คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : KIZUNA I (100%)
โย่ววววๆๆๆ สวัสดีค่า นักอ่านที่รักของเข็มมี่ทุกคน แหม่ วันนี้อากาศดีค่ะ เลยมีผลงานดีๆมาฝาก จากนักเขียนน้องใหม่ สดๆซิงๆ 555+ เพื่อนเค้าเองแหละ >//< ผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกนามแต่อย่างใด ยังไง ก็เม้นให้เจ๊แกด้วยนะ ถ้าชอบ ถึงไม่มีปุ่มให้กดไลค์ ก็ให้กำลังใจกันได้นะเคอะ!!
มา พร้อมละ ลุยนะ!! *O*
KIZUNA I
Couple : Nakajima Yuto & Chinen Yuri
By : PAT_jjr
Thanks : Kemmie , Smile
โลกใบนี้มีสายสัมพันธ์มากมายที่ผูกคนทุกคนไว้ด้วยกัน สายสัมพันธ์ของครอบครัว
สายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ความรัก… ความแค้น…
แล้วสัมพันธ์ระหว่างเราล่ะเป็นแบบไหน?
………………………………………………………
เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยแสงแดดอ่อนๆและดอกไม้นานาพันธ์ที่ชูช่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ เสียงของนกขับร้องไปพร้อมๆกับเสียงพูดคุยของเหล่านักเรียนที่ต่างเล่าเรื่องวันหยุดสุดสัปดาห์ของตัวเองอย่างออกรส เด็กหนุ่มร่างสูงก้าวเท้าไปตามพื้นถนนอย่างไม่รีบเร่งนัก เขาไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบตัวรวมถึงเสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงที่ล้วนให้ความสนใจในตัวเขา นาคาจิม่า ยูโตะ ถอดเฮดโฟนออกจากศีรษะเมื่อเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
.
.
.
“มาก่อนอีกแล้วนะ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับลากเก้าอี้มาฝั่งตรงข้ามของเด็กชายอีกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออย่างตั้งใจและไม่ได้มีท่าทีสนใจคำพูดนั้นแม้แต่น้อย
“ไม่คิดจะรอกันบ้างรึไง?” กล่าวขึ้นอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกเมินแน่แล้วมือหนาจึงเอื้อมไปดึงหนังสือจากคนตัวเล็กแล้วยืดตัวเต็มความสูง
“นี่เอามานะ!” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ นัยน์ตากลมโตจ้องไปยังอีกคนอย่างเอาเรื่อง
แต่ดูเหมือนว่ายูโตะกำลังมีความสุขกับการได้แกล้งคนตัวเล็กจึงยืดแขนของตนขึ้นสุดแขนเพื่อไม่ให้มือบาง
เอื้อมถึง
“เอามานะยูโตะ” กล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเข้มขึ้น มือทั้งสองข้างยังคมพยายามยื้อหนังสือของตัวเองกลับมาแต่แล้วร่างเล็กก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนที่ข้างหู
“ตอบมาก่อนสิ” ยูโตะพูดชิดใบหูคนตัวเล็ก มือหนาจับไหล่บางเอาไว้ขณะที่อีกข้างยังคมซ่อนหนังสือไว้ข้างหลัง ตาคมจ้องไปยังดวงตาของอีกคนจนแก้มของคนถูกจ้องเริ่มขึ้นสีเรื่อ ยูรินิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหน้าเพื่อเรียกสติกลับมาแล้วผลักอีกคนอย่างเต็มแรงแต่ก็มีผลให้ร่างสูงผละไปไม่มากนัก
“ก็นายมาสายเองนี่ ฉันไม่มีเวลารอหรอกนะ” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามคุมให้ปกติที่สุดเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ คนตัวสูงนั่งลงที่เดิมก่อนที่จะพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม
“นิดเดียวเองน่ายูริ เมื่อคืนกลับบ้านดึกไปหน่อย” ร่างเล็กได้แต่มองอีกคนที่ตอนนี้กำลังฟุบลงที่โต๊ะของเขาอย่างอ่อนใจ มือบางเอื้อมไปหยิบหนังสือกลับมาแล้วเก็บลงกระเป๋า ถึงจะอ่านต่อตอนนี้เขาก็คงไม่รู้เรื่องอยู่ดีคิดพลางถอนหายใจแล้วนั่งลงในที่ของตัวเอง
“คราวนี้ใครอีกล่ะ” ถามออกไปเสียงเบา นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองไปยังคนที่ฟุบอยู่ตรงหน้า ยูโตะถึงจะดูเป็นคุณชายแสนดี เพอร์เฟ็คตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนพระเอกนิยายที่สาวๆหลายคนใฝ่ฝัน แต่ยูริรู้ดีว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบแท้จริงแล้วเพื่อนของเขาเป็นเสือผู้หญิงดีๆนี่เอง
“อยากรู้ไปทำไม หึงเหรอ?” เงยหน้าขึ้นมาตอบพร้อมกับยกยิ้มกริ่มให้คนตัวเล็กที่นิ่งไปเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมาจนคนที่ถามหลุดหัวเราะเล็กน้อยแต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเสียงกริ่งก็ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าตอนนี้คาบเรียนที่หนึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วมือบางดันร่างสูงให้ลุกขึ้นไปนั่งที่ของตัวเอง ใบหน้าหวานยังคงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ในหัวจะมีแต่คำพูดของอีกคน คำพูดที่เขายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
.
.
.
Writer talk : ตัดแค่นี้นะคะ T ^ T (สั้นมาก แต่ถ้าต่อก็คงแปลกๆ?) ตั้งใจไว้ว่าจะแต่งตอนที่หนึ่งให้จบจะได้ลงวันเกิดยูโตะ แต่ว่าอาทิตย์นี้เราสอบกลางภาค + งานเยอะมากไม่มีเวลาเลย ขอลงแค่นี้ก่อนนะคะ ส่วนที่เหลือจะพยายามเข็นให้เสร็จภายในวันจันทร์ค่ะ ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องแรกของเรายังไงก็ฝากด้วยนะคะ ^^ ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยค่ะ
ลืมแนะนำตัวเราอายุ 15 ค่ะอยู่มอสี่ ขอบคุณไรเตอร์เข็มมี่มากนะคะที่ให้เราฝากฟิคลง + ให้คำปรึกษาเรื่องฟิค *จุ๊บที* 555
Kemmie : ให้จุ๊บเลย หลายๆทีก็ได้เอ้า 555+ สำหรับ “เพื่อน” ไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว เนอะ! ^^
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอโทษที่ลงช้านะคะ T^T เมื่อวานแต่งไม่จบจริงๆวันนี้รีบปั่นมากไม่ได้อ่านทวนเลย รู้สึกว่าเละๆเอาเป็นว่าถ้ามีเวลาจะรีไรท์นะคะ ขอบคุณเข็มที่อัพ + ตรวจให้ค่ะ ^^
กริ๊งงงงงงง
เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับบรรดานักเรียนที่ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ต่างคนต่างเก็บกระเป๋าและเดินออกจากห้องเรียนอย่างรีบเร่งในขณะที่บางคนก็รีบไปหยิบอุปกรณ์เพื่อทำความสะอาดห้องเรียน หน้าตาของนักเรียนแต่ละคนดูไม่สดใสนักเนื่องจากอาจารย์ทุกคนต่างก็เร่งสอนเพื่อให้ทันการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่จะมาถึงในไม่ช้า เด็กหนุ่มตาตี่เกินเข้าไปหาเพื่อนที่ฟุบอยู่บนโต๊ะ นึกแล้วก็หมั่นไส้มันจริงๆกลางคืนเอาแต่ควงหญิงไม่ได้หลับไม่ได้นอน มาเรียนก็เอาแต่นั่งหลับแต่ผลสอบออกมาทีไรก็ดีทุกที เขาล่ะอยากให้ยูริเลิกติวให้มันจริงๆจะได้รู้สึกซะบ้าง
“เห้ยยูโตะ มึงตื่นมาคุยกับกูก่อนดิ๊” เคโตะพูดพลางเอาเท้าสะกิดอีกคน
“สัด มึงปลุกดีๆกูก็ตื่น” เงยหน้าขึ้นมาตอบเพื่อนแล้วยกขาเตรียมจะถีบอีกคนที่มารบกวนการนอนของเขา แต่คนมาใหม่กระโดดหลบอย่างเชี่ยวชาญ
“กูไม่ถีบมึงก็ดีแค่ไหนแล้ว ยาบุซังโทรมาบอกว่าคืนนี้เจอกันที่ร้านเดิมสองทุ่ม” พูดพลางนึกถึงรุ่นพี่ที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆแต่หลังจากที่พวกรุ่นพี่จบการศึกษาไปก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน
“เออ พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวสี่ทุ่มกูตามไป” ตอบไปอย่างส่งๆ มือหนาดันตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเริ่มเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงกระเป๋าข้างของตัวเองโดยที่ไม่ลืมหยิบเฮดโฟนและไอพอดออกมา
“มึงจะไปควงสาวที่ไหนอีกล่ะ นานๆจะได้ไปเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ซักทีมาให้มันเร็วหน่อยดิวะ”
เคย์โตะพูดออกมาอย่างรู้นิสัยของเพื่อนตัวเองดี เลิกเรียนก็ควงหญิงเที่ยวแทบไม่ซ้ำหน้าคิดแล้วก็ไม่เข้าใจผู้หญิงเหล่านั้นจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นคนยังไงก็ยังจะไปยุ่งกับด้วยให้ตัวเองเสียใจทีหลังอีก
“เปล่า กูมีธุระ” ตอบพร้อมกับลุกขึ้นสะพายกระเป๋าแล้วจัดการเอาเฮดโฟนครอบหูทันทีโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มอีกคนที่ทำท่าจะถามอะไรขึ้นมาอีก ร่างสูงเดินไปตามอาคารเรียนที่คนเริ่มบางลงคงเป็นเพราะนี่ก็เลยเวลาเลิกเรียนมาพอสมควรแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากตึกเด็กสาวคนหนึ่งก็วิ่งมาหาพร้อมกับควงแขนอย่างสนิทสนม
“ยูโตะวันนี้จะไปไหนเหรอคะ ฮานะจองร้านไว้แล้วไปด้วยกันนะ” เสียงแหลมสูงกล่าวออกมา เธอยังคงควงแขนของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมเอาหน้าเข้าไปใกล้อย่างออดอ้อนแต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที
“โทษทีนะ วันนี้ผมมีนัดแล้วเอาไว้วันหลังนะครับ” ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้แล้วยื้อตัวออกมาจากการเกาะกุมของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยควงไปเที่ยวด้วย ฮานะส่งเสียงไม่พอใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแล้วยื้อร่างสูงไว้อีกครั้ง
“นะคะยูโตะ วันนี้เป็นวันเกิดฮานะด้วยไปฉลองเป็นเพื่อนฮานะหน่อยนะคะ” หญิงสาวพูดก่อนจะแย้มยิ้มอย่างมีความหวังเมื่ออีกคนมีท่าทีนิ่งไปเหมือนกำลังครุ่นคิด
“ตกลงนะคะ?”
ริมฝีปากบางขยับเหมือนจะเอ่ยอะไรออกมากแต่แล้วสายตาคมก็เลื่อนไปสบตากับคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องสมุด ชายหนุ่มยกยิ้มน้อยๆพลางก้มลงไปหาเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกาย แก้มของเธอขึ้นสีเรื่อทันทีเมื่อใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่ปะทะเข้ากับผิวแก้ม
“ไปก่อนนะครับ” พูดเสียงเบาพร้อมกับกดปลายจมูกลงบนแก้มของหญิงสาวก่อนที่ช่วงขายาวจะวิ่งออกไปจากบริเวณโรงเรียนทันทีทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนยังเรียกสติตัวเองกลับมาไม่ได้
.
.
ร่างสูงเดินไปเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบเร่ง มือหนายกไอพอดมาปิดเพลงแล้วถอดเฮดโฟนออก สายลมอ่อนๆ พร้อมกับเสียงของใบไม้ที่ปลิวไปตามกระแสลมทำให้รู้สึกสบายใจอย่างประหลาด ทอดมองบรรยากาศรอบตัวพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาไม่เคยรักใครและไม่เคยคิดจะคบกับใครจริงจัง คงเป็นเพราะนิสัยที่เบื่อง่าย ไม่ชอบยึดติดกับอะไรเป็นเวลานานทำให้ไม่สามารถคบกับใครได้ เขามักจะสนใจในสิ่งแปลกใหม่และเมื่อเรียนรู้สิ่งนั้นจนเข้าใจแล้วก็จะปล่อยทิ้งไปอย่างง่ายดาย…
ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองดวงตาคมก็เห็นร่างเล็กที่เขาตั้งใจจะวิ่งตามออกมาแต่กลับหาไม่พบ ร่างสูงเร่งฝีเท้าทันทีในไม่ช้าร่างสูงโปร่งก็มาอยู่ข้างๆยูริที่ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินอยู่เคียงข้าง ดวงตาใสเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ในขณะที่แก้มขึ้นสีเรื่อเพราะอากาศค่อนข้างเย็น ยูโตะโบกมือผ่านหน้าคนตัวเล็กก่อนจะพาตัวเองมายืนขวางทางไว้ ริมฝีปากบางยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกคนสะดุ้งแล้วเงยขึ้นมาทำตาขวางใส่
“มีอะไร” ยูริพูดแล้วถอยออกมาเพราะระยะห่างระหว่างเขากับยูโตะตอนนี้ใกล้กันมากจนใบหน้าเล็กแทบจะชิดกับแผงอกของร่างสูง
“วันนี้ไปเล่นที่บ้านนะ” ยื้ออีกคนเอาไว้พร้อมกับยื่นมือไปดึงกระเป๋าของยูริมาถือ “ไปกันเถอะ” กล่าวอีกครั้งแล้วฉุดยูริให้เดินไปพร้อมๆกัน
“ฉันตกลงตอนไหนไม่ทราบ?” คนตัวเล็กหันไปพูดเสียงเขียว มือบางพยายามดึงกระเป๋าของตัวเองกลับมาเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่มีท่าทีจะปล่อยง่ายๆ เขาจึงถอนหายใจอย่างปลงๆกับนิสัยดื้อเงียบของคนๆนี้ที่ไม่ว่านานแค่ไหนก็ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ “แล้ววันนี้ไม่ไปไหนเหรอ”
“ไม่ล่ะ วันนี้ขี้เกียจอยากไปนอนเล่น” ยูโตะตอบแล้วหันไปมองหน้ายูริที่กล่าวขึ้นลอยๆ เหมือนพูดกับตัวเอง“ไม่เปลี่ยนเลยนะนิสัยนายเนี่ย”
“…” เมื่อเห็นว่าอีกคนมีท่าทีสงสัยยูริจึงกล่าวต่อไป “สงสารฮานะ”
“ก็แค่ควงเที่ยวเฉยๆไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย” พูดอย่างไม่ใส่ใจนักจนยูริได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วให้เค้าพูดยังไงก็คงไม่ฟังอยู่ดี
“เข้าบ้านเถอะ” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปยังบริเวณหน้าบ้านที่จัดเป็นสวยหย่อมขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ชูช่อรับแสงเพียงรำไร เพราะตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มที
“กลับมาแล้วครับ” ยูริพูดเอื่อยๆแล้วขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง
“กลับมาแล้วเหรอ อ้าวยูโตะคุงมาด้วยเหรอจ๊ะ “ นางจิเน็นพูดแล้วยิ้มให้กับเพื่อนของลูกชายอย่างใจดี
“สวัสดีครับคุณน้า” ร่างสูงโค้งให้มารดาของยูริที่เดินออกมาจากครัวอย่างนอบน้อม
“สวัสดีจ้ะ ขึ้นไปเล่นที่ห้องยูริได้เลยนะลูกไม่ต้องเกรงใจ”
“ครับ” เอ่ยรับแล้วขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน มือหนาเลื่อนไปเปิดประตูห้องนอนสีขาวแล้วก้าวเข้าไปในห้องนอนขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาว กระเป๋านักเรียนของยูริถูกวางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง ยูโตะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงเดี่ยวสีหวานของยูริพลางหลับตาฟังเสียงเสียงน้ำไหลที่ดังออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวบ่งบอกว่าเจ้าของห้องตัวเล็กคงอยู่ในนั้นไม่นานร่างเล็กที่ตอนนี้อยู่ในชุดลำลองสำหรับอยู่บ้านก็ออกมาจากห้องน้ำ ยูรินั่งลงที่ข้างเตียงแล้วมองใบหน้าของยูโตะแต่แล้วคนที่คิดว่ากำลังหลับก็ลืมตาขึ้นมาเสียดื้อๆทำให้สายตาของทั้งสองประสานกันโดยบังเอิญนานเท่านานจนกระทั่วยูริเป็นฝ่ายหันหน้าหนีแล้วทำท่าจะลุกขึ้นแต่มือของคนที่กำลังนอนอยู่ก็เอื้อมมาฉุดไว้ทำให้คนตัวเล็กเสียการทรงตัวและล้มลงร่างของอีกคน
“เอ่อ ขอโทษนะ” ยูริเอ่ยเสียงเบาหลังจากที่ดันตัวเองขึ้นมา แก้มใสขึ้นสีเรื่อจนยูโตะอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“อ้าวไม่นอนด้วยกันก่อนเหรอ” พูดแซวคนตัวเล็กที่เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับรีบหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน มือบางหยิบดินสออย่างงกๆเงิ่นๆจบเผลอปัดกระเป๋าดินสอตกลงมาแต่เจ้าตัวดูจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก
“ใครจะนอนกับนาย บ้ารึเปล่า” ตอบกลับยูโตะทั้งๆที่ใบหน้าหวานยังก้มลงจนแทบจะจมลงไปในหนังสือ
“อ้าว ก็นึกว่าง่วงเมื่อกี๊ยังลงมานอนด้วยกันอยู่เลย” เอ่ยแซวยูริต่อเมื่อเห็นว่าตอนนี้แก้มของคนยูริเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดงไปแล้วไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือกำลังโกรธกันแน่ ร่างสูงลุกขึ้นมาหยิบกระเป๋าดินสอแล้วยื่นให้อีกคน
“เขินเหรอ” ยังคงแกล้งคนตัวเล็กต่อไปเมื่อเห็นว่ายูริไม่ยอมรับมารับของที่เขายื่นให้
“นี่!! หยุดพูดได้แล้วนายจะนอนก็นอนไปฉันจะอ่านหนังสือ” พูดเสียงแข็งแล้วยื่นมือไปดึงกระเป๋ามาจากมือของยูโตะที่ยอมปล่อยให้ดีๆแต่ก็ไม่วายยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคนตัวเล็กหันมาขึงตาใส่
“ฮ่าๆๆไม่แกล้งแล้วก็ได้ นานๆจะเห็นยูริเขินน่ารักจังเลยน้า” พูดกลั้วหัวเราะ มือหน้ายื่นไปดึงแก้มคนตัวเล็กแล้วผละออกมาก่อนที่เขาจะโดนร่างเล็กตีเข้าให้
“ใครเขินพูดให้ดีๆนะ” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ ยูริเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ร่างสูงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงของเขา
“ปากแข็ง”
“ว่าอะไรนะ!” น้ำเสียงเริ่มติดจะโมโหแต่สำหรับยูโตะที่เป็นเพื่อนกันมานานทำไมจะดูไม่ออกว่าตอนนี้ยูริกำลังโกรธกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง
“เปล่าครับจิเนะจัง สี่ทุ่มปลุกด้วยนะนัดรุ่นพี่ไว้”
“ไหนบอกว่าจะไม่ไปไหนไง จะสอบแล้วนะยูโตะจริงจังหน่อยสิ” พูดพลางส่ายให้กับร่างสูงที่หลับตาพริ้มเหมือนไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย
“คืนนี้ไม่ดึกหรอกน่าไม่ต้องห่วง อ้อชี่พรุ่งนี้โทรไปปลุกด้วยนะจะรีบไปโรงเรียน”
“อย่างนายเนี่ยนะรีบไปโรงเรียน?” พูดด้วยน้ำเสียงติดสงสัย ตั้งแต่เรียนด้วยกันมายูโตะมาถึงโรงเรียนก่อนแปดโมงเช้าแทบจะนับครั้งได้เลยทีเดียว
“คนสำคัญมาน่ะ”
“คนสำคัญ?”
“ยามะจังไงจำได้มั๊ย” ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วสบตากับคนตัวเล็กที่นิ่งไปสักพัก ร่างบางเลื่อนเก้าอี้กลับไปที่เดิมแล้วตอบออกมาเสียงเบา “จำได้สิ”
ยูริอ่านหนังสือต่อไปถึงแม้ว่าเนื้อหาต่างๆจะไม่ได้เข้าไปในหัวแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าอีกคนเข้าสู่ห้วงนิทรามือบางที่กำลังขีดเขียนลงบนกระดาษก็หยุดลงพลางนึกชื่อของคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
ยามะจังงั้นเหรอ
----------------------------------(100%)---------------------------------------
ความคิดเห็น