ตอนที่ 19 : ll CUTIE SASAENG : CHAPTER 18 ll เขาร้อนคนเดียวก็พอ เราจะร้อนตามทำไม {LOADING 100%}

18
เขาร้อนคนเดียวก็พอ เราจะร้อนตามทำไม
ฉันใช้ความพยายามอยู่หลายนาทีอยู่หน้าประตู ทั้งแงะทั้งแคะแกะเกาให้ประตูมันเปิด ผลสุดท้ายก็คือ…
ยังไงฉันก็ต้องอยู่ที่นี่ทั้งคืน เพราะอิเจ้ตัวดีคนเดียวเลย
ฉันนั่งลงบนเตียงข้างๆ ร่างสูงที่นอนไม่ได้สติอยู่ หน้าของเขาแดงจนฉันนึกว่าเขาไปเอาสีแดงมาทาหน้าเหอะ ดื่มไม่ได้ก็อยากจะดื่ม คนดื้อๆ แบบนี้ก็มีด้วย ฉันหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาเร่งความเย็นของแอร์ให้มากกว่านี้เพราะฉันเริ่มเห็นว่าเก๋งมีเหงื่อผุดออกใบหน้ามานิดนึงแล้ว
“ร้อน…”
เสียงแหบพร่าของคนบนเสียงเอ่ยขึ้นเสียงเบา พลางขยับตัวไปมาเหมือนอึดอัดจริงๆ ฉันรีบลุกขึ้นเอาผ้าขนหนูเข้าไปชุบน้ำในห้องน้ำภายในห้องอย่างด่วน นี่ฉันปรับแอร์จนมันหนาวแทบจะหิมะตกอยู่แล้วนะ
ฉันรีบวิ่งเอาผ้าขนหนูมาลูบแขนเขาเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่แล้วเก๋งก็เด้งตัวลุกขึ้นมาหน้าตาเฉย แถมตาของเขายังทำท่าว่าจะหลับอยู่นะ…
เก๋งเบ้หน้าเบ้ปากก่อนจะหันซ้ายหันขวาใช้มือปาดเหงื่อตัวเองบนใบหน้าด้วยความหงุดหงิดนิดๆ ทำให้ฉันอดห่วงกลัวว่าเขาจะไม่สบายขึ้นมาจะแย่เอาน่ะสิ
“เก๋งเป็นอะไรหรือเปล่า” ฉันเอียงคอถามเขาเมื่อเห็นว่าเขาคอพับคออ่อนนั่งทำหน้าทำตาเหมือนอึดอัดเต็มทน “ร้อนมากเลยเหรอ”
“ผมอึดอัด...”
เก๋งยู่ปากเหมือนเด็กถูกขัดใจก่อนจะโพล่งพ่างทำสิ่งที่ฉันแทบอยากจะกระโดดออกหน้าต่างให้รู้แล้วรู้รอด เขาถอดเสื้อออกและปาทิ้งลงพื้นก่อนจะล้มตัวนอนลงไปอีกครั้ง ผิวขาวเนียนกับแผงอกกว้างๆ ที่มีการไล่เรียงระดับของกล้ามหน้าท้องทั้งหกลูกนี่มัน…
“น่ากินแหะ...”
อยู่ๆ ฉันก็เผลอคิดดังไปหน่อยจนเผลอเอ่ยออกมา ฉันรีบปิดปากตัวเองก่อนจะสะบัดหัวเอาความคิดหื่นๆ นี่ออกไปให้พ้น เหงื่อของเก๋งผุดขึ้นตามร่างกายยิ่งชวนทำให้เขาเซ็กซี่มากขึ้นไปอีกสิบระดับไหนจะหัวนมสี…
พอ…ฉันไม่มองแล้ว T^T
ฉันคลี่ผ้าขนหนูที่ชุบน้ำออกก่อนจะวางแปะไว้ที่อกเขาเผื่อให้มันรู้สึกเย็นๆ ขึ้นมาบ้าง
จริงๆ ถ้าฉันไม่ห่วงเนื้อห่วงตัวฉันคงจับเขาปล้ำไปเรียบร้อย แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ แม่ฉันคงด่าเช็ดแถมด้วยแม่เก๋งที่ด่าฉันกลับมาแน่นอนโทษฐานข่มขืนลูกชายเขาเอาตอนเผลอ
อ่อยชะมัด ยิ่งทำหน้าทำตาเหมือนหงุดหงิดนี่มันยิ่งทำให้ฉันระทวยจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ฉันยกมือจับหน้าอกตัวเองที่เต้นรัวเป็นจังหวะสามช่าขึ้นมาดื้อๆ ฉันก้มมองใบหน้าเนียนของเก๋งอย่างพินิจอีกครั้ง แม้แต่รอยสิวก็ไม่มีเลยสักเม็ด ผิวของเขาเรียบเนียนเท่ากันหมดรอยปรุประก็ไม่มี…นี่ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมานะถึงได้ผิวดีๆ แบบนี้มาเนี่ย
“มองผมทำไมอะ”
O_O
ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นทันที ฉันรีบผงะหัวออกจากหน้าเขาก่อนจะทำท่านั่งเป็นปกติไม่ได้เกิดอะไรก่อนหน้านี้ทั้งนั้น
“ปะ เปล่า พี่แค่จะดูว่าเก๋งหลับดีแล้วหรือยัง”
เก๋งพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง แต่ดูแล้วเขายังงัวเงียเพราะความมึนไม่เลิกเลยนะ เก๋งลูบลำคอตัวเองเบาๆ นี่ยิ่งเผยรูปร่างส่วนโค้งส่วนเว้าของเขาอย่างชัดเจนจนทำให้ฉันเผลอกลืนน้ำลายเบาๆ
หื่นสิก้อย ใจเย็นๆ สูดลมหายใจ…
“พี่ถอดเสื้อผมเหรอ” เก๋งหันมาถามเมื่อก้มมองตัวเองที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกคลุมเบื้องบน
“บ้าหรือไง เราถอดเองแท้ๆ อย่าใส่ร้ายพี่ดิ” ฉันรีบสวนกลับทันควัน ในตอนนี้ฉันว่าฉันหน้าแดงไม่แพ้เขาหรอกจริงๆ “งั้นใส่กลับไปเลย”
ฉันก้มหยิบเสื้อที่กองอยู่บนพื้นส่งให้เขาด้วยความเคืองๆ เห็นฉันเป็นผู้หญิงกร้านโลกคิดอยากจะแก้ผ้าผู้ชายก็แก้หรือไง
ใช่ คิดถูกแล้ว -_-
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรพี่เลย ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงขนาดนั้นเลยนี่นา”
เก๋งเบะปากออกเหมือนงอนฉัน ฉันเลอะละก่อนจะลุกขึ้นมายืนทำท่าทางปกติและพยายามอธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง
“เพื่อนพี่เขาแกล้งล็อกห้อง เพราะฉะนั้นพี่ต้องอยู่กับเราในห้องคืนนี้นะ พะ พี่นอนข้างล่างเอง” ฉันชี้ลงพื้นอย่างร้อนรน ต้องแก้ผ้า เอ้ย แก้ตัวก่อนที่เก๋งจะหาว่าฉันสร้างเรื่องอยากอยู่กับเขา มันไม่ดีไม่งามข้าวหลามหนองมน “เก๋งไม่ต้องกลัวว่าพี่จะทำอะไรนะ พี่ไม่ทำหรอก”
“มานั่ง…” เก๋งไม่ได้ฟังคำอธิบายที่ฉันพยายามร่ายออกไป เขาควักมือเรียกฉันก่อนจะตบเตียงข้างๆ เขา “พี่มานั่งก่อน”
“ทะ ทำไม”
ฉันค่อยๆ เขยิบไปนั่งตามที่เขาบอก เก๋งโยนเสื้อไปที่พื้นอีกครั้งก่อนจะจับไหล่ฉันหันไปทางเขา สายตาดุดันของเขากดดันจนน้ำลายฉันเริ่มหนืดคอจนกลืนลำบาก เก๋งหรี่ตามองหน้าฉันและพยายามจ้องมองฉัน
ลมหายใจของเขาเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์ผลไม้อ่อนๆ ทำเอาฉันแอบเคลิ้มไปทันทีที่ได้สัมผัส เก๋งเป็นคนที่กลิ่นตัวหอมสุดๆ เขาใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรกันนะถึงได้ติดจมูกจนฉันเสพติดได้ขนาดนี้
“ผมร้อน…” เก๋งเอ่ยออกมาสั้นๆ ก่อนจะโน้มหน้ามาใกล้ฉันและหยุดเอาไว้แค่เอื้อม
“ละ ละ แล้วมาบอกพี่ทะ ทำไม”
แล้วฉันจะติดอ่างทำไมวะ!
“พาผมไปอาบน้ำที...”
สายตาอ้อนวอนดูไม่มีจุดประสงค์อะไรทำฉันหยุดการหายใจกะทันหัน เหงื่อของเก๋งไหลลงอาบแก้มทำให้มือของฉันยกขึ้นปาดให้เขาอัตโนมัติ และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาชะงักไม่แพ้กัน
ในตอนนี้เหงื่อฉันผุดขึ้นมาทั้งๆ ที่ห้องเย็นเฉียบจนจะแข็งตายอยู่แล้ว นี่ฉันเป็นอะไรวะเนี่ย…
“…” ภายในห้องเข้าสู่บรรยากาศเงียบสงัด ฉันไม่พูดอะไร สายตาของเก๋งยังคงจ้องมาที่ฉัน
“พี่ก็ร้อนเหรอ” เก๋งหรี่ถามฉันอย่างสงสัย คงเพราะเหงื่อที่จมูกมันเริ่มออกด้วยแหละ
“ก็นิดหน่อย…” ฉันตอบกลับไปอย่างเก้งๆ กังๆ
“งั้น…”
“…” ฉันกั๊กลมหายใจจนรู้สึกอยากระเบิดมันออกมาเพราะความอึดอัดในตอนนี้
“มาอาบน้ำด้วยกันไหม”
เก๋งต้องตั้งสตินะ เก๋งเมามากแล้ว T^T
ฉันเอื้อมมือหยิบผ้าขนหนูที่กองอยู่บนเตียงก่อนจะยัดใส่มือเขาไป เก๋งพริ้มตาใส่ฉันก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาดื้อๆ เป็นบ้าอะไรเนี่ย ยิ้มเฉย
“เมาแล้วนะเก๋งไปอาบน้ำแล้วมานอนพักผ่อนเลย พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า”
ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อบรรยากาศเริ่มมาคุพาเหงื่อแตกโชกไปหมด เก๋งจื่อปากอย่างน่ารักก่อนจะยื่นหน้ามาหาฉันอีกครั้ง
“ไม่อาบแล้ว ไม่มีเรียนด้วย” เก๋งตอบแค่นั้น เขาก็นั่งขัดสมาธิก่อนจะหันหน้ามาทางฉันแบบจริงๆ จังๆ ฉันนั่งอยู่บนเตียงก็ได้แต่ตัวแข็งทื่อกับการกระทำของเขาไป “เล่นเกมส์กัน”
จู่ๆ เก๋งก็ชวนฉันเล่นเกมส์หน้าตาเฉย ฉันเลิกคิ้วงง ดูเขาสิเสื้อก็ยังไม่ใส่ ยังจะมานั่งต่อหน้าต่อตาฉันแบบใกล้ชิดอีก มันจะเกินไปแล้วนะเว้ยแก
“เกมส์อะไรอะ” ฉันยืดตัวตรงตั้งใจเล่นกับเขา ไหนๆ ก็ไหนๆ เราก็ยังไม่ง่วงสักหน่อย เล่นกับเขาไปเหอะ ดูท่าว่าเขาจะเมาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ตื่นมาอีกทีก็คงลืมเรื่องคืนนี้ไปหมดแล้วล่ะ
“เกมส์พูดความจริง…ผมถามอะไรต้องพูดความจริงนะ”
เก๋งยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะปากฉันเบาๆ จนฉันเบิกตากว้างเพราะช็อกกับการกระทำของเขาไปชั่วขณะ
ถ้าเขาเมาแล้วชอบสกินชิพขนาดนี้ ฉันจะผสมเหล้ากับน้ำเปล่าให้เขากินทุกวันเลยสิให้ตาย
ตาของเก๋งปรือขึ้นลงพร้อมจะฟุบหลับไปทุกเมื่อ ในตอนนี้ห้องเย็นพอสมควรแล้วล่ะ เขาก็เหงื่อไม่ออกแล้ว ส่วนฉันพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด อย่าไขว้เขวเด็ดขาด ท่องไว้ๆ
“แล้วมันต้องเล่นยังไงอะ พี่ไม่เคยเล่น” ฉันถามเขา เก๋งยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะเมาๆ
เข้าใจคำว่าหัวเราะเมาๆ ปะ T^T
“สลับกันถามตอบอะ ถ้าตอบได้ก็ผ่าน ถ้าตอบไม่ได้ก็ถูกทำโทษ”
เก๋งหัวเราะออกมาอีกครั้งหลังจากเขาพูดเสร็จ เขาเป็นคนเมาที่น่าถีบให้ออกนอกห้องที่สุดเลยรู้ไหม มันดูกวนๆ ยังไงไม่รู้ ถึงเขาจะไม่พูดมากหรือเรื้อนเป็นหมาข้างทางเหมือนคนบางจำพวกก็เถอะ แต่เชื่อฉันสิ แบบนี้น่าหมั่นไส้กว่าเยอะมาก
“ทำโทษยังไงอะ ดีดหน้าผากงี้เหรอ”
ฉันถามเก๋งกลับไป เขายกนิ้วขึ้นมาส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ฉันหน้านิ่วขมวดคิ้วไปแบบสงสัย
“ถ้ามีใครตอบไม่ได้แล้วเดี๋ยวผมจะบอกบทลงโทษเอง…”
จ่ะ พ่อคนมีเล่ห์เหลี่ยม
“งั้นพี่ถามก่อนนะ” ฉันได้โอกาสจึงเอ่ยขอเขาไปแบบทันควัน เก๋งพยักหน้ารับไม่ขัดอะไร แววตาของเขามองมาที่ฉันอย่างตั้งใจก่อนจะเอียงคอทำหน้าสงสัย “เก๋งชอบผู้หญิงใช่ไหม”
เพื่อความแน่ใจอย่างแน่ชัดและชัดเจนฉันจึงเลือกถามคำถามที่ค้างคาใจมากที่สุดออกไป ทำไมเขาถึงอยากเล่นเกมส์นี้เพื่อเปิดทางให้ฉันถามเขาสะดวกแบบนี้ล่ะ สบายฉันล่ะ
“อืม ชอบผู้หญิง ไม่เคยชอบผู้ชายด้วยครับ” เก๋งตอบมาด้วยท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม ทำให้ฉันรู้สึกชื้นใจขึ้นมาในหนึ่งระดับ “ผมถามบ้างนะ”
“อืม ถามมาเล๊ยยยย”
แล้วไมฉันต้องขึ้นเสียงสูงทำดัดจริตอะไรเทือกนี้ด้วยอ่ะ งงใจตัวเอง
“พี่ตามผมตั้งแต่วันแรกเพราะพี่อยากสนิทกับผมจริงๆ เหรอ” คำถามของเก๋งคำถามแรกก็เล่นจุกอกฉันซะงั้น…
ฉันไม่ได้อยากสนิทสักหน่อย ฉันอยากจีบต่างหาก
“ใช่แล้ว พี่อยากสนิท…” พี่จะได้สานต่อไปเป็นอย่างอื่นได้ง่ายๆ ไง
“ไม่ใช่ว่าพี่อยากจีบทีแต่มาตีสนิทกับผมนะ”
-_- นี่คือความคิดอันแท้จริงของเขาสินะ
“เก๋งถามเกินโควต้าแล้ว ถึงตาพี่ถามเก๋งบ้างล่ะนะ” เก๋งพ่นลมหายใจออกมาเหมือนถูกขัดใจ ก่อนจะกลับมานั่งตั้งใจฟังอีกครั้งด้วยสีหน้ามึนๆ “เก๋งจะรู้สึกยังไงถ้าทีมาชอบพี่อะ”
ลองใจถามเขาไปงั้นแหละ เผื่อมีความหวังอะไรขึ้นมาบ้าง…
“ทำไมถามผมยาก…” เก๋งยกมือเกาหัว มันยากแค่ไหนกะอีแค่บอกความรู้สึกเนี่ย “ผมคงยินดีกับเพื่อนมั้ง…เพื่อนมีคนที่ชอบผมก็ดีใจไง”
นั่นสินะ เพื่อนมีคนที่ชอบก็ต้องยินดี จะให้โกรธหรือไงก้อย ถามบ้าๆ เนอะ…
“ดีเนอะ…” ดีที่ไม่รู้สึกอะไรเลยที่ทีมาชอบฉันเนี่ยนะ
“พี่รู้สึกยังไงกับไอ้ทีมันอะ…” เก๋งถามกลับมาอย่างรวดเร็วจนฉันเกือบตั้งรับไม่ทัน
“รู้สึกเฉยๆ น้องเขาก็นิสัยแปลกๆ ดี บางทีก็ตลก บางทีก็…อึดอัด”
“ถ้าทีขอคบกับพี่ พี่จะตอบยังไงอะ” น้ำเสียงงัวเงียถามมาอีกครั้ง นี่เขาจุ๊บจิ๊บแอบถามเกินอีกแล้วนะ “ตอบผมมาเหอะ…”
เหมือนว่าเขาจะรู้ว่าฉันจะขัดเขา แต่เอาเถอะตอบเขาไปคงไม่เป็นไรหรอก แค่ให้เก๋งคำถามเดียวเอง
“พี่มีคนที่ชอบแล้ว พี่ไม่คบกับทีหรอก พี่มั่นคงชอบใครพี่ก็จะชอบคนนั้น J”
ฉันตอบเก๋งพร้อมรอยยิ้มไปแบบความมั่นหน้าสุดขีด แอบเขินนิดๆ เพราะคนที่ฉันชอบนั่งอยู่ตรงหน้านี่ไง แถมยังมาย้ำความมั่นใจต่อหน้าเขาอีก เป็นใครใครก็ต้องเขินปะ
“พี่ชอบผมหรือเปล่า…”
…
เหมือนภายในห้องถูกห้วงเวลาหยุดหมุนไปโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ๆ คนตรงหน้าฉันก็ถามคำถามที่ตรงจนฉันเกือบหน้าคว่ำให้รู้แล้วรู้รอด ฉันกลืนน้ำลายลงคอเมื่อหลอดเสียงเริ่มฝืดขึ้นมาซะดื้อๆ เก๋งเขยิบมาใกล้ฉันอีกครั้ง แววตาใสแป๋วของคนตรงหน้ายื่นมาใกล้ในระยะเพียงแค่ไม่กี่เซน ลมหายใจเราปะทะกันจนฉันเริ่มวิงเวียนขึ้นมาดื้อๆ เขากำลังเล่นอะไรกับฉันเนี่ย
“พี่ยังไม่ได้ถามเราเลย พี่ถามก่อน” ฉันเริ่มหาข้อเบี่ยงประเด็นคำถามของเขา เก๋งไม่ได้ขัดอะไรฉันเขายังคงจ้องฉันอยู่แบบนั้น บ้าที่สุดนายเปลือยอยู่นะเก๋ง ไม่ใช่ผู้ชายเด็กน้อยที่ใส่เสื้ออยู่นะเฮ้ย “แล้วเรา…ชอบพี่หรือเปล่า”
ฉันตัดสินใจอะไรเร็วไปหรือเปล่านะ
“ผมตอบไม่ได้” เก๋งผละหน้าออกก่อนจะขมวดคิ้วทำหน้าหงุดหงิด “งี้ผมก็ต้องโดนทำโทษอ่ะดิ”
ฉันจับหน้าอกตัวเอง เหมือนมันวูบหล่นลงไปข้างล่างและกลับมาเต้นรัวๆ เร็วๆ อีกครั้ง ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ให้เกิดอาการหน้าแดงร้อนระอุแบบนี้
“พี่ต้องทำโทษเรายังไงอะ”
แม้จะรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้คำตอบมา แต่ช่างเหอะ ต่อให้เขาตอบมาก็คงเป็นคำตอบของคนเมา เอาไว้ให้เขามีสติพอจะพูดรู้เรื่องค่อยรอคำตอบนั้นก็ไม่สายไป นี่มันยังเร็วเกินไป
เร็วมากไปจริงๆ นะ
“ผมจะยื่นหน้าไปหาพี่ แล้วพี่ก็ยื่นหน้ามาหาผม” เก๋งยื่นหน้ามาเกือบชิดฉัน ฉันที่จะผงะหน้าออก ก็ถูกเก๋งจับหน้าฉันเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน “แล้วพี่ก็ต้องทำผมแบบนี้…”
เหมือนโลกหยุดหมุนอีกระรอก เมื่อเก๋งดันจับหน้าฉันเข้าหาหน้าเขาหน้าตาเฉย ริมฝีปากของเราประกบกันเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากเก๋งจะเริ่มรุกเร้าและรุกลามเข้ามารับรสเสมือนเป็นเยลลี่หวานๆ ของเขา ฉันไม่ได้ขัดขืนบทลงโทษอะไร รสหวานของผลไม้ที่ผสมแอลกอฮอล์เล็กน้อยกำลังโดนฉันสัมผัสจากริมฝีปากของเขา ความหวานและความขมปะปนจนทำฉันต้องหลับตาเพื่อรับความละมุนเหล่านั้น
เก๋งจับหน้าฉันก่อนจะค่อยๆ ผละริมฝีปากออกจากกันค่อยๆ หน้าผากของเราชนกันอยู่เนิ่นนานก่อนที่ฉันจะเอ่ยเพื่อกลบบรรยากาศงงๆ แบบนี้
“เก๋งถามมาสิ…” ฉันพูดเสียงเบา เก๋งหลุบตาลงมือของเขายังคงประคองหน้าฉันไม่ปล่อย เรายังอยู่ในระยะประชิดตามเดิม ลมหายใจถี่ๆ ของเขาดูเหมือนหอบจากการจูบเมื่อกี้ปะทะเข้าที่หน้าฉันเบาๆ
“พี่ชอบผมเหรอ…”
“…”
ฉันเลือกที่จะเงียบกลับไปให้เก๋ง มันไม่ได้ต่างอะไรกับคำถามของฉันเลยสักนิด ฉันกลัว กลัวจะเสียเขาไปถ้าฉันตอบไปว่าชอบ ฉันไม่รู้ในตอนนี้ว่าการกระทำที่เขาทำอยู่เขาได้สติไหม
ฉันไม่ชอบ…แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ขัดขืนกับการกระทำเขา
ฉันดูเลวดีเนอะ…
“พี่ตอบไม่ได้เหรอ”
คำถามของเขาเล่นทำฉันน้ำตาไหลออกมาช้าๆ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ ฉันก็เกิดอาการอึดอัดตัวเอง เหตุการณ์ที่รอคอยอยู่ตรงหน้าแต่ฉันกลับตอบไม่ได้ ทำไมฉันถึงไม่บอกเขาไปและรับความจริงที่จะตามมา ถ้าฉันบอกเขาไปว่าชอบ มีสองทางที่ฉันจะได้รับเท่านั้น…
ไม่ชอบฉันกลับ ก็เกลียดฉันจนกลายเป็นคนแปลกหน้าไปเลย
ฉันกลัวไง…กลัวมันเป็นอย่างหลังซะมากกว่า
“พี่ไม่เล่นแล้ว…”
ฉันที่ยังพูดไม่จบ เก๋งก็โน้มหน้าลงมาจรดริมฝีปากมาที่ฉันอีกระรอก คราวนี้ยาวนานกว่าเมื่อครั้งแรก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกในตอนนี้ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจะทำแบบนี้กับทุกคนเหรอ ฉันว่ามันคงไม่ใช่หรอก ฉันไม่ได้คิดไปเองจริงๆ นะ แต่ในตอนนี้แค่เขาไม่มีสติที่จะควบคุมอารมณ์ส่วนนึงของตัวเองเท่านั้น รุ่งเช้าเขาก็จะลืมทุกอย่างไปเอง
ม่านตาของฉันหลับลงพร้อมกับน้ำใสๆ ที่ไหลลงมาโดยไม่สามารถระบุได้ว่าน้ำตาหยดนี้คืออารมณ์ไหนในใจฉันกันแน่…
ฉันไม่รู้ว่าเขาจะตั้งใจหรือแค่พลาดพลั้งไป แต่สำหรับฉันเขาคือจูบแรกที่สำคัญในชีวิตฉันไปแล้วล่ะ…
“ตลกเนอะ…”
เก๋งผละริมฝีปากออกอีกครั้ง หน้าของเรายังคงชิดกันเหมือนเดิม ฉันเลิกคิ้วกับคำพูดของเขาทันทีที่เขาเอ่ยออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“หืม…” ฉันขานกลับไปอย่างสงสัย และคำตอบที่ได้รับมาก็ไขข้อข้องใจในคืนนั้นเป็นอย่างดี…
“พี่เป็นจูบแรกของผมยังไม่พอ…”
“…”
“พี่ยังเป็นจูบที่สองที่สามของผมอีก…”
…คืนนั้นฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆ สินะ



นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่ม้น ไม่นกนะหญิงงง
สารภาพเลยสิๆๆๆ คริคริ
โอ้ยยย เขิน
กันจะฟินกว่านี้ รอน้าาาาาาา