คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : STEP 3
STEP 3
Marry-Go-Round
http://www.pingbook.com/music/listen.php?id=886&song_id=9323&listen=normalasx
ฟังเพลงกันด้วยนะคะ ^^
มาทัน..
วันนี้คีย์มาทันมินโฮ..
คีย์ยิ้มกว้างก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาอย่างเหนื่อยๆ รองเท้าผ้าใบคู่เล็กที่ซักมาจนสะอาดเอี่ยมทำให้คนที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้าของตัวเองอยู่เงยหน้าขึ้นไปมอง
“นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว..”
มินโฮไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ร่างสูงลุกขึ้นยืนตรงก่อนจะพาดกระเป๋าสะพายที่วันนี้เปลี่ยนมาเป็นแบบเป้ไว้ด้านหลัง
“วันนี้จะไปไหนหรอ?”
คีย์เอ่ยถามเสียงแจ้วระหว่างรอลิฟต์
“.............................”
ไร้ซึ่งคำตอบเหมือนที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกก่อนถาม คีย์ถอนใจเบาๆหากแต่ริมฝีปากเล็กยังคงเคลือบไว้ด้วยรอยยิ้มบางๆ เพราะแม้จะไม่ยอมตอบแต่มินโอก็ยอมกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์ค้างเอาไว้เพื่อรอให้คีย์ตามเข้ามา
“ขอบคุณนะ..”
คนตัวเล็กยิ้มกว้าง ดวงตาเรียวยิบหยีลงเหมือนทุกครั้งที่มินโฮได้เห็นรอยยิ้มสดใสนั่น คนตัวสูงเบือนหน้าไปอีกทางโดยปราศจากคำพูดใดๆ
“ลานน้ำพุ..”
คีย์เพ้ออกมาเบาๆ ปกติแล้วลานน้ำพุบริเวณนี้ถือว่ามีชื่อเสียงมาก แต่ผู้คนมักจะนิยมมาในตอนกลางคืนมากกว่าจะมาในตอนเช้าแบบนี้
ร่างบางมองไปรอบๆก่อนจะหลับตาพริ้มสูดรับเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดไปให้มากที่สุด บรรยากาศยามเช้าก็ให้ความรู้สึกที่วิเศษไม่แพ้ยามค่ำคืนอย่างที่คีย์เคยมาเลยแม้แต่น้อย
“มินโฮๆ..”
คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้คนที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะกระตุกชายเสื้อเบาๆ ดวงตาคมเบนมามองนิ่งๆ คีย์ฉีกยิ้ม
“ที่นี่ตอนเช้าสวยดีเนอะ”
ร่างสูงเพียงรับฟังแล้วก็หันไปจัดแจงวุ่นวายกับกล้องต่อ คีย์ปล่อยมือจากชายเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวของมินโฮก่อนจะหันมาชื่นชมกับความงามรอบๆตัวแทน
สวย..
มินโฮขมวดคิ้วเมื่อเลนส์ถูกบดบังด้วยร่างของคนที่เผลอเดินมาบังกล้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างสูงขยับเลื่อนตัวไปอีกมุม แต่คีย์เองก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้ตัวเดินมาบังอีกเสียพอดิบพอดีจนมินโฮต้องนิ่วหน้า
“อย่าบังกล้อง”
เสียงทุ้มๆที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาคีย์สะดุ้งก่อนจะหันมามองอย่างเหรอหรา
“อ่ะ..โทษทีๆๆ”
ร่างบางเกาหัวพลางหัวเราะอย่างเก้อๆ พอหลีกทางให้อีกฝ่ายได้กดชัตเตอร์เก็บรูปภาพจนเรียบร้อยแล้ว คีย์ก็ปรี่เข้าไปยิ้มแป้นใส่
“วันนี้ถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ย”
กล้องสีชมพูตัวเดิมถูกยื่นออกมาจนสุดแขนของคนตรงหน้า มินโฮนิ่งไปครู่หนึ่งพลางเหลือบมองคนตรงหน้าที่ยิ้มให้อย่างจริงใจ
“อืม..”
“เย่.. ขอบคุณๆ”
คีย์กระโดดโลดเต้นก่อนจะออกไปยืนตรงกึ่งกลางของบ่อน้ำพุ แสงแดดส่องสะท้อนใบหน้าขาวจัดจนเหมือนเปล่งประกายได้ รอยยิ้มของคีย์กว้างขึ้นไปอีกก่อนตั้งท่าจะยกมือขึ้นมาชูสองนิ้วเหมือนที่ทำเป็นประจำ
“อ๊ะ..”
แต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งท่าให้เรียบร้อยก็ต้องร้องออกมาพลางทำตาโตเมื่อจู่ๆมินโฮก็บอกว่าเสร็จแล้วทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“นี่! ทำไมนายไม่นับเล่า!? อย่างงี้ใครเค้าจะไปตั้งตัวทันกัน..”
คีย์ต่อว่าหน้ามุ่ย ก่อนจะรับกล้องคืนมาแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
“โอ๊ย น่าเกลียดแน่เลยๆ..ชั้นไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้านะที่จู่ๆก็กดถ่ายเฉยๆน่ะ..”
บ่นอุบก่อนจะมองคนที่หันกลับไปสนใจกับการถ่ายรูปของตัวเองอยู่อย่างค้อนๆ ปากเล็กยู่ลง เสียงบ่นงุบงิบดังลอยเข้าหูมินโฮ
ลานน้ำพุตอนเช้า.. ก็สวยไม่แพ้ตอนกลางคืนเลยนะ..
“นายเป็นหุ่นหรอ? ไม่เมื่อยมั่งรึไง? นั่งสิ”
คีย์คงเป็นมนุษย์ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีที่สุดในโลก เพราะขนาดคู่สนทนาไม่ได้สนใจตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่คนพูดก็ยังคงทำหน้าที่พูดนู่นพูดนี่ได้อย่างต่อเนื่อง
“นี่มันจะเที่ยงแล้วน้า.. หิวอะ”
พอมินโฮปรายตามามองคีย์เลยยิ้มแห้งๆแล้วลูบๆท้องเป็นท่าทางประกอบ
“นายมินโฮ..~”
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้น แต่คีย์กลับยิ้มร่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมแพ้แล้วเดินมาเก็บกล้องลงกระเป๋า ร่างเล็กกระโดลงจากขอบบ่อที่ตัวเองนั่งอยู่ ปัดฝุ่นบนกางเกงก่อนจะกระชับกระเป๋าอย่างร่าเริง
“ไปกัน..”
มินโฮนิ่วหน้ามองคนที่กินไม่หยุดจนคีย์ต้องเงยหน้าขึ้นมามองแบบเหรอหรา
“มะ..มีอะไรหรอ?”
“เปล่า”
เสียงทุ้มตอบกลับมาสั้นๆ คีย์มองอย่างงๆก่อนจะก้มหน้าลงไปกินต่อโดยเหลือบมองคนฝั่งตรงข้ามเป็นระยะๆ
“ไม่เผ็ดเลยอะ”
ร่างบางว่าหน้ามุ่ยเรียกความสนใจจากมินโฮได้อีกครั้ง มือเล็กคว้าเอาขวดพริกของเกาหลีมาเทใส่ในชามชนิดที่ไม่เข้ากับใบหน้าของตัวเองเลยซักนิด
“นายชอบกินเผ็ดหรอ..?”
“อื้ม”
คีย์ตอบมินโฮด้วยการพยักหน้าแรงๆพลางส่งเสียงอู้อี้ด้วยติดที่ว่าเส้นบะหมี่ยังคงคาอยู่เต็มปาก
กินเก่ง..
ชอบกินเผ็ด..
“อิ่มแล้วน้ามินโฮ.. อย่าบังคับสิ”
“อะไรกัน กินไปนิดเดียวเองนะ เดี๋ยวก็ป่วยหรอก”
“ก็ฉันอิ่มแล้วนี่..”
“นายไม่ชอบที่ฉันกินเผ็ดหรอ..?”
คีย์ถามด้วยหน้าซื่อๆเมื่อเห็นคิ้วของมินโฮขมวดเข้าหากันหลังจากที่ตัวเองพูดออกไปว่าชอบกินเผ็ด
“หือ..”
“ก็นายทำหน้าบึ้ง”
“เปล่า..”
“นายทำนี่”
คีย์เถียงก่อนจะก้มลงไปคีบเส้นบะหมี่เข้าปากต่อ มินโฮมองคนที่มีผมสีทองสว่างตรงหน้าเงียบๆ
“จะบ่ายโมงแล้วอะ เร็วจัง”
คีย์บ่นก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ทันคนที่เดินนำหน้าอยู่
“ถ่ายรูปเสร็จแล้ว นายจะไปไหนต่อหรอ?”
“กลับห้อง”
“กลับห้อง?”
คีย์ทำเสียงสูงจนมินโฮต้องหันมามอง
“เพิ่งจะบ่ายโมงเนี่ยนะ?”
“ทำไม..”
“ชีวิตนายมีอะไรมั่งเนี่ย วันๆก็อยู่กับกล้องไม่ก็กลับห้อง นี่ถ้าไม่ติดว่ามาฝึกงานก็คงมีมหาลัยอีกที่นึง”
คีย์ทำหน้ามู่ตู้อย่างไม่ชอบใจกับวิถีชีวิตของอีกคนก่อนที่สักพักดวงตาเรียวจะเป็นประกายขึ้นมา
“นี่..ลืมไปเลยว่าแถวนี้มีสวนสนุกเปิดใหม่นิ ไปกันนะ..”
“นะๆ..”
“..........................”
“นายก็ไปสิ”
“แต่ฉันอยากไปกับนายนี่”
สีหน้าเป็นเครื่องหมายของมินโฮทำให้คีย์นึกข้นได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรออกไป ร่างบางรีบอธิบายตะกุกตะกัก
“มะ..ไม่..ไม่ใช่อย่างนั้นนะ คือ..คือหมายความว่า ไหนๆก็มาด้วยกันแล้วก็น่าจะไปด้วยกันน่ะ..”
ปลายเสียงทอดแผ่วลงคล้ายไม่แน่ใจ คีย์กัดปากก้มลงมองปลายเท้าที่กำลังขยับไปมาอย่างกระวนกระวาย
“ตะ..แต่ถ้า..”
“อืม..”
“หะ..เห?”
คีย์มองหน้าคนตัวสูงกว่าคล้ายกับกำลังจะถามว่า เมื่อกี้ฉันฟังผิดรึเปล่า? เมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้นเสียงทุ้มจึงลอดผ่านริมฝีปากออกมานิ่งๆ
“จะไปไม่ไป?”
“อ๊ะ..ไปๆ”
คีย์รีบตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้น กลีบปากเล็กระบายเป็นรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด มองแผ่นหลังที่ตอนนี้เห็นจนเริ่มจะชินตาของมินโฮแล้วก็รู้สึกว่าหัวใจมันพองโตแบบแปลกๆ
เป็นอะไรไปนะ..?
คีย์...
“ตั๋วสองใบครับ”
เพราะเป็นสวนสนุกเปิดใหม่ถึงได้มีโปรโมชั่นลดราคาบัตรแบบเหมาทุกเครื่องเล่นในราคาพิเศษสำหรับผู้ที่มาใช้บริการทุกคน คีย์ที่กำลังค้นกระเป๋าสตางค์ตัวเองเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เอ่ยปากพูดกับพนักงานขายตั๋วอย่างประหลาดใจ
“เอ้า..”
ตั๋วขนาดใหญ่สีสันสดใสวางแปะลงบนหัวกลมๆของคีย์ มือเล็กรีบคว้าก่อนที่มันจะร่วงลงไปแต่ดวงตาสีน้ำตาลทั้งสองข้างยังคงมองตามมินโฮปริบๆ
“เอ่อ..นาย..ซื้อให้ชั้นหรอ?”
“.................................”
คีย์บางกัดปากพลางส่งยิ้มแห้งไปให้ตอนที่มินโฮหันมา
“จะยืนอยู่ตรงนั้นใช่มั้ย?”
“อะ..เอ่อ..”
“อ่ะ..รอชั้นด้วย..”
คีย์รีบออกเดินตามมินโฮที่เดินนำหน้าไปพลางเหลือบมองตั๋วในมืออย่างครุ่นคิด
“เล่นอะไรดีเนี่ย..?”
คีย์พึมพำกับตัวเองก่อนจะต้องร้อยโอยเมื่อหัวกระแทกกับหลังของคนที่จู่ๆก็หยุดเดินเข้าไปเต็มๆ ร่างบางยู่หน้าคลำหน้าฝากป้อยๆพร้อมจะอ้าปากต่อว่า แต่ก็ต้องเงียบเสียงไปเมื่อเห็นมินโฮกำลังยืนจ้องอะไรบางอย่างอยู่
บ้านเจ้าหญิง..
คีย์นิ่วหน้ามองสถานที่สลับกับมินโฮ อย่าบอกนะ..
“อยากเข้าหรอ?”
คีย์ชะโงกหน้าไปถามด้วยสีหน้าใคร่รู้ มินโฮหันมามองเหมือนได้สติก่อนจะเบนหน้าไปอีกทางตอบเสียงเบา
“เปล่า..”
“.........................”
สักพักร่างสูงก็ตั้งท่าจะเดินต่อแต่มือเล็กกลับคว้าชายเสื้อเอาไว้มั่น
“แต่ฉันอยากเข้านี่..เข้านะ”
คีย์มองตาใสพร้อมกับเขย่าชายเสื้อไปพร้อมๆกัน
“นะๆ..เข้ากันๆ”
ไม่รอให้คนคิดช้าคิดให้เสียเวลา คีย์รีบลากแขนอีกฝ่ายให้ตามมาพร้อมกับยื่นตั๋วให้พนักงานที่ยืนอยู่ข้างหน้าแล้วหันกลับไปส่งยิ้มหวานให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“เร็วสิ..”
ภายในบ้านเจ้าหญิงก็มีแต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเต็มไปหมด ผู้ใหญ่ส่วนมากจะเป็นผู้ปกครองของเด็กและบรรดาคู่รักวัยหนุ่มสาวเสียมากกว่า
“โห..”
เท้าเล็กสาวเข้าไปใกล้รูปภาพเจ้าหญิงของวอลท์ดิสนีย์ที่ทำเป็นแบบสามมิติอย่างสนใจ นิ้วเล็กจิ้มๆลงบนรูปที่ไม่ได้มีป้ายห้ามแตะเบาๆ
“นี่นาย..”
ตั้งใจจะหันไปเรียกอีกคนให้หันมาดูด้วยกันแต่เสียงก็ต้องขาดหายไปเมื่อเห็นว่ามินโฮกำลังไล่ดูภาพอื่นๆที่ประดับอยู่บนผนังไปเรื่อยๆ
ดวงตาคมมีประกายบางอย่างที่คีย์ไม่เคยเห็นมาก่อน แววตาที่เห็นแล้วรู้สึกราวกับถูกกั้นให้อยู่คนละโลก..
คนตัวเล็กยืนนิ่งอยู่กับที่มองมินโฮที่เหมือนจะตกอยู่ในภวังค์พลางกระพริบตาช้าๆอย่างครุ่นคิด
“พี่คะๆ หนูอยากจับตัวนั้น”
คีย์มองตามด้วยความสนใจเมื่อจู่ๆเด็กผู้หญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่งก็วิ่งเข้าไปเกาะแขนมินโฮก่อนจะชี้นิ้วไปยังตัวการ์ตูนที่โผล่หัวออกมาจากผนังด้านบนซึ่งสูงเกินกว่าที่เด็กหญิงจะแตะได้ด้วยตัวเอง
“ตัวไหนคะ?”
“ตัวนั้นค่ะ..”
เด็กหญิงบอกเสียงใสแจ๋ว คีย์รู้สึกว่าหัวใจเต้นตึกตักแบบแปลกๆ แถมยังต้องคอยพยายามฝืนริมฝีปากที่กำลังจะวาดเป็นรอยยิ้มกว้างอีกด้วยตอนที่ได้ยินมินโฮพูดประโยคน่ารักๆกับเด็กน้อย
“มา งั้นพี่อุ้มนะ..”
“ฮึบ..”
ตัวของเด็กน้อยลอยหวือขึ้นไปด้วยแขนทั้งสองข้างของมินโฮ มือจ้อยนั้นแตะลงบนหน้าของตัวการ์ตูนพลางยิ้มใสออกมาอย่างดีใจ
“เอ้า.. เรียบร้อยหรือยัง?”
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เด็กน้อยยิ้มหวานมาให้พี่ชายสุดหล่ออย่างน่ารักเมื่อถูกมือของพี่ชายที่ย่อตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกันลูบศีรษะอย่างเอ็นดู
“เยจิน! ไปยุ่งอะไรกับพี่เขาน่ะลูก!”
“หม่าม๊า..”
เด็กน้อยชื่อเยจินพูดเสียงอ่อยๆ แต่มินโฮก็รีบพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่เป็นไรครับ น้องเขาไม่ได้วุ่นวายอะไร..”
ผู้เป็นแม่มองรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ชายแล้วก็ต้องรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ก่อนจะเอ่ยขอตัวพาลูกสาวกลับบ้าน เด็กน้อยเยจินโบกมือลาพี่มินโฮก่อนจะต้องตามแม่ไป ก่อนจะป้องปากทำเป็นท่ากระซิบ
“หนูเห็นพี่คนนั้นเค้ามองพี่อยู่ตั้งนานแล้วค่ะ..แฟนพี่หรอคะ?”
“เยจิน!”
เด็กน้อยหัวเราะคิกก่อนจะถูกแม่พาตัวกลับไปโดยไม่วายถูกดุเรื่องคำถามแก่แดดแก่ลมนั่น มินโฮเลื่อนสายตาไปมองคนที่ยืนอยู่ห่างออกไป ร่างเล็กยกหลังมือขึ้นแตะปากเพื่อกลั้นยิ้มก่อนจะแกล้งเฉไฉหันไปทางอื่น มินโฮเองก็รีบแสร้งหันไปอีกทางเช่นกัน คำพูดของเด็กหญิงคนนั้นทำให้ไม่กล้าหันไปมองหน้าคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆได้ตรงๆ
แฟนพี่หรอคะ..
หลังจากดูรอบๆบ้านเจ้าหญิงเสร็จแล้ว คีย์ก็ลากมินโฮตระเวนไปทั่วสวนสนุก แล้วก็ได้พบความจริงข้อหนึ่งว่า มินโฮกลัวความสูง.. คิดถึงตรงนี้แล้วก็ต้องแอบกลั้นยิ้มเอาไว้ในใจ เครื่องเล่นที่เล่นได้ก็เลยเป็นแค่เครื่องเล่นแบบเด็กๆหรือไม่ก็ติดจะเป็นการเดินชมบรรยากาศซะมากกว่า
“เล่นไอ้นั่นกันมั้ย..?”
หลังจากเดินจนเมื่อยแล้วคีย์จึงชี้นิ้วไปที่เครื่องเล่นซึ่งตอนนี้กำลังมีเด็กๆต่อแถวกันอยู่จำนวนหนึ่ง มินโฮนิ่วหน้า
ม้าหมุน..
เพราะว่าเป็นเดือนที่ย่างใกล้เข้าหน้าหนาวมากขึ้นทุกทีทำให้ท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ เพราะแค่ห้าโมงเย็นม้าหมุนก็เริ่มจะเต็มไปด้วยไฟสีทองที่ประดับประดาอยู่รอบๆเสียแล้ว
“เนี่ย..ซื้อบัตรมายังเล่นไม่คุ้มเลยนะ..”
คีย์เหลือบตามองอีกฝ่ายราวกับจะบอกเป็นนัยๆว่าเป็นความผิดของมินโฮที่กลัวความสูงนั่นแล่ะ เพราะพอคีย์ลากไปใกล้ๆเครื่องเล่นที่หวาดเสียวทีไร อีกคนก็ทำเป็นวางท่านิ่งๆแล้วเดินหนีออกไปเสียเฉยๆ
ไม่นานคีย์ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างสมใจเพราะทั้งเขาและมินโฮได้ขึ้นมานั่งอยู่บนม้าหมุนขนาดใหญ่ร่วมกับเด็กๆอีกจำนวนหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย
ร่างบางมองไฟสีทองที่ตกแต่งอยู่รับกับบรรยากาศที่กำลังมืดลงทุกขณะของสวนสนุกอย่างตื่นตาตื่นใจ
“สวยจัง..”
เสียงหวานพูดออกมาอย่างชื่นชมก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อหันมาหามินโฮ
“ชอบมั้ย?”
มินโฮมองมาอย่างคาดโทษเมื่อเห็นว่าคนลากเขาขึ้นมากำลังหัวเราะชอบใจ
“ก็เห็นนายชอบบ้านเจ้าหญิงนี่ ก็เลยนึกว่าจะชอบม้าหมุนด้วย”
คีย์พูดอย่างมีหลักการแต่มินโฮกลับนิ่งไป
“นาย..นายโกรธหรอ?”
“เปล่า..”
“.................................”
“จริงๆฉันไม่ได้ชอบบ้านเจ้าหญิงหรอก”
“เอ๋?”
คีย์เอียงคอมองอย่างสงสัย มินโฮทอดสายตาออกไปข้างหน้าเงียบๆ
“แล้วทำไม..”
“.............................”
“อ่า..ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ..”
“มีผู้หญิงคนนึง..”
เสียงทุ้มๆของมินโฮเรียกความสนใจจากคีย์ได้เป็นอย่างดี คนที่นั่งแบบหันข้างและแกว่งเท้าไปมาอยู่บนตัวม้าหันมาสนใจมองคนที่ยืนพิงเสาอยู่อย่างตั้งใจฟัง
“มีผู้หญิงคนนึงเค้าชอบบ้านเจ้าหญิงมากๆ..”
“เค้าชอบขอร้องให้ชั้นพามาสวนสนุกบ่อยๆ..”
“พอชั้นพามาเค้าก็จะยิ้ม..”
“เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ชั้นรู้สึกว่าอยากจะยิ้มตามขึ้นมาทุกครั้ง..”
เงียบลงไปเหลือแต่เพียงเสียงของเด็กๆโดยรอบ คีย์มองปลายเท้าตัวเองนิ่ง
“คนสำคัญใช่มั้ย?”
“อืม..”
หัวใจของคีย์เต้นเป็นจังหวะที่แปลกไปแต่ร่างบางก็เลือกที่จะเงยหน้าขึ้นเพื่อสูดลมหายใจลึกแล้วส่งยิ้มกว้างให้กับมินโฮ
“ดีจังนะ..”
มินโฮแค่นยิ้มออกมาน้อยๆจนคีย์ต้องขมวดคิ้วตาม
“เค้าไม่อยู่แล้วล่ะ..”
“..........................”
“รู้มั้ยว่าเค้าเหมือนนายมาก..”
“ทั้งรอยยิ้ม หน้าตา ท่าทาง ..”
“..................................”
“ตอนแรกชั้นคิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ชั้นไม่คิดว่านายเหมือนเค้าแล้ว..”
“ที่สำคัญเค้าไม่กินเก่งเหมือนนายหรอก..”
เหตุผลที่มินโฮสร้างกำแพงกั้นตัวเองออกจากคีย์ตั้งแต่ในทีแรกที่พบกัน.. คงจะเป็นเหตุผลนี้สินะ ร่างบางเม้มริมฝีปากเงียบๆก่อนจะเอ่ยทำลายความเงียบท่ามกลางเสียงลมหายใจออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
“เค้า..ไปไหนหรอ?”
“ไปหาคนอื่นแล้ว..”
ไม่น่าเชื่อว่าน้ำเสียงและคำตอบที่เรียบง่ายธรรมดาจะสามารถส่งผ่านความเจ็บปวดออกมาจนสัมผัสได้ คีย์ลอบมองคนที่เหม่อมองท้องฟ้าก่อนจะก้มลงมามองปลายนิ้วตัวเองยิ้มๆ เงียบไปนานก่อนที่จะเปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“ฉันเองน่ะ..”
“ก็เพิ่งถูกทิ้งมาเหมือนกันล่ะ..”
มินโฮรู้สึกว่าใจหายอย่างไรพิกลที่ได้ยินประโยคน่าเศร้านั้นหลุดออกมาจากริมฝีปากที่มักจะแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
“แย่จังเลยนะ..เค้าบอกว่าชั้นน่ารำคาญมากเกินไปน่ะ..”
คีย์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะแกว่งเท้าไปมา
“แต่คุณพรหมลิขิตคงไม่เป็นใจล่ะมั้ง..”
คีย์ยิ้มก่อนจะเลื่อนสายตาไปสบตากับคนที่หันหน้ามามอง
“เพราะฉะนั้นน่ะ..อย่าเสียใจไปเลยนะ ซักวันยังไงเราก็ต้องเจอความรักที่เป็นของเรา”
“เชื่อคีย์คนนี้ได้เลย”
มือเล็กเอามือทุบอกตัวเองเบาๆพลางยืดตัวตรงเป็นการรับประกัน ก่อนจะเบนหน้ากลับไปทิศทางเดิม กลีบปากเล็กวาดเป็นรอยยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะสดใส
ลมเย็นพัดมาปะทะเบาๆ เหมือนกับทุกๆครั้งที่เส้นผมสีทองนั้นจะปลิวไหวไปตามแรง มินโฮรู้สึกว่าหัวใจวูบไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้
สงสัยคงเป็นเพราะ..
รอยยิ้ม..
ที่มองดูแล้ว.. ทั้งอยากจะยิ้มตามและร้องไห้ตามไปพร้อมๆกัน
ที่อยู่ของความรักน่ะ.. ซักวันเราต้องเจอที่ที่เป็นของเรา..
“ไปกันเถอะ”
คีย์หันมาบอกเสียงสดใสพลางกระโดดลงจากม้าตัวที่นั่งอยู่เมื่อสัญญาณบอกเวลาหมดรอบดังขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว คีย์เดินเตร่มองนู่นมองนี่ไปเรื่อยก่อนจะหันกลับไปหามินโฮ
“ไปซื้อขนมอันนั้นกัน ฉันหิว..”
“อร่อย~”
คนตัวเล็กชมเปาะก่อนจะแกว่งเท้าไปมาบนม้านั่งตัวสวย มินโฮมองภาพนั้นด้วยแววตาเป็นประกายที่อ่อนแสงลง
“อาย-ไอ้-อิ๋ว-อ๋อ”
“อืม..”
“กระเพาะเหล็กรึเปล่าเนี่ย..”
คีย์บ่นก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้าไปกับเครื่องเล่นที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“ชิงช้าสวรรค์!”
“ไปกันนะ..”
คีย์รีบยัดขนมคำสุดท้ายเข้าปากแล้วกลืนลงคอพลางหันกลับมามองมินโอด้วยแววตาเป็นประกาย
“ไปเร็วๆๆ เค้าจะเริ่มเล่นรอบนี้กันแล้วนะ”
“ไม่เอา..”
“ไปๆๆ ไปด้วยกัน”
“ฉันไม่ไป..”
“ไม่ต้องกลัวหรอก”
“เชื่อฉันสิ”
มือเล็กยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกายบนใบหน้าหวานของคีย์ มินโฮนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปวางไว้บนมือของคีย์อย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนัก พอเห็นอย่างนั้นคีย์ก็ยิ่งยิ้มกว้างไปกันใหญ่
“สองคนฮะ..”
พนักงานตัวยิ้มบางๆ มินโฮมองตามสายตานั้นไปก่อนจะพบว่ามันหยุดอยู่ตรงที่มือของเขาและคีย์กุมกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะยังไม่รับรู้อะไร ร่างบางรีบลากมือเขาไปให้เข้าไปอยู่ในกระเช้าแล้วยิ้มแป้นพนักงานที่ปิดประตูดังฉับ
“ฮ๊า~”
สัมผัสนิ่มๆตรงฝ่ามือของมินโฮยังคงไม่ละไปไหน คีย์ที่ตอนนี้นั่งอยู่ฝั่งเดียวกันกับมินโฮชะโงกหน้าออกไปตรงหน้าต่างตอนที่กระเช้ากำลังลอยขึ้นสูงแล้วหันกลับมาถามมินโฮด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“กลัวมั้ย?”
“อืม...”
“งั้นก็จับมือฉันแน่นๆเลย”
ฝ่ามือบางกระชับเข้าหาฝ่ามือที่ใหญ่กว่าอย่างต้องการให้ความมั่นใจ
“ตอนเด็กๆเวลาฉันกลัว แม่ก็ทำกับฉันแบบนี้ล่ะ..”
คีย์อธิบายพลางหันหน้าออกไปรับลมตรงหน้าต่างกระเช้า ดวงตาเรียวหยีลงเล็กน้อย
เสียงลมตีพึ่บพับสลับกับเสียงหัวใจ..
ดวงตาคมเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานก่อนจะหันไปมองหน้าต่างฝั่งของตัวเองบ้าง
ไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่ที่ฝ่ามือเล็กๆคู่นี้ทำให้มินโฮรู้สึกว่าโรคกลัวความสูงมันหายไปเสียเฉยๆ..
ถ้ากลัวก็.. จับมือฉันแน่นๆเลยนะ..
มินโฮ..
TBC.
ความคิดเห็น