ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Kingdom Hearts: ผจญภัยในโลกคิงดอมฮาร์ท 01

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 Touki Part VI : ลางร้ายและการหยุดงานชั่วคราว

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 58


     ยังคงร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะ ฉันคิดในใจพรางแอบยืนมองหญิงสาวคนหนึ่งในมุมของปราสาท วันนี้ฉันก็มาทำงานตามที่ได้รับคำสั่งเหมือนเคย ตอนแรกๆก็เหนื่อยอยู่หรอกแต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว จากเมื่อก่อนที่ไปวันละโลกวันละดวง ปัจจุบันก็ไปหลายดวงได้แล้ว ฉันในตอนนี้อยู่ในโลก เออ...ไม่บอกแล้วกันเดาเอาเองนะ หญิงสาวคนนั้นกำลังจะตักไปน้ำจากบ่อน้ำระหว่างทางเธอก็ร้องเพลงไปด้วยและชะโงกหน้าก้มมองลงเงาของตัวเองในบ่อน้ำ สักพักก็มีชาบหนุ่มเข้ามาหาเธอ อืม...ฉันว่า ฉันแอบยืนมองหญิงสาวคนนั้นมาสักระยะแล้วหลังจากเดินดูรอบๆเมืองนี้ หัวใจของหญิงสาวคนนั้นก็ยังคงสองสว่างไม่เคยเปลี่ยน เอาละ! งั้นไปเลิกอื่นต่อเลยดีกว่า ขณะที่จะหลบก้าวเดินออกไปก็รู้สึกบางอย่าง

    "ความรู้สึกนี้มัน..."

     ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆและหันไปทางทิศที่รู้สึก ภายในปราสาทนั้น ราชินีคนนั้น...... ถ้าตามเนื้อเรื่องก็คงจะไม่เป็นอะไรมั้ง? แต่ว่าทำไมกันนะ ไอ้ความรู้สึกแปลกๆนี้? เอาเป็นว่าไว้ค่อยมาคิดแล้วกันจากนั้นฉันก็ออกเดินทางไปโลกอื่นต่อ

     ดาวต่อมาที่ฉันมาสำรวจก็เป็นดวงดาวที่มีหญิงสาวหัวใจส่องสวางอีกคนหญิงคนนั้นกำลังทำงานอย่างขยันขันแข่ง ฉันยิ้มโดยแอบหลบอยู่มุมหนึ่งของห้อง และจู่ๆก็เริ่มรับรู้บางสิ่งบางอย่างที่แปลกๆอีกแล้ว อะไรกันความรู้ที่ไม่ค่อยดีนี้.... มันความรู้สึกอันนี้มันมาจากแม่เลี้ยงของหญิงสาวคนนั้น...

    งั้นฉันน่าจะรีบๆไปสำรวจแต่ละดวงดาวให้เสร็จดีกว่า จะได้ไปถามมาสเตอร์ทั้งสองได้เร็วขึ้น ฉันตันสินใจตรวจดูสภาพรอบๆของโลกนี้ก่อนจะไปโลกต่อไป

     ในที่สุดก็มายังดวงดาวสุดท้ายที่จะทำการสำรวจในวันนี้ เฮ้อให้ตายสิ...ไม่ว่าโลกไหนๆก็มีบรรยากาสแปลกๆที่แทรกเข้ามาทั้งนั้น เกิดอะไรขึ้นกันนะ? อะ!?....หญิงสาวคนนั้น ฉันที่นั่งอยู่บนต้นไม้ก็ก้มหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ในบ้าน บ้านที่อยู่ทามกลางป่าไม้ เธอกำลังทำความสะอาดพร้อมฮั่มเพลงไปด้วย หัวใจที่ส่องสว่างนั้น.....นั้นสินะถึงจะเริ่มมีบรรยากาศแปลกๆเกิดขึ้น แต่หัวใจของหญิงสาวเหล่านั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนอา....หัวใจที่ส่องสวาง ที่มีแสงเจิดจ้ากว่าที่ใดๆรู้สึกตอนแรกที่เจอ3คนตอนนี้ก็ไปเจออีก รู้สึกมาสเตอร์เซฮานอร์ทเคยบอกว่าหญิงสาวเหล่านั้นคือเจ้าหญิงแห่งหัวใจ ฉันเดินไปที่ส่วนอื่นของในป่าและรับรู้ถึงบรรยากาศ เค้าลางของความมืดที่รุนแรงกว่าที่อื่น ฉันจึงวิ่งตามไปดูตามยรรยากาศที่รู้สึกได้และได้พบกับ อันเวิร์สที่ปรากฏระหว่างทาง

    "อันเวิร์ส!"

     ฉันเรียกคีย์เบลดออกมาแล้วค่อยฟันพวกมัน เพื่อไม่ให้มาขวางทาง ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ฉันกล่าวกับตัวเองขณะที่ยังถือคีย์เบลดไว้ในมือ หันมามองตังปราสาทที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด นี้มัน!? ปราสาทของแม่มดในเรื่องนี้นี่ ฉันจ้องมองอย่างระแวง แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง นั้นมัน!! มาสเตอร์เซฮานอร์ท! เขามาทำอะไรที่นี้กัน..... ฉันจ้องมองมาสเตอร์ที่ทำตัวลับๆล่อๆก่อนจะเดินเข้าไป ฉันได้แต่ยืนตกตะลึงมองอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะปลีกตัวออกมา อะไรกัน! ทำไมมาสเตอร์ถึงได้!? ฉันคิดอย่างนั้นพรางวิ่งออกมาและจะกดปุ่มชิ้นส่วนของชุดเกราะที่ไหล่ แต่ก็ต้องชักคีย์เบลดออกมาตั้งรับแทน เมื่อมีใครไม่รู้ใช้คีย์เบลดตีเข้ามา

    "นายมัน!?"

    ฉันอุทานขึ้นเมื่อพบกับผู้ชายประหลาดๆที่พบในวันนั้น

    "ไง~~ ไม่ได้พบกันนานน่ะยัยอ่อน"

    ฉันใช้คีย์เบลดของฉันปัดการโจมตีของอีกฝ่าย และกระโดดถอยออกมาตั้งท่าป้องกัน

    "โห ฝีมือพัฒนาขึ้นดีนี้"

     ชายประหลาดคนนั้นพุ่งเข้ามาพร้อมกับโจมตีอย่างหนักหน่วง โธ่เว้ย! จะป้องกันไม่ไหวอยู่แล้วนะ ฉันคิดอย่างนั้นระหว่างปัดการโจมตีออกไปด้วย เอะ! อีกแล้ว....ช่วงเวลามัน...

    "แต่ก็ยังอ่อนอยูดีนะ!!"

     ชายประหลาดคนนั้นพุ่งเขามาโจมตีจากด้านหลัง เสร็จกัน!! และในตอนนั้นเองที่ฉันขยับตัวไม่ได้ก็สามารถขยับตัวมาป้องกันได้พร้อมกับออร่าสีดำและสีขาวที่อยู่รอบตัว

    ชายคนนั้นพูดราวกับว่ากำลังแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

    "เธอมีทั้งแสงสว่างที่บริสุทธ์และความมืดมิดอยู่ในตัวจริงๆด้วย"

     ฉันตกใจกับออร่าของตัวเองที่อยู่ล้อมรอบขณะจ้องมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่าภาพมันเบลอๆขึ้น อะไรกันๆฉันขบี้ตาตัวเองก่อนสติจะดับวูบไป........

    .

    .

    .

    .

    .

    "เฮ้! ยัยอ่อนหัด ตื่นซะทีสิเฟ้ย!!"

    เสียงของใครบางคนปลุกฉันให้ตื่นขึ้น และเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับเด็กหนุ่มที่โจมตีฉันเมื่อกี้นี้ ผู้ชายประหลาดคนนั้น....

    "นาย..."

     ฉันปลือตาขึ้นมาอย่างยากลำบากและลุกขึ้นยืนก่อนจะสะบัดความงัวเงียของตัวเอง อูย~

    รู้สึกปวดหัวชะมัดเลย ฉันกุมหัวของตัวเองพรางมองไปรอบๆนี้มัน.....ตรงสวนในland of departureนิ ทำไม ก็เมื่อกี้ฉันยังอยู่ในอีกโลกหนึ่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? หรือว่า! ฉันรีบหันไปหาเด็กหนุ่มประหลาดคนนั้น แต่ก็ตกหยุดชะงักด้วยความประหลาดใจ

    "นี้นาย..."

     ออร่าสีดำประหลาดที่อยู่รอบตัวหมอนั้น มันช่างมีมากมายอย่างมหาศาลจนหน้าตกใจ ทำไมหมอนั้นถึงมีความมืดอยู่ในตัวมากขนาดนี้ได้นะ? เด็กหนุ่มประหลาดคนนั้นมองฉันอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาพูดใกล้ๆ

    "เห~~ อะไรกัน นี้เธอไม่ได้มีเพียงพลังแห่งแสงสว่างและความมืดมิดอยู่ในตัว..."

    เด็กหนุ่มประหลาดเว้นช่วงคำพูดของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยต่อ

    "...แต่เธอยังสามารถมองพลังทั้งความมืดและแสงสว่างที่อยู่ในตัวของคนอื่นได้รึนี้!"

     ฉันมองเด็กคนนั้นอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของเขา ก่อนจะนึกได้จะว่าไป.....ออร่าของเด็กคนนั้น หมอนั้นไม่ได้ปล่อยออกแต่ฉันกลับมองเห็นอย่างนั้นเหรอนี้? อะไรกัน?

    "และดูเหมือนว่าจะมีพลังม่กกว่านี้อีก หึหึ สุดยอดๆ~~"

     และแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ฉันยืนตกตะลึงที่ตัวเองสามารถรับรู้ความมืดและแสงสว่างของคนอื่นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่นู้สึกแปลกๆ หรือสังหรใจไม่ดีแบบคนอื่น แต่กลับมองเห็นถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหรือคนอื่นจะไม่ได้เผยให้ชัดเจนก็ตาม

    "แหม่ๆเธอเนี่ย สุดยอดไปเลยนะยัยอ่อน"

     เด็กหนุ่มที่หัวเราะอย่างสะใจเสร็จแล้วก็หันมาพูดกับฉัน ฉันหันมามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ และก็ทวนความคิดในสิ่งที่เขาพูดอีกครั้ง เท่านั้นละสติของฉันก็ขาดผึงทันที หน่อย! ว่าใครอ่อนกันหะ!

    "อย่ามาเรรยกคนอื่นว่าอ่อนนะ! ฉันโทคิ!!!

    ชื่อ โทคิต่างหากเล่า!"

    "หึ งั้นเหรอ"

    เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวอย่างไม่คอยสนใจเท่าไรนัก และทำท่าจะเดินออกไป ฉันที่เห็นแบบนั้นก็รีบทวงชื่อของอีกฝ่ายทันที

    "นายยังไม่ได้บอกชื่อเลยนะ!"

    "ของแบบนั้นไม่จำเป็นหรอก..."

    เด็กคนนั้นกล่าวอย่างเย็นชาและไม่สนใจ

    "อะไรกันๆ นายไม่มีชื่อหรือไง~~"

    ฉันว่าอย่างยียวนกวนประสาท พอหมอนั้นได้ยินแบบนั้นก็รีบหันมามองทันที

    "ว่าใครไม่มีชื่อกันหะ! ยัยบ้า!!"

    "นายไง... "

     ฉันยังคงไม่หยุดและกวนประสาทอีกฝ่ายต่อไป หมอนั้นทำท่าไม่พอใจอยู่พักใหญ่ก่อนจะหันหน้าหลบและสร้างโพรงสีดำขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยอะไร

    "วานิตัส... ชื่อของฉันคือวานิตัส"

    "นั้นคือชื่อองนายสินะ ขอบคุณที่มาส่งนะวานๆ"

    "เหๆ อย่ามาตั้งชื่อเล่นคนอื่นสิ!"

     เด็กหนุ่ม--ไม่สิวานิตัสว่าก่อนจะสะบัดหน้าหนีและรีบก้าวเท้าหายเข้าไปในโพรงมืด..... ฉันอมยิ้มกับภาพที่เห็นอยู่พักหนึ่งอะไรกัน เห็นนิสัยอย่างนั้นแต่ก็น่ารักดีเหมือนกันนิ พอหลังจากนั้นฉันก็รีบเดินไปหามาสเตอร์เอลาคุสทันที และเราเรื่องบรรยากาศแปลกๆที่สัมผัสได้ เค้าลางที่รู้สึกไม่ค่อยน่าปลอดภัย แต่ฉันก็ไม่ได้เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวฉันในวันนี้เลย เพียงแค่เก็บไว้เงียบๆ มาสเตอร์รับฟังอย่างเข้าใจก่อนจะปลอยให้ฉันออกมาเดินเล่นพักผ่อนได้ ฉ้นจึงตัดสินใจว่าจะไปหาอควาก่อนละกันนอกนั้นค่อยคิดทีหลัง แต่ก็รู้สึกแปลกใจกับตัวเองอยู่ดี เรื่องนั้นไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องที่วานิตัสพูดแต่เป็นเหมือนฉันจะลืมอะไรไปบางอย่าง........ฉันที่มัวแต่เหม่อลอยก็ไปชนกับใครบางคนพอดี

    "ข...ขอโทษ เทอร่า!?"

    "ก็ฉันเองไง โทคิ มัวเหมออะไรอยู่ละหืม?"

     เทอร่ากล่าวขณะปัดตัวเล็กน้อย และหันมาคุยกับฉันพร้อมกับลูบหัวไปด้วย ความรู้สึกอบอุ่นนี้ รู้สึกเหมือนฉันมีพี่ชายเลยแฮะ ฉันอมยิ้มหน่อยๆและก็แปลกใจที่เห็นบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขา ความมืด......

    ทำไมกัน?

    "เป็นอะไรหรือเปล่าโทคิ?"

    "ม...ไม่มีอะไร"

     เทอร่าที่เห็นฉันเงียบไปสักพักก็เอ่ยถามขึ้น ฉันที่ได้ยินก็รีบสะดุ้งตัวและกล่าวปฏิเสธทันที ก่อนจะรีบขอตัวเดินออกมาอย่างหว้าวุ่นในใจนี้มันอะไรกัน?.........เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่!? ฉันคั้งคำถามกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ทั้งที่ว่าการมองเห็นนั้น ความมืดที่อยู่ในตัวเทอร่าทั้งๆที่ไม่น่าเป็นไปได้....จะว่าไปก็เคยได้ยินมาเหมือนกันนะว่า โลกเราไม่ได้มีเพียงแสงสว่างหรือความมืดเพียงอย่างใดอย่างหนี่ง แต่ต้องมีทั้งสองสิ่งด้วยกัน ถ้างั้น?เรื่องที่เทอร่ามีความมืดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก? จากนั้นฉันก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นมาอีก ถ้าอย่างนั้นความมืดคืออะไร?

    "เออ โทคิ?"

    "หืม?"

     ฉันหันไปยังต้นเสียงและพบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆฉันในตอนนี้คืออควา ฉันหันสายหันขวาอยู่สักพักก็พบว่าตัวเองมาอยู่หน้าห้องของหญิงสาวเพื่อนสนิทซะแล้ว

    "คือฉัน...."

    "เข้ามาข้างก่อนสิ"

     อควายิ้มก่อนจะพาฉันเข้ามาพวกเราสอฃคนพูดคุยกันเรื่องปกติ ในขณะที่คุยกันอยู่นั้นหญิงสาวเธอจะหวีผมของฉันไปด้วย

    "แล้วงานวันนี้เป็นไงบ้าง"

    "ก็ดีค่ะ..."

     อควาถามฉันขึ้นมา ฉันจึงตอบออกไปและหันมาหาเธอ แต่หญิงสาวก็หันฉันให้กลับไปด้วยที่ว่าทำผมไม่ถนัด พวกเราพูดคุยกันอยู่สักพักจนในที่สุด

    "เอาละ เสร็จแล้ว"

    อควายิ้มพรางมองผมที่เปียที่มัดให้ฉันอย่างเรียบร้อย หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ

    "จะว่าไปคืนนี้จะมาดูดาวด้วยหรือเปล่า?"

    ฉันมองผมของตัวเองในกระจบก่อนที่จะหันมาถามอย่างสงสัย

    "ไม่ละ วันนี้มีธุระนะเทอร่าก็ด้วย"

    อควาพูดพรางสายหัวปฏิเสธ

    "แล้วบอกเวนหรือยังว่า กลับมาแล้วนะ"

    "ยังเลยค่ะ"

     อควาถามและลูบหัวของฉันน้อยๆ ฉันตอบไปอย่างตามตรง อควายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉันเดินกลับเข้ามาในห้องของตัวเองรอเวลาให้มืดแล้วค่อยไปสถานที่ดูดาวกับเวนละกัน ทั้งอควาและเทอร่านอกจากทั้งสองคนจะเป็นเพื่อนสนิทของฉันกับเวนแต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาทั้งสองก็ทำหน้าที่เปรียบเสมือนพี่สาวและพี่ชายของฉันอีกด้วย ฉันงีบหลับไปพักหนึ่งและลุกขึ้นมาดูเวลา เมื่อเห็นท้องฟ้ามืดลงและเริ่มมีหมู่ดาวปรากฏก็เดินออกมาและไปสถานที่ประจำทันที และเห็นเด็กหนุ่มผมสีทองคนหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองฟ้าอยู่ เมื่อฉันเดินไปถึงก็เอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่าย

    "เวน"

    "โทคิ!"

     เวนทัสที่นั่งเหมอมองฟ้าอยู่ก็สะดุ้งตกใจก็ถลันตัวกระโดดไปด้านหลังทันที ฉันขำนิดๆกับท่าทีของเขาก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆ เวนที่เพิ่งตกใจเมื่อกี้พอเห็นฉันหัวเราะเขาก็หัวเราะเช่นกันพรางเอามือเกาหัวตัวเอง เอ๋?.......รู้สึกว่า ทำไมหูของเวนดูแดงผิดปกติจัง? ฉันสังเกตุท่าทีของเขาก่อนจะปฏิเสธตัวเองให้เลิกคิดแล้วหันมาถามเด็กหนุ่มทันที

    "อะไรกันเห็นฉันตกใจขนาดนั้นเลยหรือ?"

    ฉันว่าไปอย่างยิ้มๆ

    "ก...ก็ไม่หรอก แปลกใจนะที่โทคิมาดูด้วย"

    เวนทัสตอบออกไปและเงยหน้ามองดวงดาวอีงครั้ง

    "ปกติเดี๋ยวนี้โทคิมีงานต้องทำ ก็เลยมาดูด้วยกันบ่อยๆเหมือนไม่ได้แล้ว ก็เลยรู้สึกเหงานิดหน่อย"

     ฉันไม่พูดอะไรและรู้สึกว่าตัวเองผิดขึ้นมา ที่ทำเหมือนผิดสัญญา ก็เลยได้แต่รับฟังอยู่เงียบๆ ฉันก้มหน้าลงต่ำกอดเขาตัวเองและหรี่ตาลงพร้อมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

    "ขอโทษนะ"

    เวนทัสที่ได้ยินที่ฉันพูดก็หันมามอง เด็กหนุ่มที่เห็นอย่างนั้นก็รีบพูดแก้เก้อเพื่อไม่ให้ฉันรู้สึกผิด

    "ม...ไม่ใช่ความผิดของเธอซะหน่อย ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอด้วย และเข้าใจดี"

    เวนทัสพูดพร้อมกับจับไหล่มองฉัน

    "อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ดูคนเดียวด้วย มีทั้งเทอร่ากับอคว่าอีก"

     เวนทัสกล่าวขึ้นมา ก็จริงนะช่วงที่ฉันไม่ค่อยว่างมาดูด้วยไม่ได้ก็ลองเสนอให้เวนไปชวนอควากับเทอร่ามา จนตอนนี้จากที่เคยดูกันสองคน ก็เป็นสามแต่ถ้าวันไหนฉันไม่ติดอะไรมาดูด้วนได้ก็เป็นสี่คน วันนี้ก็เช่นกันที่จริงมันควรเป็นสี่คน แต่ด้วยที่พวกเขาทั้งสองติดธุระวันนี้ ฉันกับเวนจึงมาดูด้วยกันสองคน.......เหมือนเมื่อก่อน ฉันเงยหน้าจึ้นมาสบตากับเด็กหนุ่ม เขายิ้มให้กับฉันก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างที่ทำให้หน้าของเขาเริ่มขึ้นสีขึ้นมา

    "แต่ฉันดีใจนะ ที่ตอนไหนที่เธอว่างก็มาดูด้วยกันเสมอ...."

    ฉันนั่งวิเคราะห์ประมวลผลในคำพูดและท่าทีของเวน จนในที่สุดก็วิเคราะห์ได้เมื่อได้ยินคำพูดในประโยคสุดท้ายของเด็กหนุ่ม

    "ฉันชอบที่มาดูดาวกับเธอ ขอบคุณนะโทคิ"

     เวนทัสกล่าวทั้งที่หน้าแดงขึ้นๆเลยจนสุดท้ายก็ยิ้มออกมาก่อนจะหันหน้าหลบทั้งที่หน้ายังคงแดงระเรืออยู่แบบนั้น และฉันเองก็ไม่เข้าใจท่าทางของอีกฝ่ายเท่าไรนัก

    ตึกตัก ตึกตัก

     ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ? ฉันก้มหน้าพรางกอดตัวเองแน่นฟังเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นไม่เป็นระบบ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้...ทั้งท่าทางของเวนก็ด้วย มันเหมือนกับกรณีของเรกะและชินเลยแฮะ กรณีของพวกเขาทั้งคู่..... ม...ไม่หรอกมั้ง!? ฉันสะบัดความคิดนั้นออกไปและเหลือบมองเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆฉัน เวนยังคงหลบหน้าหันไปทางอื่นโดยไม่พูดอะไร ทุกอย่างเงียบลงไม่ได้พูดอะไรและมีความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ พวกเรานั่งเงียบกันอยู่นานจนในที่สุด

    "อ...เออ ถ้ามีกล้องดูดาวก็คงจะดีนะ จะได้ส่องดูดาวได้"

    "กล้องดูดาวเหรอ?"

     และแล้วก็เป็นฉันเองที่เอ่ยแก้เก้อขัดทำลายบรรยากาศที่อบอุ่นนี้ ความอบอุ่นที่แทบจะละลายเพราะความรู้สึกที่ไม่เข้าใจของตัวเอง เวนที่ได้ยินที่ฉันเอ่ยก็หันมาให้ความสนใจและเอ่ยถาม ฉันจึงอธิบายให้เด็กหนุ่มฟัง

    "โห สุดยอดไปเลยนะกล้องดูดาวเนี่ย!"

    เวนทัสพูดออกมาอย่างตื่นเต้น เขาดูสนใจมันมาก ฉันที่มองแล้วก็ยิ้มนิดๆกับท่าทีที่เหมือนเด็กของเจ้าตัว และฉันก็นึกอะไรบางอย่างออก

    "แล้วเวนอยากได้กล้องนั้นหรือเปล่าละ?"

    "แน่นอน อยากได้สิ"

    เวนทัสหันมาพูดยิ้ม ฉันเองก็ยิ้มตอบ จากนั้นก็หันไปให้ความสนใจกับหมู่ดาวกันต่อ โดยยังพูดคุยกันต่อไปเรื่อยๆ

    "นี้โทคิ โลกที่เธอเคยอยู่มันเป็นแบบไหนกันเหรอ?"

    "เออ..."

     จู่ๆเวนก็เอ่ยคำถามขึ้นมา ทางฉันเองก็พอได้ยินก็ถึงกับตอบไม่ถูก และนึกคำที่เคยบอกกับพวกอควาและเทอร่า คำที่ตกลงกับมาสเตอร์เอลาคุสเอาไว้ ฉันอ้ำอึ้งไปอยู่พักหนึ่งด้วยที่ว่านึกไม่ออก...แย่แล้ว!

    "ขอโทษที่ถามนะ ไม่ต้องตอบก็ได้"

    "....?"

    "ถึงจะล้มสลายไปแล้ว แต่เธอก็มีที่นี้นะ"

    เวนทัสหันมามองฉันอีกครั้ง

    "มีทั้งฉัน เทอร่า อควา และก็เธอ โทคิ พวกเราจะอยู่ที่นี้ด้วยกันเนอะ"

    เวนทัสยิ้มออกมาหลังจากที่พูดจบ อยู่ด้วยกันงั้นเหรอ...?

    "นั้นสิ"

     ฉันตอบ เวนเองก็ดูดีใจกับคำตอบของฉัน แต่แล้วหน้าก็ถอดสีเมื่อฉันพูดบางอย่างออกมา นั้นสินะอยู่ด้วยกัน........ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น....

    "แต่ขอโทษนะ ยังไงฉันก็...คงต้องตามหาคนที่อาจเหลือรอดจากดาวบ้านเกิดฉัน ถึงแม้ว่า...สักคนก็ยังดี"

     ฉันยิ้มออกมาทั้งๆที่ภายในรู้สึกเจ็บ เจ็บที่ว่าการอยู่ที่นี้อาจจะหมดลง เจ็บที่จำเป็นต้องโกหก แต่ว่าฉันคงอยู่ที่นี้ตลอดไปไม่ได้ ยังมีเรื่องที่ฉันต้องทำอยู่ และฉันเองสักวันก็ต้องกลับไปหาเรกะ ชิน เพื่อนทั้งสองและครอบครัวของฉันอีกด้วย ขอโทษนะ....

    เวนทัสมองฉันโดยไม่พูดอะไร สีหน้าของเด็กหนุ่มแลดูหม่นลงเล็กน้อย เขาพยายามปรับสีหน้าของตัวเองและหันมายิ้มให้

    "งั้นเหรอ...ถ้างั้นเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะช่วยด้วย"

    "ขอบคุณนะ"

    ฉันตอบทั้งๆที่ฝืนยิ้มอยู่อย่างนั้น

    "ฉันชอบนะช่วงเวลาแบบนี้ ที่นี้กับทุกคน"

     ฉันพูดออกมาอย่างแผ่วเบา เวนยิ้มให้และก็บอกว่าเขาเองก็ด้วย จริงอยู่ว่าเรื่องดวงดาวบ้านเกิดอะไรนั้นถึงจะเป็นเรื่องโกหก แต่ว่าความรู้สึกที่ว่าชอบที่นี้มันเป็นเรื่องจริงนะ สถานที่ที่ได้อยู่กับพวกเขา สถานที่ที่ฉ้นไม่อยากจาก...ฉันเหลือบตาไปมองอีกฝ่ายก่อนจะรีบหันหลบหนี ดูเหมือนเขาเองก็สงสัยกับท่าทีเมื่อกี๋ของฉันเหมือนกัน จากนั้นฉันก็ปรับอารมณ์ของตัวเองและหันไปมองกลุ่มหมู่ดาวที่มีมากมายบนฟากฟ้าร่วมกับเวนอีกครั้ง ตอนนี้พวกเราไม่ได้พูดอะไรแล้วแต่อาจจะมีบ้างเป็นบางคำ พวกเรานั่งดูอยู่ตรงนั้นอย่างยางนานและฉันเองก็เผลอหลับไป

    .

    .

    .

     ที่นี้มัน.....ที่ไหนกัน? ฉันเดินในพื้นที่ที่ฉันไม่รู้จัก ที่พื้นดินเต็มไปด้วยก้อนดินและทราย ที่นี้ไม่มีแม้แต่เงาของต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิต ฉันเดินไปรอบๆและพบกับบางอย่างที่น่าประหลาดใจ มันคือซากของคีย์เบลด!? ซากของคีย์เบลดมากมายที่ถูกปักเอาไว้นี้มัน!.....ในขณะที่ฉันจ้องมองมันอยู่ๆก็รู้สึกได้ถึงลางไม่ดีและเมื่อหันหลังกลับไปก็พบกับ เวน อควา และ เทอร่า ฉันดีใจที่พวกเขาก็อยู่กับฉันด้วยแต่เมื่อฉันวิ่งไปหาพวกเขากลับแตกสลายหายไป ฉันยืนตื่นตกใจกับภาพที่เห็น และแล้วความมืดก็ลายล้อมเข้ามา!?

    .

    .

    .

     ฉันลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ ฉันหอบหายใจอย่างยากลำบาก พยายมตั้งสติและมองสำรวจรอบๆห้อง ก็พบว่าฉันมาอยู่ในห้องของอควา? ฉันหันซ้ายหันขวาและพบกับอควาที่เดินเข้ามา

    "อรุณสวัสดิ์จ๊ะ โทคิ"

    "อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ"

     ฉันตอบออกไป จากนั้นก็ถามอควาถึงสาเหตุที่ฉันมานอนในห้องของเธอ อควาตอบมาว่าเมื่อคืนหลังจากที่ไปธุระกับเทอร่าคุยกับมาสเตอร์เซฮานอร์ทและมาสเตอร์เอลาคุสเสร็จแล้ว ทั้งอควาและเทอร่าก็มาที่ที่พวกเราดูดาวกันเป็นประจำและพบว่าทั้งฉันและเวนทัสต่างก็นอนหลับอยู่ พวกเขาทั้งสองก็เลยตัดสินใจอุ้มกลับมาโดยอควาพาฉันมาที่ห้องของเธอ และเทอร่าเป็นฝ่ายพาเวนไป

    "ไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดีนะ"

     อควาว่ายิ้มขำๆ ฉันรับยิ้มพรางหัวเราะเบาๆ และไม่นานฉันก็เดินออกมาจากห้องของเธอ และเดินเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ข้างๆกับอควา และนึกถึงความฝันเมื่อคืน... ฉันควรบอกปัญหาเหล่านั้นให้มาสเตอร์ฟังไหมนะ? ฉันนั่งพินิจวิเคราะห์อยู่ในห้องของตัวเอง แล้วเรื่องที่รู้สึกลืมอะไรไปบางอย่างนี้มันอะไรกัน? ทั้งๆที่เรื่องความฝันก็จำได้แท้ๆ แต่มีบางอย่างที่ฉันลืมไป เฮ้อ~~ ช่างเถอะ ฉันพึมพำกับตัวเองและเดินไปหามาสเตอร์เอลาคุสเพื่อเล่าให้มาสเตอร์ฟัง และด้วยเหตุนี้เองงานของฉันจึงถูกยกเลิกไปก่อน และแทนที่ด้วยการให้ฉันอยู่ที่นี้เฉยๆหรือจะฝึกก็ได้ ฉันในตอนนี้ที่ว่างไม่มีอะไรทำจึงเลือกจะไปฝึกฝนกับอควา ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกฝึกกับเธอนะเหรอ? นั้นก็เพราะว่าอควา ถ้าเทียบกับพวกเราสี่คนแล้ว ทั้งฉัน เธอ เวน และ เทอร่า อควาถือว่าเป็นผู้ใช้คีย์เบลดที่เก่งที่สุดในหมู่พวกเรา และด้วยที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฉันจึงขอฝึกกับเจ้าตัวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย การโจมตีของอควานั้นดูสงบนิ่งและเฉียบขาดในเวลาเดียวกัน ท่าทางและเทคนิคของเธอดูอ่อนนุ่มราวกับสายน้ำเหมือนชื่อของเธอ ฉันพยายามตั้งรับหรือหลบหลีกการโจมตีเหล่านั้น พร้อมกับหาทางส่วนกลับ และโจมตีให้เยือกเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ และแล้วการฝึกวันนี้ก็สิ้นสุดลง

    "อควานี้สุดยอดไปเลยนะ! เก่งสุดๆเลยละ"

    ฉันพูดกล่าวอย่างตื่นเต้น อควาเห็นท่าทีของฉันก็ยิ้มเอ็นดู

    "ขอบคุณนะ โทคิเองก็เก่งเหมือนกัน"

     อควาเอ่ยออกมาพรางเอามือลูบหัวของฉันเบาๆ ฉันกับเธอพูดคุยเล็กน้อยหลังจากที่ฝึกเสร็จและตัดสินใจกันว่าจะลองไปหาเทอร่ากับเวนทัสกันบ้าง ฉันกับเธอเดินไปสวนและก็เห็นชายและเด็กหนุ่มทั้งสองคนต่างก็ฝึกฝนเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างฝึกโดยการโจมตีสู้กันเอง ฉันมองและสังเกตุรูปแบบเทคนิคของพวกเขาแต่ละคน เทอร่าการโจมตีของเขาจะหนักหน่วง และแข็งแกร่งเหมือนกับผืนดิน ส่วนเวนเองเทคนิคการเคลื่อนไหวในการโจมตีเองก็รวดเร็วดุจสายลม อควา เทอร่า และก็เวน.......สายน้ำ ผืนดิน สายลม แต่ละคนจะแตกต่างออกไป ฉันเองถึงจะเรียนรู้คีย์เบลดได้เร็วก็เถอะ แต่ก็ยังเป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปอยู่ดี สักวันฉันเองก็คงมีเทคนิคเป็นของตัวเองบ้าง ฉันมองมือซ้ายของตัวเองและกำมืออย่างมุ่งมัน เอาละ!!ต้องพยายามต่อไปอีก!

    "โทคิ!/อควา!"

    "เวน เดี๋ยงสิ!"

     เวนทัสที่เห็นฉันกับอควานั่งดูอยู่เด็กหนุ่มก็ดีใจรีบวิ่งมาหาทันที ทางเทอร่าเองเมื่อเห็นเวนไม่สนใจการฝึกวิ่งมาหาพวกเราชายหนุ่มก็รีบวิ่งตาม เวนหลบหลีกเทอร่าที่ตามมาด้วยการวิ่งเป็นวงกลมรอบๆฉันกับอควาบางทีก็คอยหลบหลังพวกเราบ้างจนเทอร่าตามจับไม่ทัน พวกเราสองคนมองท่าทีของพวกเขาและอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เวนที่เห็นพวกฉันหัวเราะก็หยุดวิ่งยืนมองอย่างสงสัยก่อนจะเอามือไขว้หลังและหัวเราะออกมาเช่นกัน เทอร่าเองก็หยุดวิ่งและยิ้มหน่อยๆกับพวกเราที่หัวเราะอยู่ พวกเราทั้ง4คนนั่งอยู่ด้วยกันและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ดูเหมือนว่าเวนกับเทอร่าจะแปลกใจนิดหน่อยที่วันนี้ฉันไม่ได้ไปไหน ฉันก็เลยเล่าว่ามาสเตอร์เอลสคุสให้หยุดก็เพราะ เออ....ฉันชะงักไปเล็กน้อย เออ...พ.....พักผ่อนก่อนนะ แล้วค่อยไปคราวหลัง จากนั้นเวนก็ให้ฉันเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆที่ฉันได้ไปโลกอื่น ฉันจึงเล่ามันอย่างคราวๆ ต่อจากนั้นเทอร่ากับเวนจะไปฝึกกันต่อ อควาก็จะเข้าไปในตัวอาคารฉันเองก็ว่าจะตามอควาไปด้วยแต่พอนึกอะไรได้จึงขอตัวออกมาก่อน ฉันว่าฉันอยากไปRadiant Gardenนะ! คิดว่าต้องมีอะไรที่ฉันไปทำที่นั้น ถึงแม้ว่าจะโดนมาสเตอร์เอลาคุสสั่งว่าช่วงนี้อย่าไปไหนทั้งนั้นหากไม่จำเป็น แต่ฉันว่าฉันมีธุระบางอย่างที่นั้นละ! เพราะงั้นคงไม่เป็นหรอกถ้าจะออกไปนะ ฉันไม่ว่าเปล่าเอื้อมมือไปแตะชิ้นส่วนชุดเกราะที่อยู่บนไหล่ขวาให้งานจากนั้นก็โยนคีย์เบลดขึ้นไปบนฟ้าเพื่อแปรเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่เหมือนกับมอเตอร์ไบค์และออกเดินทางตามเส้นทางระหว่างกลางจนมาถึงสถานที่ที่เรียกว่าRadiant Garden ฉันคลายชุดเกราะให้เป็นเหมือนและคืนสภาพคีย์เบลด ฉันมายืนอยู่กลางสวนที่พื้นถูกปูด้วยกระเบื้องสีฟ้าอ่อยและจะมีทางเดินอยู่สีทิศ ข้างๆเส้นทางเดินจะมีสวนดอกไม้ขนาดย่อมอยู่ด้วย ฉันตัดสินใจกะว่าจะเดินไปยังเป้าหมายของธุระส่วนตัวในทันที แต่ก็ต้องมาแวะระหว่างทางเมื่อเจอกับเพื่อนทั้งสองนั้นคือ ลี และ ไอซะ

    "ไงโทคิ! วันนี้จะมาเล่นด้วยเหรอ!?"

    เด็กหนุ่มที่ชื่อลีเอ่ยขึ้นมา ลีนั้นมีดวงตาสีเขียวฟ้าและก็มีผมสีแดง ทรงผมของเจ้าตัวขอบอกไว้เลยว่าเหมือนเม่นเลยละ

    "เปล่าหรอก พอดีมาเอาของนะ"

    ฉันว่าต่อดูเหมือนว่าลีจะดูหง่อยลงกับคำตอบที่ได้รับแต่สุดท้ายก็มาร่าเริงอีกครั้ง

    "งั้นครั้งหน้านะ!"

    "อืม แน่นอน"

    "เยี่ยม! จำเอาไว้ด้วยละสัญญาแล้วนะ"

    ฉันพยักหน้ารับ สักพักไอซะก็หันถามฉันต่อ ไอซะนะเป็นเด็กหนุ่มดวงตาที่มีดวงตาสีเดียวกับลี แต่ผมของเขาเป็นสีฟ้า

    "เออ...โทคิของที่ฝากเอาไว้คงจะเป็นอันนั้นสินะ?"

    "ใช้แล้วละ"

    ฉันตอบ

    "งั้นตอนนี้อยู่ที่บ้านนั้นเธอคงรู้ใช่ไหม? ว่าที่ไหน"

    "อืม! แน่นอนสิแล้วเจอกันนะ"

     ฉันยิ้มก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับโบกมือลาฉันเดินเข้าไปตามซอยและมาเยือนถึงบ้านหลังหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปก็พบกับกองหนังสือบางส่วนที่อยู่บนพื้น และก็มีโต๊ะขนาดไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไปตั้งอยู่และก็มีเก้าอี้อยู่สองตัว

    "หนูโทคิใช่ไหม?"

     เสียงเรียกนั้นมาจากชายสูงวัยที่มีเคราสีขาวยาวลงมา ใส่แวนตาวงกลม และส่วมใส่เสื้อสีฟ้ามีหมวกแหลมๆสีฟ้าที่ใส่อยู่บนหัว จากลักษณะการแต่งตัวก็บอกได้แล้วว่าคือพ่อมด เขาคือพ่อมดเมอร์ลินนั้นเอง

    "ใช่ค่ะ"

    ฉันว่าพรางโค้งตัวเอ่ยทักทาย

    "มาเอาของสินะ รอแปปหนึ่ง"

     พ่อมดเมอร์ลินกล่าวก่อนจะหายเข้าไปในห้องหนึ่ง ฉันยืนรออยู่ครู่หนึ่งและก็ตัดสินใจหาอะไรทำแก้เซ็งดีกว่าก็เลยหันซ้ายหันขวาไปเจอกับหนังสือเล่มเดียวที่ตั้งอยู่บนชั้นเก็บของ ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆนี้มัน?....หมีพูนี้นา? ฉันว่าพรางจะเอื้อมมือไปแตะแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีอีกเสียงเอ่ยขัดขึ้น

    "ผมว่าอย่าไปแตะจะดีกว่านะป้าาาา"

     ฉันหันไปหาต้นต่อเสียงอย่างหัวเสีย ทำไมนะเหรอ? ไม่ใช่เพราะโดนขัดหรอกนะแต่ว่า.............ใครสั่งใครสอนให้มาเรียกว่าป้ากันหะ!!! อายุยังไม่ขึ้น30เลย!!แถมยังไม่ถึง20เลยด้วยซ้ำ!! ฉะนที่กำลังจะหันไปต่อว่าอีกฝ่ายแต่แล้วก็ต้องตกใจกลับเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุน้อยกว่าฉันสักสิบปี แต่ทว่าใบหน้าของเด็กคนนั้นกลับเหมือนใคีบางคน

    "ชิน!?"


    **************************************************************************

    [To be Continue]


    ยังคงขี้เกียจวาดหน้าปกต่อไป ป.ล. ปกตอน5ได้แล้วแต่ไม่ได้เอามาลง....

    ชื่อตอนลางร้ายและการหยุดงานชั่วคราว เห้นชื่อตอนนี้แต่ไม่ได้หยุดจริๆนะเออ =w=

    ส่วนตอนที่9คาดว่าอีกหลายอาทิตย์กว่าจะมาลงนะ (มีภารกิจ?แต่งฟิคร่วมกับเพื่อนในอีกidหนึ่งแต่จะกลับมาลงต่อจ้า!!!)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×