ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Kingdom Hearts: ผจญภัยในโลกคิงดอมฮาร์ท 01

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 Touki Part I : ความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 58



    ความฝัน......ฝันที่เริ่มฝันมาได้สักพักแล้ว

    ความฝันที่ราวกำลังเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง? มันคืออะไรกันแน่นะ?

     เสียงออดดังขึ้น เพื่อบอกเวลาหมดคาบสุดท้ายของวันนี้ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆต่างพากันเก็บของของตนเพื่อที่จะแยกย้ายกันกลับ มีเพียงเด็กสาวที่มีดวงตาและผมสีน้ำตาลเข้ม ทักเปียยาวไว้ด้านหลัง ติดกิ๊บไขว้เป็นรูปกากบาทสีเหลืองสองตัว เด็กสาวคนนี้กำลังนั่งเหมอลอยสายตาเบียงหันไปทางด้านหน้าต่างที่อยู่ข้างๆตน เด็กสาวที่ว่าไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นฉันเองค่ะ ฉันโทคิ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมในโรงเรียนแห่งนี้ ที่มานั่งเหม่ออยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะฉันกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่นั้นละ เรื่องที่ว่านั้นก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับความฝันนั้น อันที่จริงก็มันไม่ควรมานั่งติดใจอะไรมากมายมันนักหรอกนะ มันก็เหมือนความฝันทั่วๆไปเนี่ยแหละ แต่มันต่างกันตรงที่ว่า หนึ่งในความฝันนั้นมันเหมือนจริงเอามากๆ มันเหมือนได้เผชิญกับอะไรบางอย่างจริงๆ และสอง ความฝันนั้นมันไม่ได้ฝันเพียงแค่ครั้งเดียวแต่มันดันฝันกันติดต่อหลายครั้งแล้ว ฝันแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด

    ป้าบ!!!

     และแล้วเสียงฝ่ามืออรหันต์ก็ดังขึ้น เสียงนั้นไม่ได้ดังขึ้นที่ไหนแต่มันดังขึ้นบนศรีษะของฉันเองละ โดยจะเป็นฝีมือจากใครอื่นไปไม่ได้เสียนอกจากเรกะจังเพื่องสนิทของฉันเองค่ะ เธอมีเวงตาสีเขียวมรกตและมีผมสีแดงเลือดหมู มันผมหางม้าไว้สั้นๆเรียบร้อยดูเป็นระเบียบ ฉันกับเรกะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

     ทั้งฉันและเรกะบ้านก็อยู่ข้างๆกัน ถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจละก็พวกเราจะช่วยกันละ ใบหน้าของเธอในตอนนี้ดูเจือไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

    "อะไรกัน โทคิ!? จะให้รอไปถึงเมื่อไรกัน!?"

    "เอ๋?..."

     ฉันหันไปมองเรกะด้วยความสงสัยอยู่พักหนึ่งจนในที่สุดก็นึกออกขึ้นมาจนได้ จริงสิ!นี้มันเลิกเรียนมานานแล้วนี้นา นักเรียนคนอื่นๆเองต่างก็พากันถยอยกลับจนตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่คนแล้วด้วย ฉันรีบหันไปมองหาเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ด้านล่างผ่านทางหน้าต่าง เขาเป็นผู้ชายที่มีดวงตาและผมสีนิลดำ ใบหน้าของเขาในตอนนี้ดูท่าว่าจะเซ็งๆไม่ต่างจากเรกะจังซักเท่าไร ฉันรีบเก็บข้าวของลงในกระเป๋าอย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แล้วจัดการสะพายกระเป๋ารีบดึง(ลาก)เรกะลงบันไดไปในทันที

     อ๋อ!? ฉันลืมบอกไปซะสนิทเลยละ เพื่อนสนิทของฉันอีกคนนั้นก็คือชินทาคุ โดยปกติแล้วจะฉันเรียกเขาแค่ชิน ทั้งฉันและเรกะต่างก็รู้จักชินพวกเราทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยฉันเริ่มรู้จักกับเขาตอนสมัยอนุบาลและเรกะเพิ่งจะรู้จักกับชินผ่านทางการแนะนำจากฉันในสมัยประถมเนี่ยละ ทันทีที่ลงมาถึงชินก็เริ่มบ่นพวกเราสองคนด้วยความเหนื่อยหน่าย

    "พวกเธอเนี่ยชักช้าชะมัดเลยนะ"

    "ก็ช่วยไม่ได้นี้นา โทคิก็ดันชักช้าเองนี้นา"

    "ขอโทษจ้า~~ ฮะฮะ"

     เรกะเองก็ไม่ได้อยู่เฉยเริ่มตอบกลับอีกฝ่ายโดยไม่ลืมที่จะหันมาแซะฉัน ทางฉันเองก็ได้เพียงแต่ขอโทษและหัวเราะแก้เก้อไป ชินทาคุสายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินนำออกไปโดยไม่ลืมหันมาบอก

    "กลับกันเถอะ"

    "โอ้ส!/อืม..."

     ทั้งฉันกับเรกะเองก็รีบเดินตามชินทาคุไปทันทีโดยไม่ได้ชักช้าระหว่างทางพวกเราสามคนก็ต่างพูดเรื่องสัพเพเหระอะไรไปเรื่อยเปื่อย และบางครั้งฉันก็มองพวกเขาทั้งสองทะเลาะกัน เฮ้อ แล้วในขณะเดียวกันก็พูดถึงการท่องเที่ยวที่พวกเราจะไปกันในอีกสองสัปดาห์หน้า โดยสถานที่ไม่ได้ตกลงกันเลยเนื่องจากฉันอยากไปเที่ยวภูเขาแต่เรกะจังอย่างไปเที่ยวทะเลพวกเราเดินถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้กันตลอดทาง โดยเรื่องที่ค่อยรบกวนจิตใจของฉันนั้นไม่ได้กล่าวเล่าให้พวกเขาฟังเลยแม่แต่น้อย ฉันหยุดเดินยืนมองพวกเขาทั้งสองที่พูดคุยด้วยกันอย่างสนิทสนม ฉันสะบัดความคิดเรื่องความฝันนั้นเพื่อที่ก้าวเดินเพื่อเดินตามพวกเขาให้ทัน และในตอนนั้นเองทุกอย่างก็ดูราวเหมือนจะหยุดนิ่งลง ฉันได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังร้องเรียกฉัน

    .

    .

    .

    [โทคิ]

    .

    .

    .

    [คุณโทคิ]

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เสียงนั้นเหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนกันนะ? ฉันพยายามเงี่ยหูฟัง ฟังเสียงเหล่านั้นให้ดี

    .

    .

    .

    [คุณโทคิ]

    .

    .

    .

    [คุณโทคิ]

     และแล้วฉันก็นึกอะไรบางอย่างออก เสียงนั้นมันเหมือนกับเสียงนั้น เสียงที่ฉันได้ยินในความฝันเมื่อฉันหันหลังกลับไปมองก็พบกับเด็กสาวในชุดเสื้อคลุมสีขาว ทั้งสีผิวและใบหน้าของเธอเป็นสิผิวขาวอ่อนดุจไข่มุก ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยสีขาวรวมถึงเส้นผมก็ด้วย มีเพียงจุดเดียวที่แตกต่างนั้นคือ ดวงตาสีน้ำตาลเทากลมโตนั้น......ฉันมันใจว่าฉันไม่เคยพบกับเธอมาก่อน และไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยแต่ทว่าฉันกลับรู้สึกว่า เด็กสาวที่ยืนมองฉันอยู่นั้นเธอไว้ใจได้ ฉันมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนัก ทันทีที่ฉันตัดสินใจจะเข้าไปเอ่ยทักกับเด็กสาวก็รู้สึกถึงมือใครบางคนที่จับบ่นไหลของฉัน

    "โทคิเป็นอะไรหรือเปล่า?"

    "อ...เอ่อ เรกะจัง?"

     ฉันหันไปมองและพบว่าคนที่จับไหล่ฉันนั้นคือเรกะ สงสัยว่าเธอคงจะรู้สึกตัวว่าฉันไม่ได้เดินตามมาเลยเดินกลับมาหา และพบว่าฉันเหมือนกำลังเหม่อมองอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นสีหน้าของเธอจึงดูเหมือนกังวล ฉันหันกลับไปหาเด็กสาวอีกครั้งและพบว่าเธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว......

    "เหม่ออะไรอยู่นะ?"

    "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"

    ฉันพูดพร้อมกับสายหัวก่อนจะเอ่ยถามถึงเพื่อนชายอีกคน

    "แล้วชินละ?"

    "ไปรออยู่ที่ร้านคาเฟ่นะ"

     ฉันพยักนะรับ และเดินไปที่ร้านคาเฟ่พร้อมกับเรกะ

     เมื่อมาถึงก็เดินเข้าไปในตัวร้าน ภายในร้านก็เหมือนกับร้านกาแฟทั่วๆไปแต่มันพิเศษตรงทีมันให้บรรยากาศที่ดูเย็นสบายและผ่อนคลายไปพร้อมๆกัน แถมมีเพลงคอยเปิดคลอเบาๆ พวกเราทั้งสามคนมักจะมาที่ร้านนี้หลังเลิกเรียนทุกครั้ง ถ้าหากไม่ได้ติดธุระอะไร ชินนั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมหนึ่งของร้าน ฉันและเรกะเดินเข้าไปนั่งตรงที่ชินนั่งอยู่และจากนั้นก็เริ่มสั่งเครื่องเดิม ของฉันเป็นโก้โก้ปั่น และของเรกะเป็นชาเขียวเย็น ชินนั้นได้สั่งก่อนหน้าพวกฉันของเขาเป็นกาแฟอเมริกาโน่ร้อน พวกเราทั้งสามเริ่มเปิดบทสนทนาถกเถียงเรื่องที่จะไปเที่ยวกันอีกครั้งและคราวนี้ฉันเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นการท่องเทียวในคราวนี้พวกเราจะไปเที่ยวภูเขากันซึ่งภูเขาที่จะไปกันคือกรีนเมาเท้นโดยเรื่องที่พักพอดีชินมีบ้านพักต่างอากาศที่นั้นอยู่พอดี จึงประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายไปด้วย หลังจากนั้นฉันก็ออกจากร้านคาเฟ่และไปร้านขายของเกี่ยวกับอุปกรณ์ดูดาว ฉันเดินไปดูกล้องแต่ละตัวๆ ด้วยความพิจารณา

    "โทคิเนี่ย ชอบดูดาวจังน่า..."

     ชินเข้ามาพูดข้างๆฉัน ฉันได้แต่หันไปยิ้มแล้วเกาแก้มทั้งอมยิ้ม ที่พร้อมจะนำเสนอในงานอดิเรกที่ชอบดูดาวของตัวเอง

    "ก็มันช่วยไม่ได้นี้นะ ไม่รู้ว่าทำไมแต่รู้สึกสนใจไปแล้วละ"

    "งั้นเหรอ?"

    ชินว่าพรางหันไปลูบกล้องดูดาวแต่ละตัวก่อนหันมาถามฉัน

    "แล้วโทคิเคยคิดบ้างไหมว่าดวงดาวพวกนั้นบางที......อาจจะมีอยู่ก็ได้นะ"

    "เอ๋?"

     ฉันเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจในคำพูดของชิน เขาส่ายหัวพร้อมกับบอกว่าช่างเถอะและหันไปให้ความสนใจกล้องดูดาวพวกนั้นอีกครั้ง

    "ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่าดวงดาวอาจจะเชื่อมโยงกันอยู่ก็ได้..."

     ฉันเอ่ยออกมาโดยไม่ทันคิดอะไร ก่อนจะเห็นชินมองฉันด้วยความตื่นตระหนกป่นความประหลากใจเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่าฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าก็รีบปฏิเสธว่าแค่พูดเล่นๆ ไปทันที

    "อะแฮ่ม ขอโทษทีน่ะที่มาขัดจังหวะหวานของพวกนาย"

     เรกะที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยขัดขึ้น เธอดูหงุดหงิดที่การท่องเที่ยงนั้นไม่ได้ไปทะเลยอย่างที่หวังไว้ ตลอดเวลาช่วงที่พวกเราซื้อของต่างๆเพื่อเตรียมตัวสำหรับการท่องเที่ยว เธอก็จะบ่นเรื่องเกี่ยวกับทะเลๆอยู่เป็นระยะๆ

    "หงุดหงิดอะไรกันเล่าเธอนะ"

     ชินเอ่ยบ่นใส่เรกะ จนเรกะเธอเองก็หันมาพูดโต้ตอบทะเลาะกับชินอีกครั้ง อา...ให้ตายสิพวกเธอจะไม่ตีกันสักวันจะได้ไหมเนี่ย เมื่อฉันเห็นถ้าไม่ดีจึงเข้าไปปลอบเรกะให้ใจเย็นลง ทั้งฉันและเรกะต่างก็แยกทางกับชินหลังที่พวกเราไปซื้อของกันเสร็จ บ้างของฉันกับเรกะจะอยู่ข้างๆกัน ระหว่างทางฉันก็เลยปลอบใจเธอเรื่องการท่องเที่ยวครั้งนี้

    "เอาน่าๆ ถึงไม่ได้ไปทะเลแต่ที่พักของชินก็มีสระว่ายน้ำนะ"

    "สระว่ายน้ำ?"

    เรกะหันมาถามฉันอย่างงงๆ

    "สระว่ายน้ำไง ชินไม่ได้บอกเธอหรือ"

    ฉันถามเธอไปอย่างสงสัย เรกะไดเแต่สายหน้า

    "ไม่ได้บอกอะไรเลย"

    "ง...งั้นเหรอ?"

    ฉันพยักหน้ารับ และคิดเรื่องที่คุยกับชินวันนี้ที่ร้านคาเฟ่ตอนที่เรกะไปเข้าห้องน้ำ

    /สระว่ายน้ำ?/

    /ใช้แล้วสระว่ายน้ำ/

    /แล้วชินบอกเรกะเรื่องนี้หรือยัง?/

    หลังจากที่ฉันถามคำถามนี้ไป เขาได้แต่สายหน้าและเกาแก้มเขินๆ พยายามหลบสายตาและพูดแก้เก้อออกมา

    /ก...ก็นะ กะว่าจะบอกเธอที่หลังไว้เซอร์--ไม่สิๆ จะบอกเย็นนี้เลยต่างหาก!/

     เป็นครั้งแรกเลยนะที่เห็นชินแสดงท่าทางแบบนั้น ไม่สิ บางทีก็เห็นเขาในบางอารมณ์แต่ท่าทางเขินและเหนียมอายเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกจะว่าไปทั้งสีหน้าแปลกใจนั้นก็ด้วย เอะ? เหมือนลืมอะไรไปแฮะ...

    /โทคิอย่าเพิ่งบอกเรกะละกันนะ/

    /อย่าเพิ่งบอก...อย่าเพิ่งบอก...อย่าเพิ่งบอก/

     ตายละหว่าโทคิ! พอฉันคิดมาได้ถึงตรงนี้ก็รู้ตัวว่าฉันพลาดอย่างแรงที่เผลอพูดเรื่องสีะว่ายน้ำขึ้นมา เอาแล้วไงโทคิ! ชินจะโกรธไหมเนี่ย ทำเสียเรื่องจริงๆ!!

    "เออ...เรกะ"

    "ห...หืม?"

     ฉันสะดุ้งตกใจก่อนจะหันไปหาเรกะ พยายามปรับสีหน้าที่กังวลให้เป็นปกติ

    "เธอกับชินสนิทกันดีจังนะ"

    "ก็แน่นอนสิ เพื่อนสนิททั้งคนนี้นาเธอเองก็ก้วยเรกะ"

    ฉันยิ้มและพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ แน่นอนก็ต้องสนิทอยู่แล้วพวกเราทั้งสามคนก็เป็นเพื่อนกันนี้นา

    "เปล่า ไม่ใช้ฝ่อย่างนั้น"

    เรกะเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับหยุดเดินแหงนมองไปทางอื่น

    "ฉันหมายถึง......โทคิชอบชินเหรอเปล่า?"

    "แน่นอนสิ--"

    ฉันตอบออกไป เรกะหันมาหมองดูเหมือนเรกะจะมีสีหน้ากังวลและเหงาหงอยเล็กน้อย

    "แน่นอนว่าในฐานะเพื่อน บางทีก็รู้สึกเหมือนน้องชายนะน่ะ"

    "ง...งั้นเหรอ"

    "แล้วเรกะละ? ถามแบบนี้หรือว่าจะชอบชิน?"

     ฉันสังเกตสีหน้าของเธอก่อนจะเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย และตอนนี้สีหน้าของเรกะก็เริ่มจะแดงระเรือขึ้นมา ฉันอมยิ้มกับการที่ได้เห็นเรกะเป็นแบบนั้น และอดที่จะแหย่เธอไม่ได้

    "อะไรกันเนี่ย? เรกะชอบชินเหรอ?"

    "บ...บ้า!! ใครจะไปชอบหมอนั้นกันเหล่า!"

     เรกะว่าพลางหันหน้าหนีด้วยใบหน้าที่แดงลามมาถึงหู พร้อมกับงึมงัมบ่นชินไปด้วย จะว่าไปชินเอง...ก็คงจะชอบเรกะเหมือนกันสินะ?

    "อย่าลืมเตรียมของขวัญละ วันเกิดชินครงกับวันเดินทางนะ"

     ฉันแลบลิ้นใส่เรกะ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่บ้าน เอาเถอะ... เหมือนว่าสองคนนี้จะแอบชอบกันและกันสินะดูเหมือนว่าคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์อย่างชิน และคนที่ปากแข็งอย่างเรกะ คงจะไม่ได้สารภาพกันง่ายๆซะด้วย ไว้ฉันจะคอยเชียทั้งสองคนนะ ฉันเดินเปิดประตูเข้าบ้านโดยไม่ทันสังเกตเลยว่ามีใครคอยแอบเฝ่ามองอยู่ตลอดเวลา

    [แล้วเจอกันนะ คุณโทคิ]

    อีกสองสัปดาห์สำหรับการท่องเที่ยวและจุดเริ่มต้นของการเดินทาง

    ********************************************************************************************************************

    [To Be Continue...]


    รีไรแล้วรีไรอีก ไม่รู้จะรัไรท์ไปถึงเมื่อไร 5555 TAT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×