คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : part 10 Marry Christmas
ผมและพี่เอริคเดินผ่านโต๊ะของแขกในร้านโดยไม่สนใจจะมองใคร หรือใครจะมองเรา จนมาถึงด้านในสุดของร้าน ทีมีเพียงแค่ 2 โต๊ะ ซึ่งนั่งได้ประมาณ 5-6 คน
โต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ทางซ้ายมือเมื่อมองจากทิศทางที่ผมเดินมา มีชายหนุ่มนั่งจับจองเป็นเจ้าของกำลังจิบไวน์ในแก้ว และมองทอดสายตาไปยังโต๊ะอีกตัวทางขวามือ ด้วยแววตาที่น่าสนใจมากที่เดียว
โต๊ะตัวนี้ถูกจับจองด้วยชายหญิง คู่หนึ่ง โดยที่ฝ่ายชายเทคแคร์ฝ่ายหญิงเป็นอย่างดี ในวันคริสต์มาสแบบนี้คงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนจะปรารถนา ขนาดผมที่เป็นผู้ชายยังปฏิเสธไม่ได้เลย แต่วันนี้ผมมีภาระกิจต้องทำ
“พี่เอริคไปสั่งเครื่องดื่มให้ผมหน่อยนะฮะ” ผมหันไปกระซิบบอก
“ทำไมละ สั่งกับบ๋อยก็ได้นี้”
“เบา ๆ ซิ ฮะพูดซะเสียงดัง คนปกติเขาต้องกระซิบกลับมาไม่ใช่รึไง” ผมต้องรีบชำเรืองดูว่าพี่ฮเยซองได้ยินหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าพี่ฮเยซองยังมองไปที่โต๊ะทางขวาเดิมด้วยสายตาเดิม ๆ ผมจึงก็หันกลับมากระซิบต่อ
“ไปให้หน่อยนะฮะ”
“ทำไมเมื่อกี้มาสั่งละ ขี้เกียจเดิน” จริง ๆ แล้วไม่อยากเห็นหน้าไปสองตัวนั้น ไม่รู้ทำไมไม่ชอบหน้ามันเลย
“เมื่อกี้มันไม่หิวแต่ตอนนี้มันหิวแล้วอ่ะ เอาอะไรก็ได้ที่ไม่แรงมากนะฮะ”
“กลับไปบ้านขอค่าจ้าง ด้วยละ”
“จะทำอะไรให้แบบไม่มีข้อแลกเปลี่ยนมั่งได้ไม่ฮะเนี้ย”
“ถ้าไม่ให้ก็ไม่ไปละ”
“ฮะ ๆ ให้ก็ได้ แต่ค่าจ้างผมต้องเป็นคนเลือกเองนะฮะ”
“ไม่มีปัญหา”
พี่เอริคไปแล้วก็ได้เวลาปฏิบัติการ อะแฮ่ม อะแฮ่ม เทสเสียงนิดนึง
“ผมขอดื่มเป็นเพื่อนคุณได้มั้ยครับ” ผมดัดเสียง และเปลี่ยนวิธีการพูดนิดหน่อยเพื่อไม่ให้จำได้
“ไม่ละครับ ผมมีเพื่อนแล้ว” ปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะหันมามองว่าเป็นใครเลยสักนิด แต่นี้แหละดีแล้ว
“แต่ผมเห็นคุณนั่งอยู่คนเดี่ยว”
“เขากำลังทำงานอยู่ เดี่ยวก็มา” คิวของพี่ฮเยซองขมวดเขาหากัน แต่ตาก็ยังมองไปที่เดิม
“เพื่อนที่ว่า คงนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นละซิ ท่าทางคงไม่มาหาคุณง่าย ๆ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ...อะ..แอนดี้” จากที่แสดงอาการไม่พอใจออกมาหมดทั้งสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียง พอหันมาเจอว่าเป็นผมเท่านั้นแหละ พี่ฮเยซองมีท่าทางตกใจแล้วก็ทำเป็นกลบเกลื่อนอาการของตัวเองเมื่อครู่ด้วยการยกไวน์ขึ้นดื่ม
“นายมานี้ได้ยังไงนะ” อยากถามว่ารู้ได้ไงผมอยู่ที่นี้มากกว่า แต่ทำไมกลายเป็นคำถามนี้ไปก็ไม่รู้
“จอนจินโทรไปบอกว่าไม่ว่างดื่มเป็นเพื่อนพี่ ผมก็เลยเสนอตัวมาทำหน้าที่แทน แต่พี่คงไม่ต้องการผมหรอมั้ง” ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟาเอาตรงที่เห็นหน้าพี่เขาชัด ๆ หน่อย จะได้จับสังเกตได้ถนัด
“เอริคมันไม่ได้มาด้วยเหรอ” ฮเยซองพยายามทำสีหน้านิ่ง
“พี่ถามหาพี่เอริคเหรอ....ทั้งที่ยังโกรธอยู่เนี้ยนะ”
นั้นสิผมจะถามหามันทำไมเนี้ย ผมเป็นอะไรไป ทำไมต้องลกลีลุกลนเหมือนไม่ยากให้แอนดี้มาเห็นท่าทางผมเมื่อครู่นี้ แบบนี้ผมต้องตั้งสติหน่อยแล้ว
ฮเยซองตบแก้มตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ (ยิ่งน่าจับผิดไปกันใหญ่เลยนะนั้น)
“ก็เห็นตัวติดกันยังกะอะไร ปกป้องกันไปซะทุกเรื่อง” หวังว่าแอนดี้คงไม่ผิดสังเกต
“เพราะเรื่องนี้เหรอฮะ ถึงหลบหน้าผมตั้ง 2 อาทิตย์นะ”
“ก็มันน่าน้อยใจมั้ยละ เรารึอุตส่าเป็นห่วง แต่กลับไม่เห็นความสำคัญ ชริ” ทำงอนสะบัดหน้าหนี รู้หรอกน่าว่าแกล้งทำเป็นงอน เอาน่าง้อสักหน่อย ยังไงก็ตั้งใจจะมาง้อให้ยกโทษให้พี่เอริคอยู่แล้ว
แอนดี้เขยิบเขาไปนั่งใกล้ ๆ โอบกอดฮเยซองจากด้านข้าง ฝากคางแหลมไว้บนไหล่มน
“สำคัญซิฮะ ไม่งั้นผมจะตามไปง้อพี่ทำทำงานทำไมละ แต่พี่อ่ะกลับนี้ผมมา ถ้าไม่ได้จอนจินบอก ผมคงไม่รู้ว่าพี่อยู่ที่นี้”
“แต่เมื่อกี้นายทำเหมือนมาจับผิด”
“จับผิด !” แอนดี้แทรงทำตกใจ “พี่ทำอะไรผิดสังเกตหรือ ผมถึงจะจับผิดนะ หรือพี่ทำ” คราวนี้เขามองหน้าพี่ชายถามตาใส ฮเยซองนิ่งพูดไม่ออก
“นะ นะ ฮะ หายง้อนเถอะนะ” แอนดี้ออดอ้อน “คืนนี้เป็นคืนวันคริสต์มาสนะฮะ หายงอนแล้วจะได้มาฉลองกัน นะ นะ นะ”
ภาพหนุ่มน่ารัก กำลังงอนง้อ พี่ชายหน้าสวยที่แสนงอน เป็นที่จับจ้องของคนในร้านเมื่อบังเอิญหันมาเห็น หรือเพราะตั้งใจจะมองตั้งแต่แรก ด้วยไม่บ่อยนักที่พวกเขาจะได้เห็นผู้ชายด้วยกันแสดงพฤติกรรมน่ารักเช่นนี้ ถ้าคนคู่นี้ไม่ใช่พี่น้องที่รักกันมากแบบสุด ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นว่าเป็นแฟนกันโดยไม่ต้องสงสัย
“พี่จอนจินค่ะ”
“...”?? เงียบ
“พี่ค่ะ”
“...”??
“พี่”
“ฮะ..ฮะ..ครับ”
“เป็นไรค่ะ อยู่ ๆ ก็เงียบ”
“ปะ..เปล่า จ๊ะ ดื่มไวน์ กันต่อเถอะนะ หมดแก้วนี้พี่จะพาไปเต้นรำ”
“พี่ค่ะ~!!”
“ฮะ..ฮะ อะไรอีกจ๊ะ”
“พี่เอาแต่มองโต๊ะข้าง ๆ มาตั้งนานแล้วนะ ถ้าโซลบิไม่รู้จักพี่ ต้องคิดว่าพี่ชอบผู้ชายที่โต๊ะนั้น แน่ ๆ”
“โซลบิอย่าเพิ่งน้อยใจซิ พี่แค่ลุ้นว่าเพื่อนพี่จะง้อพี่ชายเขาสำเร็จรึเปล่านะ”
“เขาเป็นพี่น้องกันเหรอกันค่ะ ว้าวววดีจัง เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย”
“ฮะ..เมื่อกี่โซลบิว่าไงนะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อย่าสนใจเลย ดื่มไวน์เถอะค่ะ โซลบิอยากเต้นรำแล้ว”
“อ่า...อ่ะ จ๊ะ”
“พี่จอนจิน! มองอีกแล้ว ฉันเป็นลูกค้าพี่นะต้องมองฉันคนเดี่ยวซิ อะไรของพี่เนี้ยฉันชักหงุดหงิดแล้วนะ”
...
และด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบคนในร้านต่างลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าคนทั้งคู่เป็น...พี่น้องกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชายสูงวัยที่แอบมองคนทั้งคู่ตั่งแต่วินาทีแรกที่แอนดี้ปรากฏตัวที่โต๊ะ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก ทั้งนี้ก็เพราะเขารู้จักคนทั้งคู่และมองท่าทางที่แสดงต่อกันนั้นอย่างเอ็นดู
ยก เว้นก็แต่ 1 หนุ่มหล่อที่กำลังทำงาน อย่างที่เห็นว่าไม่ค่อยจะมีสมาธิซักเท่าไหร่ กับ1 หนุ่มหล่อที่เดินอาด ๆ มาด้วยท่าทางฉุนเฉียว
“แอนดี้!!” เรียกเสียงดังตั้งแต่ยังมาไม่ถึงโต๊ะ
“พี่เอริค มาพอดี รีบขอโทษพี่ฮเยซองซิฮะ” หันมาพูดในขณะ มือยังคงกอดฮเยซองเอาไว้ไม่ปล่อย
เอริคเห็นแล้วหงุดหงิด รีบว่าแก้วสองใบที่ถือมา เดินไปดึงแขนแอนดี้แต่มีรึชินฮเยซองจะยอม เขาไม่อยากแพ้เอริค
หมับ!! มือยาวของฮเยซองคว้าเอวแอนดี้มากอด ดึงร่างเล็กให้นั่งลงบนตัก
“ให้นายขอโทษฉันเป็นร้อยครั้งก็ไม่ยกโทษ”
“แล้วใครบอกว่าฉันจะขอโทษ”
“พี่เอริค! สัญญากันแล้วนะฮะ พี่ฮเยซองจะได้ปล่อยผมไง”
“ลองพูดออกมาซิ เพื่อฉันจะยกโทษให้”
“ไม่!” เอริคปฏิเสธเสียงแข็ง เขาออกแรงดึนคนตัวเล็ก ทำไมต้องยอมขอโทษเมื่อใช่กำลังเอาก็ได้ แต่แอนดี้ขืนแรงเอาไว้เพราะคนตัวใหญ่ทำท่าจะผิดสัญญา
“เฮ้อ~ ขอโทษ” คำพูดห้วน ๆ หลุดออกมาจากปาก เมื่อตัดสินใจจะรัก และทำให้มีความสุข เขาก็ควรจะแคร์ความรู้สึกของคน ๆ นี้ให้มาก ๆ ใช่มั้ย
“นี้นายมาขอโทษหรือขู่ฆ่าฉัน”
“พูดก็พูดแล้ว จะเอาอะไรอีก”
“พี่ฮเยซองฮะ~”
“.....” ทำเงียบไม่สนใจ
“ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยกโทษให้ใช่มั้ยฮะ”
“....” ไม่เงียบเปล่ายังสะบัดหน้าหันนี้ไปทางอื่น ก็ถ้าได้เห็นหน้าหง่อย ๆ ของแอนดี้ก็ได้ใจอ่อนกันนะซิ
“เฮ้อ~” ถึงคราวแอนดี้ต้องถอนหายใจบ้าง “ใครกันน่า~ มาทำให้พี่ฮเยซอง อารมณ์ไม่ดีวันนี้ เลยไม่ยอมยกโทษให้”
“พูดอะไรนะ ไม่จะเกี่ยวกันซักหน่อย”
“นั้นสิเกี่ยวอะไรด้วย ” เอริคก็อยากถามแต่เงียบไว้ดีกว่า
“แย่เลยนะฮะพี่เอริค เราอุตส่ามาง้อแท้ ๆ แต่ไม่ยอมยกโทษให้เพราะอารมณ์ไม่ดีมาจากคนอื่น เดี่ยวผมไปตามเขามาดีกว่า พี่จะได้อารมณ์ดีขึ้น ไปกันฮะพี่เอริค”
“แอนดี้ ดะ..เดียว” ฮเยซองกำลังจะร้องห้าม แต่คนตัวเล็กเดินจนถึงโต๊ะแล้ว
ที่โต๊ะข้าง ๆ
พรวด! ไวน์ดื่มเขาไปแตกออกมาเป็นฝอย
“นายว่าไงนะ เมื่อกี้”
“กระซิบให้จนถึงหูแล้ว ยังไม่ได้ยินจะให้ตะโกนมั้ย พี่...ฮเย..”
แอนดี้ทำท่าจะตะโกนจริง ๆ จอนจินต้องรีบลุกขึ้นมาปิดปาก เมื่อกี่ได้ยินชัดเต็มหู แต่อยากฟังซ้ำเพื่อความมั่นใจมากกว่า
“ฝากดูทางนี้ด้วยละ” จอนจินกระซิบบอก แอนดี้ก็ตอบเป็ญสัญญานมือว่า OK ก็ปากถูกปิดไว้จะให้พูดยังไง
เมื่อจอนจินเดินไป แอนดี้ก็หันมาทักทายสาวสวยที่อยู่บนโต๊ะ โดยการแนะนำเอริคก่อนแล้วจึงแนะนำตัวเอง
ทางฝั่งของจอนจิน เมื่อมาถึงโต๊ะของฮเยซองเป็นที่เรียบร้อย
“คุณชายเรียกผมมามีอะไรครับ”
“แอนดี้เขาบอกนายว่าไง” ฮเยซองถามหยั่งเชิง
“คุณชายบอกแอนดี้ไปว่าอะไรละครับ เขาก็บอกผมว่าอย่างนั้นแหละ”
“นายยอกย้อนฉันเหรอ”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้เจตนาทำให้คุณชายคิดแบบนั้น”
“ฉันผิดที่คิดไปเองงั้นซิ”
“คุณชายไม่พอใจอะไรผมหรือครับ”
“ฉันจะไม่พอใจนายเรื่องอะไร”
“งั้นก็ดีครับ จะได้ไปกันเลย ”
“ไปไหน? เดี่ยวซิ ฉันเดินเองก็ได้ไม่ต้องจูง ฉันเป็นเจ้านายนายนะ จอนจิน”
“ตอนนี้อยู่นอกเวลางานครับ”
จอนจินเดินจูงฮเยซองมาจนถึงรถ แม้ร่างบางจะทั้งหยิกทั้ง ตีมาตลอดแต่ร่างสูงก็ไม่ปล่อย
“ขึ้นรถครับ” จอนจินเอื้อมมือเปิดประตูรถให้
“ไม่ ฉันไม่ขึ้น”
“ถ้าไม่ขึ้นผมจะอุ้มนะครับ”
“คิดว่าตัวใหญ่กว่านิดหน่อย แล้วจะแข็งแรงกว่าฉันเหรอ”
“ก็คงอย่างงั้นแหละครับ”
“นายไม่กล้าหรอก”
“ผมอุ้มจริง ๆ นะครับ”
“ถ้าอุ้มไว้ก็เชิญ” ฮเยซองมองอย่างท้าทาย ไม่เพียงเท่านั้นยังขยับไปยืนให้ไกลจากรถขึ้นอีกหน่อย
“เฮ้ย!!”
ร่างบางถูกช้อนขึ้นจากพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยอาการตกใจแขนเรียวโอบกอดคอร่างสูงไว้อย่างอัตโนมัติ
“กอดแน่น ๆ นะครับ กอดไม่แน่นผมปล่อยตกไม่รู้ด้วย”
จอนจินพาร่างบางในอ้อมแขนไปหย่อนไว้ที่เบาะข้างคนขับ จัดการรัดเข็มขัดให้เสร็จสรรพ จึงเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งเข้าประจำที่คนขับ แล้วทยานรถออกไปอย่างรวดเร็ว
นานกว่าครึ่งชั่วโมง ที่รถเคลื่อนตัวออกจากผับ แต่คนที่นั่งมาด้วยก็ไม่มีที่ท่าจะพูด หรือถามจุดมุ่งหมายที่รถเบนซ์ขันงามจะมุ่งหน้าไป
“คุณชายจะไม่ถามหน่อยเหรอครับว่าผมจะไปไหน” จอนจินเริ่มเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ
“...”
“จริงซิ เดี่ยวถึง คุณชายก็คงรู้เอง เลยไม่ต้องถาม”
“...” หันมามองหน้าแบบไม่พอใจ
“ไม่คิดจะพูดหน่อยเหรอครับ เงียบ ๆ แบบนี้ผมอาจจะหลับเอาดื้อ ๆ ก็ได้”
“...” เอื้อมมือไปเปิดวิทยุให้
เสียง รถด่วน ขบวนสุดท้าย แว่วดัง ฟังแล้วใจหาย หัวใจ น้องนี้แทบขาด ...
“กะจะกล่อมให้หลับเร็ว ๆ หรือครับ”
“....” ยื่นมือไปเปลี่ยนคลื่นให้ใหม่
“ผมอาจจะขับรถเร็วหน่อยครับ เพราะเดี่ยวจะไม่ทันเวลา”
“...” แค่หันมามอง
“กลัวซินะครับ ปกติคุณชายเคยนั่งแต่ข้างหลัง”
“ฉันเคยขับรถเองน่า”
“คนขับกับคนนั่ง มันรู้สึกไม่เหมือนหรอกครับ”
“ขับ ๆ ไปเถอะ ไม่ต้องพูดมาก”
เอี๊ยดดดดด
“จอดทำไมละ”
“ก็มันถึงแล้วนี้ครับ ถ้าไม่จอดได้ลงไปแช่น้ำกันพอดี”
ฮเยซองหันซ้าย แลขวา
“ที่นี้มันแม่น้ำฮันนิ”
“รีบลงรถครับ ใกล้เวลาแล้ว”
ปุ...ปุ...ปุ..ปัง...ปัง....ปัง
พลุหลากสี ถูกจุดขึ้น สว่างวาบไปทั่วทองฟ้า
“Marry Christmas ครับ”
“อืมม Marry Christmas”
“จำได้มั้ยครับ คุณชายเคยแอบพาผมหนีออกมาดูตอนเด็ก ๆ พอพลุหมดก็นอนนับดาวอยู่จนสว่าง”
“พอถูกจับได้ นายถูกลงโทษอยู่คนเดียว”
“แล้วคุณชายก็สัญญาจะพาผมมาอีกปีหน้า แต่คราวนี้จะไม่ให้ถูกจับได้”
“แต่ฉันก็ไม่ได้พานายมา เพราะ...”
“คุณชายต้องไปเมืองนอก”
“คืนนี้เรามานับดาวเหมือนวันนั้นกันมั้ย”
“ที่นี้เลยหรือครับ”
“งั้นซิ”
ฮเยซองเดินนำลงนอนมองดาวบนพื้นหญ้า ไม่ช้าจอนจินก็เดินตามลงไปนอนข้าง ๆ
“จอนจิน”
“ครับ”
“นายเริ่มเรียกฉันว่าคุณชายตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็ตั้งที่คุณชายกลับมาพร้อมกับพี่เอริค”
“แล้วทำไมนายเรียกหมอนั้นว่าพี่ละ ไปสนิทกันตอนไหน”
“ผมขอให้พี่เอริคสอนงานผมนะครับ”
“เหรอ ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่อง”
“ก็ผมปิดไว้ แรก ๆ ผมก็เรียกคุณเอริค แล้วเขาก็บอกผมว่า ถ้าเรียกฉันว่าคุณอีก นายโดนต่อยแน่”
“แล้วนายก็กลัวเหรอ”
“ก็ตอนนั้นผมคิดว่าพี่เอริคกับคุณชาย..เป็น”
“แฟนกัน ท่าทางฉันมันชวนให้เขาใจผิดแบบนั้นเหรอ”
“....” มองหน้าแบบไม่ขอออกความคิดเห็น
“เอริคเป็นแค่เพื่อนที่ดี”
“แล้วแอนดี้ละครับ”
“เป็นคนที่อยากได้เป็นแฟน แต่...”
“คิดตะตัดใจแล้วเหรอครับ”
“ไม่รู้สิ...”
“เลิกพูดถึงคนอื่นดีกว่าครับ มาแข่งกันดีกว่า ว่าใครจะนับดาวได้ครบก่อนกัน”
“ได้ซิ แต่ถ้าฉันชนะนายต้องให้ฉันขี้หลังกลับบ้าน”
“แล้วถ้าผมชนะละครับ”
“ฉันจะเป็นคนขับรถให้นาย 1 วันแล้วกัน”
“ยินดีรับข้อเสนอ”
“Start!”
“เฮ้ ๆ คุณชายขี้โกงนี้ ให้ผมตั้งตัวก่อนซิ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายช้าเองช่วยไม่ได้”
...................................................................................................................
“เหนื่อยชะมัดเลย” แอนดี้เดินสะโหลสะเหล มานั่งที่โซฟา
“สองคนนั้นยังไม่กลับมาเลย” เอริคตามลงมานั่งข้าง ๆ สภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่
“คืนนี้คงไม่กลับกันมาหรอกฮะ”
“จอนจินพาฮเยซองไปไหนนะ รู้มั้ย”
“ไม่รู้หรอกฮะ พี่ถามทำไมเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกถามไปงั้น ๆ แหละ”
“เป็นโฮสต์นี้ไม่ใช่งานสบาย ๆ เลยนะฮะ”
“ก็เสนอตัวไปทำงานแทนจอนจินเองทำไมละ”
“แต่ก็สนุกดีนะฮะ พี่ว่ามั้ย”
“....” ZZZZ.
“พี่เอริค”
“....” ZZZZ
“หลับแล้วเหรอฮะ” แอนดี้ลองเอามือเลื่อนผ่านหน้าเอริคไปมา “หลับแล้วจริง ๆ แฮะ ตัวใหญ่ขนาดนี้จะพาขึ้นห้องยังไงไหวละเนี้ย”
“นอนมันตรงนี้แล้วกัน ทนเมื่อยเอาหน่อย”
แอนดี้ดึงเอริคให้นอนลงบนตัก ถอนเสื้อนอกของตนห่มให้เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ก่อนจะก้มลงจูบเบาที่ริมฝีปากหนา
“เมอร์รี่ คริสต์มาสนะฮะ”
.
..
...
ช่วงสายของวันใหม่
“คุณค่ะ คุณ คุณ ว๊ายยยย”
“นายไปไหนมา” งัวเงี้ย ๆ
“คิก คิก คิก กอดป้าทำไมกันค่ะ จักระจี้ค่ะ”
“อยู่นิ่ง ๆ ซิ” กอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ฟังอีร้าค่าอีรมณ์
“ปล่อยป้าเถอะค่ะ ป้าไม่ใช่คุณแอนดี้”
“ไม่ใช่แอนดี้” เปลือกตาหนาค่อย ๆ ลืมขึ้น “แล้วใครละ ซองเหรอ นายไปไหนกับจอนจินมาทั้งคือนะ”
“คุณเอริคดูให้ดี ๆ ก่อนซิค่ะ”
มือหนายกขึ้นขยี้ตาเบา ๆ ปรับสภาพแสง เพื่อให้เห็นคนตรงหน้าชัดเจนขึ้น
“ป้ายองรัน!”
ผลั้ก ..อู้ยยยยยย
“ก็ป้าเองนะซิ พลักคนแก่ซะแรงเลยนะค่ะ”
“...เอ่อ...เอ่อ..” นั่งอึ่งเป็นใบ้ ปล่อยให้คนแก่ลุกขึ้นมาเอง
“ทำไมคุณเอริคมานอนอยู่นี้ละค่ะ ไม่ขึ้นมานอนข้างบน”
“แอนดี้ละครับ”
“ป้าเห็นทำอะไรกุกกักอยู่ในครัวนะค่ะ”
“ขอบคุณครับ” โค้งให้อย่างสวยงามแต่ว่าเร็วจนมองไม่ทัน แล้วก็วิ่งหายไปเลย
“แม้กอดคนแก่หน่อยละทำเป็นเขิล”
.
..
...
“แอนดี้ย่า~”
“พี่เอริค ตื่นแล้วเหรอฮะ”
“นายกำลังทำอะไรอยู่”
“อาหารเช้าไงละฮะ อันที่จริงอาหารสายมากกว่า” ยกตาหลิวขึ้นโชว์ แล้วก็หันกลับวุ้นว่ายต่อที่หน้าเตา
“แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนายกดโทรศัพฑ์อยู่นะ”
“ผมส่งข้อความไปให้พี่มินอู ที่นู้นวันนี้เป็นวันคริสต์มาสนะฮะ”
“มาอยู่ถึงนี้นายยังมีแก่ใจส่งข้อความอวยพรมันอีก” เอริคเดินเขาไปกอดแอนดี้จากข้างหลัง ทำเสียงน้อยอกน้อยใจ
“พี่มินอูเป็นพระ เรียกมันได้ยังไงฮะ”
“ไม่รู้ละ ฉันไม่ชอบให้นายสนใจใครมากกว่าฉันนิ”
“เหรอฮะ”
“เมื่อคืนนายไม่เห็นอวยพรให้ฉันบ้างเลย”
“พูดแล้วนะฮะ แต่พี่หลับไปซะก่อน”
“ไม่ได้ยิน ก็ถือว่าไม่ได้พูด”
“พี่เองก็ไม่ได้พูด”
“พูดแล้ว พูดในใจ”
“แบบนั้น ใครเขาได้ยินกัน”
“ไม่รู้ละ ก็ถือว่าพูด”
“ถ้างั้นก็ปล่อยเลยฮะไม่ต้องมากอด เกะกะทำอาหารไม่ถนัด” แอนดี้วางมือจากตะหลิวและข้าวในกระทะแกะมือหนาออกจากเอว แต่แกะออกได้มือหนาก็กลับมากอดใหม่ได้
“Merry Christmas ตัวเล็ก”
“หมดเวลาแล้วฮะ ไปนั่งที่เลยอาหารเสร็จแล้ว”
“ข้าวห่อไข่ ของโปรดกำลังอยากกิน”
“อยากกินก็ปล่อยฮะ”
“อยากกิน แต่ไม่อยากปล่อย อยากกอดนายแบบนี้อ่า~”
“เฮ้อ~ ถ้าไม่ปล่อยแล้วจะกินได้ยังไงละฮะ”
“นายก็ป้อนฉันซิ”
“เรื่องอะไรจะป้อน”
“งั้นฉันป้อนนายเองนะ”
“อือ อือ”
...
...
“นายเดินให้มันดี ๆ ซิจอนจินเดี่ยวฉันก็ตกเหรอ”
“ก็คุณชายตัวหนักยังกะอะไร คนอกหักเขาต้องกินน้อย ๆ นี้กินจนอ้วน”
ป๊าบ! มือเรียวฟาดลงที่ไหล่
“ฉันขับรถมาตั้งไกล นายแค่แบกฉันจากประตูรั้วเขามาในบ้านทำบ่น”
“พูดเหมือนมันใกล้ ๆ ยังงั้นแหละ เกือบกิโลกเลยนะคุณชาย”
“พูดมากน่า~ รีบ ๆ เดินไปเถอะ”
“เอาแค่ตรงนี้ไม่ได้เหรอครับ ไม่ต้องถึงห้องบันไดมันสูง”
“ได้ยังไง เทียบกับที่ฉันขับรถมายังไม่ถึงครึ่ง”
.
..
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
“คุณชายได้กลิ่นอะไรหอม ๆ มั้ยครับ”
“ฟุดฟิด ฟุดฟิด กลิ่นเหมือนข้าวห่อไข่”
“เปลี่ยนจากห้องคุณชายเป็นห้องครัวได้มั้ยครับ หิว”
“รีบไปเลย”
..................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น