ตอนที่ 8 : ► INFINITY TAPLET :: Ch.6 ◄ Ghost House.
6
Ghost house.
00.15 AM.
ตอนนี้แท๊ปเล็ตใบหน้าซีดเผือก มือของเขาสั่นเทา ตัวสั่นระริกประหนึ่งเขาเจอเข้ากับสิ่งผิดปกติบางอย่าง ปากของเขาอ้ำอึ้งอยู่นาน ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ...
ซะเมื่อไร -__-;
แท๊ปเล็ตไม่มีท่าทีนั้นเลยสักนิด ที่บรรยายมาทั้งหมดคือตัวฉันล้วนๆ เลยตอนนี้ ฉันกับแท๊ปเล็ตมายืนอยู่จุดที่รายการคนปลวกผีจะถ่ายทำที่บ้านร้างหลังหนึ่ง พร็อพเดิมๆ ตามแบบฉบับรายการผีทั่วไป บรรยากาศตอนนี้อาจจะไม่น่ากลัวเท่าไร เพราะทีมงานกำลังเดินคึกคักเพราะต้องจัดการติดตั้งกล้องในตัวบ้านและเตรียมตัวเพื่อจัดด่านต่างๆ ให้ฉันทำภารกิจ
บ้าบอจริงๆ ฉันมายืนปลูกต้นกระเพราอะไรตรงนี้เนี่ย T^T
“กลัวหรือไง เหงื่อแตกเชียว”
เสียงของแท๊ปเล็ตพูดขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจนิดๆ ฉันรีบใช้หลังมือปาดเหงื่อบนใบหน้าทันที ดูสิ เสียฟอร์มเลย - -*
“ฉันร้อนต่างหาก =__=;;”
“หนาวจนหิมะจะลงหัว เธอบอกร้อนเนี่ยนะ” เขาหันมามองฉันด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “น่าเชื่อจริงๆ”
“นายอย่ามาประชดใส่ฉันน่า ใครจะไปเก่งเหมือนนายกันเล่า ไม่กลัวอะไรสักอย่าง”
“รู้หรือไงว่าฉันไม่มีสิ่งที่กลัวน่ะ -___-” เขาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แถมยังบ่นงึมงำ งึมงำเหมือนตาแก่ขี้บ่นอีก
ฉันเลิกทะเลาะกับแท๊ปเล็ตเพราะเห็นว่าเขาไม่สนใจฉันแล้ว ฉันเลยมองไปที่รถตู้ที่กำลังเคลื่อนตัวมาจอดอยู่ที่กองถ่ายรายการ ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นรถตู้ของพิธีกรแหงๆ และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่รถตู้จอดสนิท ประตูรถก็ค่อยๆ เลื่อนออก ก่อนจะมีผู้ชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนก้าวลงมา พี่แป๋ง คนปลวกผี พี่ตุ๊ก บริสุทธิ์ พี่หิด ฝีพิมเสน และคุณจาน ยานย้วน =,,= พวกเขามีรัศมีที่โดดเด่นเตะเบ้าตาฉันเลยทีเดียว ทั้งหมดเดินเข้าไปพักตามปกติ ฉันเข้าไปขอลายเซ็นได้ไหมอ่ะ นานๆ ทีจะได้พบเจอดารา ><
“มองอะไร?” แท๊ปเล็ตมองหน้าฉันแล้วเลื่อนสายตาไปที่จุดที่ฉันมองอยู่ “อ๋อ ดารา...ที่แท้ก็บ้าดารา”
“ใครบ้ายะ ฉันก็แค่มองว่าพี่หิด ฝีพิมเสน ดูดีกว่าในทีวีเยอะแค่นั้นเอง”
“เหรอ~!”
น้ำเสียงไม่ค่อยเชื่อพร้อมกับใบหน้าประชดส่งมาให้ฉัน ฮึ้ย! เกลียดคนรู้ทันจริงๆ เว้ย T^T
แต่ไม่กี่นาทีรถตู้ที่ติดฟิล์มมืดสนิทก็เคลื่อนตัวมาจอดใกล้ๆ กับรถตู้ของเหล่าพิธีกร เมื่อรถตู้หยุดนิ่ง ผู้ชายสูงยาวเข่าดีรัศมีส่องประกายเจิดจรัสหาผู้ใดเทียบเทียม (ถ้าไม่รวมอีตาข้างๆ ฉันที่ตอนนี้นั่งตบยุงเล่นไปเรียบร้อย) ผมพลิ้วไสวอ่อนนุ่ม ถูกสะบัดไปมาเพื่อจัดทรงตามธรรมชาติ แว่นตาสีชาถูกถอดออกก่อนจะเหน็บไว้ที่คอเสื้อยืดสีขาวที่รัดพอดีตัว เผยให้เห็นทรงแผงอกกว้างของเขา ริมฝีปากเนียนละเอียดชมพูวิ้งค์โดยไม่ต้องแต่งเติมจากลิปสติกแต่อย่างใดถูกเม้มและเลียเพื่อเคลือบเงาไม่ให้แห้งผาก จมูกเข้ารูปรับใบหน้าที่เรียวสวยได้เป็นอย่างดี...
...เขาคนนี้...
คือคนที่ฉันหลงรักมากที่สุด ><:;
“นายๆ!”
ฉันรีบใช้ฝ่ามือทุบที่หลังแท๊ปเล็ตแบบไม่ยั้งมือพลางเรียกเขาด้วยความตื่นเต้น
“อะไรของเธอ -__-;”
แท๊ปเล็ตลุกขึ้นก่อนจะปัดมือกับกางเกงยีนส์สีดำของตัวเอง แล้วหันมาถามฉันด้วยสายตาและน้ำเสียงที่หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“นายดูนั่น! ไปเปอร์นายแบบชื่อดังจากนิตยสาร SHU เลยน้า ><”
ใช่แล้ว! เขาผู้นั้นคือ ไปเปอร์ นายแบบเสื้อผ้าแบรด์ดังต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากเยอรมัน แถมยังเป็นนายแบบขาประจำขึ้นปกนิตยาสาร SHU อีก ที่ฉันรู้จักก็เพราะอาร์ตเตอร์มันชอบเอาหนังสือ SHU มาให้อ่านบ่อยๆ เอาไว้ให้ฉันศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้า เพื่อจะได้ไปเรียนต่อเกี่ยวกับดีไซเนอร์ ฉันไม่เคยสนใจเสื้อผ้าที่ไปเปอร์สวมใส่มันสักนิด สนก็แต่คนสวมใส่เนี่ยแหละ ผู้ชายที่มีบุคลิกน่าจับ...ตามอง ^^; มากที่สุด
ดูการก้าวขาของเขาแต่ละก้าวสิ ดูคล่องแคล่วสมที่เป็นนายแบบชื่อดังจริงๆ เขาเดินไปที่แหล่งพิธีกรที่นั่งคุยกันอยู่ ก่อนจะยกมือไหว้อย่างเป็นมารยาท
“หึ!” ฉันหันขวับไปมองบุคคลข้างๆ ที่ดันพ่นลมออกมาใส่หัวฉันดื้อๆ “หน้าตาก็งั้นๆ นี่นายแบบหรือกระเป๋ารถเมล์แถวเอกมัยกัน”
อ๊ากกก! ปากเหรอนั่น ปากหรือกรงสุนัขกันหา! กระเป๋ารถเมล์ยังดูดีกว่านายด้วยซ้ำ ดูเทียบสิ ไปเปอร์ฉันออกจะสูงส่งดุจดั่งเทวดาลงมาเดินเล่นเก็บดอกไม้บนพื้นหญ้า ไม่น่าให้นายนี่เชยชมความหล่อไปเปอร์เลยยย!
“นายอิจฉามากกว่ามั้งเนี่ย ไปเปอร์หล่อมากถึงมากที่สุด” ฉันย้ำคำว่ามากให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจน
“ตาเป็นอะไรมากหรือเปล่า” เขาขมวดคิ้วแล้วก้มลงมาถามฉัน
“ตาฉัน? ก็สบายดีตอนนี้ก็แข็งแรงพอที่จะวิ่งจ๊อกกิ้งได้”
“ไม่ใช่ตาเป็นคน -__-; ฉันหมายถึงลูกตาในเบ้าตาโตๆ ของเธอน่ะ เป็นอะไรมากหรือเปล่าฮ่ะ”
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่ O_O”
“เอ้าเหรอ! ฉันก็นึกว่าเป็นอะไรมาก หรือคอนแทคเลนส์เป็นฝ้า ถึงมองคนหน้าตาละม้ายคล้ายผีกระหังเป็นเทวดาไปได้”
อืม คงใช่... เพราะฉันมองหน้านายเหมือนเทวดามาตลอด ที่จริงนายก็เหมือนกระหังเคียงข้างผีด้วงผีมอดดีๆ นี่เองสินะ ถึงว่า ทำไมนิสัยถึงไม่เข้ากับหน้าตาเลยสักนิด
“ไปเปอร์เป็นนายแบบชื่อดัง ถ้าไม่หล่อจริงอยู่ไม่ได้ ^^ ตานายนั่นแหละเป็นอะไร”
“เป็นสามียาย”
“มุกเก่าแล้วยะ”
“ก็อยากเล่นอ่ะ -__-“
แท๊ปเล็ตเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังอายนิดๆ ไอ้บ้านี่มีมุมหน้าอายเหมือนกันเหรอ หน้าด้านขนาดนี้ - -* (ไม่อยากด่าแต่อดไม่ได้ เหอๆ)
แต่ไม่นานทีมงานก็เดินมาเชิญเราสองคนให้เข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในบ้านหลังนี้ ฉันแอบมองไปเปอร์ที่กำลังก้มหัวนิดๆ แล้วยิ้มให้ฉันตาหยีหน่อยๆ ด้วย อ๊าก! ฟินนาเร่ฮาเฮมองโกเลีย~ ^0^
เมื่อฉันกับนายแท๊ปเล็ตนั่งลง พี่จาน ยานย้วยก็เริ่มเล่าประวัติบ้านร้างหลังนี้ให้พวกเราฟังทันที ซึ่งบ้านหลังนี้ แต่ก่อนมีสองตายายคู่หนึ่งรักกันมาก ทั้งสองคนไม่มีลูกมีหลาน อยู่กันแค่สองคน คุณตามีอาชีพทำสวนเกษตร คุณยายมีหน้าที่ทำงานบ้านและอาหารไว้รอตากลับบ้านมากิน วันหนึ่งคุณตาได้เก็บเครือกล้วยสุกมาจากหลังบ้าน เพื่อเอามาให้คุณยายทำกล้วยบวชชี คุณยายได้ลองชิมกล้วยประมาณสามลูกและทิ้งเปลือกกล้วยไว้บริเวณบ้าน เมื่อคุณยายเห็นว่าได้เวลาอันพอสมควรที่จะทำกล้วยบวชชี จึงรีบลุกแต่แล้วดวงดันซวยลื่นเปลือกกล้วยตาย พอคุณตากลับมาเห็นก็รีบกุลีกุจอมาที่ยาย แต่ก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัดลื่นเปลือกกล้วยตายเคียงข้างยาย อยู่ในบ้านร้างหลังนี้~~~~
“แล้วมีใครเคยเห็นสองตายายหรือเปล่าครับ”
ไปเปอร์ถามด้วยความอยากรู้ ซึ้งฉันไม่อยากรู้มันเลยสักนิดนึง T^T
“เขาบอกต่อๆ กันมาว่า เคยเห็นตาตัดกล้วยอยู่ข้างหลังบ้านและเห็นยายทำกล้วยบวชชี กลิ่นกะทินี่ลอยมาแต่ไกลเลยค่ะ”
พี่จานแกจะทำเสียงสยองเพื่ออะไรเนี่ย ยิ่งมาฟังอะไรที่ย้ำหนักแน่นยิ่งทำให้ฉันแทบจะขี้แตกเข้าใจไหม ฉี่อย่างเดียวไม่พอแล้ว T^T
“สีหน้าคุณไม่ดีเลยนะครับ ^^”
ไปเปอร์หันมาบอกฉันด้วยแววตาสดใส และแก้มอันแสนเนียนน่าลูบไล้ ถ้าไม่ติดว่ามีนายหัวบ๊วยนั่งคั่นกลางฉันกระโจนไปเปอร์กดพื้นไม่ปราณีผีสองตายายไปแล้ว =,,=
“สีหน้านายดีตายแหละ นี่ซีดเพราะกลูต้าหรือเพราะกลัวกันแน่ หึ!”
อยู่ๆ แท๊ปเล็ตก็โพล่งขึ้นมากลางบทสนทนาดื้อๆ เล่นทำเอาพิธีกรทั้งสี่คนมองหน้าไปเปอร์สลับกับมองหน้าแท๊ปเล็ตไปมา ไปเปอร์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมาคลี่ยิ้มให้ฉัน
“คุณชื่ออะไรเหรอครับ ผมไปเปอร์นะ ^^”
ไปเปอร์ยื่นมือมาเพื่อจะจับทำความรู้จัก ฉันไม่รอช้ารีบเช็ดมือตัวเองกับกางเกงขาสั้น พร้อมกับจะยื่นมือไป แต่แล้วก็ต้องถูกมารผจญปัดมือไปซะก่อน
“ใครถามอ่ะ” แท๊ปเล็ตยังคงยียวนต่อ เล่นทำเอาไปเปอร์ไปต่อไม่ถูก “นู้น! ไปทำความรู้จักกับผู้ร่วมทำภารกิจของนายนู้น”
แท๊ปเล็ตยื่นหน้าไปตรงทิศทางที่มีร่างยักษ์ของหญิงสาวคนนึง น่าจะเป็นผู้ร่วมของไปเปอร์จริงๆ เธอเดินมาตรงที่เรานั่งอยู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม (ก็เล่นใหญ่คับโลกขนาดนี้) เล่นเอาพวกเราอึ้งกันไปเลยทีเดียว
ฉันล่ะกลัวไปเปอร์โดนทับตายในบ้านหลังนี้จริงๆ
“หวัดดีค่ะทุกคน รอเมเปิ้ลนานไหมคะ”
น้ำเสียงแหบใหญ่ออกมาจากปากเมเปิ้ลผู้หญิงที่มีหุ่นน่ากลัวที่สุดในโลก T__T เธอค่อยๆ หย่อนก้นนั่งลงข้างไปเปอร์ที่แทบจะโดนนั่งทับแบนแต๊ดแต๋
“มะ ไม่นานครับ ^^”
พี่ตั๊ก บริสุทธิ์ ตอบแทนทุกคนที่ยังคงมองหุ่นเจ๊แกแบบไม่เชื่อสายตา มีก็แต่คนข้างๆ ฉันเนี่ยที่หัวเราะคิกคักกับผู้ร่วมภารกิจของไปเปอร์
ขำมากใช่ป่ะ -*-
และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอย (ไม่ใช่ฉัน) ก็มาถึง ทุกอย่างจัดกล้องเตรียมของเรียบร้อย พี่แป๋งเป็นคนกำกับภารกิจนี้กับตัวเอง ซึ่งฉันก็พอรู้ล่ะนะ ว่าการกำกับของพี่แป๋งนั้น โหดมหาประลัยสิ้นดี!
“ห้า สี่ สาม สอง สตาร์ท!!”
ไม่ได้มาแข่งรถนะเออ -__-
ฉันและแท๊ปเล็ตยืนอยู่ข้างขวาของพี่แป๋ง ส่วนไปเปอร์กับเมเปิ้ล (ชื่อท่านชั่งเหมาะสมกันจริง) ยืนอยู่ข้างซ้ายของพี่แป๋ง แล้วมีเหล่าพิธีกรที่เหลือขนาบข้าง ตอนนี้เริ่มอัดรายการแล้วล่ะ...
‘สวัสดีครับ ช่วง ล่า ท้า หมี ของเราอาทิตย์นี้เป็นเทปพิเศษก็ว่าได้นะครับ เพราะเราได้เชิญแขกรับเชิญพิเศษจากสองนิตยสาร ซึ่งเป็นนายแบบชื่อดังและนายแบบที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุด ณ เวลานี้ เขาสองคนคือไปเปอร์จากนิตยสาร SHU และแท๊ปเล็ตจากนิตยสาร Crazy Boy ครับ” ฉันและพิธีกรปรบมือเป็นการต้อนรับ ก่อนที่พี่แป๋งจะพูดต่อ “และผู้ร่วมจากทางบ้าน คุณเมเปิ้ลและคุณบาโบครับ” คราวนี้ฉันก้มหัวให้กล้องอย่างงดงาม
แล้วพี่แป๋งก็พรรณนาถึงบ้านร้างแห่งนี้พร้อมกับคุณจาน ยานย้วน ฉันแอบมองไปข้างหลังที่เป็นบ้านร้างที่ว่า ดูรกร้างมานับสิบปี เถาไม้พันเกี่ยวที่เลี้ยวลดอยู่บนหลังคาบ้านและตัวบ้านเต็มไปหมด แถมวันนี้ยังเป็นพระจันทร์เต็มดวงอีก บรรยากาศชั่งดีขนาดนี้...
ดีกับผีน่ะสิ T0T
“ผมว่าเราเริ่มภารกิจแรกกันเลยดีกว่าครับ”
พี่ตุ๊กเสนอขึ้นทันที เล่นเอาฉันส่ายหน้าไม่เห็นด้วยทันควัน ไม่นะ! ฉันไม่อยากเข้าไปในตอนนี้ ไม่สิ! ตอนไหนก็ไม่เข้าเว้ยยย T^T
“ครับ เชิญคู่ของคุณแท๊ปเล็ตทำภารกิจก่อนเลยครับ”
ฉันที่กำลังอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาทั้งหมดก็เดินไปที่จุดจอมอนิเตอร์ไว้ดูพวกฉันทำภารกิจ ฉันเลยได้แต่กระพริบตาถี่ๆ ให้กับแท๊ปเล็ต เผื่อจะสงสารอะไรฉันบ้าง
“มาถึงที่นี่แล้ว เธอกลัวใช่ไหมเนี่ย -__-;”
แท๊ปเล็ตไม่พูดเปล่า มือของเขายังคว้ามือฉันไปแล้วสาวเท้าเดินไปอยู่ ณ จุดประตูหน้าบานอันเก่ากึก นี่แน่ใจนะว่ามันยังเปิดได้อยู่
“นะ นาย...”
ฉันเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แต่แท๊ปเล็ตดันหันไปจุดเทียนแล้วส่งมาให้ฉันแทน เฮ้! ฟังตูบ้างงงง T__T
(ทั้งสองได้ยินเสียงที่พี่พูดไหมครับ)
เสียงพี่แป๋งดังผ่านเข้ารูหูซ้ายของฉันเต็มๆ เพราะในตอนนี้ฉันใส่หูฟังเพื่อรับฟังภารกิจจากพี่แป๋ง
“ค่ะ / ครับ”
ฉันกับแท๊ปเล็ตตอบพร้อมกัน แท๊ปเล็ตหันมาพยักหน้าให้ฉันหนึ่งที เพื่อให้ฉันไม่ต้องระแวงไปมากกว่านี้
(น้องทั้งสองคนเปิดประตูเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นบันได ให้ตรงไปที่ใต้บันไดนะครับ นั่นคือภารกิจแรกของคุณ)
เมื่อแท๊ปเล็ตบิดลูกบิดประตูปุ๊บ มือทั้งสองข้างของฉันก็ยกขึ้นมาเพื่อพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แถวนี้เป็นการใหญ่ ถ้าเบสบอลมันได้มาดูเทปนี้มันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ๆ เป็นพี่สาวที่แข็งแกร่งมาตลอด แต่มาน้ำตาซึมเพราะเรื่องแค่นี้ ให้ตาย!
ฉันพยายามจับแขนแท๊ปเล็ตเอาไว้แน่น พลางมองซ้ายมองขวาหน้าหลัง มันจะมีอะไรโผล่ หรือเสียงตึงตังเหมือนในทีวีหรือเปล่านะ ฉันกับแท๊ปเล็ตมาหยุดอยู่ใต้บันไดแล้ว มันเหมือนจะมีห้องเล็กๆ อยู่ใต้บันไดด้วยแหะ
อ่ะ! อย่าบอกนะว่า...
(เปิดประตูเข้าไปในนั้นครับ ขอให้คุณโชคดี)
โชคดีกับผีน่ะสิ!
ฉันรีบเขย่าแขนแท๊ปเล็ตเป็นการห้ามว่าอย่าเปิดเข้าไปข้างในเป็นอันเด็ดขาด เขาหันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้างงๆ แต่แววตาดูเหมือนจะจริงจังกว่าทุกครั้ง
“เธอกลัวเหรอ?”
“อืม T__T”
ฉันพยักหน้ายอมรับความจริงในที่สุด ไม่โกหกอะไรแล้ว เอาชีวิตรอดอย่างเดียวเวลานี้ เขากรอกตาไปมาก่อนจะหันมาพูดกับฉัน
“ถือซะว่า นี่คือการเดตของเรา เดตฟรีไง แล้วก็คิดเสียว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านผีแต่เป็นภัตตาคารโคตรหรู ^^”
รอยยิ้มกว้างของเขาทำเอาฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แถมคำพูดดีๆ เมื่อกี้อีก บ้าเอ๊ย! ผีบังตาชัดๆ T^T
ฉันปัดความคิดทุกอย่างออกจากหัว และพยายามรวบรวมสติและคิดให้เหมือนที่แท๊ปเล็ตบอก คิดซะว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านผี แต่เป็นภัตตาคาร
T,,T ไม่เห็นมีพนักงานสักคนล่ะ ฮืออออ!
แท๊ปเล็ตค่อยๆ เปิดประตูห้องใต้บันไดเข้าไปเบาๆ ภายในห้องกว้างอย่างน่าประหลาด ฉันปัดฝุ่นที่โขมงไปทั่วห้อง แท๊ปเล็ตตั้งเทียนของเขาไว้กลางห้องเพื่อให้สว่างจ้าทั่วห้อง ความเงียบวังเวงมากจนอยากจะร้องดังๆ เป็นเพลงของปาล์มมี่ซะให้รู้แล้วรู้รอด
(บาโบดับเทียนที่ตัวเองถืออยู่แล้วไปนั่งตรงหลังเทียนของแท๊ปเล็ตครับ)
ฉันทำตามคำสั่งพี่แป๋งแกทันที ก่อนจะค่อยๆ นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น
“ทำอะไรต่อครับ”
แท๊ปเล็ตถามพี่แป๋งเสียงดัง มัวแต่ให้ฉันนั่งจ่อเทียนอยู่แบบนี้ เดี๋ยวน้ำมันเยิ้มล่ะซวยเลย (ไม่ใช่ผีพราย -__- :: บาโบ)
(ได้ยินมาว่าแท๊ปเล็ตเต้นโคฟเวอร์ใช่ไหมครับ) นี่คงเป็นเสียงของพี่ตุ๊กน่ะสินะ
“ครับ” แท๊ปเล็ตตอบแบบขอไปที
(งั้นดีเลยครับ ตะโกนท้าตาให้มาเต้นด้วยกันเลยครับ)
“หา!” แท๊ปเล็ตถึงกับร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียว “ชวนผีมาเต้นเกาหลีเนี่ยนะ!”
(ครับ ทำตามคำสั่งด้วย)
ฉันถึงกับหัวเราะคิกที่แท๊ปเล็ตดันสบถด่าพี่ตุ๊กแบบงึมงำๆ ด้วยสีหน้าเครียดสุดขีด เป็นใครก็คิดว่าบ้าทั้งนั้นแหละ เต้นมาทั้งชีวิตไม่เคยเต้นกับผี ต้องมาเต้นก็คราวนี้ แถมออกอากาศทั่วประเทศ ฮ่าๆ
ฉันนั่งดูแท๊ปเล็ตที่ยังคงเดินไปเดินมาไม่ทำอะไรสักที แถมเขายังค้อนใส่ฉันอีก นายชวนฉันมาเองนะ ฉันไม่ได้เต็มใจบังคับนายมาเลยสักนิด
“คุณตาครับ!!!” สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจตะโกนเรียกคุณตาขึ้น “ผมอยากให้คุณตามาเต้นเกาหลีกับผม”
(ตะโกนเสียงดังอีกครับ!)
เสียงพี่แป๋งหนักหน่วงทำเอาฉันขนลุกซู่ เพราะความน่าเกรงขามของเขา
“พี่มาเต้นเองไหมครับ”
เอาแล้วไง... แท๊ปเล็ตชักสีหน้าที่เรียกได้ว่าเหนื่อยกับภารกิจนี้มาก มากซะจนเหงื่อแตกท่วมตัวยิ่งกว่าฉันเสียอีก นี่นาย... มีคนดูทั้งประเทศเลยนะ มาทำขี้ขลาดแบบนี้ เสียฟอร์มแย่
(ช่วยทำตามภารกิจด้วยครับ)
“คุณตาครับ!!! ถ้าคุณตาได้ยินเสียงผม ผมอยากให้คุณตามาเต้นเกาหลีกับผมด้วยครับ!!!”
(บาโบ เห็นวิทยุตรงมุมห้องไหมครับ)
ทันทีที่แท๊ปเล็ตพูดจบ เสียงพี่แป๋งก็โพล่งถามฉันขึ้น ทำให้ฉันมองหาวิทยุที่พี่แป๋งว่า เมื่อฉันเห็นวิทยุสีดำมืดอยู่มุมห้อง ฉันก็ค่อยๆ คลานไปหยิบมันโดยเร็ว
“เจอแล้วค่ะ”
(กดปุ่มเพลย์เลยครับบาโบ)
ฉันเอื้อมมือของฉันแล้วส่งนิ้วชี้เตรียมออกแรงกดปุ่มเพลย์ของวิทยุแต่เสียงของแท๊ปเล็ตขัดฉันเสียก่อน
“เธอจะให้ฉันเต้นบ้าๆ นี่จริงๆ เหรอ -__-;”
“เอาเถอะน่า... นายก็คิดซะว่ากำลังประกวดอยู่ ^^”
“เต้นกับผีเนี่ยนะ”
“ทำตามภารกิจสิคะแท๊ปเล็ต ^^”
ฉันยิ้มยิงฟันดั่งได้เปรียบในชัยชนะครั้งนี้ เขาฮึดฮัดเล็กน้อย แต่ก็ตั้งท่ารอเต็มที่เพื่อรอฉันกดวิทยุ :)
ฉันกดปุ่มเพลย์ทันที บทเพลงดังในเกาหลีเริ่มบรรเลงซะจนฉันขำคนตรงหน้าแบบเปิดเผย ถึงใบหน้าเขาจะไม่อำนวยในความมันส์ครั้งนี้ก็ตาม แต่ท่าของเขาเป๊ะทุกท่วงท่าและลีลาตามแบบฉบับเป๊ะๆ ถ้าเทปนี้ออนแอร์เมื่อไร ฉันว่าคงมีคนขำในท่าทางของเขาแน่ๆ คงมีแต่คนเคยเห็นเขาเต้นแบบเท่ๆ เป็นกลุ่มใช่ไหมล่ะ ...มาดูเขาในเวอร์ชั่นนี้หน่อยเป็นไง
เห็นแล้วอยากหัวเราะให้ฟันคุดหลุด ><
“ขำอะไรของเธอไม่ทราบ”
เขามองฉันพลางพูดไปด้วยทั้งๆ ที่ยังเต้นกระจายอยู่ เต้นกับคุณตามันส์ไหมพี่น้อง ^^
“นี่ๆ สอนคุณตาเขาเต้นด้วยล่ะ”
“เหอะ! คุณตานั่งอยู่ข้างๆ เธอ ฉันจะสอนได้ไง”
“หา! O[]O”
ฉันถึงกับลุกพรวดพราดแบบไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น ฉันเห็นแท๊ปเล็ตหัวเราะหึๆ ในลำคอด้วย อ๋อ นี่แก้แค้นฉันเหรอ มันน่าเอาเทียนจิ้มตูดสักสองสามที -*-
(เกิดอะไรขึ้นครับ)
พี่แป๋งที่เงียบไปนานก็พูดขึ้น เล่นทำเอาใจหายใจคว่ำกับเสียงเขาทันที
“ไม่มีอะไรครับ” แท๊ปเล็ตอาสาตอบ
(ภารกิจแรกเสร็จสิ้นครับ เริ่มภารกิจต่อไปได้เลยครับ)
“ภารกิจต่อไปงั้นเหรอ...”
ฉันถึงกับกลืนน้ำลายอย่างลำบากคอลำบากใจ ภารกิจแรกก็ทำเอาเราสองคนกลัวจะตาย ถึงจะมีการเต้นมาบรรเทาบรรยากาศให้ดีขึ้นบ้างแหละ แล้วภารกิจที่สองล่ะ...
(ครับ ภารกิจที่สอง กินขนมกับตายาย)
กินขนมกับตายาย
กินขนมกับผี
กับผี
ผี!!!!! T[]T ฮืออออออ!!!!
---------------------------------------------------
16 / 01 / 13
เย้!!! อัพเสร็จเรียบร้อย ที่มาอัพช้า หายไปประมาณ สี่วัน
เพราะงานโรงเรียนเยอะ ต้องบอกก่อนว่า จะมาอัพบทหน้าอีกทีก็ประมาณ
เกือบสิ้นเดือนเลยนั่นแหละ
ดูคอมเม้นด้วย
เม้นไม่ถึง 7 ผมไม่อัพแล้ว T^T เปิดมาทีไรเหวงๆ โหวงๆ
มาบทนี้!
"ไปเปอร์!!"
ผู้ชายที่หล่อลากที่สุด =,,= น่ารักอ่ะ
ดันไปเจออิมเมจที่เพื่อนบอกมาอีกที ทำไมมาช้าแบบนี้ 55
เอาไปเป็นพระเอก หนึ่งในอินฟินตี้ไปนานแล้ว ><
แล้วก็ใครรอเรื่องของ พิกเล็ตกับท่านเจ้าคุณเดชา ต้องประมาณปิดเทอมใหญ่ ^^
เย่ววววว อัพสองเรืองซ้อนแน่นอนนน ><
ดูสาม (หนุ่ม) ตัวประกอบ ไปพลางๆ ก่อน :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อัพเถอะนะ อยากอ่าน อยากอ่าน
รอค่าาา