ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Summer volunteer ชุลมุนวุ่นค่ายรักนักอาสา

    ลำดับตอนที่ #2 : CH :: 02 :: น้องแหล่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 276
      2
      23 ธ.ค. 57







    02
     

    “ น้องแหล่ ”




     

                หลังจากที่ย้ายตัวเองมานั่งยังตำแหน่งที่ถูกต้องจริงๆ แล้ว...ไม่ต้องเสียเวลาให้คุณเจ้น ญาณทิพย์ในรายการคนตรวจผีมาพิสูจน์ ฉันก็สัมผัสได้ถึงพลังงานความริษยาขั้นรุนแรงจากทั่วทุกสารทิศบนรถU_U โอเค ฉันเข้าใจนะว่าการที่ได้นั่งข้างๆ คนหล่อมันเป็นเรื่องน่าอิจฉา แต่...ช่วยเห็นใจเรนนี่แสนซนคนสวย(?)ด้วยนะคะ
     

                เพราะทางนี้ก็จะไม่ไหวเหมือนกัน โอยยยย~ ใจสั่นโคตรๆ บางทีฉันอาจจะหัวใจวายตายก่อนไปค่ายก็ได้นะU///U
     

                “กระเป๋า” น้ำเสียงหล่อทุ้มเอ่ยถามออกมาเรียบๆ

                ฉันเงยหน้ามองคนพูดพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ ให้ตายเถอะ! ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ดูดีออร่ากระจายขนาดนี้นะ ถ้าไม่ติดว่ามีรังสีความน่ากลัวที่แผ่ออกมาใส่ฉันเป็นระรอกๆ จากทุกคนบนรถล่ะก็... จะหยิบไอโฟนขึ้นมากดถ่ายรูปเขารัวๆ เลย>_<

                “กระเป๋าเธอน่ะ...จะเก็บไว้บนชั้นวางมั้ย?”
     

                ฝากหัวใจไปเก็บไว้ด้วยได้หรือเปล่าคะ?
     

                ถามแค่ในใจ...เท่านั้นแหละ ดูจากสายตาคนรอบข้างแล้ว ฉันกลัวตัวเองจะกลายเป็นศพบนรถบัส
     

                “ค่ะ...ขอบคุณค่ะ”
     

                กระเป๋าสะพายใบเล็กของฉันถูกยกขึ้นไปเก็บบนชั้นวางก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
     

                กรี๊ดได้มั้ยนะ...กรี๊ดได้มั้ยยยยยยยย!! คุณมนุษย์ภาพวาดนั่งข้างฉัน! ข้างฉันอย่างไม่ใช่ความฝัน>/////<!!
     

                “ภาพวาด ตกลงยัยลูกไก่จะไปเจอเราที่นู่นตอนเย็นใช่มั้ย?”
     

                ผู้ชายตัวสูงผมสีดำสวมแว่นตากรอบกรอบทรงสี่เหลี่ยมเดินมาถามคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆฉันได้ไม่นาน พี่คนนี้ชื่อพี่ธาม เป็นประธานค่ายอาสาในครั้งนี้อีกทั้งยังพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของคุณมนุษย์ภาพวาดด้วย(อันหลังนี่ได้ยินเขาว่ามาอีกแล้วอ่ะนะ)
     

    “อืม...เห็นบอกว่าจะมาถึงช่วงกิจกรรมตอนเย็น”
     

                “อ่อๆ โอเค”
     

                พอได้คำตอบพี่ธามก็เดินกลับไปยังที่นั่งด้านหน้าสุดของตัวเอง ปล่อยให้อีกคนวุ่นวายอยู่กับไอโฟนและหูฟังสีเขียวมิ้นท์ในมือ

    รถเริ่มเคลื่อนตัวออกช้าๆ หลังจากที่ทุกคนนั่งประจำที่ ฉันแอบลอบมองเขาเป็นระยะๆ พยายามหาจังหวะที่จะชวนคุย อยากจะถามว่าเขาจริงๆ ว่าจำฉันได้หรือเปล่า? ก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะจำได้อะไรหรอก แต่...ก็อยากจะลองถามดูเฉยๆ แบบว่า...การเจอกันของเราสองคนมันไม่ค่อยจะน่าปลื้มเท่าไหร่ไง นี่ยังแอบคิดอยู่เลยว่าถ้าคุณมนุษย์ภาพวาดจำฉันได้เขาจะมองฉันเป็นผู้หญิงยังไง อยู่ดีๆ ก็ชวนผู้ชายที่ไม่รู้จักไปค่ายอาสาด้วยกัน โอย~! คิดแล้วก็อายขึ้นมา>_<

                “เอ่อ คือเราสองคนเคยเจอกันมาก่อนใช่มั้ยคะ...”
     

                ฉันถามออกไปหวั่นๆ เขาหันมามองฉัน เราสบตากัน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยฉายแววครุ่นคิด โอ๊ยยย~! ฉันอยากจะบ้า>////< เวลาที่สบตากับคุณมนุษย์ภาพวาดทีไรหัวใจฉันมันเต้นแรงยังกับจะหลุดออกมาเหอะ เรี่ยวรงเรี่ยวแรงเนี่ย...ยังกับโดนดวงตาคู่นั้นสูบเอาไปหมด

    ผู้ชายคนนี้ช่างเหมาะกับสโลแกน หลงทางเสียเวลา หลงสบตาเสียการทรงตัวจริงๆU_U

                “เมื่อห้าวันก่อนที่หน้าคณะมนุษย์”
     

                “.....” เขายังคงจ้องหน้าฉัน
     

                “ตะ ตอนนั้นเรนนี่ชนพี่”
     

                ให้ตาย~! จ้องกันแบบนี้มันก็ประหม่านะเว้ย(-////-)

                “อ่า พี่คงจำไม่ได้ แหะๆ ^///^

                ฉันได้แต่หัวเราะแห้งๆ ออกไป รู้สึกทั้งโล่งใจและผิดหวังปะปนกันไป ถ้าเขาจำไม่ได้ก็ถือว่าดีนิดๆ เพราะฉันจะได้สร้างภาพพจน์ดีๆ ขึ้นมาใหม่ โฮะๆ^o^

    ยัยพิลึกที่เดินชนแล้วก็มองฉันตาหวานเยิ้ม แถมยังเรียกฉันว่ามนุษย์ภาพวาดถึงสองครั้ง... คงจำไม่ได้หรอกมั้ง
     

                ห๊ะ!? O_o!

                ถ้าฟังไม่ผิดเมื่อกี้...
     

    ยัยพิลึกที่เดินชนแล้วก็มองฉันตาหวานเยิ้ม แถมยังเรียกฉันว่ามนุษย์ภาพวาดถึงสองครั้ง... คงจำไม่ได้หรอกมั้ง
     

                งั้นก็หมายความว่าพี่จำเรนนี่ได้
     

                ไม่บอกเขาพูดหน้าทะเล้น ไม่บอกคนตัวดำอย่างเธอหรอก
     

                พรืดดดด~!
     

    ประโยคเมื่อครู่ทำเอาหัวฉันแทบจะกระแทกเข้ากับเบาะข้างหน้า ฉันว่าฉันสัมผัสได้ถึงฉายาหล่อ JPGE ของเขาแล้วล่ะ ปากเสียนิดๆผิดกับหน้าตา
     

    จริงๆ ฉันไม่ได้ดำขนาดนั้นนะแค่ผิวสีแทนเท่านั้นเอง แต่พอเวลาไปเทียบกับคนที่ขาวกว่า(มาก)...อย่างเขา ฉันเลยกลายเป็นมนุษย์ตัวคล้ำไปโดยปริยาย คนอะไรขาวออร่ากระจายเรี่ยราดU_U
     

                “หน้าเธอ...ตลกชะมัด
     

                เขาพูดขำๆ
     

                หัวเราะได้หล่อชวนละลายมาก โอยยย~ หลง...ช่วยอย่าทำตัวหล่อไปมากกว่านี้ได้มั้ย? ฉันยิ่งเป็นโรคภูมิต้านทานคุณมนุษย์ภาพวาดบกพร่องอยู่ด้วยUoU
     

                “ว่าแต่เธอแอบตามฉันมาที่ค่าย? เป็นสตอล์กเกอร์?”
     

                เปล่านะคะ! ไม่ได้ตาม! เรนนี่ตั้งใจมาค่ายอาสาจริงๆ แล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่อยู่ชมรมนี้~
     

                นี่ฉันดูเป็นยัยโรคจิตในสายตาเขาขนาดนั้นเชียว...หมดกันภาพพจน์เรนนี่แสนซนคนสวย(?)ของฉัน TT^TT
     

                จะบอกว่าไม่รู้จักฉันมาก่อน แล้วที่มาเจอกันที่นี่ก็เรื่องบังเอิญ?”
     

                ฉันพยักหน้ารัว(_ _)(>_<)(_ _)(>_<)
     

                “แล้ววันนั้นที่เธอเรียกชื่อฉัน… ‘ภาพวาดชัดๆนั่นล่ะ-*-” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มองฉันอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่
     

                จะให้พูดยังไงดีล่ะ...ก็วันนั้นฉันละเมอเพ้อพกพูดออกไปเฉยๆ นี่นา ก็เขาหล่อเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดจริงๆ นี่ ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะชื่อว่าภาพวาด...-_-;
     

                “จริงๆ เรนนี่แค่คิดว่าพี่ดูดีเหมือนภาพวาด...
     

                คำพูดของเธอไม่มีน้ำหนักเชื่อถือไม่ได้ ยอมรับมาเถอะว่าตามฉันมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว ไม่ต้องแก้ตัวว่าไม่ใช่เพราะยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้น คนอะไรตัวดำแล้วยังขี้โกหกดูจากลักษณะแล้ว...
     

                โอเค! ตามก็ตามคะ!
     

                สุดท้ายฉันก็จำใจต้องยอมรับออกไปก่อนที่คำพูดสารพัดแทงใจดำจะพรั่งพรูออกมา จากปากผู้ชายตัวสูงหน้าลูกครึ่งคนนี้ นี่ฉันหลงผิดไปชอบเขาได้ยังไงนะ รู้สึกจะถอนตัวก็ไม่ทันแล้วด้วยสิ... โดนเขาว่าร้ายขนาดนี้ฉันยังไม่โกรธ นี่ถ้าเป็นคนอื่นฉันอาจจะฟาดด้วยฝ่ามือไปสักป้าบสองป้าบแล้วเหอะ
     

                หรือฉันจะเป็นพวกโรคจิตอย่างที่ว่าจริงๆ
     

                “ก็แค่นั้น... เฮ้อ~ นี่ฉันจะต้องอยู่บ้านพ่อฮักแม่ฮักกับยัยโรคจิตอย่างเธอสิบวันเลยเหรอเนี่ย~” เขาบ่นออกมาเสียงเอื่อยๆ ก่อนจะเอนหลังพิงไปกับเบาะรถและหลับตาลง
     

                พ่อฮักแม่ฮัก! จริงสิ! ฉันลืมนึกไปได้ยังไงว่าตอนจับสลากเขาบอกว่าคนที่ได้ที่นั่งข้างกันจะต้องอยู่บ้านพ่อฮักแม่ฮักหลังเดียวกันO_o!!
     

                โอ๊ย! บ้าจริง~! ความรู้สึกตอนนี้ทำไมมันเหมือนมีเอฟเฟกต์ดอกไม้บานห้อมล้อมอยู่เต็มไปหมดเลยนะ
     

    ใครจะว่าฉันแปลกก็ไม่เป็นไร...ฉันคิดว่าฉันชอบคุณมนุษย์ภาพวาด คุณผู้ชายที่มีฉายาหล่อ JPEG คนนี้แบบจริงจังเข้าให้แล้วล่ะU_U ชอบแบบฝังรากลึกแถมยังมีรากฝอยรากแขนงที่แทรกซึมไปตามสี่ห้องหัวใจจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วด้วย
     

                แหยะ~! ทำไมฉันน้ำเน่าจัง ประโยคเมื่อกี้ลืมๆมันไปเถอะนะ อายยย~ >O<
     

       
            

    เสียงเพลงบนรถบัสดังสนั่นหวั่นไหวมาได้ชั่วโมงกว่า ไฟในรถถูกปิดลงเหลือเพียงแค่แสงสลัวๆ จากหลอดไฟดวงเล็กๆ หลายคนออกไปยืนดิ้นตามจังหวะดนตรีอยู่ตรงช่องทางเดิน บางคนก็นั่งโยกเบาๆ อยู่ที่ที่นั่งของตัวเอง... มองดูแล้วน่าสนุกอ่ะ!

    ใช่..มองดู! ฟังไม่ผิดหรอก ฉันทำได้แค่มองดูคนอื่นเต้นเท่านั้นU_U

    อย่า...อย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นคุณหนูแสนสวย(?)ที่ต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเอง เลยไม่กล้าออกไปดิ้นๆ เหมือนคนอื่น จริงๆ ฉันอยากออกไปร่วมสนุกกับทุกคนมากกกกก

    แต่ประเด็นมันอยู่ที่...คุณมนุษย์ภาพวาดคนที่นั่งอยู่ข้างฉันนี่แหละ หล่อมากๆ เลย
     

    เอ่อ...ไม่ใช่สิ หลงประเด็นไปนิด เอาใหม่ๆ คือจริงๆ แล้วเป็นเพราะที่นั่งของฉันติดกับหน้าต่างรถ หลังจากที่เราสองคนทำความรู้จักกัน และยังเป็นการทำความรู้จักที่ไม่มีคำทักทายพูดสวัสดีหรือแนะนำตัวเลยสักนิด มีแต่คำพูดแทงใจดำฉันทั้งนั้นนน~

    ไม่เอาๆ พอๆ เหมือนจะหลงประเด็นไปอีกแล้ว เข้าเรื่องที่ฉันไม่ได้ออกไปร่วมโชว์สเต็ปกับคนอื่นดีกว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเพื่อความสนุก(ของฉันเอง) จะมีตัวเลือกให้ 4 ตัวเลือกก็แล้วกันว่าเพราะอะไรทำไมฉันถึงอดแดนซ์
     

    A เพราะคุณมนุษย์ภาพวาด

                B เพราะผู้ชายที่ได้ฉายาว่าหล่อ JPEG

                C เพราะหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อไทยอีสาน อเมริกัน

                D เลือกไม่ถูกเลย...ขอสามล่ะกัน (-o-)///

                ติ๊งต่อง~! หมดเวลาค่ะ เลือกคำตอบกันแล้วใช่มั้ย? งั้นเรนนี่แสนซนคนสวย(?)จะเฉลยแล้วนะคะ และคำตอบที่ถูกต้องก็คือ...เชิญเลือกตามที่สบายใจเลยคะU_U

                ก็เพราะผู้ชายในตัวเลือกทั้งสี่นั่นแหละที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันไม่ได้แดนซ์ คิดดูสิ! เสียง เพลงดังขนาดนี้เขายังหลับได้หน้าตาเฉย...เฉยแบบหล่อๆด้วยนะ ไอ้เราก็เป็นคนขี้เกรงใจไงเลยไม่อยากจะรบกวน จะปลุกเขาเพื่อขอทางออกไปเต้นยึกๆ แล้วพอเหนื่อยก็ปลุกเขาอีกครั้งเพื่อกลับเข้ามานั่ง มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องเท่าไหร่อ่ะนะ-_-;

                เพราะฉะนั้น...ฉันนั่งมองดูซึมซับเอาบรรยากาศก็ได้(ถึงใจจะไปตามจังหวะเพลงแล้วก็เถอะ) แต่ตอนนี้ชักจะเริ่มง่วงตามคนข้างๆ แล้วล่ะ ฮ้าว~ คงต้องลาไปเฝ้าพระอินทร์อีกคนzZ

     

                โป๊ก!

                งืมๆ~

                โป๊ก!

                งื้อออ~ คนจะนอนใครเอาอะไรมาโขกหัวเนี่ย_ _zZ

                โป๊ก!!

                โอ๊ย~ เจ็บอ่ะ ใครโขก? ใครเอาอะไรมาโขกหัวช้านนนนน~ TToTT

                “ยัยเบ๊อะ

                คนพูดเอ่ยออกมาเบาๆ อย่างขำๆ ฉันลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ทุกอย่างรอบตัวเงียบและมืด มีเพียงแสงไฟจากข้างทางที่รถวิ่งผ่านเท่านั้นที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างเป็นระยะๆ ใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างๆ เจือไปด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงมือที่กำลังประคองหัวฉันไปซบลงกับท่อนแขนของเขา
     

                สงสารกระจกรถกลัวเธอโขกมันจนแตก

                “.....”

                ฉันได้แต่นิ่งอึ้งไป...หรือว่ากำลังฝัน? ไม่สิ! เมื่อกี้หัวโขกกระจกยังเจ็บอยู่เลยToT

    แต่ก็เพิ่งรู้นะว่าการเอาหัวโขกกับกระจกรถบัสมันดีแบบนี้นี่เอง โขกสามทีฟรีบริการซบไหล่คุณมนุษย์ภาพวาดตลอดทั้งคืน งุ้ยยย~

                นอนต่อเถอะ

                เขาบอกฉันและไม่นานลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าอีกคนหลับไปแล้ว คงจะมีแต่ฉันคนเดียวนี่แหละที่ยังตาค้างอยู่...ให้ตายสิ! เขาจะรู้บ้างมั้ยว่าทำให้ใจฉันเต้นแรงขนาดไหน

    โอ๊ย~ ตื่นมารับผิดชอบอาการของฉันเลยนะ~ >////<


     

    เมื่อยตัวชะมัดเลย...
     

    นั่นเป็นความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้ตอนตื่นขึ้นมา
     

    ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนหกโมงกว่า ทุกคนยังคงหลับสนิท ฉันค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากไหล่คนที่หลับอยู่ข้างๆ เบาๆ พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วหน้ามันก็ร้อนแปลกๆ แถมใจก็ยังเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ แค่คุณมนุษย์ภาพวาดให้นอนซบไหล่เฉยๆ ทำไมฉันถึงได้อาการหนักขนาดนี้นะ ใจเย็นๆ เรนนี่หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ฮ้า~
     

    เดี๋ยวนะ! นอกหน้าต่างนั่นมัน...!
     

    ทุ่งนา! ทุ่งนาที่เป็นนาข้าวจริงๆ O_O!!
     

    อ๊ากกกกกก>_< อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ นี่ฉันกำลังนั่งรถผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยรวงข้าวสีเหลืองอร่ามอยู่เต็มท้องนาเลยนะ! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?
     

    ในที่สุด! ชนบทที่ใฝ่ฝันว่าจะได้ลองมาใช้ชีวิตอยู่ดูสักครั้งฉันก็ได้มาสัมผัสมันจริงๆ แล้ว โอ้เย้~ *O* ตื่นเต้นโคตรๆ ลองจินตนาการว่าตัวฉันเดินอยู่ท่ามกลางทุ่งข้าวสีทอง มีเสียงนกร้องจิ๊บๆ ลมเย็นๆ พัดเอากลิ่นธรรมชาติลอยมา อั้ยยยย~! แค่คิดก็รู้สึกดีแล้ว>o<
     

    ทำอะไรของเธอ? โคฟเวอร์เป็นจิ้งจกเกาะรถ?”
     

    ทุ่งนา~
     

    ฉันไม่สนใจคำทักทาย(?)ของคนที่เพิ่งตื่นแต่ชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถให้เขาดู คุณมนุษย์ภาพวาดทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะถามออกมาอย่างสงสัย
     

    แล้วไง อย่าบอกนะว่าเธอเป็นพวกคุณหนูไฮโซ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุป่านนี้แล้วเธอยังไม่เคยเห็นทุ่งนาจริงๆ ?”
     

    อื้อ(- -)(_ _)(- -)(_ _)(- -)
     

    ไม่อยากจะเชื่อ...
     

    เอาล่ะทุกคนครับ เรากำลังจะถึงบ้านปลาข่อนแล้วนะ ตื่นๆ มาเตรียมตัวกันได้แล้ว~
     

    ก่อนที่ฉันจะได้ชี้แจงแถลงไขอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยเห็นท้องทุ่งนาของจริง พี่ธามก็ประกาศใส่ไมโครโฟนเสียงดังไปทั่วรถ หลายคนเริ่มตื่นมาบิดขี้เกียจตรวจเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง
     

    ป้ายทางเข้าหมู่บ้านผ่านตาฉันไปอย่างรวดเร็ว อยากบอกว่าสภาวะนี้ฉันนั่งไม่ติดเลยจริงๆ ความตื่นเต้นเข้าครอบคลุมฉันอย่างเต็มรูปแบบ รถบัสวิ่งผ่านบ้านหลายหลังเข้ามาจนกระทั่งมาจอดอยู่ที่ลานกว้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน
     

    มีชาวบ้านหลายคนที่มายืนรอรับพวกเราอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ทุกคนดูตื่นเต้นไม่ต่างจากที่ฉันกำลังเป็นอยู่ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่ปรบมือแล้วชี้มาที่รถบัสกันใหญ่
     

    โอเค~! ถึงแล้ว ลงไปรวมตัวกันที่ศาลาหลังใหญ่ๆ ทางด้านขวามือก่อนนะ เราจะไปทักทายผู้ใหญ่บ้านแล้วก็ครูใหญ่กัน^_^” พี่ธามประกาศครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะค่อยๆ ทยอยลงรถ
     

    แก~!” ยัยลูกคลื่นวิ่งมาหาฉัน ดูจากอาการแล้วโดนความตื่นเต้นเล่นงานไม่ต่างจากฉันแน่ๆ ฮ่าๆ
     

    เป็นไงบ้าง เมื่อคืนโทษทีที่ไม่ได้ไลน์หาพอดีหลับก่อน
     

    ไม่เป็นไรหรอก ที่จริงเมื่อคืนฉันออกไปดิ้นกระจายแกไลน์มาฉันก็ไม่ได้ตอบเหมือนเดิม
     

    เราสองคนคุยสัพเพเหระกันนิดหน่อยก่อนจะหันไปตั้งใจฟังที่ครูใหญ่กล่าวต้อนรับและผู้ใหญ่บ้านประกาศเกี่ยวกับเรื่องพ่อฮักแม่ฮักที่เราต้องไปอาศัยอยู่ด้วย
     

    โดยแต่ละคนสามารถเดินไปหาพ่อฮักแม่ฮักที่มีป้ายหมายเลขที่จับได้ในสลากได้เลย เนื่องจากทางผู้ใหญ่ได้ให้ชาวบ้านจับสลากหมายเลขเอาไว้แล้ว เพราะกลัวว่าพวกเราเดินทางกันมาเหนื่อยๆ อาจจะอยากพักผ่อน เลยย่นระยะเวลาโดยการให้ชาวบ้านจับสลากลูกๆ ของแต่ละบ้านรอ พอพวกเรามาถึงก็จะได้พาไปอาบน้ำ พักผ่อนได้เลย

    ก่อนจะแยกย้ายกันไปบ้านพ่อฮักแม่ฮัก อย่าลืมดูปฏิทินกิจกรรมของวันนี้ด้วย ตอนหกโมงเย็นให้มารวมตัวกันที่ศาลาตรงนี้เพราะทางหมู่บ้านปลาข่อนจะเลี้ยงอาหารต้อนรับและอีกอย่างเราจะได้ทำความรู้จักกับทุกคนในหมู่บ้านมากขึ้น เข้าใจแล้วนะ!
     

    ค่า~/คร้าบ~
     

    หลังจากที่ทุกคนทราบเกี่ยวกับกิจกรรมที่ต้องทำในเย็นนี้เรียบร้อย ก็เริ่มทยอยแยกย้ายกันไปหาพ่อฮักแม่ฮักของตัวเอง ยัยลูกคลื่นถูกเพื่อนที่จับสลากได้เบอร์เดียวกันพาไปหาพ่อฮักแม่ฮักอย่างรวดเร็ว เหลือแค่ฉันที่ยืนอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายอยู่ท่ามกลางฝูงชน

    ว่าแต่...ฉันได้เบอร์อะไรนะ เดี๋ยวขอดูสลากก่อนแป๊บๆ
     

    ' ๑๓ รถคันที่ ๑ ที่นั่ง ๕เอ

    หมายเลขสิบสามสินะ อืมๆ แล้วป้ายอยู่ตรงไหนเนี่ย-_-;
     

    ยืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้...มานี่...
     

    ฉันถูกใครบางคนฉุดให้เดินตามหลังไป ร่างสูงประมาณร้อยแปดสิบห้าพาฉันเดินฝ่าสายตานับสิบคู่ที่มองมาอย่างอึ้งๆ
     

    โอ๊ย~! อยากจะบ้าจริงๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอด~
     

    อาการโรคภูมิต้านทานคุณมนุษย์ภาพวาดบกพร่องของฉันกำลังกำเริบอีกแล้ว ทำไมชอบทำให้ใจฉันสั่นอยู่เรื่อย...เนี่ย...มันสั่นเป็นชื่อ ภาพวาดๆ ไปแล้วเหอะ>_<
     

    พ่อครับ แม่ครับ นี่ลูกสาวอีกคนครับ
     

    ระหว่างที่สติของฉันกำลังหลุดลอยไป คุณมนุษย์ภาพวาดก็ดันหลังฉันให้ออกไปข้างหน้าพร้อมแนะนำฉันกับผู้ชายและผู้หญิงอายุราวๆ สี่สิบปลายๆ ที่ยืนส่งยิ้มมาให้อย่างเอ็นดู ฉันรีบยกมือไหว้อย่างรวดเร็วพร้อมกับกล่าวคำทักทายและแนะนำตัว
     

    สวัสดีค่ะ หนูชื่อเรนนี่ สิบวันนี้ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ^_^
     

    โอ๊ย! ไม่รบกวนเลยลูกหล่าเอ๊ย พ่อกับแม่ดีใจ หลายๆ ยินดีต้อนรับๆ พ่อซื่อเติมนะส่วนแม่ซื่อแก้ว
     

    (แปล: โอ๊ย! ไม่รบกวนเลยจ้ะลูกสาว พ่อกับแม่ดีใจมากๆ เลย ยินดีต้อนรับๆ พ่อชื่อเติมนะส่วนแม่ชื่อแก้ว)
     

    พ่อเติมบอกฉันยิ้มๆ พร้อมกับคำพูดภาษากลางคำและก็ภาษาอีสานคำจน ฉันต้องอมยิ้มไปกับความน่ารักของคุณพ่อฮักที่ต้องการจะสื่อสารให้ฉันเข้าใจ
     

    ถ่าพ่อบ่ถนัดเว้าไทยเว้าอิสานกะได่คับเดี๋ยวผมแปลไห่หน้องฟังเอง
     

    (แปล : ถ้าพ่อไม่ถนัดจะพูดภาษากลางพูดภาษาอีสานก็ได้ครับเดี๋ยวผมแปลให้น้องฟังเอง)
     

    ภาษาอีสานยาวเป็นขบวนที่ฉันไม่สามารถฟังรู้เรื่องหลุดออกมาจากปากคนที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยิน เอ่อ...ก็รู้นะว่าเขาเป็นลูกครึ่งไทยอีสาน อเมริกันแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดได้ดี นี่มันเหนือความคาดหมายมากกกกกกก-o-!
     

    บ่เป็นหยังๆ พ่ออยากจะเว้าภาษาไทยจะได่เข้าใจกันง่ายๆ
     

    (แปล : ไม่เป็นไรๆ พ่ออยากจะพูดภาษากลางจะได้เข้าใจกันง่ายๆ)
     

    แม่ว่ากลับไปคุยกันอยู่เฮือนดีกว่าเนาะ จะได้อาบน้ำอาบท่ากินเข่าด้วย
     

    (แปล : แม่ว่ากลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่า จะได้อาบน้ำอาบท่ากินข้าวด้วย)
     

    ครับ
     

    พ่อเติมกับแม่แก้วพาเราเดินมายังข้างๆ ศาลาที่มีจักรยานสองคันจอดอยู่ พ่อเติมท่านหันไปบอกคุณมนุษย์ภาพวาดเป็นภาษาอีสานก่อนจะซ้อนท้ายแม่แก้วแล้วถีบจักรยานออกไป
     

    พวกท่านบอกว่าอะไรเหรอคะ
     

    บอกให้ขับจักรยานตามไปน่ะเขาบอกฉันก่อนจะตบลงที่เบาะนั่งเป็นสัญญาณบอกให้ฉันขึ้นนั่ง
     

    ทั้งสองคนน่ารักอ่ะ พยายามพูดภาษากลางแทนภาษาอีสานเพื่อให้เรนนี่เข้าใจด้วย ว่าแต่...เพิ่งรู้นะว่าพี่พูดภาษาอีสานคล่องมาก
     

    ก็ฉันเป็นคนอีสานก็ต้องพูดอีสานได้มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว...จริงๆตอนแรกฉันบอกพ่อเติมให้พูดอีสานนะแล้วฉันจะแปลให้เธอฟังแต่ท่านก็บอกไม่เป็นไรอยากจะพูดภาษาที่เธอฟังเข้าใจมากกว่า
     

    น่ารักจัง>_<
     

    ใช่มั้ยล่ะ
     

    คุณมนุษย์ภาพวาดพูดพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะเร่งถีบจักรยานตามหลังพ่อเติมกับแม่แก้วไปให้ทัน


     

     

    หลังจากที่ปั่นจักรยานมาถึงจุดหมาย เราสองคนก็แยกย้ายกันไปจัดการธุระส่วนตัว และพออาบน้ำเสร็จฉันออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่แคร่ไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างๆ ตัวบ้าน บ้านของพ่อเติมกับแม่แก้วเป็นบ้านสองชั้นใต้ถุนโล่ง รอบๆ บ้านปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาอยู่สามต้นและล้อมด้วยไม้ไผ่เป็นรั้วกั้น หน้าบ้านเป็นถนนและพอข้ามถนนไปจะเจอคลองเล็กๆ เห็นแม่แก้วบอกว่าตอนบ่ายจะมีเด็กๆ มาเล่นน้ำกันเยอะแยะเลย
     

    วันแรกในการทดลองมาศึกษาชีวิตชนบทกับค่ายอาสาฉันรู้สึกได้เลยว่าคนที่นี่น่ารักมาก แม้จะพูดภาษากลางได้ไม่ค่อยดีแต่ทุกคนก็พยายามสื่อสารออกมา และที่สำคัญที่นี่อากาศดีมากๆ ไม่มีฝุ่น ควันรถหรือมลพิษใดๆ เลย ดีใจจริงๆ ที่ได้มาค่ายครั้งนี้ เวลาที่เหลืออีกเก้าวันฉันจะต้องเก็บเกี่ยวเอาชีวิตในชนบทมาไว้ให้ได้มากที่สุดเลย!
     

    นั่งเพ้ออะไรคนเดียว
     

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร...ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่ตอนนี้อาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับฉัน แอร๊ย~ อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ฟังดูเขินชะมัด>////<
     

    เปล่าเพ้อ แค่ซึบซับเอาบรรยากาศดีๆ แล้วมันมีความสุข~
     

    เธอนี่ก็แปลกดีนะ
     

    แปลก?
     

    เป็นลูกคุณหนูที่ไม่ค่อยจะเหมือนคุณหนู...นิสัยก็พิลึก
     

    ตั้งแต่ที่เจอกันมาจนถึงตอนนี้...ฉันมีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กับคุณมนุษย์ภาพวาดตลอด แต่รู้สึกฉันจะดูไม่ค่อยปกติในสายตาเขาเท่าไหร่เลย อืมนะ นี่ฉันควรจะต้องดีใจหรือเสียใจดี-_-;;
     

    เรนนี่จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะคะ
     

    เธอ...มีชื่ออื่นอีกไหมนอกจากเรนนี่
     

    ไม่ค่ะ ทำไมเหรอคะ? ชื่อเรนนี่เรียกยาก? หรือฝังใจอะไร?”
     

    คงไม่ใช่ว่าแฟนเก่าชื่อเรนนี่เลยไม่อยากจะได้ยินชื่อนี้อะไรทำนองนั้นหรอกนะ-[]-!
     

    เปล่า แค่ไม่ชอบเวลาฝนตก ชื่อเธอมันฟังดูเปียกเฉอะแฉะเกินไป
     

    เดี๋ยวนะๆ ไม่อยากเรียกชื่อฉันเพราะมันฟังดูเปียกเฉอะแฉะ? เอาตรงๆเลยนะ ฉันว่า...แปลกกว่าเรนนี่ก็คุณมนุษย์ภาพวาดนี่แหละค่ะ!
     

    เดี๋ยวฉันคิดชื่อเรียกเธอโดยเฉพาะดีกว่า อืม~
     

    เหมือนมีพลังงานบางอย่างบอกกับฉันว่า...ชื่อที่คุณมนุษย์ภาพวาดกำลังคิดให้มันอาจจะ....
     

    แหล่
     

    นั่นไง...ชื่อประหลาดจริงๆด้วย
     

    เธอรู้ไหมว่ามันมีความหมายว่ายังไง
     

    ฉันไม่ขอรู้จะได้มั้ยU_U
     

    แหล่ ในภาษาอีสานอ่ะนะมันแปลว่าม่วงๆ เขียวๆ คล้ำๆ เหมาะกับเธอเลย! ดำ! คล้ำ! ฮ่าๆๆ
     

    เอากับเขาสิ! นี่มีความสุขมากใช่ไหมเวลาที่ได้ล้อเรื่องสีผิวของฉันเนี่ย จริงๆฉันก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ตัวเองผิวแทนหรอกนะ ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ...ดูอย่างเมญ๋าคนที่ได้มิสไทยแลนด์เว่อร์คนนั้นสิ เธอยังผิวคล้ำเลย สวยคมเข้มแบบนี้แหละที่เขาเรียกสวยอย่างไทย~
     

    แต่ก็แบบว่านะ...เข้าใจอารมณ์เวลาคนที่เราแอบชอบมาล้อเราป่ะ คือความมั่นจงมั่นใจนี่หายหม๊ด!! TT^TT
     

    เอางี้ดีกว่าเรียกแหล่มันดูห้วนๆไปงั้นเติมน้องเข้าไปดีกว่า...น้องแหล่ ฟังดูน่ารักดี~
     

    นะ น่ารักดี-////-
     

    เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนฉันจะยอมแทนตัวเองว่าพี่แล้วก็เรียกเธอว่าน้องแหล่แล้วกันนะ^_^
     

    ค่ะ~
     

    โอ๊ยยย~! ฉันควรจะทำยังไงกับตัวเองดีนะ ฉันมันบ้า...บ้ามากๆด้วยเหอะ แค่คำพูดว่า น่ารักดีของเขากับการเรียกแทนตัวเองว่าพี่ก็ทำเอาฉันยอมรับชื่อประหลาดๆนั่น

     

    ยัยเรนนี่ยัยบ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย>o<!!!




     




     




                TBC.


    。SYDNEY♔
    Free Lines Arrow
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×