ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF) KIZUNA --Nakachii--

    ลำดับตอนที่ #1 : KIZUNA I (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 55


     

    โย่ววววๆๆๆ สวัสดีค่า นักอ่านที่รักของเข็มมี่ทุกคน แหม่ วันนี้อากาศดีค่ะ เลยมีผลงานดีๆมาฝาก จากนักเขียนน้องใหม่ สดๆซิงๆ 555+ เพื่อนเค้าเองแหละ >//<  ผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกนามแต่อย่างใด ยังไง ก็เม้นให้เจ๊แกด้วยนะ ถ้าชอบ ถึงไม่มีปุ่มให้กดไลค์ ก็ให้กำลังใจกันได้นะเคอะ!!

    มา พร้อมละ ลุยนะ!! *O*

     

    KIZUNA I

    Couple : Nakajima Yuto & Chinen Yuri

    By : PAT_jjr

    Thanks : Kemmie , Smile

     

    โลกใบนี้มีสายสัมพันธ์มากมายที่ผูกคนทุกคนไว้ด้วยกัน สายสัมพันธ์ของครอบครัว

    สายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน  ความรัก  ความแค้น

    แล้วสัมพันธ์ระหว่างเราล่ะเป็นแบบไหน?

    ………………………………………………………

     

                เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยแสงแดดอ่อนๆและดอกไม้นานาพันธ์ที่ชูช่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ เสียงของนกขับร้องไปพร้อมๆกับเสียงพูดคุยของเหล่านักเรียนที่ต่างเล่าเรื่องวันหยุดสุดสัปดาห์ของตัวเองอย่างออกรส เด็กหนุ่มร่างสูงก้าวเท้าไปตามพื้นถนนอย่างไม่รีบเร่งนัก เขาไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบตัวรวมถึงเสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงที่ล้วนให้ความสนใจในตัวเขา นาคาจิม่า ยูโตะ ถอดเฮดโฟนออกจากศีรษะเมื่อเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

                .

                .

                .

                “มาก่อนอีกแล้วนะร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับลากเก้าอี้มาฝั่งตรงข้ามของเด็กชายอีกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออย่างตั้งใจและไม่ได้มีท่าทีสนใจคำพูดนั้นแม้แต่น้อย

                ไม่คิดจะรอกันบ้างรึไง?” กล่าวขึ้นอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกเมินแน่แล้วมือหนาจึงเอื้อมไปดึงหนังสือจากคนตัวเล็กแล้วยืดตัวเต็มความสูง

                นี่เอามานะ!” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ นัยน์ตากลมโตจ้องไปยังอีกคนอย่างเอาเรื่อง
    แต่ดูเหมือนว่ายูโตะกำลังมีความสุขกับการได้แกล้งคนตัวเล็กจึงยืดแขนของตนขึ้นสุดแขนเพื่อไม่ให้มือบาง
    เอื้อมถึง
               
    เอามานะยูโตะกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเข้มขึ้น มือทั้งสองข้างยังคมพยายามยื้อหนังสือของตัวเองกลับมาแต่แล้วร่างเล็กก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนที่ข้างหู

                ตอบมาก่อนสิยูโตะพูดชิดใบหูคนตัวเล็ก มือหนาจับไหล่บางเอาไว้ขณะที่อีกข้างยังคมซ่อนหนังสือไว้ข้างหลัง ตาคมจ้องไปยังดวงตาของอีกคนจนแก้มของคนถูกจ้องเริ่มขึ้นสีเรื่อ ยูรินิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหน้าเพื่อเรียกสติกลับมาแล้วผลักอีกคนอย่างเต็มแรงแต่ก็มีผลให้ร่างสูงผละไปไม่มากนัก

                ก็นายมาสายเองนี่ ฉันไม่มีเวลารอหรอกนะคนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามคุมให้ปกติที่สุดเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ คนตัวสูงนั่งลงที่เดิมก่อนที่จะพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม

                นิดเดียวเองน่ายูริ เมื่อคืนกลับบ้านดึกไปหน่อยร่างเล็กได้แต่มองอีกคนที่ตอนนี้กำลังฟุบลงที่โต๊ะของเขาอย่างอ่อนใจ มือบางเอื้อมไปหยิบหนังสือกลับมาแล้วเก็บลงกระเป๋า ถึงจะอ่านต่อตอนนี้เขาก็คงไม่รู้เรื่องอยู่ดีคิดพลางถอนหายใจแล้วนั่งลงในที่ของตัวเอง

                คราวนี้ใครอีกล่ะถามออกไปเสียงเบา นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองไปยังคนที่ฟุบอยู่ตรงหน้า  ยูโตะถึงจะดูเป็นคุณชายแสนดี เพอร์เฟ็คตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนพระเอกนิยายที่สาวๆหลายคนใฝ่ฝัน แต่ยูริรู้ดีว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบแท้จริงแล้วเพื่อนของเขาเป็นเสือผู้หญิงดีๆนี่เอง

                อยากรู้ไปทำไม หึงเหรอ?” เงยหน้าขึ้นมาตอบพร้อมกับยกยิ้มกริ่มให้คนตัวเล็กที่นิ่งไปเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมาจนคนที่ถามหลุดหัวเราะเล็กน้อยแต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเสียงกริ่งก็ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าตอนนี้คาบเรียนที่หนึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วมือบางดันร่างสูงให้ลุกขึ้นไปนั่งที่ของตัวเอง ใบหน้าหวานยังคงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ในหัวจะมีแต่คำพูดของอีกคน คำพูดที่เขายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

                .

                .

                .

    Writer talk : ตัดแค่นี้นะคะ T ^ T (สั้นมาก แต่ถ้าต่อก็คงแปลกๆ?)  ตั้งใจไว้ว่าจะแต่งตอนที่หนึ่งให้จบจะได้ลงวันเกิดยูโตะ แต่ว่าอาทิตย์นี้เราสอบกลางภาค + งานเยอะมากไม่มีเวลาเลย ขอลงแค่นี้ก่อนนะคะ ส่วนที่เหลือจะพยายามเข็นให้เสร็จภายในวันจันทร์ค่ะ ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องแรกของเรายังไงก็ฝากด้วยนะคะ ^^ ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยค่ะ

                ลืมแนะนำตัวเราอายุ 15 ค่ะอยู่มอสี่ ขอบคุณไรเตอร์เข็มมี่มากนะคะที่ให้เราฝากฟิคลง + ให้คำปรึกษาเรื่องฟิค *จุ๊บที* 555

    Kemmie : ให้จุ๊บเลย หลายๆทีก็ได้เอ้า 555+ สำหรับ เพื่อน ไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว เนอะ! ^^
    -----------------------------------------------------------------------------------------------




    ขอโทษที่ลงช้านะคะ T^T เมื่อวานแต่งไม่จบจริงๆวันนี้รีบปั่นมากไม่ได้อ่านทวนเลย รู้สึกว่าเละๆเอาเป็นว่าถ้ามีเวลาจะรีไรท์นะคะ ขอบคุณเข็มที่อัพ + ตรวจให้ค่ะ ^^



    กริ๊งงงงงงง  

     

    เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับบรรดานักเรียนที่ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ต่างคนต่างเก็บกระเป๋าและเดินออกจากห้องเรียนอย่างรีบเร่งในขณะที่บางคนก็รีบไปหยิบอุปกรณ์เพื่อทำความสะอาดห้องเรียน หน้าตาของนักเรียนแต่ละคนดูไม่สดใสนักเนื่องจากอาจารย์ทุกคนต่างก็เร่งสอนเพื่อให้ทันการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่จะมาถึงในไม่ช้า เด็กหนุ่มตาตี่เกินเข้าไปหาเพื่อนที่ฟุบอยู่บนโต๊ะ นึกแล้วก็หมั่นไส้มันจริงๆกลางคืนเอาแต่ควงหญิงไม่ได้หลับไม่ได้นอน มาเรียนก็เอาแต่นั่งหลับแต่ผลสอบออกมาทีไรก็ดีทุกที เขาล่ะอยากให้ยูริเลิกติวให้มันจริงๆจะได้รู้สึกซะบ้าง

     

     “เห้ยยูโตะ มึงตื่นมาคุยกับกูก่อนดิ๊เคโตะพูดพลางเอาเท้าสะกิดอีกคน

     

     “สัด มึงปลุกดีๆกูก็ตื่นเงยหน้าขึ้นมาตอบเพื่อนแล้วยกขาเตรียมจะถีบอีกคนที่มารบกวนการนอนของเขา แต่คนมาใหม่กระโดดหลบอย่างเชี่ยวชาญ

     

     “กูไม่ถีบมึงก็ดีแค่ไหนแล้ว ยาบุซังโทรมาบอกว่าคืนนี้เจอกันที่ร้านเดิมสองทุ่มพูดพลางนึกถึงรุ่นพี่ที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆแต่หลังจากที่พวกรุ่นพี่จบการศึกษาไปก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน

     

     “เออ พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวสี่ทุ่มกูตามไปตอบไปอย่างส่งๆ มือหนาดันตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเริ่มเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงกระเป๋าข้างของตัวเองโดยที่ไม่ลืมหยิบเฮดโฟนและไอพอดออกมา

     

     “มึงจะไปควงสาวที่ไหนอีกล่ะ นานๆจะได้ไปเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ซักทีมาให้มันเร็วหน่อยดิวะ
    เคย์โตะพูดออกมาอย่างรู้นิสัยของเพื่อนตัวเองดี เลิกเรียนก็ควงหญิงเที่ยวแทบไม่ซ้ำหน้าคิดแล้วก็ไม่เข้าใจผู้หญิงเหล่านั้นจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นคนยังไงก็ยังจะไปยุ่งกับด้วยให้ตัวเองเสียใจทีหลังอีก

     

     “เปล่า กูมีธุระตอบพร้อมกับลุกขึ้นสะพายกระเป๋าแล้วจัดการเอาเฮดโฟนครอบหูทันทีโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มอีกคนที่ทำท่าจะถามอะไรขึ้นมาอีก ร่างสูงเดินไปตามอาคารเรียนที่คนเริ่มบางลงคงเป็นเพราะนี่ก็เลยเวลาเลิกเรียนมาพอสมควรแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากตึกเด็กสาวคนหนึ่งก็วิ่งมาหาพร้อมกับควงแขนอย่างสนิทสนม

     

     “ยูโตะวันนี้จะไปไหนเหรอคะ ฮานะจองร้านไว้แล้วไปด้วยกันนะเสียงแหลมสูงกล่าวออกมา เธอยังคงควงแขนของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมเอาหน้าเข้าไปใกล้อย่างออดอ้อนแต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที

     

     โทษทีนะ วันนี้ผมมีนัดแล้วเอาไว้วันหลังนะครับตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้แล้วยื้อตัวออกมาจากการเกาะกุมของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยควงไปเที่ยวด้วย ฮานะส่งเสียงไม่พอใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแล้วยื้อร่างสูงไว้อีกครั้ง


    นะคะยูโตะ วันนี้เป็นวันเกิดฮานะด้วยไปฉลองเป็นเพื่อนฮานะหน่อยนะคะหญิงสาวพูดก่อนจะแย้มยิ้มอย่างมีความหวังเมื่ออีกคนมีท่าทีนิ่งไปเหมือนกำลังครุ่นคิด

    ตกลงนะคะ?”

     

    ริมฝีปากบางขยับเหมือนจะเอ่ยอะไรออกมากแต่แล้วสายตาคมก็เลื่อนไปสบตากับคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องสมุด ชายหนุ่มยกยิ้มน้อยๆพลางก้มลงไปหาเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกาย แก้มของเธอขึ้นสีเรื่อทันทีเมื่อใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่ปะทะเข้ากับผิวแก้ม           

     

     “ไปก่อนนะครับพูดเสียงเบาพร้อมกับกดปลายจมูกลงบนแก้มของหญิงสาวก่อนที่ช่วงขายาวจะวิ่งออกไปจากบริเวณโรงเรียนทันทีทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนยังเรียกสติตัวเองกลับมาไม่ได้

     

    .

    .

     

    ร่างสูงเดินไปเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบเร่ง มือหนายกไอพอดมาปิดเพลงแล้วถอดเฮดโฟนออก สายลมอ่อนๆ พร้อมกับเสียงของใบไม้ที่ปลิวไปตามกระแสลมทำให้รู้สึกสบายใจอย่างประหลาด ทอดมองบรรยากาศรอบตัวพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาไม่เคยรักใครและไม่เคยคิดจะคบกับใครจริงจัง คงเป็นเพราะนิสัยที่เบื่อง่าย ไม่ชอบยึดติดกับอะไรเป็นเวลานานทำให้ไม่สามารถคบกับใครได้ เขามักจะสนใจในสิ่งแปลกใหม่และเมื่อเรียนรู้สิ่งนั้นจนเข้าใจแล้วก็จะปล่อยทิ้งไปอย่างง่ายดาย

     

    ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองดวงตาคมก็เห็นร่างเล็กที่เขาตั้งใจจะวิ่งตามออกมาแต่กลับหาไม่พบ ร่างสูงเร่งฝีเท้าทันทีในไม่ช้าร่างสูงโปร่งก็มาอยู่ข้างๆยูริที่ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินอยู่เคียงข้าง ดวงตาใสเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ในขณะที่แก้มขึ้นสีเรื่อเพราะอากาศค่อนข้างเย็น ยูโตะโบกมือผ่านหน้าคนตัวเล็กก่อนจะพาตัวเองมายืนขวางทางไว้ ริมฝีปากบางยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกคนสะดุ้งแล้วเงยขึ้นมาทำตาขวางใส่

               

     มีอะไรยูริพูดแล้วถอยออกมาเพราะระยะห่างระหว่างเขากับยูโตะตอนนี้ใกล้กันมากจนใบหน้าเล็กแทบจะชิดกับแผงอกของร่างสูง

     

    วันนี้ไปเล่นที่บ้านนะยื้ออีกคนเอาไว้พร้อมกับยื่นมือไปดึงกระเป๋าของยูริมาถือไปกันเถอะกล่าวอีกครั้งแล้วฉุดยูริให้เดินไปพร้อมๆกัน

     

     

    ฉันตกลงตอนไหนไม่ทราบ?” คนตัวเล็กหันไปพูดเสียงเขียว มือบางพยายามดึงกระเป๋าของตัวเองกลับมาเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่มีท่าทีจะปล่อยง่ายๆ เขาจึงถอนหายใจอย่างปลงๆกับนิสัยดื้อเงียบของคนๆนี้ที่ไม่ว่านานแค่ไหนก็ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ แล้ววันนี้ไม่ไปไหนเหรอ

     

     

    ไม่ล่ะ วันนี้ขี้เกียจอยากไปนอนเล่นยูโตะตอบแล้วหันไปมองหน้ายูริที่กล่าวขึ้นลอยๆ เหมือนพูดกับตัวเองไม่เปลี่ยนเลยนะนิสัยนายเนี่ย” 

     

     

    “…” เมื่อเห็นว่าอีกคนมีท่าทีสงสัยยูริจึงกล่าวต่อไป สงสารฮานะ

     

    ก็แค่ควงเที่ยวเฉยๆไม่ได้คิดอะไรซะหน่อยพูดอย่างไม่ใส่ใจนักจนยูริได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วให้เค้าพูดยังไงก็คงไม่ฟังอยู่ดี

     

    เข้าบ้านเถอะเสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปยังบริเวณหน้าบ้านที่จัดเป็นสวยหย่อมขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ชูช่อรับแสงเพียงรำไร เพราะตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มที

     

    กลับมาแล้วครับยูริพูดเอื่อยๆแล้วขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง

     

     

    กลับมาแล้วเหรอ อ้าวยูโตะคุงมาด้วยเหรอจ๊ะ นางจิเน็นพูดแล้วยิ้มให้กับเพื่อนของลูกชายอย่างใจดี

     

     

    สวัสดีครับคุณน้าร่างสูงโค้งให้มารดาของยูริที่เดินออกมาจากครัวอย่างนอบน้อม

     

     

    สวัสดีจ้ะ ขึ้นไปเล่นที่ห้องยูริได้เลยนะลูกไม่ต้องเกรงใจ

     

     

    ครับเอ่ยรับแล้วขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน มือหนาเลื่อนไปเปิดประตูห้องนอนสีขาวแล้วก้าวเข้าไปในห้องนอนขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาว กระเป๋านักเรียนของยูริถูกวางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง ยูโตะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงเดี่ยวสีหวานของยูริพลางหลับตาฟังเสียงเสียงน้ำไหลที่ดังออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวบ่งบอกว่าเจ้าของห้องตัวเล็กคงอยู่ในนั้นไม่นานร่างเล็กที่ตอนนี้อยู่ในชุดลำลองสำหรับอยู่บ้านก็ออกมาจากห้องน้ำ ยูรินั่งลงที่ข้างเตียงแล้วมองใบหน้าของยูโตะแต่แล้วคนที่คิดว่ากำลังหลับก็ลืมตาขึ้นมาเสียดื้อๆทำให้สายตาของทั้งสองประสานกันโดยบังเอิญนานเท่านานจนกระทั่วยูริเป็นฝ่ายหันหน้าหนีแล้วทำท่าจะลุกขึ้นแต่มือของคนที่กำลังนอนอยู่ก็เอื้อมมาฉุดไว้ทำให้คนตัวเล็กเสียการทรงตัวและล้มลงร่างของอีกคน

     

    เอ่อ ขอโทษนะยูริเอ่ยเสียงเบาหลังจากที่ดันตัวเองขึ้นมา แก้มใสขึ้นสีเรื่อจนยูโตะอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

     

    อ้าวไม่นอนด้วยกันก่อนเหรอพูดแซวคนตัวเล็กที่เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับรีบหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน มือบางหยิบดินสออย่างงกๆเงิ่นๆจบเผลอปัดกระเป๋าดินสอตกลงมาแต่เจ้าตัวดูจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก

     

    ใครจะนอนกับนาย บ้ารึเปล่าตอบกลับยูโตะทั้งๆที่ใบหน้าหวานยังก้มลงจนแทบจะจมลงไปในหนังสือ

     

    อ้าว ก็นึกว่าง่วงเมื่อกี๊ยังลงมานอนด้วยกันอยู่เลยเอ่ยแซวยูริต่อเมื่อเห็นว่าตอนนี้แก้มของคนยูริเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดงไปแล้วไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือกำลังโกรธกันแน่ ร่างสูงลุกขึ้นมาหยิบกระเป๋าดินสอแล้วยื่นให้อีกคน

     

     

    เขินเหรอยังคงแกล้งคนตัวเล็กต่อไปเมื่อเห็นว่ายูริไม่ยอมรับมารับของที่เขายื่นให้

     

     

    นี่!! หยุดพูดได้แล้วนายจะนอนก็นอนไปฉันจะอ่านหนังสือพูดเสียงแข็งแล้วยื่นมือไปดึงกระเป๋ามาจากมือของยูโตะที่ยอมปล่อยให้ดีๆแต่ก็ไม่วายยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนตัวเล็กหันมาขึงตาใส่

     

     

    ฮ่าๆๆไม่แกล้งแล้วก็ได้ นานๆจะเห็นยูริเขินน่ารักจังเลยน้าพูดกลั้วหัวเราะ มือหน้ายื่นไปดึงแก้มคนตัวเล็กแล้วผละออกมาก่อนที่เขาจะโดนร่างเล็กตีเข้าให้

     

     

    ใครเขินพูดให้ดีๆนะเสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ ยูริเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ร่างสูงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงของเขา

     

    ปากแข็ง

     

    ว่าอะไรนะ!” น้ำเสียงเริ่มติดจะโมโหแต่สำหรับยูโตะที่เป็นเพื่อนกันมานานทำไมจะดูไม่ออกว่าตอนนี้ยูริกำลังโกรธกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง

     

    เปล่าครับจิเนะจัง สี่ทุ่มปลุกด้วยนะนัดรุ่นพี่ไว้

     

    ไหนบอกว่าจะไม่ไปไหนไง จะสอบแล้วนะยูโตะจริงจังหน่อยสิพูดพลางส่ายให้กับร่างสูงที่หลับตาพริ้มเหมือนไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย

     

    คืนนี้ไม่ดึกหรอกน่าไม่ต้องห่วง อ้อชี่พรุ่งนี้โทรไปปลุกด้วยนะจะรีบไปโรงเรียน

     

    อย่างนายเนี่ยนะรีบไปโรงเรียน?” พูดด้วยน้ำเสียงติดสงสัย ตั้งแต่เรียนด้วยกันมายูโตะมาถึงโรงเรียนก่อนแปดโมงเช้าแทบจะนับครั้งได้เลยทีเดียว

     

    คนสำคัญมาน่ะ

     

    คนสำคัญ?”

     

    ยามะจังไงจำได้มั๊ยลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วสบตากับคนตัวเล็กที่นิ่งไปสักพัก ร่างบางเลื่อนเก้าอี้กลับไปที่เดิมแล้วตอบออกมาเสียงเบา จำได้สิ

     

    ยูริอ่านหนังสือต่อไปถึงแม้ว่าเนื้อหาต่างๆจะไม่ได้เข้าไปในหัวแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าอีกคนเข้าสู่ห้วงนิทรามือบางที่กำลังขีดเขียนลงบนกระดาษก็หยุดลงพลางนึกชื่อของคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน

     

    ยามะจังงั้นเหรอ

     

    ----------------------------------(100%)---------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×