ตอนที่ 15 : ► INFINITY TAPLET :: Ch.13 ◄ Theme Summer.
13
Theme Summer.
พลั๊ก!
เสียงกระทบจากกำปั้นสู่ใบหน้าไปเปอร์ ทำเอาฉันถึงกับช็อกค้างกลางอากาศอยู่ตรงนั้น หน้าของไปเปอร์หันไปทางขวาเพราะแรงกระทบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เงยหน้ามองแท๊ปเล็ตอย่างโกรธเคือง ไปเปอร์ใช้ปลายนิ้วโป้งของเขาแตะที่มุมปากเบาๆ ก่อนจะดูรอยเลือดนั้นด้วยสีหน้าตกใจ
ลมหายใจถี่ของเขาเริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ แววตาจากที่เคยเป็นมิตรตอนนี้กลับแปรผันเป็นแววตาความเกลียดชัง ส่วนแท๊ปเล็ตก็ยืนกำมือแน่นด้วยความโมโหเหมือนกัน
...ทำไมนายต้องโกรธอะไรรุนแรงแบบนี้ด้วยนะแท๊ปเล็ต...
“ฉันบอกให้แกหุบปากไง!”
เสียงดุเดือดของแท๊ปเล็ตดังจนคนในสตูดิโอได้ยิน เหล่าบรรดาทีมงามต่างวิ่งกรู่ออกมาจากสตูดิโอยกใหญ่ แล้วก็ต้องร้องอุทานตกใจกับเลือดมุมปากของไปเปอร์ พวกเขาคงรู้ล่ะนะว่าใครเป็นคนทำร้ายนายแบบของเขาน่ะ
“ฉันเตือนนายแล้วนะแท๊ปเล็ต...”
ไม่ทันที่ไปเปอร์จะพูดจบ จู่ๆ รีเจนซี่ของไปเปอร์และผุ้หญิงที่แต่งตัวดูมีฐานะสองคนก็วิ่งออกมาพร้อมๆ กัน ทีมงานรีบหลีกทางให้พวกเขาดั่งคนสำคัญ
อย่าบอกนะว่า...
“ว๊าย! ใครทำไปเปอร์เนี่ย เป็นอะไรหรือเปล่าไปเปอร์”
รีเจนซี่ของไปเปอร์โวยวายขึ้นทันทีที่เห็นใบหน้าเด็กตัวเองฟกช้ำอย่างเห็นได้ชัด ทำไมฉันรู้สึกว่าไปเปอร์จะยิ้มเยาะแท๊ปเล็ตแปลกๆ นะ หรือว่าเขาจะเป็นคนอย่างที่แท๊ปเล็ตพูดไว้จริงๆ
“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ” ไปเปอร์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“แล้วใครทำเธอฮะ”
“ลองถามทีมงานที่เห็นเหตุกราณ์ดีกว่าครับ หรือไม่ก็ถามบาโบก็ได้”
น้ำเสียงอ่อยๆ ของไปเปอร์ทำให้ดูน่าสงสารทวีคูณเข้าไปใหญ่ แววตาสงสัยของรีเจนซี่มองมาทางฉันด้วยความอยากได้คำตอบที่ชัดเจน ฉันหันไปมองแท๊ปเล็ตที่ตอนนี้เขายังคงกัดฟันกรอดด้วยความโมโหไม่เลิก ...ทำไมฉันถึงไม่อยากบอกว่าเขาเป็นคนทำนะ...
“ผมเองครับ ที่ทำมันน่ะ”
อยู่ๆ แท๊ปเล็ตก็โพล่งยอมรับเองดื้อๆ ถ้าฉันจะห้ามคงไม่ทันแล้วจริงๆ รีเจนซี่ของไปเปอร์คิ้วขมวดปนตกใจกับคำสารภาพของแท๊ปเล็ต เขาคงไม่คิดว่าแท๊ปเล็ตจะบ้าดีเดือดถึงขนาดไปต่อยตีกับเด็กในสังกัดเขามั้ง อย่าว่าแต่รีเจนซี่เลย ฉันที่เห็นเต็มสองตายังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นสักนิด
“แท๊ปเล็ต!” รีเจนซี่เรียกชื่อแท๊ปเล็ตดังลั่น “เธอทำแบบนี้กับคนของเจ๊ได้ยังไง เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าไปเปอร์เป็นนายแบบของเจ๊น่ะ!”
“เจ๊ไม่รู้หรอกว่ามันทำอะไรกับผมไว้บ้าง ผมอดทนกับมันมากพอแล้ว”
“ไปเปอร์ไปทำอะไรให้เธอ”
“หึ! เจ๊อย่ารู้เลยดีกว่าครับ ให้มันเผยตัวตนมันมาเรื่อยๆ นั่นแหละ เจ๊จะได้รู้ฤทธิ์มันเอง”
“แต่เธอก็ไม่ควรมาใช้กำลังกับไปเปอร์นะ พูดคุยกันดีๆ ก็ได้”
“ถามคนของเจ๊ดีกว่าไหมครับ ว่ามันจะคุยดีกับผมหรือเปล่า”
แท๊ปเล็ตมองไปเปอร์ที่ตอนนี้ยังคงตีสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนแมวตายหมาป่วยทำนองนั้น แต่ฉันจะว่าไปไปเปอร์ก็พูดดีล่ะนะ แต่อาจจะพูดไม่เข้าหูแท๊ปเล็ตอะไรเทือกนั้น
“ฉันว่าฉันถามคนที่เห็นเหตุกราณ์มาตลอดจะดีกว่านะ”
จู่ๆ ผู้หญิงที่แต่งตัวดูดีวัยกลางคนก็เดินกอดอกเข้ามามองฉันด้วยแววตานิ่งๆ ถ้าฉันเดาไม่ผิด คนนี้น่าจะเป็น บก.ของนิตยสารใดนิตยสารนึงก็ได้
ฉันอึกอักด้วยความอึดอัดเล็กน้อย ถ้าฉันพูดความจริงออกไปคนข้างๆ ฉันก็อาจจะเหวี่ยงหรือโกรธฉันก็ได้ ถ้าฉันพูดเข้าข้างแท๊ปเล็ต ฉันก็จะกลายเป็นคนโกหกในสายตาคนอื่น TT
ขอเป็นกลางเถิดดดดด!
“อะ...เออ...” ฉันมองแท๊ปเล็ตสลับกับไปเปอร์ที่ตอนนี้สีหน้าลุ้นเต็มที่ ทุกคนตอนนี้กำลังยืนกดดันฉันไม่ห่าง นั่นจึงทำให้ฉันเกร็งเข้าไปใหญ่
“ว่ายังไง เธอเห็นเหตุกราณ์มาตั้งแต่ต้น ช่วยเล่าหน่อยสิ ว่าใครทำใครก่อน”
ป้า บก. ยังคงตื้อให้ฉันเป็นพยานปากเอกไม่เลิก
“หนูไม่รู้ค่ะ เมื่อกี้หนูหลับใน คร่อก!”
=__=; ถึงจะดูไร้สาระแต่ก็ปัญญาอ่อนนะ ฉันไม่รู้จะหาวิธีอะไรมาอ้างกับทุกคน แท๊ปเล็ตที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันก็ถึงกับหันมามองฉันแบบสงสัยว่าฉันพูดอะไรออกไป ทุกคนส่ายหน้าให้ฉันอย่างเอือมระอา
“งั้น...ฉันขอยกเลิกเธอออกจากการถ่ายแบบ...” O_O ว่าไงนะ
“ขออีกครั้งสิคะ?”
“ฉันยกเลิกเธอจากกิจกรรมการถ่ายแบบ”
โหยยยย~! รอมานานแล้วคำๆ นี้ ป้า บก. หันมาบอกฉันรอบที่สองในขณะที่ไปเปอร์ถึงกับเลอะละตกใจทันที แท๊ปเล็ตหันมายักคิ้วให้ฉันอย่างดีใจ ฉันอยากจะบอกนายใจจะขาดว่าฉันก็ไม่ได้อยากจะถ่ายแบบบ้าๆ นี่อยู่แล้วเฟ้ย!
“แต่ฉันจะให้แท๊ปเล็ตกับไปเปอร์ถ่ายธีมซัมเมอร์นี้ด้วยกัน”
“O_O” ฉัน
“O.,O” ไปเปอร์
“O[]O!” แท๊ปเล็ต!
แล้วป้า บก.ก็ทิ้งคำสั่งไว้ตรงนั้น ก่อนจะเดินกลับเข้าสตูดิโอพร้อมกับทีมงานที่เหลือ ตอนนี้ก็เหลือเพียงฉัน แท๊ปเล็ต ไปเปอร์และรีเจนซี่ของไปเปอร์ ที่กำลังยืนปลอบขวัญและให้กำลังใจไปเปอร์ยกใหญ่
“ฉันคิดว่างานนี้จะทำให้เธอเข้าใจกับไปเปอร์มากขึ้นนะ”
รีเจนซี่ของไปเปอร์บอกกับแท๊ปเล็ตจบ เจ๊แกก็เดินเข้าไปในสตูดิโออีกคน
หลังจากรีเจนซี่เข้าไปข้างในแล้ว ไปเปอร์ก็หยุดดราม่าหันมามองแท๊ปเล็ต ก่อนจะดึงชายเสื้อเพื่อจัดระเบียบเสื้อผ้า ฉันที่ยืนอยู่ก็ถึงกับอ้าปากงงกับอารมณ์ของไปเปอร์ เมื่อกี้ยังดราม่าอยู่แมบๆ ทำเอาฉันตั้งตัวไม่ถูกเลยสิ
เชื่อเลยว่าคนตรงหน้าฉันคือ ไปเปอร์!
“บ้าเอ๊ย! เพราะแกคนเดียวเลยไอ้เปอร์!”
แท๊ปเล็ตถึงกับสบถทันทีที่เห็นสถานการณ์เงียบลง ไปเปอร์ยิ้มมุมปากเหมือนคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว แถมเขายังยักไหล่ใส่แท๊ปเล็ตแบบไม่แคร์สื่ออีกด้วย ดูเขาไม่เดือดร้อนที่จะได้ถ่ายกับแท๊ปเล็ตเลยนะ
“นายทำตัวนายเอง ^^” ไปเปอร์ยังคงยิ้มยียวน
“แกอยากโดนอีกหรือไงฮะ!”
ฉันรีบดึงแท๊ปเล็ตเพื่อยื้อไม่เขาเข้าไปทำร้ายไปเปอร์อีกครั้ง ถึงไปเปอร์จะดูสะดุ้งตกใจไปนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้ากวนๆ นั่นหายไปเลยสักนิด
“แท๊ปเล็ต...ฉันว่านายเข้าไปคุยกับ บก. ให้รู้เรื่องดีกว่าว่าจะเอายังไง”
ฉันรีบหาข้ออ้างเพื่อให้แท๊ปเล็ตออกห่างจากไปเปอร์ให้มากที่สุด และดูท่าว่าเขาจะทำตามอย่างที่ฉันบอก แท๊ปเล็ตพยักหน้าให้ฉันอย่างว่าง่าย แต่ก็ยังไม่วายหันไปมองหน้าไปเปอร์อีกครั้ง
“ถ้าแกแย่งสิ่งที่ฉันรักที่สุดไปอีก... แกไม่ได้อยู่ดีแน่!”
และนั่นคงเป็นประโยคสุดท้ายที่แท๊ปเล็ตทิ้งท้ายไว้ให้ไปเปอร์ ก่อนจะเดินเข้าสตูดิโอพร้อมกับฉัน ทำไมประโยคเมื่อกี้...
ฉันต้องแอบยิ้มด้วยวะ -////-
หลังจากที่ฉันขอตัวแท๊ปเล็ตไปเปลี่ยนเสื้อให้มันเป็นเสื้อผ้าปกติ ฉันก็เดินเข้ามาหาแท๊ปเล็ตที่เพิ่งไปพูดคุยกับ บก. แท๊ปเล็ตถึงกับมีสีหน้าไม่ดีนักได้แต่ทึ้งหัวตัวเองไปมาด้วยความโมโห เพราะคำตอบที่ได้มาคือเขาต้องถ่ายแบบกับไปเปอร์สถานเดียว ที่จริงมันก็มีตัวเลือกให้เขาแหละนะ แต่ตัวเลือกที่เขาได้มากลับมีแค่สามข้อดังนี้...
1. ให้ฉันถ่ายกับไปเปอร์ไปซะ
2. เขาต้องยอมถ่ายแบบกับไปเปอร์
3. ยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงห้าวันห้านาทีนี่ด้วย
และเขาก็เลือกข้อสองนั่นแหละ มันจึงทำให้เขาเป็นบ้าอยู่ตรงนี้ไง...
แท๊ปเล็ตเปลี่ยนเสื้อผ้าในธีมซัมเมอร์แบบเต็มตัว เขาเปลือยท่อนบน ส่วนท่อล่างเขาสวมเพียงกางเกงกาขาสามส่วนสีน้ำเงิน ในมือถือกระดานโต้คลื่นสีชมพูแปร๋น ซึ่งดูยังไงก็ไม่ได้เข้ากับเขาเลยสักนิด คล้ายๆ กับตอนที่เขาใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูอะไรทำนองนั้น ฮ่าๆ
“เธอแอบหัวเราะอะไรของเธอ -___-“
แท๊ปเล็ตที่ยืนรอทีมงานเตรียมพร็อบอยู่ ก็หันมาถามฉันแบบเคืองๆ ในขณะที่ฉันยังคงขำกับท่าทางของเขาไม่เลิก
“ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยๆ แล้วบังเอิญไปคิดเรื่องฮาๆ เข้านะ”
“โกหก เธอหัวเราะฉัน -__-”
“เอ้า! นายรู้แล้วถามฉันทำไมเนี่ย”
“ยัย...!”
แท๊ปเล็ตหยุดเถียงกับฉัน เพราะดันถูกขัดด้วยเสียงของทีมงานที่เรียกตัวแท๊ปเล็ตไปเข้าฉากถ่ายแบบ แท๊ปเล็ตหันมาขยี้หัวฉันด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะรีบวิ่งเข้าฉากตามคำสั่งทีมงาน นั่นจึงเป็นจังหวะเดียวกับที่ไปเปอร์เดินเข้ามาในสตูดิโอ เขาหันมามองหน้าฉันเพียงชั่วครู่ ฉันจึงทำได้แค่หลบหน้าเขาแล้วหันไปมองแท๊ปเล็ต...สายตาเมื่อกี้มันคืออะไรกัน ทำไมฉันรู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆ นะ
“เราจะถ่ายเป็นเซตคู่ก่อนนะครับ เดี๋ยวไปเปอร์นั่งที่โขดหินจำลองนั่นเลย ส่วนแท๊ปเล็ตยืนพิงกระดานโต้คลื่นนะครับ...อ่า ตั้งกระดานให้มันตั้งฉากกับพื้นสิครับ โอเคครับ”
ช่างภาพตะโกนบอกท่าโพสทั้งสองคน แสงไฟสปอร์ตไลน์ส่องไปที่คนทั้งสองทำให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ฉันแอบเห็นแท๊ปเล็ตกรอกตาไปมาด้วยความเซ็ง เชื่อเลยว่าเขากำลังอดกลั้นกับการถ่ายแบบนี่ขนาดไหน มีแต่ไปเปอร์ที่เอาแต่ยิ้มกว้าง และพยายามจะยั่วประสาทให้แท๊ปเล็ตโมโห เพราะบางครั้งไปเปอร์ก็เขยิบไปใกล้ๆ บ้าง ยืนพิงตัวแท๊ปเล็ตบ้าง เชื่อเลยว่าคนข้างๆ แท๊ปเล็ต คือคนเดียวกับที่โดนต่อยไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน
การถ่ายแบบผ่านไปด้วยดี อาจจะมีบางครั้งที่ฉันเห็นแท๊ปเล็ตจงใจเอามือปัดไปโดนหัวไปเปอร์บ้าง แกล้งเดินไปเหยียบเท้าไปเปอร์บ้าง แต่ปล่อยเขาเถอะ ให้เขาทำตัวเป็นเด็กขี้อิจฉาสักวันจะเป็นไรไป - -*
“ฉันเห็นเธอมองไอ้เปอร์”
-___-; ฉันไม่น่ามานั่งรอนายนี่จริงๆ
หลังจากที่ฉันนั่งรอเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า สิ่งที่ฉันได้ยินจากปากเขาประโยคแรกก็คือคำถามที่ออกแนวไร้สาระสุดๆ เขายืนกอดอกมองฉันอย่างต้องการคำตอบ ทำให้ฉันลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากสตูดิโอทันที โดยไม่สนว่าไอ้คนที่เดินตามมาข้างหลังจะโวยวายเสียแค่ไหน
ฉันมองนายต่างหากเล่าไอ้บื้อ!
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ หรือเธอมองมันจริงๆ”
“เปล่าซะหน่อย ฉันก็มองไปเรื่อยๆ นั่นแหละ”
“เธอมองมัน”
“เปล่า”
“เธอมองมัน”
“ฉันมองนาย”
“เธอมองมะ...ว่าไงนะ O_O”
ดูเขาทำหน้าเข้า -*- เมื่อกี้ฉันโม้นายเล่นต่างหาก ดูไม่ออกหรือไง แท๊ปเล็ตยังคงเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ฉันเลยหัวเราะใส่เขา เพื่อให้เขารู้ตัวซะทีว่าฉันพูดเล่น
“ฮ่าๆ ><”
“สนุกมากไหม ยัยตาโบ๋”
“ใครบอกให้นายทำหน้าตาตื่นแบบนั้นกัน ตลกชะมัด”
“ไปขึ้นรถเลย ไม่คุยด้วยแล้ว ชิส์!”
แท๊ปเล็ตรีบปัดเรื่องคุยพร้อมกับสะบัดบ๊อบงอนฉันไปขึ้นมอเตอร์ไซด์ที่หน้าตาละม้ายคล้ายด้วงทอดกรอบ ฉันที่เพิ่งนึกอะไรออก ก็รีบบอกเขาทันที
“แท๊ปเล็ต!” ฉันรีบวิ่งเข้าไปตะครุบเสื้อเขา ก่อนที่เจ้าของเสื้อจะหันมามองฉันด้วยสีหน้างงๆ “นายช่วยแวะไปที่ร้านมือถือให้หน่อยนะ”
“ร้านมือถือ...” แท๊ปเล็ตทวนสถานที่พลางขมวดคิ้ว “โทรศัพท์เธอก็มี เดี๋ยวฉันคืนให้ก็ได้ -___-“
“เปล่า ฉันจะเอาไอพอดนายไปซ่อมน่ะ”
“ชั่งมันเถอะ -___-^”
“ไม่ได้ๆ มันคือไอเท็มโปรดนายนะ”
“มันไม่จำเป็นหรอก...”
“จำเป็นสิ -___-“
“มีเธอแล้ว จำเป็นอะไร”
“อะ...เอ่อ...” เฮ้ย!! ทำไมย้อนฉันแบบนี้ล่ะ T^T บ้าเอ๊ย จุกเลย จุกเลยยยย! “พรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้ว จะอยู่ได้ไง”
“ช่างมันเถอะ” เขาดูเหวี่ยงนะ - -+ เหวี่ยงแรงด้วย สะบัดหัวจะหลุดออกจากบ่าแล้วนั่น
“นายต้องพาฉันไปนะ”
ฉันรีบใช้ไม้ตายที่ผู้ชายทุกคนต้องยอมสยบ นั่นคือการอ้อนขั้นสูงสุดพร้อมด้วยแววตาอ้อนวอนขั้นเทพ แท๊ปเล็ตหันมามองหน้าฉันก่อนจะอึกอักไปเล็กน้อย แล้วเขาก็หันไปสตาร์ทรถทันทีโดยไม่สนใจฉันอีกเลย TT
“ขึ้นมาสิ” เขาหันมาบอกฉัน แต่ฉันกลับไม่ยอมขึ้น ก็เขาไม่ยอมบอกนี่ว่าจะพาฉันไปซ่อมไอพอดหรือเปล่า “เออๆ ฉันจะพาเธอไปที่ศูนย์ก็ได้ จะขึ้นได้หรือยัง -___-“
“จริงเหรอ *0*”
“อืม รีบขึ้นซะทีเถอะ ก่อนฉันจะเปลี่ยนใจ”
ฉันรีบกระโดดซ้อนท้ายเขาทันที เพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจด้วยส่วนหนึ่ง นายนี่แอบมีมุมน่ารักเหมือนกันนะ ถึงปากจะหนักใจจะแข็งไปบ้าง พอเจอลูกอ้อนก็ยอมซะง่ายๆ ฉันรู้น่าว่านายแอบอมยิ้มใช่ไหมล้า >w<;;
“ไอพอดมันช็อตนิดหน่อยน่ะครับ ผมเปลี่ยนระบบเซิฟเวอร์ภายในให้นิดหน่อย ตอนนี้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วครับ”
พนักงานศูนย์บอกฉันที่ยืนรอรับไอพอดอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนเจ้าของตัวจริงก็นั่งหน้านิ่งอยู่ที่โซฟารองรับลูกค้า ตอนนี้ไอพอดก็ถูกส่งซ่อมจนใช้ได้แล้ว ฉันยืนรับฟังคำแนะนำแทนเจ้าของตัวจริง พนักงานบอกว่าที่มันช็อตอาจเป็นเพราะเล่นมากเกินไปอะไรทำนองนั้น ประมาณว่าแบตฯ หมดก็ยังลงทุนชาร์ตไปเล่นไปทั้งคืน แถมอีตานี่ยังกระหน่ำโหลดแอพฯ ทุกอย่างอัดใส่ไอพอดไม่อั้น ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเล่นไอพอดให้คุ้มไปไหน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีมือถือและไอเท็มตั้งหลายอย่าง แต่ไม่ยักจะเล่น กลับมาเลือกเล่นไอพอดซะพังไม่เป็นท่า เอาเถอะ มันกลับมาเป็นปกติแล้ว นายนี่จะได้ไม่คลั่งลุกขึ้นมาต่อยใครอีก (ได้ข่าวว่าไม่เกี่ยว?)
“ซ่อมได้ไหมล่ะ -___-“
“ได้...” ฉันยื่นไอพอดส่งคืนแก่เจ้าของที่ทำหน้าไร้ความรู้สึก “แต่อาจกลับมาไม่เหมือนเดิมนะ”
“ยังไง?”
“แอพฯ ต่างๆ ที่นายกระหน่ำโหลดไว้อาจจะมีไม่ครบ”
“…”
“รวมถึงหนังโป๊ของนายด้วย ^^”
“มีที่ไหนเล่ายัยบ้า! -0-“
แท๊ปเล็ตรีบดึงไอพอดจากมือฉันก่อนจะแห้วใส่ฉันยกใหญ่หลังจากฉันหยอกล้อนายนี่ไปหนึ่งที ฉันแอบหัวเราะนิดๆ ที่สามารถแกล้งเขาได้เป็นรอบที่สอง ที่จริงมันก็ไม่มีหรอกไอ้หนังที่ว่าน่ะ ฉันแค่หมั่นไส้ไอ้ท่าทางขี้เก็กของเขาต่างหาก ถึงได้แกล้งพูดไป ฮ่าๆ
ฉันและแท๊ปเล็ตออกจากศูนย์ก่อนจะตรงไปที่มอเตอร์ไซด์คันงามที่จอดแน่นิ่งอยู่ เขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ทันทีที่มาถึง ตามด้วยฉันที่ซ้อนท้ายไปติดๆ แต่มอเตอร์ไซด์กลับแน่นิ่งอยู่เช่นเดิม เสียงสตาร์ทก็ไม่มี ไอ้คนขี่นี่เกิดปวดอึหรือเปล่าเนี่ย
“ทำไมไม่ไป? O_O”
“จะห้าวันแล้วนะ...” อยู่ๆ หมอนี่ก็พูดเรื่องดราม่าขึ้นมาซะดื้อๆ นี่มันนิยายโรแมนติก คอเมดี้นะเว้ย นายอย่ามาปล่อยดราม่ามั่วซั่วนะ TT “พรุ่งนี้เธอจะไปจากฉะ...เออ จากบ้านฉันแล้วสินะ”
“อืม ทำไมล่ะ นายคิดถึงฉันก็บอกมาเถอะ ><”
“อืม”
“O_O” ฉันถึงกับสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง แทนที่จะหยอกนายนี่ให้เขินเล่น กลับกลายเป็นฉันเสียเองที่โดนตรอกกลับมาด้วยคำสั้นๆ แต่ความหมายชัดเจน ฉันรู้ว่าเขาอาจจะอือออตามประสาคนไม่มีอะไรจะพูด แต่เขาควรจะแก้ต่างกับประโยคของฉันสิ ไม่ใช่รับมันไปดื้อๆ แบบนี้
“เธอไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง”
ถึงผู้ชายตรงหน้ายังคงนิ่งๆ ไม่หันมามองหน้าฉัน แต่ฉันก็พอจะเดาสีหน้าของเขาถูก น้ำเสียงที่จริงจังไม่มีเชิงล้อเลียนหรือล้อเล่นสักนิด ทำให้ฉันอึดอัดใจเล็กน้อย จะให้ฉันตอบกับนายว่าอะไรล่ะ ให้ฉันตอบตามใจหรือตอบตามปากดี...
“ฉันว่านายรีบกลับเถอะนะ ฉันง่วงแล้ว ^^”
“…”
“ฉันง่วงจริงๆ นะ...”
“…”
“ฉัน...”
“…”
“ก็คงคิดถึงนาย...”
สุดท้ายฉันก็ยอมแพ้ใจตัวเองจนได้สินะ...
แท๊ปเล็ตพยักหน้าให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซด์แล้วขี่มันออกไปช้าๆ ซึ่งเป็นการขี่รถที่ดูเรียบนิ่งกว่าที่เคยขี่มา มือของฉันยังคงเกาะที่เอวแท๊ปเล็ตไว้แน่น นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ ที่ฉันจะได้ใกล้ชิดเขามากขนาดนี้ ฉันคงต้องกลับไปนอนคอนโดกับผู้ชายอีกคนที่ฉันเคยอยู่กับมันประจำ กลับไปทะเลาะกับผู้ชายอีกคนในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง กลับไปเถียงเรื่องเตียงนอนกับผู้ชายอีกคนที่ยอมฉันตลอด
กลับไปดูสีหน้างอนๆ ของเบสบอล...
ผู้ชายที่ฉันรักแบบน้องชาย
ต่างจากคนตรงหน้าฉันตอนนี้...
...ที่ฉันรัก…
...แบบคนรัก
--------------------------------------------------------------------------------
24 / 04 / 56
:: อัพจบแบบถาวร :)
เป็นครั้งแรกที่อัพนิยายแนวดาร์กแบบติดๆ กันถึง 3 ตอน 55
ส่วนมากจะดองเค็มปี๋ อย่างเช่นเจ้าสาวคนนี้เจอดีแน่นอน -___-
อยากแต่ง แต่พล็อตตัน
ตอนจบน่ากลัวด้วย เลยไม่แต่งดีกว่า เดี๋ยวดดนแอนตี้ขึ้นมาตายเลย
5555
บทนี้รู้แล้วสินะ ว่าอิเปอร์แรดแค่ไหน (แรดเหรอ TT)
ยังๆ ยังไม่พอ เปอร์ยังโผล่มาอีกเยอะ เพราะเปอร์หล่อ ไรท์ชอบ อิอิ
แล้วดูตอนจบบทนี้สิ โคตรดราม่าเลย -___-
ไม่ได้จงใจแต่งให้มันดราม่านะ อารมณ์มันไป
คนข้างบ้านเปิดเพลงเศร้า..
เพลงอ๊อดแอ๊ดของลุงเท่ง 55555
ไม่ใช่แหละ
ขอบคุณสำหรับเม้นทุกเม้น เม้นประจำทั้ง... 5คน =w=
ใช่หรือเปล่าอันนี้มั่ววว
ขอบคุณแฟนแฟบที่เค้ามาใหม่อีก 11 คน เย้!!
รักจังงง
ใครที่ยังไม่แอด แอดด่วน เดี๋ยวส่งปาล์มไปจุ๊บเหม่งสามที ^^
ตูว่าตูไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ -___- :: ปาล์ม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาอัพต่อเลยยยยยข้างมักๆTT'
up up up up please!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!