คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : part 8 ทำไมจะไม่เข้าใจ...ความรัก
Part 8 ใครบอก...ผมไม่เคยมีความรัก
สองสัปดาห์ผ่านไป
ฮเยซอง นั่งเซ็นต์เอกสารอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ไม่เคยเป็นมากก่อน ความรู้สึกของเขาจะอธิบายให้ใครเข้าใจคงยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร จึงได้แต่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้า ๆ จนจวนเจียนจะได้เวลาเลิกงานอยู่รอมร่อ
ทันใดนั้น ก็มีเสียสัญญาณสายในของโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น ฮเยซองชั่งใจอยู่นานในที่สุดก็ตัดสินใจที่รับโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“พี่ฮเยซอง ผมอยู่ข้างล่างกำลังจะขึ้นไปหา อย่าเพิ่งไปไหนนะฮะ ตืด..ตืด..ตืด....” เสียงใส ๆ ของคนที่เขายังไม่พร้อมที่จะเจอดังมาตาสาย และตัดไปเสียดื้อ ๆ
“แอนดี้กำลังจะขึ้นมาหา” ฮเยซองยังไม่วางสายแม้จะถูกตัด สมองเริ่มใช้งานทันที “เขาควรจะอยู่รอหรือจะรีบเดินออกจากห้องไปเสียตอนนี้” ขณะที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ฮเยซอง หันมองไปที่ประตูห้องทำงาน เขารีบวางโทรศัพท์ในมือคว้าเสื้อโค๊ดขาว เดินออกจากห้องผ่านทางประตูที่เชื่อมติดกับห้องประชุมเล็กอย่างรีบเร่ง ตรงไปยังบันได ทันที่ที่ลงมาถึงชั้นล่างของอาคาร ฮเยซองก็ตรงไปเรียกรถแท็กซี่
“ไป NC Club ครับ” แท็กซี่เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังสถานที่ตามผู้ว่าจ้างบอกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย ก่อนร้านจะเปิดเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงจะแม้ร้านจะยังไม่เปิด ฮเยซองก็สามารถเขาไปได้ในฐานะแขกคนพิเศษ และทันที่ก้นสัมผัสโซฟานุ่มด้านในสุดของร้าน เครื่องดื่มแอลกฮอล์ชั้นดี ก็มาว่างตรงหน้า มองตราเช่ ไวน์ขาวราคาแพงขึ้นชื่อของร้าน
“วันนี้ก็ยังมาคนเดี่ยวเหมือนเดิม” ชายวัย 50 ต้น ๆ ทัก พร้อมกับรินไวน์ขาวออกจากขวด
“ขอบคุณครับ ” ฮเยซองกล่าวอย่างสุภาพและเป็นทางการ เนื่องจากเห็นว่าคนที่รินไวน์ให้ไม่ใช่บริกรของทางร้านเหมือนอย่างเคย หากเป็นคุณลุงวัยกลางคนที่แอบด่อม ๆ มอง ๆ เขาอยู่หลายครั้ง เคยคิดจะเข้าไปทักแต่คุณลุงก็มักจะหายตัวไปซะก่อน
“เรารู้จักผมหรือเปล่าครับ” เมื่อสบโอกาสเขาจึงถามให้หายข้องใจ แต่ชายวัยกลางคนเพียงแค่ส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร ทิ้งปริศนาไว้ให้สงสัยต่อไป
ฮเยซองนั่งจิบไวน์ไปพลาง คบคิดกับเรื่องของตัวเองไปพลาง จากร้านที่มีเพียงเขานั่งอยู่คนเดี่ยว บริกร 3-4 คนที่และ บาร์เทนเดอร์ ก็เริ่มมีหนุ่มหน้าตาดี หลากหลายอายุเดินเข้ามาในร้านกันเป็นระยะ พอได้เวลาร้านเปิด สาวน้อย สาวใหญ่ พนักงานบริษัทไปจนถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ตบเท้ากันเข้ามานั่งเต็มหมดทุกโต๊ะ ร้านที่ดูกว้างขวางแคบลงไปถนัดใจ
จำนวนคนที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ร้านวุ้นวาย หรือมีใครมารบกวนเขาอย่างที่ควรจะเป็น จะมีอยู่บางก็เพียงแค่สายตาจากสาว ๆ ที่มองเขาอยู่เป็นระยะ
“แอบหนีมาหลบอยู่นี้อีกแล้วนะครับคุณชาย” เสียงที่คุ้นเคยดังแทรกเสียงเพลงเบา ๆ ที่เปิดคลอเพื่อสร้างบรรยากาศภายในร้าน ไม่ต้องมองก็รู้ว่าใคร
จอนจอนภายใต้โค๊ดสีดำสวมทับเสื้อคอเต่าสีขาว ที่อกข้างซ้ายตรงปกเสื่อติดดอกกุหลาบสีดำทำจากผ้ากำมะหยี่ 2 ดอก มีสายโซ่เล็ก ๆ สีเงินเชื่อมติดมันกับกระดุมเม็ดบนเสื่ออีกฝั่ง รับกับผมสีดำเข้มส่งให้คนสวมใส่ดูอยู่แล้วกลับยิ่งดูขึ้นไปอีก
“ฉันก็แค่มานั่งดื่มไวน์ตามปกติทุกวัน ไม่ได้หลบใครที่ไหน”
“พรวดพลาดออกจากบริษัท ทั้งที่แอนดี้เคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่เรียกว่าหลบแล้วเรียกว่าอะไรครับ”
“หูตาเป็นสัปปะรดรึงไงนาย” ฮเยซองว่างแก้วไวน์กระแทกลงบนโต๊ะ
“ปานนี้เจ้าตัวคงรู้แล้วมั้งคุณชายตั้งใจหลบหน้า”
“ฉันให้นายไปบอกแล้วนิว่างานยุ่ง”
“แต่มานั่งดื่มไวน์ที่นี้ทุกวัน ไปหาที่ทำงานก็ไม่เจอ แบบนี้เหรอที่ครับเรียกว่างานยุ่ง”
ฮเยซองยกแก้วไวน์ที่เหลือขึ้นดื่มรวดเดี่ยวหมด โดยที่ไม่คิดจะตอบ
“คิดจะหลบหน้าไปตลอดรึไงครับ” ฮเยซองยังคงกระดกไวน์จนหมดโดยไม่สนใจจะตอบถามเช่นเคย
“ไหนว่าจะแย่งเขามาให้ได้ ทำตัวอ่อนแอแบบนี้ ไม่ใช้แค่เฉพาะแอนดี้ เป็นผมก็ไม่รักคุณชาย”
“ฉันก็ไม่ได้อยากให้นายมารักนิ” ฮเยซองลุกขึ้นยืนประจันหน้า กลืนไวน์ลงคอจนหมดอีกแก้วหน้าขาว ๆ เริ่มขึ้นสีเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ บวกกับแรงโกรธที่ถูกพูดแทงใจดำ
“ผมรู้อยู่แล้ว คุณชายไม่ต้องมาบอกผมหรอก คนอย่างผมมันก็แค่ ข้ารับใช้คนนึงเท่านั้น”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องเตือนให้เปลืองน้ำลาย”
“ผมไม่เคยลืมหรอกนะว่าผมเป็นใคร คุณชายต่างหากที่ลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นใครถึงได้แยกแยะไม่ออกว่าอันไหนเรื่องงาน อันไหนเรื่องส่วนตัว”
“จอนจิน นายถือดียังไงถึงได้กล้าว่าฉัน”
“ผมถือดี ที่ห่วงคุณชายนะซิ” จอนจินไม่ได้แค่พูดเท่านั้น หากแต่ยังสื่อมันออกมาทางสายตาอีกด้วย
“คนที่ไม่เคยมีความรักอย่างนายไม่มีทางเข้าใจ ว่าฉันรู้สึกยังไง” ความห่วงใยที่จอนจินมีให้ ฮเยซองเองก็รู้ดีมากที่สุด นำเสียงที่พูดจึงดูเย็นลง
“ผมจะเข้าใจความรู้สึกของคุณชายได้ยังไงถ้าคุณชายไม่พูด ทำไมต้องหลบหน้าทั้ง ๆ ที่อยากเจอ”
“ฉันกลัว กลัวว่าจะต้องเจ็บกว่าเดิม” ฮเยซองทรุดตัวลงบนโซฟาเหมือนคนหมดแรง
“การที่คุณชายหลบหน้ามันก็ไม่ได้ทำให้เจ็บน้อยลง” จอนจินเดินไปนั่งข้าง ๆ กุมมือฮเยซองไว้
“แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บมากขึ้น”
“แน่ใจหรือครับว่าคุณชายรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ไม่ใช่กำลังหลอกตัวเองอยู่”
“คนที่ไม่เคยมีความรักอย่างนาย ไม่มีทางเข้าใจ” ฮเยซองสลัดมือที่ถูกเกาะกุมออกเทไวน์ขึ้นดื่ม
“ใครบอกละครับว่าผมไม่มีเคยมีความรัก บางที่ผมอาจจะรู้จักมันดีกว่าคุณชายซะอีก”
“นายมีแฟนแล้วเหรอ”
“อยากเรียกว่าแฟนเลยครับ มันเป็นแค่รักข้างเดี่ยว เหมือนที่คุณชายรักแอนดี้”
“ทำไมนายไม่เคยบอกฉัน”
“คุณชายจะไปบังคับให้เขามารักผมรึไงครับ”
“ฉันรู้จักหรือเปล่าละ”
“คุณชายรู้จักเขาดีมากกว่าผมซะอีก”
“นายกับเธอยังเจอกันอยู่ไหม”
“ไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่ได้เห็นหน้าเขา”
“นายบอกฉันได้ไหมว่าเขาเป็นใคร”
“วันนึงผมจะบอกให้คุณชายครับ ขอตัวไปไปทำงานก่อนนะครับ”
“วันนี้นายจะไม่ดื่มเป็นเพื่อฉันเหรอ”
“เป็นโฮสต์ หมายเลข 1 ก็ใช่ว่าจะทำตามใจตามใจตัวเองได้ทุกวัน คนอื่นจะเขม่นเอาได้”
“ฉันน่าจะไปดื่มที่อื่น นายจะได้ไม่ต้องขาดงาน”
“อยากดีกว่าครับเกิดคุณชายเมา โดนหิ้วไปไหน ๆ คุณท่านได้ลุกมาบีบคอผมพอดี” ฮเยซองยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าเห็นกับประโยคสุดท้าย เรื่องห่วงลูกพ่อเขาละขึ้นชื่อเป็นที่หนึ่ง
“จอนจิน นายโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ”
“ใคร ๆ เขาก็เห็นผมโตเป็นผู้ใหญ่มาตั้งนานแล้ว มีแต่คุณชายนั้นแหละที่ยังเห็นผมเป็นเด็ก” พูดจบจอนจินก็ลุกจากโซฟา “ผมไปละครับขาประจำผมมาเดินมาโน้นแล้ว แล้วผมจะหาคนมานั่งเป็นเพื่อนให้”
“จอนจิน ฉันขอโทษที่ว่านาย”
“เรื่องไหนละครับ”
“ก็ทุกเรื่องนั้นแหละ”
“ครับคุณชาย” จอนจินไปรับหญิงสาวที่หน้าร้าน แต่ก็ไม่ลืมจะคว้าโทรศัพท์หาใครคนนึง
.
..
...
เวลาผ่านมาจนเกือบสี่ทุ่ม ที่โต๊ะด้านในสุดของร้าน ชายหนุ่มหน้าสวย ยังคนนั่งดื่มไวน์อยู่คนเดี่ยว ทั้งที่คนที่นั่งโต๊ะอยู่ข้าง ๆ บอกว่าจะหาเพื่อนมาให้ แต่จนแล้วจนรอดไม่มีวี่แวว
“เป็นไรไปวะ” ชายหนุ่มหนึ่งในโฮสต์ของร้านเดินมาสั่งเครื่องดื่มที่บาร์ ถามเพื่อนรวมอาชีพทำหน้าเหมือนคนท้องผูก
“ก็คุณชายหน้าสวยนั้นดิ มานั่งทำไมได้นะทุกวัน ไม่ใช่ที่สำหรับผู้ชายจะมานั่งดื่มซักหน่อย” คนตอบ ตอบอย่างเซ็ง ๆ
“ทำไมละก็ดีออก เขามานั่งเป็นนางควัก แขกเข้าร้านแน่นทุกวัน”
“ก็เพราะงั้นแหละหน้าฉันถึงเป็นงี้ไง”
“อิจฉาที่เห็นหล่อกว่าอะดิ”
“ทำไมต้องอิจฉา ใคร ๆ ก็ชมว่าฉันหล่อกว่าพี่จอนจินซะอีก แถมยังหนุ่มกว่าอีกด้วย”
“หนุ่มกว่า หล่อกว่าแล้วไหง ต้องมานั่งหน้าหงิกอยู่นี้ ผู้หญิงพวกนั้น เขามาก็เพื่อให้เราเอาใจ แกเล่นให้เขาเอาใจสั่งโน้นสั่งนี้ให้แกกิน ผู้หญิงที่ไหนจะชอบ”
“ก็มันหิวนิ”
“ท้องนายมันกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มรึไง ห๊า! ตอนกินข้าวก็แย่งฉันกินตลอด หรือแอบชอบเขาวะ”
“ไอ้บ้าคิดได้ไง ถ้าน่ารักรึก็ว่าไปอย่าง”
“ทำไม เขาก็สวยดีออกนะ”
“ไม่เอาหรอกฉันขอบน่ารัก ๆ ดีกว่า”
“คนอะไร ผู้หญิงสวย ๆ น่ารักมีอยู่เต็มร้านไม่ชอบดันชอบผู้ชาย”
“พูดเหมือนแกไม่ชอบ”
“ก็ชอบนะซิ ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนกันได้ไง” 555555+ หัวเราะประสานเสียงอย่างอารมณ์ดี บาร์เทนเดอร์ที่ยืนฟังอย่างไม่ได้ตั้งใจก็พลอยนึกขำไปด้วย ร้านนี้มันแปลกดีเหนอะ ทำงานให้บริการผู้หญิงแต่ดันชอบผู้ชายกันจะทั้งร้าน สงสัยเจอผู้หญิงมากก็เลยเบื่อ แต่คุณบาร์เทนเดอร์ก็ไม่ได้พูดออกมากนอกจากก้มหน้าขำคิก ๆ อยู่เดียว
“ขอโทษนะฮะ” เสียงที่ไม่คุ้นหูทำให้บาร์เทนเดอร์เงยหน้าขึ้นดู “คุณจอนจินนั่งอยู่ไหนทราบไมฮะ”
“คุณแอนดี้ กับคุณเอริคใช่ไหมครับ”
“ใช่ฮะ” แอนดี้ยิ้มรับ ส่วนอีกคนก็แค่พยักหน้าพอเป็นพีธี สนใจไอ้สองตัวที่นั่งอยู่ก่อนมากกว่า
“คุณจอนจินให้คุณสองคนไปรอที่โต๊ะด้านในสุดครับ” บาร์เทนเดอร์บอกพลางชี้เมื่อไปที่โต๊ะที่ใครบางคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณฮะ” แอนดี้ยิ้มน่ารักเป็นการขอบคุณแทมให้ด้วย ก่อนจะหันมายิ้มทักทายให้อีกสองคนที่เพิ่งสังเกตเห็นว่ากำลังมองเขาอยู่แล้วก็เดินผ่านไป ส่วนเอริคส่งสายขู่เป็นการทักทาย
.........................................
คุณพ่อค่ะ คุณพ่อค่ะ เด็กหญิงวัยน่ารักผิวขาว แก้มอมชมพู่เอ่ยเสียงเจื่อยแจ้ว วิ่งเข้ามาในโบสถ์
“มีอะไรรึจ๊ะ โซฮี”
“มีคนมาหาคุณพ่อนะค่ะ นั่งกินราเมงชามโต๊..โตอยู่หน้าโบสถ์ละ เขาแบ่งให้โซฮีกินด้วยละอร่อยมาก ๆ เลย”
“ทำไมโซฮี ไม่พาเขาเข้ามาละ”
“เขาไม่ยอมเข้ามานะค่ะ บอกว่าเดี่ยวร้อน”
“งั้นโซฮี ไปพาเขาไปรอพ่ออยู่ที่ห้องหนังสือที่นะ เดี่ยวพ่อเสร็จธุระทางนี้แล้วจะตาม”
“ค่ะคุณพ่อ” เด็กน้อยรับคำ วิ่งออกจากโบสถ์ไปอย่างร่าเริง ปากก็ตะโกน
“คุณลุงราเมงขาาาา~ คุณลุง...” ดีใจที่จะได้ราเมงชามโตนั้นเป็นของรางวัล
........................................................................................(^_^) ..........................................................................................
ความคิดเห็น