คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ทูตจากโรงเรียนเวทย์ฮัสก้า
“จิ๊บ....จิ๊บ....”
เสียงร้องเพลงจากนกที่ต้นไม้ข้างบ้านกำลังปลุกเจ้าของบ้านที่กำลังหลับอยู่ด้านหลังของกองหนังสือ กระดาษ ปากกา ต่างๆ ที่นำเอาออกมาตั้งแต่กลับมาจากการซื้อของที่ยานมนตรา--- เพื่อพยายามที่จะจำและทำให้ได้ทุกอย่างที่เขากำลังศึกษาอย่างเอาเป็นเอาตาย มาเป็นเวาสองเดือนกับอีกสิบวัน
“ท่านเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง ขอรับ” เสียงที่ดังแทรกเสียงของนกน้อยที่กำลังร้องเป็นนาฬิกาปลุก
“ท่านเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง ขอรับ”
“ท่านเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง ขอรับ”
“ท่านเร......”
“นี่ๆๆๆ เขาไม่ใช้วิธีนั้นปลุกกันแบบนั้นกันหรอกยะ” เสียงใสๆ ดังขึ้นมาก่อนที่เพอร์ซิมัสจะได้ทันที่กล่าวประโยคต่อไปจบ
“แล้วเราจะปลุก คุณหนูเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง ได้อย่างไรล่ะขอรับ”
“อย่างงี้ไหงล่ะ”
เมื่อมีนาพูดจบเธอก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้งก็ปรากฏก้อนน้ำขนาดใหญ่บนฝ่ามือของเธอและเธอก็สะบัดมือเล็กน้อย ก้อนน้ำที่อยู่บนมือของเธอก็ลอยไปยังบริเวณหัวของผู้ที่กำลังหลับอยู่
“คอยดูนะว่า คุณหนูเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่งของเราจะตื่นรึเปล่า”
และมีนาก็สะบัดมืออีกครั้งหนึ่ง และ...
“ซ่าาาาาาา”
“กรี๊ดดดดดดด”
น้ำที่มีนาเป็นผู้ทำขึ้นย้อนกลับมาถูกมีนาผู้ที่เป็นคนสร้างเพื่อที่จะปลุกคนกำลังหลับอยู่ แต่ขณะนี้กลับหัวเราะอย่างร่าเริงกับผลงานที่ตัวเองทำขึ้นมาจัดการกับผู้ที่ไม่หวังดีกับตน
“ฮา..ฮา..ฮา”
“เป็นไงหล่ะคุณมีนาหากที่จะพยายามปลุกผมวิธีแบบนี้อีกละก็นะอย่าคิดที่จะทำเลย เพราะว่าคราวหน้าผมจะแก้คืนด้วยเวทบทอื่นนะครับ หรืออาจเป็นเวทน้ำแข็งก็เป็นได้นะครับผม” ผู้ที่มีชื่อว่าเรย์ มาร์แชงกล่าว
“เจ้าคะ” เสียงของมีนากล่าวอย่างไม่พอใจ แต่ในใจลึกๆ ของมีนาก็อดที่จะไม่ชมเด็กคนตรงหน้าของเธอเพราะว่าตั้งแต่ตัวของเขารู้ว่าตนนั้นเป็นผู้ที่มีพลังเวทแล้วเขาก็ไม่เคยที่จะบ่นสักนิดเลยว่ามันยากจนไม่สามารถที่จะทำได้ แต่เขาก็พยายามที่จะให้ตนเองนั้นพัฒนาขึ้นให้ได้มากที่สุดซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าอะไรดลให้เด็กคนนี้ขยันได้ถึงเพียงนี้
“ท่านเรย์ มาร์แชง ขอรับ ท่านบิชอบอีวาส มาร์แชงให้กระผมมาตามท่านนะขอรับ” เพอร์ซิมัสกล่าวด้วยความภูมิใจที่ตนได้ทำงานสิ่งนี้ แต่อันที่จริงแล้วไม่ว่างานอะไรที่ สองตาหลานนี้ให้เพอร์ซิมัสทำเขาก็ยินยอมและภูมิใจที่สุดทุกงาน
“แล้วตาได้บอกหรือเปล่าว่าเรียกไปเพื่ออะไร” เรย์ ถาม
“ไม่ทราบขอรับ” เพอร์ซิมัสตอบ
“อืม...งั้นช่วยลงไปบอกท่านตาหน่อยนะว่าเดี๋ยวไป ขออาบน้ำก่อน” เรย์ ตอบและก็ลุกจากเก้าอี้ที่ตนได้นั่งมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังได้ใช้เก้าอี้ตัวนี้เป็นเตียงอีกด้วย
“ขอรับคุณหนูเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง”
เมื่อเรย์ และเพอร์ซิมัสได้ออกไปทำธุระของตนเองก็เหลือเพียงแค่มีนาอยู่เพียงแค่คนเดียว ซึ่งตอนนี้เธออยู่ในอาภรณ์ที่บอกได้เลยว่าต้องไปตกน้ำที่ไหนมาแน่ๆ เพราะตอนนี้เธอได้เปียกอย่างมากเนื่องจากการหวังดี(หรือร้ายกันแน่)ที่ต้องการจะปลุกให้คุณหนูเรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister อันสูงส่ง ตื่นขึ้นมาจากอาการหลับลึกของเด็กน้อยคนนี้ แต่เธอก็ต้องกลับโดนเองนั้น เธอทั้งอึ้ง โกรธ ดีใจ ในเวลาเดียวกันเพราะว่าเธอได้เห็นพัฒนาการของเด็กคนนี้มาตลอด ซึ่งเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถที่จะทำได้ถึงขนาดนี้เลย
“เกินคาดจริงๆ เด็กคนนี้” มีนาพูดขึ้นหลังจากที่เธอเงียบไปนาน
“ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถจับพลังเวทของเธอได้ใช่ไหมนิ” เดียร์ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเข้ามา
“ใช้ เพราะว่าแม้แต่ master และ minister มาร์แชง ยังต้องฝึกฝนนานมากจนกว่าจะสามารถจับพลังเวทได้ และอีกอย่างนะเราจะสามารถจับพลังเวทของคนอื่นได้น้อยมากจนถึง ไม่สามารถจับได้เลย โดยเฉพาะคนที่หลับลึกอย่างเขา” เธอพูดด้วยความตื้นตันแต่แฝงไปด้วยความห่วงใย
“แล้วเธอไม่ดีใจหรอนิ ที่เขานิ สามารถทำได้ ซึ่งสิ่งนี้มันจำเป็นมากๆ เลยนิ ในการต่อสู้นิ”
“แต่เขาสามารถจับพลังเวทของฉันได้นี้สิมันแปลก” มีนาพูดอย่างครุ่นคิด
“อืม เธอนิก็พูดถูกของเธอนิ” เดียร์กล่าวแล้วก็ลอยจากไปจากมีนา ปล่อยให้เธอครุ่นคิดอยู่เพียงลำพัง
หลังจากที่เรย์ ทำธุระของเขาเสร็จแล้วเขาก็เดินลงไปหาตาที่ห้องอาหารทันที
“เอ๊ะ รู้สึกแปลกๆ” เรย์ฉะลอฝีเท้าลง แล้วเตรียวตัวที่จะร่ายเวทถ้าหากเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าตั้งแต่ที่เขาฝึกฝนทักษะต่างๆ ในห้องสมุดที่อยู่ในห้องของตา แต่ตอนนี้ห้องสมุดนั้นได้กลายมาเป็นห้องของเรย์เสียแล้ว
“วืดดดดดดดดดดดด”
“ปึก” เสียงดังของธนูที่ดังขึ้นเนื่องจากธนูนั้นได้มากระทบกับบายเรียสีฟ้าของเรย์ที่ร่ายขึ้นมาทันเวลาพอดี
“หึ..หึ..”เสียงของเรย์ดังขึ้น
“จะทดสอบกันงั้นเหรอได้ จะจัดการให้ราบเลย” เมื่อเรย์ รู้ตัวแล้วตนเองกำลังโดนแบบทดสอบจากตาของเขา เรย์จึงเรียกไม้เท้าของเขาขึ้นมา และเตรียมพร้อมกับแบบทดสอบอื่นๆ
พรึบ....
ไฟลุกโชติช่วงล้อมรอบเรย์เอาไว้ทันทีที่เรย์ก้าวเดนไปอีกก้าวหนึ่ง
“โอ้ววววว....”
“อย่างงี้ก็หมูๆ” เมื่อเรย์ พูดจบเขาก็ทำสมาธิและร่ายเวทน้ำออกมาเพื่อที่จะดับไฟที่อยู่รอบๆ ตัวของเขา
“อัลลิเมท” เมื่อเรย์ร่ายเวทบทนี้ออกมา สายน้ำก็ปรากฎขึ้นรอบๆ ปลายมือของเรย์ และพุ่งไปยังไฟที่อยู่รอบๆ ตัวของเรย์ และดับไปในที่สุด แต่.......
พรึบ....
“ฮะ” เรย์ร้องขึ้นอย่างตกใจ แต่ก็สามารถที่จะควบคุมสติขึ้นมาได้
“อ้อ ที่แท้ก็เวทไฟแห่งแสงนี้เองงั้นเจอนี้แล้วกัน”
“รัติกาลแห่งความมืด ซัลฟาเรน่า อัลลิเมท” เมื่อร่ายจบก็ปรากฎสายน้ำขึ้นมาเหมือเดิมแต่รอบๆ สายน้ำนั้นมีกลุ่มไอสีดำลอยอยู่รอบๆ สายน้ำที่อยู่ในมือของเรย์ และสายน้ำนั้นก็พุ่งไปยังไฟที่อยู่รอบๆ ตัวของเรย์
“วูมมมมมมมมม” เสียงเวทน้ำแห่งรัติกาลดังขึ้นขณะที่ผ่านเปลวไฟเหล่านั้นจนกระทั้งไฟดับจนหมด
วืดดดดดดดดด
กึก...
เสียงวัตถุหนักๆ ทีตกลงมาเกือบที่จะหล่นใสหัวของเรย์นั้น อยุดห่างจากหัวของเรย์เพียงแค่ หนึ่งนิ้วเท่านั้น
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ ดีที่อยุดมันทัน ไม่งั้น..........ไม่อยากคิดเล้ย”
แต่เรย์ก็บ่นได้ไม่นาก็พบกับห่าของธนูพุ่งมาหาเรย์ทางด้านหน้า แต่เรย์ก็สามารถที่ร่ายเวทบาเรียขึ้นมาทัน แต่เขาก็ดีใจได้อีกไม่นานเมื่อเขารู้สึกว่า หอกหลายร้อยเล่มพุ่งมาอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทุกทาง เรย์จึงตัดสินใจที่จะโยนวัตถุบนหัวของเขาทิ้งไป และกลับมาร่ายเวทบาเรียและพร้อมที่จะทำลายมันด้วยหาก่วามันสามารถที่จะทะลวงผ่านบาเรียของเขามาได้
กึก..กึก..กึก..
เสียงหอกกระทบกับบาเรียของเขาที่เรย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมา
ตูม...บึ่ม...
เสียงวัตถุระเบิดจากการร่ายเวทของเรย์ ซึ่งเรย์ร่ายออกมาทีเดียวและเขาก็สามารถที่จะทำลายหอกที่อยู่ด้านหลังของหอกที่มากระทบกับบาเรียที่เขาสร้าวขึ้นเกือบหมด
ฉึก.....
“โอ้ย” เรย์ที่ไม่ทันระวังตัว
“นี้มัน หอกเวทนี่หน่า เล่นแรงขนาดนี้เฉียว กะจะฆ่ากันเลยหรือไง” เรย์บ่นในขณะที่เขาก็ใช้เวทรักษาแผลที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
“ได้ งั้นก็จะเล่นแรงๆ เหมือนกัน” เมื่อเรย์พูดจบ เขาก็รู้สึกถึงหอกที่พุ่งมาจากทิศทางต่างๆ แต่คราวนี้เขาไม่ได้ร่ายเวทป้องกันเอาไว้
“วาเวสวิฟา ลัมมาเนีย” เกิดลมขึ้นรอบๆ ตัวของเรย์ซึ่งเมื่อหอกมาโดนลมเหล่านี้ก็ถูกหักเหทิศทางออก และ
“เอสวาโซล” และเรย์ก็กระแทกไม้เท้าลงกับพื้น ซึ่งทำให้กระแสลมนั้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งแผ่กว้างออกไปซึ่งทำให้หอกที่พุ่งมากระเด็นไปยังทางอื่น
“เอ๊ะ นี่มันมิติแห่งแสงหนิ” เมื่อเรย์รู้สึกว่าคล้ายๆ ดังที่เขาเคยให้เดียร์บอกกับมิติที่ใช้ในการจู่โจมศึตรู
“งั้นแสดงว่าถ้าเราสามารถแก้ได้เราก็ออกจากการต่อสู้นี้สินะ ดี”
เมื่อเรย์ตัดสินใจอย่างนั้นแล้ว เรย์ก็ร่ายเวทป้องกันระดับสองขึ้นมาซึ่งบาเรียนี้เป็นสีแดง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าสีฟ้าที่เรย์ร่ายขึ้นก่อนหน้านี้ และเขาก็ร่ายบทเวทแก้มิตแห่งแสง
“งั้นต้องทำให้ครบเงื่อนไขก่อนเป็นอันดับแรก”
ปึกๆๆๆๆๆ..... เสียงของหอกและธนูที่กระทบถูกบาเรียสีแดงที่เขาร่ายขึ้นมา
“เงื่อนไขแรก ไฟสีขาวแห่งแสง”
“ซูมาสโนว์ไฟญ์โวล” ปรากฎวงเวทสีเหลืองขึ้นมารอบตัวของเรย์
“โฟว์ไลม์โวล ซุน” ไฟสีขาวปรากฎขึ้นบนวงกลมเล็กๆ บนวงเวทที่ล้อมตัวเรย์อยู่
“เงื่อนไขที่สอง สายน้ำแห่งรัตกาล”
“รัติกาลแห่งความมืด ซัลฟาเรน่า อัลลิเมท” สายน้ำที่เรย์เคยร่ายขึ้นตอนจัดการกับเวทไฟแห่งแสงปรากฎขึ้นอยู่วงกลมเล็กๆ ข้างๆ กับไฟสีขาว
“และเงื่อนไขสุดท้าย เลือดของผู้ร่ายหนึ่งหยด” เรย์ยื่นมือไปข้างหน้าและใช้เวทแห่งลมทำให้เขาเกิดแผลที่ปลายนิ้วกลางของตน และรักษาในทันที ส่วนเลือดของเรย์นั้นก็ลอยไปอยู่ที่วงกลมที่เหลือ และ
“ซูมาสโนว์ไฟญ์โวล ซุนเอเกดรอซัมมูล”
วูมมม......
เมื่อเรย์ร่ายเวทเสร็จเรย์ก็เห็นประตูที่อยู่ด้านหน้าของเขาและเรย์ก็ก้าวเข้าไปในประตู และพบกับห้องครัวของเขาที่บัดนี้เต็มไปด้วยบุคคลที่ใส่ชุดดำทั้งหมดยกเว้นแต่คุณตาของเรย์เท่านั้นที่ไม่ใส่ชุดดำซึ่งเขากำลังยิ้มอยู่
“ว่าไงเจ้าตัวยุ่ง” คุณตาพูดขึ้นมาหลังจากที่เรย์ออกจากมิติแห่งแสง และประตูมิติหายไป
“ทำได้ดีทีเดียวนะหลานตา”
เรย์ ตกตะลึงกับคำพูดของตาของตัวเองเพราะว่าตลอดทั้งสองเดือนที่ผ่านมาเรย์ ไม่เคยได้ยินคำชมเชยจากตาสักครั้งเดียว แม้แต่ในขณะที่เขาสามารถใช้เวทยากๆ ได้ก็ตามที
“มากินข้าวก่อนแล้วกันนะ” บิชอบอีวาสเรียก และกวักมือให้มานั้งลงข้างๆ ตัวเอง
“คนพวกนี้เป็นใครฮะตา” เรย์ถามขึ้น ซึ่งตอนนี้เรย์ยังยืนอยู่ที่เดิมที่เขาก้าวออกมาจากมิติ
“อ้อ พวกนี้เหรอ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกนี้ไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่า” คุณตาพูดอย่างเซ็งๆ แล้วยืนขึ้น
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน” คุณตาเดินมาข้างๆ เรย์ที่ซึ่งยังยืนอยู่ที่เดิม
“ขอแนะนำพวกท่านให้รู้จักกับหนุ่มน้อยผู้นี้อย่างเป็นทางการก่อนนะ”
“นี้คือ เรย์ มาร์แชง บุตรของ master และ minister มาร์แชง หน่ะ” ตาพูดอย่างภาคภูมิใจ
“แล้วคนพวกนี้ที่เธอว่าคือ กลุ่มคณาจารย์จากโรงเรียนเวทย์ฮัสก้าที่เธอจะไปเรียน”
“อะไรนะ........”
“อาจารย์จากโรงเรียนงั้นหรอ”
เรย์ผู้ที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของอาจารย์จากโรงเรียนเกือบทั้งหมด เนื่องจากเรย์ตกใจ เพราะการมาของอาจารย์ทั้งหลายมาโดยที่เรย์ไม่ได้ตัวต้อนรับแม้แต่นิดเดียว
“สวัสดี” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มของคนที่ใส่ชุดสีดำ
“จำฉันได้รึเปล่า เรย์” เมื่อคนนั้นพูดเสร็จเขาก็ดึงฮูดลงมาจึงทำให้เรย์จำได้ว่าเขาคือ อาจารย์เน้ปป้า ที่เคยมาหาเขาและพาไปซื้อของที่ย่านมนตราควีนัส
“อ้อ สวัสดีครับ อาจารย์เน้ปป้า”
“จำได้สิครับอาจารย์ แต่อาจารย์ท่านอื่นๆ ผมไม่รู้จักครับ” เรย์พูดอย่างเคารพที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะว่าเรย์ก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับอาจารย์ที่จะสอนเขาในอนาคต
“ไม่เป็นไรหรอกเรย์เดี๋ยวเธอก็ได้รู้จักเองนั้นแหละ” อาจารย์เน้ปป้าพูด และอาจารย์เน้ปป้าก็เดินตรงมาหาเรย์ และวางมือของเขาลงบนบ่าของเรย์ ซึ่งทำให้เรย์รู้สึกถึงพลังของอาจารย์เน้ปป้าเลยว่าเขาเป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่งหากคิดที่จะต่อกรด้วย
“เรย์ ที่พวกเราคณาจารย์มาในวันนี้นะมีเรื่องอยากให้เธอทำ”
“จะให้ผมทำอะไรหรอครับ” เรย์ตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะสามารถทำได้รึเปล่า
“เราอยากให้เธอไปที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้ แล้วฉันจะเป็นคนบอกเธอเอง”
“แต่ครูครับ อีกตั้งหลายวันนะครับกว่าที่จะเปิดเทอม” เรย์เถียง
“เรย์ รับปากครูสิว่าเธอจะไป” อาจารย์เน้ปป้าเน้นเสียงแน้นึ่งทำให้เรย์รู้ทันที่ว่าเขาไม่สามารถที่จะเถียงได้
“ครับผมจะไป” เรย์ ตอบอย่างจนมุม
“เธอคงรู้นะว่าจะไปได้อย่างไร” เสียงของอาจารย์เน้ปป้ากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
“แล้วผมต้องเอาอะไรไปด้วยหรอครับ” เรย์ถาม เพราะว่าเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องเอาไรไปบ้าง นอกจากข้าวของส่วนตัว
“เอาไปเฉพาะที่เธอคิดว่าจำเป็นแล้วกันนะ” อาจารย์เน้ปป้าบอกแล้วก็เดินจากไป
“แล้วเจอกันที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้นะ” อาจารย์เน้ปป้าบอก
เมื่ออาจารย์เน้ปป้าเดินเข้าไปในหมู่ของกลุ่มที่ใส่ชุดสีดำแล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นพร้อมกันทุกคน มีอาจารย์ท่านหนึ่งเรียกไม้เท้าออกมาและร่ายเวทเคลื่อนหายตัวแบบกลุ่ม(อันนี้เรย์ไม่รู้แต่คุณตาเป็นคนบอก) เมื่อคนนั้นร่ายมนต์เรียบร้อยแล้วกลุ่มอาจารย์ในชุดคลุมสีดำปกปิดหน้าก็หายไปในทันที
....วันนี้ท่านทำได้ดีมาก เรย์ มาร์แชง บุตรแห่ง master และ minister มาร์แชง....
เสียงที่เรย์ได้ยินนี้เป็นเสียงที่ฟังดูมีอำนาจและมีความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้เรย์ตกใจมากเพราะว่าเรย์ถามตาว่าตาได้ยินด้วยรึเปล่าตาก็บอกว่าไม่ได้ยิน ดังนั้นเรย์ จึงไม่คิดที่จะเล่าต่อ แต่เขากลับสนใจอาหารด้านหน้ามากกว่าที่จะคิดเรื่องที่ตนไม่รู้ เมื่อเรย์กินอาหารเช้าเสร็จแล้วตาของเรย์ก็บอกให้เรย์ไปเก็บของเพื่อที่เตรียมตัวจะไปโรงเรียน เมื่อได้คำสั่งจากตาเรียบร้อยแล้ว เรย์ก็เดินขึ้นไปยังห้องของตนเองและเริ่มที่จะเก็บของที่ตนเองคิดว่าจำเป็นที่สุดทุกอย่างและไม่ลืมของที่เขาซื้อมาจากย่านมนตราควีนัส ซึ่งเมื่อเรย์เก็บของเสร็จแล้วเขาก็พบว่าตอนนี้เย็นมากแล้วจึงนำของมากองกันไว้(ปริมาณของของเรย์นั้นต้องทำให้คุณตาต้องตะลึงเป็นที่สุด)
“เฮ้ย เอาไปมากขนาดนี้เชียว” คุณตาอุทานออกมา
“ครับ ทุกอย่างจำเป็นสำหรับผมที่สุดแล้ว” เรย์บอกกับตาด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าห้ามเอาออกเด็ดขาด
ความคิดเห็น