ ฮยอกแจถามพร้อมใช้มือข้างนึงจับไหล่ของเธอไว้ หวังให้เธอใจเย็นลงบ้างก่อนที่จะเริ่มพูดอะไรต่อ
“นิชคุณน่ะสิ..ตอนนี้หายไปไหนไม่รู้”
“ห๊าาา!!”
“ห้องที่จะต้องแสดงต่อไปก็คือ...ห้องFค่าา”
“ชิบหาย!” ทั้งกลุ่มพร้อมใจสบถออกมาเป็นคำเดียวกัน เว้นก็แต่ทงเฮที่ตอนนี้ยังคงยืนทำหน้าตาใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป...
“โอ๊ยยย ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย เมื่อกี้ก็เดินถามตั้งหลายกลุ่มแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยได้เลย”
“อ่า...แล้วจะให้พวกฉันทำยังไงล่ะ- -“
“พวกนายพอจะช่วยอะไรได้มั้ย?...นายไงทงเฮ คนรู้จักนายก็เยอะ ถ้านายพอจะร้องเพลงหรือว่าทำอะไรได้ก็ช่วยขึ้นไปกู้หน้าให้ห้องเราหน่อยเถอะนะ”
“อ่า..ผมก็พอจะร้องเพลงได้นะแต่..” ร่างเล็กชะงักไปแล้วทำท่าครุ่นคิด ความจริงความสามารถในการร้องเพลงของเขาก็ถือว่าร้องได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่อยู่ๆมาให้ทำปุบปับแบบนี้เลยกลัวว่าจะไปทำเปิ่นบนเวทีซะมากกว่า
“นะทงเฮ..”
“ห้องFคะ เชิญขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ”พิธีกรบนเวทีประกาศเรียกซ้ำเป็นครั้งที่สองจึงทำให้ทั้งซอนอาและทงเฮดูร้อนรนมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“ทงเฮ!...ขอร้องล่ะนะ!” หญิงสาวพูดอ้อนวอนอีกครั้ง...
ด้วยความที่ทงเฮเป็นคนขี้สงสารอยู่แล้ว บวกกับอยากทำอะไรเพื่อห้องของตัวเองบ้างจึงตัดสินใจที่จะตอบตกลงไป
ปากบางเม้นแน่นเป็นเส้นตรง กำลังจะพยักหน้าเป็นการตกลงว่าจะขึ้นไปช่วยห้องของตัวเอง แต่ว่า...
“ไม่ต้อง..เดี๋ยวฉันไปเอง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างเหนือความคาดหมายก่อนะเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางความงุนงงของทุกคน...
อัพสั้นดีเนอะ-.-
ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ง่วงนอน= =
วันศุกร์ดึกๆอาจอัพต่อ
บ๊ายบายค่ะ
จุ๊บ&อิ๊
ปล. แต่งไปแต่งมาชักชอบคู่ฮีเฮแหะ-..-
ปล2. วันจันทร์ไปดูปลามาแหละ-.- เดี๋ยวค่อยมาเม้าวันศุกร์- -
update :100625
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อ่า ตีสอง สเปนแข่งบอลอยู่ดูตอเรสไปอัพไป- -
ขอโทษที่อัพช้านะคะ
ขอโทษจริงๆ แต่การบ้านเยอะมาก เหนื่อยมาก
อัพครั้งหน้าต้าอัพครบ100%แน่นอนค่ะ คิเฮล้วนๆ
รอหน่อยนะคะTT
update : 100704
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อุบ้ะะะะ!!
ไม่คิดเลยนะว่าคนอ่านจะเขินกันขนาดนี้-.-
หมวยเขิน คนอ่านเขิน ต้าก็แอบเขิน เขินกันให้ตายไปข้างเลยวุ้ย-.-!!
ฮ่าฮ่าฮ่า.
ทีแรกต้าบอกว่าจะอัพครบ100%แน่นอนใช่มั้ย แต่มันไม่ครบอ๊าา
ต้าขอโทษTT
ไม่คิดว่ามันจะยืดขนาดนี้
เอาเป็นว่าตอนหน้าครบ100% และคิเฮล้วนชัวร์ๆค่ะ ไม่งั้นตัดคอต้าได้เลย-.-
จะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดนะคะ รอกันด้วยน๊าาาT^T
แต่ณ เวลานี้ขอต้าไปทำการบ้านก่อนจ้า ตามด้วยอ่านหนังสือ กระซิกๆT^T
รักคนเม้น&จุ๊บจุ๊บอิ๊อิ๊นะจ้ะ-3-
ปอลอ. พรุ่งนี้อดไปเกาะตู้ดูปลา +ปีนคอกส่องม้า เพราะใกล้สอบT^T
ทำไมต้องมากันตอนสอบด้วยว๊าไอ้ลูกสาว&ไอ้ลูกเขยยยยยTT TT
ปอลอสอง. เพลงหน้าบทความชื่อเพลงlove light ของซีเอ็นบลูค่ะ วงนี้เพลงเพราะทุกเพลงเลยยย>< แนะนำๆๆ
update : 100713
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อ่า ที่จริงไม่ได้กะจะให้มันจบค้างแบบนี้นะ
แต่วันนี้ต้าแต่งได้แค่นี้จริงๆ เลยอัพไปก่อน
เพราะว่าไม่ได้อัพนานแล้วT^T
ความจริงวันศุกร์หยุดต้าก็กะจะอัพแหละ แต่ไปๆมาๆก็มัวแต่นั่งเวิ่นเว้อทั้งวัน ไม่ได้แต่งเลย
ขอโทษจริงๆนะTT
ตอนหน้าสัญญาเลยว่าจะมาลงภายในอาทิตย์นี้ (อาจจะพรุ่งนี้แหละ-.-)
รับลองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน^^!!
ฝันดีค่ะ..
ปอลอ. ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อตอนนี้แล้วเอาชื่อเดิมไปใช้ตอนหน้าแทนนะคะ ผิดพลาดจริงๆค่ะTT
update : 100727
ความคิดเห็น