BE FRIENDเพียงรัก...+chapter1[rewrite]
"นายทำแบบนี้ทำไม!!" ร่างบางดีดดิ้นไปมาภายใต้ร่าง "เหนื่อยจนเหงื่อไหลออกตาเลยรึไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ:)" เธอกรีดเล็บไปตามใบหน้าและสันหลังของผม เธอคงไม่รู้สินะว่า...ยิ่งทำเหมือนยิ่งยั่ว:)!!!
ยอดวิวรวม
139
ยอดวิวเดือนนี้
2
ยอดวิวรวม
แท็กนิยาย
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ภีม[PEAM]-ไม่อยากขนาดนั้นเลย?
-1-
“เอ้าชนนน!!!” เสียงแก้วกระทบกันดังระงมสะท้อนไปมาในหู เสียงหัวเราะเรียกความพึงพอใจให้คนที่นี่เพิ่มพูลทวีมากขึ้นสิบเท่า…
แต่มีบางคนที่กำลังไม่พอใจในสถานการณ์นี้มากๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยขุดดินขุดทรายเล่นกัน นั่นแหละคิดดูละกันว่ามันกี่สิบปีมาแล้ว…
“หลีกไปเลยๆ ฉันจะนั่งนี่เอง” ภีมดันไหล่คนนั่งบนโซฟาให้หลีกไปนั่งที่อื่น และทำเสียงจิ๊จ๊ะตามมา เข้าใจภาพตอนนี้ไหมคือมีทั้งผู้หญิงผู้ชายอยู่เต็มห้องไปหมด ขวดไวท์ขวดเหล้าโซดาวางอยู่เกลื่อนห้อง ภายใต้แสงไฟสลัวๆมีเสียงหัวเราะที่ดังอื้อ เสียงเพลงบีทหนักๆ แล้วฉันก็นั่งพื้นข้างล่างนั่งพิงโซฟาเดี่ยวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของคนบนโซฟา โซฟาที่ก่อนหน้านี้ใครนั่งไม่รู้แต่มันถูกแทนที่ด้วยภีมไปเรียบร้อย เพื่อนที่ฉันพูดถึงก่อนหน้านี้ไง
“วู๊ววววว” เพลงมันส์ๆกับแอลกอฮอล์นี่มันเข้ากันสุดๆ ฉันตะโกนออกไปในจังหวะที่เพลงกำลังบรรเลงอย่าบ้าคลั่ง
“เบาๆหน่อยขวัญ แค่นี้ก็เมาเหมือนหมาแล้วเนี่ย” จู่ๆภีมก็เอื้อมมือมาชิงแก้วเหล้าออกจากมือฉันไปก่อนจะยกดื่มรวดเดียวหมด
“นี่…อยากกินด้วยก็บอกสิ มาๆฉันจะรินห้ายยย” ไม่รู้ทำไมภีมมีท่าทีที่บ่งบอกว่าปลง หลังจากฟังฉันพูดเสียงลากยาวไม่ค่อยได้ศัพท์
“ไม่ได้อยากกินโว้ยยย!! ฉันจะบอกว่าให้พอได้แล้ว”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู…” เสียงเพลงถูกปิด เสียงภายในห้องเงียบสงัดไม่มีแม้เสียงแก้วกระทบกัน มีเพียงเสียงร้องเพลงวันเกิด แสงเทียนบนเค้กค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
“อธิฐานแล้วค่อยเป่านะ” ฉันหลับตาอธิฐานในใจไปก่อนจะลืมตาและเป่าเทียนให้ดับลง พร้อมกับงานวันเกิดของฉันในค่ำคืนนี้…
-บทบรรยายภีม-
สวัสดีผมภีม…เมื่อคืนหน่ะวันเกิดเพียงขวัญ ส่วนคืนนี้หน่ะวันเกิดผมเอง...ใช่เราเกิดเดือนเดียวกันปีเดียวกันเพียงแต่คนละวัน อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นว่าไหม?เมื่อก่อนบ้านผมกับบ้านเธออยู่ติดกัน เรียกว่ารั้วเดียวกันจะโอเคกว่า แต่ไม่ใช่ญาติกันหรอกนะ เพียงแต่พ่อแม่ของเราเคยเป็นเพื่อนกันมานานนม จนถึงขั้นจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว เลยพาให้เราสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย
“อื้อ…” เสียงงัวเงียเจ้าของวันเกิดทำให้ผมหลุดจากภวังค์ อ๋อ!ไอ้พวกนั่นน่ะมันกลับบ้านตั้งแต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เองน่ะ พวกมันก็นอนข้างนอกนั่นแหละ
“ได้สติละก็ลุกออกไปซักที หนักเว้ย!!” เพียงขวัญผงกหัวขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มตาหวานคล้ายกับยังไม่สร่างดี
“ภีมน่ารักจังเลย เป็นที่นอนให้ฉันด้วย มามะเดี๋ยวให้รางวัลน้าาา” เพียงขวัญยื่นหน้ามาใกล้ๆหมายจะหอมแก้มผมแต่ก็ดันใบหน้าเธอออกได้ทันท่วงที
ถ้าถามว่าเป็นแค่เพื่อนสนิท แล้วกอดหอมกันได้ไหม?ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้หรอกนะ แต่ทำไมไม่รู้เราสองคนถึงทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“โว้ยยย!!เพราะแบบนี้ไงคนอื่นเลยคิดว่าเราเป็นแฟนกัน ฉันถึงไม่มีนางฟ้าที่อยู่กับฉันไปนานๆก็เพราะใคร!!” ผมมองเพียงขวัญอย่างคาดคั้น แต่เพียงขวัญก็ไม่ตอบรับใดๆเพียงแต่ฟุบหน้านอนอย่างเดิม ผมรับรู้ถึงลมหายใจที่มันรินรดต้นคอผมได้เป็นอย่างดี ไม่รู้เธอนอนท่าไหน รู้แค่ตื่นนอนมาก็นอนทับผมซะแล้ว
“ไม่ต้องมีหรอกมันน่ารำคาญจะตายไป”
“เธอไม่เคยมีไม่รู้หรอกว่ามันดีแค่ไหน” ผมค้านเธอและเล่นผมเธอไปพลางๆ
“รู้แค่ว่ามีรักก็ต้องมีเลิก ถ้าเลิกแล้วต้องมาร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า แล้วจะมีไปทำไมวะ?” ก็จริงอย่างที่มันพูด แต่ก็นะจะไม่ให้รักหรือชอบใครเลยก็ไม่ได้ก็คนพวกนั้นมันอ่อยผมนี่T^T…
“เธอมันไม่มีหัวใจไงยัยโง่…ไปอาบน้ำได้แล้วเหม็นกลิ่นเหล้าสุดๆ” ผมกอดเธอและพลิกตัวให้ผมอยู่ข้างบนและเธออยู่ใต้ร่างผมก่อนจะลุกไปสูบบุหรี่นอกระเบียง
อย่าว่าผมเป็นคนไม่ดีเลยที่สูบบุหรี่ ผมจะสูบตอนเครียดๆเท่านั้นแหละ แล้วตอนนี้ผมก็เครียด เพราะเพียงขวัญขี้เมาคนเมื่อกี้ไง ผมว่าต้องหาผู้ชายสักคนให้มาดูแลเธอแทนผมแล้วล่ะ เธอจะได้รู้จักรักจริงๆซะที…
ผมบิดขี้เกียจพลางกดรีโมตทีวีไปด้วยและเป็นจังหวะที่เพียงขวัญออกมาจากห้องน้ำพอดี
“เมื่อยอะไรวะ บิดอยู่นั้นแหละ”
“ถามจริง…หนักเท่าไหร่วะ นอนทับมาได้ไม่เห็นใจกันเลย”
“ไอ้…หนักน้อยกว่านายละกันเว้ย!” เพียงขวัญโยนผ้าซับผมผืนเล็กๆใส่หน้าผมก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว ผมก็พูดไปงั้นแหละ กะอีแค่ผู้หญิงหุ่นบางๆดูไม่มีเรี่ยวแรงจะไปหนักอะไรที่ผมเมื่อยก็คือผมยืนทำข้าวต้มให้เธอนี่ไง ข้าวต้มธรรมดาๆนี่แหละเรามักทำแบบนี้ให้กันเสมอ
“เฮ้อ!เบื่อข้าวต้มจริงๆ” ถึงโต๊ะทานข้าวกับโซฟามันจะอยู่กันคนละที่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ยินที่เธอบ่น ผมเดินไปนั่งตรงข้ามเธอก่อนจะลงมือกินข้าวต้มที่ผมทำให้ตัวเองด้วย
“ทำไมอาบน้ำเสร็จไม่ใส่เสื้อละชอบมาเดินร่อนเร่วะ” ใช่…เธอยังไม่ได้ใส่เสื้อเลยมีแค่ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดพันรอบตัวแต่เธอก็ใส่ชั้นในหมดแล้วทั้งบนทั้งล่างนะ เพราะผมเห็นสายมันโผล่ออกมา-.,-
“ก็คนมันหิว ไม่อยากเสียเวลา”
“ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วเป็นผู้ชายคนอื่น ฉันว่าเธอแม่งได้ผัวไปละ” ถ้าไม่ถือว่าชินแล้วนี่ถือว่าอ่อยกันชัดๆ
“กากอย่างนาย…ฉันไม่เอาหรอกวะ” ปากดีด้วยไงหายสร่างละก็เข้าโหมดเดิมแล้วสินะน่าตบปากให้เลือดซิบ…
“ไม่เอาเหมือนกันเว้ย อะไรก็ไม่มี” ผมโยนผ้าซับผมคืนใส่เธอก่อนจะก้มหน้ากินต่อ
“ตาบอดไงวะ” ก็จริงที่มันจะว่าผมแบบนั้น ก็เห็นตัวเล็กๆแบบนี้เนี่ยไอ้อย่างอื่นมันไม่เล็กตามนะครับแหม ก็ถือว่ามีเนื้อมีนมมีไข่เหมือนกันนะยัยเพียงขวัญเนี่ยใช่ย่อย-.,-
สงสัยอีกใช่ไหมว่าทำไมเราถึงต้องอยู่คอนโดแล้วก็อยู่ห้องเดียวกัน ก็ผมกับเธอย้ายมาเรียนมหา’ลัยต่างจังหวัดไงเลยต้องมาอยู่ด้วยกัน พอดีกับตอนนั้นมีห้องเหลือห้องเดียว เราก็เลยได้อยู่ด้วยกัน หารค่าห้องกันด้วยไงสบายออก-.,-
แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงนี่สิเราจะต้องไปมหาวิทยาลัยแล้วล่ะ ชีวิตพวกเรามันก็มีแค่นี้แหละครับ=_=
-จบบรรยายภีม-
“เพียงขวัญเธอนี่น่าอิจฉานะ ที่มีภีมอยู่ข้างๆตลอดอะ” ยาหยี
“เออใช่ๆคนอะไรไม่รู้น่ารักเป็นบ้า” บีมิ้น
“ซ้ำยังได้อยู่ห้องเดียวกันอีกอร้าย>///<” เทมป์
เสียงครวญครางถึงภีมยังคงดำเนินมาต่อเนื่องหลังจากเลิกคราสแล้วเราก็นัดเจอกันในร้านนมเล็กๆหน้ามหาวิทยาลัยที่เราศึกษาอยู่
ภีมเป็นที่หมายปองของสาวหลายคน มีบางคนที่มาตีสนิทกับฉันเพราะอยากเข้าใกล้หมอนั่น แต่ก็เข้ากับฉันไม่ได้ซักคนเลยไปหาวิธีอื่น แต่พวกที่นั่งอยู่เนี่ยเพื่อนตายทั้งนั้นถึงมันจะยังหลงภีมแต่ก็ไม่ได้คิดใช้ฉันเป็นเครื่องมือเข้าหาหมอนั่นละกัน
“นี่เลิกพูดถึงหมอนั่นได้ไหม” เข้ามาก็พูดถึงแต่ภีมทั้งๆที่วันนี้วันเกิดฉันนะเว้ย
“ก็แหม คนมันปลื้ม”
“ยิ่งเมื่อคืนนะ ตอนที่เธอเมาอะ รู้ไหมภีมเขาดูแลเธอดีมากเลยนะ” เมื่อคืนบีมิ้นนั่งข้างๆฉันเหตุผลเพราะว่าอยากอยู่ใกล้ภีม “ทั้งไม่ให้กินเหล้าทั้งคอยพยุงเวลาเธอเดินไปไหน”
“อะไรมันก็ปกตินี่” ไม่น่าจะเป็นประเด็นนะเรื่องนี้ ทั้งเพื่อนฉันและเพื่อนเขาต่างก็ชอบมากินที่ห้องเราก็เห็นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วและก็มีแค่เพื่อนเรานี่แหละที่รู้ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน
บางทีฉันก็เคยคิดนะว่าเราเหมือนแฟนกันจริงๆแต่มันไม่ใช่หรอก มันเป็นความรู้สึกของเพื่อนที่ผูกพันธ์กันมานานเท่านั้น
“แต่มันมีอย่างหนึ่งที่แปลก…” ยาหยีพูดเสริม
“อะไร” พูดแบบนี้ฉันก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ อยากรู้จังว่าอะไรที่แปลกเมื่อคืนฉันยิ่งไม่มีสติอยู่ด้วย ทำอะไรลงไปฉันก็จำไม่ได้แล้วด้วยสิ
“พอเธอเป่าเค้กเสร็จใช่ไหม งานก็กลับมาคึกเหมือนเดิม แต่ภีมถามเธออยู่เรื่องหนึ่งน่ะสิ…ภีมถามว่าเธออธิฐานอะไร”
“แล้ว?”
“เธอก็ป้องปากกระซิบกับภีมไป แล้วภีมก็มองเธอสักพัก ไม่พูดไม่จาแล้วก็เดินเข้าห้องไปเลย”
“…”
“ตอนนั้นเธอบอกภีมว่าไงหรอ?” ทั้งสามคนจ้องฉันรอคำตอบตาไม่พริบ
“คือ…เอาตรงๆนะ” ทั้งสามคนพยักหน้ารัวๆ
“(- - )(_ _ )(- - )”
“ฉันก็จำไม่ได้”
“โหยยยแกอะ!” บีมิ้นดูจะคลั่งภีมกว่าทุกคนถึงกับสบถ
“แล้วตอนเช้าภีมได้พูดอะไรถึงเมื่อคืนหรือพูดแปลกๆไหม” เทมป์สาวประเภทสองหัวใจแข็งแกร่งยังไม่ลดละ พยายามจะรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ก็ไม่นะปกติ”
“โอ้ย!คนสวยเซ็งค่ะ” เทมป์หน้าบูดเบี้ยวไปตามๆกันกับบีมิ้นและยาหยี
เมื่อคืนฉันพูดอะไรไป?โอ่ยยย!!ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ช่างเถอะก็คงจะพูดกวนประสาทมันไปแล้วมันก็คงจะอารมณ์เสียเฉยๆมั้ง
“สวัสดีครับ…ยินดีต้อนรับครับ” เสียงเจ้าของร้านแว่วมาทันทีที่ประตูร้านเปิดเข้ามาพร้อมกับลูกค้าอีกสองสามคน
“เอ๊ะ!นั่นภีมนี่” ยาหยีพูดขึ้นเรียกความสนใจให้ทั้งสองสาวตรงหน้าต้องหันไปมองด้วย
“เฮ้…มานั่งนี่สิ” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้มองภีมและเพื่อนของเขาอีกสองคนก็มายืนมุงโต๊ะเราเสียแล้ว
“สร่างดีแล้วหรอ เธอน่ะ” ภีมพูดกับฉันแล้วก็ผลักหัวฉันเบาๆ
“สร่างแล้วสิ ไม่ได้แฮงค์ซะหน่อย” แค่ปวดหัวหนึบๆเอง-.,-
“หรอ ถ้าตอนนั้นอีกครึ่งชั่วโมงยังไม่ตื่นฉันนึกว่าเธอตายไปละนะ”
“ตายพร้อมกันไหมล่ะ?” แหมไอ้นี่ก็จะแช่งให้ตายอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน
“แหมๆน้อยๆหน่อยค่า เห็นไหมค่ะว่ามีคนอยู่เยอะแยะไหงมาพูดกันสองคนค่ะ-*-” เทมป์คงทนไม่ไหวกับบทสนทนาระหว่างฉันกับภีมเลยพูดแสร้งขึ้นมาพลางจิกตาใส่เราสองคน นี่ฉันไม่ผิดนะหมอนี่ชวนฉันคุยเอง….
“เออวันนี้ไปห้องไอ้ภีมอีกป่าวพวกเธอน่ะ” เพื่อนภีมพูดกับเพื่อนฉันทั้งสามคน ฉันว่านายนี่ต้องแอบชอบเพื่อนฉันสักคนแน่ๆ
“ไปทำไมหรอ?” เทมป์ดูจะสนใจงานนี่ใช่ย่อย ว่าแต่ไปทำไมวะ?ฉันยังไม่รู้เลย
“ก็วันนี้วันเกิดไอ้ภีมไง”
ชิบ!!ฉันลืมได้ไงวะ โอ่ยตายๆๆไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้ด้วยสิทำไงดี
“ขวัญ!!ทำไมไม่บอกฉันล่ะ นี่ไม่อยากให้ฉันไปใช่ไหม-v-” บีมิ้นโวยวายฉันเป็นการใหญ่ ยังไงดีเพื่อนขนาดฉันยังลืมเลย-_-
“อย่าบอกนะว่าเธอลืม” ภีมมองฉันอย่างจับผิด แต่ขออย่าให้จับได้เลยนะ-0-
“ป๊าว!ใครลืม จำได้อยู่แล้ว มีของขวัญให้แล้วด้วย-.,-” ทำดีมากลูก ทำดีแล้วหมอนี่ไม่มีทางรู้หรอกว่าฉันลืม
“แน่ใจ”
“โคตรแน่อะพูดเลย” โอ่ยรางวัลแถยกให้เพียงขวัญเถอะค่ะ-/\-
“เออๆงั้นไปละ เจอกันสาวๆ” ภีมโบกมือก่อนจะเดินเข้าไปในมุมร้าน
โล่ง!ถ้ารู้ว่าฉันลืมมีหวังโดนฆ่าแน่ๆว่าแต่วันนี้เอาไงดีล่ะ?
-บรรยายภีม-
แค่ดูแวบแรกก็รู้แล้วว่าเพียงขวัญลืมวันเกิดผม เหลือเชื่อจริงๆวันเกิดติดกันขนาดนี้ยังลืม แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมรับและบอกว่าเตรียมของขวัญไว้ให้ผมแล้วด้วยก็อยากจะรู้เหมือนมันว่ามันจะออกมาเป็นยังไง อีกสี่ชั่วโมงจะเที่ยงคืน ค่ำคืนนี้ก็คงดำเนินมาเหมือนเมื่อวาน
“ภีม…คือฉันซื้อของขวัญไว้ให้นายแล้วนะ แต่ฉันลืมไว้ที่มหา’ลัยอะ เดี๋ยวฉันให้วันอื่นเนอะ แหะๆ^0^;;” เพียงขวัญเดินมาสารภาพหลังจาก กกอยู่ในห้องนอนอยู่นาน ผมว่าตอนอยู่ในห้องเธอคงคิดวิธีจะบอกผมอยู่แน่ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เธอไม่ลืมวันเกิดฉันก็พอแล้ว” เพียงขวัญหน้าถอดสีเมื่อผมแกล้งพูดแหย่เธอเล่น แต่เธอก็ฝืนยิ้มแหยะแล้วก็หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อน
“งั้นฉันไปทางนู้นก่อนนะ แหะๆ” เธอตบบ่าผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักและเดินไปทางที่เพื่อนๆเธอนั่งอยู่
23.59 PM
อีกหนึ่งนาทีจะวันเกิดผมทุกอย่างเหมือนกับเมื่อวานวันเกิดเพียงขวัญ ทุกคนเงียบเพลงถูกปิด และเค้ก ทว่าผมไม่เห็นวี่แววของเพียงขวัญเลย ลืมวันเกิดผมแล้วยังจะหายหน้าหายตาไปอีก!
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู…” บีมิ้นและยาหยีช่วยกันถือเค้กมาหาผม
“อย่าลืมอธิฐานด้วยนะ” บีมิ้นพูดยิ้มๆให้ผม พาลให้นึกถึงตอนที่เพียงขวัญกระซิบบอกผมว่าเธออธิฐานว่าอะไร อยากรู้ใช่ไหม?แต่มันไม่สำคัญหรอก ตอนนี้เพียงขวัญเองจะจำได้รึเปล่าว่าอธิฐานอะไรไป
ในจังหวะที่เทียนกำลังดับลงจนหมดแต่เหลืออีกหนึ่งเล่มที่ยังไม่ดับก็มีเสียงโทรเข้าโทรศัพท์ของผมเสียก่อน ผมจะไม่รับ ทว่าเสียงเรียกเข้ามันเป็นเพลงเฉพาะที่ผมตั้งไว้สำหรับเพียงขวัญพอรู้ตัวก็กดรับสายไปแล้ว
“ว่าไง หายหัวไปไหนเนี่ย”
[ไม่ได้หายซักหน่อยฉันแค่เดินลงมาเอาของหน่ะ แต่คงจะขึ้นไปไม่ทันแย่งเป่าเทียนนายแน่ๆ] ทุกปีเธอจะแย่งเป่าเค้กผม ทั้งๆที่ผมเป็นเจ้าของวันเกิด
“จะลงไปเอาทำไมตอนนี้ล่ะ” ผมพูดเสียงดุ
[ฮ่าๆกำลังจะถึง…]
ปี๊นนน!!!
ผลงานอื่นๆ ของ ghost rider ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ghost rider
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้