ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic-y-shinhwa : Power of love

    ลำดับตอนที่ #16 : part 16 บทสรุปที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 52


    หลังจากกลับมากถึงบ้านผมก็ลากคนร่างบางมาที่ห้องตัวเอง แทนที่จะพากลับไปส่งห้อง เพราะไม่อยากจะเปิดโอกาสให้ได้หลบเลี่ยง

    แต่จนแล้วจนรอดผมเองนี้แหละที่ดั้นพลั้งปากเสนอทางเลือก จนคนร่างบางได้ยืดเวลาออกไปอีกหลายนาที 

     

    ดังนั้นเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก ผมที่ยืนคอยอยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงทวงถามออกไป  แม้จะไม่ในทันที

     

    เพราะร่างบางที่พอจะมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพื้นน้อยปิดส่วนล่างที่น่าจะเอาไปเช็ดผมแทนพื้นบน เห็นทุกส่วนสัดยั่วยวนจนเกือบลืมวัตถุประสงค์หลัก

    พี่พร้อมแล้วใช่มั้ย

    เขาเลิกคิวสูงมองผม

    “ใจคอ นายจะไม่ให้ฉัน แต่ตัวก่อนเลยรึไง”  

    เสียงพูดช่างเป็นปกติ  ผมฟังแล้วขัดหูขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

    “ถ้าผมยังจะรอ ไม่แคล้วคงต้องรอต่อไปเรื่อย ๆ นะซิ”

    แล้วทำไม รอไม่ได้เหรอ หรือคำพูดพี่มันเชื่อไม่ได้

    เขาเดินมาใช้สายตาที่ทำให้ผมรู้สึกผิด  เมื่อเห็นผมนิ่ง เขาก็จับลากให้มานั่งอยู่บนเตียง ออกคำสั่งให้ผมนั่งอยู่เฉย ๆ จนกว่าจะแต่ตัวเสร็จ แล้วก็ไปเลือกเสื้อผ้าในตู้อย่างสบายอกสบายใจ ทั้งที่ผมอกจะระเบิดอยู่แล้ว ผมเหมือนคนตาบอดที่ไม่รู้ไม่เห็นว่าเกิดอะไร แต่ก็ไม่ได้หูหนวกจนไม่ได้ยินว่าไอ้พวกเด็ก ๆ ที่ออกไปช่วยตามหาแอนดี้มันพูดอะไร

     

    เฮ้ยมันเกิดไรวะ

    ก็ไอ้ผู้ชายหน้าหล่อ กับคุณชายหน้าสวยที่มาเฝ้าพี่จินบ่อย ๆ นะไปพลอดรักกันอยู่ข้างร้านอะดิ

    มืด ๆ แคบ ๆ ไปทำอะไรกันได้วะ

    ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ 2 คน กับทางแคบ ๆ เนื้อแนบเนื้อมึงคิดว่าเขาทำอะไรกันละ

    เขาก็ช่างสรรหาได้ทั้งตื่นเต้นบวกความเสียวดีพิลึก

    อันนี้เสียวไม่ไม่เสียวไม่รู้โว้ย รู้แต่ครางกันให้ลั่น

    รู้ดีเหมือนไปนั่งในเหตุการณ์

     ในซอกไม่ส่งเสียงเล็ดลอดออกมา คุณคนน่ารักไปเห็นเหรอะ

     

    ดังนั้นถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายโดยไม่มีคำถาม  

    เมื่อไหร่ ผมเลือกใช้น้ำเสียงที่คิดว่าแข็งที่สุด หงุดหงิดที่สุดเพื่อเขาจะรับรู้ถึงอารมณ์ผมบ้าง

    ก็เร็ว ๆ นี้แหละ นิ่งสนิท

    ที่แอนดี้เห็นคงไม่ธรรมดาละซิ

    แผ่นหลังที่ขยับไปมาตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย นิ่งลง มันคงจี้ใจดำเข้าแล้วละซิ  

    ทำไมในตู้ไม่มีเสื้อผ้าพี่เลยละ ทำเป็นเฉไฉออกนอกเรื่อง ดูซิจะไปไกลได้แค่ไหน

    ก็นั้นมันตู้ผม มีเสื้อผ้าพี่ก็แปลก

    นั้นซินะ งั้นฉันไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องเดี๋ยวมา

    จะไปทั้งแบบนี้นะเหรอ ไม่ดีมั้ง พี่ใส่เสื้อผมก็ได้มีตั้งหลายตัว ผมลุกขึ้นมาขวางทางไว้ได้ก่อน คิดจะหนีเหรอไม่มีทาง

    เขาก็คงรู้ตัวอยู่บ้างละมั้งถึงไม่ได้พูดอะไรแต่หันหน้ากลับเข้าตู้ไปอย่างเก่า เลือกดูตัวนั้นตัวนี้ทั้งที่เมื่อกี้ก็น่าจะดูไปจนหมดทุกตัวแล้ว 

    เลิกเถอะ

     เลิกอะไร?มีหันมาย้อนถาม

    พี่ก็รู้อยู่แก่ใจ

    นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่รู้จริง ๆ ยังจะกล้าทำไขสือ

    ผมไม่ได้โง่นะถึงดูไม่ออกว่าพี่กำลังแกล้งทำ เพื่อจะปกปิดผม

    แกล้ง! ปกปิดอะไร เปล่าซักหน่อย พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้

    ระหว่าพวกพี่สองคนไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย

    เปล่า!”

    “’งั้นก็ไม่เห็นมีอะไรจะเล่าไม่ได้ จริงมั้ย

    มี  มีซิ นายยังใจร้อนอยู่นี้ไง พี่ถึงไม่อยากเล่าให้ฟังตอนนี้

    เพราะผม  เข้าใจหาข้ออ้างนิ

    มันเรื่องจริง ถ้านายไม่ใจร้อน คงไม่รีบลากพี่มาที่นี้ และถ้านายใจเย็นลงแล้วบ้าง คงไม่รีบถามตั้งแต่พี่ยัง..โป้อยู่แบบนี้

    ได้ ๆ ผมไม่เถียงพี่ก็ได้ เรื่องผมใจร้อน แต่ถ้าพี่เป็นผม พี่จะไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าเรื่องจริง ๆ มันเป็นตามปากชาวบ้านเขาว่าหรือเปล่า

    พี่ไม่รู้หรอกนะว่านายไปได้ยินอะไรมา แต่ถ้าพี่เป็นนายพี่จะใจเย็นกว่านี้ และเชื่อต่อเมื่อได้ยินจากปากนายเท่านั้น

    ใครจะเป็นไปทำได้ ต่อให้พูดเองก็เถอะ

    ทำไมจะทำอย่างที่พูดไม่ได้ ก็นายเป็น...

    ผม เป็นอะไร ตอบให้ดี ๆ ละ

    ช่างมันเถอะ นายไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะพี่เองปิดบังนายอยู่หลายเรื่อง

    เรื่องที่ว่าคงไม่พ้นกับพี่เอริคละซิ

    พี่ไม่อยากจะพูดกับนาย พรุ่งนี้รอให้นายใจเย็นก่อนแล้วค่อยว่ากัน

    จะไปไหนละ ผมชุดข้อมือไหว แต่เขาก็สะบัดมันออก ผมจึงคว้ามันกลับมาใหม่

     ไปใส่เสื้อนะซิ หนาวจะตายอยู่แล้ว เขาทำตาดุ ผมเลยมองตอบอย่างท้าทาย ออกแรงดึงให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด จะได้หนีไปไหนไม่ได้

    ตรงนี้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปที่อื่น หรือกลัว

     ฮึ นายมีอะไรให้พี่ต้องกลัว

    ถ้าไม่มีก็ไม่เห็นจำเป็นต้องหนี

    นี้นายคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนเด็ก ๆ ใครกันที่เดินตามฉันยังกับลูกหมา

    งั้นก็เริ่มซิ ใส่มันตรงนี้เลย หรือต้องให้ลูกหมาอย่างผมช่วยถอดก่อน

    ผมไม่ได้ทิ้งช่วงให้เขาได้ตอบ แต่กระตุกผ้าเช็ดตัวที่เอวส่งลงไปกองกับพื้น

    นายจะทำไรนะ    ได้ท่าทางตกใจที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น

    ผม ก็จะช่วยพี่ใส่เสื้อผ้าไงละ แต่ก่อนใส่ผมจะช่วยทำที่พี่ค้างกับพี่เอริคไว้ให้ก่อน

    อย่านะ!”

    เขาร้องห้าม ขณะผมบดเบียดร่างกายกำย่ำเข้าหาจนหลังไปพิงกระจกเงาบนตู้เสื้อผ้า บังคับมอบจูบให้ทั้งที่เขาพยามยามทั้งดันทั้งผลัก หลบซ้ายหลบข้ามแต่ไม่สำเร็จ  เขาเม้มปิดปากเน้นไม่ยอมให้ให้อวัยวะในช่องปากผมล่วงลำเข้าไปด้านได้

    ผมจำถอนริมฝีปากออกด้วยความโมโห  และทุบกำปั้นลงไปที่ตู้

    ปัง!

    กับพี่เอริคคิดจะร้องห้ามบางไม่ คิดจะทำแบบนี้บางหรือเปล่า ตะคอกใส่เสียงดังทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้

    ก็ผมรู้สึกว่ามันอยู่ไกลเหลือกัน เขารังเกียจสัมผัสของผม แต่ยิ้มรับของพี่เอริคซินะ

     

    พี่ไปเถอะ จะไปไหนก็ไป

    ...............

    ............................

    ....................................

    การที่เขาปล่อยมือจากผม ทำไม่มันทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าที่เห็นเขาไม่เชื่อใจ

    ทำไมรู้สึกปวด แทนที่จะรู้สึกโล่งอก

    ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจ แต่กำลังหวงผมอยู่หรอกเหรอ

     

    จิน!” ผมเข้าหาแต่เขาก็ถอยหนี

    ผมบอกให้พี่จะไปไหนก็ไปไง

    พี่ ก กับเอริคเราไม่ได้มีอะไรกันที่คลับ

    จะไปมีอะไรกันที่ไหน ใครจะเห็น ผมไม่อยากรู้

    จินผมเดินไปใกล้แตะมือเบา ๆ ไปที่ไหล่ 

     อย่ามาถูกตัวผม ถ้าพี่ไม่อยากไปที่อื่นก็ไปแต่งตัวซะให้เรียบร้อย ผมเหนื่อยแล้วจะนอน

    เขาหลับล้มตัวลงนอนหันหลังให้และไม่สนใจ แม้ว่าผมจะยืนมองเขาอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนก็ตาม

     จินไม่ว่านายจะหลับหรือตื่น อย่าทำกับพี่แบบนี้ซิ พี่จะเล่าทุกอย่างที่นายอยากรู้ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์และเรื่องที่คลับ

     จะมาเล่าอะไร หนวกหูน่ารำคาญ

     พี่กับเอริคเราเคยมีอะไรกันครั้งหนึ่ง

    จะกี่ครั้งมันก็เรื่องของพี่ ผมไม่รับรู้

    แต่พี่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง พี่เมาจำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกตัวพี่ก็นอนกับเขาอยู่บนเตียงไม่ได้สวมใส่อะไรเลยซักชิ้น

    “…”

    เขาไม่พูด ผมก็เลยเล่าต่อของผมไปเรื่อย ๆ

    พี่โกรธแม้จะบอกว่า ทั้งหมดเพราะเขาบอกรัก พี่ก็เลยกลับโดยไม่บอกให้เขารู้ จนเวลามันผ่านเป็นปี

    พี่กลับไปหาเขา  จอนจินผลิกตัวลุกขึ้นนั่งมองมาที่ผม

    ใช้ พี่หายโกรธเอริค และก็คิดว่าอยู่กับคนที่เขารักเราก็ยังดีกว่าต้องอยู่คนเดียว แต่พี่ก็กลับไปเจอข่าวลือระหว่างเอริคกับเด็กคนนึง ดูท่าว่าจะเป็นจริงซะด้วย ที่แรกก็ไม่ได้คิดจะแย่ง แต่พอรู้ว่าพี่มาเขาก็ลืมเด็กคนนั้นไปเลย

    แต่พี่ก็แย่ง แล้วก็ทำมันสำเร็จอย่างสวยงาม ขนาดตามพี่กลับมาที่โซลด้วย

    มันแค่เกือบสำเร็จ คืนที่เขาหุนหันกลับไป เรากำลังจะมีอะไรกันเป็นครั้งที่สอง เขาเรียกชื่อของเด็กคนนั้น ถึงมันฟังไม่ชัดแต่ยังไงก็เป็นคำว่า ฮเยซองไปไม่ได้ 

    พี่เคยเห็นเด็กคนนั้นหรือเปล่าที่แรกก็ทำท่ารำคาญ แต่ก็กลับฟังอย่างตั้งใจ

    ไม่เคยเห็นหน้าใกล้ ๆ เห็นแต่ไกล ๆ แถมไม่รู้สึกแต่กลับชอบซะอีก บางที่ถ้าเห็นไกล ๆ ก็อาจตกหลุมรักตั้งแต่ตอนนั้น

    ตั้งแต่ตอนนั้น? พูดเหมือนพี่เพิ่งตกหลุมรักไปเมื่อเร็ว ๆ

    ไม่เร็วนักหรอก เสียงที่ฟังไม่ชัดตอนนั้น คือ คำว่า แอนดี้ พี่รู้ก็ตอนไปเจอมินอูที่อเมริกา น่าโมโหนะที่ผูกพันกันจนเรียกชื่อออกมาไม่รู้ตัว แต่ดันให้เป็นแค่เลขา ฯ

    พี่มาเล่าให้ผมฟังทำไม ผมเผลอยิ้มออกมาเลยทำให้เขาโมโห

    เล่าให้นายรู้ว่า จริง ๆ มันเป็นเพราะนาย

    จะเล่าหรือไม่เล่าก็ดูจะเป็นเพราะผมไปซะหมด

    จะเชื่อหรือไมก็ตามใจนาย แต่มันเพราะนายไม่สนใจพี่ ทั้งที่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแทนทีจะกอดให้หายคิดถึง แต่นายกลับคำนับพี่ซะอย่างสุภาพ เรียกแต่คุณชาย ๆ ทำตัวห่างเหินซะยังกับคนไม่เคยสนิทกันมาก่อน นายทำให้พี่เหงารู้ตัวรึเปล่าผมเลยไปหาเอากับแอนดี้ยังไงละ 

    จอนจินนั่งเงียบไปอึดใจ

    พี่หนาวมั้ย 

    ไม่หนาวละมั้งก็เห็นอยู่เสื้อผ้าไม่มีซักชิ้น นอกผ้าเช็ดตัวที่เก็บกู้ขึ้นมา

    เขาดึงมือผมลงนั่งไปบนที่นอน สองแขนกอดผมจากด้านหลัง ไอ้ร้อนจากตัวเขามันอุ่นกว่าผมห่มเยอะ

    ผมขอโทษ ก็ผมทนไม่ได้นี้ที่แฟนผมจะไปกอดจูบกับคนอื่น เขาทิ้งคางไว้บนไหล่ผม

    พี่ไปเป็นแฟนนายเมื่อไหร่กัน

    ตั้งแต่ที่เราจูบกันเมื่อวานนั้นแหละ อย่าบอกว่าพี่ลืม ทำเอียงคอมอง

    ทึกทักเอาเองตั้งแต่แรก ทำไมตอนเอริคมันถามไม่ตอบมันไปละว่าเป็นแฟนกันจะได้ไม่ต้องเกิดเรื่อง

    ผิดด้วยเหรอที่ยากให้คนที่เรารักเป็นคนบอกคนที่แอบรักกับคนรักเก่าของเข้าว่าเราเป็นแฟนกัน

    ไม่ผิด แต่อย่างฟังไม่ถูกเวลา

    อะไร ๆ ก็เพราะผมทั้งนั้นเลย ผมอย่ารู้ว่าที่คลับมาเกิดอะไร จะเพราะผมอีกเหรอเปล่า  

    เอริคพูดเรื่องที่พี่เพิ่งเล่าให้นายนั้นแหละ แต่ไอ้บ้านั้นดันใช้คำไม่น่าฟังเอาซะเลย

    ยังมีมากว่านั้นอีกใช่รึเปล่า

    นายได้ยินมาว่าไงละผมขยับหน้าเขา

     พวกนั้นพูดว่าพวกพี่พลอดรักกัน แล้วพี่ก็ครางเสียงดังด้วย  

    พี่อยากรู้ไอ้พวกนั้นมันมีใครกันบ้างจะไปตั้นหน้า เถียงกันเสียงดังลั่นได้ยินเป็นเสียงครางเข้าไปได้ไง แล้วนายทำไมถึงได้ไปเชื่อเป็นตุเป็นตะ

    ก็แล้วทำไมแอนดี้ต้องวิ่งหนีไปแบบนั้น

    พี่บีบให้เอริคต้องพูดสิ่งตรงข้ามกับหัวใจมัน แล้วมันก็ปล้ำจูบพี่นะซิ  แอนดี้คงเดินมาได้ยินและเห็นพอดี  พี่ถึงเป็นห่วงแอนดี้นักไง’”

    พี่คิดว่าเป็นความผิดของพี่เหรอ

    แล้วมันไม่ใช่รึไง

    จอนจินจับให้หน้าผมจูบที่หน้าผากเป็นการปลอบประโลม  และจูบอีกทีที่ริมฝีปากเป็นการให้กำลังใจ

    มันไม่ใช้ความผิดของพี่หรอก มันเป็นความผิดของคนโลภที่ใจแคบตั้งหาก

    หมอนั้นไม่ใช่พวกใจแคบหรอก เป็นพวกทิฐิสูงแพ้คนอื่นไม่ได้

    เพราะผมอีกแล้วซิเนี้ย

    หลงตัวเองมันแพ้ตัวเองตั้งหาก แล้วล่ำ ๆ ว่าจะแพ้คนตัวเล็กที่หายไปอีกด้วย

    แต่ผมยังแพ้พี่เอริคอยู่อย่างนะ

    อะไร?

    เพื่อให้เป็นการชนะอย่างสมบูรณ์แบบ

    อะไร?

    ไหน ๆ พี่ก็ไม่ใส่อะไรแล้ว

     ...............................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×