ที่ปลายขอบฟ้า - SJ(hanhyuk) - ที่ปลายขอบฟ้า - SJ(hanhyuk) นิยาย ที่ปลายขอบฟ้า - SJ(hanhyuk) : Dek-D.com - Writer

    ที่ปลายขอบฟ้า - SJ(hanhyuk)

    เธอจะเป็นอย่างไรในวันที่ไม่มีฉัน ยามที่เหงาเธอคิดถึงใคร

    ผู้เข้าชมรวม

    538

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    538

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ย. 54 / 03:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เสียงฝีเท่าที่ดังใกล้เข้ามาทุกขณะ
    รอยยิ้มบนใบหน้าที่คุ้นเคย
    แม้จะพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาที่กลบทับลงมา
    แต่ภาพนั้นก็ยังคงเด่นชัด ต่อให้ปลายนิ้วก็จำได้
    คนที่ผมรักมากที่สุดตลอดมา รักจนไม่อาจปล่อยให้เขาจากไปได้

    ".............เด็กโง่!......"

    เพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่นนี้ต่อไปนานขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี
    ต่อให้ถูกด่าถูกตีก็ไม่เป็นไร

    ไม่เป็นไรเลยจริงๆ


    "....พี่ครับ..........คิดถึง......"


    คำถาม
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




      แฮ่ก  แฮ่ก แฮ่ก



      ร่างสูงหยุดหอบหายใจเงยหน้าขึ้นสูดอากาศเข้าเต็มปอด หลังจากวิ่งไปทั่วราวกับคนไร้ทิศทางนานเกือบ 30 นาที เขาเพิ่งเข้าใจถึงความก้าวใหญ่ของบ้านเกิดก็วันนี้เอง
      การที่จะออกตามหาใครสักคนในเมืองใหญ่ๆแบบนี้เป็นเรื่องที่บ้าบอสิ้นดี
      แต่ก็นั้นแหละ ยังไงก็ต้องหาให้เจอ




      "บ้า! บ้า! บ้าจริงๆ"




      คำสบถซ้ำๆที่ดังออกมาจากปากได้รูปจนนับครั้งยังคงดังวนเวียนอยู่ไม่รู้จบ
      เม็ดเหงื่อมากมายยังคงไหลออกมาอาบใบหน้าคม แต่เขากลับไม่ใส่ใจที่จะเช็ดมันออกเลยแม้แต่น้อย





      ...........พี่ครับ ช่วยด้วย!.........




      เขายังจำได้ดี เสียงที่ดูจะตกใจของปลายสายที่ดังเข้ามาในโทรศัพท์นั้นเป็นของใคร
      เชวชีวอน คนที่เขารักเหมือนน้องชายคนนั้นโทรมาหาเขากลางดึกเมื่อเกือบชั่วโมงก่อนหน้านี่
      พร้อมกับบอกในสิ่งที่เขาแทบจะเต้นด้วยความโกรธ


      "อึนฮยอกออกไปข้างนอก ผมหาเขาไม่เจอเลย ช่วยผมที"

      ใจเขากระตุกวูบเมื่อได้ยินชื่อใครอีกคนที่ไม่ได้ยินมานาน เจ้าตัวปัญหา!

      "นายถามผู้จัดการดูแล้วรึยัง? ไม่ใช่ว่าแอบออกไปใกล้ๆหอหรอกเหรอ"
      ข่มเสียงให้เป็นปกติถามกลับออกไป

      "ทุกคนอยู่ที่นี่ แต่หมอนั้นแอบออกไปคนเดียวตอนเรากลับมาจากอัดรายการ ผมเป็นห่วงจังที่นี่ไม่ใช่เกาหลีนะ ทำไมหมอนั้นทำแบบนี้" เสียงโอดครวยดังมาไม่หยุด

      เด็กบ้านั่นชอบทำเรื่องให้ปวดหัวซะจริงๆ
      ใช่แล้วตอนนี้พวกนั้นอยู่ที่ไต้หวัน
      ที่ๆไม่มีอะไรเหมือนกันกับเกาหลีเลย
      ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นแบบนั้นก็ยังหาเรื่องอีกให้ตายเถอะ!

      "แล้วนายพอจะรู้รึเปล่าว่าเขาจะออกไปไหน?"
      ย้อนถามกลับพลางคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว อันที่จริงเขาเพิ่งจะได้ล้มตัวลงนอนเมื่อครู่ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำเสื้อผ้าที่สวมก็ยังเป็นชุดที่พร้อมออกไปข้างนอกได้อยู่
      "หมอนั้นไม่เคยมาไต้หวัน ภาษาจีนก็ไม่เข้าใจ เขาจะอยากไปไหนได้ละเนี้ย"
      ชีวอนพึมพำกลับมา
      "ช่างเถอะ เดี๋ยวลองหาใกล้ๆที่พวกนายอยู่ให้ก็ได้"
      พูดจบก็เตรียมจะปิดกดสายแต่ต้องชะงักเอาไว้เมื่อถูกอีกฝ่ายท้วง
      "เดี๋ยวครับ พี่ฮันเกิงพี่รู้รึเปล่า หมอนั่นนะ..............................................."




      เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่พาเขาออกมาอยู่ตรงนี้ ก็มีแค่นั้นจริงๆ
      พูดก็ไม่เป็น ฟังก็ไม่เข้าใจ แต่กล้าหาญชาญชัยออกมาเดินเล่นในเมืองตอนดึกๆ ยิ่งนึกก็ยิ่งโมโห
      ถ้าเจอตัวละก็จะตีซะให้เข็ด!
      "เมื่อไหร่จะเลิกสร้างเรื่องให้ฉันสักทีนะอึนฮยอกอา...."

      ยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างเป็นกังวลตาคมกวาดมองไปรอบๆตัว ขาทั้งคู่ออกเดินไปตามที่ๆคิดว่าคนๆนั้นจะไป
      มันยากเหลือเกินจริงๆเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
      กี่ครั้งแล้วนะที่ตัวเขาเป็นแบบนี้
      เป็นห่วง กระวนกระวายครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่เด็กคนนั้นไม่เคยสำนึกเลยสักครั้ง
      มันทำให้เขานึกถึงเมื่อก่อน

      ....ทำไมพี่เอาแต่ดุผมตลอดเวลาล่ะ ทำไมพี่ไม่เห็นดุดงเฮบ้างเลย.....

      เสียงตัดพ้อแบบน้อยใจมักจะดังขึ้นให้ได้ยินบ่อยๆจนชินชา
      บางทีเขาคงจะเข้มงวดกับอึนฮยอกมากเกินไป
      แต่ว่าจะให้ปล่อยก็ทำไม่ได้ซะด้วย

      มันเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
      เมื่อวานที่แสนยาวไกล ก่อนที่ทุกอย่างจะเหลือเพียงแค่ความคุ้นเคยเก่าๆ

      .....ทำไม.....

      แค่คำถามสั้นๆที่ใครสักคนถามในวันที่เขาหันหลังเดินจากมาจากตรงนั้น
      ตรงที่ๆเคยเรียกได้เต็มปากว่าครอบครัว เพื่อน พี่น้อง และความฝัน
      บนรอยยิ้มและคราบน้ำตาที่เราต่างฟันฝ่ามาพร้อมๆกัน
      ทุกอย่างก้าวที่เจ็บปวด ล้มลุกคลุกคลานและลุกขึ้นสู้ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง

      นั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเด็กคนนั้น
      อึนฮยอกไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ดวงตาคู้นั้นมองตรงมาที่เขาอย่างเงียบงัน
      ไม่มีแม้คำรำลาใดใด
      บางทีการที่เขาไม่อยู่สักคนคงดีแล้ว
      เขาคิดแบบนั้นเสมอเมื่อได้กลับมาบ้าน
      แต่ว่า...........................




      ..........หมอนั้นนะ อยากเจอพี่มากเลยนะครับ..........


      คำพูดสุดท้ายของชีวอนก่อนวางหูไปมันทำเอาหัวใจของเขากระตุกทุกทีที่นึกถึง
      อยากเจอ ก็เลยออกมาทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย
      คนที่กลัวไปหมดทุกอย่าง ไม่รู้แม้แต่วิธิใช้วีซ่า เด็กบ้าๆคนนั้นจะเอาความกล้ามากมายแค่ไหนกันที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไป
      อยากเจอเหลือเกิน
      ฉันอยากเจอนายจริงๆ ลีฮยอกแจ
      ได้โปรดเถอะ ช่วยมาหาฉัน ได้โปรด...........









      พี่ลีทึกเคยบอกว่า ผมเป็นคนที่เขาห่วงที่สุดเมื่อไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
      ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย เพราะยังไงซะทุกคนก็จะไปกับผม
      ถ้าไม่มีเงินชีวอนก็จะออกให้ไม่ว่าอยากได้อะไร
      ถ้าหิวเรียบวอุคก็จะทำอาหารให้กิน
      ถ้าเหงาก็เล่นเกมส์กับคยูฮยอนได้
      ถ้ามีคนมารังแกพี่คังอินก็จะจัดการเรียบ
      ยังมีพี่ซองมิน พี่ชินดง พี่เยซองคอยอยู่ใกล้ให้อุ่นใจ รึไม่ก็พี่ฮีชอลที่ถึงจะดูน่ากลัวไปบ้างแต่เขาก็ไม่เคยทิ้งผมได้เลยสักครั้ง หรือถึงแม้เป็นดงเฮที่แสนเอาแต่ใจก็ยังมีเรื่องให้สนุกๆได้ตลอด
      ผมไม่เคยกลัวเลยถ้ามีทุกคนอยู่

      แต่ตอนนี้........

      "อา.......แผนที่นี้มันอะไรนะ" ตากลมจ้องมองแผนที่ลายเส้นในมืออย่างจนปัญญา
      มันอ่านได้ยากจริงๆให้ตายเถอะ
      ไม่อยากบอกเลยว่าผมกำลังหลงทางในไต้หวัน

      "รู้งี้ให้ชีวอนมาด้วยดีกว่า"

      ถอนหายใจพับแผนที่ลงกระเป๋ากางเกงรู้สึกว่าสำหรับผมแผนที่คงไม่มีประโยชน์อะไรสักนิดเดียว

      "ที่นี่ ใหญ่จังเลย"

      เงยหน้าขึ้นมองตึกสูงและร้านค้าที่รายรอบอย่างทึ่งๆ ที่อันแสนกว้างใหญ่นี้
      ที่ๆคนๆนั้นอยากกลับมา บ้านเกิดที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
      ความทรงจำที่ไม่มีผมรวมอยู่ในนั้น
      ทำไมถึงไม่บอกว่าอยากให้ผมมาด้วย ทำไมไม่พูดอะไรบ้างเลยนะ
      อยู่ๆก็หนีมาแบบนั้น ใจร้ายชะมัด!

      "ถ้าหาไม่เจอจะทำไง........"

      เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงดาวเบื้องบน
      อึนฮยอกคือแสงดาวที่เปล่งประกายนะ!
      ไม่มีดาวอย่างนี้ดูสิ้นหวังจริงๆเลย

      "พี่ครับ......พี่อยู่ที่ไหน?......."





      คืนหนึ่งจะมีซักกี่คน ที่ไหวหวั่น
      ที่ฉันรู้ก็มีหนึ่งคน คงเป็นฉัน
      เหงาทุกครั้งที่นั่งดูหนัง หนังที่รักกัน
      มีเพียงความเดียวดายกับฉัน และคำถาม
      หากดูหนังเรื่องนี้ตัวเธอจะชอบมั้ย
      อ่านหนังสือเล่นนี้เธอจะคิดเช่นไร
      ชุดสวยๆที่ใครเขาสวมใส่ หากเธอใส่เธอจะสวยมั้ย
      คำถามมากมายที่ไม่มีคำตอบ
      แค่อยากถาม เธอจะเป็นอย่างไรในวันที่ไม่มีฉัน
      เธอจะมีอาการแสดงยามที่หวั่นไหว บ้างรึเปล่า
      หากเธอเหงาเธอคิดถึงใคร
      กาลเวลาจะทำอะไรให้เปลี่ยนไปมั้ย
      ฉันจะยังได้ยินได้ฟังเสียงเธออีกมั้ย
      แค่ครั้งเดียว ตอบคำถามให้ฉันมั่นใจ
      อยากรู้ เธอมีใครใหม่หรือยัง



      "ฮยอกแจ!"

      บางครั้งผมก็คิดว่าผมโง่เกินกว่าจะแยกความจริงกับความฝันออกจากกันได้
      ผมไม่รู้ว่าที่อยู่ตรงหน้าผมจะเป็นภาพลวงตารึเปล่า ผมรู้แค่ว่าดีใจ ดีใจจนนำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว



      หลังจากตระเวณหาอยู่เกือบสองชั่วโมงฮันเกิงก็ตัดสินใจวนกลับมาทางเดิมอีกครั้ง มันคงเป็นสิ่งที่พระเจ้าตั้งใจเอาไว้ ท่ามกลางท้องถนนที่ผู้คนเริ่มบางตา ร่างผอมบางยืนอยู่ตรงนั้น
      เหมือนกับทุกอย่างหยุดลงที่ตรงนี้แล้วจริงๆ
      ในที่สุดก็หาจนเจอ เจอแล้ว

      "ฮยอกแจ!" ไม่รู้ว่าตะโกนดังแค่ไหน รู้แค่ว่าใช้พลังทั้งหมดที่มีเรียกออกไป
      ".................." ร่างบางเพียงแค่หันมามองแล้วยืนนิ่งอยู่แบบนั้นไม่ขยับ
      "ไอ้เด็กบ้า! คิดว่าที่นี่เป็นโซลรึไง รู้บ้างไหมว่าคนอื่นเป็นห่วงมากแค่ไหน!"
      ฮันเกิงตะโกนใส่เป็นชุดก้าวเดินเข้าไปหาด้วยความโกรธแต่ทุกอย่างก็มลายหาไปจนสิ้นเพียงแค่
      เห็นคนตรงหน้ายกแขนขึ้นอ้าออก

      "........พี่ครับ......" เสียงติดจะเครือน้อยๆดังขึ้นพอได้ยินรอยยิ้มเล็กๆที่ไม่ได้เห็นมาเนิ่นนานปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาว ร่างสูงก้าวเข้าไปดึงร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้แน่นโดยไม่ต้องให้มีคำขอร้องใดใด
      อ้อมกอดที่อบอุ่นและอ่อนโยน ความรู้สึกที่โหยหามาตลอดได้ถูกเติมเต็มแล้วในวันนี้




      "......เด็กโง่!......"  สบถพลางยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังบางไปมาช้าๆ
      "พี่ครับ.....คิดถึงจัง......อยากเจอ....." หยดนำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
      "..ก็อยู่นี่แล้วไง....มาหาแล้ว..."

      รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาจนตรงกดหน้าลงกับไหลเล็กไม่ให้นำตาไหลออกมาจมูกโด่งขยับกดแนบศรีษะได้รูปอย่างโหยหา
      เจ้าเด็กตัวปัญหา ถึงจะชอบทำให้เขาวุ่นว่าย ดื้อไปบ้าง
      แต่ก็น่ารัก ลีฮยอกแจน่ารักเสมอ ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม







      อารมณ์ชั่ววูบจริงๆอะ แค่คิดถึงขึ้นมาก็เลยแต่งๆไม่ซีเรียสกันนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×