ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิหารจันทรา

    ลำดับตอนที่ #3 : วิหารจันทรา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 90
      0
      15 ธ.ค. 48

    “เกร้ง”  เสียงดาบกระทบกูกพื้นปูนเป็นครั้งแรก  

        เบื้องหน้าเป็นวิหารมืดมิด  เขาหยิบดาบขึ้นมา เพื่อไม่ให้รากกับพื้น ตัวของเขาเปียกปอนไปหมด  เมื่อก้าวเข้าไปในวิหารนั้น ฝนภายนอกก็หยุดลง  เหมือนเป็นรางบอกเหตุทันทีที่เขาหันเขาวิหาร ดวงไฟข้างหน้าจอมมารก็จุดขึ้น ทันใดนั้น  รูปปั้นจอมมารก็ลุกจากพำนักพิง  หมายที่จะเหยียบยำเขา เขาหลบหนีอย่างว่องไว  และคิดว่าดาบไร้คมจะช่วยอะไรเขาได้  เขาชักดาบออกมา  ทันใดนั้นแสงสว่างก็เจิดจรัด รูปปั้นจอมมารหยุดชะงัก  เขามองหาทางไปต่อ  ตาของเขาสะดุดอยู่ตรงพำนักพิง  เป็นประตูเล็กๆ เขาจึงปีนขึ้นไปตามขาของพำนักพิง แล้วเข้าไปในประตูนั้น เบื้องหน้าเป็นน้ำตกรายล้อม เขาอยู่เป็นรูปเกือกม้า มีหมอกจางๆ อยู่ด้วย  ทำให้มองไม่เห็นท้องฟ้า  ปลายเท้าของเขาเป็นหุบเหวลึงลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  นี้อาจเป็นทางตันของเขา เขาหันหลังกลับ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่ประตู แต่เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นน้ำจากภูเขาต่างๆไหลมารวมที่อาณาจักรนั้น แต่ทุกอย่างเป็นภาพที่เลือนราง เพราะหมอก  เขาจึงวิ่งลงจากภูเขาผ่านบ้านรูปทรงประหลาดคล้ายเห็ด  จนถึงบ่อน้ำขนาดใหญ่มาก ใหญ่จนทำให้เขาไม่สามารถเห็นอีกฝากหนึ่งของบ่อน้ำนั้น  ตลอดทางที่เขาสังเกตมาไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ แม้แต่แมลงหรือนี้อาจเป็นดินแดนที่ถูกจอมมารยึดครอง  เขาหยิบดาบขึ้นมา หวังว่ามันจะแสดงปราฏิหารอีกครั้ง เขาชักดาบออกมาจากฝัก และชูขึ้นเหนือหัว แสงสว่างวูบใหญ่และดับลง ได้เกิดขึ้น  ปราฏิหารนั้นอาจไม่มี ทันใดนั้น เสียงสนั่นหวั่นไหวคล้ายแผ่นดินถล่มได้เกิดขึ้น แต่ตัวเขาไม่รู้สึกใดๆ เลย  เขามองไปตรงหน้าอีกครั้ง ศิลาขนาดใหญ่พุ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำ ขึ้นมาตรงหน้าเขา  เขาตกใจแทบวิ่งหนี เสียงสงัดกลับมาอีกครั้ง เขาค่อยๆเดินเขาไปในศิลานั้น เห็นตัวอักษรที่อ่านไม่ออกบนศิลา และตัวอักษรที่อ่านไม่ออกบนฝักดาบ มีแสงวูบวาบไม่สว่างมากนันก  บนศิลานั้นมีรูขนาดใหญ่ เขานำดาบเสียบเข้าไปในรูนั้น หวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อข้อต่อระหว่างด้ามจับดาบและคมดาบ กระทบเข้ากับศิลานั้น มันกลับกลายเหมือนประตูที่ลูกบิด  เขาจึงผลักมันออก และเดินผ่านศิลานั้นไป เบื้องหน้าของเขาเป็นวิหารขนาดใหญ่ ทำด้วยทองคำ ประตูนี้สลักไว้ว่า

                                         “ วิหารจันทรา”

    เป็นที่สักการบูชาเทพจันทรา ผู้ใดนำออกจงนำความสุขของผู้นั้นออก  ผู้ใดนำเข้าจึงนำความทุกข์เข้าไปในชีวิตของผู้นั้น  ทันใดที่เขารู้ว่ามันคือวิหารจันทรา จึงผลักประตูบานใหญ่นั้นเข้าไป  เบื้องหน้ามีกองทองมากมายมหาศาล  ปูด้วยพรมสีเลือดหมู   เขาเดินเข้าไปหยิบแหวนทองวงงามขึ้นมาหวังว่าจะให้ตารู้ถึงความสำเร็จของตนเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับไม่มีผนัง  มีแต่กองเงินทองไกลสุดสายตา  ด้วยความตกใจเขาจึงโยนแหวนนั้น ผนังและประตูก็กลับมาที่เดิม และเขาก็รีบเดินออกจากประตูนั้นไป เขาสะดุ้งตื้นบนเตียงของเขาเอง  แต่แทนที่แขนของเขาจะกอดหมอนข้างใบนุ่ม ในมือของเขากอดกระดาษที่จารึกตัวอักษรที่อ่านไม่ออกนั้นอยู่ และในกระเป๋าเสื้อก็ยังมีกระดาษ จากข้อความตาถึงหลานรัก  

        

    กล่าวกันว่า เงินทองเหล่านั้นอยู่ในวิหารจันทรา    หลายสิบปีผ่านมา  ข้อความประโยคเดิมถูกเล่าต่อให้หลานของเขาอีกครั้ง และอาจจะต้องถูกเล่าต่อครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดไป



        ลายแทง อาจไม่ได้หมายถึงกระดาษที่พาไปที่ซ่อนขุมทรัพย์  แต่อาจเป็นคำ  ที่ทำให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จ โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย มีเพียงแต่ความทรงจำ รอให้รุ่นต่อไปได้ค้นพบอีกครั้ง.



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×