ตอนที่ 11 : ► INFINITY TAPLET :: Ch.9 ◄ Secret Taplet
9
Secret Taplet
“อึกๆๆๆ”
-____-; น้ำหมดไปสองเหยือกเต็มๆ
อะไรกันแค่หมูสองชิ้นเล็กๆ กับข้าวพูนช้อน แถมไม่มีพริกติดไปแม้แต่ผิวเปลือก นายกินน้ำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เวอร์ไปหรือเปล่า ฉันว่านายเรื่องมากจนติดเป็นนิสัยมากกว่าแหงๆ
“แค่นี้นายเผ็ดแล้วเหรอ”
“เธอมาลองเป็นฉันไหมล่ะ! จะได้รู้ไงว่ามันเป็นยังไง”
เขาหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำหูน้ำตาที่ไหลไม่รู้จักจบสิ้น จมูกของเขาแดงเถือกเหมือนตัวตลก ฉันก็สงสารเขานะ ดูท่าว่าจะทรมานมากจริงๆ
“นายไม่ต้องบอกฉันล่ะว่านายกินเผ็ดไม่ได้ ไม่เห็นจะต้องปากแข็งใส่กันเลย เรื่องแค่นี้เองนะ คุณหนูส่งมาเกิดแบบนายฉันเดาใจไม่ถูกหรอก”
“ฉันตามใจเธอ...” เขาสูดน้ำมูกอย่างหัวเสีย ดูสิ เขาดูเสียฟอร์มไปถนัดตาเลยแหะ
แต่ตามใจฉันยังงั้นเหรอ...ถ้าตามใจฉันแล้วทำให้นายลำบากก็ไม่ต้องหรอกนะ “บางทีการที่ฉันกินอะไรไม่ได้ แล้วเธอกินได้ ก็ยังดีกว่าฉันกินอะไรได้แล้วเธอกินไม่ได้”
“อะ...เอ่อ...ขอบใจในความหวังดี แต่ทีหลังนายกินอะไรไม่ได้ก็บอกฉันตรงๆ สิ -*-“
“อืม...ฉันจะบอกเธอทุกเรื่อง”
“อืม -///-“
มันมาอีกแล้วอาการประหลาดคล้ายจะเป็นโรคใหม่ บ้าจริงๆ ฉันบอกแล้วไงว่าคำพูดของนายนี่เป็นเพียงแค่คำพูดลมๆ แร้งๆ อาจไม่ใช่ความรู้สึกที่พูดออกจากใจจริงก็ได้ เข้าใจไหมบาโบ -___-^
“อ่ะ! O_O” ฉันที่หันหน้าออกไปนอกร้านก็ถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ ผู้ชายสวมฮูดสีดำคู่กับกางเกงสีดำขาเดฟ กำลังเดินเฉิดฉายดูเปล่งรัศมีอย่างที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมอง “นั่น....ไปเปอร์นี่นา”
ฉันพูดจบแท๊ปเล็ตก็รีบมองไปนอกร้านตามฉันทันที ก่อนจะใช้มือของเขาจับคางฉันให้หันไปมองหน้าเขาแบบประชิด
“ฉันไม่ชอบมัน -___-“
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า - - *”
“อย่าไปยุ่งกับหมอนั่น มันอันตราย”
“เฮ้อ...นายบอกฉันมากี่รอบแล้วเนี่ย ไปเปอร์ผู้แสนดีจะมาร้ายกว่านายได้ยังไงกัน”
“ถ้าเธอคิดแบบนั้นก็แล้วแต่เธอ”
เขาปล่อยหน้าฉันให้เป็นอิสระอีกครั้ง ฉันเห็นไปเปอร์หยุดอยู่หน้าร้านก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดอะไรบางอย่าง ถ้าฉันเดินไปทักเขาตอนนี้ จะหาว่าไม่มีมารยาทหรือเปล่านะ TT
แต่ไม่ทันที่ฉันจะคิดจบ จู่ๆ สายตาของไปเปอร์ก็หันมาสบกับสายตาฉันพอดี ไปเปอร์เผยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้ามาในร้านและตรงมาที่โต๊ะที่ฉันกับแท๊ปเล็ตนั่งอยู่
“ดีครับบาโบ ^___^” ไปเปอร์ยกมือทักฉันด้วยท่าทางเป็นกันเอง “มาทานข้าวกันเหรอ”
“ซักผ้ามั้ง! ถามแปลก -___-“
แท๊ปเล็ตตอบแซงหน้าฉันหน้าตาเฉย เล่นเอาคนถามถึงกับขมวดคิ้วทันที
อย่าไปโกรธนายนี่เลย นิสัยปกติสุด =__=
“ถามบาโบ ไม่ได้ถามนาย”
“พอดีตอบหมาวะ ฮ่าๆ”
“บาโบมีธุระต่อไหมครับ พอดีมีตั๋วหนังสองใบแล้วเพื่อนไม่มาพอดีเลย ^^”
“หาววววว~! ฉันว่าฉันง่วงแล้วอ่ะ กลับบ้านกันเถอะ” แท๊ปเล็ตไม่ฟังที่ไปเปอร์พูด เขากลับลุกขึ้นแล้วดึงข้อมือฉันขึ้น แต่ฉันยังคงรั้นไม่ลุกขึ้นตามแรงดึงของเขา “กลับบ้าน”
“ฉัน...”
“กลับบ้าน -___-“
แท๊ปเล็ตเน้นคำและจ้องฉันเขม็ง ทำไมเขาต้องใช้อำนาจในการตัดสินอยู่เรื่อยนะ ทั้งๆ ที่ฉันต่างหากต้องเป็นคนตัดสินใจเอง
“ฉันจะไปกับไปเปอร์” ฉันพูดเสียงแข็ง
แท๊ปเล็ตเงยหน้ามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา เขาเหมือนกับว่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องเงียบไป ก่อนจะเปิดปากพูดต่อ
“เธอบ้าหรือเปล่าที่ไปกับไอ้นี่ ทั้งๆ ที่เธอกับมันก็ไม่ได้สนิทกันเนี่ยนะ”
“แล้วทีนายล่ะ ทำไมฉันถึงไปไหนมาไหนกับนายได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้สนิทกันน่ะ”
“ไม่สนิทงั้นเหรอ...” เขาจ้องฉันนิ่ง น้ำเสียงดูเผาเบาลงอย่างชัดเจน ไปเปอร์ที่ยืนอยู่มองแท๊ปเล็ตนิ่งเช่นกัน แต่ทำไม...ฉันกลับรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไปนะ “แล้วที่ผ่านมาแปลว่าอะไรวะ ฮ่ะ! บาโบเธอบอกฉันสิ”
เวลาแค่สองวันครึ่งฉันจะสนิทกับนายได้ไงล่ะแท๊ปเล็ต มันเป็นไปไม่ได้หรอก ขนาดอาร์ตเตอร์ฉันยังคุยกับมันมาตั้งสองเดือนกว่าจะสนิทกัน แต่สำหรับนาย...เวลาแค่นี้ ฉันยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนายเลยแท๊ปเล็ต
“นายเลิกเสียงดังได้แล้ว!”
ฉันตัดสินใจโพล่งออกไป ฉันบอกคำตอบที่นายต้องการไม่ได้หรอก
เพราะยังไงที่ผ่านมา...ฉันก็แค่ผู้โชคดีคนหนึ่งเท่านั้นเอง...
“แกไสหัวไปซะ! ยัยนี่อยู่ในระหว่างการเดตของฉันอยู่ อยากหาคนไปดูหนังไหม ได้!” จู่ๆ แท๊ปเล็ตก็ควักมือเรียกพนักงานที่กำลังรวมตัวดูแท๊ปเล็ตโวกเวกวายอยู่ พนักงานคนที่เอาเมนูมาให้ฉันก็รีบวิ่งมาหาแท๊ปเล็ตทันที “นี่ไง เอาไปสิ!”
ไปเปอร์มองพนักงานคนนั้นก่อนจะเหลือบตามามองฉันชั่วครู่ ก่อนจะควักเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วส่งให่พนักงานคนนั้นไป
“นี่ถือเป็นทิปเธอแล้วกัน ไม่มีอะไรหรอก พี่เขาแค่เรียกมารับทิปน่ะ ^^” ไปเปอร์ยื่นเงินให้พนักงานคนนั้นเสร็จก็หันมาประชันหน้ากับแท๊ปเล็ตทันที ตอนแรกฉันจะเข้าไปคั่นกลาง แต่อยู่ๆ ไปเปอร์ก็แตะไหล่ฉันเบาๆ เป็นการบอกว่า ไม่ต้องไม่มีอะไร “อย่าเหวี่ยงฉันเลยน่า ฉันก็แค่มาทักบาโบ”
ไปเปอร์ส่งยิ้มมาให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ไม่ใช่รอยยิ้มที่จริงใจสักนิด ฉันไม่ใช่คนที่มองโลกในแง่ร้ายไปหมดนะ แต่รอยยิ้มเมื่อกี้มัน...
“ไอ้เปอร์! แกมัน...อึก!”
O_O แท๊ปเล็ตเรียกไปเปอร์พร้อมกับชี้หน้า แต่แล้วจู่ๆ แท๊ปเล็ตก็ดันมีท่าทีที่ไม่ดีนัก ตัวของเขาทรุดลงไปกับเก้าอี้ มือของเขากุมขมับดั่งกับคนเจ็บปวด ไปเปอร์เห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้ามาประคองแท๊ปเล็ตเอาไว้ แต่แล้วความหวังดีนั่นก็ถูกปัดด้วยน้ำมือแท๊ปเล็ตทันที ฉันเลยแทรกตัวเข้าไปประคองแทนไปเปอร์เป็นการด่วน
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ปวดหัว”
“นายอย่าดราม่าน่า ฉันรู้นะว่านายแกล้งน่ะ - -*”
“เห็นฉันเล่นเหรอ! โอ๊ย ปวดเว้ย!”
แท๊ปเล็ตส่ายหัวไปมาเหมือนพยายามจะสู้กับความเจ็บปวด แต่เชื่อฉันเถอะ ปวดขนาดนี้ตัดหัวทิ้งเลยดีกว่ามั้ง
“ไปเปอร์ ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ฉันขอตัวกลับก่อน”
ฉันหันไปบอกไปเปอร์ในขณะที่ฉันพยายามพยุงตัวแท๊ปเล็ตขึ้น นายนี่ก็หวงตัวเกิน ไปเปอร์อุส่าห์จะช่วยพยุงนาย แต่นายกับไม่ต้องการความหวังดีนั่น เป็นฉันฉันกระโดดถีบนายไปแล้วนะ รู้ไว้ด้วย!
“...”
“นายลุกขึ้นไหวไหม”
คือตัวนายนี่หนักชะมัด ช่วยดึงตัวเองขึ้นมาหน่อยเถอะฉันขอล่ะ ตัวยังกับฮิปโปกินปลาวาฬ ใครจะไปอุ้มไว้กันเล่า หน้าที่คนพยุงส่วนมากต้องเป็นพระเอกอุ้มนางเอกไม่ใช่เหรอ...ทำไมมันสลับกันแบบนี้ล่ะ T__T
สุดท้ายความพยายามของฉันก็สำเร็จ ฉันสามารถนำร่างยักษ์นี่มาถึงโรงรถจนได้ ดีที่ลุงยามช่วยอีกแรง ไม่งั้นหลังหักแหงๆ ฉันสวมวิญญาณคนขับทันที เพราะดูท่าว่าเขาจะขับมันกลับไม่ไหวแน่ๆ สนใจไปเสยก้นชาวบ้านไหม? ฉันขับรถไม่แข็งนะ ขับได้ก็แต่มอเตอร์ไซด์คันเก่าๆ ของเบสบอลมันนั่นแหละ ฉันทำดีกับนายแล้วนะ รู้จักบุญคุณด้วยล่ะ!
“ไปซะทีสิ ฉันปวดหัวจะตายแล้ว!”
-___-; ทำบุญกับนายนี่ไม่ขึ้นจริงๆ
ฉันพาแท๊ปเล็ตขึ้นไปนอนที่ห้องนอนเรือนเล็กทันที เมื่อเสร็จหมดทุกอย่างฉันจึงแวะมาหาป้าสมรศรีที่เรือนใหญ่ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้พบเจอป้าแกเลยแหะ ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าน คือว่า...ฉันหิวน่ะ ข้าวที่ห้างฉันยังไม่ได้เข้าปากเลยสักคำ T^T
และห้องที่ฉันตรงมาห้องแรกเลยก็คือห้องโถงผู้มีแขกมาเยี่ยมเยือนไม่เคยขาดสาย และวันนี้ก็เป็นอย่างที่ฉันคิด เมื่อฉันมาเหยียบห้องนี้ ฉันก็ต้องเจอแขกคนใหม่อีกจนได้ นี่ตอนเช้าเจอยัยมาร์บ้าดีเดือดไม่พอใช่ไหม?
“บาโบ >.,<”
O.,O ไม่ใช่ใครที่ไหน...
อยู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งก็กระโจนกอดฉันอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางกระริกกระรี้เหมือนปลากระดี่โดนน้ำร้อนลวกแบบนี้มีอยู่คนเดียว
“อาร์ตเตอร์! แกมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
ฉันดันตัวอาร์ตเตอร์ออกพร้อมกับพูดด้วยความสงสัย อาร์ตเตอร์ไม่ตอบฉันแต่กลับพาฉันไปนั่งที่โซฟาเหมือนกับเป็นบ้านมันเอง ฉันหันควับไปมองมันแบบเคืองๆ ไม่ใช่อะไรหรอก...ฉันแค่โกรธมันที่มันมาในวันที่ใกล้จะกลับบ้านน่ะสิ ทำไมไม่มาตอนฉันกลับบ้านเลยล่ะ -__-+
“เซอร์ไพร์สุดๆ เลยจ้า!” อาร์ตเตอร์กางแขนแบบโอเวอร์ ก่อนจะคว้าตัวฉันไปกอดอีกครั้ง เอาเถอะ! กอดให้พอ ผู้ชายหล่อๆ มากอดฉันทั้งคน ถึงมันจะไม่ใช่ผู้ชายเต็มเลเวลก็ตาม T__T “ฉันมาที่นี่ได้เพราะฉันถามน้องชายสุดหล่อของแกไง พอเบสบอลสุดหล่อบอกฉันเสร็จ ฉันก็เลยบึ่งหน้าตั้งมาที่นี่เลยจ๊ะ ^^”
“มาที่นี่คงไม่ได้จงใจมาหาฉัน แต่มาหาแท๊ปเล็ตสินะ”
“อันนั้นก็เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้นแหละ เดี๋ยวนี้ฉันไม่อยากจะคบค้าสมาคมกับแท๊ปเล็ตเท่าไร ผู้ชายอะไรดุยังกับหมาถูกรถตุ๊กๆ เหยียบหาง ฉันยกให้แก ><”
“เฮ้ย! ไอ้บ้า มายกให้ฉันฉันก็ไม่เอาหรอกนะ เอาไปทิ้งไกลๆ เลย -___-“
“โอเคๆ แต่ที่ฉันมาวันนี้เพราะอยากจะเอาความลับสำคัญของแท๊ปเล็ตมาให้แก เผื่อแกจะได้อยู่กับเขาอย่างสงบสุขและปรองดองเหมือนพี่น้องร่วมสถาบัน =w= ฉันอุส่าห์ไปสอบถามเป็นเอกรุ่นน้องรหัสของแท๊ปเล็ต ถามสมาชิกอินฟินิตี้ ถามครูบาอาจารย์ยันฝ่ายปกครองของแท๊ปเล็ต ถามป้าที่รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ถาม...”
“พอๆ -__-; เอาเป็นว่าแกสอบถามทุกคนที่รู้จักแท๊ปเล็ตว่างั้น”
“ถูกต้องคร้าบบบบ!”
อาร์ตเตอร์ยิ้มอย่างร่าเริงก่อนจะบิดไปบิดมาเพราะความเขิน เออแก...เขินบ้าบออะไรวะตุ๊ดปิโตรเลียม ฉันละอยากถลกหัวแกไปฝังดินเพราะความเสียดายจริงๆ อ่ะ
“แล้วแกจะถามมาให้ฉันทำไม ฉันไม่ต้องการสักนิด”
“แกไม่อยากได้จริงๆ เหรอ *__*”
ดูสายตากวนๆ ของมันสิ เอิ่ม...จะว่าไป ถ้าได้รู้อะไรเกี่ยวกับนายนั่นขึ้นมามั้ง ฉันอาจจะไม่ต้องมานั่งกุมขมับเพราะสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขาก็ได้นะ อย่างที่แท๊ปเล็ตกินเผ็ดไม่ได้ไง...
“ฉัน...ขอดูหน่อย”
“ไม่ต้องหน่อย เอาไปเลย!”
อาร์ตเตอร์พูดจบก็ยัดกระดาษเอสี่มาให้ฉันสองแผ่น ความลับของนายบ้านี่เยอะขนาดนี้เลยเหรอ นี่มีความลับขนาดนี้ไปอยู่นาซ่าเถอะ -___-
“นี่...”
“อ่านก่อน เผื่อแกจะได้อยู่กับเขาอย่างสงบสุข บางทีเรื่องบางเรื่องที่แกไม่รู้ อาจจะได้รู้วันนี้ก็ได้”
คำพูดชวนคิดเล่นทำเอาฉันใจอ่อนยวบยาบ และต้องเปิดกระดาษในมือขึ้นมาอ่านง่ายๆ โดยมีอาร์ตเตอร์เจ้าของกระดาษนั่งลุ้นอยู่ข้างๆ
‘SECRET TAPLET’
รายมือตามแบบฉบับผู้ชายเขียนหัวข้ออยู่บนหัวกระดาษ เอาซะอลังการงานทุ่มเทจริงๆ ดูหน้าเจ้าของกระดาษแผ่นนี้สิ ดูภูมิใจพิกลแหะ
ฉันจัดการตั้งใจอ่านข้อความที่ถัดลงมาเป็นหัวข้อๆ เหมือนนิตยสารไม่มีผิด...
‘เวลาพักของการเรียน สถานที่ลับของแท๊ปเล็ตคือ สวนเกษตรหลังโรงเรียน เป็นที่ที่แท๊ปเล็ตชอบไปนั่งพักผ่อน ในบริเวณนั้นจะไม่มีใครสามารถเข้าไปรบกวนหรือเสียงดัง เพราะนักเรียนในโรงเรียนลือกันว่า สถานที่นั้นคือสถานที่เฮี้ยน แต่กลับมีแท๊ปเล็ตคนเดียวที่กล้าไปเหยียบที่แห่งนั้นและไปนั่งโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด มีข่าวลือต่างๆ นานาว่าที่แท๊ปเล็ตกล้าไปอยู่ที่นั่นคนเดียวเพราะเคยถูกบอกเลิกที่นั่น จึงทำให้เขาฝังใจมาถึงปัจจุบัน และอีกประเด็นคือแท๊ปเล็ตมีคนที่แอบชอบอยู่คนหนึ่ง จึงไปดักแอบดูเธออยู่แถวๆ นั้น เพราะหลังโรงเรียนได้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างนั่นเอง’
‘ไอเท็มสุดโปรดของแท๊ปเล็ต คือ ไอพอด (IPod)’
‘แท๊ปเล็ตเกลียดความวุ่นวาย แต่เพื่อนๆ มักจะมาจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านเขา’
‘แท๊ปเล็ตเกลียดน้ำตาผู้หญิง เกลียดการอ้อนวอน เกลียดการง้องอน และชอบเอาชนะเป็นที่สุด’
‘นางแบบนิตยสาร SHU ที่ชื่อว่า มาร์ตี้ เป็นกิ๊กของแท๊ปเล็ต’
‘รอยสักที่แขนขวาของแท๊ปเล็ต แปลว่า ความสุขที่ได้เฝ้าคอยคนรัก’
‘เขาไม่ได้เต็มใจอยู่กลุ่มโคฟเวอร์อินฟินิตี้ แต่เพราะต้องการเอาชนะศัตรูที่อยู่วงโคฟเวอร์เหมือนกัน เขาจึงยอมที่จะแข่งขันการเต้นเพื่อเอาชนะทีมศัตรู และเมื่อศัตรูเขาหันมาเป็นนายแบบชื่อดัง เขาจึงยอมให้สัมภาษณ์ในนิตยสารฉบับหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้ไต่เต้าเป็นนายแบบชื่อดังเทียบเท่าศัตรูของเขา’
‘เวลาแท๊ปเล็ตหายไป จะไม่มีใครตามหาเจอ...คนที่เจอคือคนที่เขาอยากให้เจอจริงๆ เท่านั้น’
‘ต้มจืดหมูผักกาด คือของโปรดแท๊ปเล็ต’
‘เขาแพ้พริกทุกชนิด...ยกเว้นพริกไทย’
..
..
O_O!!
แพ้พริกทุกชนิด!
“อาร์ตเตอร์แกกลับไปก่อนเลยนะ! ฉันมีธุระด่วน”
ฉันพับกระดาษในมือที่ยังอ่านไม่จบใส่ลงกระเป๋ากางเกงทันที ฉันรีบลุกขึ้นจากโซฟาพลางพูดกับอาร์ตเตอร์
“แกจะรีบไปไหนวะบาโบ อ่านจบแล้วเหรอฮ่ะ!”
“เอาเป็นว่าแกกลับไปก่อน ส่วนไอ้ความลับนี่ฉันไว้ค่อยอ่านทีหลัง”
ฉันทิ้งอาร์ตเตอร์ไว้ในห้องโถงคนเดียว คือฉันไม่ได้เบื่อหรือรำคาญแกนะ ตอนนี้ฉันมีเหตุจำเป็นที่ต้องรีบไปหาแท๊ปเล็ตจริงๆ ไม่งั้นนายนั่นอาจมีอาการกำเริบแปลกๆ ขึ้นมาก็ได้
ทำไมนายปากแข็งกว่าที่ฉันคิดนะ แค่บอกว่าแพ้พริกตั้งแต่แรกมันก็จบไปแล้ว ไม่เห็นจะต้องมาต่อล้อต่อเถียงกับฉันสักนิด ตอนแรกฉันก็แค่คิดว่านายกินเผ็ดไม่ได้แค่นั้น...
แต่ทำไมนายไม่บอกล่ะว่านายแพ้พริกทุกชนิดน่ะ!!
ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนที่ฉันเคยนอนอยู่ประจำ ร่างสูงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ขยับเพียงหน้าท้องที่หายใจอย่างเป็นจังหวะ ฉันเดินไปนั่งข้างๆ เตียงก่อนจะค่อยๆ เรียกชื่อเขาเบาๆ
“แท๊ปเล็ต...”
-___-;; ไม่กระดุกกระดิกเลย เงียบเช่นเดิม...ตาของเขาปิดสนิท ไม่เผยให้เห็นแววตาแต่ก่อน
ฉันตัดสินใจเอามือของฉันไปอังที่หน้าผากของเขา ตัวของเขาร้อนอุ่นๆ ใบหน้าเป็นสีเลือดจางๆ ขนาดเขานอนยังกอดอกตัวเองไว้แน่นนี่นายวางฟอร์มหรือหนาวกันแน่เนี่ย
“อืม...”
จู่ๆ แท๊ปเล็ตก็พลิกตัวพลางครางเสียงเบาๆ ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจเล็กน้อย บ้าหรือไง อยู่ๆ ก็ครางเสียงซะฉันตกอกตกใจหมด ถ้าฉันเป็นอะไรไป ใครจะดูแลนายฮ่ะ!
ฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เมื่อฉันได้ผ้าขนหนูก็นำมันไปชุบน้ำให้หมาดๆ แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง เอาจริงๆ ขนาดเบสบอลป่วยฉันยังจับมันเหวี่ยงลงเตียงแล้วยัดพาราใส่ปากมันสองเม็ด ไม่เคยดูแลเอาใจใส่แบบนี้เลย
ทำไมต้องทำให้นายด้วยเนี่ย -___-
แปะ!
เอาไว้แบบนี้แหละน่ารักดี ^^
ฉันจัดการกางผ้าขนหนูแล้วแปะไว้ที่หน้าแท๊ปเล็ตแบบไม่แคร์สื่อ เห็นหน้านายแล้วหมั่นไส้ เอาไว้แบบนี้ก็หล่อดีนะ ฮ่าๆ
“นายๆ ดีขึ้นหรือยัง?”
ฉันเขย่าตัวแท๊ปเล็ตไปมาเพื่อให้เขาฟื้นมาดูสภาพตัวเองตอนนี้ ฉันคงบาปมากสินะ ที่ทำแม้กระทั้งคนป่วยเนี่ย
“อืม...” เขายังคงครางอยู่เช่นเดิม แต่ปฏิกิริยาร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกตัว เขาเอามือมาดึงผ้าขนหนูออก ก่อนจะมองมันแบบไม่ค่อยเชื่อสายตา “นี่เธอทำบ้าอะไรกับฉันฮ่ะ!”
แล้วสายตานั้นก็เลื่อนมาจ้องที่ฉันเขม็งทั้งๆ ที่เขายังนอนอยู่ไม่ขยับลุกเลยแม้แต่นิดเดียว
“เช็ดตัวให้นายไง”
“เช็ดบ้าอะไร นี่มันตายไว้ที่หน้าฉันชัดๆ”
“ฉันช่วยให้นายหายเร็วขึ้น มันดูดความร้อน ^^”
ฉันยังคงแถและอ้างไปเรื่อยเปื่อยพร้อมๆ กับที่แท๊ปเล็ตโยนผ้าขนหนูที่เปียกชื้นนั่นใส่ตัวฉัน จริงๆ เลย ฉันกำลังทำให้นายหายป่วยนะ โธ่!
“ใครบอกเธอว่าฉันป่วย -___-“
ไม่ต้องมีใครบอก ดูสภาพตอนนี้ก็น่าจะเดาถูกนะ
“นายแพ้พริกไม่ใช่เหรอ?”
“ใครบอกเธอ”
“ฉันเก่ง ^___^”
“โกหก!”
กินหัวฉันได้อีตานี่คงอ้าปากอมหัวฉันไปแล้วแหงๆ นี่ขนาดป่วยแล้วนอนซมเฉยๆ นะ ทำไมเขายังดุยังกับแมวแบบนี้ล่ะ
“ยัยตาโบ๋เอ๊ย!”
“อ๋อ นายแท๊ปเล็ตรัฐบาลแจกฟรี นายกินยาที่ฉันเตรียมไว้บนหัวเตียงด้วย คืนนี้ฉันจะสละเตียงให้นาย ฉันจะไปนอนที่โซฟาเอง ^^”
“ไม่!”
“เอาเป็นว่าตามนี้นะจ๊ะ ^^” ฉันทำเป็นไม่สนคำพูดของแท๊ปเล็ต ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู แต่ก่อนที่ฉันจะออกไปข้างนอก ฉันขอทิ้งท้ายหน่อยเถอะ “อ๋อ...ถ้านายกินอะไรไม่ได้นายควรจะบอกกับฉัน อย่าลืมสิ ถ้านายกินได้แล้วฉันกินไม่ได้ ก็ยังดีกว่านายกินไม่ได้แล้วฉันกินได้ เข้าใจไหม? ฉันจะไปบอกป้าสมรศรีทำข้าวต้ม ‘ไม่เผ็ด’ มาให้นะ ^___^”
ฉันเน้นย้ำคำว่าไม่เผ็ดให้เขาอารมณ์เสียเล็กน้อย จบประโยคเสร็จฉันจึงออกจากห้องไปโดยทันที เป็นไงล่ะ คำพูดของนาย ฉันขอยืมมาใช้ชั่วคราวหน่อยเถอะ ดูเท่ไม่เบาเลยล่ะสิ ><
บางทีนายก็แกร่งกว่าที่ฉันคิด แต่บางทีนายก็อ่อนแอแบบไม่น่าเชื่อ นายมีอะไรหลายๆ อย่างที่บางทีฉันอาจจะตามไม่ทันหรืออาจคาดไม่ถึง โดยเฉพาะการเอาชนะของนายในกระดาษความลับที่อาร์ตเตอร์เขียนมา นายต้องการเอาชนะคนๆ นั้นไปเพื่ออะไร ทั้งๆ สิ่งที่นายทำมันอยู่นายไม่ชอบมันสักนิด ยิ่งนายไม่ชอบนายยิ่งทำ สิ่งที่นายต้องการเพราะแค่อยากเอาชนะอย่างนั้นเหรอ...
ถึงฉันจะรู้ความลับของนาย แต่ใจนายฉันกลับไม่รู้มันเลยสักนิด...
09 / 03 / 56
:: ครบ 100% เสียที =w=
กว่าจะอัพครบปาไปสามวันเต็มๆ ฮ่าๆ
แฟนคลับครบ 100 คนแล้ว (ฉลอง)
เป็นครั้งแรกที่แฟนคลับทะลุหลักนี้ ไม่เคยพบในนิยายตัวเอง 555
ขอบคุรทุกคนและทุกคอมเม้นด้วยน้า
เนื่องในโอกาสที่มันครบ 100
ใครคนไหนที่เพิ่งแต่งนิยาย เอามาแชร์ให้ยีนส์เลย
[ย้ำ...เอาเพาะคนที่ติดตามของยีนส์ทุกตอนเน้อ]
คนที่เพิ่งแต่งได้ประมาณ 4-5 ตอน
เดี๋ยวยีนส์จะตามไปเก็บ มาแลกแบนเนอร์ได้หน้าบทความ
แต่ถ้าใครไม่ต้องการ ไม่เป็นไร 55555
=,,=
มาบทนี้ดีกว่า
เย้ไปเปอร์ออก -_____- แลจะชอบไปเปอณืมากกว่าอีตาแท๊ปเล็ต55
มันแพ้พริกเหมือนยีนส์ ก๊าก
มันมีคนแบบนี้อยู่บนโลกจริงๆ นะ
ยีนส์แพ้เมล้ดมันอ่ะ กินทุกส่วนยกเว้นเมล้ด มันจะปวดหัวตึบๆ
ถ้ามากกว่านั้นก็มีผื่นน่ากลัวมว๊ากกก =w=
อ๋อ....ฝากหนูพิกเล้ต หมูน้อยคอยรักของเราด้วย
เรื่องนี้พระเอกน่ารักในแบบกวนๆ
อึนๆ และมึนๆ ตามแบบฉบับผู้ชายอารมณ์ดี
ฝากกกก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมบาโบอ่านความลับไม่จบเค้าอยากรู้น้า???
เป็นอะไรไม่ยอมบอกคุณแม่เลย
สู้ต่อไปนะคะไรเตอร์
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ