คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : act 3 First Day นักเรียนสุดหล่อ คุณครูหน้าสวย (น้องชายน่ารัก)
แอนดี้เดินลากเท้าแกรก ๆ บนหลังสะพายเบ้ขนาดกลางสีดำ เดินไปยังส่วนที่เป็นห้องครัวของบ้าน ฮเยซองพี่ชายของเขากำลังเตรียมอาหารสำหรับเช้าวันนี้
“พี่ฮโยริไปแล้วเหรอฮะ” แอนดี้เอ่ยถามพี่ชายสั้น ๆ เมื่อหยุดยืนอยู่ตรงโต๊ะอาหาร
“ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วละ หมดเงินเมื่อไหร่เดี่ยวคงกลับ”
“’งั้นผมไปละนะฮะ”
“นายจะไม่อยู่กินข้าวก่อนเหรอ เพิ่งจะ 7 โมงเองนะ”
“ไม่ละฮะ ไม่อยากออกสาย”
ฮเยซองวางมือจากการปรุงอาหาร หันมองน้องชายที่เดินหายออกไปทางประตูหน้าด้วยสีหน้าครุ่นคิดแว๊บหนึ่ง ก่อนหันกลับไปจัดการกับอาหารบนเตาต่อ
อ๊อดด ~ อ๊อดดด~ “นักเรียนสุดหล่อมารายงายตัวแล้วคร๊าบบบบบบ” เสียงตะโกนดัง 90 dBA
ฮเยซองแหงนมองนาฬิกาแขวนบนผนัง
7 โมง 15 นาที ถึงจะเป็นคุณสมบัติที่ดีของนักเรียนที่ควรจะมาก่อนเวลาเข้าเรียน แต่แบบนี้มันเช้าเกินไป น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ผมก็ยังไม่ได้เซ็ต ถึงจะไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรีบไปเปิดประตู
“อรุณสวัสดิ์ฮะ อ๊ะ! ผมครู” ท่าทางเขาจะตกใจนะเนี้ย แต่ผมไม่สนเหรอ
“อืม อรุณสวัสดิ์” ผมทักทายและยิ้มตอบกลับไปตามมารยาท ขณะที่ใจแอบคิดว่าดารามันต้องอำพรางตัวขนาดนี้ใส่ทั้งหมวกคลุมทั้งฮูด แล้วยังไอ้ที่ฉีกยิ้มจนหน้าบาน คงยิ้มให้แฟนคลับแบบนี้จนติดเป็นนิสัยละมั้ง
“นาย รีบมาทำไมยังไม่เก้าโมงเลย” ผมถามขณะเดินพานักเรียนของผมเข้ามาในบ้าน ชี้ให้นั่งลงที่โซฟารับแขก ก่อนเดินไปจัดการกับอาหารในครัวให้เสร็จ
“ไม่สะดวกเหรอฮะถ้าผมมารอเรียนแต่เช้านะ” ทำใจได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ
“ฉันยังไม่ว่างต้อนรับนายนะ”
“ทำไมละฮะ”
“ฉันยังทำงานบ้านไม่เสร็จ”
“อาหารนี้นะเหรอ”
เสียงทุ้มเบาที่ดังขึ้นข้างหูเล่นเอาผมตกใจต้องหันไปมองอย่างอัตโนมัติ หน้าของนักร้องชื่อดังอยู่ห่างเพียงไม่กี่นิ้ว ผมมองจ้องไปที่ดวงตาของเขา และเขาก็มองมาที่ด้วยดวงตาของผม เราต่างมองกันละกันและระยะห่างก็เริ่มลดลงเรือย ๆ ลดลงที่ละนิด ๆ จนผมรู้สึกถึง
อะไรบางอย่าง
ที่ปลายจมูก
“เหม็นสาบ! นายนี้มันเหม็นสาบชะมัด” ผมถอยห่างออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูก นอกจากจะอำพรางด้วยเสื้อผ้าแล้วใช้กลิ่นด้วยหรือเนี้ย
ส่วนจอนจินร้องจนเสียงหลง แล้วก็ดมกลิ่นตัวเองเป็นการใหญ่
“นายไปทำอะไรมาเนี้ย”
“ผม..ผม..ผมยังไม่ได้อาบน้ำนะ” พูดตะกุกตะกัก
“แล้วทำไมไม่อาบมาละ ที่หลังอาบน้ำมาซะก่อนรู้มั้ย ฉันไม่ชอบ”
“ผมมาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ นี้กับพี่เอริคประจำ กลัวว่าจะเสียเวลาก็เลย...” เขาพูดแก้ตัวเสียงอ่อย ๆ
“นายจะบอกเพราะฉันก็เลยไม่ได้อาบน้ำละซิ”
“เปล่า ๆ นะ ผมแค่ไม่อยากมาเรียนสายตั้งแต่วันแรก คุณอุตส่าหยุดเรียนมาสอนผมนี่นา”
“แล้วไหนละพี่นาย”
“เขากลับไปอาบน้ำที่บ้านแล้วละ”
“งั้นนายก็รีบไปอาบน้ำซะ”
“ฮือ!”
“ระหว่างฉันอยู่ในครัวนายก็ไปอาบน้ำซะ ห้องน้ำอยู่นู้น แล้วก็ไม่ต้องใส่เสื้อตัวเดิมมาละ เดี่ยวจะหาเสื้อตัวใหม่ไปให้ใส่”
“คุณให้ผมอาบน้ำที่นี้ได้เหรอ”
“งั้นสิ ยังไม่ไปอีก ฉันไม่สอนลูกศิษย์ตัวเหม็นหรอกนะ”
ไม่ต้องแปลเกาหลีเป็นเกาหลี จอนจินก็เดินไปอาบน้ำก่อนที่เจ้าของบ้านจะเปลี่ยนใจให้เขากลับไปอาบน้ำที่บ้านตัวเอง
หลายนาทีต่อมา
ลา ลัน ลา
จอนจินฮัมเพลง อารมณ์ดีออกมาจากห้องน้ำ เพราะแผนที่คิดไว้สำเร็จลงได้ถึงแม้จะไม่คอยสวยเท่าไหร่ก็เถอะ
“อ่ะนี้ ใส่ซะ เสร็จแล้วก็ตามเข้าไปกินข้าวละ ฉันรออยู่” จอนจินยิ้มกว้าง รีบรับเอาเสื้อกับกางเกงใส่แล้วเดินตามคุณครูคนสวยเข้าไปในครัว
“พ่อครูคงตัวพอ ๆ ผมแน่เลย”
“พ่อฉัน! เกี่ยวอะไร?”
“ก็เสื้อนี้ไง”
“เสื้อ! อ้อ~ คงงั้นมั้ง คึก ๆ ๆ คิก ๆ ๆ” เสื้อตัวนี้มันของเขาต่างหาก คงไม่คิดว่าผมยังเป็นผู้หญิงอยู่หรอกนะ
“ครูหัวเราอะไรนะ ผมใส่แล้วมันดูไม่ดีเหรอ”
“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร กิน ๆ เถอะ เสร็จจะได้เรียน”
“ครูหยุดเรียนแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอฮะ”
“สบายมากฉันตามทันอยู่แล้ว” ก็คนมันฉลาดอะนะช่วยไม่ได้
“นายละไม่เป็นไรรึไง”
“ผมหยุดเรียนทุกวันศุกร์อยู่แล้วละ ผมทำงานศุกร์เสาร์อาทิตย์นะ แล้วก็เรียนชดเชยในวันอื่น ๆ เอา”
“ก็ไม่มีวันพักเลยนะซิ ไม่เหนื่อยหรือไง วันอื่น ๆ หลังเลิกเรียนต้องฝึกซ้อมด้วยใช่มั้ย”
“ก็เหนื่อยนะ แต่มีความสุขมากกว่า เวลาที่มีแฟนมารอ หรือเชียร์เราตามรายการเพลงมันทำให้เรามีพลังและไม่เหนื่อย”
“งั้นเหรอ ผิดกันกับฉันกับแอนดี้แฮะ”
“ครูกับน้องครูเคยเป็นนักร้องด้วยเหรอ!”
“เปล่านะ ฉันหมายถึงพวกคนที่ชอบเรานะ พวกนั้นทำให้เราเหนื่อยมากกว่ามีความสุข”
“เพราะภูมิแพ้นั้นนะเหรอฮะ”
“ก็ประมาณนั้นแหละ”
“โอ้! ที่ครูตัดผมเพราะภูมิแพ้นั้นด้วยรึเปล่า ดูเหมือนผู้ชายไปหน่อยแต่ว่าก็สวยดี แบบนี้ผมก็ชอบ”
“สวยดี! นายชมฉันว่าสวยเหรอ”
“ฮะ ผมอิ่มแล้วละ ห้องครูอยู่ไหนละผมจะได้ไปรอ”
“นายเข้าใจอะไรผิดแล้วละ”
.
.
“เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ” ในหัวสมองมีแต่คำว่าเบื่อ จอนจินใช้หางตามองข้อสอบบนโต๊ะ ปากก็นับตัวเลขตามจำนวนแล้วแต่จะเลือก มือก็จรดปากกากากบาทหน้าตัวเลือกที่ถูกนับเป็นอันดับสุดท้าย แล้วก็เปลี่ยนเป็นข้ออื่น
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ฉันไปอาบน้ำตั้งนานแล้วนะ” ฮเยซองนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“เข้าไปเรียนในห้องครูไม่ได้เหรอ”
“ทำไมละห้องนอนแคบจะตาย ที่นี้แหละกว้างดี”
“ครูคนก่อนยังสอนผมในห้องนอนเลย”
“แล้วไงละเขาจะปล้ำนายเอาไม่ใช่เหรอ”
“เป็นครูผมยอมนะ”
“ฉันเป็นผู้ชาย นายยังจะยอมเหรอ”
“อืมมม..” ทำท่าคิดนิดนึง “เป็นผู้ชายสวยขนาดนี้ก็ยอมนะ แต่ครูเป็นผู้หญิงนี้”
“ฉันเป็นผู้ชายจริง ๆ นะ” ประโยคเดิมที่พูดไปแล้วเกือบสิบรอบก่อนที่ผมจะยอมแพ้ไปอาบน้ำ
“ครูอย่ามาโกหก ผมบอกแล้วว่าไม่เชื่อไง ยังไงก็ไม่เชื่อ ผู้ชายอะไรจะสวยขนาดนี้”
“เฮ้อ~” เหนื่อยใจ “ไหนมาดูซิถึงไหนแล้ว” ผมลุกไปดูข้อสอบขี้เกียจจะอธิบาย
โป๊ก! โอ้ย! ทันที่ที่มะเหงกลงหัวเสียงร้องก็ตามมา
“นั่งมาตั้งนานทำได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่ถึง 1 ใน 4 ด้วยมั้งเนี้ย ที่ทำมาก็ไม่เห็นจะถูกซักข้อ แบบนี้จะสอบเลื่อนชั้นได้ยังไง”
“ก็มันยากนี้”
“ข้อสอบเด็กประถมเนี้ยนะ แบบนี้ต้องเรียนตั้งแต่ ABC แล้วละ เขียนถูกมั้ยเนี้ย ABC
Z เรียนมาถึงม.5 ได้ไงเนี้ย ครูสอนพิเศษคนก่อน ๆ ที่จ้างมาเอาแต่มองหน้าหล่อ ๆ ของนายอย่างเดียวรึไง”
“เขาให้ผมอ่านหนังสือเองนะ”
“ฮ๊ะ!”
“ครูคนก่อน ๆ เป็นผู้ชายหมดเลยละ มีแค่คนที่แล้วแหละที่เป็นผู้หญิง”
เวร! จ้างครูผู้ชายมันก็ไม่สอน จ้างครูผู้หญิงมันก็จะปล้ำ แบบนี้มันเลยมาถึงมือผมใช่มั้ยเนี้ย อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครบ้าง โทษฐานที่เป็นเหตุให้ผมมีผื่นขึ้นทั้งตัวเพราะแผนบ้า ๆ ของยายฮโยริ (รู้แล้วจะไปทำอะไรเขาค่ะ)
“ไม่ต้องทำแล้วเริ่มเรียนเลย เปิดหนังสือบทที่ 1 เรื่องอักษรภาษาอังกฤษและหลักการออกเสียง”
ฮเยซองค่อย ๆ สอนภาษาอังกฤษจอนจินอย่างใจเย็น แต่ก็มีบ้างนะที่ต้องหัวเสียเพราะความไม่ได้เรื่องของลูกศิษย์
“วัน เธาซึนดฺ นายดูปากฉันดี ๆ มันออกเสียงว่า วัน เธาซึนดฺ พูดซิ”
“วัน เท้าสั้น”
อ๊ากกกกก! ผมอยากจะบ้า จะเท้าสั้นไปไหน แค่ตัวเลขก็เสียเวลาไปครึ่งวัน
“ทำไมละ ไม่ถูกเหรอ วัน เท้าสั้น”
“มันออกเสียงว่า วัน เธาซึนดฺ ไม่ใช่เท้าสั้น”
“วัน เท้าสึน เท้าซึน เธาซึน เหรอ”
“นั้นแหละ ๆ เกือบได้แล้วที่นี้นายออกเสียง คำว่า ซึนให้มีเสียง ด นิดนึง แบบนี้ ซึนดฺ”
“วัน เธาซึนดฺ”
“ดีมาก ๆ ไหนรองพูดอีกทีซิ”
“วัน เธาซึนดฺ”
“ถูกแล้ว ออกเสียงแบบนี้แหละถูกต้อง นายจำไว้ให้ดี เอาละเก็บหนังสือได้”
“สอนเสร็จแล้วเหรอ ยังสนุกอยู่เลย”
“วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะ ถ้ายังสนุกอยู่ทบทวนของเก่าไปแล้วกัน ส่วนฉันจะกินข้าวเที่ยง”
“ผมกินด้วยคนนะ เดี๋ยวผมช่วยทำ”
“งั้นก็เก็บหนังสือซิ”
“รับทราบ”
จอนจินเก็บหนังสือไปวางไว้บนโต๊ะที่ห้องนั่งเล่นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วรีบเดินกลับมาช่วยทำอาหารอย่าง ขมีขมัน
ฮเยซองเห็นแล้วก็ลอบมองอยู่ก็ยิ้มน้อย ๆ จากที่ไม่ค่อยชอบใจซักเท่าไหร่เพราะเป็นเหตุทำให้เขาต้องย้ายโรงเรียนบ่อย ๆ และก็ก่อนหน้านี้ที่ทำเอาต้องขึ้นผื่นทั้งตัวหยุดเรียนอยู่หลายวัน แม้จะรู้ดีว่าทั้งหมดเพราะฝีมือฮโยริ แต่สองคนนั้นก็มีส่วนเขาจึงเคืองอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง อย่างน้อยหมอนี่ก็ไม่ได้หยิ่งอย่างที่คิดออกจะบื้อ ๆ ด้วยซ้ำ
ดังนั้นเรื่องที่ต้องเป็นครูสอนพิเศษให้จอนจินจนกว่าจะสอบเข้ามหาลัยได้จึงไม่ใช่ปัญหาของฮเยซองอีกต่อไป เป็นห่วงก็แต่แอนดี้ที่ออกไปสอนเพราะลูกศิษย์ไม่ยอมออกมาเรียนที่นี่ ท่าทางจะร้ายเอาเรื่อง ไม่รู้จะโดนแกล้งอะไรหรือเปล่า ชักกระวนกระวาย เดี่ยวหมอนี่กลับแล้วโทรไปหาหน่อยดีกว่า
.
.
.
“กลับมาแล้วฮะ”
“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงคุ้นหูที่ไม่คิดว่าจะยังอยู่ดังมาจากในครัว จากที่ตั้งใจจะเดินเข้าห้องตัวเองเลยต้องเลี้ยวแวะเข้าไปในห้องครัวก่อน
ผมเห็นลูกศิษย์ของพี่ชายเขากำลังนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ที่โต๊ะกินข้าวตั้งแต่ยังเดินไปไม่ถึง แต่กับไร้วี่แววของพี่ชายผมจึงสอดส่ายสายตามองหาไม่ทันได้ทักทายแขก ทางนั้นจึงเป็นฝ่ายทักมาก่อน
“หวัดดีแอนดี้”
“หวัดดีฮะ คุณยังไม่กลับไปเหรอ แล้วฮยองละ”
“พี่เธอเข้าไปเอาเสื้อให้ฉันอยู่นะ”
“อ้อ~ งั้นนายก็คงรอเสื้ออยู่”
“อืม นี้เธอก็ไปตัดผมมาเหมือนกันเหรอ”
“ผม” แอนดี้จับผมตัวเอง รู้สึกงงเล็กน้อยสำหรับคำถาม ระหว่างนั้นฮเยซองก็เดินถือเสื้อเข้ามาพอดี แอนดี้ถึงได้เข้าใจ
“แอนดี้กลับมาแล้วเหรอ อ่ะนี้เสื้อนาย” ฮเยซองทักแอนดี้ก่อนจะส่งเสื้อให้อีกคน
“งั้นผมกลับเลยนะฮะ ไว้เจอกันศุกร์หน้า บาย บาย”
“อืม อย่าลืมทบทวนที่สอนไปด้วยละ” ฮเยซองตะโกนเตือนก่อนลูกศิษย์จะหายออกไปจากบ้าน
“ฮยองไม่แต่งเป็นผู้หญิงเหรอฮะ”
“หมอนั่นมาแต่เช้าหลังจากนายออกไปไม่ถึงนาทีนะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกบอกไปตรง ๆ หมอนั่นยังไม่เชื่อเลยว่าฮยองของนายเป็นผู้ชาย”
“ทั้งที่เห็นฮยองเป็นแบบนี้เนี้ยนะ” ผมมองฮยองตั้งแต่หัวจรดเท้าดูยังไงก็ผู้ชายชัด ๆ ไม่ว่าจะทรงผม เสื้อผ้า หรือแม้แต่รูปร่าง มีแต่หน้านี้ละมั้งที่สวยเหมือนผู้หญิง (ขออนุญาตแปะเพื่อยืนยันความสวย)
“ถ้าพี่ชายของหมอนั้นบื้อเหมือนกันก็คงจะดีนะ หรือไม่บางที่ก็อาจจะบื้อกว่า” ประโยคนี้แอนดี้แอบคิดคนเดี่ยวในใจ
“แล้วเป็นไงบ้างละเรา ไปสอนเปียโนมา”
“อย่างให้พูดเลยฮะ พูดแล้วอารมณ์เสีย” แอนดี้เดินฉับ ๆ ทิ้งลงบนโซฟา ทำปากจู๋ แล้วพี่ชายเขาก็เดินมาหย่อนก้นลงข้าง ๆ
“ทำไมงั้นละ ดูนายจะไม่ชอบหมอนั่นเอาซะเลย ทีวันนั้นละตื่นเต้นอยากจะเห็นหน้าเจ้าของเปียโนเร็ว ๆ”
“อย่าให้เล่าเลยฮะ เรื่องมันยาวววววววว มั๊กมาก”
“ถ้ามันยาวมาก ก็เล่าแค่ว่าทำไมวันนี้ถึงอารมณ์เสียแล้วกัน”
“ฮยองรู้ป่ะ ผมไปยืนรอหน้าห้องเขาอยู่กี่ชั่วโมง”
“จะรู้ได้ไง พี่ไม่ได้ไปกับเราด้วยนี่นา”
“ฮยองอ่ะ” แอนดี้อมลมไว้ในปาก เดามั่ว ๆ มาหน่อยก็ไม่ได้
“คนอื่นทำอารมณ์เสียมา อย่ามาหาเรื่องงอนพี่หน่อยเลยน่า บอกมาซิว่าตกลงมันกี่ชั่วโมง”
“5 ชั่วโมง ๆ เต็ม ๆ เลยฮะ”
“ทำไมนายไม่โทรไป ผู้จัดก็ให้เบอร์ไว้”
“ก็เพราะผมโทรไปนั้นแหละ ถึงได้ต้องรออยู่ถึง 5 ชั่วโมง โทรกี่ที ๆ ก็เอาแต่สั่ง แถมยังขู่ ถ้าไม่เจอเธอฉันเอาตายแน่” ฟังที่แอนดี้เล่าแล้วผมไม่รู้จะสงสารหรือขำน้องตัวเองดี อุตส่ารอไปได้ตั้ง 5 ชั่วโมงเพราะคำขู่แค่นี้
“แล้วหนีกลับมาแบบนี้ไม่กลัวตายแล้วเหรอ”
“ที่ผมรอไม่ได้กลัวที่หมอนั่นขู่สักหน่อย แค่อยากสอนให้มันจบ ๆ ไปเร็ว ๆ ต่างหาก คิดแล้วอยากจะอัดหน้าหล่อ ๆ ของหมอนั่นให้ซักที ทิ้งให้ผมรอตั้ง 5 ชั่วโม ยัง มีหน้าโทรมาบอก ฉันออกมาวิ่งจอกกิ้งแล้วหลงทาง ศุกร์หน้าเธอค่อยมาสอน มาเช้า ๆ ด้วยละ ชดเชยกับที่นายไม่สอนฉันวันนี้ ก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาเนี้ยละฮะ มันใช่ความผิดผมเหรอฮะฮยองที่ไม่ได้สอนเข้าเนี้ย”
“แอนดี้ นายไปอาบน้ำให้ใจเย็น แล้วเดี๋ยวมากินข้าวกัน”
“ฮะ ฮยอง”
.
.
RRRRRRRRRRRRRR
ใครโทรมาอีกเนี้ย คนยิ่งหลงทางอยู่
“แอนดี้ ! ยายเด็กนี่โทรมาอีกทำไม บอกให้กลับแล้วนี่” คิดแบบนี้แต่ก็รับโทรศัพท์
“ฮัลโหล มีไร”
“คิดว่าเป็นนักร้องไอดอล แล้วจะทำกับน้องฉันแบบนี้ได้รึไงห๊าาาาา บลา บลา บลา....” เอริคถอยโทรศัพท์ห่างจากหูแถบไม่ทัน
....................................................
ความคิดเห็น