คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ใบสมัคร ;; เบรนด์ ทรอส
ใบสมัคร ;; เบรนด์ ทรอส
(ตอบเป็นสี ส้ม นะคะ)
ส่วนตัวผู้สมัคร
ชื่ออะไรคร๊า า ;; น้ำหวานค่า
หรอๆ อายุเท่าไร่จ๊ะ ;; 17 ปีจ้า
แน่ใจแล้วน๊า ที่มาออ ;;แน่ใจแล้ว ^ ^
ไม่ติดไม่โกรธกันเน๊อT^T :: อือ แน่นอน
เม้น+โหวต ::ได้เลย ไม่มีพลาดอยู่แล้ว
ถ้าติดแล้วไม่ทิ้งเนสนะTOT :: ถ้าทิ้งเนส เนสก็ทิ้งเราอ่ะจิ (รู้ตัวๆ)
ตัวละคร
ชื่อ-นามสกุล(ญี่ปุ่น)
::โมริโนะซึกะ มินะ (Morinotsuka Mina)
ชื่อเล่น
::มินะ (เพื่อนๆเรียกว่า มิ้นต์ หรือมีนา)
อายุ
:: 18
เกิด
:: 12/08/19**
ส่วนสูง(165-168)/ น้ำหนัก
:: 168/44
ลักษณะภายนอก
::เธอมีเส้นผมสีดำสนิทเหมือนกับนัยน์ตาของเธอ จมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากบางซึ่งดูราวกับเธอกำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา รูปร่างดูบอบบางน่าทะนุถนอม ทำให้คนที่อยู่ใกล้ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย
นิสัย(ใส่มาเต็มที่เลย)
::เธอเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เธอค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ชอบเรื่องหวาดเสียวผาดโผน โลกที่ผ่านสายตาของเธอมักจะถูกปรับให้สวยงามเสมอ เธอไม่ชอบว่าใคร ดูถูกใคร ในทางกลับกัน เธอมักจะชื่นชมในข้อดีของเขา ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นคนไม่เลือกมาก อะไรก็ได้ เธอตามคนไม่ค่อยทัน หากใครมาบอกอะไรก็มักจะปักใจเชื่อ เพราะ “เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลอกเรานี่นา” เป็นคนรักใครรักจริง เธอเชื่อว่าคนเราเกิดมาจะต้องมีเนื้อคู่ทุกคน และหากเธอคิดว่าใครเป็นคนที่ใช่แล้วก็จะปักใจเชื่อแบบนั้น ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับเขา “เพราะเราเกิดคู่กัน” เธอว่าไว้ว่าอย่างนั้น
ชอบ/ไม่ชอบ
::ทำอาหาร ทำงานฝีมือ สัตว์เลี้ยงน่ารักๆ ไอศกรีม สีฟ้า/ สัตว์เลื่อยคลาน การหลอกลวง อาหารเผ็ด ฟ้าร้อง
ความสามารถพิเศษ
::ทำอาหาร ออกแบบสร้อยข้อมือ
ครอบครัว
::คุณพ่อเป็นบาร์เทนเดอร์ คุณแม่เสียตั้งแต่ตอนที่คลอดเธอ ทำให้พ่อไม่รักเธอมากนัก ต้องทำงานพิเศษเพื่อนำมาเป็นค่าขนมในแต่ละวันเอง เพราะพ่อจ่ายให้แค่ค่าหน่วยกิจที่มหาลัยให้
ชื่ออิมเมจ
:: Ren Si Lu
รูปคุณ(4Up!!)
::
รูปคู่ของคุณ(4Up!!)
::
คำถามคัดเลือก!!
คุณเจอเขาได้ยังไง(บรรยาย+บทพูด)
:: “เฮ้อ....แม่คะ หนูเหนื่อยจังเลย”ฉันก้มมองรูปที่เหลืออยู่เพียงใบเดียวของแม่แล้วถอนใจ เงินเดือนนี้ก็ไม่พอใช้อีกแล้ว บางทีฉันอาจต้องหางานใหม่ทำเสียล่ะมั้ง
จู่ๆลมก็พัดรูปที่ฉันถือปลิวลงไปทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ ฉันอยู่ชั้น 4 แล้วฉันจะวิ่งตามมันไปทันได้ยังไงกัน
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิด ฉันวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถบจะก้าวลงบันไดทีละ3ขั้น จะล้มก็หลายรอบอยู่ กว่าจะลงไปถึงสนามหญ้านั่นได้
ฉันมองไปรอบๆไม่เห็นวี่แววของรูปนั้นเลย ถึงจะวิ่งดูไปรอบๆก็ไม่พบ และขณะที่ฉันวิ่งผ่านพุ่มไม้ซึ่งไม่น่าจะมีอะไร ฉันก็เห็นขาของใครคนนึงเหยียดยาวพ้นออกมา
“ขอโทษนะคะ คุณพอจะเห็นรูป.......” ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยคดีเขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วยื่นภาพแสนสำคัญของฉันมาให้
ทันทีที่ฉันรับมาฉันถึงกับร้องไห้ ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียมันไป
“ถ้ามันสำคัญนัก ก็ดูแลดีๆสิ”ฉันเห็นหน้าเขาเพียงนิดเดียว แต่ก็รู้ว่าเขากำลังเตือนฉันด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แต่แววตาของเขามันอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด..........ถึงจะแว๊บเดียว แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง
“ขอบคุณมากนะคะ”ฉันตะโกนไล่หลังเขาไป และถึงเขาจะแค่พยักหน้านิดๆพอเป็นพิธี ฉันก็หลงรักเขาเข้าให้แล้ว
แล้วคุณคบกับเขาได้ยังไง(บรรยาย+บทพูด)
:: ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจส่งจดหมายรักให้กับเขา.......มันอาจฟังดูเป็นวิธีสารภาพรักที่เชย แถมยังงี่เง่า แต่ว่า........ฉันก็คิดได้แค่วิธีเดียวที่จะไม่ต้องบอกรักเขาตรงๆนั่นล่ะ
เอาล่ะ....ไม่มีใครแล้ว...ดำเนินการได้
ฉันค่อยๆย่องไปยังล็อคเกอร์เก็บของของเบรนด์ แล้วหย่อนจดหมายสีฟ้าซึ่งบรรจุความในใจของฉันลงไปอย่างระแวดระวัง โชคดีจริงๆที่วันนี้มาที่มหาลัยตั้งแต่เช้า ไม่มีใครเห็น........เลย
“ทำอะไรของเธอน่ะ?”ฉันหันหน้าไปมองต้นเสียงพร้อมกับพยายามปั้นยิ้มให้ดูเนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่า.....มันดูฝืนยังไงก็ไม่รู้
“สวัสดีจะ......เบรน”ทำไมฉันถึงดวงไม่ดีแบบนี้นะ ตอนอยากเจอไม่ยักเจอ พอไม่อยากกลับ....
เขาไม่ได้ยิ้มให้ฉันสักนิด เขาเดินตรงเข้ามาไขกุญแจเปิดล็อคเกอร์แล้วหยิบซองจดหมายที่ฉันเพิ่งจะใส่ลงไปออกมามองด้วยสายตาไร้อารมณ์
“ดะ..เดี๋ยวสิ!”ไม่ทันจะได้ห้ามเขาก็แกะมันออกมาอ่านเรียบร้อยแล้ว แน่ล่ะว่าเนื้อความก็ไม่มีอะไรมาก แค่บอกว่าตั้งแต่ที่เจอกันครั้งนั้นฉันก็แอบชอบเขามาตลอด บรรยายถึงความดีของเขามากมาย แล้วจบด้วยคำว่า ‘ขอบคุณค่ะที่ยอมอ่านจดหมายนี้ กรุณาช่วยให้คำตอบฉันด้วยนะคะ’
“เออ....ไม่ต้องรีบให้คำตอบก็ได้ค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”ฉันรีบหันหลังให้เขาเพื่อเตรียมวิ่งหนี แต่ว่าถ้าฉันหูไม่ฟาฟาง ฉันได้ยินเขาพูดว่า “ตกลงว่า เธออยากคบกับฉัน?”
คือ.....มันก็ใช่ แต่พอมาได้ยินเขาพูดแบบนี้ตรงๆแล้วหน้ามันแดงไปหมดเลย ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
“..........”ฉันทำได้เพียงพยักหน้าน้อยๆ โดยไม่ได้หันกลับไปมองหน้าของเขา ฉันพอจะนึกออกว่าเขาจะทำหน้ายังไง ฉันพอเข้าใจว่าเขาคงกำลังตีหน้าเซงใส่ฉันอยู่เป็นแน่
“ก็เอาสิ” “อะไรนะคะ?!!!!” ฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ย ฉันดันไปร้องเสียงหลงใส่หูเขาเต็มๆเลย ก็ฉันตกใจนี่นา......ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้
“ถ้าเธอไม่ยุ่งกับฉันมากจนเกินไป ก็ไม่เห็นเป็นอะไร”รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปากได้รูปของเขา ดวงตาสีดำมองลงบนกระดาษซึ่งมีรอยปากกาสีของฉันแตกแต้มเอาไว้อย่างปราณีตบรรจง “เธอตั้งใจเขียนมากสินะ”
เขากำลังอมยิ้มให้กับฉันเหรอ.......เขาชอบจดหมายของฉันเหรอ......ดีใจจังเลย
“ก็....นิดหน่อยน่ะค่ะ”
นิดหน่อยแบบ....เขียนทั้งคืนน่ะนะ
คุณกับเขารักกันมา3ปี วันนี้เป็นวันที่ครบรอบสามปี คุณมีความสุขมากๆ แต่ความสุขของคุณก็หยุดลงเมื่อเขาบอกเลิกคุณ (บรรยาย+บทพูด)
:: วันนี้ครบรอบ 3 ปี ที่ฉันกับเขาครบกันแล้วล่ะค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนโลกนี้เป็นสีฟ้าสดใสไปหมดเลย มีความสุขมากๆ มีความสุขจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะลอยได้แล้วเนี่ย เบรนด์เขานัดฉันไปกินอาหารที่ภัตตาคารด้วย ไม่รู้จะเซอร์ไพรซ์อะไรฉันอีก
น่ารักที่สุดในโลกเลย
ฉันเดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยชุดที่ฉันเลือกมาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอไปถึงก็เห็นเบรนด์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับอาหารเต็มโต๊ะ
“มานานแล้วเหรอคะ เบรนด์”ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะนั่งบนที่นั่งตรงกันข้ามกับเขา ซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเลย
“รีบกินเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็น”ฉันพยักหน้ารับ แล้วลงมือกินตามที่เขาบอก แต่ดูเบรนจะไม่ได้มีความสุขเหมือนฉันเลย สีหน้าของเขาเรียบเฉย ราวกับว่าวันนี้ไม่ใช่วันสำคัญของเขายังไงยังงั้น
เมื่อถึงช่วงของของหวาน พนักงานก็เอาไอศกรีมมาเสิร์ฟให้ฉัน ส่วนเบรนเขาเลือกจะดื่มกาแฟแทน พอฉันตักลงไปบนไอศกรีมปุ๊บก็เห็นกระดาษเคลือบมันสีฟ้าโผล่พ้นออกมา
มีเซอร์ไพรซ์จริงๆด้วย
ฉันรีบกินไอศกรีมให้หมดแล้วหยิบกระดาษนั้นออกมาคลี่ดู แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามันจะเขียนสิ่งที่ฉันที่อยากเห็นที่สุดในวันนี้
‘เราเลิกกันเถอะนะ’
ฉันเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสนเหลือประมาณ ฉันไม่เข้าใจเลย....ไม่สิ ฉันไม่อยากจะเข้าใจ ว่าเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว
“เบรน......”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สายตาของเขามันดูเฉยชา และว่างเปล่าจนน่าใจหาย.....เขาพูดจริงๆ....สินะ
“ขอโทษนะ มินะ”เขาลุกข้นแล้วทำท่าว่าจะเดินจากไป แต่ฉันดึงแขนของเขาเอาไว้ก่อน “อย่าไปเลยนะเบรนด์......ฉัน...ขอร้องล่ะค่ะ”
เขาไม่แม้จะกันกลับมามอง เขาแค่สะบัดแขนฉันออก แล้วเดินออกไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ โดยไม่ได้สนใจว่าตัวฉันกำลังร้องไห้ออกมาแค่ไหน
หัวใจ....เจ็บปวดเหลือเกิน
คุณยอมเป็นเงาของเธอคนนั้น ทั้งๆที่คุณต้องเจ็บ ต้องร้องไห้ ทำไมคุณถึงต้องยอมเป็นแค่เงาล่ะ(บรรยาย+เหตุผล)
:: เพราะว่าฉันรักเขามาก ฉันเชื่อนะว่าขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆเขาก็พอใจ และฉันก็ยังเชื่อ ว่าถ้าฉันอยู่ตรงนี้ จะคอยเป็นกำลังใจ เป็นที่พึ่งให้กับเขา บางที.........เขาอาจจะกลับมารักฉันก็ได้ เวลานี้ ฉันก็คงทำได้แค่รักเขา และรอเขาก็เท่านั้นเอง
คุณเข้าใจคำว่า รักคือการเสียสละ มากแค่ไหน (เหตุผล)
::ฉันคิดว่าฉันเข้าใจมากเลยทีเดียว เพราะรักของฉันคือการเสียสละครั้งยิ่งใกญ่ เขาเห็นฉันเป็นตัวแทนของผู้หญิงคนอื่น แต่ฉันก็รู้ ว่าถ้าเขาทำแบบนั้นแล้วเขาจะรู้สึกดี.....รู้สึกสบายใจ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เพราะถ้าฉันได้ทำเพื่อเขา มันก็เพียงพอแล้ว ถ้าฉันทำอะไรให้เขามีความสุขได้ แค่ทำให้เขาไม่ต้องคิดมากน้อยลงไปอีกเรื่องเดียว ฉันก็พอใจแล้วล่ะค่ะ
เขาไม่สนใจคุณอีกเลยตั้งแต่เจอเธอคนนั้น คุณได้แต่มองอยู่ห่างๆ ในหัวใจก็เจ็บแทบขาดใจ ทั้งๆที่เขาหมดรักคุณ แต่ทำไมคุณยังรักเขา(เหตุผล+บรรยาย)
::ฉันก็เองก็ไม่รู้ ฉันรักเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเจอกับเรื่องเหล่านี้แล้วฉันจะไม่รักเขานะ......ฉันพยายามเลิกรักเขา แต่ฉันทำไม่ได้ อาจเป็นเพราะว่าพอเห็นสายตาเศร้าๆของเขาเมื่อตอนที่เดินเข้ามาข้อความช่วยเหลือ มันทำให้ฉันใจอ่อน จนสุดท้ายฉันก็รู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป้นตัวแทน หรือตัวสำรองฉันก็ทนได้ ดีกว่าที่ฉันจะต้องมานั่งเสียใจ ว่าทำไมฉันถึงไม่ได้ช่วยดูแลเขา เวลาที่เขาต้องการใครสักคน ให้ฉันร้องไห้ซะยังดีกว่า ที่จะต้องเห็นเขามานั่งเศร้าเสียใจ ฉันรู้สึกว่าอย่างนั้น
ไม่ว่าพยายามยังไง ก็ลืมไม่ลงเสียที คุณจะทำยังไง ให้เขากลับมารักคุณอีกครั้ง(บรรยาย+บทพูด+เหตุผล)
:: ฉันจะพยายามเป็นกำลังใจให้กับเขา พยายามทำให้เขารู้สึว่าฉันมีคุณค่า และอยากอยู่กับฉัน
ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจได้แล้ว.....ฉันจะต้องทำให้เขากลับมารักฉันให้ได้ หรืออย่างน้อย ก็ให้เขาได้เห็นว่าฉันพยายามแค่ไหน
“เบรนด์ ฉันให้นะ”ตอนนั้นฉันเอาอาหารกล่องทำเองไปว่างไว้ที่มอเตอร์ไซด์ของเขา แต่เขาก็ไม่ได้เอาไป ฉันก็ตามเอาไปให้ถึงหน้าประตูหน้ามหาลัย เขาก็เมินอีก จนสุดท้ายเอาไปยืนรอที่หน้าบ้านของเขา นั่นเป็นครั้งที่ 2 ที่ฉันเห้นเขายิ้ม แตมันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนใจ และยอมรับไปจนได้
“ขอให้ฉัน......เป็นเงาของเขาได้มั้ย”ฉันวอนขอเขาทั้งน้ำตา เขาซึ่งตอนนั้นก็เสียใจมาจากผู้หญิงอีกคนนึง สุดท้ายเขาก็ยอมรับฉัน...........แต่ในฐานะเงา ฉันไม่แคร์หรอก.......ขอแค่ได้อยู่กับเขา ฉันทนได้ จริงๆ......ฉันต้องอดทนให้ได้
“ฉันจะคิดให้เองนะ มานี่เร็ว อยากได้แผนยังไงล่ะ”ถึงเขาจะคิดแผนเพื่อไปหาผู้หญิงคนนั้นนั้น เพื่อจะทำให้เธอรู้สึกประทับใจในตัวเขา แต่ฉันก็อยากจะช่วย เพื่อแสดงให้เห็นว่า สำหรับฉันแล้ว ไม่ว่าเขาจะพบกับเรื่องอะไร ฉันก็จะช่วยเขาเสมอ
และคำพูดที่ฉันจำได้แม่นที่สุดคงจะเป็น “ยังจำจดหมายแบบนี้ได้มั้ย” ฉันเอาจดหมายแบบเดียวกับที่เคยสารภาพรักกับเขาให้เบรนไปทั้งปึ่กใหญ่ ทั้งหมดเป็นกำลังใจ เป็นความในใจตลอดมาที่ฉันมีให้เขา ซึ่งฉันอยากให้เขารับรู้ ให้เขารู้ว่าในโลกนี้........ยังมีฉันที่รักเขามากที่สุดอยู่อีกคน
ตอนจบ
::ถ้าฉันไม่ไป....จะผิดมากมั้ย?
ฉันกลัว......ฉันไม่พร้อมที่จะเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว
แต่ถึงจะว่ายังงั้นยังงี้ก็เถอะ ตอนนี้ฉันก็มาถึงหน้าร้านอาหารที่นับกับผู้ชายที่ฉันรักที่สุดไว้แล้ว.....ใช่ มันเป็นร้านเดิมกับที่เขาบอกเลิกฉัน
เมื่อเดินเข้าไปในร้านบรรยากาศทั้งหมดยังคงไม่แปรเปลี่ยน ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย แม้กระทั้งสีหน้าของเขา
“รอนานมั้ยคะ?”เขาส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเริ่มต้นกินอาหาร ฉันเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วรีบกินอาหารเหมือนกัน.......แต่รู้สึกว่ามันฝืดคอ...........กลืนไม่ค่อยลง.......
ถ้าฉันต้องถูกเขาบอกให้เลิกยุ่งอีกคราวนี้ฉันคงอยู่ไม่ได้แน่ ฉันคงตั้งตัวไม่ติดแบบครั้งนั้น.....ที่นั่ง้ศร้าอยู่คนเดียวในห้องตั้ง 4 วัน คิดไปแล้วรู้สึกเหมือนคนบ้าเลยนะ
“อิ่มแล้วเหรอ?”เขามองสเต็กในจานของฉันที่เหลืออยู่เกือบครึ่งชิ้น แต่พอเห็นฉันพยักหน้าเขาก็เรียกให้คนมาเอามันออกไป และในไม่กี่นาที.....ไอศกรีมแบบครั้งนั้นก็มาวางอยู่ตรงหน้าของฉัน
ฉันมองหน้าเบรนด์ราวกับว่าฉันจำเป็นต้องกินมันด้วยเหรอ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรอย่างเคย นั่นทำให้ฉันต้องตัดใจกินมันเข้าไปจนได้ แต่ทว่าคราวนี้ฉันกินจนเหลือคำสุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไร
แต่ทันทีที่ฉันตักคำสุดท้ายนี้เข้าปากก็รู้สึกได้ถึงอะไรเย็นๆแข็งๆอยู่ภายใน ซึ่งผลสุดท้ายก็ต้องคลายออกมาใส่ในกระดาทิชชู่
มันเป็น.....แหวนเงินนี่นา
“น่าเสียดาย ผมอุตส่าห์สลักชื่อมา เปลี่ยนไอศกรีมหมดเลย”เขาบ่นคล้ายกับจะบอกว่าว่าแผนนี้ไม่เวิร์ค แต่ในตอนนั้นจู่ๆฉันก็ร้องไห้ออกมา
“มินะ คุณป็นอะไรไป? ผมกำลังขอคุณเป็นแฟนอยู่นะ”เขาคลี่ยิ้มที่ดูอ่อนโยนทุ่ดเท่าที่ฉันเคยได้เห็นออกมาให้ฉัน พร้อมทั้งบีบมือของฉันเอาไว้ “กลับมาคบกับผมเถอะ”
“ค่ะ.....ฮึก....”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้อยู่นานแค่ไหน แต่คราวนี้มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ
ตอนนี้ฉันดีใจ.......ฉันเจอแล้วล่ะค่ะ
ฉันเจอแล้วจริงๆ.....เนื้อคู่ของฉัน......ที่เฝ้าตามหามาแสนนาน
ฉันรักคุณค่ะ....เบรนด์
ความคิดเห็น