คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [ From ] ,, ใบสมัครนางเอกเทมป์
ใบสมัครนางเอก ซึงฮยอน / เอเรส
((อย่าเปลี่ยนสีใบสมัครนะคะ แล้วคำตอบขอเป็นตัวบาง สีดำ ค่ะ))
*Note :: เขียนใบสมัครไปพร้อมกับเปิดดูหน้าพล็อต คาแรคเตอร์ ชาย , หญิง ด้วยจะดีมากเลยนะคะ
********************************************
คำถามส่วนที่ 1
ชื่อเกาหลี (( ขอมีความหมาย ใช้แซ่เดียวกับปู่ )) :: ฮัน กงจู (กงจู เจ้าหญิง) [เจ้าหญิงน้อย เอเรสเรียกในบางที]
ชื่ออังกฤษ (( ต้องมี นามสกุลเดียวกันกับปู่! )) :: เอสเทอร์ เอ คลีนลาส (Esther ดวงดาว) [ส่วนใหญ่แล้วเอเรสจะเรียกชื่อ เอสเทอร์มากกว่า เพราะว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษมาตั้งแต่เด็ก และคุ้นเคยกับภาษาที่นี่มากกว่า ]
อายุ (( 20 21 ปี )) :: 20
เชื้อชาติ (( ดูในคาแรคเตอร์ปู่ )) :: อังกฤษ เกาหลี
สัญชาติ (( คุณไปเกิดที่ไหนก็จะได้สัญชาติประเทศนั้นมา )) :: อังกฤษ
ลักษณะภายนอก (( รูปร่าง หน้าตา อะไรก็ตามที่บ่งบอกความเป็นตัวของคุณ )) :: ใบหน้าสีขาวใสของเธอมักถูกแต้มด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เมื่อใครเห็นก็รู้สึกหลงรัก ดวงตาสีดำสนิทของเธอดูใสซื่อ และอ่อนต่อโลก ทรงผมของเธอถูกปรับไปตามความชอบของพี่ชาย (ปกติพี่พาเข้าร้านเสริมสวย) เธอมีรูปร่างบอบบางน่าปกป้อง บางทีถ้ามองเธอจากไกลๆ อาจสับสนเธอกับตุ๊กตาเจ้าหญิงในเทพนิยายก็เป็นได้
ลักษณะนิสัย (( ขอ 5 12 บรรทัดไม่เกินนี้ เยอะกว่านี้ไม่อ่าน! )) :: ตั้งแต่เกิดมาเธอก็พบกับการเอาอกเอาใจ เห็นก็แต่ภาพสิ่งแวดล้อมที่แสนสุข เธอจึงกลายเป็นเหมือนเจ้าหญิงของทุกๆคน อ่อนโยน มีน้ำใจเอื้อเฟื้อให้คนอื่น ร่าเริงสดใส เข้ากับคนอื่นง่าย เพียงแต่เธอไม่ค่อยได้ยุ่งกับผู้ชายสักเท่าไรนัก เมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่เธอก็เรียนโรงเรียนสตรี เธอจึงหวั่นไหวกับพี่ชายคนเดียวของเธอ ซึ่งมักจะคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอ เธอไม่เคยเข้าใจถึงความเจ็บปวดทรมาน เธอแทบไม่เคยพบกับความเสียใจ เวลาที่เธอเห็นเรื่องแย่ๆจึงค่อนข้างเซนซิทีฟกว่าคนอื่น ถึงแม้ว่าเธอจะยิ้มเก่ง แต่เธอก็ร้องไห้เก่งด้วยเหมือนกัน บางครั้งก็ขี้งอนแบบไร้สาเหตุ เพราะต้องการให้คนอื่นมาสนใจ ใฝ่เฝ้าว่าในอนาคตจะมีชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมมาแต่งงานด้วย เหมือนในเทพนิยาย เธอเรียนดีมาตลอด แต่กลับไม่มีเซ้นต์เรื่องความรักเลย เธอไม่เคยรู้ว่าใครเข้ามาจีบ หรือการกระทำแบบนี้มันไม่ใช่เพื่อนนะ พี่ชายสุดหล่อของเธอจึงต้องคอยตามติดเธออยู่เสมอ (ได้ข่าวว่าพี่ชายนี่แหละ ที่คิดไม่ซื่อ)
ความสามารถพิเศษ (( ขอให้เข้ากับนิสัย )) :: เล่นเปียโน ร้องเพลง ทำขนม วาดภาพ
ครอบครัว (( ดูในคาแรคเตอร์หญิงหรือพล็อต ฯลฯ )) :: มีครอบครัวเพียบพร้อม มั้งพ่อแม่ที่ดูแลเอาใจใส่ ฐานะทางบ้านอยู่ในขั้นเศรษฐี และยังมีพี่ชายที่รักทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน เธอจึงโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดีไม่มีที่ติเลยดีเดียว
ประวัติความรัก (( ดูในคาแรคเตอร์หญิงหรือพล็อต ฯลฯ )) :: เธอเคยมีคนรักคนหนึ่ง และดูเหมือนว่ามันจะดำเนินไปด้วยดี แล้วอยู่ๆวันนึงเธอก็ได้ข่าวจากทางบ้านของเขา ว่าเขาตายแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา
สิ่งที่ชอบ :: ดอกทานตะวัน พระอาทิตย์ยามเช้า ของน่ารักๆ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
สิ่งที่ไม่ชอบ :: ห้องรก อาหารรสขม หนังสยองขวัญ ใบหน้าบึ่งตึงของพี่ชาย
เกลียด :: แมลงสาป การอยู่คนเดียว
อื่นๆ :: เธอเป็นคนเลือกกิน แถมยังชอบนอนละเมอ ลุกขึ้นมาตอนกลางดึกอยู่เรื่อย พ่อกับแม่ก็เลยอนุญาตให้พี่ชายผู้แสนดี คอยดูแลเธอตลอด 24 ชั่วโมง สรุปคือพี่ชายน้องสาวนอนห้องเดียวกัน แต่คนละเตียง (จริงๆท๊อปเขาก็มีห้องของตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากอยู่กับน้องสุดที่รัก)
เจ้าของอิมเมจ (( ชื่อของอิมเมจคุณ )) :: Tiffany - SNSD
อิมเมจ ((ถ้ามีเก็บเป็นGalleryในเด็กดี ขอลิ้งค์Galleryนะคะ ถ้าไม่มีเก็บไว้ขอเป็น 3 ภาพขึ้น )) ::
http://image.dek-d.com/18/950834/15050782
http://image.dek-d.com/18/950834/15050781
http://image.dek-d.com/18/950834/15050780
http://image.dek-d.com/18/950834/15050779
http://image.dek-d.com/18/950834/15050778
คำถามส่วนที่ 2 คำถามทั่วไป
ชื่อผู้สมัคร / อายุ :: น้ำหวาน/ 17
ติดแล้วหายพระเอกของคุณกลายเป็นของไรเตอร์แล้วตัวละครคุณตาย โอเคนะ? :: ค่า รับทราบ
ประกาศผล 3 วันไม่มา ไม่แจ้งไว้ก่อน ไรเตอร์เปลี่ยนคนนะคะ โอเคนะ? :: ได้เลยค่ะ
บทสำรอง ((อยากแรดต่อกับไรเตอร์ก็บอกเลยว่าจะเอาไร ถ้าไม่เอาก็บอกไม่เอา)) :: ไม่เอาค่ะ (คือชอบพล๊อตย่อยนี้มากๆ)
พล็อตเรื่อง คาแรคเตอร์ พระเอก ถูกใจหรือเปล่า? :: ชอบพล๊อตเรื่องความรักระหว่างพี่น้องมากๆ คาแลคเตอร์พระเอกก็.....แนวยากูซ่าดีค่ะ (ท๊อปเขาบึ่กมากๆ>///<) ถูกใจแน่นอนอยู่แล้วค่ะ
ไรเตอร์ไม่โหด แต่อย่าลองของ =.,= ฉะนั้น ติดอย่าหาย! :: ฮับผม ไม่โหดแต่เหี้ยมใช่มั้ยล่ะ (วอนตายแล้วเรา)
คำถามส่วนที่ 3 คำถามชิงปู่!
1. วันหนึ่งคุณทราบข่าวมาจากบ้านของแฟนคุณ ว่าเขาตายแล้ว คุณรู้สึกเสียใจมาก ไม่เป็นอันทำอะไร และด้วยความที่ไม่มีที่พึ่ง เลยไประบายกับซึงฮยอน พี่ชายของคุณ พร้อมกับร้องไห้ออกมา พอซึงฮยอนเห็นคุณร้องไห้ เขาจึงดึงคุณเข้ามาปลอบ แต่ว่าคุณดันใจเต้นกับเขา คุณจะทำยังไงกับตัวเองดี? ระหว่าง กอดต่อไป หรือ ผละออก (( 5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่ตอนโทรศัพท์มายันตอนซึงฮยอนกอดคุณ))
- /มาร์ท ชื่อสมมติของแฟนเอสเทอร์ค่ะ/
“คุณหนูคะ มีคนโทรศัพท์มาหาคุณหนูน่ะค่ะ”คุณหัวหน้าแม่บ้านตะโกนขึ้นมาบอกฉันขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปหาพี่เอเรสที่ห้อง
“บอกเขาว่ารอสักครู่นะคะ คุณป้า”ฉันส่งยิ้มให้คุณแม่บ้าน ก่อนจะร้องบอกพี่ชายตรงหน้าประตูห้องว่า “พี่คะ หนูขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
ฉันยังไม่ทันจะหันหลังกลับไปพี่เอเรสก็เปิดประตูออกมา วันนี้แววตาของพี่ดูแปลกๆ......แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่มีเรื่องอะไรในใจ
“พี่ไปเป็นเพื่อนนะ”ฉันมองพี่ชายงงๆ แต่ก็เลือกที่จะยิ้มรับ แล้วจึงวิ่งลงบันไดไปรับโทรศัพท์มาจากคุณป้า “ค่ะ เอสเทอร์เองค่ะ.....อ๋อ คุณน้าเองหรือคะ...................มาร์ท....เป็นอะไรนะคะ!!!!.....มะ....ไม่จริง.....แกร๊ง!!”มือของฉันสั่นจนเผลอปล่อยโทรศัพท์หล่นลงไปบนพื้นหินอ่อน ดวงตาเบิกกว้าง ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดอยู่กับที่.............ทำไม....ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ถึงตอนนี้ฉันก็ยังยืนอยู่ในท่าเดิมกับตอนแรกที่รับโทรศัพท์ ฉันรู้วึกว่าตัวเองกำลังสั่น สั่นเพราะความเสียใจที่ประเดประดังกันเข้ามา
.......มาร์ท.....ตายแล้วจะ.......เอสเทอร์...........
เสียงของคุณแม่ของมาร์ทยังคงดังก้องอยู่ในหูของฉัน น้ำตาจากไหนมากมายก็ไม่รู้ไหลลงอาบแก้มของฉันโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง...........เขายังบอกว่าวันนี้......จะมารับฉันไปกินอาหารเย็นอยู่เลย.........
“เอสเทอร์”เสียงที่แสนจะอ่อนโยนของพี่ดังมาจากข้างหลัง มันเรียกให้ฉันหันไป แล้วพี่ก็ดึงฉันเข้าไปกอดปลอบ พร้อมทั้งบอกกับฉันว่า “ไม่เป็นไรนะ พี่จะอยู่ข้างเธอเอง”
แทนที่ฉันจะร้องไห้หนักขึ้น ฉันกลับรู้สึกถึงบางอย่างนอกจากความเสียใจที่ประสบอยู่ตอนนี้............หัวใจฉัน....กำลังเต้นแรง....เพราะพี่น่ะเหรอ?!..............ทำไมล่ะ?.......
“ผลั่ก!”ฉันผลักพี่ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกในตอนนั้นคือตกใจ และทำอะไรไม่ถูก ฉันกลัวตัวเอง.......ถึงฉันจะชอบชมว่าพี่ชายคนนี้หน้าตาดี........แต่ว่า.....มีน้องสาวคนไหนหัวใจเต้น......กับพี่ชายกันบ้างนะ.......... “ขะ....ขอโทษค่ะ......พี่เทมป์......หนู..........อ๊ะ!”
“เอสเทอร์ เธอแน่ใจนะว่าไม่เป็นไร”คราวนี้แขนของพี่รัดแน่นขึ้นกว่าเดิมราวกับจะบอกกลายๆกับว่าอย่าผลักไสเขาอีก
และถึงฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น...........แต่ฉันก็รู้สึกสบายใจอย่างประหลาดในอ้อมกอดนั้น
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ.....พี่ชาย”ฉันบอกพร้อมกับซุกหน้าลงในอ้อมแขนแกร่ง
อยากให้พี่กอดไปนานๆจังเลย.......ฉันรู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับพี่.....ราวกับว่าเรื่องร้ายๆทุกอย่างเป็นเพียงฝันไปเลย..........
2. คุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเข้าใกล้พี่ชายสุดหล่อเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการประหม่ามากขึ้นเท่านั้น มิหนำซ้ำซึงฮยอนยังชอบหยอก ชอบล้อคุณบ่อยๆ ว่าชอบเขาบ้างล่ะ รักเขาบ้างล่ะ เจอเข้าไปแบบนี้คุณยิ่งหวั่นไหว จนกระทั่งวันหนึ่งซึงฮยอนเดินมาแกล้งคุณอีกโดยการบอกว่า ‘รักพี่บ้างรึยังเนี่ย?’ ด้วยความอายคุณเลยเผลอตวาดไล่ให้ซึงฮยอนไปไกลๆ แต่ซึงฮยอนมันซื่อบื้อ (ฉลาดน้อยไง-*-) คิดว่าคุณน่ะเกลียดเขาเข้าแล้วเลยหายหัวไปไม่กลับบ้าน 3 คืน 4 วัน จึงกลับมาแถมมาทำเหมือนไม่รู้จักกับคุณอีก คุณรู้ว่าพี่ชายคนนี้งอนคุณแล้ว คุณจะง้อเขายังไง? (( 5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่ตอนปู่เดินเข้ามามาหยอกคุณ โดนคุณไล่ ยันคุณง้อปู่ ))
- “เอสเทอร์ ทำขนมอยู่เหรอ?”ฉันรีบหันไปหาเจ้าของเสียงนุ่มนั่นทันที เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ตามที่คิดก็ฉีกยิ้มออกมาในทันที “ยินดีต้อบรับกลับค่ะพี่ ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะคะ”
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตขาวทำเป็นหูทวนลม ก่อนจะเดินเข้ามามองผลงานของน้องสาวด้วยท่าทางสนอกสนใจ “เธอทำให้พี่กินใช่มั้ย? เธอนี่น่ารักจริงๆนะ”
ฉันขมวดคิ้วเป็นโบว์แล้วหันไปหาพี่ด้วยสีหน้าแดงเรื่อ “พี่พูดอะไรคะเนี่ย......น่ารักตรงไหนกัน.....”
“อ๊ะๆ หน้าแดงด้วย”พี่เดินเข้ามาจิ้มแก้มฉันเบาๆ แต่จู่ๆพี่ก็พูดทะลุกลางปล่องขึ้นมาว่า “เธอเริ่มรักพี่บ้างหรือยังล่ะ หืม?”
เมื่อได้ฟังคำถามนี้ฉันถึงกับทำที่ตีไข่ตกลงลงไปในถ้วย ไม่อยากจะเชื่อเลย......นี่....พี่เขาพูดอะไรออกมาเนี่ย..........
“พะ...พูดอะไรของพี่น่ะ...........”ฉันรู้สึกรนลานไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงด้วยซ้ำ หัวใจมันเต้นจนแทบจะกระเด้งออกมาทางปาก........ฉัน....หน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย! “ไปเลยค่ะ ออกไปเลย หนูไม่มีอารมณ์จะทำขนมเพราะพี่เนี่ยแหละ”
“แต่....เอสเทอร์”เขาทำหน้าจ๋อยทันทีที่ได้ฟังฉันออกปากไล่แบบนั้น แต่ตอนนี้ฉันไม่สนอะไรทั้งสิ้นแล้ว
“พี่คะ......กรุณา-ออก-ไป-ด้วย-ค่ะ”ฉันเน้นย้ำลงไปอีกที ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำขนมโดยไม่หันไปสนใจพี่เอเรสอีกเลย พอหันมาอีกทีก็เห็นว่าพี่ออกจากห้องไปแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกผิดเล็กๆเหมือนกัน.....แต่ว่า..........พี่ก็เล่นมากเกินไปนี่นา-////-
4 วันต่อมา
“ก๊อกๆๆ” “พี่คะ!” ฉันพุ่งพรวดออกไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องรู้สึกผิดหวัง เพราะคนที่มาเป็นเพียงแม่บ้านที่มาทำความสะอาดห้องเท่านั้น พี่ชายหายไปตั้งแต่วันนั้น.......นี่ก็ตั้ง 4 วันมาแล้ว ไม่รู้ว่าไปทำอะไรอยู่
“คุณหนูคะ กำลังหาคุณชายเอเรสอยู่หรือคะ”ฉันพยักหน้าเศร้าๆ แล้วทำท่าว่าจะเดินกลับเข้าไปข้างใน แต่ในตอนนั้นเองที่ได้รับข่าวสารที่ฉันกำลังตั้งหน้าตั้งตาคอย “คุณชายกลับมาแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ออกมาจากห้องเลย”
ฉันไม่ได้บอกขอบคุณ คุณแม่บ้านด้วยซ้ำ เพราะฉันออกวิ่งไปยังห้องของพี่ก่อนที่สมองฉันจะประมวลผลเสร็จเสียอีก ฉันเป็นห่วงพี่ คิดถึง.........แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงไม่มาที่ห้องฉันอย่างทุกที
“พี่ชาย กลับมาแล้วเหรอคะ”ฉันเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องพี่ แล้วก็ต้องพบกับสภาพพี่ชายที่ดูเหมือนไร้วิญญาณก็ไม่ปาน นั่งเท้าคางอยู่บนโซฟาแบบหมดอาลัยตายอยาก “พี่คะ เป็นอะไรไปคะ”
พี่เหลือบตามองฉันเพียงเล็กน้อย ก่อนจะกลับเข้าไปสู่ผวังของตัวเองอีกรอบ และไม่ว่าฉันจะพยายามชวนคุยยังไงพี่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เมินหน้าหนีทุกคราวไป
“พี่เอเรส!!!”ฉันเริ่มเหนื่อยที่จะเดินไปเดินมา ก็เลยเดินเข้าไปจับหน้าพี่ให้เลิกหันหนีสักที เป็นผมให้พี่ชายที่ถูกขนานนามว่าเป็นปีศาจในวงการธุรกิจทำหน้าเหมือนเวลาเด็กที่กำลังงอนเข้าขั้นหนัก “พี่โกรธหนูเรื่องอะไรล่ะคะ”
“ก็........”เขาพยายามจะหันหน้าหนีให้ได้ “เธอ......เกลียดพี่แล้วนี่....”
“เกลียดพี่?”ฉันทวนคำถามงงๆ นึกไม่ออกว่าไปบอกว่าเกลียดพี่ชายคนนี้ตอนไหน
พี่ชายผู้ควรจะน่ายำเกรงของฉันเริ่มบ่นงึมงำๆต่อ “ก็เธอไล่พี่.....”
กรุณา-ออก-ไป-ด่วย-ค่ะ อ๋อ.........จำได้แล้ว
“หนูคิดว่าพี่คงงอนมากจนไม่ทันสังเกต”ฉันอมยิ้ม ขณะเดินเข้าไปหยิบเค้กช๊อกโกแล๊ตก้อนไม่ใหญ่มากนักออกมาจกาตู้เย็นในห้องของพี่ชาย “หนูตั้งใจ.......ทำให้พี่กินตั้งแต่เมื่อ 4 วันก่อน แต่พี่น่ะงอนไม่เข้าเรื่อง”
“พะ....พี่งอนไม่เข้าเรื่องตรง------” “ก็ทุกตรงนั่นล่ะค่ะ พี่รู้มั้ยว่าหายไปตั้ง 4 วันทำให้หนูเป็นห่วงแค่ไหนน่ะ” ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าความรู้สึกเป็นห่วงมันเอ่อล้มออกมาอย่าเสียไม่ได้ ฉันเป็นห่วงพี่มาก ห่วงมากจริงๆ
พี่เอเรสค่อยๆมองฉันด้วยสายตาที่อ่อนลง พี่รับจานเค้กไปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะดึงมือฉันมาบีบไว้เบาๆ “พี่....ขอโทษ พี่คิดว่าเธอไม่อยากเจอหน้าพี่แล้ว”
“ไม่เอาแล้วนะคะ”ฉันบอกกับพี่อย่างจริงจังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่ความจริงฉันอยากจะยิ้มออกมาแท้ๆ “คราวหน้าไม่ว่าจะโกรธยังไง ก็อย่าหายไปแบบนี้นะคะ”
“เอสเทอร์......”น้ำเสียงของพี่กลับมาอ่อนโยนเหมือนอย่างเคย พี่ดึงฉันเข้าไปกอดไว้เล่นเอาตกใจอยู่เหมือนกัน........แต่ว่า......
“จุ๊บ”ฉันก้มเข้าไปหอมแก้มพี่ 1 ที ก่อนจะรีบผละออกมา “เร็วค่ะ รีบกินเค้กเร็ว ค้างมาตั้ง 3 วันแล้วนะคะ”
พี่ทำหน้าเอ๋ออยู่ครู่นึง (จริงๆเขาเรียกเคลิ้ม) กว่าจะได้สติอีกครั้ง “ได้ครับ จะกินให้หมดเลย”
“ค่ะ” ฉัน.....รู้สึกดีใจจัง........ที่มีพี่อยู่ข้างๆแบบนี้
เราจะอยู่ด้วยกัน......ตอลดไปใช่มั้ยคะ?
3. ยิ่งนานไปคุณก็ยิ่งไม่ไว้ใจตัวเองจึงตัดสินใจ ไปถามจากซึงฮยอนว่าที่ผ่านมา ที่ซึงฮยอนพูดออกมาคิดยังไงกับคุณกันแน่ แล้วคำตอบที่คุณได้รับก็คือ ‘พี่รักเธอไง.. ไม่ใช่แบบน้องสาวแต่เป็นแบบคนรัก!’ ซึ่งมันทำให้คุณอึ้งมาก คุณจะทำยังไงดี? (( 5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่ตอนคุณคิดกังวล ยันถามปู่จนถึงได้รับคำตอบ อย่าลืมนางเอกสับสน -*- ))
- ตอนนี้ฉันนั่งมองบลูเบอรี่ชีสเค้กที่ทำมาเป็นเวลาราวๆครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าควรจะทำตัวยังไงในเมื่อความคิดของฉันมีก็แต่คำพูดของพี่เอเรส
เธอรักพี่บ้างหรือยัง?^ ^
เอสเทอร์ วันนี้เธอสวยมากเลยนะ
น่ารักแบบนี้ พี่จะยกเธอให้คนอื่นได้ยังไง
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะมันยังไม่หมดแค่นั้น เท่าที่ฉันจำได้มันยังมีตอนนั้นอีก พี่คะ แล้วพี่มีคนที่ชอบบ้างหรือยังล่ะคะ
จะมีใครได้ล่ะเอสเทอร์ ในใจพี่ก็มีเธอคนเดียว
บอกได้เลยว่าฉันไม่รู้ว่าพี่คิดยังไง แต่ทุกคำที่พี่บอกฉันมันทำให้ฉันหัวใจเต้นระรัว หน้าแดงไปหมดโดยไม่รู้สาเหตุ แล้วยัเรื่องที่ชอบมากอด มาจับมือ ดีไม่ดีจะหอมแก้มฉันด้วย..........พี่เขาคิดว่าฉันเป็นตัวอะไรกัน
พี่เขาคิดว่า......เล่นแบบนี้มันสนุกนักหรือไง
“ไม่ได้แล้ว จะต้องไปคุยให้รู้เรื่อง”ถ้าไม่รีบคุยตอนนี้ฉันต้องเป็นบ้าตายแน่ ฉันรักพี่มาก......แต่ว่า..........ตอนนี้ฉันเริ่มไม่รู้แล้ว....ว่าอันไหนคือความรักที่ถูก และอะไรคือความรักที่ผิดกัน
เพราะพี่เอเรสคนเดียว-///3///-
************************************************************************************************
ที่ห้องของท๊อป
“พี่เอเรส หนูต้องคุยกับพี่”ฉันเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะการทำงานอันคร่ำเครงของพี่ชาย นั่นทำให้ฉันรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าไม่รีบคุยเรื่องนี้ ฉันอาจประสาทกินก็ได้
“อะไรเหรอ เอสเทอร์ หรือว่า......”ไม่ทันที่ฉันจะบอกให้พี่หยุด เขาก็เล่นประโยคความหมายกำกวมมาตามคาด “เธอคิดถึงพี่?”
นี่มัน..........จะมากไปแล้วนะ “พี่คะ หนูอยากรู้ว่าพี่คิดยังไงกับหนูกันแน่ เลิกพูดคำกำกวมหาความหมายไม่ได้ตายตัวแบบนี้สักทีเถอะค่ะ พี่ทำหนูสับสนไปหมดแล้ว”
พอบอกความในใจออกไปทั้งหมดวินาทีแรกก็รู้สึกโล่งอกอยู่หรอกนะ แต่ว่า......ตอนนี้รู้สึกเครียดขึ้นมาทันควัน ไม่คิดเลยว่าคนอย่างฉัน จะรู้สึกอึดอัดอยากระบายถึงขั้นนี้
ฉันแอบชำเลืองมองหน้าพี่ชาย ซึ่งบัดนี้ดูไม่ได้ขี้เล่นอย่างเคย เหมือนพี่จะจริงจังขึ้นมายังไงก็ไม่รู้......นี่ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่านะ
“เธออยากรู้?”เขาถามย้ำอีกหน ราวกับจะย้ำว่าคำที่จะพูดต่อไปมันจริงจังมากนะ
แต่ฉันก็ตอบได้แบบไม่ต้องคิดว่า “ค่ะ”
“เฮ้อ”พี่เอเรสถอนหายใจ แล้วจึงตั้งต้นพูดเรื่องที่ทำให้ฉันต้องช๊อกค้างเกือบ 5 นาที “พี่รักเธอไง...ไม่ใช่แบบน้องสาว แต่เป็นแบบคนรัก”
“............”ฉันรู้สึกว่าตัวเองนิ่งไปนานมาก ฉันมองหน้าพี่ สลับกับคำพูด กับการกระทำของพี่ชาย และของตัวฉัน
ถึงทุกครั้งเวลาพี่ชายเข้ามาจะดูเหมือนเล่นด้วย แต่บางทีฉันก็รู้สึกใจเต้นไปด้วย
ถึงเวลาพี่พูดคำแปลกๆ เหมือนมีความนัยแฝง แต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะถาม
ถึงพี่จะมาหาฉันบ่อยครั้งจนใครๆรู้สึกได้ ฉันเองก็รู้สึกเช่นกัน แต่ฉันก็พอใจที่จะเป็นแบบนั้น
และฉันก็เสียใจเสมอ.......เวลาที่พี่สนใจอย่างอื่นมากกว่าฉัน................ฉันเคยคิดด้วยว่า ทำไมพี่ไม่สนใจฉันคนเดียว
นี่หรือว่า.........ฉันเอง..........ก็.............
“เอสเทอร์ แล้วเธอล่ะ คิดยังไงกับพี่”พี่เอเรสเดินเข้ามาจับแขนทั้ง 2 ข้างของฉัน ไม่ใช่ทีเล่นทีจริงแบบทุกที ฉันรู้ว่าเวลานี้ยังไงฉันก็คงต้องตอบไปตามความจริง
ฉันสับสนวุ่ยวาย รู้สึกมึนไปหมด เพราะพี่ชาย กับน้องสาว............เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องเอาซะเลย “แต่มันไม่ถูก....นะคะพี่”
“ความรักน่ะ ไม่มีความว่าถูก หรือผิดหรอก!!!”น้ำเสียงนุ่มนั้นดูขุ่นเคืองลงไปอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้ว่าพี่ก็เข้าใจในข้อนี้ดี แต่พี่.....เลือกความรัก มากกว่าจารีตประเพณี “แค่ตอบมาคำเดียว เธอรักพี่มั้ย? ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น!”
ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาพี่ชายอย่างแช่มช้าความสับสนในใจค่อยๆบางเบาลงไป พร้อมๆกับคำตอบในใจที่ฉันได้ตัดสินใจไว้
“.........หนูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะคะ............แต่ว่า.......หนูคิดว่า............”ฉันเงียบไปอีกครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดต่อไปว่า “....หนูเอง.........ก็รักพี่เอเรสค่ะ......”
แล้วรักต้องห้ามของเรา ก็ได้เริ่มต้นขึ้น.........
......ความรัก ไม่มีคำว่าถูกผิด.......และเวลาที่มันเกิดขึ้น ไม่มีใครสามารถหักห้ามใจไว้ได้
4. คุณและ ซึงฮยอนโดนพ่อแม่จับได้ว่าแอบลักลอบรักกัน จึงโดนจับแยกกันอยู่คนละประเทศชนิดว่าคนละทวีป (คุณถูกย้ายมาอยู่ ออสเตรเลีย ปู่อยู่ที่เดิม) ในตอนแรกคุณร้องไห้เสียใจแทบเป็นแทบตาย จนเริ่มดีขึ้น คืนหนึ่งระหว่างที่คุณนอนหลับอยู่ รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมานอนทับร่างของคุณเมื่อคุณตื่นขึ้นมาคุณจึงเห็นว่าเป็นซึงฮยอน คุณทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ตอนนั้นคุณจะพูดอะไรกับเขาบ้าง (( 5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่ตอนพ่อแม่จับได้ ตอนคุณโดนจับแยกกัน แล้วก็ยันเจอกันอีกครั้ง))
- “พี่เอเรส หยุดเถอะค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พอพี่เอเรสเข้ามาในห้องฉันก็พยายามจะกอดฉัน เหมือนกับเวลาสามีกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆอย่างงั้นล่ะ-////-
“โถ่เอสเทอร์ พี่รักเธอออกขนาดนี้ แค่กอดให้ชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”พี่ชายพยายามทำสีหน้าน่าสงสาร เมื่อฉันเผลอก็รวบตัวเข้าไปกอดไว้ตามระเบียบ
ฉันชักจะชินหน่อยๆแล้วกับสถานะภาพที่เป็นอยู่นี่ หลังจากวันนั้นที่พวกเรายอมรับในความรู้สึกนั้น พี่ชายก็พยายามทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันในทุกๆทาง บางทีก็ขี้หึงอย่างร้ายกาจ แต่ยังๆ พี่ท๊อปก็น่ารักที่สุดในสายตาของฉัน
“เอสเทอร์”มือหนาของพี่เชยคางของฉันขึ้น แล้วทำท่าว่าจะก้มลงจูบ แต่ทว่า.....เขากลับต้องหยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะมีใครบางคนเปิดประตูห้องเข้ามา
“เอเรส!! เอสเทอร์!! ลูก 2 คนทำอะไรกันน่ะ? !!!!”
“แม่คะ!!!!”ฉันตกใจมาก......ไหนแม่บอกว่าจะกลับมาอาทิตย์หน้ายังไง ทำไมถึง...........
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“พ่อคะ! แม่คะ!” ฉันมองคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังโทรไปจองตั๋วเครื่องบินไฟส์ที่เร็วที่สุด เพื่อจะแยกฉันออกจากพี่ มันทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันก้มลงกอดขาคุณพ่อทั้งน้ำตา ฉันจำได้ว่าขอร้องพวกท่านจนเจ็บคอไม่หมด แต่สุดท้ายก็ถูกพวกคุณแม่บ้านลากออกไปขึ้นรถ
ไม่ว่าฉันจะร้องไห้ ทุบกระจกหลังรถจนมือช้ำไปหมด คุณแม่ก็เอาแต่ร้องไห้ ส่วนคุณพ่อก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรเลย และพี่ชาย......พี่ถูกพวกบอดี้การ์ดของคุณพ่อต่อยจนสลบแล้วแยกไปอีกห้องนึง.............ฉันไม่เข้าใจ และจะไม่มีวันเข้าใจ
คุณพ่อ........คุณแม่.....คิดว่า....ความรัก......มันห้ามกันได้จริงเหรอคะ
ที่ ออสเตรเลีย ซิดนี่
“คุณหนูคะ เราเอาอาหารมาให้นะคะ”ฉันรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงเบาๆของใครสักคน แต่ในเวลานี้ ฉันคงไม่สามารถสนใจสิ่งใดได้ นอกจากสีหน้าเจ็บปวดของพี่ชาย...........พี่เอเรส พยายามจะปกป้องฉัน............
พ่อแม่ครับ เลิกด่าเอสเทอร์สักที มันเป็นความผิดของผมเอง
พ่อแม่ไม่มีสิทธิมาแยกพวกเราออกจากกันครับ ผมไม่ยอมเด็ดขาด!
ฉันทำได้เพียงหลบอยู่หลังพี่ชาย ร้องไห้ แล้วก็กอดแขนของเขาเอาไว้ จนกระทั่งพี่ต้องถูกบอดี้การ์ดพวกนั้นมาลุ่มพาตัวออกไป........ถึงขนาดนั้นแล้ว พี่ก็ยังหันมาหาฉัน แล้วพูดเบาๆว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ......พี่จะ....ไปช่วยเธอเอง”
พี่น่ะ.....จะดีไปถึงไหน
หนูมันไม่มีค่าพอหรอก...........ไม่มีค่าพอ......
“..........หนูไม่ดีพอ.......สำหรับพี่....หรอกค่ะ”ฉันนั่งร้องไห้ ร้องมากกว่าที่ร้องมาทั้งชีวิตเสียอีก รู้สึกเหมือนตัวเองจะตายซะให้ได้ โลกที่ไม่มีพี่มันว้าเหว่ขนาดนี้นี่เอง
เหงาจังเลย........ทำไมรู้สึกหนาว....จับขั๊วหัวใจแบบนี้ล่ะ
หลังจากนั้น ทุกวันฉันก็เอาแต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ฉันกำลังรอให้พี่มาช่วย จนเริ่มรู้สึกชินชากับความทรมานที่ได้รับแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปจากที่นี่ ทุกวินาทีของฉันเหมือน 1 ชั่วโมง ฉันอยู่คนเดียว รายล้อมด้วยอาหาร ทรัพย์สินเงินทอง แต่ฉันไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด
ฉันคิดถึงแต่พี่เอเรส ฉันรักพี่..........ฉันอยากอยู่กับพี่
คืนนั้นฉันนอนหลับไปทั้งน้ำตา ร้องไห้ก่อนนอนเป็นชั่วโมงกว่าจะข่มตาให้หลับได้ มันทรมานจังเลยค่ะพี่........หนูคิดถึงพี่จะตายอยู่แล้ว
“เอสเทอร์ๆ”ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ข้างหู ทำให้ฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า น้ำตาก็ไหลลงมาจากดวงตาบวมแดงของฉัน ตอนนี้ฉันไม่สนอะไรอีกแล้ว ฉันโผเข้ากอดชายตรงหน้าใบราวกับว่าถ้าบ่อยแล้วเขาจะมลายหายไป ก่อนจะบอกคำอัดอันในใจออกไปทั้งหมด “พี่....ฮึก......เหงา.....ทรมานจังเลย......อึก....พี่เอเรส.........หนูกลัว.........ไม่อยู่คนเดียวแล้ว....ไม่เอาแล้ว......ฮือๆๆๆ”
“โอ๊ๆอย่าร้องไห้สิเอสเทอร์ พี่จะอยู่กับเธอเอง พี่จะอยู่กับเธอตลอดไป”พี่เอเรสใช้มือไล้ผมฉันเบาๆ รอยยิ้มแสนอ่อนโยนของพี่เป็นทุกอย่างของฉัน เป็นกำลังใจ..........เป็นความสุข
“หนูรักพี่....มากนะคะ”พี่ชายจ้องตาฉันราวกับทำให้ฉันอยู่ในมนตร์สะกด แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มว่า “พี่ก็รักเธอ และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป พี่ไม่มีวันให้อะไรมาแยกเราจากกันได้.....”
“.....พี่สัญญา”
----------------------------------------------------
ความคิดเห็น