ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : act 7 KiSS
คุณเคยสงสัยไหม ? ว่าสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น
และคุณไม่จำเป็นต้องฉลาดปราดเปรื่อง แค่...รู้สึก ติดใจกับคำพูดของคนบางคนก็พอแล้ว
คำพูดที่แสนธรรมดา ไม่น่าจะมีอะไรแอบแฝง แต่กลับสลัดมันไม่ออก
ทุกทีงั้นเหรอ จะมองยังไง คนที่นั่งข้าง ๆ และกำลังสอนดีดเปียโน อย่างตั้งอกตั้งใจ มันก็ผู้หญิง
“นี่ จะมองหน้าอีกนานมั้ย”
เสียงตะคอก ห้วนทำให้เอริคหลุดจากภวังค์ความคิด และเห็นใบหน้าน่ารักทำน่าดุอย่างน่าดูมาที่เขา
“แล้วเธอละ จะมองหน้าฉันอีกนานมั้ย” เขายืนใบหน้าเขาไปใกล้ ๆ หวังแค่แย่
“ใครเขามองนาย”
“ก็ถ้าไม่มองแล้วรู้ได้ไงว่ามองอยู่” เอริคยักคิว
“นายมันกวนประสาท” แอนดี้ลุกจากเก้าอี้ หยิบโน้ตที่เล่นไปเมื่อครู่ ไปวางบนกับโน้ตเพลงอื่นที่โต๊ะใกล้ ๆ “ถ้าไม่ได้มอง ไหนลองเล่นเพลงเมื้อกี้ให้ฟังหน่อย”
“จะรู้ได้ไงว่าเพลงไหน” เขาลุกขึ้นโวย
“นายตั้งใจฟังที่ฉันเล่นนิ ก็ต้องจำได้ว่าเป็นเพลงไหน” แอนดี้ไหวไหล่อย่างไม่แคร์ “อาทิตย์หน้าฉันจะรอฟังแล้วกันนะ กลับก่อนละ”
แอนดี้หยิบกระเป๋า ไม่ได้พูดเล่นแน่นอน
“เดี่ยวซิ!” เขามาดึงตัวมารวบไว้ กลิ่นหอมลอยเข้าจมูก“สอนก็ไม่สอน คิดจะกลับ ฉันเสียงเงินจ้างเธอมานะ”
“ก็ไม่ได้คิดจะเอาเงินนายมาเฉย ๆ หรอกน่า”
“งั้นก็ไปสอนซิ” เอริคปล่อยแอนดี้ ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างเล็กจะทำให้ไม่อยากปล่อยอยู่เหมือนกัน
แอนดี้หยิบโน้ตเพลงที่เล่นไปกลับขึ้นมา และเดินไปยังเปียโน จัดว่างโน้ตเพลงให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้เอริคเล่นมันให้ฟัง เพราะก่อนจะสอนอะไรก็จำเป็นต้องรู้พื้นฐานของคน ๆ นั้นซะก่อน
แต่คำพูดออกจะเป็นการท้าทายคนตัวสูงซะมากกว่า
“เล่นซิ หรือไม่กล้า”
เอริคเดินมาทำแบบทดสอบนี้ อย่างมั่นใจ มันเป็นเพลง Moonlight Sonata ของเบโธแฟ่น ที่เขาเล่นเป็นเพลงแรกเมื่อตอน 8 ขวบ
เอริคเริ่มต้นมันได้อย่างสวยงามมากที่เดียวแต่เมื่อถึงกลางเพลง
แปล๊ง.......แปล๊ง.... เสียงประหลาดที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ยิ่งพยายามระวังไม่ให้มันเกิดขึ้น มันก็ยิ่งดังถี่ขึ้น และเสียงหัวเราะคิก ๆ ของคนตัวเล็กก็กวนการเล่นของเขาอยู่ตลอดเวลา
เอริคโทษว่าเป็นความผิดของแอนดี้
เมื่อเล่นไม่ได้ดั่งใจที่คิด นิ้วมือยาวของเขาวางลงไปแรง ๆ บนคีย์ ต่างกับคนตัวเล็กที่อารมณ์ดีขึ้นมานิด ๆ
แปล๊งงงงงง~~
“ห่วย ชะมัด”
“เธอมีหน้าที่ทำให้มันดีขึ้นก็จัดการซะที่ซิ”
“ไม่ได้เล่นนานมือนายมันก็เลยแข็ง ท่อนที่ต้องการความพลิ้วไหวของข้อมือมาก ๆ ก็เลยเป็นปัญหาสำหรับนาย ยิ่งฟืนจะเล่นให้ได้ มันก็ยิ่งแย่ ต้องคอย ๆ เป็นคอย ๆ ไปซิ เข้าใจรึเปล่า”
“ไม่ได้มีเวลาว่างฝึกเป็นเดือน ๆ หรอกนะ พื้นฐานก็มีอยู่แล้ว ก็สอนให้เล่นเพลงพวกนั้นเป็นก็พอ”
“งั้นนายก็ถอนตัวจากละครเถอะเอริค แอนดี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาสอน คนดูก็จะได้ไม่ต้องปราบปลื้มกับเสียงเปียโนที่ไม่ใช่ของนายเอง”
ผู้จัดการวงปรากฏตัวขึ้น นอกความคาดหมายของเอริค แต่คนตัวเล็กน่าจะรู้อยู่แล้ว ออกอาการดี้ด้า เอริคมองจับสังเกต
“ฮยอง อ๊ะ!” แอนดี้ปิดปากตัวเองแล้วเรียกใหม่ “โอปา ไหนจะมาตอนรับกลับตอนบ่าย 3 ไง นี่เพิ่ง 10 โมง เองนะ” ยกข้อมือโชว์นาฬิกาให้ดู
“นาฬิกาเรามันตายแล้วนะซิ นี่มัน 11 โมงแล้วตั้งหาก” ผู้จัดการหนุ่มขยี้หัวแอนดี้เบา ๆ อย่างเอ็นดู แล้วเดินเลยไปที่เอริค
“ไม่จริงอ่ะ แป๊ะ แป๊ะ” แอนดี้ตีนาฬิกาข้อมือ “ตายสนิทเลย”
“สองคนยังไม่กินข้าวกลางวันกันเลยใช่มั้ย”
“ฮะ ก็เห็นว่ามันเพิ่ง 10 โมงอ่ะ” แอนดี้ชี้นาฬิกาตัวเองที่ตายคาที เวลาเสียชีวิต คือ 10 โมงตรง
“หิวจะตายอยู่แล้ว” เอริคพูดเสียงดัง ประชด
“ใครใช้ให้อด” แอนดี้สวนกลับ
“งั้นแอนดี้ จัดโต๊ะให้ทีนะ ฮยองซื้อของกินมาด้วย ว่างไว้ในครัว เดี่ยวคุยกับเอริคเสร็จจะตามออกไป”
“เร็ว ๆ นะฮ..ค่ะ” แอนดี้ปฏิบัติตามคำขอโดยไม่เกี่ยง แต่ก็แอบหันหน้ากลับมาแล็บลิ้นให้เอริค แล้วก็ทำนิ้วบาดคอโดยที่ผู้จัดการเห็นแต่เอริคเงื้อกำบั้น
“ทำอะไรนะเอริค”
“ก็ดูเธอดิ”
“อะไร ก็ออกไปแล้วนิ”
“หล่อนคงทำให้ฮยองเห็นหรอกนะ”
“หาให้ตามที่ต้องการแล้ว ไม่พอใจอะไรอีก หรือเพราะแอนดี้ไม่ตามใจนายเหมือนผู้หญิงทั่วไป”
“ก็ไม่ใช่หรอก อย่าสนใจเลย ฮยองเถอะที่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไง”
“วันนี้ไปประชุมกับผู้จัดละคร เขาถามว่านายฝึกไปถึงไหนแล้ว พอจะถ่ายทำได้รึยัง”
“แค่อาทิตย์เดียวเองนะ”
“นั้นยังไม่น่าโมโหหรอก มีคนพูดขึ้นมาว่าแค่หน้าตา กับความโด่งดังของนายก็พอแล้ว ยังไงละครก็ขายได้”
“ให้ทาย ยายยูจิน ละซิ”
“งานนี้นายจะมาเล่น ๆ ไม่ได้เลยละ”
“ก็ไม่ได้คิดจะเล่น ๆ แต่ยายนั้นชอบทำให้หงุดหงิด”
“อีกเรื่อง”
“อะไรอีกละ”
“ปลายอาทิตย์หน้านายต้องถ่าย MV คู่กับยูจิน ไม่ต้องอธิบายนะว่าใครเสนอ และเพราะอะไร ไปกินข้างเถอะ แอนดี้รอนานแล้ว”
“โถ้เอ่ย ยายตัวแสบ” เอริคสบถแล้วเดินตามผู้จัดการออกไป
..........................................................................................
“ฮเยซองฮยอง” จอนจินว่างตะเกียบและช้อนให้ฮเยซองเก็บไปล้าง
“ว่าไง”
“วันพุธนี้ ผมมีเทสย่อยภาษาอังกฤษละ”
“อยากให้ติวตรงไหนให้เป็นพิเศษเหรอ”
“เปล่า อยากได้รางวัลถ้าผมสอบผ่าน”
ฮเยซองหยุดมือและหันมองแป๊บหนึ่งก่อนจะลงมือล้างต่อ
“ถ้าผ่านได้ 80% จะให้แล้วกัน”
“โห้ สูงไป ผมเพิ่งเรียนกับฮยองได้ 2 อาทิตย์เอง 60 % พอนะ มะผมช่วยล้าง” จอนจินจุ่มมือลงไปในอ่าง แต่เหมือนลงไปกวน ๆ ให้ชนมือฮเยซองซะมากกว่า
“70 คนละครึ่งทาง”
“65 นะ ให้เหอะ”
“ได้ แต่รางวัลพี่เป็นเลือกให้เอง”
“เอา 70 ก็ได้ แต่ผมขอเลือกรางวัลเองนะ”
“พูดแล้วก็ต้องตั้งใจทำให้ได้ด้วยละ”
“ฮยองน่ารักที่สุด” จอนจินกอดฮเยซองทั้งที่มือเปื้อนซันไลต์ ฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มไป 1 ฟอด เต็ม ๆ
ใบหน้าขาวฮเยซองขึ้นสีจน ตัวเองรู้สึกได้อาการร้อนผ่าว ๆ หัวใจเต้นดังตุ๊บ ๆ เหมือนกับมาอยู่ข้างหู เริ่มสงบก็หลังจากที่จอนจินปล่อยมือออกจากตัว
“ร...รีบล้างจานเถอะ จะได้รีบเรียนต่อ เสร็จแล้วจะได้ไปอ่านหนังสือสอบ”
“ฮะ”
กลับมาที่ด้านเอริคกัน ซึ่งทานนี้ก็ทานอาหารเสร็จเหมือนกัน
แอนดี้นั้นสวมเสื้อกันเปื้อนรับหน้าที่ล้างจานชามโดยมีผู้จัดการหนุ่มของเอริคเป็นผู้ช่วย ส่วนเอริคก็ได้แต่นั่งรอ มองเขาคุยกันหนุ่งหนิง
ชักทนไม่ไหว ห้องนี้มันยังมีเขาอยู่อีกคน
“อะฮึ้ม...”
เจ๊าะแจ๊ะ กันอยู่สองคนไม่สนใจ เสียงใครจะไอจะจาม
“ไปรอที่ห้องแล้วกันนะ เสร็จก็รีบตามไปแล้วกัน” เดินหงุดหงิดออกไป
ผู้จัดการหันมองเอริค ก่อนหันมองแอนดี้ที่ยังล้างจานโดยไม่ได้สนใจ
“แอนดี้ ไปสอนเอริคเถอะ เดี่ยวที่เหลือฮยองจัดการต่อเอง”
แอนดี้หันมองยิ้มให้
“ไว้ทีหลังก็ได้ฮะ อยู่กับพี่แค่สองคนผมได้ผ่อนคลายหน่อยนึงก็ยังดีอ่ะ”
“งั้นก็ตามใจ”
“ฮยองฮะ หลังจากวันนี้ผมไม่แต่งหญิงได้ไหมฮะ ฮเยซองฮยองเขาก็ไม่ได้แต่งแล้ว จอนจินก็เห็นผมตอนเป็นผู้ชายแล้วด้วย”
“ห๊ะ! แล้วเอริครู้หรือเปล่า” ผู้จัดการออกอาการตกใจ
“คงไม่อ่ะ แต่จอนจินเขาไม่คิดว่าผมกับฮยองเป็นผู้ชายหรอกนะฮะ เขาคิดว่าเราแค่ตัดผมสั้น เพราะโรคภูมิแพ้นั้นนะ”
“เฮ้อ~” ผู้จัดการถอนหายใจโล่งอก แล้วก็หันมองแอนดี้อย่างเห็นใจ และเข้าใจ “อดทนหน่อยนะ แต่ถ้าไม่อยากทำก็บอก”
“ไม่ได้หรอฮะ นูนารับเงินเขามาแล้ว ไม่มีจะเอาไปคืนด้วย ว่าแต่...” แอนดี้คว่ำจานใบสุดท้าย
“เขาเคยบอกฮยองไหมฮะว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบผู้ชายที่หน้าตาแยกไม่ออกว่าผู้ชายหรือผู้หญิง”
ผู้จัดการของเอริคส่ายหัว ไม่รู้เพราะเอริคไม่ยอมบอก รู้แค่ว่าถ้าหนีได้ก็หนี แต่ถ้าจำเป็นต้องเผชิญหน้าเอริคจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
“ล้างจานเสร็จแล้ว นายไปสอนเอริคได้แล้วละ เดี่ยวพี่จะนั่งทำงานรออยู่ข้างนอกนะ”
“ไมเข้าไปดูหรือฮะ ไม่ละไม่อยากกวน แต่ถ้ามีปัญหาก็มาบอกฮยองนะ จะจัดการศิษย์ดื้อให้เอง”
“ฮะ”
แอนดี้รับคำ และเดินมายังห้องเปียโน ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็ต้องรีบปิดอย่างรวดเร็ว เพราะเสียงเปียโนที่ดังสนั่นอย่างมีพลังแต่ไร้ซึ่งความไพเราะ
แอนดี้ยืนฟังจนกระทั้งร่างสูงที่ดีดเปียโนอย่างบ้าคลั่ง เหนื่อยและหยุดไปเอง
...
........
กล้ามเนื้อแกร่งจนรู้สึกปวด สาเหตุเป็นเพราะอะไรเอริคนั้นรู้ดี อาจารย์ที่สอนเปียโนย้ำเตือนเขาอยู่เสมอ ว่าการใช้กล้ามเนื้อไม่ถูกส่วน การเล่นเปียโนก็จะกลายเป็นการทรมานมากกว่ามีความสุข ทุกครั้งหลังเรียนเสร็จลูกของอาจารย์ก็คอยมานวดผ่อนคลายให้
แต่อารมณ์หงุดหงิดนี้ตั้งหากที่เอริคไม่เข้าใจตัวเอง
“ปวดแขนแล้วละซิ”
เอริคมองแอนดี้ที่กำลังเดินเข้ามาหา ร่างเล็กนั่งลงเบียดให้เขาต้องเขยิบที่ให้ และเบี่ยงตัวให้หันเข้าหา จับท่อนแขนใหญ่และหนาขึ้นมานวด เริ่มจากข้างขวา
“เฟลกเซอร์ ดิจิทอรุม เป็นกล้ามเนื้อมัดอยู่ติดกับกระดูเรเดียส ยืดตรงตั้งแต่ข้อศอกไปจนถึงปลายนิ้ว เป็นส่วนที่เราใช้บ่อยอย่าง ถือของ โหนบาร์ เพราะสามารถรับน้ำหนักได้มาก แต่ไม่ใช้กล้ามเนื้อที่เหมาะสำหรับการเล่นเปียโน”
แอนดี้พูดไป มือก็ออกแรงนวดไปด้วย บางก็เหลือบสายขึ้นมามองว่าคนตัวสูงจะว่าหรือทำสีหน้ายังไง แต่เอริคนั้นไม่กำลังรู้สึกสบาย และผ่อนคลายแม้ใบหน้าจะงิก แล้วยังนึกลูกของครูสอนเปียโนคนนั้นขึ้นมาอีก เลยแทบไม่ได้ฟังและมองแต่หน้าคนพูด
“ส่งแขนอีกข้างมาซิ”
เอริคส่งแขนข้างซ้ายไปให้ แอนดี้นวดไปเรื่อย ๆ จนแน่ใจว่ากล้ามเนื้อผ่อนคลายแล้ว
“ถ้านายใช้กล้ามเนื้อส่วนนี้ นายจะเคลื่อนไหวข้อมือไม่สะดวก ปวดแขน และข้อมือของนายก็อาจได้รับบาดเจ็บ นายต้องวางนิ้วให้งองุ้มลงมาแบบนี้” แอนดี้ขยับกายให้นั่งตรง ว่างมือเอริคลงบนคีย์เปียโน
“กดคีย์โดยใช้ปลายนิ้วของทุก ๆ นิ้ว” เอริคที่เอาแต่จ้องหน้าคนตัวเล็กมานานเริ่มมีปาก
“ก็รู้นิว่าต้องทำยังไง แล้วทำไมไม่ทำแต่แรก เปียโนถึงมันจะไม่มีชีวิตแต่มันก็มีวิญญาณ มีความหวังดีของแฟน ๆ ไม่อยากให้ใครดูถูกนาย ว่ามีดีแต่หน้า กับความดัง”
“เธอนี่ มันดีได้แค่เดี่ยวเดียวเองนะ”
“นายเองก็หุบปากได้แค่แป๊บเดียวเหมือนกันแหละ กดนิ้วโป้งทั้งสองข้างย้ำลงไปที่เดิมซ้ำ ๆซิ”
แต๊ง ๆ ๆ
“นิ้วชี้...นิ้วกลาง”
แต๊ง ๆ ๆ
“เฟี๊ยะ!!!”
“โอ๊ะ!! เจ็บนะ” เอริคชักมืออก และสะบัด ๆ
“อย่ายกนิ้วอื่นขึ้นมาซิ ทำต่อได้แล้วสำออยไปได้ นิ้วนาง...นิ่งทำไม ไม่ยกนิ้วมาละ”
“มันไม่ถนัด”
“ก็พยายามหน่อยซิ”
นิ้วเอริคสั่นระริกแต่ก็พยายามยกขึ้นกดมันลงไป ได้ 5 ครั้ง ก็เล่นเอาเกร็งจนเหนื่อย
“ที่นี่ก็นิ้วก้อย”
แต๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ
“ที่นี่นายก็ฝึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย ๆ วันละ 1 ชั่วโมง หรือถ้าทำได้ทั้งวันเรื่อย ๆ ก็ดี เพราะมันทำได้ทุกทีไม่จำเป็นต้องกับเปียโน จะเป็นโต๊ะ เก้าอี้หรือเคาเตอร์อะไรก็ได้ รับรองหลังจากนี้ 1 อาทิตย์ นายจะเล่นเปียโนได้ดีขึ้น จนสามารถอัดละครได้เลย”
“ฝึกแค่นี้เนี้ยนะ บอกเด็กอมมือยังไม่เชื่อเลย”
“เถอะน่า~ พูดมาก เริ่มฝึกตั้งแต่ตอนนี้เลย ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะให้หยุด”
“ชริ! เรื่องจะทำ”
“หรือจะเป็นคนมีดีแต่หน้าก็เอา”
เอริคทำตามอย่างไม่มีทางเลือก
แต้ง ๆๆๆๆ แต้ง ๆๆๆๆ แต้ง ๆๆๆๆ แต้ง ๆๆๆๆ แต้ง ๆๆๆๆ ... ... ...
30 นาทีผ่านไป
“พอได้หรือยัง ไม่ไหวแล้วนะ” เอริคทั้งเมื่อยทั้งเบื่อ
“อืม ป๊อก” หัวแอนดี้ซบที่ไหล่ของเขา หลับไปแล้ว ทำไงละเนี้ย
“แอนดี้ ๆ” เอริคขยับไหล่ขึ้นลง จะให้คนตัวเล็กตื่น “เป็นสาวเป็นนางมาหลับแบบนี้ได้ไง แอนดี้ ๆ” ตบแก้มเบา ๆ
“อื้อ!” มือเล็กปัดมือใหญ่ออก ด้วยความรำคาญ
เอริคมองซ้ายมองขวาเห็นโซฟา จึงอุ้มแอนดี้ไปนอนที่นั้น ส่วนเอริคนั่งพักได้สักครู่พอหายเมื่อยก็ไปฝึกต่อ ฝึกบาง พักบาง มองคนตัวเล็กบนโซบาง สลับกันจนเหลือ 10 นาที จะ 3 โมง แอนดี้ก็ยังหลับไม่ตื่น
“แอนดี้ ๆ” เดินมาปลุกถึงโซฟา
แต่แอนดี้พอสัมผัสกับความนุ่มของโซฟา และความสบายของร่างกาย บังเกิดก็อาการหลับลึกไปกว่าเดิม
“แอนดี้ ตื่นได้แล้วได้เวลากลับบ้านแล้วนะ” นั่งลง ก้มหน้าเข้าไปพูดใกล้ ๆ กลิ่นหอม ๆ เมื่อตอนเช้ายังส่งกลิ่นหอมอยู่ไม่จาง
เมื่อปลุกไม่เป็นผล เอริคจึงชักหน้ากลับนั่งมองใบหน้าหวานพริ้มตาหลับ ผลันเกิดอาการใจเต้นตึกตัก เมื่อสายตาเกิดโฟกัสไปที่ริมฝีปากสีชมพู เหมือนมนต์สะกดหรืออะไรชักพา ใบหน้าคมก้มกลับลงไปอีกแต่ไม่ใช้เพื่อปลุกซะแล้ว
ทันทีที่ริมฝีปากสัมผัสก็รับรู้ความหวาน หอม
เหมือนกับความฝัน
เหมือนกับเคยสัมผัสมันมาก่อน
ถอนริมฝีปากออกแล้ว ก็ยากกลับลงไปสัมผัสอีก
“เอริค! นายจะทำอะไรนะ”
“ป...เปล่า ผมแค่ จ.จะปลุกเธอนะ” รีบเด้งตัวลุกขึ้น
“มีอะไรกันหรือฮะ” แอนดี้ที่กำลังงัวเงียลุกขึ้นมา
“ได้เวลากลับบ้านแล้วละ” ผู้จัดการหนุ่มดึงมือแอนดี้ หยิบกระเป๋าและรีบลากคนตัวเล็กออกไป
..................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น