คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : part 7 ความทรงจำครั้งใหม่
ภาย ในห้องนอน แอนดี้ในชุดเสื่อยืดสีขาวตัวหลวมของเอริคนั่งเอนหลังอยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมไว้ตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้า
“หวัดดีฮะพี่ฮเยซอง ไงจอนจิน” แอนดี้ทักทายขณะขยี้ตาเล็ก ๆ และหาวโชว์เป็นการบอกให้รู้ว่าเขาเพิ่งตื่นนอนจริง ๆ
“ไงตัวเล็กยังง่วงอยู่อีกเหรอ” ฮเยซองย่อนก้นลงบนเตียงนุ่น มองหน้าแอนดี้ด้วยความเป็นห่วง
“นิดหน่อยนะฮะ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย”
“มั่วแต่ทำไรอยู่ละ ถึงได้นอนดึกนัก นายเดินทางมาเหนื่อย ๆ ควรจะพักผ่อนนะรู้ไหม” แม้จะเต็มไปด้วยคำตำหนิแต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใยที่คนร่างบางมีต่อคนตัวเล็ก และดูเหมือนคนตัวเล็กเองก็รับรู้ จึงส่งยิ้มบาง ๆ แทนการขอบคุณ ก่อนจะบอกถึงสาเหตุที่ตนต้องนอนดึก
“ผมยังไม่ง่วงเลยลงไปเดินเล่นฮะ เจอจอนจินก็เลยคุยด้วยซะนาน”
“นายสองแอบไปคุยกันนี้เอง เช้านี้จินมันถึงเรียกชื่อนายซะสนิทเชียว แล้วคุยเรื่องอะไรกันละ”
“เป็นความลับฮะ บอกไม่ได้” แอนดี้ส่งยิ้มให้จอนจินที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเตียงเขานัก สร้างความฉงนให้กับฮเยซองกแต่ก็ไม่ได้ติดใจจะถาม ด้วยสาเหตุมารบกวนคนเพิ่งตื่นนอนวันนี้สำคัญกว่า
แต่ในขณะเดี่ยวเอริคกลับมีสีหน้าไม่พอใจ ที่เห็นแอนดี้ส่งยิ้มหวานให้จอนจิน เอริคจึงเดินไปกระโดดขึ้นเตียง โอบไหล่ให้คนตัวเล็กเอนตัวซบลงมาที่เขา
“นายหายไปคุยกับจินมันนี้เอง ฉันก็นึกเป็นห่วง ที่หลังถ้านายจะไปไหนอีกบอกฉันก่อนนะตัวเล็ก รู้ไหมไม่มีนายนอนอยู่ข้าง ๆ แล้วฉันนอนไมหลับเลย” ท่าทางออดอ้อน น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจที่คนรักหายไปไม่บอก ผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างริบรับแอนดี้แถบอยากจะเขกหัว ส่วนสองคนที่ไม่รู้อะไรก็ทำท่าจะสำรอกเอาของในกระเพาะออกมา
“ก็อยากจะบอกอยู่หรอกฮะ แต่เห็นนอนกรนจนบ้านจะแตก ก็เลยไม่อยากกวน” แอนดี้หันไปส่งฆ้อนให้ 1 ดอก
“ก็เพราะนอนไม่หลับนะซิ ฉันถึงกรนนะตัวเล็ก” เอริคยังคงแถไปได้ แอนดี้ก้ไม่อยากจะสนใจให้เสียอารมณ์
.
“เลิกนอกเรื่องกันดีกว่าฮะ พี่ฮเยซองมาหาผมมีอะไรหรือเปล่า”
“อ๊ะ จริงซิเกือบลืมไปเลย พี่อยากให้นายช่วยหาคน ๆ นึงให้พี่หน่อย”
“คน ๆ นึง เขาเป็นใครกันเหรอฮะ แล้วทำไมพี่ต้องตามหาเขาด้วย”
“เขาเป็นน้องชายของพี่เอง”
“น้องชาย!”
“ซอง! นายมีน้องชายกับเขาด้วยเหรอ ไม่เคยเห็นเล่าให้ฟัง”
“มีอะไรฉันต้องเล่าให้นายฟังทุกเรื่องเลยหรือไงเอริค”
“ที่ฉันยังเล่าให้นายฟังทุกเรื่องเลย”
“ก็ฉันไม่ได้ปากสว่างเหมือนแกนิ”
“พอเถอะฮะ พี่สองคนจะคุยกันดี ๆ ได้เกิน 10 นาทีบางไหม ” สองหนุ่มก้มหน้านิ่ง “พี่เอริคไปที่อื่นก่อนได้ไหมฮะ”
“ฉันเหรอ! แอนดี้อา~ เรื่องนี้ฉันไม่ได้ผิดซะหน่อย”
“จะไปไม่ ไปฮะ” เอริคหลบตาต่ำ เดินหายออกไปจาห้องตามคำขอของคนตัวเล็ก
“พี่ก็ไปด้วยดีกว่านะ นายจะได้พักผ่อน ดูนายจะอารมณ์ไม่คอยดี”
“เดี่ยวซิฮะ” แอนดี้ยกแขนที่ซุกใต้ผ้าห่มขึ้นคว้ามือฮเยซองไว้ “ผมเปล่าหงุดหงิดพี่นะ ที่ไล่พี่เอริคเพราะไม่อยากให้อยู่ขัด พี่เล่าเรื่องน้องพี่เถอะฮะ”
“แน่ใจนะว่านายไม่อยากพักผ่อนก่อน”
“ฮะ แน่ใจ” เมื่อได้ยินคำยืนยังจากแอนดี้ฮเยซองจึงลงนั่งกลับไปที่เดิม เริ่มเล่าถึงเรื่องน้องชายตัวเองที่หายไป โดยมีจอนจินคอยช่วยเสริมในส่วนของการตามหา ขณะที่เล่าไปก็เล่นมือแอนดี้ไปพลางนั้นเอง ฮเยซองก็สังเกตเห็นรอยเขียวที่ข้อมือ
“แอนดี้ข้อมือนายไปโดนอะไรมานะ” ฮเยซองยกขึ้นมาดูใกล้ แอนดี้เองก็รับชักมือกลับเข้ามา
“เปล่าฮะ”
“เปล่าได้ไง เมื่อวานยังไม่มีมีเลยใช่มั้ยจอนจิน”
“ครับ”
“แอนดี้ที่คอนายก็มีนี้ ไหนดูซิ”
“อย่าฮะพี่ ผมไม่เป็นไหร่” แอนดี้พยามปิดรอยเขียวช้ำ แต่ยิ่งปิดฮเยซองก็ยิ่งเห็นรอยช้ำตามตัวมาก รวมไปเถอะคราบสีน้ำตาลเข้มบนเตียงนอน
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น นายปิดปังอะไรฉันอยู่แอนดี้”
“เปล่าฮะ ผมไม่ได้ปิดปังอะไร”
“ถ้าไม่ได้ปิดปัง นายถอดเสื่อให้ฉันดูหน่อยได้มั้ยละ”
“เอ่อ” แอนดี้ทำอะไรไม่ถูก
“จินนายมาจับตัวแอนดี้ไว้”
“อย่านะจอนจิน”
“โทษทีนะแอนดี้ ฉันขัดคำสั่งคุณชายไม่ได้”
“อย่านะฮะะพี่ฮเยซอง อย่า!”
...................................................................................................................................................................................
เพียงได้ยินเสียงแอนดี้ออกปากไปไล่ไปที่อื่น ใจผมมันก็หล่นไปที่ตาตุ่ม ขาของผมค่อย ๆ เดินตรงไปยังเป้าหมาย ห้องน้ำเป็นที่อื่นที่ผมเลือก ผมไม่อยากไปไหนที่ไกลกว่านี้โดยเฉพาะการเดินออกไปจากห้อง ห้องที่ผมอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า มาอีก
ผมมองตัวเองในกระจกเหมือนคนแปลกหน้า “นายจะเอาไงแน่” ผมถามราวกับไม่รู้จักตัวเอง ใช่ผมไม่รู้จักตัวเอง ความอิจฉา เคียดแค้น ชิงชังแอนดี้ที่สามารถทำให้ฮเยซองรักเขาได้มากมาย ความเสียใจ เจ็บปวดที่ฮเยซองไม่เคยเห็นความรักที่ผมมอบให้ มันอยากทำให้คนทั้งคู่เจ็บอย่างที่ผมเจ็บ
แผนการหลอกให้แอนดี้แต่งงานด้วย เพื่อทำให้ฮเยซองเจ็บปวดจึงเกิดขึ้น และผมทำมันสำเร็จได้อย่างไม่อยากเย็น แต่กลับแอนดี้ ใจผมกลับทำร้ายเขาไม่ลง เส้นกันความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาจึงถูกกำหนดขึ้นอย่างตั้งใจ ป้องกันไม่ให้ผมต้องทำร้ายโดยการสร้างตราบาป แต่สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนมันช่างเนื่องความคาดหมาย
ภาพที่แอนดี้กับจอนจินพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนรู้จักกันมานาน ทำให้ผมรู้สึกว่าแอนดี้ที่เปรียมเสมือนของตายจะไม่ใช่ของตายสำหรับผมอีกต่อไป สติที่ผมมีคอยขาดลงที่ละน้อย ๆ และขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเห็นเขาทั้งคู่กอดกัน แอนดี้กำลังมอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่เคยให้ผมกับคนอื่น เส้นที่ขีดไว้จึงถูกลบด้วยมือของผมเอง
ผมขื่นใจแอนดี้เพราะความขาดสติ แต่มันก็เพียงชั่วครู่ ที่เหลือผมมีสติดีทุกอย่าง แต่ผมก็ไม่คิดจะหยุด ทุกสัมผัส ทุกความรู้สึก ทุกเสียงร้องของแอนดี้มันทำให้ผมมีความสุขอย่างประหลาด และคิดว่าแอนดี้คงมีความสุขเช่นกัน
แต่เมือผมลืมตาตื่นขึ้นทุกอย่างก็ถูกปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
แอนดี้อาจไม่ได้มีความสุขอย่างที่ผมคิด และยังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่ ที่แย่ไปกว่านั้นคือผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไร
แต่แล้วทุกอย่างที่ผมคิดก็ต้องหยุดอยู่แค่นั้น
“อย่านะฮะะพี่ฮเยซอง อย่า!”
........................................................................................
ปัง !?! แอนดี้! เอริคถลาออกมาจากห้องน้ำมุ่งหาเจ้าของเสียงร้องเมื่อครู่ ผลักทั้งจอนจินและฮเยซองให้ออกห่างโดยไม่สนว่าคนทั้งคู่จะเจ็บแค่ไหน ก่อนจะดึงแอนดี้เขามาไว้ในแนบตัว
“นายทำอะไรนะ ซอง”
“ทำอะไร ฉันน่าจะเป็นฝ่ายถามนายมากกว่านะ แอนดี้ ไอ้รอยเขียว ๆ พวกนี้เอริคเป็นทำใช่ไหม”
“..........”
“ใช่มั้ยแอนดี้”
“............” แอนดี้ยังคงหลบหน้าไม่กล้าสบตา เอริคจึงเป็นฝ่ายที่บอกเสียเอง
“ใช่! ฉันเป็นคนทำเอง”
“เอริค ไอ้สารเลว” แถบไม่ต้องถามว่ามันเกิดมาจากอะไร คราบและรอยเขียวช้ำบอกเขาหมดทุกอย่าง
เลือดร้อนในกายวิ่งผล่านไปทั่วร่าง ฮเยซองเดินตรงเข้าปล่อยมัดกระทบปากเอริคเข้าอย่างจัง
คุณชาย!! เสียงจอนจินดังขึ้นมาด้วยความตกใจ ไม่คาดคิดว่าคุณชายจะถึงขนาดลงไม่ลงมือ
ในขณะที่แอนดี้ก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
เอริคก็เช่นกัน ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดเลือดที่ไหลซึมตรงมุมปาก แรงมัดเมื่อครู่ไม่ได้หนักหน่วงอะไร แต่โชคร้ายที่มันไปโดนแผลเก่าเข้าพอดีเท่านั้น แต่เขาก็ไม่คิดจะตอบโต้ มัดก็แค่ทำให้คนเจ็บตัว แต่คำพูดซิถึงทำให้คนเจ็บใจ
“สารเลว! ฉันมีอะไรกับเมียตัวเองมันผิดตรงไหน”
ทันทีที่คำว่า เมีย กระทบเข้าแก้วหู ฮเยซองก็ถึงกับกัดฟันกรอด เลือดร้อนเมื่อครู่เริ่มวิ่งผล่านขึ้นอีกครั้ง
“มันไม่ผิดอะไรหรอก ถ้าคนที่เป็นเมียเข้าเต็มใจ ไม่ใช่ว่าถูกบังคับ” คำพูดของฮเยซองก็ตอกกลับมาได้เจ็บแสบไม่แพ้กัน
ในขณะเดี่ยวกันแอนดี้ที่ถูกเรียกว่าเมียถึงสองครั้งสองคราก็หน้าชาทำอะไรไม่ถูก จอนจินเองก็อึดอัด เขาไม่ควรจะอยู่ตรงนี้เลย
“ฉันพูดถูกใช่มั้ยแอนดี้” เมื่ออีกฝ่ายหลบตา ไม่ตอบกลับ ฮเยซอง จึงหันมาเอาคำตอบจากอีกคน
“............” ไม่มีคำตอบจากคนตัวเล็กเช่นกัน แต่แค่ท่าทางอึกอัก เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น ยืนยันได้ว่าที่เข้าพูดไม่ผิดจากความจริงแม้แต่น้อย
“ไปเถอะ นายไม่ควรคู่กับเอริคเลยซักนิด” ฮเยซองดึงแอนดี้ขึ้นจากเตียง จนคนตัวเล็กเกือบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างเปลือยของตัวเองไว้ไม่ทัน
แต่เอริคเองก็มีความไวพอตัว คว้าเอาเอวคนตัวเล็กไว้ได้ทัน พร้อมกับส่งมือหนาปัดท่อนแขนเรียวให้หลุดออก ฮเยซองจึงเสียหลัก ดีจอนจินก็เข้ามาช่วยไว้จึงไม่ล้มลง
“ใช่ ฉันบังคับเขาเอง” เอริคตะคอกใสโดยมาสนอะไรอีกแล้ว “อยากรู้ว่าเพราะอะไรก็ถามคนของนายดูเอาเองแล้วกัน” เอริคมองจอนจินอย่างไม่สบอารมณ์ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะจอนจินเข้ามายุ่งกับคนของเขา
“นายมันก็ดีแต่หาข้ออ้างมาปัดความรับผิดชอบ ผู้ชายอย่างนายไม่มีทางทำให้แอนดี้มีความสุข เพราะนายดีแต่ทำร้ายเขาทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ” ฮเยซองคว้าแขนกระชากเอาคนตัวเล็กกลับคืนมา แต่เอริคก็เกร็งแขนไว้ไม่ปล่อยตัวเล็กไปง่าย ๆ ทั้งสองจึงต่างจ้องตากันแบบไม่สบอารมณ์สุด ๆ
สถานการณ์ที่เป็นอยู่จัดว่าเลวร้าย แอนดี้จึงอยู่เฉยไม่อีก ยังไงก็ต้องแยกสองคนนี้ออกจากกันให้ได้ก่อน
แม้จะขยับตัวได้แสนลำบาก เพราะร่างกายที่ปวดเมื่อย อีกทั้งน้ำเหนียว ๆ ที่ไหลมาตามขา แล้วยังผ้าห่มพื้นหนาที่เขาต้องจับไว้ แต่แอนดี้ก็พยายามออกแรงสบัดท่อนแขนให้หลุดจากมือฮเยซอง แล้วหันมาแกะมือหนาที่โอบรอบเอว
“พอกันได้แล้วฮะ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว” แอนดี้พูดขึ้นเมื่อร่างของเขาเป็นอิสระจากการยื้อแย้งของคนทั้งคู่
เขามองเอริค และฮเยซองสลับกันไปมา ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกพูดกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก่อน
“พี่ฮเยซองกลับไปเถอะฮะผมไม่ได้เป็นไรแล้ว ผมพูดจริง ๆ นะอะ ไม่พูดเพื่อให้พี่สบายใจ ผมไม่ได้ถูกบังคับอย่างที่พี่เข้าใจ มันเป็นความเต็มใจของผมเอง”
“แอนดี้ !”
“พี่สบายใจเถอะฮะ ผมไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ตอนนี้ผมอยากพักผ่อนแล้ว”
ฮเยซองยืนนิ่งราวกับรูปปั้น เขาไม่เข้าว่าแอนดี้ทำไมยังต้องปกป้อง ไม่โกรธเอริคเลยซักนิดเหรอที่โดนทำแบบนั้น ทั้งที่แค่เขาเห็นรอยเขียว ๆ ที่ข้อมือนั้นก็แทบอยากจะฆ่าคนทำให้ตายเสียเหลือเกิน
“จินนายช่วยพาพี่ออกไปทีนะ” เมื่อเห็นฮเยซองนิ่งไม่ขยับแอนดี้จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากจอนจิน
“ไปเถอะครับคุณชาย”
“ไม่ต้องฉันไปเองได้” ฮเยซองยอมเดินจากไปแต่โดยดี เพราะไม่รู้จะอยู่ต่อเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่อยากปกป้องไม่ต้องการเขา
“คุณ ๆ ชาย........ฉันไปนะแอนดี้ พี่เอริค” จอนจินรีบบอกลาแล้วเดินตามออกไปแต่ก็ไม่ลืมที่หันมาถามเรื่องที่คาใจ
“ไม่ใช่เพราะฉันใช่ไหม”
“ไม่ไช่เพราะ นายหรอก” แอนดี้ส่ายหัว ฝืนยิ้มตอบออกไป
เมื่อประตูห้องถูกปิดลง ร่างเล็กที่ฝืนทนก็ทรุดลงกับพื้น
“ตัวเล็กนายเป็นอะไร” เอริครับเข้าพยุง
“จะถามทำไมฮะ ก็รู้อยู่”
“นายยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอ บอกฮเยซองไปแบบนั้นนึกว่าหายโกรธแล้วซะอีก” เอริคปล่อยแอนดี้นั่งลงกับพื้น แล้วสวมกอดจากด้านหลัง ทิ่งคางไว้บนไหล่ที่เปลือยเปล่า
“ก็พูดไปงั้นแหละฮะ พี่เขาจะได้สบายใจ”
“ตัวเล็กเมื่อคืนนายไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง ฉันมีความสุขมากนะรู้มั้ย”
“พี่จะให้ผมรู้สึกอะไรละ ดีใจ มีความสุข หรือจะให้ลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นละ”
“แอนดี้อ่า~” เอริคจับให้คนตัวเล็กหันมาสบตา “ก็นายนะกอดจอนจินมันทำไมละ ฉันเห็นก็หึงนะซิ”
“ผมไม่ได้เพิ่งจะรักพี่เมื่อวานหรือวันนี้นะฮะ ผมรักพี่มาตั้งนานแล้ว ถ้าผมจะไปรักคนอื่น หรือมีใครใหม่ผมมีไปตั้งนานแล้วละ”
“ฉันรู้ ๆ ว่านายฉันมาตั้งนานแล้ว แต่ฉันก็อดไม่ได้ เมื่อคืนฉันผิด ฉันขอโทษ ฉันง้อนายแล้วนายก็คือดีกับฉันเถอะนะ” เอริค ยกนิ้วก้อยขึ้นมาง้อขอคืนดี
“ทำกับผมแบนนั้น จะมาง้อกันง่าย ๆ แบบนี้นะเหรอ”
“หายโกรธฉันนะ แล้วนายจะให้ฉันทำอะไรก็จะยอมทุกอย่าง”
“ทุกอย่างเลยเหรอฮะ”
“ใช่ นายจะเอาอะไร จะขออะไรฉันให้หมด”
“งั้นผมขอคิดดูก่อน” แอนดี้ทำหน้าคิดหนัก อยู่เป็นนาน
“ตัวเล็ก ทำไมคิดนานนักละ ฉันยกนิ้วก้อยรอจนเมื่อยแล้วนะ”
“ก็เมื่อคืนพี่ทำผมไว้เยอะนี่นา มันก็ต้องคิดนานกันหน่อยซิฮะ”
“แอนดี้ นี้นายแกล้งฉันหรือเปล่าเนี้ย”
“เปล่า ๆ ฮะ” แอนดี้สีหน้ามีพิรุธ
“แกล้งฉันจริง ๆ ใช่ไหม นี่แนะ ๆ” คนตัวใหญ่รู้อยู่แล้วคนตัวเล็กบ้าจี้ขนาดไหน แกล้งจี้เอวเอาคืนมันซะเลย คนตัวเล็กที่ขยับลำบากเลยกลายเป็นเบานิ่ง จากที่กำลังได้เปรียบก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ พอแล้ว ฮะ ผะ ผมหายโกรธแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ หยุดจี้เถอะฮะ หยุด ๆ 555+”
..
“คุณชายไปกันเถอะครับ”
เสียงจอนจินเหมือนลมที่พัดผ่านเขาหูข้างหนึ่งแล้วทะลุออกไปทางหูอีกข้างนึง สมองผมรับรู้แต่ไม่ทำตาม ร่างผมยังคนยื่นนิ่งพิงประตูห้องนอน ของคนที่ผมเป็นห่วงจนไม่อาจจากไป จนกว่าแน่ว่าคนข้างในอีกคนจะไม่ทำร้ายเขา แต่ความเป็นห่วงขอมผม กลับให้ใจที่เจ็บอยู่แล้วมีแผลลึกลงไปอีก
เสียงหัวเราะที่ได้ยินผ่านประตู บทสนทนายอกล้อ เง้างอนของคนภายใยห้อง เหมือนเข็มเล็ก ๆ ที่พุ่งมาทิ่มกลาง แผลเล็กนิดเดียวแต่เจ็บเจียนตาย
“คุณชาย” จอนจินวางมือลงบนไหล่ผม ไม่รู้ว่าเขาคิดว่าผมไม่ได้ยินเลยเดินมาสะกิด หรือมาให้กำลังแต่เขาจะทำเพราะอะไรก็ช่าง มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดนึงแหละ
“นั้นสินะ เอริคคงไม่ทำร้ายแอนดี้แล้วละ”
.....................................................
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ พอแล้ว ฮะ ผะ ผมหายโกรธแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ หยุดจี้เถอะฮะ หยุด ๆ 555
เอริคดึงแอนดี้ที่ยังหัวเราะร่วนเข้ามากอดไว้หลวม ๆ
“นายหายโกรธฉันแล้วนะ”
“ฮะ แต่...”
“แต่อะไร” เอริคเชยคางแอนดี้ขึ้นมามองถาม
“พี่ต้องไปขอโทษพี่ฮเยซองนะฮะ”
“ขอโทษ! ทำไมต้องให้ไปขอโทษด้วย นายน่าจะให้หมอนั้นมาขอโทษฉันมากกว่านะ ดูซิหมอนั้นมันต่อยสามีนายปากแตกนะรู้มั้ย” เอริคชี้ตรงที่โดนต่อย
“มันก็สมควรแล้วนี้ฮะ”
“แอนดี้อ่า~”
“นะฮะ พี่บอกเองนี้ว่าจะทำให้ทุกอย่าง นะ นะ ไปขอโทษที่ทำให้พี่ฮเยซองเป็นห่วงผมแค่นั้นเอง เวลาตามหาน้องพี่ฮเยซองจะได้ไม่อึดอัด”
“แอนดี้ ฉันไม่ได้บอกว่าจะช่วยหมอนั้นตามหาน้องนะ”
“งั้นพี่จะไม่ช่วยผมหรือไงฮะ” เอริคเงียบไปชั่วครู่ เขาไม่อยากทำทั้งสองอย่าง
“ได้ ถ้าพี่หาน้องให้ฮเยซองเจอ พี่ขอรางวัลได้ไหม”
“พี่จะขออะไรละฮะ”
“ถึงตอนนั้นแล้วฉันจะบอก ตอนนี้ฉันขอ....” เอริคลุกขึ้นช้อนคนตัวเล็กขึ้นจากพื้น แอนดี้ก็รับคว้าคอคนตัวใหญ่เพราะกลัวกล่น “ขอรางวัลที่พี่พานายไปอาบน้ำไง”
“ขออะไรอีกฮะ ผมชักสงสัยแม่พี่ชื่อขอหรือเปล่าเนี้ยถึงได้ขอจัง”
“เปล่า แต่ขออะไรเดี่ยวก็รู้” เอริคไม่ปล่อยให้แอนดี้สงสัยอยู่นาน รีบพาตัวเล็กหายเข้าไปในห้องน้ำ
เอริคว่างแอนดี้ลงในอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำอุ่นจากฝักบัวให้คนตัวเล็กชำระล้างร่างกาย ส่วนตัวเองเดินออกมาจัดการเตียงนอนที่ยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำด้วยอีกคน
เอริคกลับเขามาในห้องในสภาพที่พร้อมอาบ กางเกงนอนที่เคยอยู่บนตัวถูกถอดออกไปแล้ว ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในอ่าง มองสายน้ำจากฝักบัวไหลผ่านผิวเนื้อขาวที่เต็นไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ เขามองเห็นแล้วเจ็บปวดไปไม่น้อยไปกว่าเจ้าของรอยฟกช้ำนั้นเลย
สมควรแล้วที่เขาจะโดนฮเยซองต่อย สมควรแล้วที่เขาจะถูกตราหน้าว่าไม่มีวันทำให้แอนดี้มีความสุข ตราบเท่าที่เขายังฝังใจกับรักครั้งแรกคิดแต่จะเอาชนะ จนลืมให้ความสำคัญและทำร้ายคนที่รักเขามากเสียยิ่งกว่าตัวเอง คนที่ไม่คิดสงสัยเลยซักนิดกับคำหลอกลวง แต่ต่อไปนี้จะไม่มีคำหลอกลวงแบบนั้นอีก
“แอนดี้ ฉันรักนายนะ ฉันรักนายจริง ๆ ” เอริคเขาสวมกอดแอนดี้จากทางด้านหลัง กระซิบบอกรักแผ่วเบาแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
แอนดี้ชะงักเล็กน้อยเมื่อผิวเนื้อนวลสัมผัสกับผิวกายหยาบของคนที่คิดว่าออกไปแล้ว แต่แล้วก็ตอบรับความบอกรักด้วยความรู้สึกเดี่ยวกัน
“ผมก็รักพี่ฮะ”
เอริคยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจับหมุนให้คนที่เขาสวมกอดอยู่หันมาเผชิญ แล้วจึงประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเรื่อยไปจนถึงพวงแก้มใส ที่ขึ้นสีระเรื่อเพราะความเขินอาย
หลังจากวันนี้เขาคงต้องหาโอกาสขอบคุณจอนจินซักหน่อย ที่ทำให้เขาได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
“นี้หรือฮะที่พี่จะขอ” แอนดี้เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่ใช่หรอก มันต่อจากนี้ตั้งหาก แต่นายจะไม่อนุญาตได้นะ” เอริคถามหาความสมัครใจ
“........” แต่ไม่มีทั้งคำปฏิเสธและคำตอบรักจากแอนดี้ เอริคจึงประทับจูบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างนุ่มนวล อ่อนหวาน และเนิ่นนาน ลิ้นร้อนเกี่ยวเอาลิ้นเล็กขึ้นพัวพัน ซอกซอนช่องปากเล็กอย่างเชื่อช้า ไม่รุกเล้ารุนแรงเหมือนเฉกเช่นเมื่อคืน เพราะครั้งนี้เขาจะสร้างความทรงจำที่ดีให้กับคนที่รักเข้า
และเมื่อรับรู้ถึงการหายใจที่ติดขัดของร่างเล็กในอ้อมกอด เขาก็ค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกให้คนตัวเล็กได้พัก ก่อนจะกดซ้ำลงไปอีกครั้ง หากครั้งนี้เต็มไปด้วยความเร้าร้อน รุนแรง แต่ก็อ่อนหวานและรัญจวนใจ
ไม่นานนัก เสียงสายน้ำจากฝักบัวก็มีเสียงครางหวานของคนสองคนสอดแทรกประสานกันอยู่เป็นระยะ ๆ
คนทั่งคู่หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว
........................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น