ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No words,but is it love?นี่คือความรักรึเปล่านะ?[100%]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1: Habit

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 55


    ทุกอย่างเริ่มขึ้นในรูปแบบของการปลดปล่อยจากความเครียดที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ตั้งแต่หกโมงเช้า พวกเราต้องซ้อมเต้น  ฝึกร้อง ซ้อมเต้น ซ้อมๆๆไปเรื่อยๆ มันเป็นอะไรที่เหนื่อยสุดๆเลย..นอกเหนือจากนั้นยังมีความเครียด ความกดดัน ความคาดหวังที่พวกเราแบกรับไว้ในทุกสิ่งที่เราทำ

            มีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย..อะไรบางอย่างที่รอคอยผมหลังจากการซ้อม...

     ผมยังจำได้แม่น ราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน..วันที่ผมแอบมุดไปนอนเตียงจุนฮยองเป็นครั้งแรก
     












    “อือออ..โยซอบ นายทำอะไรน่ะ?”


    ร่างสูงถามพร้อมกับเขยิบตัวเล็กน้อยหลังจากที่รับรู้ถึงความอุ่นจากร่างกายผมในเตียงเล็กๆของเขา ผมส่ายหัวและสะอื้นเบาๆ 

    วันนั้นเป็นวันที่แย่สุดๆและผมก็รู้สึกเหงาและซึมมากๆ ถ้าหากได้ยินคำพูดที่รุนแรงออกจากปากของร่างสูงแม่แต่คำเดียวผมคงจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว..

    แต่จุนอาไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น..ตรงกันข้าม เขากลับยีผมของผมเบาๆและคลุมร่างกายของผมด้วยผ้าห่ม..

    “โอเค.. อย่าขยับตัวมากละกัน”

     

     

     





    เช้าวันต่อมา ผมตื่นมาพร้อมกับรู้สึกสบายตัวและสงบกว่าวันไหนๆ ผมมองและศึกษาใบหน้าของคนข้างๆอย่างมีความสุข..จมูกโด่ง ดวงตาสีอัลมอนด์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของเปลือกตา ปากหนาๆห้อยๆสีสวย(?).. ผมอิจฉาสเน่ห์ของเขาตลอดเวลาแหละ จุนอาไม่ใช่ไอดอลที่มีหน้าตาที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่เป็นไอดอลที่มีภาพลักษณ์ที่แข็งแรงและเซ็กซี่ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับผมโดยสิ้นเชืง..

     

     

     

     

     

     

     

    คืนแล้วคืนเล่า ผมก็ทำอย่างเดิม..แอบไปขึ้นเตียงของจุนฮยองตอนประมาณตี1 ท่ามกลางกลิ่นตัวหอมและไออุ่นจากร่างกายของเขา.. มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้ว ผมจะรอเขากลับมาที่หอ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนแล้วยิ้มให้กับจุนฮยองที่เหนื่อยล้าจากงาน จุนอาโตกว่าผมและเอาใจใส่ผมทุกวันด้วยการแสดงออกที่เรียบง่าย ยื่นขวดน้ำเย็นๆให้ระหว่างซ้อม หรือผ้าพันคออุ่นๆในช่วงฤดูหนาว..

    สมาชิกในวงคนอื่นเริ่มเห็นว่าแร็พเปอร์เหมือนคนละคนเวลาอยู่กับผม พวกเขาเริ่มล้อผมกับร่างสูง แต่เราก็ไม่กังวลอะไร สายสัมพันธ์ระหว่างเราไม่สามารถถูกทำลายได้ มิตรภาพที่ไม่เหมือนใคร พวกเราสนับสนุนกันเหมือนพี่น้อง กระซิบบอกความลับกันจนดึกดื่น หัวเราะและร้องไห้ด้วยกันเสมอ

     

     

     

     

     

     

    ตอนแรกๆผมกับจุนฮยองก็แค่นอนข้างๆกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป..ผมมักจะโหยหาความอบอุ่นจากเขาโดยไม่รู้ตัว เราต้องการ ผมต้องการที่จะรับรู้ถึงร่างกายของจุนฮยอง  ความรู้สึกปลอบประโลมถาโถมเข้ามาเวลาที่มือเราแตะกันและจับเข้าด้วยกัน แขนของร่างสูงโอบไหล่ผมอย่าง จมูกโด่งมักจะไล้อยู่ที่หางคิ้วของผม..   ผมสามารถนอนหลับได้ถ้ามีจุนฮยอง..กลิ่นของจุนฮยองบนตัวและเสื้อผ้าของผม..เท่านั้น

     

     

    ภาพลักษณ์สาธารณะของพวกเราทั้ง6สะท้อนนิสัยจริงๆของสมาชิกบีสท์แต่ละคนได้เป็นอย่างดี 

    ลีดเดอร์ยุนดูจุน  ลีดเดอร์ผู้ห่วงใยสมาชิก จริงจังและเป็นคนที่ดีมากๆ(?) เขาเป็นคนที่น่ากลัวในบางครั้งแต่เป็นคนที่ทำงานหนักกว่าทุกๆคน

    จางฮยอนซึงฮยอง นักเต้นผู้ชอบบ่นอยู่เป็นพักๆ ชอบพูดโกหก แต่มักจะมีคำแนะนำดีๆเสมอ

    อีกีกวัง นักเต้นที่สุดยอดและเป็นอาหารตา(?)ของวง- -* เป็นสมาชิกที่ยิ้มและแฮปปี้ตลอดเวลา และเขายังเป็นคนซื่อๆไม่ทันคนอีกด้วยในบางครั้ง แต่พวกเรารักเขามากๆเลยล่ะ

    ซนดงอุน มักเน่ของเราที่เหมือนจะแก่กว่าผมในทุกๆด้านและมักจะปลอบใจผมได้ตลอด ผมชอบเสียงเขามากเลยนะ

    แล้วก็ ยงจุนฮยอง แร็พเปอร์ นักเต้น นักร้อง โปรดิวเซอร์ เขาอยู่ขั้นที่สูงกว่าเราจริงๆ เขาเริ่มเต้นตั้งแต่เด็ก พวกคุณสามารถเห็นสไตล์ในทุกๆการเคลื่อนไหวของเขา.. ถึงนักเต้นหลักของเราจะป็นกวังอากับฮยอนซึงฮยอง แต่ผมชอบสไตล์ของจุนอามากกว่า  เขาเป็นอดีตสมาชิกวงXing บอยแบนด์อีกวง สกิลที่โดดเด่นของเขายังปรากฏชัดแม้จะต้องร่วมงานกับศิลปินอื่น แล้วก็..เขาสง่างามมากๆเลยล่ะ-//- โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่าผมค่อนข้างลำเอียงไปทางจุนอานิดดดดนึง แต่จุนอาก็มีแฟนๆและเจสเตอร์สาวๆที่คลั่งไคล้เขาตามติดอยู่แล้วล่ะ





    ต่อไปก็ผม ยังโยซอบ ผมเป็นเมนโวคอลของวง ผมมีความรู้สึกเหมือนเป็นมักเน่ของวง หน้าของผมเล็กประกอบกับแก้มน่าหยิกและผมก็ชอบเล่าเรื่องตลกตลอดเลยด้วย ผมชอบความเรียบง่ายและความเฮฮาเรื่อยเปื่อยของผมนะ แต่ผมรู้ว่าแฟนๆคงไม่เห็นผมในภาพลักษณ์ที่แมนๆหรอก-  - ผมอยากเป็นเหมือนจุนอาหรือดูจุนฮยองในอนาคต ความน่ารักของผมโด่งดังไปทั่วในรายการทีวีและในการถ่ายภาพ จนทำให้บางทีทุกคนไม่ค่อยคิดว่าผมก็จริงจังเหมือนกัน ทุกคน ยกเว้นเขา จุนอาจะฟังผมเล่าเรื่องตลก เรื่องส่วนตัวและการโวยวายของผม ตอนแรกๆจุนอาก็โกรธผมที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายและหัวเราะเสียงดัง แต่ตอนนี่เขาแค่ยิ้มนิดๆและพยักหน้าเงียบๆ



    จุนฮยองไม่ใช่คนพูดมาก เขามักจะเอาสิ่งที่อยู่ในใจใส่ลงในเนื้อเพลงและผลงานส่วนตัวของเขาซะมากกว่า-*- บางทีจุนอาจะให้ผมฟังเพลงที่แต่งยังไม่สมบูรณ์ที่เขาเขียนแบบชุ่ยๆ(?) แต่บางเพลงน่ะ..มันดีกว่าซิงเกิ้ลที่ถูกปล่อยออกมาซะอีกนะ แต่ถึงอย่างนั้น เพราะความดื้อรั้นและนิสัยขวางโลกของจุนอาน่ะ มันทำให้เขาไม่ยอมออกจากสตูดิโอจนกว่าผลงานเขาจะเสร็จสมบูรณ์อย่างเพอร์เฟ็คท์

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     








    เราอยู่ในจุดนี้อีกแล้ว

    อัลบั้มต่อไปของเราอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ผู้ควบคุมการผลิตตัดสินใจจะใช้เพลงของจุนอา และนั่นทำให้จุนอาตั้งใจจะแต่งเพลงให้ดีที่สุด นี่ก็ผ่านมา3วันที่เขาไม่ได้กลับมาที่หอแล้ว ผมได้เจอเขาไม่กี่นาทีด้านนอกห้องแต่งตัว ร่างสูงยืนพิงกำแพงพร้อมกับดื่มโค้กประมาณ 1ลิตรได้ระหว่างที่พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง รอยคล้ำใต้ตาไม่ได้หยุดเขาในการสังเกตผมและยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ผมโบกมือทักทายแต่พอผมกำลังจะเดินเข้าไปหาจุนอา PDก็ลากตัวเขาออกไปซะแล้วT________T

     

     

    ในคืนนั้น หอพักมีแต่ความเงียบ ปกติแล้วผมกับดงอุนอาจะเล่นเกม ตะโกน หัวเราะและพูดเล่นกัน แต่มันไม่ได้อยู่ในหัวสมองผมเลยในตอนนั้น ผมต้องการเพียงอย่างเดียวจริงๆ..


    “โยซอบอา!   เสียงของดูจุนฮยองเรียก ผมเลยหันไปพร้อมพึมพำกลับไป

    “มีอะไรฮะ?”  เหมือนทุกครั้ง ลีดเดอร์กังวลและถามถึงเหตุผลที่ผมเป็นแบบนี้ ฮยอนซึงฮยองก็เงยหน้ามองผมแล้วพยักหน้าอย่างแปลกใจเช่นกัน

    “อ่า..เมื่อไหร่จุนฮยองจะกลับมาหออ่ะ?นี่ก็หลายวันแล้วนะ” ผมโพล่งออกมาพร้อมถอนหายใจ

    “อื้ม เขาก็เป็นแบบนี้แหละ..นายก็รู้หนิ!แร็พเปอร์ผู้ดื้อรั้น” ฮยอนซึงฮยองออกความเห็นพร้อมส่ายหน้านิดๆและยักไหล่ ดูจุนฮยองเลยตีก้นฮยอนซึงฮยองและยิ้ม


    “ย๊า!!จุนฮยองกำลังทำงานหนักเพื่อพวกเรานะ!” ลีดเดอร์พูดจบแล้วจึงหันไปหาโยซอบพร้อมยกยิ้ม

    เขาต้องการสมาธิดังนั้นอย่าไปรบกวนเลย ฉันคิดว่าจุนฮยองคงกำลังมีปัญหากับการแต่งล่ะมั้ง เหมือนเวลาที่ไรเตอร์แต่งต่อไม่ออกอ่ะ(ตัน)”

     

    ผมเดินเข้าห้องนอนอย่างหงุดหงิดแล้วนั่งลงบนเตียงที่ผมเพิ่งนอนไปไม่นานนี้ ผมได้กลิ่นจางๆของจุนฮยอง กลิ่นของจุนฮยองอยู่ทุกที่ที่เป็นสิ่งของของเขา ไม่ใช่แค่กลิ่นน้ำหอมที่จุนฮยองใช้ แต่มันคือกลิ่นตัวจางๆประจำตัวของเขาด้วย ผมพาดตัวลงนอนให้เต็มเตียงของร่างสูงและฝังใบหน้าลงกับหมอนจุนฮยองแล้วข่มตัวเองให้หลับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงนึง ผมถูกปลุกโดยกีกวัง ผมค่อยๆมองนาฬิกาที่บอกเวลาห้าทุ่ม  เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเตียงยังไม่กลับมาด้วย ตอนเที่ยงคืนผมก็ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆห้องนั่งเล่นพร้อมกับคำพูดของลีดเดอร์วนเวียนอยู่ในหัวของผม




    “เขาต้องการสมาธิดังนั้นอย่าไปรบกวนเลย”

     

     

     

    ถ้าผมไปที่นั่น ผมจะเป็นคนที่รบกวนและน่ารำคาญขนาดนั้นเลยหรอ? หลังจากที่ผมยัดสิ่งต่างๆลงกระเป๋าและย่องออกจากประตูหอพัก ผมรีบวิ่งไปที่สถานีรถไฟใต้ดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมปลอมตัวมาอย่างดีแล้วด้วยการใส่ฮู้ดและเอาผ้าพันคอบังหน้า ผมขึ้นรถไฟใต้ดินและเปิดเพลงให้ดังที่สุด พยายามจะทำให้เวลาผ่านไปอย่างเร็วที่สุด

     

    “ผมแค่ไปที่นั่นเผื่อว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้มั้ง..” ความคิดของผมไหลไปเรื่อย ตอนที่ผมเข้าไปในห้องจะปล่อยมุกให้จุนอาหัวเราะหรือแค่ถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่เฉยๆดีนะ? เมื่อผมมาถึงตึก ผมก็ยังไม่ได้ข้อสรุปของไอเดียต่างๆอยู่ดี  ยามที่อยู่เวรในตอนนั้นทักทายผมอย่างงงวยแต่ก็ปล่อยให้ผมเข้าไป

              

     

     

     

    อย่างที่ผมนึกไว้ ร่างสูงอยู่ในสตูดิโอตรงหน้าหน้าจอใหญ่ที่มีแสงทำให้ห้องสว่างขึ้นมาเล็กน้อย บนหน้าจอมีผลงานของเขาแสดงอยู่  จุนฮยองอยู่ในท่าฟุบหลับที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

     

    ผมยิ้มอย่างอ่อนโยนและค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบดินสอออกจากมือของเขา แต่ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของผมทำให้เขาตื่นล่ะ เพราะจุนอาค่อยๆลืมตาและมองมาที่ผม


    “หืม?..ซะ ซอบหรอ?” ร่างสูงค่อยๆหยัดตัวขึ้นจากโต๊ะและจับมือของผมไปกุมไว้ ผมรู้สึกว่าหน้าผมร้อนนิดๆก่อนที่ผมจะขยับเข้าไปใกล้ร่างกายของจุนอา ผมใช้มืออีกข้างที่จุนอาไม่ได้กุมลูบผมสีเข้มของเขาเบาๆ หัวของร่างสูงพิงที่ท้องของผม ตาของเขาปิดลงอีกครั้ง


    “ฮยองควรจะนอนนะ..” ผมกระซิบเบาๆพร้อมกับไล้มือไปที่ท้ายทอยและบริเวณหลังของจุนอา ร่างสูงสั่นเล็กน้อยและผมเริ่มรู้ตัวว่าผมอยากสัมผัสร่างกายของเขามากแค่ไหน

     

    มือของจุนฮยองหลุดออกจากมือของผมและค่อยๆลูบไล้แผ่นหลังเล็กผ่านเสื้อกันหนาว ผมรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเขาค่อยๆลุกขึ้นและโอบกอดผม มันเป็นครั้งแรกที่จุนอากอดผมแบบนั้น หลังจากนั้นประมาณสองสามนาที จุนอาก็ค่อยๆผละออกแต่ตายังคงจับจ้องที่ผมอยู่ ผมมองสบตาร่างสูงและวางมือไว้ที่อกของจุนอา

     




    “นายควรไปได้แล้วนะ มันดึกแล้ว รู้มั้ย?” เสียงของเขาทุ้มมากๆจนคำบางคำหลุดออกมาแค่ครึ่งคำ

    “ฮยองก็ควรจะนอนได้แ...” มือของร่างสูงที่ปัดผมออกจากตาผมเบาๆขัดประโยคที่จะพูด เขาส่ายหน้าและยกยิ้มเล็กๆแบบที่ชอบทำ ยิ้มที่ทำให้หัวผมโล่งไปชั่วครู่ทุกครั้ง..    

    “ย่าห์..นายควรจะเชื่อฟังฮยองของนายสิ” เขาพูดต่อ พร้อมดึงตัวผมออกห่างจากร่างกายเขาเล็กน้อยและนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง มือเลื่อนเม้าส์ ผมหยุดมือจุนอาไว้และส่ายหัวพร้อมทำปากยื่น


    “ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าฮยองจะหาอะไรยัดลงท้องและนอน!” ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วหยิบเลย์ ขนมปังรสนมและโค้ก2กระป๋องออกมา จุนอาหัวเราะเล็กน้อยแล้วจึงหยิบโค้กกระป๋องนึงอย่างรวดเร็ว ผมยิ้มอย่างพอใจและนั่งลงที่โซฟาด้านหลังเขาแล้วเริ่มหาวิธีที่จะเริ่มบทสนทนา


    “อ่า..งานถึงไหนแล้วล่ะ?” พูดออกมาจนได้แฮะเรา..

    ร่างสูงหมุนเก้าอี้หัน หน้ามาทางผมแล้วยักไหล่ ไม่มีใครพูดอะไรต่อเลยสักพัก  หลังจากกินขนมปังรสนมไปได้ครึ่งนึงเขาเลยหันมามองผมแล้วเอ่ย


    “ตันแล้ว.. แม่งเอ้ย ฉันคิดว่าฉันทำไม่ได้ล่ะ”

    อ้อออ ดูจุนฮยองพูดถูกจริงด้วย~แต่ไม่ใช่ที่ผมอาจจะรบกวนจุนอาหรอกนะ!ผมยิ้มอย่างภูมิใจ^[+++]^


    “ย๊า!นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายควรจะยิ้มเย้ยเลยนะ!” หวา จุนอาจ้องผมเขม็งเลย- -;


    “ไม่ใช่อย่างนั้นจุนอา ผมไม่ได้ยิ้มเย้ยสักหน่อย ดูจุนฮยองบอกว่าผมไม่ควรรบกวนฮยอง แต่..เอ่อ...ผมคิดว่าฮยองคงต้องการผมที่นี้น่ะ!” ผมยิ้มแบบอายๆเนื่องจากคำพูดของผมเองนี่แหละ-/-  ร่างสูงยิ้มนิดๆ แต่ก็เบนสายตาออกไปเหมือนเดิม  ไอ้ยังโยซอบงี่เง่าเอ้ย นายไม่ได้ช่วยทำให้จุนอามั่นใจขึ้นเลย!


    “ยงจุนฮยองฮยอง” ผมเรียกชื่อเต็มยศของจุนอาอย่างเขินอายก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเขามองมาที่ผม

    “ผมเชื่อว่าฮยองทำได้ ฮยองก็รู้ว่าฮยองทำได้! ฮยองเก่งเรื่องนี้สุดๆๆๆๆ ฮยองแค่ต้องการพักผ่อนสักพักก่อนจะทำงานต่อแค่นั้นเอง”

    “แล้วถ้าเพลงมันออกมาห่วยโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ?”

    “มันไม่มีทางห่วยได้ถ้าฮยองเป็นคนเขียนมัน!” ผมอึ้งเล็กน้อยที่จุนอาเป็นแบบนี้...มันไม่เหมือนเขาเลย ปกติจุนอาจะภูมิใจและมั่นใจในเพลงที่แต่งนี่นา


    “เค ดังนั้นถ้ามันออกมาห่วย นายจะรับผิดชอบ?” ร่างสูงถามหยอกๆ ยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า

    “อื้ม!ได้เลย!” ผมยืนขึ้นพร้อมกับยิ้มที่ระบายไปทั่วใบหน้าเช่นกันพร้อมกับพยักหน้าแรงๆ จุนอาหัวเราะในลำคอแล้วเดินมาที่ผมพร้อมกับยิ้มแปลกๆบนใบหน้า พระเจ้า..นั่นมันยิ้มแบบไหนกัน?!? ผมหายใจไม่ทั่วท้องแล้วนะ!


    “นายควรจะรับรองการทำงานที่ดีของฉัน” จุนอากระตุกยิ้มอีกครั้งพร้อมเข้าใกล้ผมยิ่งกว่าเดิม

    “อะ..อ่าฮะ.....ยังไง?” ผมพูดติดอ่างและเริ่มถอยหลังก่อนที่จะหงายหลังล้มลงไปที่โซฟา จุนอายกยิ้มอีกครั้งก่อนจะนอนลงแล้วใช้ตักของผมแทนหมอนก่อนจะหลับตาลง


    “ดูแลให้ฉันได้พักผ่อนอย่างดี” เขาสรุปก่อนจะค่อยๆขยับจนรู้สึกสบายตัวแล้วจึงวางมือซ้ายของเขาตรงหลังผม ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะปรับท่านั่งของผมให้สบายที่สุดสำหรับการนอนของจุนอา มือของผมสัมผัสตั้งแต่แขนไล่ไปถึงไหล่ของจุนอา เสื้อสีเทาหลวมๆที่เขาใส่ร่นจนเผยรอยสัก ผมใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆตรงนั้น นิ้วเรียวสัมผัสกระดูกไหปลาร้าเล็กน้อย ผมกลั้นหายใจ.....  

     

     

    จุนอาลืมตาขึ้น.. อีกครั้ง ที่บรรยากาศแปลกๆเหมือนครั้งก่อนกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความเงียบงัน ตาของเขาจับจ้องที่ผม ผมลูบบริเวณรอยสักนั้นอีกครั้ง.. ผมรู้สึกถึงร่างกายที่สั่นไหวของจุนอาก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาหยุดมือผมไว้ที่อก ผมคิดว่าเขาต้องได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งของผมแน่ๆเลย

    “โยซอบ..”

    “ผมคิดถึงฮยองนะ” ผมพูดขัดประโยคของร่างสูง


    บางทีผมอาจจะกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะพูดหรือไม่ก็ผมอยากบอกเขาแบบนั้นจริงๆ หน้าผมขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยก่อนที่ผมจะเอาผ้าพันคอคลุมปากของผมและพูดต่อไปว่า

    “ผมคิดถึงฮยอง..ตอน..กลางคืน..”



    ในตอนนั้นผมไม่สามารถที่จะสบตาจุนอาได้เลย แต่ผมรู้สึกถึงร่างกายของเขาที่ค่อยๆลุกขี้นนั่งและมือหนึ่งที่กำลังคลายผ้าพันคอผมออก ริมฝีปากของผมไม่มีสิ่งปิดบัง และภายในไม่กี่วินาที ผมรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นของจุนอาที่ต้นคอของผม ผมไม่สามารถต้านมันได้อีกแล้วจึงเบนสายตาไปสบตากับเขา เหมือนเวลาหยุดนิ่งไปสักพัก  ใบหน้าของจุนอาอยู่ใกล้มาก ผมสามารถรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดต้นคอพอๆกับนิ้วเรียวยาวของเขาที่ไล้อยู่ที่ท้ายทอยของผม รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั่วตัวผม ทุกอย่างมันแตกต่าง..แตกต่างจากการสัมผัสกันในทุกครั้ง คล้ายๆกับเวลาที่เรานอนแนบชิดกัน แต่...ครั้งนี้มันร้อนแรงกว่าเยอะ

     

     

    ร่างสูงค่อยๆปิดช่องว่างระหว่างเราอย่างรวดเร็ว แต่มันคงเร็วเกินไปสำหรับผม..ผมเบี่ยงหน้าหนี จุนอาหยุดนิ่งทันที ราวกับร่างกายเขากลายเป็นหินชั่วครู่..ผมไม่รู้สึกถึงลมหายใจของเขาด้วยซ้ำ ผมรู้สึกตัวเองแม่งแย่มากๆๆๆ  ผมหลบฮยองทำเชี่ยอะไร?  ผมรู้สึกว่าร่างกายของจุนอาเริ่มผ่อนคลาย

     

     

    ก่อนที่จุนอาจะล้มตัวลงนอนที่ตักผมอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาแตะที่แก้มของผมแผ่วเบา... ผมรู้สึกอยากจะรั้งจุนอากลับมาหาผมแล้วประกบปากกับเขามากๆ แต่ผมในตอนนั้นกลับทำอะไรไม่ถูกเลย

     

     

     

     










    .........................................END OF CHAPTER ONE...................................................

     

     

    ลงแชปแรกแล้วนะคะ เป็นยังไงบ้างคะ? ดีไม่ดี บกพร่องตรงไหนเชิญติ ด่า ว่า กระทืบ ได้เลยค่า^^//กระทืบเบาๆนะ กลัวเจ็บ5555

    ลองลงแชปแรกให้อ่านกัน จะได้รู้ว่ารีดเดอร์ชอบรึเปล่า?พออ่านได้มั้ย? ถ้าไม่ชอบก็บอกกันนะคะจะได้ไม่แปลต่อ อยากรู้ว่ารีดเดอร์คิดยังไงค่ะ

    คอมเม้นท์ไม่เอาอะไรมาก แค่คำว่า ขอบคุณ ก็พอแล้วค่ะ=](แต่ถ้ามาแบบยาวๆนี่จะซึ้งมากเลยค่ะ55)  แปลเป็นไทยให้ฟังดูดี(?)มันยากจริงๆค่ะ55แต่ก็นะ เพื่อจุนซอบเราทำได้!!555

     

    ท้ายนี้ ขอขอบคุณที่เข้ามาหรือหลงเข้ามาอ่านฟิคนี้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ^^ แล้วเจอกันค่า~

     

    :) Shalunla

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×