ตอนที่ 29 : ll ปรึกษา (รัก) ll EP.17 :: เป็นคนชอบสกินชิพ [100%] 2/2
“กูนับหนึ่ง…”
“เคๆ ถอดๆ”
พรึ่บ!
ผมถอดเสื้อตัวนอกตัวเองออก แต่เวรกรรมที่ดันมีเสื้อกล้ามให้พี่เอฟแม่งลุ้นไปอีกชั้น
“สอง”
พรึ่บ!
ผมถอดเสื้อกล้ามเจ้ากรรมออกแบบไม่ลังเล พอสายตานิ่งๆ จ้องมาเป็นการกดดัน ผมจึงเดินพุงห้อยเข้าไปที่ห้องน้ำอย่างจำยอม
เหมือนตัวเองกำลังโดนขืนใจแบบเต็มใจให้ขืนยังไงไม่รู้
ขัดๆ ไปให้จบๆ บางทีผมอาจจะผิวขาวใสขึ้นมาในหนึ่งระดับและมันอาจจะทำให้ผมดูดีขึ้น เพื่อความหล่อก็ยอมๆ หน่อยนะครับคุณคณิต
“พี่จะยืนขัดเหรอ” ผมถามอย่างเก้ๆ กังๆ พอเห็นว่าเจ้าตัวกำลังอ่านผลิตภัณฑ์ที่วางเรียงรายอยู่บนอ่างหน้าหน้า “มันจะดู…”
“นอนขัดปะล่ะ มึงนอนลงไปเลยสิ”
แหงล่ะ สีหน้าพี่เอฟแม่งแสดงออกได้ชัดเลยว่าประชด
“หึ”
ผมดึงมุมปากหึออกมาจากลำคอ คนตัวสูงดึงมือผมไปก่อนจะควักเนื้อครีมจากกระปุกสีเขียวเข้มมาใส่มือผม ในตอนนี้ฝ่ามือผมมีเนื้อครีมสีขาวที่มีเม็ดบีทสีเขียวอยู่เต็มอุ้งมือ
“ขัดไปตามซอกๆ แล้วก็พยายามอย่าขัดแรง เดี๋ยวมึงจะเกิดบาดแผลเอา”
คนตรงหน้าสอนผมแบบขอไปที ผมมองของในมือก่อนจะโบะเข้าที่ขาตัวเองที่เพิ่งถูกน้ำชะล้างโดยฝีมือไอ้พี่เอฟเมื่อครู่
“โอ๊ะ หอมแหะ”
ผมอุทานออกมาทันทีที่เริ่มขัดผิวบริเวณน่อง พี่เอฟก็จัดการใช้ครีมขัดตัวขัดที่แขนตัวเองอย่างเชี่ยวชาญ กลายเป็นว่าตอนนี้เราต่างคนต่างจดจ่อกับการขัดผิวตัวเองเป็นว่าเล่น เอาจริงๆ ผมไม่เคยนึกถึงอะไรพวกนี้เลยด้วยซ้ำ และไม่คิดจะซื้อมาใช้เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นอะ แค่ฟอกสบู่ล้างตัวแม่งก็สะอาดแล้วปะ
แต่พอมาเห็นพี่เอฟทั้งขัดทั้งทาแล้ว รู้สึกตัวเองเป็นพวกสกปรกไปเลย
“มึงขัดแค่ขาแล้วชาตินี้ตัวมึงจะขาวไหม คอมึงอะขัดด้วย”
ว่าไม่พอมือพี่เอฟยังควักครีมขัดผิวมาอีกหนึ่งอุ้งมือและโบะเข้ามาที่คอผมอย่างพลการ แต่แทนที่จะปล่อยให้ผมจัดการตัวเอง เจ้าตัวกลับใช้ฝ่ามือหนาลูบมาที่คอผมซ้ำๆ ย้ำๆ เป็นการกระทำที่เหมือนไม่ตั้งใจแต่มันกลับกลายทำเอาผมยืนตัวแข็งไปในทันที
“อะ เอ่อ…”
“จริงๆ รูปร่างมึงก็ไม่ได้แย่เลยนะ เห็นไหม กูบอกแล้วว่าซิตอัพกับวิดพื้นทุกเช้าของกูมันทำให้ซิกแพคมึงเริ่มขึ้นแล้วเนี่ย”
พี่เอฟใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูคอผมตีเข้าที่หน้าท้องเบาๆ ผมพยายามจะถอยออกแต่หลังดันติดกำแพงไปไหนไม่ได้
“ผมรู้แล้วน่า ผมขัดเองได้”
“เฉยๆ มึงขัดไม่ทั่วหรอก กูขัดให้ เห็นแล้วเกะกะลูกตา”
กลายเป็นถูกบังคับให้อยู่เฉยๆ ไปเสียแล้วกู
คอของผมถูกคนตรงหน้าครอบครองและจัดการทุกอย่าง ผิวหอมๆ ของพี่เอฟที่ตลบอบอวนไปด้วยครีมขัดผิวและน้ำหอมที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เช้าทำให้ผมเผลอยืนดมเพลินจนลืมไปว่าร่างกายตัวเองกำลังถูกเขาลวนลามอยู่
“พี่เอฟยังชอบพี่อุ่นใจอยู่ไหมอะ”
อะไรดลใจให้ผมถามเขาออกไปแบบนั้นก็ไม่รู้ คนตรงหน้าที่ครอบครองแผ่นหลังผมอยู่ก็หยุดมือกึก ก่อนจะหันมามองหน้าผมและจัดการขัดต่อแบบไม่ปราณีผิวหนังอะไรผมเลย
“ถามไม”
“ผมแค่อยากรู้ ถ้าพี่ไม่ตอบผมก็ไม่เป็นไร”
“ไม่รู้ดิ กูคงไม่ได้ชอบเขาแล้วแหละ แต่กูยังอยากเอาชนะเขาอยู่เลย”
“เอาชนะ” ผมทวนคำพูดพี่เอฟด้วยความแปลกใจ “ยังไงอะ”
มือพี่เอฟวนลูบต้นคอผม ตอนนี้เหมือนเรากำลังกอดนัวเนียยังไม่รู้ ผมรู้สึกเพลินที่พี่เขาทำแบบนั้นให้ จนไม่อยากขัดขืนอะไรและปล่อยมันไปตามสิ่งที่พี่เขาอยากจะทำ
“เคยรู้สึกอยากเอาชนะใครสักคนเพราะรู้สึกเราเคยพ่ายแพ้ปะ”
“ก็เคยมั้ง”
“กูชอบอุ่นใจตั้งแต่ปีหนึ่ง อุ่นใจไม่ชอบกูเพราะกูขี้เหร่ในสายตาเขา กูเลยพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนที่มึงกำลังทำในตอนนี้นี่แหละ แต่พอกูดูดีขึ้น อะไรหลายๆ อย่างแม่งก็เข้ามาทำให้กูกับอุ่นใจต้องห่างๆ กันไป กูมารู้ว่าเขามีคนที่ชอบ แต่ทำไมเขาไม่ยอมบอกกูสักคำแถมไอ้ทอยก็ต้องมาผิดใจกับกูเพราะอุ่นใจอีก คืออุ่นใจแม่งไม่ชัดเจนและไม่บอกความจริงกับใครเลยเว้ย จนกูต้องมารู้ด้วยตัวเองอะว่าอุ่นใจมีคนที่ชอบแล้ว กูรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยไปเพื่อเขาทำไมวะ สิ่งที่กูทำมันดีพอเพื่อใครวะ”
“…”
“ตั้งแต่นั้นมา กูก็รู้สึกโกรธที่ทำเท่าไรก็ไม่เคยพอสำหรับอุ่นใจ กูจึงไม่อยากทำอะไรเพื่อเขาอีกแล้ว แต่กูอยากทำเพื่อตัวเอง”
“เฮ้อ งงไปหมดแล้ว” ผมถอนหายใจ
“กูเริ่มต้นจีบไจ๋เพราะรู้ว่าอุ่นใจชอบไจ๋ เป็นการแก้แค้นอุ่นใจ หายงงหรือยัง”
เหมือนลมหายใจผมหยุดกลางอากาศ มือของพี่เอฟยังคงยุ่งกับผิวกายผมราวกับทำเป็นปกติ ผมลอบกลืนน้ำลายเพราะเรื่องที่ฟังมันดูหักมุมจนคาดไม่ถึงเลยแหะ
พี่เอฟชอบพี่อุ่นใจเลยเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พี่อุ่นใจหันมามองเพราะพี่เขามีคนที่ชอบแล้วรวมไปถึงยังมีพี่ทอยที่เข้ามาเป็นคู่แข่งอีก จนพี่เอฟต้องยอมและถอยออกห่าง แต่ด้วยความที่ยังมีความคิดที่ว่า ยอมเหนื่อยมาเพื่อรับรู้ว่าพี่อุ่นใจมีคนที่ชอบแล้ว จึงเริ่มต้นด้วยการจีบพี่ไจ๋เพราะรู้ว่าพี่ไจ๋นี่แหละคือคนที่พี่อุ่นใจชอบ…
อะไรของเขาวะ!
“ไหนพี่เคยบอกผมไง ว่าทำเพื่อตัวเองดีกว่าทำเพื่อคนอื่น”
“ก็ใช่” พี่เอฟผงะถอยออก ตัวของผมถูกปล่อยเป็นอิสระ “แต่บางทีการถูกหลอกให้ทำเพื่อใครสักคนมันแย่มากนะ ไม่มีใจให้แต่แรกก็ควรบอกกัน ทำไมต้องให้กูเปลี่ยนแปลงเพื่อเขาด้วยก็ไม่รู้”
“พี่อุ่นใจบอกให้พี่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาเหรอ” ผมเกาหัวถาม
“อือ ใช่ ตลกปะ แล้วกูก็กลายมาเป็นไอ้เอฟหน้าโง่ที่หล่อขึ้น แต่สมองฝ่อเพราะโดนผู้หญิงหลอกให้เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อจะให้เขาหันมาชอบตัวเองบ้างน่ะ”
“มันก็ดีแล้วนะพี่ พี่เป็นคนใหม่ เป็นคนที่ดูดีในสายตาตัวเองและคนอื่น สิ่งที่พี่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็คือพี่ไม่ใช่เหรอ” ผมพูดในสิ่งที่คิด มันไม่ได้แย่ และพี่เขาก็คิดถูกแล้วที่เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ “พี่ทำเพื่อตัวเองสิ อย่าทำเพื่อใครคนใดคนนึง”
“…”
“ดูสิ พี่เป็นอยู่ตอนนี้แม่งทำให้ผมอยากเป็นแบบพี่รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย”
นึกย้อนไปตอนพี่สัจจะบอกว่าพี่เอฟเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะถูกคนๆ นึงกดดัน มันทำให้ผมตาสว่างแล้วว่าพี่สัจจะกำลังหมายถึงใคร
“แล้วมึงล่ะ ตอนที่มึงอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะสังคมมองไม่เห็นมึงบวกกับเรื่องที่อกหักมา กูอยากรู้ มึงอกหักเพราะใคร”
คนตรงหน้าถามด้วยสีหน้าอยากรู้ ผมเข้าใจว่าเรื่องพี่เอฟมันน่าอายแค่ไหน มันเป็นการตัดสินใจผิดๆ เขารู้ตัวแหละ แต่เขาก็แค่อยากทำเพราะเขารับกับความจริงไม่ได้ก็เท่านั้น
“ผม…” แย่ชะมัด บอกให้เขาเล่าเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ซะเกลี้ยง พอเขาถามกลับตัวเองกลับเล่าให้เขาไม่ได้ “ผมจะอาบน้ำล่ะพี่”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”
พี่เอฟดึงแขนผมไม่ให้ผมหนีออกจากห้องน้ำแห่งนี้ บรรยากาศเริ่มมาคุแปลกๆ
“ผมขอโทษ” ผมก้มหน้าเม้มปากก่อนจะรีบบอกออกไป “ผมชอบพี่อุ่นใจเหมือนกัน”
เชื่อไหม ว่าภายในห้องนี้แม่งเงียบยิ่งกว่าเก่าอีก ผมได้ยินเสียงลมหายใจหนักๆ ของคนตรงหน้าเท่านั้น ภาวนาในใจว่าเขาคงจะไม่โกรธผมหรือเคืองที่ดันไปชอบคนเดียวกับเขาน่ะ
“เลิกชอบหรือยัง”
แทนที่ผมจะโดนด่าหรือกำปั้นกลับมาแดก กลายเป็นว่าคนตรงหน้าถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“กำลังครับ ผมไม่ได้อะไรกับพี่เขาขนาดนั้น”
“ไปบอกชอบมาแล้วใช่ไหม เหมือนที่มึงเล่าในรายการหรือเปล่า”
ห่าเอ้ย พี่เอฟก็ฟังวันที่ผมเล่าในคลื่นคลับซันเดย์ด้วยเหรอ T_T
“ครับ”
“ชอบมากี่วัน ทำไมถึงกล้าบอก”
เหมือนตอนนี้ผมกำลังถูกสารวัตรสอบปากคำในห้องน้ำสภาพเปลือยท่อนบนทั้งคู่เลย
“สองวันเอง พี่เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกชอบ ผมเลยกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ผมไม่เคยมีความรักนี่ ตอนที่เห็นพี่เขาแล้วรู้สึกยิ้มตามได้ ผมก็คิดว่ามันเป็นความรักไปแล้ว”
“เหมือนกูนั่นแหละ”
“…”
“กูก็คิดว่านั่นคือความรัก…” ผมเงยหน้ามองพี่เอฟที่ดูเจ็บปวดกับคำที่จะพูด “แต่พอมาได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง นั่นไม่เรียกว่าความรักเลย”
“…”
“มันเรียกว่าความหลงต่างหาก”
นั่นสินะ ความรักมันมาในรูปแบบแบบไหนผมยังไม่รู้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่อุ่นใจแม่งเป็นอะไรที่ชั่ววูบ มันเกิดจากความเหงาของผมในตอนนั้นล้วนๆ
“ตอนนั้นผมคงเหงาเกินกว่าจะคิดอะไรได้น่ะครับ ผมรีบร้อน ผมอยากมีคนอยู่ด้วยข้างๆ จนไม่นึกถึงผลตอบกลับว่าจะเลวร้ายมากแค่ไหน ผมนอยด์มากๆ เลยนะ ตอนที่รู้ว่าพี่อุ่นใจรับกับตัวตนผมตอนนั้นไม่ได้”
“กูเข้าใจดี เพราะกูก็โดนแบบนั้นมาเหมือนกัน ตลกดีแหะ มึงกับกูนี่จะเหมือนกันเกินไปแล้วนะ”
“ไม่เหมือนสักหน่อย ผมไม่ได้หล่อเหมือนพี่”
ยอมรับว่าที่ชมไม่ใช่เพราะอยากเอาใจ แต่ผมคิดว่าเขาหล่อแบบนี้มาตั้งแต่แรก และผมไม่เถียงหรอกถ้าพี่เขาจะบ้ายอชมตัวเองทั้งวี่ทั้งวัน
“ตอนนี้มึงก็ถูกหลายคนชมว่าน่ารักบ่อยขึ้นแล้วนี่” เออว่ะ… “ไม่ได้หล่อเหมือนกู แต่น่ารักกว่ากูก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่กูทำให้มึงดูดีขึ้นกว่าเก่านะ”
ผมหัวเราะออกมาด้วยความเขิน ผมถูกเขาชมว่าน่ารักใช่ไหมอะ ผมไม่ได้คิดไปเองเนอะ
“อ่า…ไหนๆ ผมก็รับรู้เรื่องของพี่และพี่ก็รับรู้เรื่องของผมแล้ว เอาเป็นว่าผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับ”
“อะไร มึงขัดตัวยังไม่ทั่วเลย อีกอย่าง กูขัดหลังตัวเองไม่ถึง ช่วยกูก่อนสิ”
คนตรงหน้าคิ้วขมวดจริงจัง มีความเหวี่ยงใส่อีก สรุปแล้วผมก็ต้องขัดผิวให้เขาด้วยสินะ
“งั้นหันหลังมาสิครับ”
เพราะพี่เอฟขัดหลังให้ผมก่อนหน้านี้เหอะ ผมถึงยอมขัดคืนอะ เกิดมายังไม่เคยขัดผิวขัดหลังให้ใครเลยนะเว้ย
ถือว่านี่เป็นบุญหลังพี่เอฟเลยนะจะบอกให้
“มึงอยากรู้ปะ ความรักจริงๆ แม่งต้องรู้สึกยังไง”
คนตัวสูงตรงหน้าหันหน้ามาถามผมอีกครั้ง ผมบรรจงขัดหลังพี่เอฟให้เบามือที่สุด แผ่นหลังพี่เขากว้างกว่าผมเยอะเลย แถมกล้ามเนื้อยังแน่นจนผมเผลอลูบด้วยความเพลินมือไปตั้งหลายหนแน่ะ
“ต้องรู้สึกยังไงอะครับ”
ผมเอียงคอถามด้วยความอยากรู้ คนเชี่ยวชาญด้านความรักแบบพี่เอฟต้องผ่านช่วงเวลาที่แอบชอบมาเยอะแน่ๆ เลยแหะ
ผมตั้งใจฟัง มือก็พยายามถูไปตามแผ่นหลังพี่เอฟเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีมือผมก็มาหยุดที่เอวของเขา ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำเอาผมต้องหยุดมองด้วยความหลงไหลมากกว่าจะอิจฉา
เอวของเขาเวลาที่จับตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์นี่ ขาวเบอร์นี้เลยเหรอวะ
“มึงต้องใจเต้นแรง”
พี่เอฟพูดขึ้น ผมถึงกับหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วคิดไปถึงช่วงที่เขามองตาผมตอนแต่งหน้า
ช่วงที่เขาเข้ามาใกล้ในตอนที่ตัดผมให้ผม…
ช่วงที่โอบตัวผมพร้อมกับลูบไล้เข้าที่ต้นคอ…
ใจผมตอนนั้นเต้นแรงยิ่งกว่ากลองชุดในวงคาราบาวอีก
“อะฮะ…” ผมพยายามตอบกลับด้วยความนิ่งเฉย ทั้งที่หัวใจผมก็กำลังจะเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
“รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาจ้องตาเขา”
อ่า ตอนที่พี่เอฟชายตามา ทำไมผมต้องหลบตาเขาด้วยวะ
“…”
“รู้สึกหึงทุกครั้งที่เขาไปชอบใคร”
“…”
“ไม่อยากให้เขาหายไปนานๆ เพราะรู้สึกเป็นห่วง”
“…”
“ยอมทุกอย่างเพื่อเขา แม้จะไม่เต็มใจจะทำก็เหอะ”
“…”
“มึงเคยรู้สึกแบบนี้กับใครบ้างหรือยัง”
คำถามทำเอาผมต้องปล่อยมือออกจากหลังของเขา แววตาอยากรู้ของพี่เอฟมองมาจนหัวใจผมสั่น ปากของผมไม่สามารถขยับตอบเขาราวกับถูกสะกดเอาไว้
…ความรู้สึกพวกนั้นเขาเรียกว่าความรักจริงๆ ดิ
ถ้าถามว่าผมเคยรู้สึกแบบนั้นกับใครบ้างหรือยัง จะให้ผมตอบพี่เอฟเขาว่าไงดีอะ
ก็คนที่มาทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น มันก็มีอยู่แค่คนเดียวในตอนนี้ไหมล่ะ…
“พี่เอฟยังชอบพี่อุ่นใจอยู่ไหมอะ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นการบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก555
ว่าแล้ว ว่าอุ่นใจกับไจ๋มีซัมติง
โอ้ยยยยยยย บรรยากาศขัดหลังในห้องแบบนี้นี่มันยังไงกันวะ แงๆ เขิน
หวั่นไหวล่ะสิ้้้้้้
ฮื้อออ เขิน เขินแทนคณิตแล้วววว